Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

>>> ความเชื่อของคนภาคเหนือ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
             ความเชื่อของคนภาคเหนือ


“ผี” (ghost)เป็นรูปแบบทางความคิดและเชื่อที่มีปรากฏอยู่ในพื้นที่ต่างๆทั่วทุกมุมโลกมาเป็นระยะเวลาเนิ่นนานแล้ว ในประเทศไทยของเราเองก็ปรากฏว่ามีความเชื่อในเรื่องอันเกี่ยวเนื่องกับผีอยู่ทุกภาค บ้างก็เชื่อกันว่าผีนี้มีทั้ง “ผีดี”, “ผีบรรพบุรุษ”(ancestor worship) และ “ผีร้าย”(demon worship) ผีดี,ผีบรรพบุรุษ เช่น “ผีปู่ย่า”ของทางภาคเหนือ “ผีปู่ย่าตายาย”ของทางภาคกลาง “ผีปู่ตา”ของทางภาคอีสาน “ผีตายาย”ของทางภาคใต้ เป็นอาทิ ทางภาคเหนือของประเทศไทยเรานี้ก็มีความเชื่อเกี่ยวกับผีอยู่อย่างหลากหลายจำพวก และหนึ่งในกระบวนที่เป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนานนั้นก็คือผีชนิดหนึ่งที่ชาวไทยภาคเหนือเรียกขานกันว่า “ผีโป๊กกะโหล้ง”  ผมเคยเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆในภาคเหนือของประเทศไทยหลายครั้ง และเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่ของที่นั่นเล่าขานตำนานและความเชื่อในเรื่องของผีโป๊กกะโหล้งกันว่า ผีโป๊กกะโหล้งเป็นผีที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยในป่าทึบของทางภาคเหนือ มันมีรูปร่างใหญ่โตพอๆกันกับคนปกติธรรมดาโดยทั่วไปแต่ไม่ใส่เสื้อผ้าประมาณว่าเป็นคล้ายๆกับชีเปลือย และผีตองเหลือง   หน้าตาน่ากลัวไว้ผมยาวรุงรัง มีทั้งเพศชายและเพศหญิง กินกุ้งหอยปูปลาและสัตว์เล็กๆในป่าเป็นอาหารโดยจะกินกันแบบสดๆดิบๆ ผีโป๊กกะโหล้งเคลื่อนไหวตัวได้อย่างรวดเร็วละเบามาก เชื่อกันว่าไม่มีใครสามารถไล่จับหรือไล่ตามมันได้ทัน นอกจากนี้มันยังชอบหลอกล่อคนที่เดินป่าโดยการทำเสียงประหลาดๆในยามค่ำคืนให้คนตกใจกลัวเล่น อีกทั้งมันยังชอบหลอกให้คนเดินหลงทางเข้าไปในป่าลึก บางคนเดินจนหัวหมุนกว่าจะกลับออกจากป่ามาได้ก็มี จึงมีกฎข้อห้ามอยู่ข้อหนึ่งยามเดินป่าอันถือเป็นความเชื่อของชาวไทยภาคเหนือว่า ห้ามเรียกชื่อกันในป่าเพราะเชื่อว่าหากเรียกชื่อกันในป่าแล้วจะทำให้ผีโป๊กกะโหล้งจำเอาไปแกล้ง เช่น ทำเสียงหลอกเจ้าของชื่อให้หลงเชื่อจนเดินตามหลงทางเข้าสู่ป่าลึกได้ เป็นต้น แต่ผีโป๊กกะโหล้งก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง เช่น เชื่อกันว่ามันเป็นผีที่ช่วยปกป้องคุ้มครองป่าเขา ช่วยดลบันดาลให้ฝนตกยังผลให้แม่น้ำและป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า เป็นต้น


  • มื้อจั๋นวันดี   สำหรับชาวเหนือก่อนจะปลูกเรือน ฤกษ์งามยามดีเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเชื่อกันว่า หากปลูก

เรือนใน  "มื้อจั๋น วันดี"  คือฤกษ์ที่เหมาะสมแล้วผู้อยู่อาศัยย่อมมีความสุขความเจริญและอยู่เย็นเป็นสุขและครอบคลุมถึง
การหาฤกษ์ยามดีในขั้นตอนการปลูกเรือนอื่น ๆ เช่น เข้าป่าหาไม้มาทำเสาเรือน   ขุดหลุมฝังเสา   ยกเสา  เป็นต้น

