แฉขวัญ-อุษามณี
ตั้งกระทู้ใหม่
หนูไม่ได้เป็นคนเขียนเองนะค่ะ
หนูก็อปมาจากเว็ปอื่น
เพราะฉะนั้น
อย่ามาว่า จขกท. ( ก็คือตัวหนูเอง)
เขียนเนื้อเรื่องเว่อร์อย่างนั้น เว่อร์อย่างนี้
โอเค๊~!!!!
> >>> >>> >> เรื่องจริงหรือไม่จริงก็ลองใช้วิจารณญาณดูนะคะ เอามาจาก
> >> www.yenta4.com
> >> แต่รู้สึกว่าคนเขียนจะมีทักษะในการเขียนดีมากนะ เขียนยาว
> >> แต่เราก็พยายามอ่านจนจบเลย ลองอ่านกันดูนะ
> >>
> >> จากคห. 28 หัวข้อ ทุบหัวใจ "ขวัญ" อย่างดัง! "กอล์ฟ"
> >> เผย..ไม่จำเป็นต้อง
> >> ง้อ
> >>
> >> เธอตอนครั้งแรกสมัย ม. 4 ผมเรียนที่โรงเรียน บดินทรเดชา
> >> (สิงห์ สิงหเสนี)
> >> แผนก ศิลป์ ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็น ธรรมดา
> >> ที่จะมีนักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเรียน
> >> ชั้น ม ปลายด้วย ขวัญ อุษามณีย์เป็น 1 ในนั้นด้วย
> >> มันก็ยิ่งเป็นที่พูดถึงเป็นธรรมดาน่ะครับสมัยนั้น
> >> ที่มักจะตื่นเต้นเวลามีดารามาอยู่ร่วม
> >> โรงเรียนด้วย และยิ่งตื่นเต้นกว่าเก่า เพราะเธอมาเรียน
> >> ห้องเดียวกับผม ทีนี้แหละทุกสายตาในโรงเรียน (
> >> โดยเฉพาะนักเรียนชาย) ต่าง
> >> มุ่งมาที่ห้องผมเป็นทิศทางเดียว
> >>
> >> เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้น
> >> เราก็เริ่มเรียนกันอย่างปกติ แต่ก็อดไม่ได้ที่เราจะ
> >> คอยแอบมองคุณขวัญ อยู่อย่างเงียบๆ
> >> เธอเป็นผู้หญิงที่สวยคนนึงครับ
> >> ใบหน้าที่ไม่ต้องไปสืบหาที่ไหนก็รู้ว่าเป็นลูกครึ่ง ฝรั่ง
> >> แน่ๆ เธอมีลุคที่ยิ่งอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนั้นผมก็คิดในใจ
> >> ว่า ' ช่วยไม่ได้ ดารานี่หว่า '
> >> เราแทบไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเลย เพราะหล่อนก็
> >> มีกรุ๊ปของเขาเหมือนกัน ผมเลยตั้งชื่อกรุ๊ปว่า กรุ๊ปไฮโซ
> >> เพราะว่าพวกเค้าเป็นจำพวกลูกคนรวยทั้งนั้นเลย
> >>
> >> วันเวลาผ่านไปเหมือนไม่รู้จุดหมาย
> >> ผมก็เรียน(และโดดเรียนในบางครั้ง- _')
> >> ไปเรื่อย ผมก็เริ่มสังเกตว่า ผมเริ่มไม่เห็น
> >> ขวัญ อุษามณีย์ ผมเลยคุยกับเพื่อนว่าคุณเธอหายไปไหนว่า
> >> ก็ได้คำตอบว่า ' คงไป
> >> ถ่ายละครแหละช่วงนี้งานชุกนี่ ' ในขณะเดียวกันอาจารย์
> >> หลายๆท่านที่มาสอนห้องผม ก็เริ่มบ่นถึงการเข้าเรียนของเธอ
