Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

จุ๋ย - หมิงตอนป็นดาวลีดเดอร์ธรรมศาสตร์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 รุ่นที่ 59 Cheer Leader  
 ธรรมศาสตร์  

"ใครว่าวัยรุ่นเจ้าปัญหา เราว่าไม่นะ มีอะไรดีๆ ตั้งมากมายที่พวกเราทำขึ้นมา"


     ทีน-โซไซตี้ คอลัมน์ใหม่สำหรับวัยโมโนโดยเฉพาะ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ถ้าเป็นเรื่องดีๆ และสร้างสรรค์ น่าบอกเล่าให้รู้กัน เราจะนำมาแนะนำแบบวงใน ให้เป็นตัวอย่างอันดีแก่สังคมวัยทีน ขอเปิดตัวคอลัมน์นี้เป็นฉบับแรกด้วยกลุ่มวัยทีนที่ใครๆ ก็จับตามองพวกเขา สาวและสวย รวมพลังกายและพลังใจ ทุ่มเท และเสียสละ ทำกิจกรรมที่ถ่ายทอดกันมาเป็นประเพณีนานถึง 59 ปี


แพม อรอาภา สุสมากุลวงศ์


     บ่ายวันนี้ฉันมีนัดกับสาวจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึง 7 คนด้วยกัน พวกเธอทั้งหมดมีตำแหน่งเป็น เชียร์ลีดเดอร์ ของมหาวิทยาลัย รุ่นที่ 59 ทีเดียวนะ ฉันสงสัยเหมือนกับทุกคนที่ยังไม่เคยพบเห็นพวกเธอว่าจะสวยทุกคนมั้ย เพราะทุกปี ลีดเดอร์ จาก ธรรมศาสตร์ และ จุฬาฯ นั้นจะเป็นที่จับตามองเหลือเกินว่าจะต้องสวยและรูปร่างดี แต่กว่าเธอจะฝ่าฟันผ่านด่านกรรมการคัดเลือกให้มาเป็นตัวแทนนักศึกษาเพื่อนำเชียร์ใน งานฟุตบอลประเพณี ระหว่าง จุฬาฯ และ ธรรมศาสตร์ ที่จะมีอยู่ทุกปี ต้องมีขั้นตอน หลักเกณฑ์ และความยากง่ายในการผ่านการคัดเลือกครั้งนี้อย่างไรบ้าง แสนสาหัสพอกับประกวดขาอ่อนมั้ย จะได้รู้ไปพร้อมๆ กับฉันในวันนี้ละ...

     บ่าย 3 โมงเศษๆ ฉันเห็นสาวๆ หุ่นดี 7 คน เดินเข้ามายังตึกทำการนิตยสารโมโน คนหนึ่งในนั้นแจ้งความประสงค์ว่ามีนัดกับฉันเพื่อมาสัมภาษณ์ ฉันจึงแนะนำตัวและพาพวกเธอไปยังสตูดิโอของโมโนเพื่อแต่งหน้าและเตรียมตัวถ่ายภาพกัน ในระหว่างการเมคอัพจึงเป็นโอกาสทองของฉันที่จะทำความรู้จักกับทุกสาวและคุยกันเป็นกลุ่มเพื่อประหยัดเวลาอันมีน้อยนิด


ณัฐ ณัฐพร พงษ์ชาญชวลิต


Mono: ทำไมจึงตัดสินใจสมัครเข้าคัดเลือกเป็น cheer leader ของมหาวิทยาลัย
ต๊อย: อยากร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย และรู้จักกับเพื่อนต่างคณะ
หมิง: มันเป็นความภูมิใจค่ะ ถ้าเราผ่านเข้ามาเป็นตรงนี้ได้ เลยอยากพิสูจน์ตัวเองว่าทำได้นะ
จุ๋ย: ทางครอบครัวสนับสนุนว่ามันเป็นความภูมิใจถ้าทำได้ และเป็นประสบการณ์อันมีค่า
แพม: มันเป็นโอกาสที่เราจะได้ประสบการณ์ที่ดีๆ และไม่ได้มาง่ายๆ นะ
จอม: รู้มาว่าการเป็นเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยไม่ได้สบาย ยากลำบากมาก..ก และต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีเพื่อทำงานเป็นทีมเวอร์ค ก็อยากรู้ว่าเป็นยังไง
ณัฐ: ตอนเรียนปีหนึ่งได้ไปดูงานฟุตบอลประเพณี ดูแล้วคิดว่าเราก็น่าจะไปยืนที่จุดๆ นี้ได้ ก็ลองสมัคร
เยียร์: เห็นประกาศจากโปสเตอร์ที่พี่เค้าติดเอาไว้ ก็คิดว่าเราก็มีความเป็นผู้นำนะ ก็เลยลองดู


