Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

SOTUSกับสังคม เพื่อความสามัคคีหรือแค่ความสะใจ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่นขออธิบายคำว่า SOTUS ก่อน

SOTUS ย่อมาจากศัพท์ 5 คำต่อไปนี้

S = Seniority หรือ อาวุโส หมายถึง ความเกรงใจเคารพซึ่งกันและกัน
O = Order หรือระเบียบวินัย เป็นสิ่งจำเป็นของสังคม
T = Tradition หรือประเพณี เป็นสิ่งที่เห็นว่าดี ถูกต้องและประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมา
U = Unity หรือความสามัคคี คือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
S = Spirit หรือน้ำใจ หมายถึง การมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เกื้อกูล ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

SOTUS เป็นระบบการรับน้องที่ใช้ในมหาวิทยาลัย
มีความเป็นมายาวนานและยังคงสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน


ขอยกบทสัมภาษณ์ ศ.ดร.ระพี สาคริก อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

และศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่น KU 2

ผู้สัมภาษณ์ อ.ปัญญา เหล่าอนันต์ธนา

ถอดเทปโดยคุณวิศว์

จาก
http://kucity.kasetsart.org/kucity/WebFormDetailBoard.aspx?BRD_ID=15534&PAGE=1

สรุปประเด็นจากการสัมภาษณ์

การศึกษา-วัฒนธรรมของไทย มักตามรอยต่างชาติ
ให้นึกถึงรถแข่งในสนามแข่ง แม้จะดูว่าแข่งขันกัน แต่ถนนมีกรอบ รถทุกคันมีอิสระที่จะวิ่งไป
ไม่ได้บังคับให้วิ่งตามกันตลอด
ถ้าวิ่งตามกันในถนนปกติ คันหน้าเห็นเหวแล้วหลบ คันหลังหลบไม่ทันก็ลงเหว
สรุปแล้ว อะไรก็ตามถ้าเราตามเขา เราเปลี่ยนแปลงยาก
สิ่งที่เราตามอเมริกา หรือ ยุโรป ตอนนี้เขาเห็นเหว เขาหลบแล้ว แต่เรายังไม่เห็น

##### เรื่องความรักเกษตร-รักพวกพ้อง ####
3-4 ปีก่อน มีสื่อเคยสัมภาษณ์ท่านที่หน้าอนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ ถามว่า
“อาจารย์รักเกษตรไหม” ท่านเข้าใจวัตถุประสงค์ที่ถามและตอบไปว่า
“รักสิ เพราะเกษตรเป็นของแผ่นดิน แต่ผมไม่ใช่พวกเกษตรนะ” นี่พูดให้คิด
ปัญหาใหญ่ของคนไทยคือ ความเป็นพวกสูงมาก ไม่ใช่เฉพาะที่เกษตรแต่มีทุกที่
เราจึงบูรณาการไม่สำเร็จ เพราะใจไม่บูรณาการ


- 1 - #### ที่มาของ SOTUS #####

ย้อนไปสมัยก่อนก่อตั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รัฐบาลไทยในสมัยนั้น ยกย่องอเมริกามาก
พออเมริกาได้ฟิลิปปินส์เป็นเมืองขึ้น แล้วตั้งมหาวิทยาลัยทางการเกษตรที่ Lospanos
เมื่อเข้ามาแล้วก็ปรับอะไรบางอย่าง แทรกวัฒนธรรม เข้าไป
แม้อเมริกาไม่รู้จักปลูกอ้อย แต่เมื่อมาเขตร้อน ก็ผลิตตำราด้านพืชเขตร้อนออกมามากมาย
ประเทศเราก็อยู่ในเขตร้อน จึงส่งนักเรียนทุนไปเรียนที่นั่น
ต้นกำเนิดของการรับน้องใหม่ของเรา จึงรับมาจากฟิลิปปินส์ ซึ่งรับมาจากอเมริกาอีกทอดหนึ่ง
แนวความคิดของการรับน้องเหล่านี้ มากับระบบการศึกษา
ของจุฬาฯก็คงมีเหมือนกัน ท่านอาจารย์อาวุโสของจุฬาคงให้รายละเอียดได้
แต่ของจุฬาจะไม่มีความรุนแรง
ส่วน SOTUS ของเกษตร มากับระบบการศึกษาแบบอเมริกัน


