Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สามเหลี่ยมเมอร์บิวด้า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

>>ปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า<<


          
          เรือเดินทะเลที่หายสาบสูญไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้น ส่วนมากจะเกิดขึ้นในบริเวณที่เรียกว่า "

เหนือท้องทะเลแห่งนี้มีแต่ความอ้างว้างเงียบเหงา คล้ายกับสุสานใหญ่ที่มองจรดขอบฟ้าไปทุกด้าน ไม่มีแรงลม พอที่จะพัดพาเรือให้แล่นไปได้ ใต้พื้นน้ำเต็มไปด้วย
สาหร่ายทะเลอย่างหนาทึบ ซึ่งยึดเรือทั้งหลายให้หยุดนิ่งอย่างกับกำลังมหาศาลของหนวดปลาหมึกยักษ์ ท้องทะเลบางแห่งก็ตื้นเขินซึ่งเป็นที่อาศัยของสัตว์ประหลาด
มหึมาหลายสิบชนิด และบางครั้งมันก็ว่ายน้ำ เข้ามาทำลายเรือทั้งลำให้กลายเป็นผุยผงไปในพริบตา

ความลี้ลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

          สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นอาณาบริเวณส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอ็ตแลนติคภาคตะวันตก พื้นที่ทั้งหมดเริ่มจาก ตอนหนือของเบอร์มิวดาไปถึงตอนใต้ของรัฐฟลอริดา-และจากฟลอริดามุ่งตรงไปทางตะวันออกทำมุมสี่สิบองศากับเส้นรุ้ง ผ่านบาฮามัสและเปอร์โตริโก จากนั้นก็ย้อนเฉียงกลับไปสู่ทางใต้ตอนเหนือของเบอร์มิวดาอีกซึ่งทำให้อาณาบริเวณแห่งนี้ กลายเป็นรูปสามเหลี่ยม และอาณาบริเวณรูปสามเหลี่ยมแห่งนี้เองที่เป็นแหล่งกำเนิด ปรากฏการณ์ อันลี้ลับ มหัศจรรย์ขึ้น ในยุคอวกาศของชาวเรา ในปัจจุบันเป็นสิ่งลึกลับและเหลือเชื่อหากจะบอกท่านว่า เริ่มตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1945 มาจนถึงปัจจุบัน เครื่องบินจำนวนกว่า 100 เครื่อง และเรือเดินสมุทร จำนวนอีกมากหลายได้ หายไปในบรรยากาศ และพื้นทะเลของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งนี้โดยไม่มีร่องรอย ชีวิตมนุษย์จำนวนพัน ในระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ได้หายไปพร้อมกับ พาหนะโดยไม่มีซากศพ แม้แต่รายเดียว หรือเศษชิ้นส่วนใดๆของเรือ หรือเครื่องบินที่หายไปเหลือให้เห็น การหายสาบสูญของเรือ เครื่องบิน และชีวิตมนุษย์ ในบริเวณดินแดนสามเหลี่ยม เบอร์มิวดายังคงปรากฏอยู่ต่อไป และมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ชาติต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสูญเสียเหล่านี้ ต่างก็พยายามดำเนินการค้นคว้า ก็หาสาเหตุแห่งปรากฏการณ์อันประหลาดและลึกลับนี้อย่างเร่งด่วน แต่ก็ไม่มีใคร สามารถบอกสาเหตุ และหาทางป้องกัน จากภัยที่เกิดขึ้นในบริเวณท้องทะเลแห่งนี้ได้ไม่