การเข้าป่าตัดไม้ทำเสา    ตามคติโบราณจะกำหนดช่วงเวลาที่เป็นมงคลเอาไว้ว่าควรจะตัดไม้ในเดือนใดเมื่อ
ตัดไม้แล้ว หากไม้ล้มไปในทิศใดจะมีข้อความทำนายว่าควรนำเอามาทำเป็นเสาเรือนหรือไม่และหากไม้ไปพาดกับ
ต้นไม้อื่นไม่ควรนำมาสร้างเรือน

  • พิธีเสี่ยงทายในการตั้งบ้านใหม่   เพื่อหาบริเวณปลูกเรือนที่เป็นมงคล โดยวิธีเสี่ยงทาย ใช้ใบฝาแป้ง  8  ใบ

ห่อของ  8  อย่าง จัดพานข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน นำไปยังที่ที่ต้องการจะปลูกบ้านตั้งเรือนเสี่ยงทายจับห่อสิ่งของ 1 ห่อ
เมื่อทำพิธีในบริเวณนั้นได้ห่อที่ไม่ดีก็ย้ายเสี่ยงทายในบริเวณอื่นๆสิ่งของเสี่ยงทายนั้นเป็นของที่มีสัญลักษณ์ทั้งสิ้นและ
มีความหมายถึงการดำเนินชีวิตภายหลังจากเข้าไปอยู่ในเรือนที่ปลูกในบริเวณที่เสี่ยงทายแล้วอาทิ ถ้าหากได้ห่อดิน
กระทำสิ่งใดจะสัมฤทธิ์ผลได้ห่อข้าวเปลือกจักอยู่สุขสวัสดิ์ ได้ห่อลูกหิน จักอยู่ดีมีสุข   ได้ห่อดอกไม้ จักมีชื่อเสียงได้
เกียรติยศ  เป็นต้น

  • โฉลกเสาเรือน   เมื่อหาเสาเรือนครบ   ช่างไม้จะเป็นผู้ปรุงเครื่องเรือน   โดยจะกำหนดความสูงและขนาด

ของเรือน ขณะตัดเสาก็กล่าวคำโฉลกให้ได้คำที่ดีเป็นสิริมงคล

  • พิธีขุดหลุมเสาเรือน   ก่อนจะขุดหลุมเสาเรือนต้องทำพิธีขอที่ดินกับพญานาคเพราะมีความเชื่อกันว่า

พญานาคเป็นสัตว์มีอิทธิฤทธิ์เป็นเจ้าแผ่นดินอำนวยความสุขหรือภัยพิบัติให้มนุษย์ได้  ฉะนั้นก่อนที่จะทำการอัน
เป็นมงคลเกี่ยวกับการสร้างบ้านปลูกเรือนจะต้องบูชาเซ่นสรวงผู้ที่เป็นเจ้าที่ดินเสียก่อนแล้วจึงทำพิธีขุดหลุมเสา
เรือนตามทิศที่เหมาะกับวัน

  • พิธีตัดเสาข่มนางไม้   การตัดไม้เสามาทำเป็น "เสามงคล" หรือ "เสานาง"  นั้น  เพื่อจะให้เสามงคลเป็น

เสาที่มี อาถรรพ์ และศักดิ์สิทธิ์เป็นมงคลสำหรับตัวเรือนจริง ๆ และกันมิให้เสาตกมัน จึงมีการทำพิธีตัดและเกลา
เสา การทำพิธีตัดเสานั้น  ต้องหา "สล่า" หรือช่งไม้ที่มีความเข้าใจชำนาญในทางศาสตรเภท คือ การแก้เสนียดจัญไร
อันเกิดจากไม้เสานั้น ต้องมีการตั้งขันคือการยกครูของภาคกลางเมื่อตั้งขันแล้วสล่าหรือปู่อาจารย์ก็ทำพิธีตัดเสาตาม
ตำราคือเสกขวานหรือมีดที่จะใช้ฟันก็ว่าคาถากำกับด้วยเป็นการข่มนางไม้ เมื่อเสร็จพิธีก็เอาไม้นั้นมาทำเป็นเสามงคล
หรือเสาเอก            

