Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มารู้จักกับสาขาของวิศวกรรมศาสตร์ จุฬากัน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

มารู้จักกับ " สาขา " ในคณะวิศวกรรมศาสตร์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 สาขาวิศวกรรมเคมี
       
วิศวกรเคมีเป็นผู้ออกแบบ สร้าง ดำเนินการ รวมถึงแก้ปัญหาและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ในโรงงานเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กรด สีย้อม ยา พลาสติก ยางสังเคราะห์ ฯลฯ โดยใช้ปฏิกริยาเคมีที่ถูกศึกษาในห้องทดลองมาประยุกต์ใช้ ให้ได้ผลิตภัณฑ์ตามที่ต้องการ วิศวกรรมเคมีมีความแตกต่างจากวิทยาศาสตร์เคมีตรงที่วิทยาศาสตร์จะศึกษาลึกลงไปในส่วนของปฏิกิริยาเคมีหรือสมบัติของสาร เน้นในทางทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ แต่วิศวกรรมเคมีจะนำความรู้ที่นักวิทยาศาสตร์ศึกษามาแล้วนั้นไปประยุกต์ใช้งานให้เห็นผลจริง

 สาขาวิศวกรรมโยธา
       
นิสิตจะได้รับความรู้ทั้งด้านการวางแผน การวิเคราะห์ การออกแบบ และการก่อสร้างอาคาร สะพาน ฐานราก โครงสร้างใต้ดิน การบริหารการก่อสร้าง และการขนส่ง (Logistic) อีกด้วย วิศวกรโยธาสามารถทำงานในด้านต่างๆ ได้เช่น บริษัทวิศวกรที่ปรึกษารวมถึงตรวจสอบและควบคุมการก่อสร้าง บริษัทรับเหมาก่อสร้าง หรือรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐ

 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
       
วิชาที่ต้องเรียนในภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มทางทฤษฎี กลุ่มทางซอฟต์แวร์ กลุ่มทางฮาร์ตแวร์ และกลุ่มทางระบบสารสนเทศ การเรียนจะผสมผสานไปด้วยการออกแบบและการวิเคราะห์ไปว่าจะเป็นทางซอฟต์แวร์ ฮาร์ตแวร์ และระบบสารสนเทศ

 สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม

       วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมแบ่งวิชาที่ศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม คือ สาขาวิศวกรรมสุขาภิบาล ซึ่งจะเน้นงานออกแบบและควบคุมการก่อสร้างระบบทางสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านวิศวกรรมโยธา สาขาควบคุมมลภาวะ เน้นหนักทางด้านงานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมยุคใหม่ ซึ่งมีขอบข่ายที่กว้างขวางและต้องใช้ความรู้หลายๆ ด้านเข้าแก้ปัญหา เช่น ด้านเคมี ชีวิวิทยา ซิศวกรรมเครื่องกล วัสดุศาสตร์ การจัดการ การผลิต การวางแผน เป็นต้น ดังนั้นสาขานี้จึงออกแบบมาเพื่อผลิตนิสิตที่สามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

 สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า
       
ศาสตร์ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า มีขอบข่ายที่กว้างขวางมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการวิเคราะห์ ออกแบบ ประยุกต์ และควบคุมสิ่งประดิษฐ์และระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้กระแสไฟฟ้า นอกจากนั้นยังเกี่ยวกับเทคโนโลยีระบบสื่อสาร โทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ โดยวิศวกรรมไฟฟ้าแบ่งการเรียนการสอนออกเป็น 4 สาขาหลักๆ คือ สาขาไฟฟ้ากำลัง สาขาไฟฟ้าสื่อสาร สาขาไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และสาขาระบบควบคุม

 สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่
       
จะแบ่งเป็น 3 สาขาหลักๆ คือ สาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการสำรวจหาแหล่งแร่ การประเมินคุณภาพแร่ การวางแผนการทำเหมืองในรูปแบบต่างๆ การควบคุมการทำเหมืองแร่ และการใช้อุปกรณ์ชนิดต่างๆ ในการแยกแร่ สาขาวิศวกรรมทรัพยากร จะเรียนเกี่ยวกับการนำทรัพยากรต่างๆ ที่ใช้แล้วนำกลับมาสู่กระบวนการแยกแร่ แล้วนำไปใช้เกป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตต่อไป สาขาวิศวกรรมอุทกธรณีวิทยา จะเรียนเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล

 สาขาวิศวกรรมปิโตรเลียม
       
ศึกษาเกี่ยวกับการสำรวจ ค้นหา วิเคราะห์ปริมาณของแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการออบแบบหลุมปิโตรเลียม วิธีการขุดเจาะ และกระบวนการผลิตน้ำมัน งานของวิศวกรปิโตรเลียมจะแตกต่างจากปิโตรเคมีตรงที่ปิโตรเคมีจะเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้จากการแยกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ เช่น การทำเม็ดพลาสติก การผลิตก๊าซ LPG แต่วิศวกรปิโตรเลียมจะทำงานเกี่ยวกับการขุดเจาะ ผลิต และศึกษาแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ

 สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
       
เป็นการรวมศาสตร์ทางวิศวกรรมหลายแขนงผสมผสานเข้ากับแนวคิดทางธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ดังนั้นวิศวกรรมอุตสาหกรรมจึงสามารถประยุกต์ใช้กัยธุรกิจได้ทุกประเภท ไม่เฉพาะแต่การเป็นวิศวกรโรงงานเท่านั้น หน้าที่หลักของวิศวกรอุตสาหกาคือ การวางแผนการผลิต แหล่งวัตถุดิบ ตลาด แนวโน้มการตลาด แผนผังโรงงาน การควบคุมความปลอดภัย การควบคุมคุณภาพ เป็นต้น

