บุคลิกที่ดีเราสร้างได้
ตั้งกระทู้ใหม่
บุคลิกภาพที่ดี สร้างได้
เรื่องบุคลิกภาพนั้นต้องมองตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน ทั้งสองส่วนต้องประกอบกัน แต่ส่วนที่เป็นภายนอกมักเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนกว่า
เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็คงอยากให้ลูกของเราเป็นคนมีบุคลิกภาพที่ดีด้วยกันทั้งนั้น แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งจะเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติ ต่างจากเรื่องสูงต่ำดำขาวซึ่งถือเป็นเรื่องทางพันธุกรรม
บุคลิกภาพจึงเป็นเรื่องที่ต้องสร้างเสริมกันบ้างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพภายนอกตั้งแต่เรื่องเดินเหิน พูดจา แต่งเนื้อแต่งตัว หรือบุคลิกภาพภายในที่เน้นหนักในเรื่องทัศนคติในการมองโลก ซึ่ง คุณประนอม ถาวรเวชผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ John Robert Powers International ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า
เรื่องบุคลิกภาพนั้นต้องมองตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน ทั้งสองส่วนต้องประกอบกัน แต่ส่วนที่เป็นภายนอกมักเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนกว่า
คุณประนอมบอกว่า บุคลิกภาพภายนอกมีเรื่องที่น่าห่วงอยู่ 2 เรื่องค่ะ
หนึ่ง เด็กวัยรุ่นปัจจุบันชอบเดินไหล่ห่อ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงมักจะอายเรื่องหน้าอก ส่วนเด็กชายก็อาจเป็นเพราะความสูง โตเร็วแล้วมีเพื่อนตัวเล็ก ก็จะอายทำให้เดินห่อไหล่อยู่เรื่อยๆ พอเดินไหล่ห่อก็จะทำให้นั่งไหล่ห่อ ไม่ผึ่งผาย ดูเหมือนคนไม่กระตือรือร้น รวมถึงเรื่องกระเป๋าหนักๆ ก็ต้องระวัง เพราะการที่เด็กสะพายเป้หนักๆ จะทำให้แขนไม่แกว่งเพราะกลัวชนกระเป๋าเขาก็จะเดินแขนตก และเวลาเดินต้องโน้มตัวไปข้างหน้า พอไม่มีกระเป๋าก็ยังเดินท่านั้น ทำนานๆ เข้าก็จะติด
สอง คือเดินลากเท้า เพราะเด็กปัจจุบันชอบใส่รองเท้าหลวมมาก และการใส่รองเท้าใหญ่เกินไปจะทำให้เดินยกเท้าไม่ได้ตามปกติ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้เขากลายเป็นคนเดินลากเท้า
นี่จึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลค่ะ ถ้าลูกเป็นเด็กเล็กจะซื้อรองเท้าให้ใส่ ก็อย่าประหยัดจนเลยเถิด เลือกซื้อแบบหลวมมากๆ เผื่อโตจนเกินไป หรือแม้จะเป็นแฟชั่นที่ทำให้วัยรุ่นชอบใส่รองเท้าหลวมๆ ก็ต้องคอยบอก ยิ่งถ้าเห็นลูกนั่งหลังโกง เดินไหล่ คอตกละก้อ อย่าทำเฉยเชียว ไม่เช่นนั้นเขาจะทำจนกลายเป็นนิสัยที่เพาะบ่มเป็นบุคลิกภาพต่อไปได้
แต่สำหรับเด็กที่เรียนรำไทย บัลเลต์ แจซแดนซ์ก็คงไม่ต้องกังวล เพราะการเรียนเหล่านี้ช่วยให้บุคลิกภาพภายนอกของเด็กดูดีอยู่แล้ว
การเรียนบัลเลต์ รำไทย แจซแดนซ์จะทำให้เด็กดูสง่างามขึ้น เพราะเวลารำ จะเต้นก็ต้องยืดตัว อย่างบัลเลต์ ครูจะเน้นเรื่องท่วงท่ามาก อย่างเวลายืน เด็กก็ต้องยืนตรง เก็บก้น ยกคางขึ้นนิดหนึ่ง ยืดตัวขึ้น หายใจเข้าลึกๆ มันก็จะดึงให้หลัง ให้ทุกอย่างตึงขึ้นมา รำไทยก็ต้องยืดตัวเวลาเรียนครูก็จะมาดัดหลัง ดัดแขนให้ พวกนี้ช่วยได้เยอะ
