Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

,,สุภาษิตสอนหญิง+คติเตือนใจ,,ข้อคิดดีๆที่อยากให้เข้ามาอ่านและโหวตกัน ^^

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

:: สุภาษิตสอนหญิง ::  และคติเตือนใจ

สุภาษิตสอนหญิง (สุนทรภู่)

     จงปฎิบัติสามีเป็นที่รัก
สามิภักดิ์โดยเที่ยงไม่เดียงสา
มิให้เคืองขืนขัดเรื่องอัชฌา
ถึงเวลายามนอนผ่อนเอาใจ
     ก้มกราบบาทสามีเป็นที่ยิ่ง
สรรพสิ่งชอบประกอบให้
ตื่นก่อนนอนหลังระวังระไว
ตักน้ำไว้คอยท่าให้สามี
     จะได้ชำระพักตราเพลาเช้า
นวลเจ้าจำไว้เป็นศักดิ์ศรี
หาหมากพันพลูบุหรีดี
.................................
     การกินนอนนั้นเป็นการใหญ่
ระวังระไวอย่าให้ทำเมินเฉย
ของคาวหวานเป็นการของทรามเชย
อย่าละเลยไว้ใจให้ใครทำ
     เป็นสตรีย่อมมีมารยาท
จะทำการก็สะอาดไม่ผลีผลาม
สิ่งใดดีที่ไหนสนใจจำ
ปากคำไม่กระเดื่องให้เคืองใจ
     จัดแจงการบ้านเรือนดูรอบคอบ
ถึงทำชอบผัวว่าชั่วก็นิ่งได้
รักษาตัวกลัวผิดระวังระไว
ตั้งจิตคิดไว้ให้คนชม
     บาลีว่าหญิงดีมีสี่อย่าง
ไม่อำพรางย่อมตรัสบริหาร
สำแดงไว้ให้เห็นเป็นประธาน
จึงพิจารณ์ตามพระพุทธาธิบาย
     หญิงเหล่าหนึ่งเรียกว่ามาตาภริยา
สเน่หาในสามีไม่เหือดหาย
ปฎิบัติเช้าเย็นไม่เว้นวาย
มิไข้หน่ายในการบำรุงบำเรอ
     มารดารักบุตรนั้นฉันใด
เอาใจใส่มิได้แต่งเสนอ
รักสนิทจิตสมัครสามีเธอ
เทียบเสมอเพียงบุตรในอุทร
     ภคินีภรรยานั้นพวกหนึ่ง
เร่งรำพึงคิดคร่ำคำที่สอน
รักสามีเหมือนพี่ร่วมมารดา
โอนอ่อนคำนับน้อมยอมยำเกรง
     ทาสีภรรยาพวกหนึ่งเล่า
ท่านชักเอามาเปรียบเทียบเหมาะเหม็ง
รักสามีเหมือนนายเงินของตนเอง
ต้องยำเกรงเช้าเย็นเป็นนิรันดร์
     สหายิกาภรรยาครบสี่
รักสามีดังสหายผ่อนผายผัน
สงวนอารมณ์มิได้ข่มขี่กัน
สู้อดกลั้นจริงจริงทุกสิ่งเจียว


 คติเตือนใจหญิง

  • น้ำตาของหญิงสาว งดงามกว่ารอยยิ้มของเธอ
       
  • ผู้หญิงโดยมากก่อเรื่องยุ่งๆ โดยไม่มีเหตุผล
    ผู้หญิงร้องไห้เมื่อไร เมื่อนั้นก็เป็นเหตุผลของเธอ
       
  • มารยาทของคนโดยเฉพาะผู้หญิง
    สร้างวาสนาของตนได้เป็นอย่างดี
      
  • อย่าสอนลูกหลานให้เป็นผู้ดีเย่อหยิ่ง หรือถือตัว
    จงสอนให้ลูกหลานเป็นลูกชายแท้ เป็นหญิงแท้
       
  • ภรรยางาม ทำให้สามีมีความสุขครึ่งๆกลาง
    ภรรยาดี ทำให้สามีสุขกายสุขใจตลอดชีวิต
      
  • ก่อนแต่งงานจงจู้จี้เลือกสามี
    หลังแต่งงานจงอยู่ในโอวาทของสามี
      
  • ผู้ที่หยิ่งผยองโดยเฉพาะผู้หญิง เท่ากับเปิดทางให้กับ
    ความชั่วร้ายเข้านอกออกในได้โดยง่าย
     
  • แม่ที่ดีต้องไม่ตามใจลูก ไม่ว่าผิดหรือถูก
    แม่ที่ดีต้องสอนลูกให้อยู่ในสังคมได้อย่างสวัสดิภาพ
      
  • ลูกๆจะเป็นอย่างไรในภายหน้า ขึ้นอยู่กับแม่ว่าจะอบรมอย่างไร
    ชีวิตลูกๆจะยุ่งยากถ้าแม่ตามใจลูกจนเกินเลย
       
  • น้ำตาของแม่ คือความรัก
    รวมกับความหว่งใยที่มีต่อลูกตลอดกาลนาน
       
  • สามีหูหนวก ภรรยาเป็นใบ้
    ชีวิตแต่งงานของคู่นี้จะยั่งยืนตลอดกาล
      
  • สามีดี ภรรยาดี ต่างต้องไม่ยุ่งเกี่ยวในเรื่องส่วนตัวของกันและกัน
       
  • หน้าที่แท้จริงของภรรยา คือทำอาหารให้อร่อย ถูกปากสามี
    และภรรยาที่ดีต้องร่วมทุกข์กับสามีอย่างเต็มใจ
       
  • ภรรยาดี ต้องฉลาดเข้าใจรู้ใจสามี มีหน้าที่ปฎิบัติสามีให้เป็นสุข
    ปลอบโยนให้หายทุกข์
       
  • หญิงดี เมื่อรักชายใดแล้ว ก็เมตตาเขาผู้นั้นเพียงชายเดียวในชีวิต
       
  • ผู้หญิงโดยมากฉลาดแหลมคมนัก
    แต่หญิงที่ฉลาดจริงเป็นหญิงที่ซ่อนคม
       
  • ผู้หญิงน่ารักเหมือนตุ๊กตาในยามดี
    และดุร้ายเหมือนเสือแม่ลูกอ่อนในยามร้าย
      
  • หญิงวาสนาดีเทียมคุณหญิงคุณนาย คือหญิงที่สงบเงียบทั้งกาย วาจา
    และมีความรู้ความสามารถพอประมาณ
      
  • หญิงวาสนาเทียมเศรษฐี เป็นหญิงที่แต่งตัวพองาม
    กินพออิ่ม พูดน้อย ขยันมาก
       
  • หญิงที่ปากร้าย ไม่ยอมแพ้ใคร ก็มีหวังเจ็บตัว หรือเสียโฉม
    และเมื่อมีลูก เธอก็จะกลายเป็นหญิงขี้โรค
              
  • ผู้หญิงขี้หึงหรือใจร้าย จะไร้ที่พึ่งทางกายและใจ
    ทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า
      
  • หญิงดีมีบุญบารมี เป็นผู้หญิงที่รู้จักประหยัด และใจดีมีเมตตา
      
  • หญิงที่มีจิตใจและกิริยาเป็นชาย จะอายุยืน
    แต่ชีวิตครอบครัวอับเฉา และอับจน
     





    เมียดี 4 แบบ (ปรมาจารย์ภาษาไทย ขุนจงจัดนิสัย)

    เมียดีเสมอทาส
         อย่างหนึ่งถึงหากไม่งาม
    รูปทรามไปบ้างช่างหนอ
    แต่งานหล่อนนี้ดีพอ
    มุ่งก่อกิจทำกล้ำไป
         รุ่งเช้าเจ้ากอปรกิจการบ้าน
    ไม่คร้านเกะกะไถล
    มีงานควรทำทำไป
    หล่อนไม่บิดเบี่ยงเกี่ยงงอน
         จักใช้สิ่งใดให้ทำ
    ตรากตรำห่อนเพิกถอน
    ไม่ขัดด้วยขานวานวอน
    เหมือนทาสซึ่งอ่อนผ่อนกลัว
       

    เมียดีเสมอมารดา
         อย่างหนึ่งซึ่งนางจงรัก
    พิทักษ์บำรุงเลี้ยงผัว
    แม้ถ้าสามีเมามัว
    เกรงชั่วหล่อนขัดทัดทาน
         ยามที่สามีป่วยไข้
    หล่อนยิ่งมีใจสงสาร
    ฟูมฟักรักษาพยาบาล
    ตราบการป่วยนั้นบรรเทา
         เปรียบนางอย่างเช่นนายแพทย์
    ระแวดระวังนั่งเฝ้า
    เหมือนหนึ่งมารดาเลี้ยงเรา
    โลมเล้าเกษมเปรมปรีดิ์
       

    เมียดีเสมอเพื่อน
         อีกอย่างหนึ่งนวลนางอย่างมิตร
    จอดจิตฝากรักศักดิ์ศรี
    มอบชีพมอบกายหมายพลี
    ร่วมทุกข์สุขีด้วยกัน
         ถึงตายยอมเพื่อนคู่
    หวังอยู่ร่วมเรียงเคียงขวัญ
    ถึงยามฝากตัวพัวพัน
    บากบั่นยินยอมพร้อมใจ
         หากผัวมีกรรมจำจร
    จากหล่อนลงซึ่งถึงไหน
    ห่อนสู้ติดต้อยตามไป
    อดอยากอย่างไรก็ไม่กลัว
       

    เมียดีเสมอน้อง
         อย่างหนึ่งนั้นน่าปราณี
    นุชช่างภักดีต่อผัว
    อ้อนออดพรอดฝากเนื้อตัว
    เกรดชั่วเกรงผิดคิดแคลน
         ห่อนหยาบห่อนหยาบคร้ามเกรง
    ยำเกรงอารีดีแสน
    รู้หลีกชั่วกลัวแคลน
    หากแค้นห่อนคลายอารมณ์
         ผัวอ่อนหล่อนอวยเออตาม
    เผื่องามเผื่อรักศักดิ์สม
    นางดังดุจน้องปองชม
    เกลียวกลมควรอยู่คู่ครอง




     กฤษณาสอนน้อง (สมเด็จกรมพระยาปรมานุชิต)

    อย่าซอนซอนสรวลเสียงสำเนียงดัง
    อย่าระเริงกิริยาเป็นน่าชัง
    ถ้ายามพลั้งชนจะชวนสำรวลพลัน
           อย่าด่วนดำเนินไคลครรไลแล่น
    กรกรีดแหวนแกว่งหัตถาหกหัน
    อย่ามุ่งเมิดเดินบาทจะพลาดพลัน
    อย่าทัดพันธุ์มาลาเมื่อคลาไคล
           อย่าเสยเกศยุรยาตรเมื่อนาถย่าง
    จีบพกหกลางขายสำเนียงส่งเสียงได้
    สะกิดเพื่อนเยื้อนสรวลสำรวลใน
    อย่าทรงสะไบพลางเดินดำเนินลี
           อย่ายอหัตถ์ผัดลบกำโบละ
    ประทินประนางย่างทางวิถี
    อย่านุ่งกรายภูษาเดินจรลี
    จะเสื่อมศรีศักดิ์ยุพาไม่ถาวร
           อนึ่งอย่าทรงสะไบครองทั้งสองบ่า
    เปลือกพระกายินทรีศรีสมร
    ถ้าชายสบก็จะสรวลสำรวลอร
    เป็นเครื่องร้อนสำรวมหทัยไม่ธำรง



     




    ๏ประนมหัตถ์นมัสการขึ้นเหนือเศียร

     