  • พิธีปกเฮือน   ครั้นได้ฤกษ์จะลงมือปลูกบ้านวันใด จึงทำพิธีปลูกบ้านหรือ "ปกเฮือน"  การปลูกเรือนมักเริ่ม

ทำกันแต่เช้าตรู่ ทำพิธียกเสามงคลและเสานางตลอดจนเสาอื่น ๆ ที่ได้เตรียมไว้ตรงปากหลุมแล้วช่างหรืออาจารย์ จะ
ทำพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่เพื่อให้การทำงานครั้งนี้ลุล่วงไปด้วยดี

  • พิธีทำขวัญเสามงคล  เมื่อทำพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่เสร็จเรียบร้อยจึงทำ " พิธีทำขวัญเสามงคล"   ตามตำราโบราณ

ถือว่าเสามลคลเป็นพญาของเสาทั้งปวง เสามงคลเป็นเสาพ่อ เสานางเป็นเสาแม่อยู่คู่กัน จึงมีพิธีเรียกร้องขวัญไว้ คำ
เชิญขวัญนิยมเลือกหาผู้ที่จะว่าเชิญเชิญขวัญได้ไพเราะเตรียมเครื่องเพื่อประพรมและผูกเสามงคลเมื่อถึงฤกษ์ยกเสา
มงคลเป็นเสาแรกและยกเสานางเป็นเสาที่สอง

  • พิธีฝังเสามงคลหรือเสานาง   ให้คนที่มีชื่อ " แก้ว คำ เงิน ทอง มั่น แก่น " มาเป้นผู้ช่วยหามเสาและยกเสา

ลงหลุม เพื่อจะได้ เป็นมงคลแก่เจ้าของบ้าน ก่อนที่จะฝังหาใบเต๊า ใบหนุน ใบดอกแก้ว ใบตันมากรองหลุมทุกหลุม
เพื่อเป็นคติว่าจะได้ช่วยค้ำจุนให้บ้านเรือนหลังนั้น มีความเจริญรุ่งเรือง

เสามงคลและเสานางนี้ คนโบราณถือมากในเรื่องการปรนนิบัติรักษา และเชื่อว่าจะต้องรักษาความสะอาด
อยู่เสมอผู้ใดจะปัสสาวะรดหรือทำสกปรกไม่ได้ บางแห่งจะมีหิ้งติดไว้ทางหัวนอนและมีดอกไม้ธูปเทียนบูชาด้วย
เมื่อเสร็จพิธีปลูกเรือนแล้วจากนั้นสัก 3 หรือ 7 วัน จึงทำการมุงหลังคาและส่วนอื่น ๆ และดูฤกษ์ยามเพื่อขึ้นบ้านใหม่


