+++ประเทศ เฮติ กินดิน!!!!! เราโชคดีแค่ไหนเกิดบนแผ่นดินไทย+++
ในประเทศเฮติ คุณรู้ไหมว่า ชาร์ลีน ดูมัส สาวน้อยผู้ยากจนที่อาศัยอยู่ในสลัมกรุงปอร์โตแปรงซ์ กินอะไรเป็นมื้อกลางวัน
.. ถ้าได้ฟังคำตอบแล้วคุณอาจจะอึ้งด้วยความสลดใจ เพราะเธอต้อง กินดิน เป็นอาหารประทังชีวิต...
ราคาอาหารที่พุ่งขึ้นพรวดพราดทำให้คนยากจนในเฮติไม่สามารถแม้แต่จะหาข้าวเพียงแค่จานเดียวมาลูบท้องได้ บางคนเลยต้องดิ้นรนหาทางออกที่สิ้นหวังเพื่อเติมเต็มกระเพาะที่ว่างเปล่า
ชาร์ลีน สาวน้อยวัย 16 ซึ่งมีลูกชายอายุหนึ่งเดือนแล้วคนหนึ่ง ต้องหันมาพึ่งพิงวิธีประทังความหิวแบบโบร่ำโบราณของเฮติ นั่นคือ การกินคุ้กกี้ที่ทำด้วยดินเหลืองจากที่ราบสูงทางตอนกลางของประเทศ
ดินชนิดนี้ถูกใช้เป็นยาลดกรดในกระเพาะ รวมถึงเป็นแหล่งแคลเซี่ยมของผู้หญิงท้อง และเด็กๆชาวเฮติมานมนานแล้ว แต่ในสถานที่หลายๆแห่ง อาทิ ในสลัมไซต์ โซลีลที่ชาร์ลีน และลูกน้อยอาศัยอยู่ในบ้านขนาด 2 ห้องร่วมกับพี่น้อง 5 คน และพ่อแม่ที่ตกงานอีก 2 คนแล้ว คุ้กกี้ที่ทำจากดิน เกลือ และผักชนิดนี้ได้กลายมาเป็นอาหารประจำวันไปแล้ว
ชาร์ลีน บอกว่าเวลาที่แม่ของเธอไม่ได้ทำกับข้าว เธอต้องกินคุ้กกี้ดินเป็นอาหารวันละ 3 มื้อเลยทีเดียว ส่วนลูกน้อยของเธอที่ชื่อว่า "วู้ดสัน" นั้นนอนนิ่งอยู่บนตักของชาร์ลีน ดูผอมลงเล็กน้อยกว่าเมื่อช่วงแรกเกิดที่มีน้ำหนัก 2.8 กิโลกรัมเสียอีก
ถึงแม้ว่าเธอจะชอบรสชาติที่เหมือนเนยแล้วก็ออกเค็มของคุ้กกี้ชนิดนี้ แต่ชาร์ลีนบอกว่าคุ้กกี้ดินทำให้เธอปวดท้อง แถมเวลาที่เธอให้นม "วูดสัน" ก็ดูเหมือนว่าบางครั้งลูกน้อยก็จะมีอาการจุกเสียดด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ราคาอาหารในประเทศหมู่เกาะแถบทะเลแคริบเบียนบางแห่งนั้นพุ่งขึ้นมากถึง 40% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะน้ำท่วม ทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากฤดูเฮอร์ริเคนเมื่อปีที่แล้ว จนทำให้องค์การอาหารและเกษตรกรรมแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในเฮติ และอีกหลายประเทศในภูมิภาคเดียวกัน
ทางด้านบรรดาผู้นำประเทศแถบแคริบเบียนเองก็ได้จัดการประชุมฉุกเฉินขึ้นในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเพื่อหารือกันเรื่องลดภาษีอาหาร และสร้างฟาร์มประจำภูมิภาคขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อลดการพึ่งพิงสินค้านำเข้า