          เครื่องบินที่หายไปเหนือพื้นทะเลแห่งนี้ ส่วนมากก่อนที่จะหายการติดต่อกับฐานปฏิบัติการณ์ หรือสถานีปลายทางเป็นไปอย่างปกติ และสภาพของบรรยากาศ และทัศนะวิสัย ก็สงบ และแจ่มใสดี ไม่มีวี่แววของพายุร้ายใดๆ แต่แล้ว เมื่อถึงบทจะหายเครื่องบินเหล่านั้นก็จะหายไปอย่างฉับพลันโดยไม่มีร่องรอย ซึ่งนักบินก็ไม่มีโอกาสที่จะแจ้งข่าว-ทาง วิทยุให้หน่วยควบคุม การบินทราบได้ แต่ก็มีเป็นจำนวนมากเหมือนกัน ก่อนที่เครื่องบินจะหายสาบสูญ นักบินมีเวลาพอที่จะแจ้งข่าวผิดปกติมายังฐานปฏิบัติการได้ ซึ่งทุกรายต่างก็แจ้งตรงกันทั้งหมดว่า ไม่สามารถควบคุมกลไกต่างๆ ให้ดำเนินไปตามปกติได้ เข็มทิศประจำเครื่องจะหมุนปั่นไม่สามารถบอกทิศทางได้ ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีเหลือง และมองดูคล้ายหมอกหนาทีบ ทั้งๆ ที่เป็นวันที่บรรยากาศแจ่มใส และแดดส่องจ้ามาก่อน และท้องทะเลซึ่งเงียบสงบ กลับปั่นป่วน ขึ้นมาโดยไม่อาจจะทราบสาเหตุได้




เครื่องบินแบบเดียวกับเครื่องบินทั้ง 5 ลำ ของฝูงบินที่ 19 ที่หายสาบสูญไปทั้งฝูง พร้อมทั้งชีวิตนักบินและพลเรือนประจำ
เครื่องรวม 14 นาย ในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1945




เครื่องบินแบบ kc 135 ของกองทัพอากาศสหรัฐได้หายไป 2 เครื่องในเวลาเดียวกันเมื่อเดิน สิงหาคม 1963

          อุบัติการณ์ ลึกลับที่ไม่อาจให้คำอธิบายได้ เกี่ยวกับการสาบสูญของเรือเดินสมุทร และ เครื่องบินเป็นจำนวนมาก ในดินแดนแห่งสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาก็ยังคงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ขาด จนกระทั่งในปัจจุบัน ทุกครั้งที่ได้รับรายงานการสูญหาย หน่วยยามฝั่งที่เจ็ด ของกองทัพเรือสหรัฐ จะทำการค้นหาร่องรอยอย่างละเอียดละออ แต่ก็ประสบความ ล้มเหลวที่จะพบพยานหลักฐานซึ่งจะนำไปสู่การไขปัญหาลึกลับนี้ได้ทุกครั้ง และในที่สุดกองทัพเรือสหรัฐก็ได้เก็บเรื่องเหล่านี ้ไว้เป็นความลับ ไม่ยอมเปิดเผยหรือให้คำวิจารณ์ใดๆ แก่ประชาชน ที่อยากรู้อยากเห็นว่า อุบัติการณ์ ลึกลับเหล่านั้น เกี่ยวข้องกับความอาถรรพ์ของดินแดนแห่งสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาหรือไม่ แต่ทั้งๆ ที่กองทัพเรือสหรัฐพยา-

ยามจะปกปิด เรื่อราวเหล่านี้ไว้ ประชาชนทั่วไปก็เริ่มรู้ระแคะระคาย ต่างๆ และเชื่อว่า จะต้องมีแรงอาถรรพ์ หรือพลังอำนาจอันลึกลับ อย่างหนึ่งอย่างใด ภายในบริเวณ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาอย่างแน่นอน และยิ่งปรากฏว่าเมื่อเร็วๆนี้ได้มีข่าวรายงานว่ามีนักบิน และนักเดินเรือบางคนได้รอดชีวิตมาจากปรากฏการณ์สยองขวัญ ในดินแดนของสาม -
เหลี่ยมเบอร์มิวดา จึงทำให้ เกิดการฮือฮากันใหญ่ในขณะนี้
แต่อย่างไรก็ดีจวบจนกระทั่งบัดนี้หาได้มีผู้ใดที่สามารถให้คำอธิบายแจ่มชัด
เกี่ยวแก่ความลึกลับ และความอาถรรพ์ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาได้ และการสาบสูญ ก็ยังคงปรากฏอยู่ต่อไป โดยไม่มีทางป้องกันหรือขัดขวางได้

วิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นด้วยหลักการ

          ในบางกรณี หากวิเคราะห์ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับการหาบสาบสูญของเรือเดินสมุทรและเครื่องบินในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา จะพบว่าหาเป็นเรื่องประหลาดลึกลับแต่อย่างใดไม่เพราะเครื่องบินแต่ละลำ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับความกว้างใหญ่สุดคณานับของพื้นมหาสมุทรโลกแล้ว ก็เปรียบเสมือนฝุ่นละอองที่ล่องลอย อยู่ในห้องโถงใหญ่ น้ำในมหาสมุทรก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่มีการเคลื่อนไหว กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม มีอัตราความเร็วกว่าสี่ไมล์ต่อชั่วโมง

         ในท้องทะเลนอกฝั่งบาฮามัสมีสิ่งแปลกประหลาดอยู่สิ่งหนึ่งที่นักประดาน้ำ มักจะพบเห็นอยู่บ่อย ๆซึ่งพวกเขาเรียกว่า "ปล่องน้ำเงิน" จะปรากฏอยู่ตามหุบผาใต้น้ำและ -
แหล่งหินประการัง
มีลักษณะเป็นอุโมงค์หรือปล่องใต้ทะเล โดยทั่วไปเป็นที่อยู่ของปลาที่ไม่ค่อยได้พบกันที่ผิวน้ำ ปล่องเหล่านี้เชื่อว่า เกิดจากถ้ำหินประการังถูกกัดกร่อนด้วย -กระแสน้ำใต้ทะเลมาเป็นเวลานับหมื่นปี เคยมีนักประดาน้ำดำลงไป สำรวจปล่องต่างๆ นี้ พบว่าปล่องจำนวนมากต่างมีทางแยกออกไปในหลายทิศทาง ทำให้ปลาที่ว่ายวนอยู่ในนั้นเกิดสับสนถึงกับว่ายเอาครีบท้องขึ้นสู่เบื้องบน ยิ่งกว่านั้นยังพบว่ากระแสน้ำไหลวแรงเข้าสู่ส่วนลึกคล้ายถูกดูดด้วยกำลังอันมหาศาลซึ่งเป็นอันตราย ต่อนักประดาน้ำมาก และลักษณะการณ์เช่นนี้ทำให้น้ำบริเวณปากปล่องไหลวนเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการหมุนเป็นกรวยเหนือพื้นน้ำในลักษณะของวังน้ำวน ซึ่งสามารถจะดึงดูดเรือเล็กพร้อมด้วยคนบนเรือ ลงสู่ก้นอย่างรวดเร็ว

          อีกทฤษฏีหนึ่ง เป็นทฤษฏีเกี่ยวกับลมพายุทอนาโดซึ่งเกิดเป็นครั้งคราว จะกวาดเรือและเครื่องบิน ให้จมลงสู่ก้นมหาสมุทรได้ไม่ยาก พายุทอร์นาโดเป็นพายุหมุนปั่นเอาน้ำทะเลหมุนเป็นเกลียวสูงนับร้อยๆ ฟุตกลางอากาศและหากมันเกิดตอนกลางคืน เครื่องบินที่บินอยู่ระดับต่ำอาจถูกกระแทกตกลงสู่ทะเลได้ ก็เพราะนักบินไม่สามารถจะมองเห็นได้ในระยะไกล ส่วนเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ที่จมหายนั้น เชื่อว่าอาจจะเกิดจากกระแสคลื่นมหึมา ที่เป็นผลมาจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลก็ได้ เพราะคลื่นที่เกิดจากปรากฏการณ์เช่นนี้จะมีความสูงร่วมร้อยฟุตเลยที่เดียว

