ตอบข้อสอบกฎหมาย...ง่ายนิดเดียว อ.ม.อุบล
ตอบข้อสอบกฎหมาย...ง่ายนิดเดียว โดยอภินันท์ ศรีศิริ
หากพูดถึงการตอบข้อสอบกฎหมายแล้วคงเป็นเรื่องไม่ยากนัก
สำหรับผู้ผ่านสนามสอบกฎหมายมาหลายสนาม แต่วิธีที่แนะนำต่อไปนี้เป็นวิธีสำหรับนักศึกษาวิชากฎหมาย ( มือใหม่)
ซึ่งเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องพบกับการตอบข้อสอบแบบอัตนัย ( ข้อสอบข้อเขียน)
ผู้เขียนก็เป็นผู้ศึกษากฎหมายและผ่านสนามสอบวิชากฎหมายมาพอสมควร
จึงอยากจะขอหยิบยกเรื่องนี้มาแนะนำนักศึกษา
เผื่อจะได้คลายความกังวลใจลงไปได้บ้าง
โดยปกติข้อสอบวิชากฎหมายในชั้นปริญญาตรี อาจารย์ผู้สอนมักจะออกข้อสอบ ๒ ลักษณะใหญ่ด้วยกันครับ คือ
๑. ข้อสอบอธิบายหลักกฎหมาย กับ
๒. ข้อสอบแบบปัญหาตุ๊กกา ( ข้อสอบวินิจฉัย)
โดยข้อสอบ ๒ ลักษณะนี้มีลักษณะของข้อสอบต่างกัน และมีแนวการเขียนตอบข้อสอบต่างกันด้วย คือ
๑. การตอบข้อสอบอธิบายหลักกฎหมาย
นักศึกษาจะตอบข้อสอบข้อนี้ได้ดี ขึ้นอยู่กับนักศึกษาเข้าใจหลักกฎหมายในเรื่องนั้นมากน้อยเท่าใด
( ไม่จำเป็นต้องท่องหรือจำ) แต่อาศัยความเข้าใจในหลักกฎหมายให้ชัดเจนครับ
โดยหลังจากนักศึกษาอ่านโจทย์แล้ว นักศึกษาก็อธิบายหลักกฎหมายในเรื่องนั้นให้ชัดเจน ครบถ้วน
เท่านี้นักศึกก็จะทำคะแนนได้มากทีเดียว เพื่อให้การตอบคมชัดน่าสนใจมากขึ้น
นักศึกษาควรยกตัวอย่างประกอบหลักกฎหมายดังกล่าวด้วยครับ
หรือมีบางกรณีอาจารย์บางท่านต้องการให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นประกอบ
หลักกฎหมาย ซึ่งการตอบข้อสอบแสดงความคิดเห็น นักศึกษาต้องอาศัยหลักกฎหมายในส่วนแรกมาประกอบการแสดงความคิดของเรา
ครับ ว่าเราเห็นด้วยกับหลักกฎหมายหรือไม่ อย่างไร ( อย่าลืมนะครับว่า...การตอบข้อสอบต้องมีหลักเกณฑ์ในเรื่องนั้นอธิบายประกอบ
เสมอ อย่ามั่วนะ...)
ตัวอย่าง
ให้นักศึกษาอธิบายหลักการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย มาพอสังเขป และนักศึกษาเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับการปกครองในระบอบดังกล่าว
(ทั้งนี้ต้องมีเหตุผลประกอบด้วยครับ ไม่ใช่นึกขึ้นแบบลอย ๆ) หรือ
จงอธิบายความแตกต่างระหว่างกฎหมายเอกชนกับกฎหมายมหาชน มาโดยละเอียด
นักศึกษาต้องอธิบายความหมายของกฎหมายเอกชน กับกฎหมายมหาชนก่อน แล้วค่อยอธิบายความแตกต่างครับ ไม่ใช่อธิบายความแตกต่างเลยจะทำให้นักศึกษาได้คะแนนน้อยครับ
๒. การตอบข้อสอบตุ๊กตา ( ข้อสอบวินิจฉัย)
ลักษณะข้อสอบจะเป็นข้อเท็จจริงสั้น ๆ แต่ก่อนที่ลงมือฟันธง(วินิจฉัย)นักศึกษาต้องอ่านข้อเท็จจริงในโจทย์ให้ละเอียด พร้อมพิจารณาว่าโจทย์ถามอะไร หรือประเด็นไหนที่โจทย์ต้องการคำตอบ โดยข้อสอบตุ๊กตา (ข้อสอบวินิจฉัย) ก็มีแนวการตอบอยู่ ๒ ลักษณะง่าย ๆ ดังนี้ คือ
๒.๑. การตอบแบบ ยกหลักกฎหมาย
หลังจากเราอ่านข้อเท็จจริงในโจทย์แล้ว ถึงเวลาที่เราจะวินิจฉัย(ฟันธง)ว่า ข้อเท็จจริงตามโจทย์นั้นเป็นไปตามหลักกฎหมายในเรื่องนั้นหรือไม่ เมื่อได้คำตอบแล้วว่าครบหรือไม่ครบหลักกฎหมายอย่างไรแล้วก็เข้าสู่การ
เขียนตอบข้อสอบ
โดยการเขียนตอบข้อสอบแบบยกหลักกฎหมายมีส่วนประกอบ
อยู่ ๓ ส่วน คือ
