ถ้าอุณหภูมิโลกสูงขึ้นจะเป็นอย่างไร?...
ความจริงที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ กับหายนะที่มนุษย์ต้องเผชิญ
อุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส
- มหาสมุทรอาร์กติกจะปราศจากน้ำแข็งเป็นเวลา 6 เดือน กระแสน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้หลายพันครัวเรือนบริเวณอ่าวเบงกอลจมอยู่ใต้น้ำ
- พายุเฮอริเคนอาจเข้าโจมตีมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้
-
- พื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนเป็นทะเลทราย
อุณหภูมิเพิ่มขึ้น
- ธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์จะค่อยๆละลายหายไป เมื่อน้ำแข็งในทะเลลดน้อยลง หมีขั้วโลกเหนือจะตกอยู่ในสภาวะอันตรายและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
- แมลงอาจอพยพไปพื้นที่ใหม่ๆ เช่น ด้วงสนอาจทำลายป่าไม้ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา
- ขั้วโลกเหนือของประเทศแคนาดา บริเวณพื้นราบจะมีป่าไม้ จากเดิมที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ประเทศตูวาลูในหมู่เกาะแปซิฟิก อาจจมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
- ระบบนิเวศทางทะเลจะเกิดผลกระทบ ทำให้ปะการังเขตร้อนตาย
อุณหภูมิเพิ่มขึ้น
- ป่าอะเมซอนจะแห้งเหือดและเกิดไฟป่าซ้ำซาก ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการโลกร้อนหลายร้อนตันขึ้นสู่บรรยากาศโลก
- ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาแอลป์ละลายจนหมดสิ้น
- ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในฝั่งยุโรปจะแห้งเหือดในฤดูร้อน
- ปรากฎการณ์แอลนีโญ่จะทวีความรุนแรง เกิดสภาวะอากาศวิปริตแปรรวน
- พายุเฮอริเคนจะทวีความรุนแรงเป็นระดับ 6 ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
- นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่าจะเกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์
อุณหภูมิเพิ่มขึ้น
- แผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรแอนตาร์กติกตะวันตก อาจละลายและจมหายไปในทะเล ส่งผลให้ระดับน้ำในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้น
- แม่น้ำคงคาในประเทศจีน เนปาลและอินเดีย จะเอ่อท่วมล้นครั้งยิ่งใหญ่และผลพวงการละลายของธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัยที่คาดว่าจะละลายหมดในปี 2578 เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ อาหาร และที่อยู่อาศัยตามมา
อุณหภูมิเพิ่มขึ้น
- แผ่นดินที่เคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ทางตอนเหนือและใต้ของโลกจะกลายเป็นเขตอบอุ่นและกลายเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในอนาคต
- มหานครของโลก เช่น ลอสแองเจลีส กรุงไคโร ลิมาและบอมเบย์ ที่เคยปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งบางช่วงเวลา จะไม่มีหิมะตกอีกต่อไป
- ผู้คนหลายสิบล้านคนจะกลายเป็นผู้อพยพลี้ภัย อันเนื่องมาจากสภาพอากาศและความขัดแย้ง อันเกิดจากการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ
อุณหภูมิเพิ่มขึ้น
- น้ำทะเลมีสีฟ้าใส เพราะไม่หลงเหลือวงจรห่วงโซ่อาหาร และสารอาหารในทะเลอีกต่อไป
- ทะเลทรายจะยึดครองพื้นที่ในทวีปต่างๆทั่วโลก
- ภัยพิบัติทางธรรมชาติกลายเป็นเรื่องปกติ เมืองใหญ่ๆเกิดภาวะอุทกภัยจนผู้คนต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน
4 ความคิดเห็น
ขอบคุณแห่งที่มาจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ปล.ผู้ตั้งกระทู้
ขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ
อุณหภูมิที่ว่า หมายถึงอุณหภูมิเฉลี่ยของทั้งโลกค่ะ
ซึ่งในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิโลกเฉลี่ยสูงขึ้น 0.7-0.8 องศาเซลเซียส เท่านั้น
โดยบนบกกับในทะเลนั้น อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นไม่เท่ากัน
พื้นที่ในทะเลเพิ่มขึ้นไม่ถึง 0.7 องศา เพราะน้ำมีความจุความร้อนที่ดีกว่าแผ่นดิน
ส่วนบนบกในหลายๆ ที่ เฉลี่ยแล้วอุณหภูมิเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.7-0.8 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้ หากสังเกตในที่ละติจูดสูงๆ เขตหนาวมากๆ
ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาบางที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 3-4 องศาเซลเซียสก็มี
เพราะฉะนั้นถึงเป็นปัญหาว่าน้ำแข็งที่ทางเหนือเริ่มละลายมากขึ้น
ชั้นดินที่เคยเป็นดินแข็งตัวแบบถาวรก็หายไป เกิดผลกระทบตามมาหลายประการ
สำหรับประเทศไทยเราอยู่ในเขตอบอุ่น และจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า
ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมานี้ อุณหภูมิเพิ่มขึ้นประมาณ 1 องศาเซลเซียส
แต่ถ้าดูในบางพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ ในรอบ 30 ปีนี้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 องศาเซลเซียส
ซึ่งไม่ใช่เพราะภาวะโลกร้อนอย่างเดียว แต่มีสาเหตุมาจากปรากฏการณ์โดมความร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองในกรุงเทพฯ ด้วยค่ะ
ดังนั้น การคาดการณ์ดังกล่าวของนักวิทยาศาสตร์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่ใช่ในเร็ววันนี้ค่ะ
ขอบคุณน้อง ParkInHyung_^o^ นะคะ ที่นำความรู้มาฝากเพื่อนๆ
ก้ทั้งๆที่รู้อะนะ
แต่ทำไมยังไม่หยุดกันทำให้โลกร้อนอีกน้า คนเรา
ปล.ผมเองดันเรียนสาขาที่ทำห้โลกร้อนสุดๆด้วย ฮาไม่ออกครับ
PS. Ceramist
ชอบมาก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?