Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

O^O! 10 เหตุการณ์พลีชีพที่สะเทือนใจคนทั้งโลก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

10 เหตุการณ์พลีชีพที่สะเทือนใจคนทั้งโลก


ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ย่อมมีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียมากมายหลายอย่าง แต่เหตุการณ์ที่ไม่สมควรจะสูญเสียชีวิตใครเลยแม้แต่น้อยก็ย่อมมีเหมือนกัน นั่นก็คือ "การพลีชีพ" และต่อไปนี้จะพาไปพบกับ 10 เหตุการณ์พลีชีพที่สะเทือนใจคนทั้งโลก มาดูกันเลย 



อันดับที่ 10: ปูปูตันที่บาหลี



ปูปูตัน เป็นคำในภาษาบาหลี แปลได้ว่า การพลีชีพ เรื่องราวนั้น เริ่มจากการที่ฮอลันดาต้องการจะยึดบาหลีทางใต้โดยอ้างว่าจะไปกู้ซากเรือจีน และให้อาณาจักรบาดุง ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรของคนพื้นเมือง จ่ายค่าชดเชย 3,000 เหรียญเงิน แต่ทางบาดุงไม่ยอม กลุ่มทหารเลยเริ่มโจมตีที่เมืองเดนปาซาร์ ซึ่งเป็นของอาณาจักรบาดุง แต่ทางฝ่ายบาดุงกลับใช้วิธีแบบนักรบก็คือ การพลีชีพ

โดยบรรดาเชื้อพระวงค์ทรงเผาพระราชวังและแต่งพระองค์เต็มพระยศพร้อมทรงกริช ทรงดำเนินพร้อมกับเหล่านักบวชและข้าราชบริพารเข้าต่อสู้ แต่ทั้งหมดไม่ยอมจำนน กลับแทงตัวตายด้วยกริชแทน เหตุการณ์ในครั้งนั้นมีชาวบาหลีเสียชีวิตประมาณ 4,000 คน และอีกหลายๆอาณาจักรที่ฮอลันดาบุกโจมตี ก็ทำการปูปูตันแบบอาณาจักรบาดุงอีกมากมายเช่นกัน 

อันดับที่ 9: ลัทธิ Solar Termple



Solar Temple เป็นลัทธิๆหนึ่งที่ถูกสร้างโดย ลุค จูเรต์ โดยทำให้สาวกทุกคนเชื่อว่า ตัวเองคืออัศวินแห่งเทมพลาร์ในศตวรรษที่ 14 และ ในปี ค.ศ.1984 ลุค จูเรต์ก็กลายเป็นศาสดาที่มีสาวกเป็นจำนวนมาก แต่อาการทางประสาทของจูเรต์เริ่มถึงขีดสุดในปี ค.ศ.1994 เมื่อจูเรต์ถือดาบกวัดแกว่งไปมาแล้วแทงทารกวัย 3 เดือนตายคาที่ โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์มาเกิดต่อหน้าพ่อแม่ของเด็กคนนั้น

อีก 15 วันต่อมา จูเรต์ก็เอายาพิษผสมเครื่องดื่มให้สาวกคนสนิท 15 คนกินจนชักเหมือนหนูโดนยาเบื่อ ส่วนคนไม่ดื่มก็ถูกยิง หรือไม่ก็ถูกรมควันจนสำลักตาย เมื่อตำรวจบุกเข้าไปก็พบแต่ศพเกลื่อนสำนักไปหมดนับได้ 75 ศพ มีทั้งที่ฆ่าตัวตายและถูกฆาตกรรม รวมทั้งตัวจูเรต์ก็กลายเป็นศพไปด้วย 