> >> ผมกลับมองเข้าข้าง
> >> คุณขวัญ ว่า ' ก็เค้ามีงานมีการทำนี่
> >> เค้าคงต้องใช้เวลาปรับตัว
> >> นิดนึงแหละน่ะ ' จนกระทั่งอยู่มาวันนึง
> >> ผมนั่งเล่นเกมตอนเลิกเรียน เพื่อนผมก็มา
> >> คุยว่า เมื่อวันก่อนที่มันโดดเรียน(โดยไม่ยอมชวนผม)
> >> จังหวะที่กำลังปีนกำแพงอยู่นั้น มันดันเจอคนมาแซงคิวปีนกำแพง
> >> แต่ที่มันต้องอึ้งก็คือ
> >> คนที่แซงคิว คือยัยขวัญนั่นเอง เธอปีนออกไปพร้อมเพื่อน
> >> อีก 2 คน หลังจากนั้นเพื่อนผมก็ปีนตามออกไป
> >> ทันที่จะเห็นขวัญและเพื่อน นั่งในรถ
> >> คันนึงที่จอดรอไว้ โดยมีคนขับเป็นทอม
> >>
> >> นั่นเป็นครั้งแรกที่ก่อให้เกิดคำถามเล็กๆในใจ
> >> ว่าสิ่งที่เราคิดว่าใช่นั้น มันใช่จริง
> >> หรือเปล่า ผมเลือกที่จะโยนคำถามฟุ้งซ่านนี้ทิ้งไป
> >> จนกระทั่งจุดหักเห ที่ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อขวัญ
> >> เปลี่ยนไปตลอดกาล
> >>
> >> วันนั้นช่วงบ่าย ซึ่งผมต้องมีเรียนอีกวิชานึง
> >> ช่วงรอยต่อของคาบ ผมชวนเพื่อนลงไป
> >> กินโรตีที่โรงอาหาร ผมกับเพื่อนนั่งกินจน
> >> เข้าเรียนช้าไป 15 นาที ผมรีบวิ่งไปเข้าห้องเรียนกับเพื่อน
> >> ผมจินตนการออกเลย
> >> ว่าความกดดันที่จากการเข้าห้องสายเป็นยังไง สายตาทุกคู่
> >> จะจับมาที่เรา อาจารย์จะเริ่มบ่น
> >> และเราจะกลายเป็นคนเด่นโดยที่เราไม่ต้อง
> >> การ ผมวิ่งมาถึงห้องแล้วกลั้นใจก้าวเข้าไป ทว่า.....
> >>
> >> ว่างเปล่าครับ ในห้องว่างเปล่า ไม่มีอาจารย์สอน
> >> ผมกับเพื่อนตกใจมาก หันไปหัน
> >> มาเห็นเพื่อนผู้หญิงในห้อง เลยถามว่าเกิด
> >> อะไรขึ้น เธอบอกว่า อาจารย์ไม่สอน
> >> นั่งร้องไห้อยู่ในห้องพักครู ไวเท่าความคิด
> >> ผมรีบไปที่ห้องพักครูทันที ก็เห็นอาจารย์นั่งร้องไห้
> >> โดยมีเพื่อน
> >> ผมอีก 4-5 คนนั่งล้อมรอบ ผมเข้าไปถามอาจารย์ว่า '
> >> เกิดอะไรขึ้นครับ ' แต่
> >> ไม่ทันจะถามอะไร ผมก็กลืนคำถามลงกระเพาะทันที เพราะ
> >> อาจารย์ได้แต่บ่นว่า ' สอนหนังสือมา 20 กว่าปี
> >> เพิ่งจะมาเจอแบบนี้ ฉันจะไม่ถือ
> >> ว่ายัยเด็กคนนั้นเป็นลูกศิษย์อีก '
> >> ผมหันไปถามเพื่อนว่าที่อาจารย์
> >> พูดหมายถึงอะไร ก็ได้รับคำตอบที่ทำให้ใจผมเย็นยะเยือก
> >> เค้าบอกว่า อาจารย์ไป
> >> ทวงการบ้านจากยัยขวัญ แต่กลับโดนตดกกลับว่า ' เดี๋ยว