         ปรากฏารณ์อย่างหนึ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบินได้ คือ รผันแปรของอากาศอย่างทันทีทันใด ที่เรียกกันว่า "แค๊ท (Cat - clear air turbulenec)" โดยทั่วไปแล้ว "แค๊ท" จะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่อาจจะคาดคะเน หรือทำการพยากรณ์ได้เช่นเดียวกับลักษณะภูมิอากาศ โดยทั่วไปมันจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสภาวะอากาศ สาเหตุของปรากฏการณ์นี้ยังไม่ทราบกันแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าหากมันเกิดขึ้นขณะที่กระแสลมพัดแรงและรวดเร็ว จะทำให้เกิดสูญญากาศบริเวณนั้นทันที ซึ่งหากเครื่องบินได้บินเข้าสู่บริเวณของมันก็อาจจะตกดิ่งสู่ทะเลได้ง่าย แต่อย่างไรก็ดี การผันแปรวิปริตของบรรยากาศทันทีทันใดในลักษณะเช่นนี้นั้น จะต้องไม่ใช่สาเหตุการหายสาบสูญ ของเครื่องบินทุกลำใน-บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นแน่ เพราะปรากฏการณ์ "แค๊ท" จะไม่เป็นผลต่อการทำงานของเครื่องวัดต่างๆ และระบบการติดต่อทางวิทยุบนเครื่องบ แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุ จะปรากฏว่าการติดต่อทางวิทยุได้เงียบหายไป

          การแปรผันของสนามแม่เหล็กโลก ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกได้เช่นเดียวกัน เพราะมันจะทำให้เกิดการผิดพลาดในการทำงานของเครื่องวัดระดับ และเข็มทิศประจำเครื่อง ในกรณีเช่นนี้นักบินไม่มีความสามารถพอก็อาจจะนำเครื่องบินดิ่งลงสู่มหาสมุทรได้ ยิ่งกว่านั้นปรากฏการณ์ต่างๆ ทางธรรมชาติอีกมากมายที่เราไม่อาจจะอธิบาย-หรือทราบสาเหตุของมันได้

มีรูปให้ดูด้วย

   มีมนุษย์ต่างดาวปริศนา








.......................................................................
ถ้าสนุกก็เม้นโหวตกันได้นะค่ะ


PS.  สวัสดี princess luchia ค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

41 ความคิดเห็น

bew-chan 5 ธ.ค. 51 เวลา 16:51 น. 1

อู้ววว..เรื่องสามเหลี่ยมเมอร์บิวดานี่เราตามหามานานแล้ววว

ดีใจจัง ในที่สุดก็ได้อ่านซะที เย้ๆๆๆ

แต่เราเคยอ่านหนังสือบางเล่มมาอ่ะ

เค้าบอกว่าพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมเมอร์บิวดาเคยเป็นดินแดนแอตแลนติสมาก่อน

(รู้จักกันรึเปล่าอ่ะ) แล้วดินแดนนี้มีความเจริญมากๆ เมื่อสี่หมื่นปีก่อน

แล้วเกิดภัยพิบัติหลายอย่างขึ้นพร้อมกัน

ทำให้เกาะเเอตแลนติสจมหายไปทั้งเกาะ

บ้างก็เลยว่าเป็นอาถรรพ์ของเกาะแอตแลนติสที่จมหายไปบริเวณนี้

บ้างก็ว่าเป็นเพราะวิวัฒนาการอะไรไม่รู้ของคนที่อยู่ใต้น้ำ

งงกันเลยทีเดียวเชียว..

0
สนใจ 5 ธ.ค. 51 เวลา 17:52 น. 3

เค้าบอกกันว่าไม่พบแม้แต่คราบน้ำมัน เสื้อชูชีพเลยอ่ะ ถ้าตกแล้วน่าจะมีซากบ้าง

0
kawee-za 5 ธ.ค. 51 เวลา 19:03 น. 7

เราเคยยอ่านนหนังสือออเเว้ววววว

อาถรรพ์สามเหลี่ยมเบอร์มิววววด้า

เปนเรื่องที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้


PS.  อีกครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณฉันรออยู่ คนเคยรู้ใจคนเคยรู้จัก จำฉันได้ไหม เราเคยพลัดพรากกัน --(^___^)
0
LüPíN↔Tom 5 ธ.ค. 51 เวลา 19:17 น. 8