- 2 - #### เมื่อเกษตรนำ SOTUS มาใช้ ####
ครั้งแรกที่รับมา ไม่รุนแรงเท่าในปัจจุบัน
สมัยนั้น นิสิตต้องเรียนเตรียมเกษตรที่แม่โจ้ เป็นเวลา 2 ปี
คุณพระช่วงฯ ท่านมีแนวคิดว่า เกษตรต้องสู้ ต้องอดทน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลน
ไฟฟ้า น้ำประปา ไม่มี อาหารก็แทบไม่มีกิน
เนื่องจากได้ยินกิจสรรพเรื่องความขาดแคลน น้องใหม่ก็ซื้อของตุนไว้ทุกอย่างเพราะกลัวอด
เมื่อไปถึงรุ่นพี่ก็จะมารับรุ่นน้องที่สถานีรถไฟ
ครั้งแรกที่พบกันรุ่นพี่จะช่วยเหลือบริการทุกอย่าง(เพื่อให้น้องแสดงธาตุแท้ออกมา)
ในระหว่างนั้นก็จะคอยสังเกต ว่าใครเบ่ง หมายหัวไว้ แต่ยังไม่ทำอะไร

เมื่อไปถึงที่พัก ก็จะให้น้องจัดของเข้าห้องพัก
แล้วอุปโลกย์หมอประจำท้องถิ่นขึ้นมาคนหนึ่ง เรียกประชุมเพื่อชี้แจงการดูแลสุขภาพตนเอง
ระหว่างนั้น รุ่นพี่คนอื่นก็จะเข้าไปขนอาหาร ขนมต่างๆ ไปซ่อน
น้องประชุมเสร็จแล้ว กลับมาก็ไม่เจออาหาร แต่สมบัติอย่างอื่น รุ่นพี่จะไม่แตะ ขนไปแต่อาหารเท่านั้น
(นับเป็นครั้งแรกของการรับน้อง)

หลังจากนั้นในเดือนแรก ก็จะปล่อยให้เป็นอิสระ ไม่มีการว๊าก
รุ่นพี่ยอมน้องทุกอย่าง ดูแลเป็นอย่างดี (ให้แสดงธาตุแท้ให้เต็มที่)
แต่ก็ยังสังเกตว่าใครที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะ เช่นมีเงินติดตัวเยอะแล้วมาอวดเบ่ง หรือใช้พี่เหมือนใช้ทาส


- 3 - ####คืนปล้นหอ####

รุ่นพี่ก็จะหายไปหมด ประมาณตีสามตีสี่ ยิงปืนนัดหนึ่ง
รุ่นพี่ทาหน้าดำหมด ทำเหมือนโจรปล้นหอ ส่งเสียงดัง
ต้อนน้องไปยังสนามฟุตบอล โดยบอกว่าจะพาไปไหว้ขอพรจากอาจารย์
ให้แต่งตัวให้ดี แล้วต้อนน้องไป
สองข้างทางก็จะมีรุ่นพี่คุมอยู่ตลอด ทำสีหน้าเคร่งเครียด ข่มขู่ (รูปแบบการว้าก ใช้เสียงดัง มาจากช่วงนี้)
ในที่สุดก็ไปลงสระน้ำ ทำการชำระความ อ่านธรรมนูญแม่โจ้ (ข้อตกลงในการอยู่ในสังคมนั้น)
รุ่นน้องที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็ให้โดดน้ำบนไม้กระโดด
รุ่นพี่ที่ทำอะไรไม่เหมาะก็โดนด้วยเช่นกัน
โทษหนักที่สุดก็คือตรึงไม้กางเขน จุดคบไฟ แห่รอบ แล้วเอาไปบูชายัญ
คือเอาไปปักไว้กลางสนามฟุตบอล แล้วก็มีการประจานกันเล็กน้อย
(รับน้องจริงๆมีเท่านี้ เพียงหนึ่งคืนเท่านั้น หลังจากนั้นก็เรียนหนังสือตามปกติ)