> >> จะส่งให้เอง เก็บปากไว้กินข้าวเหอะ ' ผมกำมือแน่น
> >> ใจเต็มไปด้วยความเคียด
> >> แค้น แค้นที่มันกล้ามาว่าคนที่ผมเคารพ แค้นที่มัน
> >> กล้าพูดจาหยามเยียดครูบาอาจารย์ และยิ่งแค้นกว่าเก่า
> >> เมื่อมันมาขอโทษอาจารย์
> >> ในลักษณะ ฉันมาขอโทษโดยความจำใจนะ มันยิ่งทำให้ผม
> >> แค้นจนไม่รู้จะหาคำได้มาเปรียบได้อีกแล้วนอกจาก ชั่ว
> >>
> >> แต่ทว่าเรื่องเหล่านี้ก็เงียบหายลง ภายใน 2 วัน
> >> ไม่มีอาจารย์ท่านอื่นมากล่าวถึง
> >> ไม่มีมาตรการอะไรกับเหตุการณนี้เลย ผมยังคง
> >> ติดอยู่กับน้ำตาของอาจารย์ที่ยังค้างในความรู้สึก
> >> ยัยขวัญก็ยังผุดๆโผล่ๆที่ห้อง 3 วัน
> >> มาที จนกระทั่ง 2 อาทิตย์ถึงจะโผล่มาให้เห็นทีนึง จนผม
> >> สงสัยว่านี่มันดารา หรือตัวเ***้ยที่อยู่หน้ารัฐสภาวะ
> >> และแล้ว ความอดทนของผมก็
> >> ถึงขีดสุด
> >> เมื่อวันนึงมีการทำรายงานเกี่ยวกับการบำเพ๊ญประโยชน์
> >> ( ขออภัยที่ผมจำรายละเอียดไม่ได้) ก็มีการแบ่งกลุ่มตามปกติ
> >> เหมือนผีซ้ำซาตาน
> >> กระทืบ ยัยดาราดันมาอยู่กลุ่มเดียวกับผม!!!
> >>
> >> พ่อผมสอนเสมอว่า การทำงานเราต้องละทิ้งอคติต่อผู้ร่วมงาน
> >> เพื่อที่ภารกิจจะได้ลุ
> >> ล่วง ผมจึงต้องทิ้ง ? คติชั่วคราว เพื่องานกลุ่ม วันที่เรา
> >> เริ่มประชุมหารือกัน ไม่มียัยขวัญในกลุ่ม แต่ละวันที่ผ่านไป
> >> ยัยขวัญมีความหมายแค่
> >> ชื่อที่แปะในหน้าผู้จัดทำรายงาน
> >> ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมต่อคนในกลุ่ม
> >> เลยไปขออาจารย์ให้ตัดชื่อออกซะ
> >> อาจารย์ประจำวิชานั้น(ขอสงวนนาม) ได้แต่
> >> บอกว่า ช่วยเพื่อนเค้าหน่อยเถอะ น่าสงสารนะที่ไม่มีเวลาเรียน
> >> ผมจึงได้แต่
> >> รับคำอาจารย์ จวบจนวันก่อนวันสุดท้าย 1 วัน
> >> เราเหลือแค่การบำเพ๊ญประโยชน์
> >> นั่นคือไปเลี้ยงขนมให้บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน แถวๆ สน.โคกคราม
> >> เราเตรียมของกันเรียบร้อย จู่ๆยัยนี่ก็โผล่
> >> แล้วมาพูดใหญ่เลยว่า ' กูอยู่กลุ่มนี้ใช่
> >> ไหม อย่าลืมเอาชื่อกูลงนะ ตอนถ่ายรูปถ่ายให้ติดเฟรมด้วยล่ะ '
> >> เพื่อน
> >> ผมก็เลยแซวว่า ' โห เนียนเลยนะ '
> >> รู้มั้ยเค้าตอบรับมุขเพื่อนผมยังไง ดารา
> >> เธอตอบกลับว่า ' เมิงยุ่งเ***้ยไรด้วย '.............