และการเรียนทำให้เด็กได้ฝึกบ่อยๆ เขาก็จะมีความสง่างาม อย่างบัลเลต์ถ้าเรียนตั้งแต่เด็กก็จะทำให้เขายืนหลังตรง ไหล่ตรงมาตลอด เวลาเดินเหินก็ดูสง่างาม
ส่วนบุคลิกภาพภายในมีปัจจัยที่สำคัญคือ ต้องสร้างให้เด็กมีทัศนคติเชิงบวก มองโลกในแง่ดี ซึ่งเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการคอยบอกคอยสอนเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับภาวะแวดล้อม ครอบครัว เพื่อนฝูง ที่สำคัญ...พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกด้วย
เมื่อเด็กมีแนวคิดเชิงบวก มองโลกในแง่ดี ทำให้มีอารมณ์แจ่มใส หน้าตาก็จะเบิกบานตามไปด้วย
ฉะนั้นถ้าพ่อแม่อยากเห็นลูกเติบโตมาเป็นคนมีบุคลิกภาพที่ดี ก็ต้องอยู่ใกล้ชิดคอยดูแลพัฒนาการทั้งภายนอก และภายในของเขาให้ดีๆ ค่ะ
ข้อสำคัญอย่าลืมดูแลตัวเองด้วย เพราะคุณคือปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญอันหนึ่งทีเดียว
บุคลิกภาพที่ดี สร้างได้
เรื่องบุคลิกภาพนั้นต้องมองตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน ทั้งสองส่วนต้องประกอบกัน แต่ส่วนที่เป็นภายนอกมักเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนกว่า
เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็คงอยากให้ลูกของเราเป็นคนมีบุคลิกภาพที่ดีด้วยกันทั้งนั้น แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งจะเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติ ต่างจากเรื่องสูงต่ำดำขาวซึ่งถือเป็นเรื่องทางพันธุกรรม
บุคลิกภาพจึงเป็นเรื่องที่ต้องสร้างเสริมกันบ้างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพภายนอกตั้งแต่เรื่องเดินเหิน พูดจา แต่งเนื้อแต่งตัว หรือบุคลิกภาพภายในที่เน้นหนักในเรื่องทัศนคติในการมองโลก ซึ่ง คุณประนอม ถาวรเวชผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ John Robert Powers International ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า
เรื่องบุคลิกภาพนั้นต้องมองตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน ทั้งสองส่วนต้องประกอบกัน แต่ส่วนที่เป็นภายนอกมักเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนกว่า
คุณประนอมบอกว่า บุคลิกภาพภายนอกมีเรื่องที่น่าห่วงอยู่ 2 เรื่องค่ะ
หนึ่ง เด็กวัยรุ่นปัจจุบันชอบเดินไหล่ห่อ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงมักจะอายเรื่องหน้าอก ส่วนเด็กชายก็อาจเป็นเพราะความสูง โตเร็วแล้วมีเพื่อนตัวเล็ก ก็จะอายทำให้เดินห่อไหล่อยู่เรื่อยๆ พอเดินไหล่ห่อก็จะทำให้นั่งไหล่ห่อ ไม่ผึ่งผาย ดูเหมือนคนไม่กระตือรือร้น รวมถึงเรื่องกระเป๋าหนักๆ ก็ต้องระวัง เพราะการที่เด็กสะพายเป้หนักๆ จะทำให้แขนไม่แกว่งเพราะกลัวชนกระเป๋าเขาก็จะเดินแขนตก และเวลาเดินต้องโน้มตัวไปข้างหน้า พอไม่มีกระเป๋าก็ยังเดินท่านั้น ทำนานๆ เข้าก็จะติด
สอง คือเดินลากเท้า เพราะเด็กปัจจุบันชอบใส่รองเท้าหลวมมาก และการใส่รองเท้าใหญ่เกินไปจะทำให้เดินยกเท้าไม่ได้ตามปกติ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้เขากลายเป็นคนเดินลากเท้า
