เปรียบเทียบที่ตั้งเดิมกับที่ตั้งใหม่ของโรงเรียนโยธินบูรณะ!!!
ตั้งกระทู้ใหม่
อย่าลืมว่ามีศิษย์เก่าเรียนที่โยธินเกียกกายร่วม 70 รุ่น การย้ายมาที่ใหม่ย่อมทำลายความทรงจำทั้งหมด
ถ้าโรงเรียนโดนทุบทิ้งไปแล้ว มันจะถูกทำลายไปชั่วนิรันดร์
อาคารเรียนสมัยใหม่จะมาทดแทนสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร สิ่งแวดล้อม การดำเนินชีวิต จะเป็นอย่างไร
เคยมีใครเข้าไปดูที่ใหม่ข้างวัดสร้อยทองบ้างไหม
ใช่แล้ว คุณจะบอกว่ามันใหญ่ก็จริง แต่ถ้ามาดูสถานที่จริง อยากบอกว่ายอมอยู่ที่เล็กๆแคบๆดีกว่ามากมาย
นายกสมัครอ้างว่าใหญ่ตั้ง 16 ไร่ แต่ข้อบอกเลยว่าสัก 100 ไร่ ก็ไม่อยากได้เลย
เพราะหัวใจเราอยู่ที่นี่ จิตใจเรารักและหวงแหนที่นี่เป็นอันมาก
สิ่งแรกเป็นเรื่องสถานที่ตั้งใหม่ของโรงเรียน ซึ่งไม่มีความสง่างาม ทำเลไม่ดี (ต้องไปดูเองแล้วจะรู้)
ข้างๆรู้สึกจะเป็นคลองนําเน่า มีช่วงหักโค้งอย่างแรงด้วยอะ รถติดเป็นเท่าทวีคูณ ไม่เท่านั้นรถเมล์ก็น้อยลงไปด้วย เนื่องจากเริ่มเป็นย่านชานเมือง และเด็กนักเรียนจำนวนที่อยู่กันในฝั่งธนและต้องนั่งเรือมาที่โรงเรียน ขอบอกว่าแนวนั้นไม่มีท่าเรือใกล้ๆเลย แต่เป็นชุมชนแอดอัดติดแม่นําเจ้าพระยา ที่ใต้สะพานพระราม 6 อะ ด้านหลังเป็นพระเมรุเผ่าศพวัดสร้อยทอง ซึ่งก็ติดกับปั๊มนํามันที่เพิ่งสร้างใหม่ แน่นอนต้องส่งกลิ่นไม่มากก็น้อย เด็กจะเรียนกันได้อย่างไรนี่ และส่วนทางด้านภูมิทัศน์และทิวทัศน์ที่มองเห็นรอบๆโรงเรียนดูแย่เหลือเกิน เราไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยที่เป็นความเจริญของกรุงเทพฯ ซึ่งต่างจากที่ตั้งเดิมถ้าเราขึ้นไปที่ชั่น 5-6-7-8 ของอาคารสิรินธร เราจะเห็นทิวทัศน์เรียกได้ว่าทั่วกรุงเทพ ตั้งแต่พระที่นั่งอนันตสมาคม ตึกใบหยก ตึกสหประชาชาติ แต่ที่ตั้งใหม่จะเห็นได้ว่ามีอพาร์ทเม้นหลังใหญ่สูงประมาณ 20 ชั้น แน่นอนว่าบังทิวทัศน์ของโรงเรียนเกือบทั้งหมด และที่ตรงนั้นดูรกร้างเหมือนป่าช้าวัดสร้อยทอง
เด็กโยธินก็คงเห็นที่นี่ทุกวันว่ามันดูรกร้างแค่ไหน รวมถึงเจ้าที่เจ้าทางที่ไม่เหมือนเดิมกับที่เกียกกาย
แน่นอนว่าขวัญกำลังใจของชาวโยธินสูญเสียไปมาก ที่ต้องสูญเสียโรงเรียนไป เหมือนเป็นการถูกทำลายจากผู้ใหญ่ที่ไม่เคยจะถามความคิดเห็นของพวกเขาเลย ถึงเราจะเป็นเด็กแต่เราเป็นมนุษย์ที่ความรู้สึกนึกคิด มีความรักและหวงแหนในสถาบันของตน พวกเราอยู่ที่นี่กันมานานมาก มันเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเรา
แต่จะมีคนมาทุบบ้านของเรา โดยที่ไม่เคยมาพูดคุยกับเราเลย มาทำลายกันหน้าตาเฉย โดยคิดเพียงเราเป็นเด็กจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้ เราก็ได้แต่รวมพลังกันร่วมมือกันช่วยเหลือและกอบกู้เรียนของเรากลับคืนมาให้ได้ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ชาวโยธินสู้ต่อไปนะครับ
19 ความคิดเห็น
เอาใจช่วยเหมือนกัน
แต่กระทู้เกี่ยวกับประเด็นนี้แตกมาเยอะเหลือเกิน
เม้นไปเยอะจนไม่รู้จะเม้นอะไรแล้วล่ะ
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1143693
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1145197
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1145129
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1145084
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1145034
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1145018
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1145004