    ต่างประทีปโกสุมปทุมเทียน
    อันเป็นมิ่งโมลีสี่ทวีป
    ก็ล่วงลับดับไกลนัยนา
    ฉันชื่อภู่ผู้ประดิษฐ์คิดสนอง
    ให้ประเสริฐเลิศล้ำด้วยคำคม

    ๏ ขอเจริญเรื่องตำรับฉบับสอน
    อันความชั่วอย่าให้มัวมีระคาย
    ผู้ใดเกิดเป็นสตรีอันมีศักดิ์
    สงวนงามตามระบอบให้ชอบกล
    เป็นสาวแซ่แร่รวยสวยสะอาด
    แม้นแตกร้าวรานร่อยถอยราคา
    อันตัวต่ำแล้วอย่าทำให้กายสูง
    ค่อยเสงี่ยมเจียมใจจะไว้วาง

    ๏  จะนุ่งห่มดูพอสมศักดิ์สงวน
    จะผัดหน้าทาแป้งแต่งอินทรีย์
    จะเก็บไรไว้ผมให้สมพักตร์
    เป็นสุภาพราบเรียบแลเจริญ
    ใครเห็นน้องต้องนิยมชมไม่ขาด
    ถึงรูปงามทรามสงวนนวลอนงค์

    ๏  ประการหนึ่งซึ่งจะเดินดำเนินนาด
    อย่าไกวแขนสุดแขนเขาห้ามปราม
    อย่าเดินกรายย้ายอกยกผ้าห่ม
    อย่าพูดเพ้อเจ้อไปไม่สู้ดี
    ให้กำหนดจดจำแต่คำชอบ
    อย่านุ่งผ้าพกใหญ่ใต้สะดือ
    อย่าลืมตัวมัวเดินให้เพลินจิต
    เป็นนารีที่ละอายหลายกระบวน
    อนึ่งเนตรอย่าสังเกตให้เกินนัก
    แม้นประสบพบเหล่าเจ้าชู้ชาย
    อันนัยน์ตาพาตัวให้มัวหมอง
    จริงมิจริงเขาเอาไปเล่าแช

    จำนงเนียรนบบาทพระศาสดา
    ดังประทีปส่องทั่วทุกทิศา
    สู่มหาห้องนิพพานสำราญรมย์
    ขอประคองคุณใส่ไว้เหนือผม
    โดยอารมณ์ดำริรักชักภิปราย

    ชาวประชาราษฎรสิ้นทั้งหลาย
    จะสืบสายสุริยวงศ์เป็นมงคล
    บำรุงรักกายไว้ให้เป็นผล
    จึงจะพ้นภัยพาลการนินทา
    ก็หมายมาดเหมือนมณีอันมีค่า
    จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง
    ดูเยี่ยงยูงแววยังมีที่วงหาง
    ให้ต้องอย่างกริยาเป็นนารี

    ให้สมควรรับพักตร์ตามศักดิ์ศรี
    ดูฉวีผิวเนื้ออย่าเหลือเกิน
    บำรุงศักดิ์ตามศรีมิให้เขิน
    คงมีผู้สรรเสริญอนงค์ทรง
    ว่าฉลาดแต่งร่างเหมือนอย่างหงส์
    ไม่รู้จักแต่งองค์ก็เสียงาม

    ค่อยเยื้องยาตรยกย่องไปกลางสนาม
    เสงี่ยมงามสงวนไว้แต่ในที
    อย่าเสยผมกลางทางหว่างวิถี
    เหย้าเรือนมีกลับมาจึงหารือ
    ผิดระบอบแบบกระบวนอย่าควรถือ
    เขาจะลือว่าเล่นไม่เห็นควร
    ระวังปิดปกป้องของสงวน
    จงสงวนศักดิ์สง่าอย่าให้อาย
    จงรู้จักอาการประมาณหมาย
    อย่าชม้ายทำชะม้อยตะบอยแล
    เหมือนทำนองแนะออกบอกกระแส
    คนรังแกมันก็ว่านัยน์ตาคม

     


    ๏ อันที่จริงหญิงชายย่อมหมายรัก
    แม้นจักรักรักไว้ในอารมณ์
    ดังพฤกษาต้องวายุพัดโบก
    จงยับยั้งช่างใจเสียให้ดี
    อันตัวนางเปรียบอย่างปทุเมศ
    หอมผกาเกสรขจรขจาย
    ครั้นได้ชมสมจิตพิศวาส
    ไม่อยู่เฝ้าเคล้ารสเที่ยวจดลอง
    แม้นชายใดหมายประสงค์มาหลงรัก
    อันความรักของชายนี้หลายชั้น
    จงพินิจพิศดูให้รู้แน่
    เปรียบเหมือนคิดปริศนาอย่าไว้ใจ
    อันแม่สื่ออย่าได้ถือเป็นบรรทัด
    แต่ล้วนดีมีบุญลูกขุนนาง
    อันร้ายดีมิได้เห็นเป็นแต่ว่า
    เหมือนเขาหลอกบอกลาภถึงเมืองไกล
    ทางไกลตาอุปมาเหมือนเสียเนตร
    เขาจะนำไปตายก็ตายพลัน
    อันแม่สื่อคือปีศาจที่อาจหาญ
    อย่าเชื่อนักมักตับก็คับโครง
    อันความชั่วอยู่ที่ตัวของเราหมด
    จงฟังหูไว้หูกับผู้คน

    ๏  คิดถึงตัวหาผัวนี้หายาก
    คนสูบฝิ่นกินสุราพาจัญไร
    มักเบียดเบียนบีฑาประดาเสีย
    ไม่ทำมาหากินจนสิ้นตน
    ที่บางคนนั้นชั่วเป็นหัวไม้
    ท่านจับได้ใส่ตรวจพรวดคอยาว
    เขาเป็นผัวตัวเมียเสียไม่ได้
    ไปเสียลดเสียหลั่นพันธนา
    เพราะมีผัวชั่วไปจึงได้ยาก
    บ้างเล่นเบี้ยเสียถั่วมัวทนง
    มีข้าวของเคยผูกให้ลูกเต้า
    ลงชั้นว่าผ้าผ่อนท่อนสไบ
    ยังแต่เมียเกลี่ยไกล่ไปขายซื้อ
    ครั้นรักผัวก็อย่ามัวด้วยลมโลม
    จะคิดทำอย่างไรก็ใช่ที่
    ถ้าคนผู้รู้สึกสำนึกตัว
    จะหาคู่สู่สมภิรมย์หวัง
    ที่ชายดีนั้นก็มีอยู่ถมไป
    แต่ใจคนมักรนไปหาผิด
    ต้องเดือดดิ้นกินน้ำตาอยู่นองเนือง


    มิใช่จักตัดทางที่สร้างสม
    อย่ารักชมนอกหน้าเป็นราคี
    เขยื้อนโยกก็แต่กิ่งไม่ทิ้งที่
    เหมือนจามรีรู้จักรักษากาย
    พึงประเวศผุดพ้นชลสาย
    มิได้วายภุมรินถวิลปอง
    ก็นิราศแรมจรัลผันผยอง
    ดูทำนองใจชายก็คล้ายกัน
    ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น
    เขาว่ารักรักนั้นประการใด
    อย่าทำแต่ใจเร็วจะเหลวไหล
    มันมักไพล่เพลงขุมเป็นหลุมพลาง
    สารพัดเขาจะพูดนี้สุดอย่าง
    มาอวดอ้างให้อนงค์หลงอาลัย
    จะคาดหน้าแน่ลงที่ตรงไหน
    อย่าควรให้ตามคำเขารำพัน
    สุดสังเกตเท็จจริงทุกสิ่งสรรพ์
    คนทุกวันเชื่อมันยากปากมันโกง
    ใครบนบานเข้าสักหน่อยก็พลอยโผง
    มันชักโยงอยากกินแต่สินบน
    ต้องกำสรดโศกร้างอยู่กลางหน
    สืบยุบลเสียให้แน่อย่าแร่ไป

    มันชั่วมากนะอนงค์อย่าหลงไหล
    แม้หญิงใดร่วมห้องจะต้องจน
    เหมือนเลี้ยงอัปรีย์ไม่มีผล
    แล้วซุกซนตีชิงเที่ยววิ่งราว
    ให้พอใจชกตีเขาหมี่ฉาว
    แล้วบอกข่าวโศกศัลย์ถึงภรรยา
    มีหาไม่เงินทองก็ต้องหา
    ค่าฤชาก็ต้องเสียขายเมียลง
    แสนลำบากบอบนักอย่ามักหลง
    หน่อยก็ลงจำนำเขาร่ำไป
    ก็เบียนเอาสิ้นสุดหาหยุดไม่
    อย่าไปไขว้เล่นไปจนโซโทรม
    คอยหารือร่วมภิรมย์เมื่อชมโฉม
    ต่อล้มโครมแล้วก็ครวญหวนถึงตัว
    ต้องรับหนี้ยากแค้นใช้แทนผัว
    จะยังชั่วด้วยไม่เฉยซะเลยใจ
    จงระวังชั่วช้าอัชฌาสัย
    ใช่วิสัยเขาจะชั่วไปทั่วเมือง
    ครั้นได้คิดจิตตรอมออกผอมเหลือง
    สุดจะเปลื้องราคินจนสิ้นคาว

     


    ๏ เป็นสตรีสุดดีแต่เพียงผัว
    ลงจนสองสามจืดไม่ยืดยาว
    ถ้าคนดีมิได้ช้ำยับ
    คงมีผู้ชูช่วยประคับประคอง
    ถ้าแม้นตัวชั่วช้ำแล้ว
    เหมือนทองแดงแฝงเฝ้าเป็นราคี
    จงรักตัวอย่าให้มัวราคีหมอง
    อย่าเอาผิดมาเป็นชอบประกอบใจ
    แม้นรู้จักรักร่างเป็นอย่างยิ่ง
    จงกำหนดอุตส่าห์รักษาทรง
    อันคำคมลมบุรุษนั้นสุดกล้า
    จงระวังตั้งมั่นในสันดาน
    เขารักจริงให้สู่ขอกับพ่อแม่
    เขาไม่เลี้ยงไล่ขับจะอับอาย
    ข้างพ่อแม่ก็จะโกรธพิโรธร่ำ
    ด้วยท่านอายขายหน้าประชาชน
    ถ้าปะว่าแม่พ่อใจคอร้าย
    แม้นชายจนคนขัดพลัดเข้าตัว
    จะขึ้งโกรธโทษผู้ใหญ่ว่าไม่รัก
    ชั้นพ่อแม่ของตัวไม่กลัวเกรง
    ท่านเลี้ยงมาจะให้เป็นหอห้อง
    ครั้นลูกตัวชั่วถ่อยน้อยอารมณ์
    แม้นลูกดีก็จะมีศรีสง่า
    ถึงเพื่อนบ้านฐานถิ่นที่ใกล้ไกล