-4- ####SOTUS จากแม่โจ้ มาเกษตร####

สมัยนั้นแม่โจ้เป็นโรงเรียมเตรียมของมหาวิทยาลัยเกษตร
เมื่อจบจากแม่โจ้ ก็ถือว่าผ่านการรับน้องแล้ว มาอยู่เกษตรจึงไม่มีการรับน้องอีก
จนกระทั่งกระทรวงศึกษาแยกการบริหาร ตั้งเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
SOTUS จึงถ่ายทอดมาที่ยังเกษตร


- 5 - #### ว้าก กับ การร้องเพลงเชียร์ ####
จุดประสงค์หนึ่งก็คืออยากให้น้องร้องเพลงมหาวิทยาลัยได้
แต่ปัจจุบันมีการอ้างว่า เพลงของคณะ ของมหาวิทยาลัยมีมากขึ้น
จึงต้องใช้ระยะเวลายาวนานเป็นเดือน

จริงๆ แล้วเป็นคนละเรื่อง แต่นำมาปะปนกัน
ทั้งการลงโทษ ระเบียบเชียร์
ในอดีตมีการลงโทษ มหาวิทยาลัยเคยถูกฟ้อง
เพราะนิสิตบาดเจ็บ และพ่อของนิสิตเป็นทนายความ
(เหมือนสถานการณ์ในตอนนี้)


- 6 - #### เรื่องสื่อมวลชน ####
ช่วงสามสิบปีก่อน หนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งได้ลงข่าววิจารณ์มหาวิทยาลัย
นิสิตไปเป่าแตรงอน วางพวงหรีดหน้าสำนักพิมพ์ กลายเป็นข่าวใหญ่
ภายหลังมีคนทำตามกันเยอะ (นี่อาจเป็นสาเหตุให้สื่อต่างๆจับจ้องเกษตรมากกว่าสถาบันอื่น)

ได้พาดพิงถึงคณะวนศาสตร์
(ผมขอไม่ถอดข้อความช่วงนี้ กลัวข้อความสื่อความผิดพลาด ถ้าต้องการฟัง อยู่ช่วงนาทีที่ 27.30)


-7- #### คำถาม วัตถุประสงค์ของการรับน้องคืออะไร ####

ส่วนใหญ่จะตอบว่าให้รักกัน
สิ่งที่ต้องคำนึงคือ เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ คนเราจะรักกันก็ด้วยความศรัทธา
ผู้ใหญ่ต้องปฏิบัติตัวเป็นตัวอย่างที่ดี
การกระทำเช่นรับน้องนี้ เปรียบเหมือน “ตบหัวแล้วลูบหลัง”
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน
ระยะหลังๆมีตัวอย่างจากในที่ทำงาน
จบเกษตร กินข้าวหม้อเดียวกัน ไปทำงานแล้วปัดแข้งปัดขา แย่งตำแหน่งกัน
สมาคมนิสิตเก่าฯ กี่ยุคกี่สมัย ก็แตกเป็นพวกเป็นเหล่า
แม้แต่อาจารย์ที่แม่โจ้สมัยนั้นเองก็ยังต้องแบ่งแยกชนชั้น
ต้องจบจากที่นั่นที่นี่ถึงจะเรียกเป็นอาจารย์ได้ ไม่เช่นนั้นเรียกว่าครู