จอม มนฤทัย เตยะราชกุล


Mono: มองว่าการเป็นลีดเดอร์เป็นอย่างไร
ต๊อย: คิดว่าเป็นสีสันของงาน 'บอล แต่ไม่คิดว่าจะต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างขนาดนี้ พอมาเป็นแล้วถึงได้รู้ว่า อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
จุ๋ย: ก็รู้สึกว่าเค้าสวยกันดีนะ ในงาน 'บอล จะมีพวกลีดเดอร์นี่ละเป็นจุดเด่นของงาน
นัฐ: เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ถ้ามีโอกาสน่าจะลองทำดู มันได้ฝึกความเป็นผู้นำ ความรับผิดชอบ
แพม: เป็นอะไรที่ต้องทุ่มเท และเสียสละเวลาส่วนตัว ตอนซ้อมเพื่อคัดตัวจะไม่เหนื่อยเหมือนตอนซ้อมจริง

Mono: ใครจะมาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ธรรมศาสตร์ต้องมีคุณสมบัตยังไงบ้าง
(ผลัดกันพูด): อันดับแรกคือบุคลิกภาพ แล้วก็เรื่องความเป็นผู้นำ มีความอดทนสูง มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบมากๆ สามารถทำงานกับคนหมู่มากเป็นทีมได้ ตอนกรอกใบสมัครเค้าก็ให้เขียนเกรดลงไปด้วย แต่คือพี่เค้าไม่ได้เอาคนที่เรียนเก่งมากหรอก เพียงแต่ว่าถ้าเกรดไม่ดีอยู่แล้ว มาลงกิจกรรมซึ่งต้องใช้เวลามากๆ เนี่ย จะมีผลต่อการเรียนแน่ๆ


หมิง ชาลิสา บุญครองทรัพย์


Mono: การคัดตัวมีขั้นตอนอะไรบ้าง
(ผลัดกันพูด): มีซ้อมก่อนคัดตัว นานเป็นเวลา 3 เดือน พอถึงวันคัดตัวซึ่งมีทั้งหมด 3 วัน จับกลุ่มเต้นเก็บคะแนน อีกวันสอบสัมภาษณ์ วันสุดท้ายเป็นวันคัดจริง แอบเหมือนประกวดนางงามนะ มีวันสอบสัมภาษณ์ จับฉลากตอบคำถาม บางคนก็โดนคำถามแปลกๆ หรือเป็นคำถามวัดกึ๋นน่ะ ก่อนที่เค้าจะคัดตัว จะมีคนมาสมัครเยอะมาก มา 300 คน วันคัดจริงเหลือแค่ 59 คน คัดเหลือผู้หญิง 7 คน กับผู้ชาย 5 คน และก็มีพี่เอกเป็นหัวหน้าลีดเดอร์ ซึ่งเป็นลีดเดอร์เก่าของปีที่แล้วต้องมาเป็นหัวหน้าลีดในปีต่อไป

Mono: เมื่อผ่านการคัดเลือกมาเป็นทีมเดียวกัน มีปัญหาระหว่างกลุ่มบ้างมั้ย
(ผลัดกันพูด): พวกเราไม่มีปัญหาเลย สนิทกันมาก ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนด้วย เพิ่งมารู้จักกันก็สนิทกันไปเลย มีไปเที่ยวกัน สนิทนอกรอบ แต่จริงๆ แล้วไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวกันหรอกเนอะ (หันไปพยักเพยิดให้กัน) จะชวนกันนอนซะมากกว่า ไม่งั้นก็ชวนกันกิน (หัวเราะ)


เยียร์ กิติพร สุริย์วิริยะ


Mono: หลังจากคัดตัวกันได้แล้ว ชีวิตเป็นอย่างไรในแต่ละวัน
(ผลัดกันพูด): เริ่มจากวิ่งรอบสนามฟุตบอล 5 รอบสำหรับผู้หญิง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมจะเหนื่อย แล้วก็ฝึกท่าเบสิค ซ้อมหนักกว่าเดิมเยอะมาก ซ้อมทุกวัน จะดึกมากๆ ตอนซ้อมก่อนคัดตัวกับตอนนี้ ความบของพี่ก็จะต่างกันเลย ตอนแรกๆ จะใจดีหน่อย ผ่อนระเบียบนิดนึง ตอนนี้สยองมาก เพราะว่าอยู่กันหลายๆ คน ก็ต้องอาศัยความมีระเบียบ มีความพร้อมเพรียง ต้องตรงเวลา late นาทีเดียวก็โดนวิ่งรอบสนามฟุตบอลแล้ว ส่วนการซ้อมเต้นจะเริ่มตอนเย็นของทุกวันตั้งแต่ห้าโมง ที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ซ้อมถึงตีหนึ่ง เที่ยงคืนมีบ้า
งเป็นบางวัน เค้าจะกำหนดไว้ว่าซ้อมไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ทุกวัน แต่เห็นเป็น 7-8 ชั่วโมงุกที (หัวเราะ) แล้วยังต้องตื่นไปเรียนอีก