    จะดีชั่วก็ยังกำลังสาว
    จะกลับหลังอย่างสาวสิเต็มตรอง
    ถึงขัดสนจนทรัพย์ไม่เศร้าหมอง
    เปรียบเหมือนทองธรรมดาราคามี
    จะปัดแผ้วถางฝืนไม่คืนที่
    ยากจะมีผู้ประสงค์จำนงใน
    ถือทำนองแบบโบราณท่านขานไข
    จงอยู่ในโอวาทญาติวงศ์
    จะเพริศพริ้งสมสวาทเป็นราชหงส์
    อย่าลุ่มหลงด้วยอุบายของชายพาล
    เขาย่อมว่ารสลิ้นนี้กินหวาน
    อย่าลนลานหลงละเลิงด้วยเชิงชาย
    อย่าวิ่งแร่หลงงามไปตามง่าย
    ต้องเป็นม่ายอยู่กับบ้านประจานตน
    จะจองจำตีโบยออกโหยหน
    ไม่รักตนเราจึงต้องมาหมองมัว
    กลับซื้อขายคิดเอากับเจ้าผัว
    เราทำชั่วก็ต้องขายกายเราเอง
    เพราะเราคิดผิดนักไม่เหมาะเหม็ง
    ใจตัวเองพาหลงไปลงตม
    หมายจะกองทุนสินกินขนม
    จึงตรอมตรมโกรธบุตรนี้สุดใจ
    ญาติวงศ์พงศาก็ผ่องใส
    ก็มีใจสรรเสริญเจริญพร

     


    ๏  จงรักนวลสงวนนามห้ามใจไว้
    คิดถึงหน้าบิดาและมารดร
    เมื่อสุกงอมหอมหวานจึงควรหล่น
    อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี
    อย่าคิดเลยคู่เชยคงหาได้
    อย่าเกียจคร้านงานสตรีจงนิยม
    ถ้าแม้นทำสิ่งใดให้ตลอด
    เขม้นขะมักรักงานการของตน
    เมื่อเหนื่อยอ่อนนอนหลับอยู่กับบ้าน
    อะไรฉาวกราวเกรียวอย่าเหลียวแล
    ระวังดูเรือนเหย้าแลข้าวของ
    เห็นไม่มีแล้วอย่าอ้างว่าช่างมัน
    มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท
    จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง
    ไม่ควรซื้อก็อย่าไปพิไรซื้อ
    เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาล
    ด้วยชนกชนนีนั้นมีคุณ
    อุ้มอุทรป้อนข้าวเป็นเท่าไร
    ถ้าเราดีมีจิตคิดอุปถัมถ์
    จะปรากฎยศยิ่งสิ่งทั้งปวง
    เทพไทในห้องสิบหกชั้น
    ว่าสตรีนี้เป็นยอดยุพาพาล

    ๏  ที่บางนางนั้นก็ทำทุจริต
    เห็นพ่อแม่ยากไร้ไม่ใยดี
    เขาถามไถ่ว่ามิใช่เป็นพ่อแม่
    ให้ตามหลังบังคับด้วยคำคม
    คนผู้นั้นครั้นตายวายชีวาตม์
    ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันพระจันทรา
    ถ้าอยู่ไปในมนุษย์โลกเล่า
    ให้ยากยับอัปราอนาทร
    แม้จะมีเงินทองของทั้งหลาย
    จะเกิดโจรราวีอัคคีภัย
    หญิงเช่นนี้ชายอย่าได้ไปร่วมรัก
    แต่พ่อแม่เจียวยังใจไม่การุญ
    ซึ่งสตรีที่ดีอย่าดูเยี่ยง
    แม้นร่วมรอยก็จะพลอยมัง


    อย่าหลงใหลจำคำที่ร่ำสอน
    อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี
    อยู่กับต้นอย่าให้พรากไปจากที่
    เมื่อบุญมีคงจะมาอย่างปรารมภ์
    อุตส่าห์ทำลำไพ่เก็บประสม
    จะอุดมสินทรัพย์ไม่อับจน
    อย่าทิ้งทอดเที่ยวไปไม่ได้ผล
    อย่าซุกซนคบเพื่อนไพล่เชือนแช
    อย่าเที่ยวพล่านพูดผลอประจ๋อประแจ๋
    ฟังให้แน่เนื้อความค่อยถามกัน
    จะบกพร่องอะไรที่ไหนนั่น
    จงผ่อนผันเก็บเล็มให้เต็มลง
    อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
    อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
    ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน
    จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดระทดใจ
    ได้การุณเลี้ยงรักษามาจนใหญ่
    หมายจะได้พึ่งพาธิดาดวง
    กุศลล้ำเลิศเท่าภูเขาหลวง
    กว่าจะล่วงลุถึงซึ่งพิมาน
    จะชวนกันสรรเสริญเจริญสาร
    ได้เลี้ยงท่านชนกชนนี

    มิได้คิดคุณท่านเท่าเกศี
    ดูเป็นที่อายเพื่อนเบือนอารมณ์
    ท่านพูดแก้เกลื่อนกลับจะทับถม
    ไม่ชื่นชมยกชูขึ้นบูชา
    คงไม่คลาดแคล้วนรกตกถลา
    ทรมาน์หมกไหม้ในไฟฟอน
    เทพเจ้าท่านก็แช่งแสร้งสังหรณ์
    ยิ่งกว่าทำมารดรให้ร้อนใจ
    คงฉิบหายมั่นคงอย่าสงสัย
    เพราะว่าใจหยาบช้าคิดทารุณ
    จะเสื่อมศักดิ์เสียเช่นเป็น
    เนรคุณมิได้คิดอนิจจัง
    จงหลีกเลี่ยงเสียให้พ้นคนขี้ถัง
    ดุจดังเอาทองแดงเข้าแฝงกุม

     


    ๏ จะสอนใจไว้ทุกสิ่งเป็นหญิงสาว
    ให้ผันผ่อนเหมือนหนึ่งนอนในห่วงรุม
    อย่าทำนอกลักษณะจะเป็นโทษ
    ถึงจะรักรักให้ยืดอย่าจืดจาง
    จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น
    ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นกู
    แม้จะเรียนวิชาทางค้าขาย
    จึงซื้อง่ายขายดีมีกำไร
    เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก
    แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
    ถึงชายใดเขาพอใจมาพูดเกี้ยว
    เมื่อไม่ชอบก็อย่าตอบเนื้อความตาม
    ถึงจะไปในพิภพให้จบทั่ว
    จงอุตส่าห์ปกปิดให้มิดเม้น
    เมื่อจะจรนอนเดินดำเนินนั่ง
    อย่าเหม่อเมินเดินให้ดีมีอาฌา
    เห็นผู้ใหญ่หรือใครเขานั่งแน่น
    ค่อยวอนว่าข้าขอจรดล
    แม้นสมรจะไปนอนที่เรือนไหน
    ใครเห็นเข้าเขาจะเล่านินทานาง
    ถ้าจะนั่งก็นั่งระวังผ้า
    ยามสำรวลก็อย่าสรวลให้เมามัว
    เมื่อยามยิ้มก็ยิ้มไว้แต่ในพักตร์
    อย่าเท้าแขนเท้าคางให้ห่างกาย
    จะแต่งตัวก็อย่ามัวแต่การแต่ง
    ใช่บ้านนอกขอกนามาแต่เยิง


    ให้พ้นคาวข่าวชั่วมามั่วสุม
    จงสุขุมคิดแบ่งให้เบาบาง
    ตัดประโยชน์พี่น้องเขาหมองหมาง
    จะไว้วางกริยาให้น่าดู
    อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
    คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ
    อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย
    ด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอา
    จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
    จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
    อย่าโกรธเกรี้ยวโกรธาว่าหยาบหยาม
    มันจะลามเล่นเลยเหมือนเคยเป็น
    แต่ความชั่วอย่าให้ผู้ใดเห็น
    จึงจะเป็นคนดีมีปัญญา
    จงระวังในจิตขนิษฐา
    แม้นพลั้งพลาดบาทาจะอายคน
    อย่าไกวแขนปัดเช่นไม่เห็นหน
    นั่นแหละคนจึงจะมีปรานีนาง
    อย่าหลับไหลลืมกายจนสายสาง
    ความกระจ่างออกกระจายเพราะกายตัว
    ไม่อาฌาเขาจะพากันยิ้มหัว
    แม้นจะหัวหัวร่อพอสบาย
    อย่ายิ้มนักเสียสง่าพาสลาย
    อย่ากรีดกรายกรอมเพลาะเที่ยวเราะเริง
    อย่าทาแป้งจับกระเหม่าเข้าจนเหลิง
    ทำเซาะเซิงเขาจะโห่วิ่งโร่ไป

     


    ๏  เมื่อยามตรุษยามสงกรานต์มีงานหลวง
    ครั้นสิ้นเขตเทศกาลทำงานไป
    เมื่อไปเป็นชาววังจึงนั่งแต่ง
    ด้วยสำราญการอะไรนั้นไม่มี
    อยู่สถานบ้านช่องนั้นต้องคิด
    เผื่อมีผัวพลเรือนเหมือนกันนา
    รู้วิชาก็ให้รู้เป็นครูเขา
    มีข้าไทใช้สอยค่อยสบาย
    การวิชาหาประดับสำหรับร่าง
    การมิดีมีชั่วมันกลัวเกรง
    คิดแต่ยากแต่จนเร่งขวนขวาย
    พออิ่มเช้าอิ่มเย็นไม่เป็นไร
    ค่อยเสงี่ยมเจียมตนจนเสียก่อน
    อย่าเป้อเย้อพกใหญ่ออกให้เกิน
    อย่าอวดดีมีทรัพย์เที่ยวจับแจก
    ใครจะช่วยตัวเราก็เปล่าดาย
    เห็นผู้ดีมีทรัพย์ประดับแต่ง
    ของตัวน้อยก็จะถอยไปทุกวัน
    จงนุ่งเจียมห่มเจียมเสงี่ยมหงิม
    อย่านุ่งลายกรายกรุยทำฉุยไป


    แต่งให้งามตามกระทรวงหาว่าไม่
    อย่าร่ำไรผัดหน้าทั้งตาปี
    แต่พอแจ้งเข้าก็จับกระจกหวี
    จะหาคู่ดูแต่ที่เจ้าพระยา
    ให้รู้กิจการหญิงทุกสิ่งสา
    จะได้หาเลี้ยงกันจนวันตาย
    จึงจะเบาแรงตนเร่งขวนขวาย
    ตัวเป็นนายโง่เง่าบ่าวไม่เกรง
    อย่าเอาอย่างหญิงโกงมันโฉงเฉง
    อย่าครื้นเครงขับร้องคะนองใจ
    อย่าให้กายตกยากลำบากได้
    อย่าพอใจเชื่อช้ำเขาก้ำเกิน
    ค่อยผันผ่อนทีหลังเขาสรรเสริญ
    ละเมิดเมินหมิ่นนักมักจะอาย
    ทำเกี่ยวแฝกมุงป่าพาฉิบหาย
    อย่ามักง่ายเงินทองของสำคัญ
    อย่าทำแข่งวาสนากระยาหงัน
    เหมือนตัดบั่นต้นทุนสูญกำไร
    อย่ากระหยิ่มยศถาอัชฌาสัย
    ตัวมิใช่ชาววังไม่บังควร

     