ทุกอย่างไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ 100%
ในระยะหลังๆ รับน้องกลายเป็นเรื่องการเอาคืน ไม่เข้าใจกัน
ทุกอย่างเกิดจากกิเลสของคน ขาดธรรมะ ขาดสติ
ตอนนี้กลายเป็นเหมือนสิ่งเสพติด
จึงต้องมาพิจารณาศีลธรรมของตัวเอง
ต้องให้ผู้อื่นมอง
อย่าหักด้ามพร้าด้วยหัวเข่า
ต้องมองถึงอดีตว่ามาอย่างไร
ศรัทธาตัวเดียวแก้ได้ทุกอย่าง
ศรัทธาคือความสุข ขณะจิตว่าง ไม่ใช่ความงมงาย
เกิดขึ้นเอง ไม่ได้เกิดจากความอยาก

ว้าก ก่อให้เกิดความยำเกรง
แต่ยำเกรง ไม่ได้ก่อให้เกิดศรัทธา

#### ความหมายของ “เกษตรศาสตร์” ####

สมัยเป็นวิทยาลัย มีแค่สามคณะแรกตั้ง วนศาสตร์ เกษตร สหกรณ์
เมื่อตั้งเป็นมหาวิทยาลัย ข้อกำหนดต้องมีสี่คณะ จึงได้เพิ่มคณะประมง
ภายหลังเมื่อมีคณะเพิ่มมากขึ้น เช่น ศึกษาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ฯลฯ
คนก็เข้าใจผิด กลายเป็นมหาวิทยาลัยทั่วไป จะใช้คำว่า “เกษตร” ไม่ได้แล้ว
ถึงขั้นมีการเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อ เป็นข่าวใหญ่อยู่ช่วงหนึ่ง

ในหลวงรับสั่งอยู่เสมอ ว่า “เกษตร ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้อื่น ในด้านรักแผ่นดิน”
ดังเช่นที่เราเห็นพระองค์ท่านเสด็จทรงงานทั่วผืนแผ่นดินไทย

“เกษตร” เป็น “วัฒนธรรม” อบรมให้คนไทยรักแผ่นดิน
ให้ความสำคัญกับแผ่นดินไทย
ไม่ว่าเรียนสาขาไหน ถ้ารับใช้แผ่นดินก็ถือเป็น เกษตรศาสตร์
ตัวอย่างหนึ่งที่ท่านส่งเสริม คือ ค่ายอาสาพัฒนา ที่ส่งเสริมให้เด็กได้สัมผัส ลงพื้นที่จริง

การรับน้องที่มีเหตุมีผลยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
แต่อาจเป็นเพราะสื่อและข่าวที่ออกมาในแง่ลบ
ทำให้การรับน้องตกเป็นจำเลยของสังคมไปอย่างไม่มีข้อแก้ตัว
SOTUS ที่ถูกต้องจะยังคงอยู่ต่อไปได้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับตัวรุ่นพี่และที่สำคัญคือรุ่นน้อง

มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ

แสดงความคิดเห็น

>

14 ความคิดเห็น

Michiko 26 เม.ย. 52 เวลา 15:19 น. 2

เดี๊ยนว่า ระบบนี้ มันก็ใช้ได้นะคะ ถ้าใช้ในทางที่เหมาะสม ไม่พูดไรมากละกัน เคยพูดไปในกระทู้ก่อนๆนู้นแล้ว

ถ้าคนที่เอามาใช้ เอามาใช้ได้อย่างตรงจุด และถูกต้องจริงๆ มันก็ดีค่ะ และมีประสิทธิภาพด้วย

แต่ทุกวันนี้ ณ ' บางกลุ่ม ' หรือ ' บางคน ' ใช้เพื่อแสดงอำนาจ และ ความสะใจ มากกว่าค่ะ

ระบบนี้ มันถึงได้แย่ลงมาทุกวันๆ **&nbsp 

ในทางกลับกัน เดี๊ยนคิดว่า วิธีการสร้างสัมพันธภาพทำความรู้จักกัน มันมีกิจกรรมหลายรูปแบบเลยนะคะ

ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมา ว๊าก โวยวายใส่กัน

ทั้งการร้องเพลง การร่วมกิจกรรม หรือ การเคารพ ' รุ่นพี่ ' ถ้าออกมาด้วยใจแล้ว มันดีกว่าการถูกบังคับแน่นอนค่ะ

บางคณะ บางที่ รุ่นน้องไหว้รุ่นพี่ อย่างเต็มใจ และพูดคุยได้ทุกเรื่อง เพราะเริ่มต้นมาจากการเข้าใจกัน และการพูดคุยกันดีๆ

แต่บางที่ มันไม่เป็นแบบนั้นหรอกค่ะ ต่อหน้าก็ยกมือไหว้ ลับหลัง ก็นินทา ??

ทั้งหมดนี้ เป็นแค่ความคิดเห็นเฉยๆนะคะ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับความคิดของบางกลุ่ม บางคน

0
แพนตี้ลายเสื้อดาว 26 เม.ย. 52 เวลา 15:25 น. 3

SOTUS เป็นระบบที่ดี แต่บางคนเอามาใช้ในทางผิดๆ ให้ตัวเองสะใจ

บ้าบอ น่าเบื่อ  เห็นด้วยกับ คห 2  บางคนต่อหน้าไหว้แต่หลับหลังนินทา
ก็เพราะใช้ระบบนี้ไม่เป็น

แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบระบบนี้นะ


PS.  ชั้นก็แค่ทำในสิ่งที่ชั้นเป็น ขอโทษชั้นไม่แคร์สื่อ!!
0
Rest 26 เม.ย. 52 เวลา 15:39 น. 4

เรารับระบบนี้มาจากต่างชาติก็จริง
แต่เคยสนใจไหมว่า ประเทศที่เรารับมาหน่ะ เค้าเลิกใช้ระบบนี้ไปนานล้ว !

0
karin<f>e Community Master 26 เม.ย. 52 เวลา 15:48 น. 5

มีห้องเชียร์น่ะดี แต่สิ่งที่มีในห้องเชียร์ ไม่ควรใช้การว้าก โหวกเหวก แล้วบอกว่า มารักกันเถิด
มันเหมือนตบหัว และลูบหลัง
แม้โดยความจริงมันไม่มีอะไร แต่ในเมื่อไม่มีอะไร
ทำไมไม่ทำอย่างอื่นแทนละ
เช่น พาไปเก็บขยะ ไรก็ว่าไป


PS.  เยาวชนก้าวไกล อนาคตสดใส ประเทศไทยรุ่งเรือง
0
^cue-cool^ 26 เม.ย. 52 เวลา 16:22 น. 6

แรกๆก็งง

หลังๆถึงเข้าใจว่าที่ทำไปมีเหตุผล

และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

ที่แน่ๆ ทำให้ผมได้รู้จักเพื่อน และพี่ๆมากขึ้น

ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับที่จะรู้จักเพื่อนร่วมรุ่นได้ทุกคนที่มีเป็นหลักร้อย

โดยที่ทุกคน ไม่ได้เรียนห้องเดียวกันตลอดเหมือนมัฐยม

อีกอย่าง ไม่ใช่กิจกรรมบังคับนะ ใครไม่อยากร่วมก็ได้อ่ะ ไม่มีคนว่านี่><"

บางคนอาจไม่ชอบระบบแบบนี้ แต่สำหรับผม ผมชอบครับ^^

0
เด็ก KU 26 เม.ย. 52 เวลา 16:46 น. 7

ไม่รู้ดิ&nbsp แต่ที่ๆเจอมาในระบบนี้


ก้สนุกดีนะ&nbsp ได้เพื่อนใหม่&nbsp ได้รู้อะไรที่แปลกใหม่


ได้รู้หลายๆอย่างในสิ่งที่ควรทำ&nbsp ไม่ควรทำ


แต่ม่ะชอบอย่างเดียวอ่า&nbsp คือรุ่นพี่บางคน


ถือโอกาสมาว๊ากเรา&nbsp ด่าเรา&nbsp โดยเอาความรู้สึกส่วนตัวมาด่าอ่า&nbsp ไม่ชอบเลย107