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1144871
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1144852
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1144843
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1144611
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1144637
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1144187
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1143875
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1143731
เรียนเด็กโยธินครับ  น้องๆโยธินครับเรื่องจิตวิญญาณมันอยู่ที่ใจและการกระทำครับ
ต่อให้คุณไปอยู่ที่ไหนถ้าทำตัวแย่ๆไม่สมกับเป็นเด็กโยธินก็ไม่มีค่าอะไร
ตัวพี่เองก็อยู่ธรรมศาสตร์  เรียนที่รังสิต  ไม่ได้เรียนท่าพระจันทร์ก็แฮปดี
เรื่องไกลนั้นทางมหาลัยก็สามารถดึงรถร่วมให้วิ่งเข้ามามหาวิทยาลัยได้
อยู่นี่สบายดีที่กว้างขวางไม่ต้องทนรถติด  ไม่ต้องแออัด
ส่วนจิตวิญญาณธรรมศาสตร์นั้นมันอยู่ที่คน  จิตวิญญาณธรรมศาสตร์คือรักความเป็นธรรม
และรักประชาชน  หากเด็กธรรมศาสตร์หลอกตัวเองว่าตัวเองรักประชาชน  รักความยุติธรรม
อยู่ท่าพระจันทร์  อยู่รังสิต อยู่ลำปาง  ก็มีค่าเท่ากัน  เฉกเช่นเดียวกับจิตวิญญาณของเด็กโยธิน
หากมันอยู่ ที่ตัวน้องและการกระทำ  ต่อให้โรงเรียนน้องย้ายไปอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังคงอยู่อยู่ดี
 
ถามว่ารัฐสภาแห่งใหม่จำเป็นไหม  ต้องยอมรับว่าจำเป็นที่เดิมคับแคบอย่างมาก
และลึกๆผมขอเดาว่าที่ตั้งปัจจุบันน่าจะมีปัญหาเรื่องฮวงจุ้ยด้วย  ลองดูรัฐสภาหลายๆประเทศอย่างมาเลเซีย
ออสเตรเลีย สหรัฐ  หรือแม้แต่อังกฤษ(ที่คับแคบแต่ที่ตั้งดี)  ทุกที่มีลักษณะทางฮวงจุ้ยดีมาก  ผิดกับรัฐสภาไทย
บอกอย่างงี้ไม่ใช่จะงมงาย  แต่อยากจะให้มองในอีกแง่นึง  ถามว่าทำไมไม่เป็นที่อื่นทำไมต้องเป็นเกียกกาย
ลองไปศึกษาผลการศึกษาของหน่วยงานเป็นกลางหลายๆที่ได้  เขามีคำตอบ  หรือจะให้รัฐบาลไปเช่าที่30ของการรถไฟ
จ่ายเงิน1หมื่นล้าน  เสร็จแล้วครบ30ปีต้องย้ายไปที่อื่นงั้นหรือ  หรือไม่ก็ต้องใช้เงินเช่าต่ออีก
สู้ใช้ที่ๆมีอยู่นี้ไม่ดีกว่าหรือ  แล้วเวรคืนอีกนิดนึง
หลายๆสิ่งก่อสร้างของรัฐทั้งถนนทางด่วน  ทางรถไฟ  อาคารต่างๆ  หลายๆที่ก็ต้องเวรคืนมาทั้งนั้น
แม้หลายๆคนไม่เต็มใจจะย้ายแต่ท้ายที่สุดก็ต้องย้ายเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม  นี่ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่เป็น
เป็นกันทั่วโลก  ลองคิดดูถ้าทุกคนจะยืนกระต่ายขาเดียวว่าจะไม่ย้ายๆ  บ้านเมืองจะพิกลพิการขนาดไหน
ขับรถไปอยู่ดีๆเจอบ้านผุดกลางถนน  ต้องเลี้ยวหลบ  ทุก100เมตร  จะวุ่นวายแค่ไหน
พี่เข้าใจว่าร.ร.ก็สำคัญต่อชาติบ้านเมือง  ผลิตบุคลากรมันสมองระดับประเทศมากมาย 
แต่ขอถามแบบที่เคยถามว่ารัฐสภาไปสร้างที่อื่นไม่ได้เหรอ  มาลองถามเรื่องที่ตั้งโรงเรียนที่แทบจะเหมือนเดิมว่า
ถ้าย้ายไป1.7กิโล  มันจะผลิตหมอ  ผู้ว่า  ทนาย  วิศวะ หรือบุคลากรระดับมันสมองของประเทศอื่นๆมิได้หรือ
ถ้าเสียสละแล้วคนทั้งชาติชื่นชมว่าพวกเราเห็นแก่ส่วนรวม  เป็นผู้เสียสละเพื่อชาติ  เป็นกุ่มบุคคลที่น่ายกย่องจะดีกว่ามั้ย
รัฐสภาเป็นสถานที่สำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย  ควรจะให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
แม้นักการเมืองที่เข้ามาจะเป็นอย่างไร  แต่มันก็เป็นคนละเรื่องกับที่ตั้งรัฐสภา
จริงๆ น่ะ เรื่องที่ทำให้ไม่เห็นด้วยกับการสร้างรัฐสภาที่เกียกกาย คือ...