    ๏ อย่าคบพวกหญิงพาลสันดานชั่ว
    สุริย์ฉายบ่ายคล้อยเที่ยวลอยนวล
    พอรุ่งเช้าเฝ้าแต่มองส่องเกศี
    ตรงการงานขี้คร้านเป็นกังวล
    ครั้นได้ยินเสียงกลองมาก้องหู
    วันนี้มีละครใครที่ไหนมา
    นั่งพินิจพิศโฉมประโลมหลง
    บ้างก็เห็นว่างามเลยตามไป
    บ้างก็รักข้างนักเลงเล่นเครงครื้น
    ห่มเพลาะดำทำปลอมออกกรอมกาย
    ครั้นไปไปใจแตกลงแหกคอก
    ควาญหมอรอไม่ติดเห็นผิดเชิง
    ใครจะห้ามปรามไว้ก็ไม่ฟัง
    ถือว่าตนเปรื่องฉลาดปราชญ์ประเปรียว
    พูดก็มากปากก็บอนแสนงอนนัก
    เที่ยวรอนราญจนเพื่อนบ้านเขาระอา
    ที่ส่วนตัวถึงจะชั่วออกล้นพ้น
    ไม่ทำมาหากินจนสิ้นแกน
    หญิงเช่นนี้เห็นไม่มีเจริญแล้ว
    ลงสูบฝิ่นกินเหล้าอยู่เมามาย
    มือก็ไวใจก็กล้าหน้าก็ด้าน
    แต่ผ้าขาดก็ไม่ปรารถนาเย็บ
    อันการเหย้าไม่เอาเป็นธุระ
    คบกันได้แต่นิสัยพวกแชเชือน
    ชั้นจะยืมของใครเขาไม่เชื่อ
    ปากก็หวานเหมือนน้ำตาลเพชรบุรี
    แม้นใครไปสมทบเข้าคบค้า
    มีแต่ภัยให้ทุกค่ำคืน
    หญิงไม่ดีนั้นก็มีอยู่หลายพวก
    ที่คนดีจะได้ดูให้รู้ครบ


    ที่แต่งตัวไว้จริตผิดกระสวน
    เป็นเชิงชวนพวกเจ้าชู้เขารู้กล
    ให้เวียนหวีได้วันละพันหน
    แต่งแต่ตนมิได้เว้นสักเวลา
    ยังไม่รู้เนื้อความเที่ยวถามหา
    แม้นรู้ว่าเจ้ากรับเต้นหรับไป
    ดูจนปลงกรรมฐานเหงื่อกาฬไหล
    ช่างกระไรหนอขนิษฐ์ไม่คิดอาย
    เที่ยวกลางคืนคบเพื่อนเดือนหงายหงาย
    พวกผู้ชายชักพาเที่ยวร่าเริง
    ปะแตกปลอกต้ำผางวางจนเหลิง
    จะเปิดเปิงเข้าป่าไปท่าเดียว
    ทำส่งเสียงเถียงดังให้กราดเกรี้ยว
    ประจบเที่ยวรู้จักทุกพักตรา
    เห็นเขารักกันไม่ได้ใจอิจฉา
    นั่งที่ไหนให้นินทาเขาเป็นแดน
    สู้ปิดปากยกตนนี่สุดแสน
    ก็เลยแล่นเข้าบ่อนนอนสบาย
    ให้แว่วแว่วอยู่ข้างทางฉิบหาย
    ไม่เสียดายอินทรีย์เท่าขี้เล็บ
    จะเอาขวานไปถากไม่อยากเจ็บ
    ขี้เกียจเก็บพลัดวางได้กลางเรือน
    คิดแต่จะเที่ยวตลบไปคบเพื่อน
    จะคบคนพลเรือนก็เต็มที
    ด้วยตัวเหลือโป้ปดสบถถี่
    ข้าวของมีให้ไปไม่ได้คืน
    จนชั้นผ้าไม่ติดตัวแต่สักผืน
    ใครจะชื่นชมชิดไปคิดคบ
    จำจะบวกบอกใส่เสียให้จบ
    หล่อนจะได้ไม่คบพวกคนพาล

     


    ๏ หญิงพวกหนึ่งนั้นขันทำปั้นเจ๋อ
    ไม่เจียมจนเลยว่าตนต่ำสันดาน
    ล้วนคุณลุงคุณปู่อยู่ทุกแห่ง
    พวกผู้ดีไม่นึกตรึกเจรจา
    ช่างพูดได้ไม่อายแก่ปลายลิ้น
    ถึงพูดไปใครเขาจะเห็นจริง
    ถึงจะอวดอ้างไปที่ไหนนั่น
    ถ้าสันดานการผู้ดีคงมีรอย
    อันตัวต่ำแล้วอย่าทำให้เกินศักดิ์
    เปรียบเหมือนเกลือเจือปนกับชลธี
    ที่บางคนจนยากไม่อยากทุกข์
    อุตส่าห์แต่งแป้งขมิ้นไม่สิ้นคราว
    ทำไมแก่เงินทองของทั้งหลาย
    ถือว่ารูปกูงามไม่คร้ามจน
    สุภาษิตท่านประดิษฐ์ประดับไว้
    ถึงเป็นองค์สุริย์วงศ์พระจักรี
    ทุกวันนี้มีทรัพย์เขานับหน้า
    ถึงงามพักตร์เขาจะรักเจ้าเพียงไร


    เฝ้าเป้อเย้อหยิ่งเกินกับภูมิฐาน
    เห็นที่ท่านเป็นขุนนางอ้างเข้ามา
    เที่ยวแอบแฝงพิงพาดวาสนา
    เป็นพี่น้องร่วมฟ้านั้นเห็นจริง
    เป็นคนสิ้นความคิดผิดผู้หญิง
    เขาว่าหยิ่งยกยศเหมือนมดตะนอย
    เขารู้ทันอยู่ว่าเช่นเจ้าเป็นหอย
    ไม่กล่าวถ้อยเขาก็รู้ว่าผู้ดี
    เขาจะมักเหม็นปากเหมือนซากผี
    มันก็มีแต่จะจืดไม่ยืดยาว
    ถือว่าสุขอยู่แก่ตาข้าเป็นสาว
    ไม่สร้อยเศร้าสู้ตาประชาชน
    เห็นหาง่ายสารพัดไม่ขัดสน
    ลงแต่งตนขายกินจนสิ้นดี
    ว่าผู้ใดงามพักตร์สมศักดิ์ศรี
    แม้นไม่มีสินทรัพย์ก็ลับไป
    อย่าถือว่าตนงามตามวิสัย
    เขาคาดใจเสียว่าเจ้าขี้เกียจการ

     

     

     

    ๏ ที่บางคนเห็นที่ท่านมีทรัพย์
    ประกอบผูกลูกสะกดสร้อยสังวาลย์
    เจ้าคนจนมันให้ร่ำจะทำบ้าง
    แต่ตัวจนอ้นอั้นตันในคอ
    หาทองแท้แก้ไขมันไม่คล่อง
    แต่ล้วนเนื้อสิบน้ำทองคำทวาย
    แพงไม่เบาเขายังกล้าอุตส่าห์ซื้อ
    ถึงจนยากอยากบำรุงให้รุ่งเรือง
    ก็สาสมกับอารมณ์ไม่เจียมศักดิ์
    ผู้ดีว่าแล้วขี้ข้าก็พลอยตาม
    เขาจึงว่าหน้าสดปรากฎอยู่
    เมื่อน้ำตื้นขืนจะพายไปฝ่ายเดียว
    เหมือนหิ่งห้อยน้อยสีหรี่หรุบรู่
    เห็นไม่ถึงดอกอย่าโกยไปโดยแรง
    ๏ ยังมีพวกหนึ่งนั้นขยันยิ่ง
    เที่ยวยักย้ายร่ายชมภิรมย์รส
    จะรักไหนก็ไม่รักสมัครมั่น
    ชู้ต่อชู้รู้เรื่องเคืองระคาง
    เพราะนารีมิได้ตรงจำนงหมาย
    เหมือนพวกนางโมราวิลาวัณย์
    โอ้ใจนางอย่างนี้ก็มีมั่ง
    เพราะนิสัยใจขนิษฐ์เล่นปลิดโยน
    ต่างคนต่างก็เชือนออกเบือนเบื่อ
    อันผัวดีที่จะได้อย่าหมายเลย

    แต่งประดับผิวพรรณในสัณฐาน
    แลละลานล้วนสุวรรณอันลออ
    เอาเยี่ยงอย่างอยากได้น้ำลายสอ
    ลงเที่ยวผลอไพล่เผลเพทุบาย
    ต้องเอาทองเสาชิงช้าน่าใจหาย
    สายสร้อยสายหนึ่งก็ถึงสลึงเฟื้อง
    ผูกข้อมือแลงามอร่ามเหลือง
    จนทองเหลืองไม่ละจะกละงาม
    ทรลักษณ์เหลือตัวชั่วส่ำสาม
    ไม่มีความอายจิตสักนิดเดียว
    สมกับผู้ที่ไม่ตรึกนึกเฉลียว
    ไม่ถึงเลี้ยวก็จะล่มไปจมแปลง
    จะแข่งสู้สุริยาอันกล้าแข็ง
    เขาจะแสร้งสรวลว่าเป็นบ้ายศ
    เป็นผู้หญิงสองใจไม่กำหนด
    ใครมาจดโผจับรับตะกาง
    เล่นประชันเชิงลองทั้งสองข้าง
    ก็ขัดขวางหึงสาจะฆ่าฟัน
    ทำให้ชายเคืองแค้นแสนกระสัน
    ยื่นพระขรรค์ผัวให้กับโจร
    จนลือดังข่าวก้องดังกลองโขน
    จนมาโดนกันกระดากไม่อยากเชย
    ต้องเป็นเรือขึ้นคานอยู่เฉยเฉย
    ด้วยมากเชยหลายชู้เขารู้กล
     


    ๏ บ้างลอบเล่นเพลงยาวเมื่อคราวขัด
    ที่ไม่สู้รู้กลอนยังร้อนรน
    บ้างก็เล่นปริศนาเที่ยวหาของ
    ครั้นห่อเสร็จส่งให้กับชายชาญ
    ครั้นคิดคิดปริศนานั้นช้าเนิ่น
    ทำดื้อด้านหาญหักไม่รักงาม
    ชนิดนางอย่างนี้มีชุมนัก
    ต้องกินยาเข้าสุราพริกไทยปน
    รักสนุกครั้นได้ทุกข์แล้วถอยคิด
    เทพเจ้าท่านไม่เข้าด้วยคนร้าย
    ครั้นคิดล้างอย่างไรก็ไม่สูญ
    ทำอย่างไรมันก็ไม่มรณา
    ถ้ารู้ถึงพ่อแม่ต้องแก้ไข
    แล้วหาผัวตัวประจำเป็นสำเนา
    ที่ชายโหดโฉดเขลาเข้าไปรับ
    ดังแผ่นดินสิ้นหญ้าสุธาแพลง
    ไม่คิดอายขายหน้านิจจาเอ๋ย
    ลูกของเขาเอาเป็นสิทธิ์เฝ้าชิดเชื้อ
    เหมือนเช่นเราเขาจะให้ก็ไม่รัก
    ถึงรูปร่างอย่างยุพินกินรี
    เป็นขนิษฐ์ชอบแต่คิดให้เป็นหนึ่ง
    เอ่ยว่ารักแล้วให้ได้ร่วมเรียง
    ท่านเปรียบมาเหมือนหนึ่งตราราชสีห์
    เป็นอนงค์แล้วก็คงจะเป็นเมีย
    ที่เกิดมาเป็นนารีไม่มีค่า
    เหมือนกรวดทรายปรายเล่นไม่เว้นวาง
    เมื่อไม่ถือตราภูมิไว้คุ้มห้าม
    แม้นรู้จักรักษาถือตราไว้
    อย่าจับปลาสองหัตถ์จะพลัดพลาด
    จึงนับว่าคนดีไม่มีมัว
    เป็นผู้หญิงสิ่งใดจะล้ำเลิศ
    ถึงรูปทรงนงคราญจะพาลคลาย