นี่จึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลค่ะ ถ้าลูกเป็นเด็กเล็กจะซื้อรองเท้าให้ใส่ ก็อย่าประหยัดจนเลยเถิด เลือกซื้อแบบหลวมมากๆ เผื่อโตจนเกินไป หรือแม้จะเป็นแฟชั่นที่ทำให้วัยรุ่นชอบใส่รองเท้าหลวมๆ ก็ต้องคอยบอก ยิ่งถ้าเห็นลูกนั่งหลังโกง เดินไหล่ คอตกละก้อ อย่าทำเฉยเชียว ไม่เช่นนั้นเขาจะทำจนกลายเป็นนิสัยที่เพาะบ่มเป็นบุคลิกภาพต่อไปได้
แต่สำหรับเด็กที่เรียนรำไทย บัลเลต์ แจซแดนซ์ก็คงไม่ต้องกังวล เพราะการเรียนเหล่านี้ช่วยให้บุคลิกภาพภายนอกของเด็กดูดีอยู่แล้ว
การเรียนบัลเลต์ รำไทย แจซแดนซ์จะทำให้เด็กดูสง่างามขึ้น เพราะเวลารำ จะเต้นก็ต้องยืดตัว อย่างบัลเลต์ ครูจะเน้นเรื่องท่วงท่ามาก อย่างเวลายืน เด็กก็ต้องยืนตรง เก็บก้น ยกคางขึ้นนิดหนึ่ง ยืดตัวขึ้น หายใจเข้าลึกๆ มันก็จะดึงให้หลัง ให้ทุกอย่างตึงขึ้นมา รำไทยก็ต้องยืดตัวเวลาเรียนครูก็จะมาดัดหลัง ดัดแขนให้ พวกนี้ช่วยได้เยอะ
และการเรียนทำให้เด็กได้ฝึกบ่อยๆ เขาก็จะมีความสง่างาม อย่างบัลเลต์ถ้าเรียนตั้งแต่เด็กก็จะทำให้เขายืนหลังตรง ไหล่ตรงมาตลอด เวลาเดินเหินก็ดูสง่างาม
ส่วนบุคลิกภาพภายในมีปัจจัยที่สำคัญคือ ต้องสร้างให้เด็กมีทัศนคติเชิงบวก มองโลกในแง่ดี ซึ่งเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการคอยบอกคอยสอนเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับภาวะแวดล้อม ครอบครัว เพื่อนฝูง ที่สำคัญ...พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกด้วย
เมื่อเด็กมีแนวคิดเชิงบวก มองโลกในแง่ดี ทำให้มีอารมณ์แจ่มใส หน้าตาก็จะเบิกบานตามไปด้วย
ฉะนั้นถ้าพ่อแม่อยากเห็นลูกเติบโตมาเป็นคนมีบุคลิกภาพที่ดี ก็ต้องอยู่ใกล้ชิดคอยดูแลพัฒนาการทั้งภายนอก และภายในของเขาให้ดีๆ ค่ะ
ข้อสำคัญอย่าลืมดูแลตัวเองด้วย เพราะคุณคือปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญอันหนึ่งทีเดียว
บุคลิกภาพที่ดี สร้างได้
เรื่องบุคลิกภาพนั้นต้องมองตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน ทั้งสองส่วนต้องประกอบกัน แต่ส่วนที่เป็นภายนอกมักเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนกว่า
เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็คงอยากให้ลูกของเราเป็นคนมีบุคลิกภาพที่ดีด้วยกันทั้งนั้น แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งจะเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติ ต่างจากเรื่องสูงต่ำดำขาวซึ่งถือเป็นเรื่องทางพันธุกรรม
บุคลิกภาพจึงเป็นเรื่องที่ต้องสร้างเสริมกันบ้างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพภายนอกตั้งแต่เรื่องเดินเหิน พูดจา แต่งเนื้อแต่งตัว หรือบุคลิกภาพภายในที่เน้นหนักในเรื่องทัศนคติในการมองโลก ซึ่ง คุณประนอม ถาวรเวชผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ John Robert Powers International ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า