 สาขาวิศวกรรมโลหการและวัสดุ
       
นอกจากจะศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านโลหะแล้ว หลักสูตรปัจจุบันยังครอบคลุมถึงวัสดุอื่นที่ไม่ใช่โลหะ ได้แก่ พอลิเมอร์ และเซรามิกส์อีกด้วย วิศวกรโลหการจะเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านการผลิตโลหะและวัสดุต่างๆ การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะกับสภาพงาน การปรับปรุงคุณสมบัติของวัสดุเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของวิศวกรสาขาอื่น จึงอาจจะกล่าวได้ว่างานของวิศวกรโลหการเป็นพื้นฐานของอุตสาหกรรมทั้งหมดก็ว่าได้

 สาขาวิศวกรรมเครื่องกล
       
เป็นศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานในการออกแบบ พัฒนา และผลิตอุปกรณ์ที่เป็นต้นกำลัง ถ่ายทอดกำลัง และใช้กำลัง การศึกษาวิศวกรรมเครื่องกลแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ ด้านพลังงาน ความร้อน และของไหล และลักษณะที่สองคือ ด้านการเคลื่อนไหว โครงสร้าง และการควบคุม

 สาขาวิศวกรรมยานยนต์
       
วิศวกรรมยานยนต์มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อผลิตบุคลากรออกไปทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนในประเทศ ดังนั้นนิสิตจึงได้ศึกษาเกี่ยวกับรถยนต์โดยเฉพาะ ทั้งโครงสร้างภายนอกและภายใน นอกเหนือจากวิชาพื้นฐานทางวิศวกรรมเครื่องกล

 สาขาวิศวกรรมเรือ
       
เป็นการศึกษาเกี่ยวกับเรือโดยเฉพาะ โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ Navai Engineering ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบตัวเรือและกระบวนการต่อเรือ Marine Engineering ศึกษาเกี่ยวกับระบบภายในของเรือ การวางผังแหล่งกำเนิด การระบายอากาศ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความปลอดภัยของเรือด้วย

 สาขาวิศวกรรมสำรวจ
       
นอกเหนือจากการศึกษาเกี่ยวกับการรังวัดทั่วไปจนถึงการรังวัดด้วยดาวเทียมและเรื่องการทำแผนที่แล้วยังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของ Geoinformatic Engineering ซึ่งเป็นการศึกษาที่นำไปใช้กับระบบ GPS หรือระบบติดตามด้วยดาวเทียม ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดงานในขณะนี้และในอนาคต

ที่มา www.eduzones.com 

อย่าลืมเม้นด้วยเน้อ

แสดงความคิดเห็น

>

17 ความคิดเห็น

*0* 28 ม.ค. 52 เวลา 11:05 น. 6

รักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆรักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
**********************นัท***********************
**********************ทิว***********************
รักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก7

0
ICezing-ice 29 เม.ย. 53 เวลา 01:30 น. 8

><"
อยากเข้าปิโตรฯ
แต่รู้มาว่าต้องเกรดสูงมากๆ

เศร้าล่วงหน้า T^T


PS.  ฝนพรำ~ หยดน้ำก็โปรยลงถนน ทำให้ทุกคนหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครก้าวเดินไป :)) icestamp'
0
May 12 พ.ค. 55 เวลา 11:53 น. 15

หนูเป็นผู้หญิงที่อยากเรียนวิศวะกรรมโยธา(จุฬา)มากๆค่ะ ตั้งใจไว้ว่าพอเรียนจบจะไปเป็นดีไซน์เนอร์ออกแบบบ้านออกแบบอาคาร แต่พ่อกับแม่หนูอยากให้หนูไปเรียนหมอแบบพวกรักษาชีวิตคนไข้อะไรประมาณนี้ หนูควรเรียนตามที่พ่อแม่เลือกให้หรือจะเรียนตามที่ตัวเองใฝฝันดี ตอนนี้หนูเป็นเด็กม.ต้นอีกไม่นานก็จะขึ้นม.4 นั่งคิดเรื่องนี้มาสามปีแล้วค่ะ เครียดมากๆ แล้วก็เคยลองคิดว่าถ้าเรียนหมอตามพ่อแม่จะเลือกเรียนสาขาจิตวิทยา แต่โดนพ่อด่ากลับบอกว่าพวกหมอจิตวิทยาส่วนใหญ่ก็โรคจิตไม่ต่างจากคนไข้เพียงแต่ไม่รู้ว่าตัวโรคจิต(T^T แต่มันก็รักษาคนไข้เหมือนกันนิ) ตอนนี้คิดมากจนรู้สึกว่าตัวเองจะเริ่มโรคจิตจริงๆแล้ว พยายามที่จะปลงๆไปบ้าง แต่ก็ยังแอบเครียดอยู่ดี TOT ใครที่เข้ามาเห็นข้อความนี้ ก็อยากให้ช่วยแนะนำด้วย ขอบคุณมากค่ะ 

0
Nine 8 ก.ค. 55 เวลา 16:41 น. 16

ทำตามสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุขดีกว่าครับ แล้วเราก็ต้องพิสูจให้พ่อแม่เห็นว่าเราก็ทำได้
เพราะถ้าทำสิ่งที่มีความสุขย่อมออกมาดีกว่าทำแล้วเป็นทุกข์นะครับ

0