อันดับที่ 8: ฮาราคีรี



ฮาราคีรี หรือ เซ็ปปุกุ เป็นการฆ่าตัวตายอย่างนึงในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคสมัยซามูไร โดยซามูไรทุกคนจะถูกสอนในเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองมาก หากตัวเองพ่ายแพ้ต่อศัตรูหรือเจอเหตุการณ์อัปยศอดสู ซามูไรเหล่านั้นก็ยินดีที่จะตายด้วยมือของตัวเอง โดยใช้ดาบสั้นคว้านท้องตัว เพื่อชดใช้ความอับอายและแสดงความกล้าของตัวเอง ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในครอบครัวของซามูไรก็ต้องทำพิธี ไจไก (Jigai) หรือการตัดเส้นเลือดใหญ่ที่ต้นคอซึ่งจะทำให้ตายในทันทีด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามจับตัวไปเป็นเชลยหรือกระทำมิดีมิร้าย

ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในเรื่อง The Last Samurai ที่ศึกสุดท้าย คัทซึโมโต้ ได้กระทำการฮาราคีรีตัวเอง เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นนักรบสายเลือดบูชิโด ดีกว่าต้องตายด้วยน้ำมือของศัตรูนั่นเอง 




อันดับที่ 7: กลุ่ม Sikarii


เรื่องนี้มีที่มาตั้งแต่สมัยที่มีการใช้ดาบและธนูเป็นอาวุธ เริ่มต้นจากการที่ทหารโรมันได้เข้าทำมาทำลายระบบการปกครองของชาวยิวในปาเลสไตน์และเข้ามาปกครองเอง เหล่ากลุ่มชาวยิวหัวรุนแรงก็ได้รวมกลุ่มกันและใช้ชื่อว่า Sikarii โดยในช่วงแรก กลุ่ม Siikari ยังไม่มีการใช้กำลังรุนแรงใดๆ

แต่เมื่อทหารโรมันเริ่มฆ่าแบบไร้เหตุผล กลุ่ม Siikari จึงเริ่มใช้ความรุนแรงบ้าง โดยการ ทำร้ายชาวยิวที่เข้าร่วมกับฝ่ายโรมัน ทหารโรมัน หรือเจ้าหน้าที่ชั้นสูง สาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพื่อต้องการบอกว่า ในเมื่อคนยิวที่อยู่ใต้การดูแลของโรมันยังตายได้ แล้วไหงถึงไว้ใจ ฝากชีวิตไปอยู่กับโรมันได้อีก นอกจากนี้ยังได้ทำการเป่าหูให้คนยิวเกลียดชังชาวโรมันมากขึ้น และในที่สุด กลุ่ม Siikari ก็เริ่มมีคนเข้ามาอยู่มากขึ้น

อย่างไรก็ตามการต่อต้านดังกล่าวสิ้นสุดลง ภายหลังจากที่โรมันได้ปิดล้อมกลุ่ม Sicarii ที่เมือง Masada กลุ่ม Sicarii ได้ปฏิเสธที่จะยอมแพ้และได้ฆ่าตัวตายพร้อม ๆ กัน ทั้งผู้หญิงและเด็กนับเป็นจำนวนพัน





อันดับที่ 6: พิธีเยาฮาร์ อินเดีย



การฆ่าตัวตายอันนี้ มีสาเหตุมาจากสงครามกับเปอร์เซียที่ยกทัพบุกมาอินเดีย โดยราชบุตร นักรบผู้มีเชื้อสายของกษัตริย์ตัดสินใจเผาลูกเมียของตนทุกคนเมื่อเห็นว่า กำลังจะแพ้สงครามดีกว่ายอมให้ถูกจับกุม หรือถูกบังคับให้เปลี่ยนศาสนา ก่อนที่ตนจะกลับเข้าไปสู่สนามรบและตายอย่างมีเกียรติ พิธีการฆ่าหมู่ลูกเมียของตนในครั้งนั้นเรียกว่า พิธีเยาฮาร์ (Jauhar) ซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะการรบกับประเทศมุสลิมเท่านั้น 