เรื่องบุคลิกภาพนั้นต้องมองตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงภายใน ทั้งสองส่วนต้องประกอบกัน แต่ส่วนที่เป็นภายนอกมักเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนกว่า
คุณประนอมบอกว่า บุคลิกภาพภายนอกมีเรื่องที่น่าห่วงอยู่ 2 เรื่องค่ะ
หนึ่ง เด็กวัยรุ่นปัจจุบันชอบเดินไหล่ห่อ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงมักจะอายเรื่องหน้าอก ส่วนเด็กชายก็อาจเป็นเพราะความสูง โตเร็วแล้วมีเพื่อนตัวเล็ก ก็จะอายทำให้เดินห่อไหล่อยู่เรื่อยๆ พอเดินไหล่ห่อก็จะทำให้นั่งไหล่ห่อ ไม่ผึ่งผาย ดูเหมือนคนไม่กระตือรือร้น รวมถึงเรื่องกระเป๋าหนักๆ ก็ต้องระวัง เพราะการที่เด็กสะพายเป้หนักๆ จะทำให้แขนไม่แกว่งเพราะกลัวชนกระเป๋าเขาก็จะเดินแขนตก และเวลาเดินต้องโน้มตัวไปข้างหน้า พอไม่มีกระเป๋าก็ยังเดินท่านั้น ทำนานๆ เข้าก็จะติด
สอง คือเดินลากเท้า เพราะเด็กปัจจุบันชอบใส่รองเท้าหลวมมาก และการใส่รองเท้าใหญ่เกินไปจะทำให้เดินยกเท้าไม่ได้ตามปกติ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้เขากลายเป็นคนเดินลากเท้า
นี่จึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลค่ะ ถ้าลูกเป็นเด็กเล็กจะซื้อรองเท้าให้ใส่ ก็อย่าประหยัดจนเลยเถิด เลือกซื้อแบบหลวมมากๆ เผื่อโตจนเกินไป หรือแม้จะเป็นแฟชั่นที่ทำให้วัยรุ่นชอบใส่รองเท้าหลวมๆ ก็ต้องคอยบอก ยิ่งถ้าเห็นลูกนั่งหลังโกง เดินไหล่ คอตกละก้อ อย่าทำเฉยเชียว ไม่เช่นนั้นเขาจะทำจนกลายเป็นนิสัยที่เพาะบ่มเป็นบุคลิกภาพต่อไปได้
แต่สำหรับเด็กที่เรียนรำไทย บัลเลต์ แจซแดนซ์ก็คงไม่ต้องกังวล เพราะการเรียนเหล่านี้ช่วยให้บุคลิกภาพภายนอกของเด็กดูดีอยู่แล้ว
การเรียนบัลเลต์ รำไทย แจซแดนซ์จะทำให้เด็กดูสง่างามขึ้น เพราะเวลารำ จะเต้นก็ต้องยืดตัว อย่างบัลเลต์ ครูจะเน้นเรื่องท่วงท่ามาก อย่างเวลายืน เด็กก็ต้องยืนตรง เก็บก้น ยกคางขึ้นนิดหนึ่ง ยืดตัวขึ้น หายใจเข้าลึกๆ มันก็จะดึงให้หลัง ให้ทุกอย่างตึงขึ้นมา รำไทยก็ต้องยืดตัวเวลาเรียนครูก็จะมาดัดหลัง ดัดแขนให้ พวกนี้ช่วยได้เยอะ
และการเรียนทำให้เด็กได้ฝึกบ่อยๆ เขาก็จะมีความสง่างาม อย่างบัลเลต์ถ้าเรียนตั้งแต่เด็กก็จะทำให้เขายืนหลังตรง ไหล่ตรงมาตลอด เวลาเดินเหินก็ดูสง่างาม
ส่วนบุคลิกภาพภายในมีปัจจัยที่สำคัญคือ ต้องสร้างให้เด็กมีทัศนคติเชิงบวก มองโลกในแง่ดี ซึ่งเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการคอยบอกคอยสอนเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับภาวะแวดล้อม ครอบครัว เพื่อนฝูง ที่สำคัญ...พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกด้วย
เมื่อเด็กมีแนวคิดเชิงบวก มองโลกในแง่ดี ทำให้มีอารมณ์แจ่มใส หน้าตาก็จะเบิกบานตามไปด้วย
ฉะนั้นถ้าพ่อแม่อยากเห็นลูกเติบโตมาเป็นคนมีบุคลิกภาพที่ดี ก็ต้องอยู่ใกล้ชิดคอยดูแลพัฒนาการทั้งภายนอก และภายในของเขาให้ดีๆ ค่ะ
ข้อสำคัญอย่าลืมดูแลตัวเองด้วย เพราะคุณคือปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญอันหนึ่งทีเดียว
ขอไรจัดให้ทุกอย่าง
21 มี.ค. 51 เวลา 20:50 น.
6,515
views
2 ความคิดเห็น
อืม
ก็ดีแล้ว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?