0
Ik.* 26 เม.ย. 52 เวลา 18:42 น. 9

เราไม่ว้ากอะ มีแต่พี่ระเบียบ

รุ่นเราเป็นรุ่นแรกของเอก ก็เลยไม่มีรุ่นพี่ที่รับเรา

พอเรามีน้องเราก็รับธรรมดานะ มีเล่นเกม เข้าระเบียบ อะไรพวกนี้

แต่ไม่มีว้ากอะ จะใช้พี่ระเบียบเป็นคนสร้างแรงกดดันให้น้อง

แต่สุดท้ายพี่ระเบียบออกมาเต้นสันธนาการเฉยเลย 555


สิ่งสำคัญถ้าจำเป็นพี่ระเบียบ หรือจะว้าก ก็คือ ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมนะ ไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาปน

ไม่งั้นน้องเกลียดคุณแน่ๆ

0
WeathereporT 26 เม.ย. 52 เวลา 21:03 น. 10

แนวคิดมันดีครับ แต่ก็อาจจะใช้ได้ไม่เหมือนเดิมเพราะโลกเปลี่ยนไป
คนเยอะขึ้น สังคมก็เปลี่ยน
อาจจะต้องปรับวิธีให้เหมาะสม

ถ้าลอกจำ ทำตามกันมา ไม่นานมันจะตายด้วยตัวของมันเอง

0
mJu71 1 พ.ค. 52 เวลา 18:13 น. 11

ผมคิดว่าแม่โจ้กับม.เกษตรง่ะเค้าเป็นระบบโชตัสที่แท้จิงนะครับ ถึงแม้จะในยุคปัจจุบันก้อเหอะ

0
puifaipanita 14 มิ.ย. 52 เวลา 13:53 น. 12

มันมีประโยชน์หลายอย่าง อยู่ที่ว่าจะทำออกมายังไง

เรารู้สึกดีนะ ถึงแม้จะกดดัน

แต่เรามีเพื่อนเยอะเลย


PS.  cassiopeia&E.L.F
0
NicKunGzA 10 มิ.ย. 53 เวลา 19:44 น. 13

ยังไงพี่ก็ในฐานะพี่ว้ากนะ

ก็อยากให้เข้าใจว่าจริงๆที่สอนไปบางทีไม่ได้อยากจะว้ากไรรุนแรง

แต่น้องบางคนทำตัวไม่เหมาะสม พี่ว้ากก็คือพี่ที่คอยดูแล

คนดีก็มี แต่คนที่ไม่ดีอ่าจะทำให้เสียไปหมด

ยังไงทุกมหาลัยเขาก็อยากให้เรารักกันทั้งหมด ผิดก็คือรับผิดชอบด้วยกัน

หน้าที่พี่ว้าก็มีแค่สอนและตักเตือนเท่านั้นเอง

0
ธันเดอร์ 29 เม.ย. 55 เวลา 02:11 น. 14

ผมว่าประเด็นจริงๆมันไม่ได้อยู่ที่ว่าดีหรือไม่ดีหรอกนะ แต่เป็นการบังคับให้คนเข้าร่วมมากกว่าที่จะต้องพูดถึงนะ คนที่คิดว่าดีก็เข้าไปแต่ต้องเคารพการตัดสินใจของคนที่ไม่อยากเข้าร่วมด้วย ไม่ใช่ว่าพอตัวเองคิดว่าระบบนี้ดีก็ดันทะลึ่งไปบังคับให้ชาวบ้านเค้าคิดว่าดีด้วยพอเค้าเห็นต่างก็ใช้วิชามารต่างๆนาๆบังคับทางตรงแล้วก็ทางอ้อมให้เข้าร่วมผมว่าแบบนี้ไม่ดีเลยจริงๆ

0