รัฐไม่ฟังเสียงจากประชาชนที่จะได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย!!!
และอีกอย่าง คือ จราจรบนถนนสามเสนจะติดยิ่งกว่าเก่า และถนนขยายไม่ได้แล้วด้วย
โรงเรียนโยธินบูรณะอยู่ที่เกียกกาย ชุมชนรอบๆ โรงเรียน บางทีก็มีอะไรดีๆ ในชุมชนที่ควรจะอนุรักษ์ไว้อยู่
รัฐบาลควรเอางบมาพัฒนาการศึกษา พัฒนาเศรษฐกิจดีกว่าครับ.
จริงๆแล้ว ทุกๆคนก็ต่างมีเหตุผลนั่นแหละครับ เพียงแต่ว่า ถ้าเกิดคุณที่อยู่ธรรมศาตร์นั้น รัฐสภาไปตั้งที่ รร. ของคุณ คุณก็คงจะรู้สึกอะไรบ้างไม่มากก็น้อย(ใจเค้าใจเรา)
แต่ที่ไม่เห็นด้วย เพราะ ปัจจุบัน ถ้ามีการประท้วงก็จะมีส่วนตรงเขาดิน รองรับผู้ชุมนุมได้ ถ้าเกิดมาสร้างที่เกียกกาย คราวนี้ก็ประท้วงตรงไหนล่ะครับ อีกทั้ง สถานที่ตั้งเดิน ถนนส่วนตรงนั้นสามารถรองรับการเดินทางเข้าออก เมื่อมีการประชุมได้ง่าย ถ้าย้ายมาตรงแยกเกียกกาย เหนว่ามาจากทาง4ทางก็จริงครับ (จริงๆแล้วเหลือ3 ทางเรือคงไม่มีนักการเมืองคนไหนมาหรอกมั๊ง) แต่ คุณที่อยู่นอกเมือง ต้องลองไปดูครับ ว่ามันสมควรจริงๆไหม ที่เห็นว่าข้างหลังเป็นแม่น้ำ เสริมฮวงจุ้ยนั้น ผมไม่เเย้งครับ แต่มันก็มีวิธีแก้ไม่ใช่หรอครับ ให้ขุดบ่อน้ำ หรือ ทำอย่างอื่นแก้ก็ได้ไม่ใช่หรอครับ (ลองศึกษาดูครับ ไม่อย่างนั้น ถ้าเกิดอยากได้ฮวงจุ้ยดีๆ เอาธรรมศาสตร์รังสิตเลย ฮวงจุ้ยดี เนื้อที่กว้าง หรือคุณจะบอกว่าฮวงจุ้ยไม่ดี 555555+)
คห.2
คุณก็พูดได้สิ ว่าอยู่รังสิตแต่ยังมีจิตวิญญาณธรรมศาสตร์
เพราะตอนคุณเข้าไปเรียน ธรรมศาสตร์รังสิตก็มีอยู่แล้วนี่
ก็ใช่ที่ว่า ตรงรังสิตเองก็แยก ขยายย้ายมาจากท่าพระจันทร์ตั้งไกลโข
แต่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์เองก็ยังคงตั้งอยู่ มีความสง่างามอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้โดนทุบทิ้งเอาไปสร้างเป็นอย่างอื่นไปซะหน่อย
ถ้าคุณได้ลองกลับเข้าไปอ่านลิงค์ในคห.1และติดตามข่าวสารใกล้ชิดจริงๆแล้วจะเข้าใจ
ว่าเหตุผลของการ "ไม่ยอม" ที่แท้จริงมันมาจากความปลิ้นปล้อนของผู้ใหญ่
น้องๆเค้าแค่อยากรู้
เหตุผลที่ต้องสร้างรสภใหม่
เหตุผลที่ต้องเป็นที่ตรงนั้น
เหตุผลที่ต้องเลือกที่ตั้งของรร.ให้เค้าในที่ที่เค้ารู้สึกว่าสภาพแวดล้อมมันแย่กว่าเดิม
และเหตุผลจากคำถามอื่นๆอีกมากมายหลายข้อ (กลับไปอ่านตามกระทู้เก่าดู ขี้เกียจพิมพ์)
แต่ไม่มีใครให้ความเป็นจริงที่กระจ่าง ชัดเจน และตอบข้อสงสัยเหล่านี้ได้อย่างที่จะทำให้สามารถยอมรับได้
หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ...เหตุผลของคนตัวโต(ที่โตแต่ตัว)มันฟังไม่ขึ้น
"คับแคบ" แต่ที่ว่าคับแคบที่เป็นประเด็นจริงๆ ไม่ใช่ตัวอาคาร แต่เป็น "ลานจอดรถ"...ซึ่งมันก็แน่ แต่ละคนคันนึง แล้วมีรถนำ+รถตามอีกล่ะ
"เป็นหน้าเป็นตา" ถามจริงๆว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเมืองไทย...