    ๏ บ้างมีผัวตัวอยู่เป็นคู่ชื่น
    ทำรักซ้อนซ่อนสนิทปิดเนื้อความ
    ครั้นรู้ความถามไถ่ก็ไม่รับ
    พลอยประจบหลบความไปตามเพลง
    ทำองอาจพลาดพลั้งลงทั้งคู่
    ไม่แปรดแปร้นแสนสลดเหมือนทศกัณฐ์
    เคยที่นอนหมอนหนุนละมุนนิ่ม
    เล็นก็กัดหมัดก็กินจนสิ้นนวล
    ครั้นเห็นชู้คู่ชมภิรมย์รื่น
    จะพึ่งชู้ชู้ก็เพียบกรอบเกรียบใจ
    ตระลาการท่านถามเอาความชั่ว
    เขาเฮฮาหน้าสลดต้องอดทน
    ครั้นซักไซ้ไต่ถามได้ความชัด
    ถ้ารักชู้ก็ให้อยู่กับชู้ชาย
    ก็สาสมกับอารมณ์สตรีชั่ว
    ไปคบชู้ชู้ชักหักทั้งยืน
    ที่ใครเห็นจะเมตตานั้นหายาก
    ก็เพราะเหตุตัวชั่วลือขจร
    ครั้นลำบากยากจิตสิได้คิด
    ใช่ไม่รู้เขาห้ามความถ้อยมี
    เออก็ใจเป็นไฉนนะน้องเอ๋ย
    ช่างไม่คร้ามความชั่วติดตัวตน
    มันเสียแล้วถึงจะฝืนไม่คืนศักดิ์
    อันความชั่วติดตัวกว่าจะตาย
    ถึงบินออกนอกตำบลให้พ้นเขต
    ห้ามมันยากปากมนุษย์นี้สุดยาว
    ผู้ใดคิดผิดพลั้งเหมือนอย่างว่า
    ควรยับยั้งชั่งใจเสียให้ดี
    แม้นชั่วช้าใครว่าแล้วโกรธเขา
    จะวิบัติบาปกรรมซ้ำหนักไป
    แม้คนดีมีปัญญาถ้าไม่โกรธ
    ให้พ้นทุกข์สุขีเป็นศรีเมือง


    ฝีปากจัดตอบต่อข้อนุสนธิ์
    เที่ยววานคนแต่งให้พอได้การ
    ให้ถูกต้องตามอารมณ์ประสมประสาน
    บอกอาการเรื่องรักประจักษ์ความ
    ชวนกันเดินหลีกออกนอกสนาม
    จนเลยลามลืมบ้านสถานตน
    เป็นโรครักเกิดมารศีรษะขน
    หมายประจญจะให้ดับที่อับอาย
    จะปกปิดเปลวไฟไม่เห็นหาย
    คงก่อกายขึ้นให้เห็นไว้เป็นตรา
    ก็อาดูรพูนเกิดสหัสสา
    เป็นเวราบาปนั้นไม่บรรเทา
    เอาลูกไปมุ่งหมกยกให้เขา
    พอปัดเป่าความอายให้หายแคลง
    มันช่างหลับตาสนิทไม่คิดแหนง
    มาแอบแฝงเอามันเป็นว่านเครือ
    เหมือนไม่เคยพบปะจะกละเหลือ
    นึกว่าเนื้อบุญธรรมกรรมไม่มี
    มันขายพักตร์สารพัดจะบัดสี
    แต่เช่นนี้แล้วไม่ปองประคองเคียง
    ไม่ควรถึงอย่าให้ถึงกับง
    เป็นคู่เคียงของตัวว่าผัวเมีย
    ไม่พอที่เสียนวลไม่ควรเสีย
    ย่อมมีเบี้ยปรับไหมวิสัยนาง
    จะเกิดมาทำไมให้หมองหมาง
    จะเอาอย่างนางโมราหรือว่าไป
    คนจึงลามเลยลวนมากวนได้
    จะคุ้มภัยให้พ้นมีคนกลัว
    จับให้คงลงให้ขาดว่าเป็นผัว
    ถ้าชายชั่วร้างไปมิใช่ชาย
    สุดประเสริฐก็แต่ใจไม่เสื่อมสลาย
    ก็จะกลายส่งสวยด้วยใจงาม

    ยังหาอื่นเข้าประคองเป็นสองสาม
    จนเลยลามเป็นระฆังดังขึ้นเอง
    เขาเฆี่ยนขับตีด่าว่าข่มเหง
    เพราะผัวเองจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
    เขาจับได้ชายชู้ดูน่าขัน
    ต้องโศกศัลย์เศร้าใจอยู่ในตรวน
    ไปนอนทิมกรากกรำเฝ้ากำสรวล
    แลแต่ล้วนลูกความออกหลามไป
     ก็ไม่ชื่นชมชิดพิศมัย
    จะพึ่งผัวตัวก็ไม่เมตตาตน
    ข้างตัวกลัวก็บอกออกนุสนธิ์
    แทบจะด้นดำดินให้สิ้นอาย
    จึงจำกัดศักดินาราคาขาย
    มันเบื่อหน่ายขายกลับเอาทรัพย์คืน
    อยู่กับผัวร่วมใจว่าไม่ชื่น
    ต้องกล้ำกลืนชลนัยน์อาลัยวอน
    มีแต่ปากแช่งอนงค์ส่งสลอน
    ที่เคยนอนนั่งสบายว่าไม่ดี
    แต่มันผิดเสียถนัดต้องบัดสี
    ชั่วหรือดีได้ยินสิ้นทุกคน
    มันจึงเลยไหลฉ่ำดังน้ำฝน
    ทำซุกซนจนได้ยากลำบากกาย
    จะลงรักทองปิดไม่มิดหาย
    เปรียบเหมือนกายกามีราคีคาว
    คงบอกเหตุรู้ว่าใช่กาขาว
    ไม่แกล้งกล่าวค่อนว่าแก่นารี
    ถูกตำราแล้วอย่าโกรธพิโรธพี่
    ถ้าหลีกลี้เลิกเล่นไม่เป็นไร
    เช่นตัวเราผู้แต่งแถลงไข
    ถึงตกใต้เทวทัตเพราะขัดเคือง
    เห็นประโยชน์ตัดชั่วในตัวเปลื้อง
    อย่าแค้นเคืองคำข้าขออภัย

     


    ๏ เป็นสตรีมิใช่ชายเสียดายศักดิ์
    อันความดีมีอยู่ดูจำไว้
    จะมีคู่ก็ให้รู้ปรนนิบัติ
    อย่าคิดร้ายย้ายแยกทำแปลกปลอม
    อย่าคบชู้สู่สมนิยมหวัง
    เขารักหลอกหยอกเล่นดอกเช่นนี้
    ธุระอะไรจะให้มันเสียของ
    เพราะเชื่อใจภรรยายิ่งกว่าเกลอ
    จะมีจิตพิศวาสไม่คลาดเคลื่อน
    แม้นนอกจิตคิดร้ายหมายประจญ
    จงกันภัยในเล่ห์เสน่หา
    เอาความสัตย์ตัดตั้งปฏิญาณ
    จงซื่อต่อภัสดาสวามี
    อย่าให้มีราคินที่กินใจ
    ถึงที่สุดทดลองก็ทองแท้
    หญิงเดี๋ยวนี้แม้นมีสัตยา

    ๏ แม้นเขารักแล้วอย่าดื้อทำถือจิต
    คำนับนอบสามีทุกวี่วัน
    ยามสิ้นแสงสุริยาอย่าไปไหน
    ระวังดูปูปัดสลัดที่นอน
    ถ้าแม้นว่าภัสดาเข้าไสยาสน์
    เขาเหนื่อยเหน็บเจ็บปวดในทรวงทรง
    ประพฤติกายสายสมรจะนอนหลับ
    นอนให้ดีมีสติสิริเรา
    จงรีบฟื้นตื่นก่อนภัสดา
    จึงหุงข้าวต้มแกงแต่งสำรับ
    ทั้งกระโถนคนทีขัดสีไว้
    อีกน้ำท่าอย่าให้ผงลงไปกวน
    แม้นรู้ว่าสามีจะไปไหน
    ประจงปลุกภัสดาอย่าช้านาน
    จงระวังนั่งดูอยู่ใกล้ใกล้
    อย่าให้ต้องร้องตะโกนโพนทะนา
    อยู่จนผัวรับประทานอาหารแล้ว
    อย่ากินก่อนภัสดาดูน่าชัง


    จะปลูกรักเรรวนหาควรไม่
    อย่าพอใจรักชั่วให้มัวมอม
    จงซื่อสัตย์สุจริตคิดถนอม
    มโนน้อมเสน่หาต่อสามี
    ไม่จีรังกาลดอกบอกโฉมศรี
    ถ้าแม้นมีข้าวของต้องบำเรอ
    อันเงินทองผัวสิทำสน่ำเสนอ
    ควรบำเรอลูกผัวของตัวตน
    เพราะแม่เรือนร่วมใจจึงได้ผล
    จะพาตนยากยับอัประมาณ
    อย่าให้มาปนปะจงประหาร
    ถึงเกิดการยากเข็ญไม่เป็นไร
    จนชีวีศรีสวัสดิ์เจ้าตัดษัย
    อุปไมยเหมือนอนงค์องค์สีดา
    ด้วยนางแน่อยู่ในสัจอธิษฐาน์
    ภัสดาก็ยิ่งรักขึ้นหนักครัน

    เร่งเกรงผิดกลัวใจใหญ่มหันต์
    อย่าดุดันดื้อดึงตะบึงบอน
    จุดไต้ไฟเข้าไปส่องในห้องก่อน
    ทั้งฟูกหมอนอย่าให้มีธุลีลง
    จงกราบบาททุกครั้งอย่าพลั้งหลง
    ช่วยบรรจงนวดฟั้นให้บรรเทา
    อย่ากลิ้งกลับมือไม้ไปป่ายเขา
    อย่าซมเซาอยู่จนแจ้งแสงพยับ
    น้ำล้างหน้าหาไว้ให้เสร็จสรรพ
    จัดประดับเทียมทำให้น้ำนวล
    ให้ผ่องใสสวยตาดูน่าบ้วน
    จงใคร่ครวญพิเคราะห์ให้เหมาะการ
    แต่ยังไม่ตื่นพรากจากสถาน
    ให้ลุกขึ้นรับประทานโภชนา
    เผื่ออะไรมันขาดจะเรียกหา
    จงอุตส่าห์ตั้งใจระไวระวัง
    นางน้องแก้วเจ้าจงกินเมื่อภายหลัง
    เขาจะรังเกียจใจดูไม่ดี

     


    ๏ ถ้าผัวทำราชการพระผ่านเกล้า
    ทั้งล่วมปัดจัดแจงแต่งให้ดี
    อุตส่าห์ทำบำเรอเสนอสนอง
    ปรนนิบัติภัสดาอย่าราคิน

    ๏ เกิดเป็นหญิงให้เห็นว่าเป็นหญิง
    เป็นหญิงครึ่งชายครึ่งอย่าพึงใจ
    แม้นผัวเดือดเจ้าจงดับระงับไว้
    เขาเป็นไฟเราเป็นน้ำค่อยพรำพรม
    อันโมโหโทโสไม่อดได้
    ที่ชาวบ้านท่านไม่รู้จะรู้ความ
    เอาใจผัวผัวจะรักเจ้าหนักหนา
    แม้นผัวทุกข์ขุกไข้ไม่เสบย
    จงแย้มสรวลชวนปลอบให้ชอบชื่น
    ค่อยถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงฤทัย
    จะพูดจาสารพัดประหยัดปาก
    ความสิ่งไรในจิตจงปิดงำ
    การสิ่งไรที่ชั่วผัวเขาห้าม
    อย่าดึงดื้อถือตนเป็นคนเชือน