> >>
> >> เพื่อนผมอึ้ง ตัวผมอึ้ง หลายยๆคนอึ้ง
> >> ยกเว้นตัวเธอกับเพื่อนในกรุ๊ปอีก 4-5 คน นี่
> >> ผมหูฝาดใช่มั้ย ดาราที่มีชื่อเสียงด่าเพื่อนผมด้วยวาจา
> >> เยี่ยงนี้เหรอ พวกเพื่อนๆเธอออกเดินนำหน้า
> >> เพื่อที่จะไปบ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน ผม
> >> เดินอยู่ห่างๆพร้อมเพื่อนผมและเพื่อนผม
> >> พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เกิด
> >> ขึ้น
> >> แต่เราก็ลืมเหตุการณ์นั้นเพราะเราต้องเอาขนมให้เด็กพิการซ้ำซ้อน และถ่าย
> >> รูปเพื่อทำรายงาน
> >> วันนั้นก็จบลงด้วยความรู้สึกที่อิ่มอกอิ่มใจ เรากำลังเดินออกจาก
> >> บ้านพักเด็กพิการซ้ำซ้อนด้วยความร่าเริง
> >> ผมยิ้มและเฮฮากับเพื่อนๆอยู่ แต่จู่ๆโลก
> >> รอบตัวของผมกลับนิ่งไปทันใด เมื่อเพื่อนผู้หญิงร้องออกมาว่า
> >> ' เฮ้ย ขวัญลบรูป
> >> ทำไม ' พวกเราหันไปพร้อมกับเหมือนนัดหมายไว้ก่อน
> >> ความโกรธผมพุ่งถึงขีดสุด
> >> ถามกลับไปว่า ' นี่มันเกิดห่าอะไรวะ '
> >> ยัยขวัญสารเลวพูดทั้งๆที่ทำหน้าอย่าง
> >> เฉยเมย ' ก็เห็นปุ่มมันเขียนว่า delete
> >> ก็เลยลองกดดูไม่รู้ว่า มันจะลบหมดเลย
> >> '
> >>
> >> ขอประทานโทษนะครับ เ
> >>
> >> ***้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
> >> ยย!!!!!!!!!!!!
> >>
> >> ผมปรี๊ดแตก กำมือแน่น
> >> เตรียมที่จะเข้าไปต่อยหน้างามๆของเจ้าหล่อนแล้ว พร้อม
> >> กับที่ เธอก็เอาแต่บอกว่า ' ก็คนมันไม่รู้นี่นา '
> >> ไม่รู้ห่าอะไรล่ะ
> >> หน้าโคตรฝรั่ง อย่าว่าแต่ delete เพราะปกติถึงมือจะไปโดน
> >> โปรแกรมก็ต้องขึ้น
> >> yes หรือ no ให้เลือก แล้วเมิงไม่รู้สองคำนี้เหรอวะ
> >> อีขวัญเอ้ย!