อันดับที่ 5: เผาตัวตายประท้วง ที่เวียดนาม


การพลีชีพครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ในช่วงที่รัฐบาลเวียดนามออกนโยบายกีดกันศาสนา ซึ่งมีนโยบายให้ประชาชนนับถือศาสนาคริสต์แทนศานาพุทธ (แต่ภายหลังก็ยกเลิกนโยบายนี้ไป) โดยมีเจ้าอาวาสรูปหนึ่งได้ทำการประท้วงด้วยการ เผาตัวเองประท้วงนโยบายของรัฐบาล โดยราดน้ำมันใส่ตัวแล้วเผาตัวเองตายในท่านั่งสมาธิ หลังจากที่มรณะภาพแล้วพบว่า หัวใจของท่านไม่ได้มอดไหม้ไปกับเปลวไฟ จึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่สถูปทองคำภายในวัด 



อันดับที่ 4: ลัทธิ Heaven's Gate


Heaven's Gate หรือ ประตูสวรรค์ เป็นลัทธิที่เชื่อในเรื่อง UFO ก่อตั้งโดย มาแชลล์ แอปเปิ้ลไวท์ โดยเค้าได้ฝังความเชื่อว่า มนุษย์ไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่มาจากมนุษย์ต่างดาว และยังบอกอีกว่า โลกใบนี้กำลังจะถูกชำระล้างใหม่ และวิธีที่จะรอดจากเหตุการณ์นี้คือ ชิ่งตัวตายก่อนแล้วจากนั้น จะมี UFO มารับดวงวิญญาณไปยังดาวเคราะห์ที่อยู่ด้านหลังดาวหาง Hale-Bopp 

ภาพศพที่ฆ่าตัวตายหมู่ของลัทธิ Heaven's Gate

ผลสุดท้ายก็คือ มีการฆ่าตัวตายหมู่ในวันที่ 26 มีนาคม ปี 1997 ที่คฤหาสน์ในเมืองซาดิเอโก โดยในวันนั้น เป็นช่วงที่ดาวหาง Hale-Bopp มาเยือนโลกพอดี และเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 39 คน รวมถึงตัวเจ้าของลัทธิได้ ส่วนสาเหตุการตายนั้น มากจากการดื่มวอดก้าผสมยาพิษแบบรุนแรงเข้าไป 



อันดับที่ 3: ลัทธิ The Branch Davidian


ลัทธินี้เป็นอีกลัทธิหนึ่งที่สร้างโศกนาฏกรรมอย่างใหญ่หลวงเหมือนกัน (จำได้ว่าเคยดูข่าวนี้ด้วย) ถูกสร้างโดย เดวิช โคเรช ซึ่งเค้าแอบอ้างว่า เค้าเป็นตัวแทนจากพระเจ้าที่จะมาทำหน้าที่หว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่ในวันสิ้นโลก และเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ก็คือ สาวกทั้งหลายนั่นเอง และยังบอกอีกว่า พระเจ้ากำหนดให้เค้าต้องมีเมียถึง 140 คน (โลภเกิ๊นน)


แต่แล้วเหตุการณ์เลวร้ายก็เริ่มขึ้น เมื่อทางการจับได้ว่า เจ้าลัทธิได้ก่อคดีทารุณเด็กและสตรี อีกทั้งยังสะสมอาวุธสงครามอีก และในปี 1993 FBI ก็ไล่ต้อนเค้ากับสาวกได้ที่รัฐเท็กซัส แต่ตัวเดวิชไม่ยอมมอบตัว สุดท้ายเค้าเลยตัดสินใจ เผาบ้านที่ใช้เป็นที่หลบซ่อนพร้อมกับเหล่าสาวก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 79 คน ซึ่งแต่ละศพที่เห็นก็ยากเกินจะบรรยายได้