    ๏ แม้นพิโรธโกรธขึ้งกับภัสดา
    พึ่งข่มขืนกลืนไว้ในอุรัง
    จึงจะว่านารีมีความคิด
    ถึงใครรู้อยู่ว่าคมต้องชมเรา
    การนินทาด่าผัวนั้นชั่วถ่อย
    ถึงร้างหย่าหาใหม่วิสัยมี
    บ้างทำกลัวตัวสั่นแต่ต่อหน้า
    ครั้นผัวเดินเกินเลยเฉยเฉียดไป
    ทำเสงี่ยมเจียมตัวผัวไม่เห็น
    ครั้นว่าเขาเข้าใจรู้ไหวพริบ

    ๏ บางนารีที่เป็นนางใจร้ายกาจ
    สำรากก้องร้องแทรกแหกกระแซง
    ขู่คำรนบ่นว่าด่าประชด
    ลุอำนาจไม่อาจขยาดตัว
    ทรมานภัสดาน่าสังเวช
    ยังมิหนำซ้ำป่าวเหล่านารี
    ข้างฝ่ายผัวใจดีมิได้ว่า
    ดูเหมือนแม่กับลูกผูกขึ้นชู
    ช่างกระไรใจคอมันอดได้
    จึงยอมตัวกลัวเมียจนหัวมุด
    เหมือนเช่นเราแล้วไม่ต้องให้ตีตบ
    จะถีบถองเสียให้ยับไล่ขับกัน

    ๑___สุภาษิตซึ่งประดิษฐ์มาไว้นี้
    ใช่จะแกล้งแต่งคำมารำพัน
    จะร่ำไปสักเท่าไรก็ไม่หมด
    อุตส่าห์ตรองตริตรึกนึกจำเนียร
    พอเป็นเรื่องสำหรับดับทุกข์โทษ
    เป็นตำหรับแบบฉบับไปยืดยาว
    ข้อไหนชั่วแล้วอย่ามัวไปขืนทำ
    เก็บประกอบเอาแต่ชอบในเรื่องความ
    อย่าฟังเปล่าเอาแต่กลอนสุนทรเพราะ
    ไว้เป็นแบบสอนตนพ้นราคี
    ให้สุขีศรีเมืองเลื่องลือฟุ้ง
    เป็นที่ชื่นเช่นอย่างนางสีดา


    เคยเข้าเฝ้าสู่วังนรังศรี
    หมากบุหรี่หาใส่ให้ไปกิน
    ตามทำนองมิ่งมิตรเป็นนิจสิน
    จึงจะภิญโญยศปรากฎไป

    อย่าทอดทิ้งกริยาอัชฌาสัย
    ใครเขาไม่สรรเสริญเมินอารมณ์
    อย่าพอใจขึ้นเสียงเถียงประสม
    แม้นระดมขึ้นทั้งคู่จะวู่วาม
    ความในใจก็จะดังออกกลางสนาม
    อย่าทำตามใจนักมักจะเคย
    หมั่นนำพาการเรือนอย่าเชือนเฉย
    อย่าวายเวยลามลวนให้กวนใจ
    เห็นเริงรื่นหัทยาจึงปราศรัย
    แม้นสิ่งไรเขาไม่ชื่นอย่าขืนทำ
    อย่าพูดมากเติมต่อซึ่งข้อขำ
    อย่าควรนำแนะออกไปนอกเรือน
    ประพฤติตามแบบแผนให้แม้นเหมือน
    จะเอ่ยเอื้อนโอภาให้น่าฟัง

    อย่านินทาว่าผัวตัวลับหลัง
    อุตส่าห์บังกลบเกลื่อนที่เงื่อนเงา
    รู้ปกปิดมิดโทษไม่โฉดเขลา
    หนึ่งผัวเขาเล่าก็เห็นว่าเป็นดี
    เป็นคนน้อยปัญญาเสียราศี
    ชายที่ดีรู้กำพืดก็จืดไป
    ถึงตีด่าก็นิ่งไม่ติงไหว
    ก็ด่าให้ไม่ดังตั้งกระซิบ
    ดูเหมือนเช่นปากว่าตาขยิบ
    ก็ต้องริบต้องร้างระคางแคลง

    หมิ่นประมาททุ่มเถียงส่งเสียงแข็ง
    ตะคอกแกล้งข่มขี่ให้ผัวกลัว
    ให้สามีอัปยศลงหดหัว
    มัดมือผัวผูกแขนแค่นเฆี่ยนตี
    ดูเหมือนเปรตเวทนาน่าบัดสี
    ที่ไม่มีภัสดาให้มาดู
    นิ่งให้เมียเฆี่ยนด่าน่าอดสู
    มิได้สู้รบรับสัประยุทธ์
    ดูเหมือนไม่มีจิตผิดบุรุษ
    น้อยมนุษย์ที่จะเป็นได้เช่นนั้น
    คงสู้รบโต้เต็มให้เข้มขัน
    ร้างหย่ามันเสียให้ค้างอยู่กลางคัน

    ล้วนแต่มีเยี่ยงอย่างดังเสกสรร
    คนทุกวันอย่างนี้มีอาเกียรณ์
    ขี้เกียจจดเหน็ดเหนื่อยเมื่อยมือเขียน
    ตั้งความเพียรผูกข้อต่อเรื่องราว
    เป็นประโยชน์แก่สตรีที่สวยสาว
    ในเรื่องราวสุภาษิตลิขิตความ
    จงจดจำบุญบาปอย่าหยาบหยาม
    ประพฤติตามห้ามใจเสียให้ดี
    จงพิเคราะห์คำเลิศประเสริฐศรี
    กันบัดสีคำค่อนคนนินทา
    หอมจรุงกลิ่นกลั้วทั่วทิศา
    ในใต้หล้าหมายประคองตัวน้องเอย



    สุภาษิตสอนหญิง (พระนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
         1...

    •      ขอประพันธ์จรรยาสุภาษิต
      ไว้เตือนจิตหญิงไทยในสยาม
      ทั้งเริ่มรุ่นลักขณาสง่างาม
      อยู่ในความดำริควรติตรอง
           เป็นสตรีนี้ไซร็มิใช่ง่าย
      สงวนกายเราไว้อย่าให้หมอง
      จะยากจนค่นไร้วิสัยทอง
      ย่อมจะต้องมีค่าราคาแพง
           เหมือนพิกุลดีจริงไม่ทิ้งกลิ่น
      ถึงตกดินจมทรายไม่หน่ายแหนง
      ยังหอมหวานชวนชื่นระรื่นแรง
      ไม่เ่ยวแห้งไม่ทรามความนิยม
           แต่หอมกลิ่นมาลาที่ว่าหอม
      ชั่วถนอมเชยชิดสนิทสนม
      เฉพาะเมื่อจับต้องประคองชม
      เวลาดมชั่วครั้งไม่ยั่งยืน
           อันหอมนามความดีสตรีนั้น
      ไม่มีวันทรามเชยระเหยหืน
      ถึงมาตรแม้นตัวตายไม่คลายคืน
      ยังหอมชื่นชูนามเพราะความดี
           เป็นผู้หญิงตำราที่ว่าสวย
      ต้องกอปรด้วยเบญจลักษณ์เป็นศักดิ์ศรี
      ถึงไม่ครบทั้งห้าตามมาลี
      สมัยนี้สำคัญด้วยจรรยา
           อันงามรูปงามทรัพย์บังคับยาก
      มีน้อยมากก็ตามชาติวาสนา
      ถึงร่างกายบุญกรรมก็ทำมา
      มิใช่ว่าสรรสร้างได้ดังใจ
           คงแต่เพียงที่สามให้งามจิต
      งามจริตกิริยาอัชฌาสัย
      งามวาจาไพเราะเสนาะใน
      ดำรงค์ไว้ให้งามสามประการ
           แม้สตรีมีงามเพียงสามสิ่ง
      นับว่าหญิงน่ารักสมัครสมาน
      ถึงรูปทรัพย์คับแค้นแสนกันดาร
      ต้องประมาณว่างามตามตำรา
           อีกนัยหนึ่งเครื่องประดับสำหรับนาฎ
      ศิลปศาสตร์เป็นของจะต้องหา
      งามอะไรก็ไม่เยี่ยมเทียมวิชา
      อาจจะพาให้กายสบายเบา
           อันสตรีที่งามด้วยความรู้
      เป็นที่ชูโฉมเชิดเลิศเฉลา
      แต่อย่าเพียรเรียนเล่นพอเป็นเรา
      ต้องเรียนเอารู้ดีจึงมีคุณ


       2...

           ถึงพ่อแม่เราไซร้จะให้ทรัพย์
      ก็สำหรับขาดเหลือช่วยเกื้อหนุน
      ย่อมจะเป็นแต่ละเมื่อที่เจือจุน
      ไม่เหมือนทุนทางวิชาจะหากิน
           ด้วยความรู้นั้นเลิศประเสริฐสุด
      เปรียบประดุจดังแควกระแสสินธุ์
      จะวิดวักตักมาเป็นอาจินต์
      ไม่รู้สิ้นแห้งขอดตลอดกาล
           เท่ากับทรัพย์ตอดตัวชั่วชีวาตม์
      ใครไม่อาจลอบลักมาหักหาญ
      มีวิชาห้าข้อพอประมาณ
      ที่นงคราญไทยเราควรเล่าเรียน
           ข้อที่หนึ่งชี้อ้างทางหนังสือ
      ต้องหัดปรือให้ชำนาญทั้งอ่านเขียน
      เป็นเบื้องต้นของวิชาอันภเกียรณ์
      จงพากเพียรพยายามตามปัญญา
            แม้ยังไม่เติบโตตามโอกาส
      จะสามารถเรียนได้หลายภาษา
      อย่าย่นย่อท้อถอยตามเวลา
      หาวิชาเสียก่อนอย่านอนใจ
           มีเสียแรงเรียนรู้ถึงผู้หญิง
      ถ้าดีจริงอย่าพะวงคิดสงสัย
      รัฐก็นิยมใช้ถมไป
      เมื่อทำได้รอบรู้เหมือนผู้ชาย
           เช่นตัวอย่างยังมีที่สถาน
      สำนักงานโทรศัพท์คอยรับสาย
      ใช้สตรีทำแทนแสนสบาย
      ไม่เสียหายการกิจสนิทดี
           อย่าทำถ่อมยอมแพ้แก่บุรุษ
      เรามนุษย์นี่หนามารศรี
      ถึงกำเนิดเกิดมาเป็นนารี
      วิชามีในตัวอย่ากลัวคน
           ข้อที่สองนั้นทางช่างประดิษฐ์
      หัตถกิจเย็บปักเป็นมรรคผล
      สรรพสิ่งขึ้นชื่อฝีมือตน
      ตลอดจนหักฝ้ายทำด้ายปอ
           ควรจะเพียรเรียนรู้อย่าอยู่เปล่า
      เป็นงานเบากิจหญิงจริงจริงหนอ
      ยามธุระจะใช้ทำได้พอ
      ไม่ต้องง้อจ้างวานชาวบ้านเขา
           ด้วยความรู้รู้ไว้มิใช่ว่า
      เอาใส่บ่าแบกหามเลยงามขำ
      ถึงจะมีเงินทองไม่ต้องคลำ
      ไว้แนะนำวิชาเป็นอาจารย์
           ก็มีคุณจุนเจือเหมือนเกื้อชาติ
      ให้สามารถรู้กิจโดยพิสดาร
      เพื่อวิชาสารพัดหัตถการ
      แผ่ไพศาลฟุ้งเฟื่องในเมืองไทย