> >> ผมเดินรี่เข้าไป พร้อมทั้งคิดอยู่อย่างเดียวว่า
> >> กูทนไม่ไหวแล้ว รูปที่ถ่ายมาทั้ง
> >> หมดอันตธานหายไป
> >> และวันพรุ่งนี้ก็ต้องส่งงานเพราะมันเป็นวันสุดท้าย นั้นหมาย
> >> ความว่า
> >> เราจะต้องเสียคะแนนเก็บ เกือบ 20 คะแนน (
> >> คุณที่อ่านถึงบรรทัดนี้ คงรู้สึกแบบ
> >> เดียวกันว่า ตอนที่เรียน คะแนนเก็บมีค่าขนาดไหน)
> >> ทุกๆอย่างประเดประดังมา
> >> พร้อมๆกับขาที่ก้าวไป แต่เพื่อนผมก็คว้าแขนผมไว้
> >> พร้อมทั้งห้ามปรามว่า อย่าเอา
> >> ตัวเมิงไปแลกกับคนพรรค์นี้เลย
> >> สุดท้ายพวกเราเลยต้องมานั่งอยู่ในรถแท๊กซี่
> >> เพื่อกลับบ้าน
> >> และสาบานว่าผมจะไม่ลืมความเฮงซวยของผู้หญิงคนนี้ และผมจะต้อง
> >> แก้แค้นแน่
> >>
> >> หลังจากที่ผมต้องไปอ้อนวอนอาจารย์ประจำวิชา
> >> เราเลยได้ส่งงานและได้คะแนน
> >> แต่เราก็ยังไม่ลืมเหตุการณ์ในวันนั้น
> >> ผมมองเธอคนนั้นเปลี่ยนไป
> >> เธอกลายเป็นปีศาจร้ายในคราบคิวปิด สำหรับผมไปเลย
> >> ส่วนเธอน่ะเหรอ ก็กลับ
> >> มาสู่ชีวิตปกติของเธอ มาโรงเรียนสัปดาห์ละครั้ง
> >> และก็คล้ายกับเหตุการณ์ที่ผม
> >> กล่าว
> >> ไว้ข้างต้น เข้ามาโรงเรียนปุป
> >> เหมือนเข้ามาแล้วมันร้อนตัวมั้งครับ ก็เลยกระโดด
> >> ออกไปหาทอมปั๊บ จนผมคิดว่าถ้าเธอเรียนเต็มวัน
> >> วันนั้นเกาะภูเก๊ตคงจมอยู่ใต้
> >> ทะเล
> >>
> >> จนกระทั่งเข้าใกล้ช่วงสุดท้ายของภาคเรียนของ ม. 4 เทอมสอง
> >> เราเริ่มเตรียม
> >> ตัวสอบกัน และช่วงนี้ยัยขวัญก็เข้ามาเรียนบ่อยเป็นพิเศษ (
> >> แต่เกาะภูเก๊ต
> >> ไม่ยักกะจมแหะ) แล้ววันนึง ไม่มีอะไรบ่งบอกล่วงหน้า
> >> ขณะที่เรากำลังนั่งเรียนอยู่
> >> ตอนเช้า จู่ๆก็มีผู้หญิง 2 คน คนนึงหน้าแก่มาก
> >> อีกคนก็ดูประมาณ อายุ 25 มายืน
> >> จังก้าอยู่หน้าห้อง แล้วคนแก่ก็ตวาดเสียงดังลั่นอาคาร ' ขวัญ
> >> เก็บข้าวของเดี๋ยวนี้
> >> ไม่ต้องไปอยู่แล้วโรงเรียนนี้
> >> อยู่แล้วก็สร้างปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน ' พร้อมกันนั้น
> >> คุณแม่
> >> ยัยขวัญ (ที่ผมเดาเอาเองจากสามัญสำนึก และเดาถูกด้วย)
> >> ก็สั่งให้พี่สาวของ
> >> ยัยขวัญ ( ซึ่งผมก็เดาถูกอีกแหละ)
> >> เข้าไปล้มโต๊ะนักเรียนกลางห้อง เสียงดังสนั่น
> >> อาคาร
> >> ยัยขวัญก็เข้ามายื้อแย่ง หนังสือพร้อมตะโกนเสียงดัง '
> >> อย่ามายุ่งกะหนูนะ แม่มี
> >> สิทธิอะไรมาทำแบบนี้ ' คุณแม่ก็ตอบกลับว่า '
> >> นี่ฉันเป็นแม่เธอนะ พูดอย่างงี้กะฉัน
> >> ได้ยังไง '
> >> พี่สาวก็ทำหน้าที่เหมือนคอรัส ' ดูมันสิแม่
> >> กล้าหือกับแม่อย่างงี้ ' สุดท้ายแล้วทั้งแม่