มีใครเคยบอกกับคุณไหมว่า "ไอยอมเสียค่าตั๋วหลายหมื่นเพื่อบินมาดูอาคารรัฐสภาไทยเลยนะนี่..."
มีแต่เค้าบินมาดูธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่ให้กลิ่นอายเอเชียตะวันออกของบ้านเราต่างหาก
แล้วเวลาเค้าบินกลับบ้านเมืองเค้า สิ่งที่เค้าเอาไปพูดก็คือว่า "คนไทยใจดี สยามเมืองยิ้ม วัดสวย"
ไม่ใช่ "โอ้ววววจอร์จ...รสภ.เมืองไทยใหญ่โต โอ่อ่า บิวตี้ฟูลมากเลยยยย" ซะหน่อย...
หรือแม้แต่นักลงทุนเอง...เค้าจะเอาเงินมาทำธุรกิจในประเทศไทยเนี่ย เค้าตัดสินใจว่าจะทำรึไม่ เพราะอาคารรสภ.รึก็เปล่า...
เหตุผลที่ท่านๆว่ามา มันมีน้ำหนักไม่มากพอที่น้องๆและชาวบ้านแถวนั้นจะยอมได้
แถมมันยังมีข้อน่าสงสัยอีกมาก...ว่าทำไมจะต้องรีบมาสร้างๆซะทีเดียวแบบนี้
การวิเคราะห์ผลกระทบสุขภาวะยังไม่ได้ทำ
การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมยังไม่ได้ทำ
นโยบายสาธารณะไม่มีการพูดถึง
มันทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่โปร่งใสไงคะ
ต่อจากข้างบน(มันโพสหมดทีเดียวไม่ได้อ่ะ)
แล้วที่คุณบอกว่าน้องๆน่าจะภูมิใจที่ได้เสียสละ สร้างความเจริญ เป็นหน้าตาอะไรนั่น...
จากข้อมูลที่ได้ทราบ...(จริงเท็จแค่ไหนยังไม่รุ้เหมือนกัน)
บริเวณที่เป็นรร.โยธิน เค้าจะสร้างเป็น "ลานจอดรถ" ตัวอาคารจริงๆสร้างติดริมน้ำ...
เป็นคุณ...คุณจะภูมิใจดีไหม ถ้าตรงที่ๆคุณเคยนั่งกินข้าวกับเพื่อน เล่นบาส ลอกการบ้านส่งอาจารย์ ฯลฯ
กลายเป็นแค่ลานจอดรถ ที่หาศักดิ์ศรีมาเทียบเท่ากันไม่ได้เลยสักนิดกับ "สถานศึกษา"
เค้าไม่ได้เอาตรงนั้นไปสร้างเป็นที่นั่งนายกฯนี่คะ จะได้ภูมิใจอวดได้ ว่า
"เออ...ไอตรงที่เราเคยโดนอาจารย์สั่งทำโทษวิดพื้นตอนนี้เป็นที่ตั้งเก้าอี้นายกฯแล้วนะ แหม...ปลื้มจัง"
ร้ายไปกว่านั้น...เค้าแอบงุบงิบเซ็นตกลงกันเอง
โดยกันน้องๆที่คัดมาเป็นตัวแทน ที่ได้รับ "สัญญา" จากผู้ใหญ่แล้วว่าจะยอมให้เข้าร่วมประชุม ออกจากห้อง
แล้วจะรู้ได้ไงว่าแปลนที่จะสร้าง อาจจะมีห้องน้ำติดลานจอดรถ(สมมติ)อะไรแบบนี้...