         3... 
           ข้อที่สามวิทยาทางค้าขาย
      ต้องขวนขวายฝืนหัดดัดนิสัย
      ให้รู้จักชักทุนหนุนกำไร
      และสิ่งได้ผลดีมีกำไร
           ที่ซื้อง่ายขายคล่องต้องไม่ค้าง
      เนื่องในทางพานิชจะคิดหา
      จงพากเพียรเรียนจำเป็นตำรา
      ซึ่งวิชาอย่างนี้ดีเหมือนกัน
           เพราะหาทรัพย์นั้นไซร์ไม่จำกัด
      เราถนัดทางไหนต้องใฝ่ฝัน
      เมื่อได้โดยสุจริตไม่ผิดธรรม์
      ย่อมเป็นอันต้องตามความนิยม
           การจำหน่ายขายค้าใช่ว่าเล่น
      รวยจนเป็นเศรษฐีมีถมไป
      ถ้าถูกช่องไม่ช้าอย่าปรารมภ์
      อาจอุดมเร็วพลันไม่ทันนาน
           ข้อที่สี่นี้ไซร์ให้รู้จัก
      ทางพิทักษ์ไข้ป่วยช่วยสังขาร
      ต้องฝึกหัดซึ่งวิชาพยาบาล
      ให้ชำนาญรู้ไว้ในวิธี
           อีกทั้งกิจต่างๆทางรักษา
      เป็นวิชาล้ำเลิศประเสริฐศรี
      เพราะโรคาอาพาธอาจจะมี
      รู้ไว้ดีติดขัดบำบัดตน
           ยังประโยชน์ยิ่งแท้แก่ประเทศ
      เมื่อมีเหตุยุทธนาโกลาหล
      ฝ่ายบุรุษนั้นเขาเข้าประจัญ
      เรานั้นเป็นพยาบาลทหารไป
           เกิดเป็นตัวชั่วดีต้องมีจิต
      กระหน่ำกิจช่วยชาติอย่าหวาดไหว
      เพื่อดำรงอิสระคณะไทย
      ของเราไว้ให้จำเริญดำเนินทัน
           ข้อที่ห้าหน้าที่สตรีแท้
      ทั้งควรแก่กิจหญิงทุกสิ่งสรรพ์
      คือวิชาแพทย์บำรุงผดุงครรภ์
      หญิงเหมือนกันสิ่งใดไม่ระคาง
           ถึงโดยที่ลี้ลับจะจับต้อง
      ก็แคล่วคล่องทำถนัดไม่ขัดขวาง
      ความระอายฝ่ายเขาก็เบาบาง
      เพราะแก่ทางวิทยาของนารี
           แพทย์ผู้ชายอย่างไรไม่สนิท
      ย่อมจะคิดอึดอัดน่าบัดสี
      เพราะฉะนั้นควรหัดแพทย์สตรี
      แต่ต้องมีเมตตากรุณาชน
           สำหรับใครไร้ทรัพย์ที่คับเข็ญ
      ก็จำเป็นช่วยเหลือเพื่อกุศล
      ถ้าผู้ดีมีทรัพย์ไม่อับจน
      จะหวังผลบ้างก็พอประมาณ
           ทุกข์ของหญิงยิ่งยอดการคลอดบุตร
      อกมนุษย์เหมือนกันสันนิษฐาน
      ต้องเผื่อแผ่วิทยาเป็นสาธารณ์
      อย่าต้องการลาภผลทุกคนไป

    สุภาษิตสอนหญิง

    ***เกิดเป็นสตรีมีศรีศักดิ์***

    ผู้ใดเกิดเป็นสตรีอันมีศักดิ์
    บำรุงรักกายไว้ให้เป็นผล
    สงวนงามตามระบอบให้ชอบกล
    จึงจะพ้นภัยพาลนินทา 



    ***เป็นสาวศรีเหมือนมณีมีค่านัก***

    เป็นสาวแซ่แร่รวยสวยสะอาด
    ก็หมายหมาดเหมือนมณีอันมีค่า
    แม้แตกร้าวรานร่อยถอยราคา
    ก็จะพาค่าหายจากกายนาง 

    ***ค่อยเสงี่ยมเจียมใจไว้ศักดิ์ศรี***

    อันตัวต่ำแล้วอย่าทำให้กายสูง
    ดูเยี่ยงยูงแววยังมีที่วงหาง
    ค่อยเสงี่ยมเจียมใจจะไว้วาง
    ให้ต้องอย่างกิริยาเป็นนารี 

    ***จะนุ่งห่มทาแป้งแต่งพอดี***

    จะนุ่งห่มดูพอสมศักดิ์สงวน
    ให้สมควรรับพักตร์ตามศักดิ์ศรี
    จะผัดหน้าทาแป้งแต่งอินทรีย์
    ดูฉวีผิวเนื้ออย่าเหลือเกิน 



    ***เอาผมไว้ให้รับกับใบหน้า***

    จะเก็บไรไว้ผมให้สมพักตร์
    บำรุงศักดิ์ตามศรีมิให้เขิน
    เป็นสุภาพราบเรียบแลเจริญ
    คงมีผู้สรรเสริญอนงค์ทรง 



    ***รู้จัดแจงแต่งร่างเหมือนอย่างหงส์***

    ใครเห็นน้องต้องนิยมชมไม่ขาด
    ว่าฉลาดแต่งร่างเหมือนอย่างหงส์
    ถึงรูปงามทรามสงวนนวลนงค์
    ไม่รู้จักแต่งทรงก็เสียงาม 

    ***เดินนิ่มนวลก้าวไปไม่ไกวแขน***

    ประการหนึ่งซึ่งจะเดินดำเนินขาด
    ค่อยเยื้องยาตรยกย่างไปกลางสนาม
    อย่าไกวแขนสุดแขนเขาห้ามปราม
    เสงี่ยมงามสงวนไว้แต่ในที 

    ***อย่าเดินกรายขยับเสื้อผ้าอย่าเสยผม***

    อย่าเดืนกรายย้ายอกยกผ้าห่ม
    อย่าเสยผมกลางทางหว่างวิถี
    อย่าพูดเพ้อเจ้อไปไม่สู้ดี
    เหย้าเรือนมีกลับมาจึ่งหารือ 



    ***ให้กำหนดจดจำแต่คำชอบ***

    ให้กำหนดจดจำแต่คำชอบ
    ผิดระบอบแบบกระบวนอย่าควรถือ 



    ***อย่านุ่งผ้าใต้สะดือถือตามเขา***

    อย่านุ่งผ้าพกใหญ่ใต้สะดือ
    เขาจะลือว่าเล่นไม่เห็นควร 



    ***เวลาเดินให้ปกป้องของสงวน***

    อย่าลืมตัวมัวเดินให้เพลินจิต
    ระวังปิดปกป้องของสงวน
    เป็นนารีที่อายหลายกระบวน
    จงสงวนศักดิ์สง่าอย่าให้อาย 

    ***อย่าเที่ยวทอดสอดส่ายส่งสายตา***

    อนึ่งเนตรอย่าสังเกตให้เกินนัก
    จงรู้จักอาการประมาณหมาย
    แม้นประสบพบเหล่าเจ้าผู้ชาย
    อย่าชม้ายทำชม้อยตะบอยแล 



    ***อันนัยน์ตาพาตัวให้มัวหมอง***

    อันนัยน์ตาพาตัวให้มัวหมอง
    เหมือนทำนองแนะออกบอกกระแส
    จริงไม่จริงเขาก็เอาไปเล่าแซ่
    คนรังแกมันก็ว่านัยน์ตาคม 

    ***รักในใจอย่าให้ออกมานอกหน้า***

    อันที่จริงหญิงกับชายย่อมหมายรัก
    มิใช่จักตัดทางที่สร้างสม
    แม้นจักรักรักไว้ในอารมณ์
    อย่ารักชมนอกหน้าเป็นราคี
    ดั่งพฤกษาต้องวายุพัดโบก
    เขยื้อนโยกก็แต่กิ่งไม่ทิ้งที่
    จงยับยั้งชั่งใจเสียให้ดี
    เหมือนจามรีรู้จักรักษากาย

    ***สตรีเหมือนดอกไม้ที่ชายหมายดมดอม***

    อันตัวนางเปรียบอย่างปทุเมศ
    พึ่งประเวศผุดพ้นชลสาย
    หอมผกาเกสรขจรจาย
    มิได้วายภุมรินถวิลปอง
    ครั้นได้ชมสมจิตพิศวาส
    ก็นิราศแรมจรัลผันผยอง
    ไม่อยู่เฝ้าเคล้ารสผันผยอง
    ไม่อยู่เฝ้าเคล้ารสเที่ยวลดลอง
    ดูทำนองใจชายก็คล้ายกัน 



    ***ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น***

    แม้นชายใดใจประสงค์มาหลงรัก
    ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น
    อันความรักของชายนี้หลายชั้น
    เขาว่ารักรักนั้นประการใด
    จงพินิจพิศดูให้รู้แน่
    อย่าทำแต่ใจเร็วจะเหลวไหล
    เปรียบเหมือนคิดปริศนาอย่าไว้ใจ
    มันมักไพล่แพลงขุมเป็นหลุมพลาง 

    ***พวกแม่ชักแม่สื่ออย่าถือนัก***

    อันแม่สื่ออย่าได้ถือเป็นบรรทัด
    สารพัดเขาจะพูดนี้สุดอย่าง
    แต่ล้วนดีมีบุญลูกขุนนาง
    มาอวดอ้างให้อนงค์หลงอาลัย
    อันร้ายดีมีได้เห็นเป็นแต่ว่า
    จะคาดหน้าแน่ลงที่ตรงไหน
    เหมือนเขาหลอกบอกลาภถึงเมืองไกล
    อย่าควรไปตามคำเขารำพัน
    ทางไกลตาอุปมาเหมือนเสียเนตร
    สุดสังเกตเท็จจริงทุกสิ่งสรรพ์
    เขาจะนำให้ไปตายก็ตายพลัน
    คนทุกวันเชื่อมันยากปากมันโกง
    อันแม่สื่อคือปีศาจอันอาจหาญ
    ใครบนบานเข้าสักหน่อยก็พลอยโผง
    อย่าเชื่อนักมักตับจะคับโครง
    มันชักโยงอยากกินแต่สินบน 



    ***จงฟังหูไว้หูดูให้แน่***

    อันความชั่วอยู่ที่ตัวของเราหมด
    ต้องกำสรดโศกร้างอยู่กลางหน
    จงฟังหูไว้หูกับผู้คน
    สืบยุบลเสียให้แน่อย่าแร่ไป 



    ***คนขี้เหล้าเมายาอย่าไปเลือก***

    คิดถึงตัวหาผัวนี้หายาก
    มันชั่วมากนะอนงค์อย่าหลงใหล
    คนสูบฝิ่นกินสุราพาจัญไร
    แม้นหญิงใดร่วมห้องจะต้องจน
    มักเบียดเบียนมีทางประดาเสีย
    เหมือนเลี้ยง***อัปรีย์ไม่มีผล
    ไม่ทำมาหากินจนสิ้นตน
    แล้วซุกซนตีชิงเที่ยววิ่งราว

    ***จะหาคู่ดูชายดีมีไม่น้อย***

    จะหาคู่สู่สมนิยมหวัง
    จงระวังชั่วช้าอัชฌาสัย
    ที่ชายดีนั้นก็มีอยู่ถมไป
    ใช่วิสัยเขาจะชั่วไปทั่วเมือง 



    ***อย่าหลงผิดคิดไพล่คว้าชายชั่ว***

    แต่ใจคนมักจะรนไปหาผิด
    ครั้นได้คิดจิตตรอมออกผอมเหลือง
    ต้องเดือดดิ้นกินน้ำตาอยู่นองเนือง
    สุดจะเปลื้องราคินให้สิ้นคาว 