ที่ตลาดในสลัมลา ซาลิเนส ข้าว 2 ถ้วยวางขายกันอยู่ที่ 60 เซนต์สหรัฐ มีราคาเพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนธันวาคม 10 เซนต์ และเพิ่มขึ้นจากช่วงหนึ่งปีที่แล้วถึง 50% เลยทีเดียว ส่วนราคาถั่ว นมข้นหวาน และผลไม้ก็ขึ้นในอัตราเท่าๆกัน แม้แต่ราคาของดินที่กินได้ยังขยับขึ้นเกือบ 1.50 ดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบัน ราคาดินที่นำมาทำคุ้กกี้ 100 ชิ้นนั้นสูงถึง 5 ดอลลาร์ หรือเฉลี่ยชิ้นละประมาณ 5 เซนต์ก็ยังนับว่าถูกอยู่ดีเมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่น
พ่อค้าจะขับรถบรรทุกขนดินจากเมืองฮินเช ทางภาคกลาง มายังตลาดแล้วพวกผู้หญิงก็จะซื้อดินไปทำคุ้กกี้ โดยจะแบกถังบรรจุดิน และน้ำขึ้นบันไดไปยังหลังคาตึกที่เคยเป็นคุกเก่ามาก่อน แล้วไปคลุกเคล้าส่วนผสม หยอดดินเป็นชิ้นคุ้กกี้ แล้วตากแดดที่ร้อนระอุจนแห้งสนิท
คุ้กกี้ที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถูกจัดใส่ถังแล้วแบกกลับไปวางขายที่ตลาด หรือไม่ก็วางขายกันตามถนน
นักข่าวที่ลองกินคุ้กกี้ดูพบว่าเนื้อเหนียวละมุน แต่จะดูดเอาความชื้นทั้งหมดภายในปากออกมาทันทีที่ลิ้นแตะชิ้นคุ้กกี้ แถมรสชาติอันไม่พึงประสงค์ของดินจะยังอบอวลอยู่ในปากต่อไปเป็นเวลานานหลายชั่วโมงเลยทีเดียว
สำหรับเรื่องของผลกระทบจากการกินคุ้กกี้ดินนั้น ผลการประเมินออกมาหลากหลายมาก เจอรัลด์ เอ็น คัลลาฮาน ผู้วชาญด้านระบบภูมิคุ้มกันจากมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโดในสหรัฐซึ่งศึกษาเรื่องการกินดินเป็นอาหารกล่าวว่า ดินอาจมีปรสิตหรือสารพิษที่ทำให้ถึงตายได้ แต่ก็อาจทำให้ภูมิคุ้มกันโรคบางชนิดของทารกในครรภ์แข็งแรงขึ้นได้เช่นกัน
ขณะที่แพทย์ชาวเฮติเองกล่าวว่าการกินคุ้กกี้ดินเป็นอาหารอาจเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารได้
แต่ชาวเฮติก็โต้ว่า "ฉันหวังว่าซักวันหนึ่งจะมีอาหารพอกิน จะได้หยุดกินดินพวกนี้เสียที ฉันรู้หรอกน่าว่ามันไม่ดีต่อตัวเอง"
พูดง่ายๆก็คือไม่มีใครอยากกินดินกันหรอก แต่พวกเขามีทางเลือกอื่นนอกจากนี้หรือ
ขอบคุณ สีแดงดอทคอม คับ
PS. I'm trying to reach you And I'll keep dialing till I get through You know I'm dying to see you And I can't make it on my own ... ; >,< ..........................................
17 ความคิดเห็น
โห จริงๆเลยอ้ะ
T^T น่าสงสารมาก
คนที่ฟุ่มเฟือย ควรนึกถึงคนที่ไม่มีอะไรกินกันบ้าง
PS. ~ Aisuru Aishiteru ~
น่าสงสารจังเลยยยย กินดิน แง๋
พวกกินข้าวมื้อละเป็นพันควรดูไว้ !!