แล้วถ้าเป็นงั้น...เป็นตัวคุณ คุณจะนึกภูมิใจบอกกับลูกหลานได้อยู่รึเปล่า
ว่า "เออแน่ะ...ลูกรู้ไหม ตรงนี้นะสมัยก่อนเป็นตึกเรียนวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนโยธินฯ ที่ตอนนี้ย้ายไปตั้งอยู่ตรงวัดสร้อยทองน่ะจ้ะ พ่อกับแม่เดินมาชนกันตรงมุมตึก แล้วก็ตกหลุมรักกันครั้งแรก แต่ตอนนี้กลายเป็นห้องน้ำรัฐสภาไปแล้วล่ะ ภูมิใจจริงๆเลยล่ะ สถานที่แห่งความรักของพ่อกับแม่ได้เป็นที่นั่งปล่อยทุกข์คนใหญ่คนโตในบ้านเมืองด้วยนะลูก...เป็นเกียรติแห่งวงศ์ตระกูลเราน่าดูเลย"
จิตวิญญาณของน้องๆลูกโยธินน่ะ อยู่ที่ไหนเค้าก็มีได้น่ะใช่ค่ะ
แต่สิ่งเหล่านี้...ที่เป็นความทรงจำ ความประทับใจ ความรู้สึกผูกพัน มันย้ายตามไปที่หลังวัดสร้อยทองไม่ได้นะคะ
ต่อให้ตึกเรียนโรงเรียนมันจะใหญ่โตโอฬาร ทันสมัยแค่ไหนก็ตาม...
หรือคุณกับพวกท่านๆเหล่านั้น...ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ได้ใช้ชื่อว่าเป็น "นักเรียน" เลยล่ะคะ
...
อยากให้น้องๆโยธินฯไปลองศึกษาแผนแม่บทในการพัฒนาพื้นที่โดยรอบรวมพื้นที่ 1 พันกว่าไร่เสียก่อนค่อยวิจารณ์กัน
ประเด็นคือเราไม่ยอมศึกษาอย่างละเอียด  เชื่อในสิ่งที่เราเชื่ออยู่อย่างเดียว  แผนแม่บทในการพัฒนาพื้นที่ทั้งหมด
มีทั้งสะพาเกียกกาย(ส.สถาปนิกฯเสนอให้ทำอุโมงค์ลอดแม่น้ำดีกว่า)  การพัฒนาพื้นที่ให้สวยงามภายในระยะเวลา20ปี
งานนี้ผู้ที่เสนอเป็นหน่วยงานที่เป็นกลางมากหลายหน่วยงาน  ทั้งของจุฬาและสมาคมสถาปนิกสยาม
แล้วก็เสนอกันมาหลายปีแล้วด้วย  แต่ที่ผ่านๆมาเราติดปัญหาความไม่พร้อมด้านการเงินและหลายๆด้าน
และยังศึกษาพื้นที่อื่น  แต่ทุกหน่วยงานที่เป็นกลางต่างลงความเห็นตรงกันว่าเป็นเกียกกายตั้งแต่สมัยก่อนรัฐประหารแล้ว
ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะคิดจะอ่านเอาสมัยสมัคร   
ไม่ใช่ว่าที่นี่เป็นที่แรกหรอกที่โดนรัฐเวรคืน  ที่อื่นเค้าก็เคยโดน
แต่เค้าตระหนักกันว่าเพื่อส่วนรวมและรัฐก็ชดเชย  เค้าก็ไม่ได้บ่นอะไรกันนักหนา
คุณภาพก็ไม่ได้แย่ลง  ดีขึ้นด้วยซ้ำ  แต่ช่างเถอะจะคิดอย่างไรก็ช่างยังไงขอให้ศึกษากันให้รอบด้านจริงๆ
ก่อนที่จะคิดจะพูดอะไรกันด้วย 
ขอฝากเรื่องนึงครับ  ต้องขอร้องกันเลยจะไม่อยากย้ายอย่างไรก็ช่าง
อย่าเที่ยวตกเป็นเครื่องมือการเมืองของพันธมิตรเลย  ผมไม่ได้รักทักษิณอะไรหรอกนะ
แต่ผมติดตามผลงานของท่านลิ้มตั้งแต่ปี47  จนรู้ไส้รู้พุงแกดีแล้ว  นั่งฟังทุกสัปดาห์จนจับผิดได้หลายอย่าง
บอกได้เลยว่าหมอนี่ไม่ได้ดีไปกว่าทักษิณหรอก  อย่าไปตกเป็นเครื่องมือขาเลย
ก็ถ้าแผนแม่บทมันมี
แสดงว่ามันต้องมีเหตุผลและที่มาที่ไป ที่สามารถตอบคำถามข้องใจได้เคลียร์ทั้งหมด
แต่อย่างที่บอกว่าไม่เคยมีใครออกมาชี้แจงได้ชัดเจนเลยสักที
มันเลยกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ไงคะ
อีกอย่าง...ที่เราออกมาพูด ก็ไม่ได้ว่าในความคิดของการขยายพื้นที่ และปรับปรุงภูมิทัศน์
นั่นเป็นส่วนที่ดีก็ใช่...เป็นการเปลี่ยนแปลงที่พัฒนา ก็ถูกส่วนนึง
แต่การทำอะไรทุกอย่าง มันจำเป็นต้องมีเหตุผล ที่มาที่ไปที่อธิบายได้แจ่มแจ้ง
ถูกต้องตามข้อกฎหมาย มีจริยธรรม โปร่งใส
แต่สิ่งที่เป็นและเห็นอยู่คือมันคลุมเครือ
แล้วเราไม่ได้ว่าหมักว่าเป็นต้นคิด แต่ว่าที่มันจำเป็นเร่งด่วนตรงไหนที่ต้องเปรี้ยงมาสร้างในตอนนี้ให้จงได้
ตอนนี้...ที่สภาพเศรษฐกิจวิกฤติขนาดนี้
ตอนนี้...ที่ปัญหาสังคม พรมแดน ชายแดน ยังแก้ไม่ได้
ตอนนี้...ที่ภัยภิบัติธรรมชาติสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องไทยตามต่างจังหวัดไปทั่ว
เพราะเงินหลายหมื่นล้านนั่นไม่ใช่น้อยๆ แล้วมันก็เป็นน้ำพักน้ำแรงจากภาษีคนทำงานทั่วประเทศ
จะเอามาใช้ทำอะไรก็ควรต้องตรองดูลำดับความสำคัญมากน้อย-ก่อนหลังด้วย
และที่สำคัญ...