    ***จะดีชั่วก็แต่ยังกำลังสาว***

    เป็นสตรีสุดดีแต่เพียงผัว
    จะดีชั่วก็ยังแต่กำลังสาว
    ลงจนสองสามจืดไม่ยืดยาว
    จะกลับหลังอย่างสาวสิเต็มตรอง 

    ***เป็นคนดีถึงจนทรัพย์ไม่อับหมอง***

    ถ้าคนดีมิได้ซ้ำยับ
    ถึงขัดสนจนทรัพย์ไม่เศร้าหมอง
    คงมีผู้ชูช่วยประคับประคอง
    เปรียบเหมือนทองธรรมดาราคามี 

    คนมีราคีไม่เป็นที่ต้องการ***

    ถ้าแม้นตัวชั่วช้ำแล้ว
    จะปัดแถวทางฝืนไม่คืนที่
    เหมือนทองแดงแฝงฝ้าเป็นราคี
    ยากจะมีผู้ประสงค์จำนงใจ 

    ***ดูแลตนตามโบราณท่านขานไข***

    จงรักตัวอย่าให้มัวราคีหมอง
    ถือทำนองแบบโบราณท่านขานไข
    อย่าเอาผิดมาเป็นชอบประกอบใจ
    จงอยู่ในโอวาทญาติวงศ์ 

    ***ถนอมตัวให้พริ้งเพริศประเสริฐศรี***

    แม้นรู้จักรักร่างเป็นอย่างยิ่ง
    จะเพริศพริ้งสมสวาทเป็นราชหงส์
    จงกำหนดอุตส่าห์รักษาทรง
    อย่าลุ่มหลงด้วยอุบายของชายพล 



    ***อย่าหลงคารมชาย***

    อันคำคมลมบุรุษนั้นสุดกล้า
    เขาย่อมว่ารสลิ้นนั้นกินหวาน
    จงระวังตั้งมั่นในสันดาน
    อย่าลนลานหลงระเริงด้วยเชิงชาย 



    ***อย่าหนีตามชายให้เขามาสู่ขอ***

    เขารักจริงให้สู่ขอกับพ่อแม่
    อย่าวิ่งแร่หลงงามไปตามง่าย
    เขาไม่เลื้ยงไล่ขับจะอับอาย
    ต้องเป็นหม้ายอยู่กับบ้านประจานตน 

    ***จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้***

    จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้
    อย่าหลงใหลจำคำที่พร่ำสอน
    คิดถึงหน้าบิดาและมารดร
    อย่ารืบร้อนเร็วนักมักไม่ดี 

    ***อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี***

    เมื่อสุกงอมหอมหวานจึงควรเล่น
    อยู่กับต้นอย่าให้พรากไปจากที่
    อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี
    เมื่อบุญมีคงจะมาอย่าปรารมภ์ 

    ***อย่าเกียจคร้านการงานจงหมั่นดี เรื่องคู่ครองถ้าจะมีนั้นทีหลัง***

    อย่าคิดเลยคู่เชยคงหาได้
    อุตส่าห์ทำลำไพ่เก็บประสม
    อย่าเกียจคร้านการสตรีจงนิยม
    จะอุดมสินทรัพย์ไม่อับจน 

    ***ทำการได้ให้ตลอดอย่าทอดทิ้ง***

    ถ้าแม้นทำสิ่งใดให้ตลอด
    อย่าทิ้งทอดเที่ยวไปไม่เป็นผล
    เขม้นขะมักรักงานการของตน
    อย่าซุกซนคบเพื่อนไพล่เชือนแช 

    ***ยามเหนื่อยหนักพักผ่อนนอนอยู่บ้าน***

    เมื่อเหนื่อยอ่อนนอนหลับอยู่กับบ้าน
    อย่าเที่ยวพล่านพูดผลอประจ๋อประแจ๋
    อะไรฉาวกราวเกรียวอย่างเหลียวแล
    ฟังให้แน่เนื้อความค่อยถามกัน 

    ***ดูแลเรือนเหย้าและข้าวของ***

    ระวังดูเรือนเหย้าและข้าวของ
    จะบกพร่องอะไรที่ไหนนั่น
    เห็นไม่มีแล้วอย่าอ้างว่าช่างมัน
    จงผ่อนผันเก็บเล็มให้เต็มลง 


    ***จงอดออมเก็บหอมรอมริบ***

    มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท
    อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
    จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง
    อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน

    ***ระวังตนพ้นโลกีย์ราคีคาว***

    จะสอนใจไว้ทุกสิ่งเป็นหญิงสาว
    ให้พ้นคาวข่าวชั่วเข้ามั่วสุม
    ให้ผ่อนผันเหมือนหนึ่งนอนให้ห่วงรุม
    จงสุขุมคิดแบ่งให้บางเบา 

    ***ถ้าจะรักรักให้ยืออย่าจืดจาง***

    อย่าทำนอกลักษณะจะเป็นโทษ
    ตัดประโยชน์ที่น้องเขาหมองหมาง
    ถึงจะรักรักให้ยืออย่าจืดจาง
    จะไว้วางกิริยาให้น่าดู 


    ***จะพูดจาปราศรัยให้อ่อนหวาน***

    จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น
    อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
    ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นกู
    คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ

    ***จะขายค้าวาจาอย่าร้ายเหลือ***

    แม้จะเรียนวิชาทางค้าขาย
    อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย
    จึงซื้อง่ายขายดีมีกำไร
    ด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอา 

    ***ชายมาเกี้ยวถ้าไม่ชอบอย่าตอบความ***

    ถึงชายใดเขาพอใจมาพูดเกี้ยว
    อย่าโกรธเกี้ยวโกรธาว่าหยาบหยาม
    เมื่อไม่ชอบก็อย่าตอบเนื้อความตาม
    มันจะลามเล่นเลยเหมือนเคยเป็น 

    ***อย่าใฝ่สูงเหาะเหินจนเกินศักดิ์***

    อันตัวต่ำแล้วอย่าทำให้เกินศักดิ์
    เขาจะมักเหม็นปากเหมือนซากผี
    เปรียบเหมือนเกลือเจือปนกับชลธี
    มันก็มีแต่จะจืดไม่ยืดยาว 

    ***อย่าจับปลาสองมือถือไม่หมด***

    อย่าจับปลาสองหัตถ์จะพลัดพลาด
    จับให้คงลงให้ขาดว่าเป็นผัว
    จึงนับว่าคนดีไม่มีมัว
    ถ้าชายชั่วร้ายไปมิใช่ชาย 

    ***รูปไม่สวยแต่ใจงามก็ล้ำเลิศ***

    เป็นผู้หญิงสิ่งใดจะล้ำเลิศ
    จะประเสริฐก็แต่ใจไม่เสื่อมสลาย
    ถึงรูปทรงนงคราญจะพานคลาย
    ก็อาจกลายส่งสวยด้วยใจงาม

    ***อย่ามีผัวหลายคนเป็นมลทิน***

    บ้างมีผัวตัวอยู่เป็นคู่ชื่น
    ยังหาอื่นเข้าประคองเป็นสองสาม
    ถ้ารักซ้อนซ่อนสนิทปิดเนื้อความ 
    จนเลยลามเป็นระฆังดังขึ้นเอง 



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 17 เมษายน 2551 / 20:11
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 17 เมษายน 2551 / 20:13

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

อาทิตยในทิวา 18 เม.ย. 51 เวลา 23:25 น. 4
ขอบคุณที่เอามาลงมากๆๆค่ะ
PS.  ทุกสิ่งทุกอย่างต่างเกิดมาเป็นคู่ ดุจกระจกเงาสองด้านที่ต่างสะท้อนตัวตนของหนุ่มสาวที่เกิดมาคู่กัน หากแต่กระจกของฉันมันมีเพียงด้านเดียว นั่นแปลว่าฉันถูกเลือกให้แตกต่างหรือฉันไม่เคยมีตัวตนกันแน่?
0
KHUN PANDA 19 เม.ย. 51 เวลา 01:40 น. 5

ก้มกราบบาทสามีเป็นที่ยิ่ง

เหอะๆ สามีนะ ไม่ใช่ กราบเลยหรอ

ไม่ไหวๆอ่ะ


PS.  *หากไม่ควักนัยตา แก้วตาจะบันทึกเรื่องราวต่างๆ และจะทำให้จนมุมได้!!
0
Candyminny 19 เม.ย. 51 เวลา 05:27 น. 7

ยาวมากคะ555+


PS.  http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=363866 ช่วยมาอ่านให้หนูหน่อยน๊า T^Tไม่มีคนอ่านอ่ะ-*-
0
AJ. JIROJ 19 เม.ย. 51 เวลา 10:46 น. 8

รับติว GMAT ( คณิตศาสตร์ ) , SAT ( คณิตศาสตร์ ) ,CU-BEST , SMART I,II , Math. (หลักสูตร Inter)
รับติว GMAT (คณิตศาสตร์)
SAT (เฉพาะคณิตศาสตร์)

CU-BEST (จุฬา)
SMART I (ธรรมศาสตร์)
SMART II (ธรรมศาสตร์)

โดย รุ่นพี่วิศวะ , IT (ปริญญาโท) (วท.ม.) และ วศ.บ.

มีประสบการณ์ในการสอนสูง

เรียนแล้วต้องรู้เรื่อง และ เข้าใจแน่นอน

ราคาไม่แพงเลย ชั่วโมงละ 350 บาท (เรียน 2 ชม./ครั้ง เหลือ 600 บาท)

เรียน 2 คน / 2 ชม. / ครั้ง (เหลือ คนละ 450 บาท/ครั้ง เท่านั้น )

ไม่พอใจในการสอน สามารถยกเลิกการสอนได้ทันที

ติดต่อ อ.จิโรจน์
083-971-7505

0
ANGLE*GRIL_PRINCE+::love::+ 19 เม.ย. 51 เวลา 13:59 น. 9


***จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้***

จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้
อย่าหลงใหลจำคำที่พร่ำสอน
คิดถึงหน้าบิดาและมารดร
อย่ารืบร้อนเร็วนักมักไม่

ชอ บอันนี้มา กเลย


PS.  ~ชั้น เป นแค่ สิ่ งเล็ กๆบน โล กนี้ โป รดอย่า ใส่ ใจชั้ น~ ชั้ น,, ,*ไม่ ต้อ ง การ อะไร หรอก สำหรับ ค น ไ ม่ สำ คัญ มันไม่ มี ค่า ต่อ ความ รุสึก อะไร เล ย ,, นอ กจาก เทอ คนพิเส ดขอ งชั้ น
0
ออกัสท์ 21 เม.ย. 51 เวลา 00:03 น. 12

ทำไมต้องกราบสามีด้วยอ่ะ

>__<

เราคิดไม่เหมือนเค้านะ

เพราะคนที่เราจะกราบ คือพ่อแม่ แล้วก็ผู้มีบุญคุณกะเราอ่ะ

แล้วจะให้กราบสามีทำไมอ้า เค้าเลี้ยงเราเหรอ - -"  แต่เราว่า เดี๋ยวนี้ก็ช่วยๆกันทำงานและนะ

ของดสักข้อได้ป่ะ  แหะๆ

< Badboy Vs. Ghostgirl > ยัยตัวร้ายกับนายอันธพาล


PS.   \"ความรัก\" ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่ทุกอย่างในชีวิต เกิดขึ้นได้เพราะ \"ความรัก\" คุณว่าจริงมั้ย???
0
เคจัง 2 ส.ค. 51 เวลา 16:08 น. 13

อืม !&nbsp ก็จริงนะจร้า&nbsp เราเห็นด้วย&nbsp ใครทำได้ตามกลอนนะคงสุดยอดแห่งมนุษย์จริงๆว่าป่ะ4,8

0