โลกนี้ช่างไม่เท่าเทียม
น่า สงสารอ่ะ T^T
T^T
เราเกิดมามีพร้อมทุกสิ่งก็ดีแค่ไหนแล้วววว
TOT
PS. หากความรักความหวังดังแสงฉาน นานเท่านานแสงจะฝ่าลงมานี่.. ////
จงภูมิใจเถิดที่เกิดเป็นไทย
จงภูมิใจที่คุณมีข้าวกันจนถึงทุกวันนี้
จงรู้จักคุณค่าของเงิน
จงอย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
สงสารเค้าอ่ะ แบบเรากินกันฟุ่มเฟื่อย
แต่เค้ากลับเรียกได้ว่าแทบไม่ได้ิกิน *
T^T น่าสงสาร จัง อ่ะ ไม่มีใครอยากเป็น แบบนี้ หรอก ชะนั้น กิน ข้าว อย่า เหลือกันนะ ทุกคน : ))
แต่มีคนไทยบางกลุ่มกินหญ้าในทำเนียบ เสร็จแล้วไปกินที่สนามบินต่อ อร่อยยย
เพราะฉะนั้นเวลาที่กินข้าวเหลือ กินทิ้งกินขว้างอ่ะ ลองนึกถึงพวกเขาเหล่านี้ ก่อน
UN อยู่ไหนคะ
น่าสงสารจังเลยเดียวรออาตมาภาพถูกหวยก่อนจะส่งตังไปให้
โกทังคัตตะวาสุขังเสติ ...... เราฆ่าความโกทได้ย่อมเป็นสุข.....เซื่ออาตตมาเดียวจอสดับเบ้อนยูบูสไปซ่อย เด้อ อิอิ ..........
อ่านแร้วสลดใจมากจิงๆ  จาทำไงถึงจาช่วยพวกเขาได้นะ  ขอให้เลิกกินดินละกันนะ  หรือไม่ก็ตอนขุดดินขึ้นมา ขอให้เจอทรัพสมบัติมหาศาลเรย พูดจิงจากใจไม่พูดเล่น แต่ความคิดอาจจาติ๊งต๊องไปหน่อยนะ
ขอให้คนไทยเรารักชาติไทยมากๆถือว่าเรามีบุญวาสนาที่สุดที่ได้เกิดใต้ร่มพระโพธิสมภารและพระบารมีพ่อหลวงของเรารักพระองค์เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
อืม....มันน่าเศร้าใจจริงๆนะ
เราอ่านกันแล้วก็ขอให้คิดตามนะ
เราเองอดข้าวเมื้อนึงยังหิวจนมือสั่นเลย
ถ้าอยู่ใกล้กันเราจะแบ่งข้าวเราให้เขากินด้วยจริงๆนะ
น่าสงสารจังครับต้องภูมิใจตามมาที่ได้เกิดเถาะครับ
ขอคุณพระเจ้าที่เราเกิดมาอยู่ในประเทศที่ไม่ต้องลำบากเหมือนกับเขา  แ่เขาคงเลือกเกิดไม่ได้เหมือนกัน น่าสงสารจิง
ก็ไม่น่าจะต้องไปสงสารอะไรเลยนี่นา ที่บอกว่ากินดินประทังชีวิตนะเหรอ อยู่บ้านเราก็มีกัน
การกินดินเป็นเรื่องธรรมชาติเพราะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะพบได้บ่อยมาก
แล้วดินที่กินเข้าไปก็ไม่อันตรายเลย แถมยังมัน หอม จืดๆหวานๆ อีกด้วย
แล้วมันก็ยังไม่ขาดสารอาหารอีกด้วยแถมยังทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นด้วย
กินดิน 10 กรัม = โปรตีน 1000 กรัม และยังได้รับแร่ธาตุอื่นๆ แล้วคนทีที่กินดินยังอายุยืนด้วยนะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?