จะบอกคุณเด็กธรรมศาสตร์ไว้เลยว่าเราไม่ได้เป็นเครื่องมือของใครทั้งนั้น
ยอมรับว่าเราเกลียดการบริหารที่ลวงโลกของระบบทักษิณรวมทั้งรัฐบาลนอมินี
แต่เราก็ไม่ชอบพวกพันธมิตรมากพอกัน ด้วยเหตุผลที่ทางนั้นเองก็มีนอกมีในหลายอย่าง
อีกอย่าง...เรายังไม่ได้แสดงตัวในกระทู้นี้สินะ
ว่าเราไม่ใช่เด็กโยธิน ไม่ได้อยู่แถวเกียกกาย
แต่เป็นคนไทยคนนึงที่ยอมรับไม่ได้ กับเหตุผลแบบขอไปทีที่คนข้างในออกมาพูด
แล้วน้องๆโยธินเองเราเชื่อว่าเค้ามีสมองมากพอที่ไม่ได้ตกเป็นเหยื่อใคร
เค้ามีวิจารณญาณ คิดเอง ทำเองได้
เป็นพลังบริสุทธิ์ที่น่าชื่นชมด้วยซ้ำ
ลองคิดกลับไปดูสิว่า...ถ้าไม่มีเรื่องทุบ-ย้ายรร.น้องเค้าจะออกมาพูดไหม
หรือว่าก่อนหน้านี้น้องๆเค้าเคยไปเย้วๆอยู่กับพธม.ก่อนแล้วรึเปล่า?
รัฐธรรมนูญ ส่วนที่ 10 สิทธิในข้อมูลข่าวสารและการร้องเรียน
มาตรา 57 บัญญัติว่า...
บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับข้อมูล คำชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานราชการ
หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ก่อนการอนุญาต
หรือดำเนินโครงการ หรือกิจกรรมใด ที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม
สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียสำคัญอื่นใดที่เกี่ยวกับตน ชุมชน
หรือท้องถิ่น และมีสิทธิแสดงความคิดเห็นของตนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว
การวางแผนพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม การเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์ การวางผังเมือง การกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
และการออกกฎหมายที่อาจมีผลกระทบต่อส่วนได้เสียสำคัญของประชาชน
ให้รัฐจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึง
ก่อนดำเนินการ
เอามาให้อ่าน...เผื่อยังไม่รู้ก็จะได้รู้ไว้ซะ!!