อันดับที่ 2: กลุ่ม MRTC ประเทศอูกันดา 


MRTC ย่อมาจาก Movement for the Restoration of the Ten Commandments of God หรือถ้าแปลเป็นไทยก็ กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อบูรณะบัญญัติ 10 ประการ กลุ่มนี้ถูกจัดตั้งโดย นางซีเครโดเนีย กับ นายคิบเบเทีย โดยนางซีเครโดเนีย อ้างว่า สามารถติดต่อกับพระแม่มารีได้ ส่วนนายโจเซฟก็ถูกนางซีเครโดเนียแต่งตั้งให้เป็นศาสดา โดยทั้งคู่ตั้งกลุ่มมาจริงๆเพื่อต้ิองการหลอกเอาเงินและมีอำนาจเหนือชาวบ้าน อีกทั้งยังตั้งกฏให้สาวกคุยกันด้วยภาษามืออย่างเดียว และให้กินข้าวได้เฉพาะวันจันทร์กับวันศุกร์เท่านั้น

ส่วนผลงานของลัทธินี้คือ มีชาวอูกันดาฆ่าตัวตายไปพันกว่าคน เพราะนางซีเครโดเนียบอกว่า จะเกิดวันสิ้นโลกในวันที่ 1 มกราคม ปี 2000 แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เกิไรขึ้น นางเลยเฉไฉไปว่า พระเจ้าเลื่อนวันออกไปเป็นวันที่ 17 มีนาคม ถ้าหากอยากรอด ก็ต้องชิงฆ่าตัวตายก่อน สุดท้ายเลยมีเหยื่อกินยาพิษฆ่าตัวตายกันเป็นแถบ คนที่ไม่ตาย ก็ถูกแทงบ้าง ทุบหัวบ้าง

และในวันที่ 17 มีนาคม นางก็ได้นัดสาวกไปที่โรงนาแห่งหนึ่ง พร้อมกับทานอาหารมื้อสุดท้าย ก่อนจะจุดไปเผาโรงนานั้นทิ้ง สรุปแล้วมีผู้เสียชีวิตไป 513 ศพ นอกจากนี้ยังพบศพในที่ดินของนายคิบเทเวียอีก 265 ศพ ซึ่งแต่ละศพนั้น ถูกฆ่าหรือไม่ก็วางยาพิษ ส่วนนางซีเครโดเนียถูกจับได้ในเดือนถัดมา 




อันดับที่ 1: การพลีชีพที่ Jonestown


การพลีชีพนี้ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งความสูญเสียก็ว่าได้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากลัทธิอีกล่ะ ก่อตั้งโดย จิมส์ โจนส์ ซึ่งอ้างว่า ตัวเองเป็นนักบุญมาตั้งแต่เกิดพร้อมทั้งโจมตีศาสนาอื่นๆ และยังคอยรวบรวมเหล่าสาวกจนได้เป็นจำนวนมาก ต่อมาเจ้าลัทธิคนนี้ก็ย้ายสาวกไปตั้งเมืองใหม่ ชื่อว่า Jonestown ซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอกและมีสมาชิกถึงพันกว่าคน

ต่อมาได้มีสมาชิกรัฐสภาชื่อว่า ลีโอ รายอัน ได้รับการร้องเรียนจากอดีตสาวกและครอบครัวสาวกที่อยู่ที่ Jonestown นายลีโอ รายอันจึงเดินทางไปยังเมืองนี้พร้อมกับนักข่าวอีก 3 คน แต่ตอนขากลับ รายอันได้แอบพาสาวกที่กลับใจออกมา แต่สุดท้ายความแตก เลยโดนฆ่าตายเกลี้ยง