ค.ห.6  

ภาษาวิบัติหมดแล้ว

อ่านไม่ออกเลย - -"


PS.  The only wrong thing would be to deny what your hrar truly feels สิ่งที่ผิดพลาดเพียงสิ่งเดียว คือ การไม่ได้ทำตามที่หัวใจเรียกร้อง
0
123 5 ธ.ค. 51 เวลา 19:23 น. 9

สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นเรื่องที่ใครก็สรุปไม่ได้


แต่ ค.ห.6 มันเขียนซะภาษาวิบัติหมดเลย - -"

0
ton-var 5 ธ.ค. 51 เวลา 19:31 น. 10

เราเคยดูทีวีนะ มันเป็นรายการๆหนึ่งทางช่องเก้ามั้ง�เค้าสงสัยกันว่าเป็นเพราะโรงงานใหญ่ๆอะไรสักอย่างที่อยู่บริเวณนั้น มีการปล่อยพลังงานอะไรบางอย่างออกมา เป็นผลทำให้เกิดปรากฎการณ์แปลกประหลาดต่างๆ ที่เราพบกันน่ะ แต่พอไปตรวจสอบ ฝ่ายนั้นเค้าก็ไม่ยอมอ่ะ เลยไม่ได้อะไรคืบหน้าสักเท่าไหร่

0
Sponge&gt;&gt;BBB 5 ธ.ค. 51 เวลา 20:08 น. 11

บางเล่มก็บอกว่า สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เหมือน หลุมดำเลย

ถ้าถูกดูดลงไปแล้วก็จะไปโผล่ที่ อวกาศอ่ะ

น่าไปเที่ยวเนอะๆ ^O^

^_^

0
แวมไพร์กินน้ำหวาน 5 ธ.ค. 51 เวลา 20:40 น. 13
ชอบอะ
หาอ่านมานานและ
เออ.. เคยได้ยิ่นมาจากวงในอะ
ว่าเคยมีคนจะไปทำรายการเกียวกะ
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า 
แล้วพอเข้าไปอะ หมอกลงเลย
เค้าเลยหันหัวเรือกลับ
เพลาะกลัว เรือจะโดนดูดอะ

0
The killer heylie 6 ธ.ค. 51 เวลา 17:50 น. 15

เรื่องนี้มันนานมากเลยจ้า

มีในหนังสือนะ

เราเคยฟังตั้งแต่ตอนป.5

ตอนนี้ม.2แล้ว

หนังสือก้ซื้อมาแล้ว

อ่านแล้วสงสัยม้ากมาก

ว่ามันไปอยุ่ไหน


PS.  ใครรักฮีซอลคุยด้วยหน่อยๆๆๆๆๆ
0
ลูกแก้วจันทรา 7 ธ.ค. 51 เวลา 18:11 น. 18

แปลกดีน่ะ
หลุดไปไหนไม่รู้
เราอยากรู้จังว่าเขาหลุดไปอยู่ที่ไหน
ใครอยากรู้บาง?


PS.  จันทรา กับสุริยัน มิอาจเคียงคู่กันได้
0
❤ wdzkq 7 ธ.ค. 51 เวลา 19:08 น. 19

มันต้องไปดาวเฟอร์เซียนัทแน่ๆเลยอ่า 55 อ่านจากนิยาย
เรื่องมันเกิด ที่ว่า  ราเอลไปเที่ยวทะเลแล้วจู่ๆเรือก็ล่ม ราเอลก็ไปโผล่อยู่ใน สามเหลี่ยวเมอร์ริวด้า

ไปอยู่ในดาวเอร์เซียนัท อ๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากไปๆๆๆ

0
ข้าได้แต่หยามไม่ได้ 7 ธ.ค. 51 เวลา 19:51 น. 20

เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลย


PS.  หนึ่งร้อยปี ล้ำค่า ธารชีวิต สองร้อยปี ชีวิต นั้นอย่าหมาย สามร้อยปี นับจากวัน ที่ข้าตาย มีใครไหม เอ่ยชื่อข้า พาทำนอง
0