ขอให้กำลังใจพี่น้องชาวโยธินบูรณะทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันทุกท่านที่ร่วมคัดค้านต่อต้านการรื้อโรงเรียนเพื่อสร้างรัฐสภา
เท่าที่ผมได้ติดตามจากข่าวเห็นว่า รัฐบาลไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะเลือกสร้างรัฐสภาใหม่บริเวณนี้ในเวลานี้ ด้วยเหตุผลดังนี้
๑. ผมยังไม่เคยได้ยินว่ามีการทำประชาพิจารณ์ หรือศึกษาผลกระทบต่อชุมชนรอบข้างอย่างจริงจัง มีความรีบร้อนผิดปกติ ทั้งที่เพิ่งได้ยินว่าไปดูสถานที่ ในทำเลอื่น ๆ มาก่อน เมื่อไม่นานมานี้เอง ทั้งที่คลองเตย และพระราม ๓
๒. ผมเห็นว่าน่าจะเลือกสร้างในสถานที่ซึ่งเป็นที่ว่างหรือที่รกร้าง ซึ่งภายในกรุงเทพและปริมณฑลน่าจะหาได้ไม่ยาก ไม่สมควรที่จะไปทุบทำลายสถานที่ที่มีการใช้ประโยชน์อยู่แล้ว อีกทั้งสถานที่รกร้างหรือที่ดินเปล่าที่เป็นของราชการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็น่าจะเจรจากันได้ไม่ยากทั้งที่การรถไฟ ที่ดินราชพัสดุ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นการประหยัดงบประมาณได้มาก
๓. ผมเห็นว่ารัฐบาลมีเรื่องอื่นที่จำเป็นเร่งด่วนต้องรีบทำงานก่อนเรื่องนี้อีกหลายเรื่อง อีกทั้งปกติพวก ส.ส. ก็ไม่ค่อยจะเข้ามาทำงานกันสักเท่าไร ตามที่เคยได้ยินมา และปีหนึ่งก็มีประชุมกันไม่กี่เดือน
ผมเห็นว่า ถ้าพี่น้องโยธินบูรณะทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้าน เหมือนสหภาพการรถไฟหรือท่าเรือ พวกท่านต้องสามารถทำได้แน่ อย่ายอมแพ้รัฐบาลฉ้อฉลพวกนี้ ศิษย์เก่าที่จบไปน่าจะมีจำนวนหลายพันหลายหมื่นคน พวกท่านน่าจะมีแกนนำศิษย์เก่าร่วมกับแกนนำศิษย์ปัจจุบัน ร่วมกันคอยประสานงานในการต่อต้าน ผมเชื่อว่าต้องสามารถผลักดันให้รัฐบาลยกเลิกโครงการนี้ได้แน่นอน ขอให้เชื่อมั่นในตัวพวกท่านเอง ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ
แล้วทำไมถ้าอยากสร้างสภาไหญ่ๆ รถไม่ติดไม่ไปสร้างแถวสุวรรณภูมิไปเลยละ ไม่ได้ไร้สาระนะ
แต่มองดูปะเทศเพื่อนบ้านมั่งที่เค้าไปสร้างเมืองหลวงขึ้นมาอีกเมืองนึง แถวนู้นกว้างก้กว้าง รถก้ไม่ติดทำไมต้องมาทุบ รร กันด้วย
เอาแต่อ้างว่าอยู่ที่ตัว นร เอง จะดีหรือไม่ดี ไม่เกี่ยวกับที่ตั้ง
แล้วไอ พวก สส ละ ก้ขึ้นอยู่กับตัวมันอีกเหมือนกัน อยู๋ที่ไหนมันก้โกงได้ทั้งนั้นแหละ
สร้างไหม่ไปแม่งก้โกงเหมือนเดิมมันอยู่ที่คนทั้งนั้นแหละ
ดูอย่างจีนดิ ที่ชอบไปดูถูกเขาว่าชอบก๊อปของชาวบ้านเค้าอะ แล้วดูพิธีเปิดโอลิมปิกเค้าดิ ทำไมเค้าทำได้อลังการมากเลยอะ
คือเราไม่ได้มีใครมาชักชวนนะค่ะ เเต่เราก็มีความคิดของเราเอง พวก นร ที่คัดค้าน ก็มีทั้งฝ่าย  พธม เเละ รัฐบาลค่ะ
ที่ตั้งใหม่ม่ายช่ายแค่ทำเงม่ายดีแต่บริเวนนั้นเปงแหล่งรวมของยาเสพติดอีกด้วย
อันที่จิงคนเรานั้นจาดีหรือเลวก้อขึ้นอยุ่กับตัวเราก้อจิงแต่มันก้อต้องขึ้นอยุ่กับสพาบแวดล้อมด้วย
ม่ายเช่นนั้นแร้วทำมัยทุกคนถึงอยากด้ายที่สวยๆทำเลดีๆม่ายมีกลิ่นเหม็นเน่าของลำคลองอยุ่ในที่ๆเจริน
สาดค.ห.2เป็นเชี้ยไรเนี่ย
เอาธรรมศาสตร์มาอ้างเรียนคณะไรวะ
ถ้าเป็นรุ่นน้องกุนะจะจับซ่อมแม่งให้หมดพวกปากดีเนี่ยสัสเอ้ยพูดแล้วของขึ้นเดี๋ยวเอาขส.ทบแถวข้างๆเล่นแม่งเลยสาด