วาระสุดท้ายมาถึง เมื่อนายจิมรู้ว่า ยังไงตำรวจก็ต้องมาจับเค้าไปเพราะดันไปฆ่าสมาชิกรัฐสภา เึค้าเลยเรียกสาวกมาประชุมพร้อมกันและให้ฆ่าตัวตายด้วยการดื่มยาพิษไซยาไนท์ หลังจากสิ้นเสียงประกาศของนายจิม คนก็เริ่มทยอยฆ่าตัวตายกัน ส่วนบางคนที่ไม่เห็นด้วยก็ถูกสาวกคนอื่นๆ ฆ่าตาย สรุปแล้ว มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 914 คน ส่วนนายจิมถูกพบบนแท่นเวที ในสภาพมีรอยกระสุนถูกยิงเข้าที่ขมับ 

credit : 
 resonancez  http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=694048
credit : sanook.com

PS.  กลัวอ้วนจึงออกกำลังกาย แต่หลังออกกำลัง เดี๋ยวมันก็กินอีก

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

KenGuideGaming. 22 มี.ค. 56 เวลา 12:00 น. 2

อารมณ์เดียวกัน
PS.  ผมเชื่อว่า 98.97% เคยมองท้องฟ้าเเล้วหายใจ เฮ้อ อ ออ.. ผมเชื่อว่า 99.99% เคยพูดคำว่า ฮ้าาาา ว ว ว ก่อนตื่นนอน ผมเชื่อว่า 80.01%ทุกคนหลับตอน2ทุ่มเเล้วตื่นมาตี3กว่าๆ ผมเชื่อว่า 100% ทุกคนอยากเป็นคนดี
0
Arsan Lupin 22 มี.ค. 56 เวลา 12:23 น. 3

ไม่สงสารพ่อแม่บ้างรึไง


PS.  วาดฝันไปสุดปลายฟ้า แต่ความจริงนั้นช่างจืดจาง ความทะเยอทะยานในตัวของฉัน มันทำให้ฉันมีแรงก้าวต่อไปในวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
0
A Timeline 22 มี.ค. 56 เวลา 22:52 น. 4

ผม ยกย่อง คนที่ฆ่าตัวตายเพื่อ เสรีภาพ ประเทศชาติ แต่ผมขอสาปแช่ง พวกที่ฆ่าตัวตาย โดยไม่มีเหตุและผล&nbsp มีสมองเหมือนไม่มี ถูกชักจูงหน่อยก็คล้อยตามกว่าจะเกิดมาได้แต่ละชาติมันยากลำบาก แค่ใครชักจูงหน่อยทำตามหมด เฮ้อออออออ(คหสต)

0
I don't know 23 มี.ค. 56 เวลา 14:17 น. 5

อันดับที่ 2 อ่านจบต้องพูดว่านางซีเครโดเนีย กับ นายคิบเบเทีย เลว ดีเนอะ ^^


PS.  'สายตา'ของคนบางคนมีผลต่อการเต้นของ'หัวใจ' ~~~
0
ผมรักแม่มากครับ 25 มี.ค. 56 เวลา 12:15 น. 6

ไม่ว่าจะฆ่าตัวตายด้วยจุดประสงค์ใดก็ไม่มีวันที่จะได้ขึ้นสวรรค์ คนเราเวียนว่ายตายเกิดมาหลายร้อยหลายพันภพชาติกว่าจะเกิดเป็นคนได้มันยากขนาดไหน ดังนั้นเมื่อได้เกิดเป็นคนควรเร่งทำความดี เพราะเมื่อตายไปแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้นอกจากความดีที่ทำมา พวกที่ฆ่าตัวตายเหล่านี้ดวงวิญญาณก็จะมีแต่ความทุกข์ บุญกุศลใดๆที่ส่งไปก็ไม่ได้รับ&nbsp ชีวิตมนุษย์ควรดำเนินไปตามทางสายกลาง และยึดหลักกาลามสูตร จะเชื่อสิ่งใดควรใช้สติปัญญาไตร่ตรองก่อน


โอเคมั้ยครับ มีสติในการใช้ชีวิตทุกคนนะ จะทำร้ายตัวเองก็นึกสงสารพ่อแม่บ้างกว่าท่านจะเลี้ยงเราจนเติบใหญ่มันยากหนักหนา

0