Mono: แบ่งเวลาเรียนกับเวลาทำกิจกรรมกันยังไง
(ผลัดกันพูด): ก็มีโดดเรียนกันบ้าง แต่ดูวิชาที่เราอ่านเองได้จริงๆ แต่ถ้าวิชาที่เช็คชื่อก็ไม่ได้โดด มันกลายเป็นความเคยชิน เลิกตีหนึ่งนะคะ แต่พวกที่อยู่รังสิตถึงหอพักกันตีสาม ก็พยายามนอนให้มากที่สุด เพราะว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าสุขภาพไม่ดีก็เรียนหรือจะทำกิจกรรมไม่ได้แล้ว อยู่ในห้องเรียนก็ต้องตั้งใจฟังมากขึ้น ออกจากห้องเรียน กินข้าวแล้วจะหลับเลย ก่อนสอบก็จะมีเวลาหยุดหนึ่งวันก่อนสอบสำหรับอ่านหนังสือ


จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา


Mono: รู้ใช่มั้ย คนจะมองว่าเชียร์ลีดเดอร์จะต้องสวย
(ผลัดกันพูด): การเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ควรมีความสวยงามมาเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว เพราะว่าความสวยงามจะดึงดูดคนให้สนใจได้มากกว่า และก็ทำให้เราในฐานะผู้นำกองเชียร์มีความมั่นใจที่จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่เราก็ต้องมีพลังในตัวเองด้วยนะ เราต้องสร้างพลังและดึงมันออกมาจากกองเชียร์ให้มีส่วนร่วมกับเราตลอดเวลา คอยส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาให้มีแรงแข่งขัน ซึ่งอาจเกิดอาการเหนื่อยและท้อในบางขณะ ถ้าเราเชียร์ได้ดีก็เป็นกำลังสำคัญให้แก่นักกีฬาได้

Mono: มีกฏกติกา ข้อห้ามอะไรบ้าง ในการวางตัวในฐานะที่เหมือนเป็นตัวแทนของมหาวิยาลัย
(ผลัดกันพูด): ยังเป็นตัวของตัวเองอยู่ แต่เวลาจะทำอะไรก็นึกถึงตรงนี้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะช่วงที่เราเป็นอยู่เท่านั้น แต่ต้องนึกถึงตลอดไป ส่วนข้อห้ามไม่มีค่ะ มีแต่ห้ามกินเยอะ กับห้ามตากแดดนานๆ (ยิ้ม)


ต๊อย ภัทรอร ณ ระนอง



Mono: คอนเซ็ปต์ของทีมเชียร์ลีดเดอร์ธรรมศาสตร์ในปีนี้คืออะไร
(ผลัดกันพูด): "สีสันเพื่อสร้างสรรค์" ก็คือเราจะสร้างสรรค์สังคมด้วยสีสัน เหมือนกับเราที่นับเป็นสีสันของงานฟุตบอลประเพณี เรามีอิสระกันมากขึ้น หมายถึง อิสระทางความคิด อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราใช้คอนเซ็ปต์นี้ เพราะวัยรุ่นปัจจุบันนี้มักจะดำเนินชีวิตไปในทางสีสัน จนบางทีอาจลืมไปว่าคนเรามันต้องมีสาระบ้าง จึงเกิดไอเดียการสร้างสรรค์เพื่อสังคมด้วยคือ ก็ให้มีบริจาคฝากระป๋องอลูมิเนียม โดยลงคะแนนให้ Mister and Miss Popular Vote ซึ่งหมิงได้เป็น Miss Popular Vote เพราะเค้าได้ฝากระป๋องเป็นหมื่นเลยนะคะ ให้คนอื่นมาหยอด รวมๆ แล้วทั้งหมดเป็นแสน บริจาคให้คนทำขาเทียม ซึ่งเป็นไอเดียใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและยังสนุกสนานอีกด้วย

ฉันเองก็เพิ่งจะลึกซึ้งกับคำว่า "เชียร์ ลีดเดอร์" ในวันนี้เอง พวกเธอมีภาระสำคัญไม่ใช่เล่นกับการต้องวิ่งๆ เต้นๆ ไปรอบอัฒจรรย์ ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรงทั้งวัน เพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศอันรื่นรมย์มาแทนที่ไอระอุจากดวงอาทิตย์และเกมส์กีฬาของสองสถาบันอันเป็นประวัติศาสตร์ให้ได้


PS.  โบเขียว สู้ๆ!!!!!! >>GREEN GLAMOUR

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

000 12 ม.ค. 55 เวลา 16:22 น. 10

น่ารักทุกคนอ่ะ
คห. 13 - ที่บอกว่า ดำหยั่งลาว คืออะไรเหรอ คนลาวเค้าก็ไม่ได้ดำกันหมดนะ คนไทยดำๆ ก็มี
แต่ถ้ามีแล้วดำมันผิดตรงไหนอ่ะ อย่างพี่จุ๋ยอ่ะเค้าไม่ได้เรียกว่าดำหรอกจ้า

0