ผมก็ศิษย์เก่าโยธินมีไรวะ
กุปิงปอง ถาปัดภายใน ธรรมศาสตร์ไม่อยากจะบอกรุ่นมีเชี้ยไรก็มาเจอได้คับ
สู้ๆคับพี่น้องชาวโยธิน
คห.14
เรียนธรรมศาสตร์จริงหรอ
พูดจาทรามเหมือนคนไม่มีการศึกษาอ่า
รุ่นพี่ ย.บ. ของคุณน่าจะเก็บอาคารไม้เก่าๆไว้ให้ได้เรียนนะ
เผื่อจะมีสำนึกขึ้นมาบ้าง
ที่ดินริมถนนรัชดา  ร้อยกว่าไร่ของคุณหญิงกำมะละ  กันท่านชาย ณ ลอนดอน  กำลังจะถูกศาลสั่งยึดให้ตกเป็นของแผ่นดินไม่ใช่หรือ  ทำไมพวกพรรคพลังประชาชน  กับสว.ลิ่วล้อทั้งหลาย  ไม่เอาอวัยวะเบื้องต่ำคิดที่ไปสร้างตรงนั้นเล่า  ฤ  เกรงใจนายทุนใหญ่ท่านชาย ณ ลอนดอน  ถึงไม่มีใครเอ่ยถึงที่ดินผืนนี้เลย  ใช่ไหมท่านหมัก ปม.    ยิ่งอ่านมากๆ ยิ่งโมโหวะ
ผมศิษย์เก่าโยธิน 67 ครับ ผมสนับสนุนการย้ายครับ เพราะ
1.เราได้เนื้อที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว คงมีการจัดวางผังโรงเรียนที่ดีกว่าปัจจุบันแน่นอน
  ตอนที่ผมเข้ามาเรียน ตอนนั้นอาคาร 1 กลังถูกทุบสร้างเป็น อาคารสิริธร ก็เห็นว่าตึกนั้นมันใหญ่โตดีกว่าตึก 1 เก่า
  อยากจะเปรียบเทียบให้ฟังครับว่า ทุกอย่างมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง
2.โรงเรียนเราอยู่ห่างจากที่เก่าประมาณ 1.7 กิโลเมตร(ตามข่าว) ผมคิดว่ามันไม่ได้ไกลอะไรมากขึ้นเท่าไหร่ ทำเลตรงนั้นมีแหล่งชุมชน ตลาด คิดว่าคงทำให้สภาพโดยรอบคึกคักมากกว่าเดิมอีกนะ พอทำกิจกรรมเลิกเย็นๆก้อไปหาอะไรกินฝั่งตรงข้ามได้(ที่เก่ามีแต่ร้านต้นนุ่น)
หรือเราอาจจะไปปล่อยปลา ไปท่าน้ำวัดสร้อยทองก็ได้(มองในแง่ดี)
อยากให้ทุกคนยอมรับความเปลี่ยนแปลงครับ อย่าไปคิดมากเลย เปลี่ยนแล้วมันดีขึ้นซะอีก
ลืมไปครับ ข้อเสียมีนิดเดียวครับ 1.รถเมล์ผ่านน้อยสายลงครับ ปกติผมนั่งสาย 30 และ ปอ.505 ไปโรงเรียนเพราะบ้านอยู่นนท์ คงต้องหาเส้นทางใหม่เวลาไปเยี่ยมโรงเรียน
จิตวิญญาณชมพู น้ำเงินเข้มเกินคลายลงครับ สำหรับพี่จิตวิญญาณชมพู น้ำเงินอยู่ที่ เพื่อน รุ่นน้อง อาจารย์ สถานที่(อันนี้สำคัญน้อยสุด)
ควรขอบคุณพันธมิตร
แต่ไม่ควรออกไปชุมนุมกับพันธมิตร
เพราะ เรื่องโรงเรียนของเราไม่เกี่ยวกับการเมือง
ถึงมีเกี่ยวกับผลประโยชน์ของนักการเมืองห่วยๆ
แต่เรื่องนี้มันเกิดเพราะ
นักการเมืองที่ไม่รักษา สัจจะ  มีความโลภมมากกว่าคุณธรรม
ผมศิษย์เก่าจบปี30 ครับ
อย่าเอาเด็กๆไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองที่เน่าเหม็น อย่าเอาความเป็นศิษย์เก่ามาอ้างเพื่อดึงโรงเรียนเข้าไปยุ่งกับการชิงอำนาจบ้าๆบอๆของผู้ใหญ่
คุณอย่าเอาตนเองเป็นศูนย์กลางนึกถึงเด็กรุ่นหลังๆที่เขาจะได้สถานที่เรียนที่ดีมากๆกว่ารุ่นของเรา มีวิถีชีวิตที่ดีกว่ารุ่นของเรา คุณจะยึดติดกับอดีตก้เรื่องของคุณครับ แต่อย่าดึงคนอื่นว่าต้องคิดแบบเดียวกันถึงจะถูกที่สุด
ลองคิดดู ถ้ารุ่นก่อนคุณก่อนผมคิดแบบนี้ อาคารไม้หลังแรกๆไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ทั้งคุรและผมคงต้องมานั่งเรียนในสถานที่แย่ขนาดไหน
ให้เด็กรุ่นหลังมีโอกาสที่ดีกว่าพวกเราจะดีกว่า อย่าเห็นแก่ตัวครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?