> >> และพี่สาว ก็ลากยัยดารานั้นออกไปจากห้อง เหมือนหมูเหมือนหมา
> >> เราได้แต่ยืน
> >> มองตาปริบๆ
> >> เหมือนพึ่งดูละครภาคค่ำจบ
> >> และวันนั้นก็เป็นวันสุดท้ายที่ผมได้เจอ ขวัญ อุษามณี
> >>
> >> นับจากวันนั้นจนวันนี้ ผมก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ
> >> พร้อมๆทั้งเห็นยัยดาราคนนี้เริ่มมีชื่อ
> >> เสียง เป็นดาราชื่อดัง เริ่มเป็นไอดอลของหลายๆคน
> >> ส่วนผมมันก็แค่คนๆนึง
> >> ที่อาจจะพูดได้เต็มปากว่า เป็น Looser
> >> แต่ผมก็ต้องการถามกับสังคมว่า คน
> >> เราเนี่ย การจะเป็นไอดอลมันขึ้นอยู่กะอะไร ความโด่งดัง หรือ
> >> นิสัย ? ถ้าเป็น
> >> อย่างแรก
> >> เราก็คงไม่ต้องมาพูดอะไรอีกแล้ว
> >> ผมคงไม่ต้องมานั่งพิมพ์เหตุการณ์ที่เลวร้ายนี้ บน
> >> โต๊ะเล็กๆ ในห้องแคบๆ พร้อมทั้งอาการปวดเมื่อยตามตัว
> >> และก็เอาแต่บ่นว่า นี่
> >> เราทำอะไร
> >> อยู่เนี่ย แต่ถ้าเป็นอย่างหลังนั้น
> >> การที่เรามีไอดอลเป็นผู้หญิงพรรค์อย่างงี้ ผม
> >> สงสารประเทศไทย สงสารเด็กๆที่กำลังจ้องหน้าเธอผ่านจอทีวี
> >> และคิดจะเลียน
> >> แบบเธอคนนี้ ผมจึง
> >> อยากแค่จะเห็นคนที่เค้าดีจริงๆจะเนื้อใน ได้มาเป็นไอดอล
> >> เป็นคนต้นแบบของ
> >> สังคมจริงๆ สุดท้าย ผมคงต้องจบเรื่องราวทั้งหมดนี้
> >> ว่าทุกๆอย่างที่ผมเล่ามา ผม
> >> ไม่ต้องการให้พวกคุณ
> >> เชื่อ ไม่ต้องการซักนิดเดียว สิ่งที่ผมต้องการคือ การคิด
> >> วิเคราะห์ และแยกแยะ
> >> ตามวิจารณญาน แล้วก็จะเก็บเรื่องนี้ไว้เพื่อเล่าสู่กันฟัง
> >> จะไม่มีการเอาสิ่งที่ผมเล่า
> >> ไปใช้ประโยชน์
> >> เอาเค้าตัวเอง หรือเอาไปเผยแพร่ในเชิงพานิชย์
> >> ผมขอเท่านี้แหละครับ
> >>
> >> ขอบคุณที่อ่านจนจบ
> >> apple_narak
> >>
> >>
> >>
> >>
> >>
> >>
> >>
> >> Best Regards,
> >>
> >> Samart Thongkhanan (Tan)
> >> TAS EXPRESS (THAILAND) CO.,LTD.
> >> Representative for TMAP-EM Project (Bang Bo)
> >> Export Parts Logistics Department
> >> Toyota Motor Asia Pacific Engineering & Manufacturing Co.,Ltd.
> >> TEL : +66(0)2790 5000 Ext. 2732
> >> FAX : +66(0)2790 5022-23
> >> MOBILE : +66 1622 1229
> >> E-MAIL: tasexpress02@tmap-em.toyota-asia.com
> >> samart@tasexpress.co.th
> >>
> >
>
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 4 มีนาคม 2552 / 20:43
178 ความคิดเห็น
เรื่องนี้เคยอ่านแล้วนะ
เราไม่ชอบขวัญเลย นิสัยแย่มากๆ ยิ่งข่าวออกมายิ่งรู้ธาตุแท้
คนสันดารพันนี้อยู่ไปก้อรกโลก
ไม่น่าเกิดมาสวยเลย
ถ้าเปนแบบนี้
เกิดมาชาตเดวดีก่วา.........