คนขอมานะคะ  หามาให้แล้วค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

ดกอjh 2 มี.ค. 60 เวลา 17:00 น. 13

กูใส่หมวกขาว -เีห้ยพวกคนเหนือ ลำปาง ลำพูน -พวกคนเลว คนร้ายกาจ ปากร้าย ปากขจัด ชอบจ้องมองคนเหมือนมารปีศาจร้าย อีพวกพ่อค้าแม่ค้า -พวกคนขายของบนรถไฟ -พวกสัคว์นรกมาเกิด -พวกไร้การศึกษา ช้น่ ต่ำ -พวก-ขายของบนรถไฟ แม่ง- หมาหมุ่ -พวกอีตัว สำส่อน พวกรกประเทศ หนักแผ่นดิน เหมือนอีสาน พวก-จำไว้ -พวก-ที่มีเร้ื่องกับกูทุกคัว กูเป็นเทวบุตรมาร มีอำนาจบารมี กูเล่นมาแล้วหลายราย ใครที่มีเรื่องกับกู กุได้ใชั้อำนาจบารมีกำจัดพวกมัึงทิ้งแน่ ระวังตัวพวก- ครอบคัรัว และภาค-ให้ดี กูจะเล่นงานพวกมึคง ไม่ว่ากูจะใช้อำนาจบารม่ีหรือไม่ แต่ใครที่มมีเรื่องกับกู ต้องเจอทุกข์และปัญหาหนัก และฉิบหายวายวอดทุกตัว และโดนมาหลายรายแล้ว จำไว้ให้ดี ว่ากูเป็นใคร ถ้าอยากใหญ่อวดดีมีเรืงอกับกูก็มาเลย กูเล่นพวก-หมดแน่ -พวกสัคว์นรกพ่อค้าแม่ค้าบนรถไฟ และ-เ-้ยคนลำปาง ลำพูน และเหนือััทังหมด กล้าอวดดีลองดีกับกู ได้เจอดีกับกูแน่่ กุไม่ปล่อยพวก-แน่ ได้เล่นงานพวก-ให้ฉิบหายวายวอดแน่่ -พวกมารปีศาจมาเกิด หมาหมู สั้นดานเลว ไม่เคยเปล่ี่ยน ไม่เคยร้อะไรดีเลวทำแต่เรื่องโงและเลวเหมือนควาย ไม่เคยเปลี่ยนสันดานชัว หนักแผ่นดิน ไปตายซะ อยี่าอยู่ให้รกประเทศ รกโลก เลยตายไปก็สร้างบาปกรรมต่อ ตายไปก็ลงนรกอเวจีนะพวก- -พวกเปรตอสุูรกายมาเกิดดดดดดดดดดดดดดด

0
ดกอjh 2 มี.ค. 60 เวลา 17:01 น. 14

กูเป็นเทวบุตรมาร มาสร้้างบารมีสิบทัศ และขึั้นโพธิสั้คว์ กูมีเทพที่มีอำนาจบารมีจะเล่นงานพวก-คนเลวชี่วได้หมด ระวังไว้ให้ดีี

0
ลองอ่านดูก่อนค่ะ 24 ธ.ค. 60 เวลา 20:22 น. 15

ผมเข้ามาเล้าอะไรให้สักครู่

ถ้าคุณเจอ พวกผีวิณญาณ

สิ่งที่ พวกคุณควรทำ คือ การ

แผ่เมตตาเป็นหลัก ผี ที่เข้ามา

ยุ่งกับคนนั้น เขามีความทุกข์

มาพึงร้อน จึงจำเป็นต้องแผ่

เมตตา และ ตักบาตร์ทำบุญ

แผ่เมตตาไปตามปรกติ ถ้า

เขาต้องการมากกว่านี้ ควรให้

ไปอย่างๆ ผีชอบเครื่อง เช่น

หลังจากถวายเครื่องเช่น ไป

แล้วรสชาติของเครืองเช่น ก็

จะหายไป เป็นสิงที่น่าแปลก

ถ้าปลอกและหันเป็นชิ่นๆ ใน

ตู้เย็นรสชาติ ไม่หายไปไหน

เลยพอนำไป เช่น อย่างถูกวิธี

ด้วย รสชาติหายไปและจืดชืด

ฉันไดก็ฉันนั้น เมื่อมีกายหยาบ

ย่อมต้องมีกายละเอียด ชึ่งตรง

นี้ดันไปตรงกับหลัก ฟิคสิกวิท

ยา และ หลักธรรม ของพระ

อภิธรรม พระไตรปิกฏ ล้วนๆ

ชึ่งตรงจุดนี้ เชื่อ-ไม่เชื่อ มันจึง

ไม่เกียว แต่เพราะมันอยู่บน

โลกแห่งความจริง คนที่เป็น

สายวิทย์ กรุณาเจาะจงด้วย

ว่าคุณเป็นวิทย์สายไหน สาขา

อะไร คุณอยู่บนโลกความจริง

หรือมองในมุมมองชีวิตของตัว

คุณเอง หนึ่งชีวิตเปรียบเสมือน

แผ่นกระจกบางๆ ชึ่งต้องอยู่บน

โลกแห่งความจริง และ ต้องไม่

ประหม่ำในการใช้ชีวิตด้วย

การทำอะไรเจาะจง ดีกว่าทำ

พร่ำเพื่อนะครับ ไม่เช่น คุณจะ

หมดแรกก่อนถึงเป้าหมาย ดัง

สุภาษิต บทหนึ่ง ชีวิตนั้นช่าง

เปราะบาง จงใช้อย่างรู้คุณค่า

0