Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

"พระองค์ที" แบบอย่าง..ดื่มนมแม่!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

นมแม่ดีสุด - กระทรวงสาธารณสุข จัดพิมพ์โปสเตอร์ 5 แสนแผ่น รณ รงค์การดื่มน้ำนมแม่แทนนมผง โดยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ที่ทรงได้รับการเลี้ยงดูด้วยพระกษีรธารา ทรงเป็นแบบให้เทิดทูน "พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ" ทรงเป็นต้นแบบเด็กไทยดื่มนมแม่ 100 เปอร์เซ็นต์ สธ.อัญเชิญพระฉายาลักษณ์ พิมพ์ในโปสเตอร์ 5 แสนแผ่นแจกทั่วประเทศ พร้อมคำขวัญ "นมแม่ดีที่หนึ่งเลย" เผย "พระองค์ที" ทรงได้รับการอภิบาลด้วย "พระกษีรธารา" จากพระมารดา ตั้งแต่แรกประสูติจนถึงพระชันษา 6 เดือน ทำให้มีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงมีพัฒนาการยอดเยี่ยม มุ่งส่งเสริมให้คนไทยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จนถึงอายุ 6 เดือน ขณะที่สถิติระบุน้อยมากแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าเวียดนาม กัมพูชา ติมอร์ ส่งผลไอคิวเด็กไทยต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และน.พ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย ร่วมแถลง "นมแม่ดีที่หนึ่งเลย" เนื่องในวันครบรอบวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระโอรสในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระชันษาครบ 3 ปี ในวันที่ 29 เมษายน 2551

1นายไชยา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระฉายาลักษณ์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ในท่าประทับยืน ชูพระดัชนีขวา สื่อคำว่า "นมแม่ดีที่หนึ่งเลย" ด้านบนภาพใช้คำว่า "นมแม่ คือหยดแรกของสายใยรักแห่งครอบครัว" เป็นพระราชดำรัสสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จัดพิมพ์เป็นโปสเตอร์จำนวน 500,000 ฉบับ เพื่อเผยแพร่ในโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว

รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเป็นต้นแบบของเด็กไทย ที่ได้รับการอภิบาลด้วยพระกษีรธารา หรือนมแม่จากพระมารดาตลอด 6 เดือน ทำให้มีพระพลานามัยแข็งแรง และทรงมีพัฒนาการยอดเยี่ยม โดยจะแจกจ่ายโปสเตอร์ให้สถานพยาบาลทั้งภาครัฐ เอกชน องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล ศูนย์อนามัยกรุงเทพมหานคร โรงงานขนาดใหญ่ สำนักงานประกันสังคม เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน เป็นไปตามนโยบายที่องค์การอนามัยโลก และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ กำหนด

นายไชยากล่าวว่า แต่ละปีมีหญิงไทยคลอดบุตรปีละ 800,000 คน จากผลสำรวจสถานการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในไทยของกรมอนามัย ในปีพ.ศ.2548 พบว่าแม่หลังคลอดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 4 เดือน เพียงร้อยละ 21 ที่เหลือเลี้ยงนมผสมควบคู่ด้วย และผลสำรวจขององค์การยูนิเซฟในปีเดียวกัน พบแม่ไทยเลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน มีน้อยมากเพียงร้อยละ 5.4 หรือประมาณ 43,200 คน ส่งผลให้สติปัญญาเด็กไทยที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดู พันธุกรรม และอาหาร มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 88-91 จุด ต่ำกว่ามาตรฐานสากลที่กำหนดไว้คือ 90-110 จุด โดยพบมีเด็กพัฒนาการล่าช้าร้อยละ 15-28 หรือประมาณ 200,000 กว่าคน ซึ่งแต่ละปีแม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อนมผงให้ลูกเดือนละประมาณ 2,500 บาทต่อคน หรือปีละ 30,000 บาท หากเด็กที่เกิดใหม่ 800,000 คนกินนมผง จะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 24,000 ล้านบาทต่อปี

รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนของแม่ไทย น้อยกว่ากลุ่มประเทศในแถบเอเชียด้วยกันกว่า 4-13 เท่าตัว โดยเกาหลีมีอัตราการเลี้ยงนมแม่สูงถึงร้อยละ 65 กัมพูชาร้อยละ 60 จีนร้อยละ 48 ฟิลิปปินส์ร้อยละ 34 ติมอร์ร้อยละ 31 และเวียดนามร้อยละ 19 การเลี้ยงลูกของคนไทยส่วนใหญ่กินนมแม่ร่วมกับอาหารอื่นด้วย โดยเลี้ยงนมแม่ร่วมกับอาหารอื่นนาน 6-9 เดือน ร้อยละ 44 กินนมแม่ร่วมกับอาหารอื่น 1 ปี ร้อยละ 31 กินนมแม่ร่วมกับอาหารอื่นนาน 2 ปี ร้อยละ 19 โดยมีเด็กไม่เคยกินนมแม่เลยร้อยละ 15 หรือประมาณ 120,000 คน มีสาเหตุจากแม่ติดเชื้อเอดส์ ไวรัสตับอักเสบบี และเด็กขาดเอ็นไซม์ย่อยโปรตีนในนมแม่

นายไชยา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข จะทำหนังสือถึงกรมสวัสดิการแรงงาน กระทรวงแรงงาน ให้ขยายเวลาการลาหลังคลอดเพิ่มขึ้นเป็น 120 วัน จากเดิมที่กฎหมายกำหนดให้ลาได้ 90 วัน เพื่อเป็นการสนับสนุน และส่งเสริมให้ลูกได้ดื่มนมแม่ได้นานขึ้นอีก 1 เดือน จะช่วยเหลือพัฒนาการเด็กให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

ด้าน น.พ.ปราชญ์ กล่าวว่า ในปีพ.ศ.2551 ตั้งเป้าให้หญิงหลังคลอดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน ให้ได้ร้อยละ 30 ลดปัญหาทารกแรกเกิดขาดออกซิเจนไม่เกิน 30 ต่อพันการเกิดมีชีพ ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม ไม่เกินร้อยละ 8 และเด็กแรกเกิดถึง 5 ปี มีพัฒนาการสมวัยร้อยละ 90 หากแม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน จะลดค่าใช้จ่ายซื้อนมผงได้ 3,600 ล้านบาท

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ทางกระทรวงสนองพระปณิธานอันแน่วแน่ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ส่งเสริมการเลี้ยงดูด้วยนมแม่ โดยจัดทำโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ให้โรงพยาบาลในสังกัดกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ และโรงพยาบาลเอกชน พัฒนาบริการงานอนามัยแม่และเด็ก ตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด ให้ครอบครัว ชุมชน มีส่วนร่วม โดยให้สถานพยาบาลทุกระดับตั้งคลินิกนมแม่ มี แม่นม หรือ มิสนมแม่ หรือ ผู้วชาญนมแม่ ประจำทุกโรงพยาบาล เพื่อให้ความช่วยเหลือหญิงให้นมบุตรอย่างต่อเนื่อง และตั้งชมรมนมแม่ หรือชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว อย่างน้อยโรงพยาบาลละ 1 ชมรม ให้แม่มือเก่าสอนแม่มือใหม่ให้สามารถเลี้ยงลูกเป็น

ส่วน น.พ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า น้ำนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด มีไขมันที่ช่วยในการพัฒนาเซลล์สมอง ที่มีประมาณ 100,000 ล้านตัว ให้ทำงานประสานเชื่อมโยงกัน จัดเป็นอาหารที่ดีที่สุดของทารก ไม่สามารถเลียนแบบได้ โดยเฉพาะน้ำนมที่ออกมาครั้งแรก จะมีลักษณะเหลืองใส เป็นนมหยดแรกที่มีคุณค่ามากที่สุด มีโปรตีนมากกว่าน้ำนมปกติถึง 3 เท่า มีภูมิคุ้มกันโรค เป็นวัคซีนสำเร็จรูป ลดการป่วยจากท้องเสีย ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ภูมิแพ้ เบาหวาน ดีกว่าเด็กที่กินนมผสม 2-7 เท่าตัว มีผลงานวิจัยยืนยันว่าเด็กที่กินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน โดยไม่ให้น้ำและอาหารอื่น จะมีค่าเฉลี่ยระดับเชาวน์ปัญญา หรือไอคิว มากกว่าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่อย่างเดียว 2-11 จุด เด็กไม่ป่วยบ่อย ไม่เสียเวลาเจริญเติบโต เพราะการเจ็บป่วยแต่ละครั้ง จะทำให้การเจริญเติบโตของเด็กหยุดชะงัก 

 
 
ที่มาจากหนังสือพิมพ์


PS.  การมีชีวิตอยู่บนโลกต้องไม่โกหกความรู้สึกของตนเอง แม้ไม่เหลือใครก็จะไม่ร่ำร้อง... รักพวกแกเสมอนะ ป.6/1 เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป... เปลี่ยนเมล์ใหม่แล้วน้า~ R.m_zero@hotmail.com มีไรๆแอดมาได้ ^^

แสดงความคิดเห็น

>