แต่ถ้าเปนจิงล่ะ เลวมากค่ะ -.-
เกลียดขวัญที่สุด
นิสัยเสีย
มันจะเป็นเรื่องจริง เร้อ เราว่ามันใส่ร้ายชัดๆ เลย ตอนอ่านที่ว่าถ่ายรูป ก็คิดว่าจะขอดูรูปหน่อย แต่เหมือนรู้ทัน บอกว่าขวัญลบรูปไปแล้ว
นี่ความเห็นของเรานะ ความจริงเป็นยังไงก็ไม่รู้ ใครที่รู้จักขวัญจริงๆ แล้วไม่ใส่ร้ายเขาช่วยบอกหน่อย
สมน้ำหน้า......
กอล์ฟม่ะคุยด้วย
5555+++++
ข่าวแย่ของเธอชั่งออกมามากจริงๆ จนฉันว่าส่วงนใหญ่มันคงเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะ
เพราะใครมันจัมาใส่ร้ายคนคนเดียวพร้อมกันแบบนี้
บอกได้คำเดียว
"แย่"ค่ะ
ทำอะไรไว้
ระวังกรรมตามทัน
เป็นดารา"ดับ"ในวงการนะคะ
ข่าวอย่างเยอะอะคนนิ
มีเรื่องกะเขาไปทั่วป้าแกอ่ะ
เมื่อไหร่จะเอาหน้าและจิตใตที่เน่าเฟะออกไปจากจอทีวีสักทีก็ไม่รู้
ไม่เชื่อ
เชื่อ
เป็นดาราคนเดียวที่ไล่เป็นเรื่องเป็นราวกับคนอื่นเขาไปทั่ว
เกินไปละมั้ง แม่คุณและ คุณแม่
ไม่เชื่อ จบ
เราไม่รู้ว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่
ถ้าจริงแล้วล่ะก็ ถ้าเป็นเรื่องคำหยาบเราไม่ว่า เพราะเราก็พูด
แต่ถ้าการลบรูปเราว่าเค้าคงรู้แหละ ภาษาอังกฤษน่ะ แต่คงอยากแกล้งมากกว่าหรือไม่ก็เรียกร้องความสนใจ
อย่างนี้แหละ ตอนเด็กๆคงโดนตามใจมาก พอโตมาก็เลยห้ามไม่ได้แล้ว
ดาราทุกคนใช่ว่าจะนิสัยดีเป็นคนดีไปซะหมด
มันอาจจะมีบ้าง ที่เค้าต้องการจะบ่งบอกถึงนิสัยและตัวตนของเค้า
ขวัญเค้าคงไม่อยากสร้างภาพแล้วล่ะมั๊ง !!!!
บอกได้คำเดียว "ไปตายซะ"
คนพรรค์นี้ ไม่มีวันเจริญหรอก
เรื่องที่เล่าไม่รู้จิงรึไม่จิง แต่เราเคยเจอกับตัวเองเลย
ที่ The Mall ขนาดแม่มัน มันยังด่าเลย
นับประสาอะไรกับคนอื่น
เสียดายความสวยวะ
แต่ทำไมต้องให้เกาะภูเก็ตจมด้วยวะ
-0- ไม่ออกความคิดเหนคะ อิอิ เฉยๆๆๆ
ทุกวันนี้เราว่าสิ่งที่เค้าทำไว้มันก็กลับมาเล่นเค้าแล้วนี่ ถ้ามันไม่มีมูลหมามันไม่ขี้หรอก มันก็ต้องมีบ้าง แต่ตอนนี้ก็เริ่มได้รับกรรมแล้วล่ะความลับไม่มีในโลก ใครทำไรไว้ก็รู้อยู่แก่ใจตัวเองอยู่แล้ว
เราเคยดูคลิปขวัญเที่ยวผับนะ
ทั้งสูบบุหรี่ทั้งพูดหยาบเลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?