๑. หลักกฎหมาย ( โดยยกกฎหมายที่เกี่ยวข้องในประเด็นนั้นมา ไม่ใช่ เนื้อหาทั้งหมดของกฎหมายก็ได้ แต่เฉพาะหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่โจทย์ต้องการคำตอบ)
๒. การวินิจฉัยหรือปรับข้อเท็จจริงเข้ากับหลักกฎหมาย ( โดยส่วนนี้สำคัญมากเราต้องพยายามคลุกเคล้าข้อเท็จจริงในโจทย์เข้ากับ
หลักกฎหมายที่เราอ้างในส่วนที่ ๑.เข้าด้วยกันว่า ครบหลักกฎหมายในเรื่องนั้นหรือไม่อย่างไร จะทำให้การตอบข้อสอบดูมีเหตุมีผลมากครับ )
๓. สรุป (ให้ดูตอนท้ายของโจทย์ว่าโจทย์ต้องการคำตอบอย่างไร เราตอบครบทุกประเด็นหรือยัง แล้วตอบแบบสั้น ๆ โดยไม่ต้องอธิบายให้ยึดยาว )
การตอบข้อสอบแบบลักษณะนี้จะทำให้เห็นภาพของการตอบชัดเจนมาก และดูมีระเบียบเรียบร้อย
๒.๒. การตอบ แบบรวมวินิจฉัย
การตอบข้อสอบแบบนี้ต่างกับการตอบข้อสอบแบบยกหลักกฎหมายอยู่บ้าง เนื่องจากไม่ต้องยกหลักกฎหมาย(ส่วนที่ ๑.) แต่วินิจฉัยหรือปรับข้อเท็จจริงเข้ากับหลักกฎหมายได้เลย โดยนำเฉพาะประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาปรับกับข้อเท็จจริงตามโจทย์
ดังนั้นการตอบข้อสอบแบบนี้จึงเหลืออยู่ ๒ ส่วนเท่านั้น คือ
๑. การวินิจฉัยหรือปรับข้อเท็จจริงเข้ากับหลักกฎหมาย ( โดยส่วนนี้มีลักษณะเหมือนกันกับการตอบแบบยกหลักกฎหมาย ) โดยหลักกฎหมายจะปรากฏรวมกันกับข้อเท็จจริงในส่วนนี้
๒. สรุป (ให้ดูตอนท้ายของโจทย์ว่าโจทย์ต้องการคำตอบอย่างไร ซึ่งไม่ต้องอธิบายให้ยึดยาว )
การตอบข้อสอบแต่ละวิธีตามที่ได้กล่าวมานั้นขึ้นอยู่กับความถนัด หรือสไตร์(Style)ของนักศึกษาแต่ละคน แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดจะอยู่ที่ส่วนการวินิจฉัยหรือปรับข้อเท็จจริงเข้ากับหลักกฎหมาย
เพราะนักศึกษาต้องวินิจฉัยออกมาให้ได้ว่าตามข้อเท็จจริงในโจทย์เป็นไปตาม
หลักกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
( คำว่า อย่างไร คือ ต้องมีเหตุผลทางกฎหมายในการตอบนั้นเองครับ )
สำหรับผู้เขียนเองถนัดที่จะตอบแบบยกหลักกฎหมายครับ เพราะชัดเจนดี หรือบางครั้งอาจารย์เห็นว่าเรายกหลักกฎหมายประกอบถูก แต่วินิจฉัยผิด อาจารย์อาจมีคะแนนหลักกฎหมายให้ครับ
ตัวอย่าง
นาย ก เช่าบ้านของนาง ข โดยมีกำหนดเวลาเช่า ๗ ปี โดยคิดค่าเช่า ๖,๐๐๐ บาทต่อเดือน แต่การเช่าดังกล่าวตกลงกันด้วยวาจาเท่านั้น หากนาง ข ปฎิเสธการเช่าบ้านดังกล่าว หลังจากนาย ก อยู่ได้เพียง ๒ ปี หากนาย ก จะฟ้องบังคับเพื่อให้ตนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวจนครบ ๗ ปี จะทำได้หรือไม่ อย่างไร
๑. ตอบ แบบยกหลักกฎหมาย
หลักกฎหมาย
ป.พ.พ. มาตรา ๕๓๘ ( เนื้อหาหลักกฎหมาย )
วินิจฉัย
ตามข้อเท็จจริงข้างต้นเนื่องจากนาย ก เช่าบ้านนาย ข โดยตกลงกันด้วยวาจา โดยมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือลงมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญตามมาตรา ๕๓๘
ป.พ.พ. นาย ก ย่อมไม่สามารถฟ้องร้องบังคับเพื่อให้ตนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวได้จนครบ ๗ ปี
สรุป
นาย ก ฟ้องบังคับไม่ได้ เพราะการเช่าบ้านไม่ได้มีหลักฐานเป็นหนังสือตามมาตรา
๕๓๘
๒. การตอบ แบบรวมวินิจฉัย
วินิจฉัย
ตามปัญหาการเช่าระหว่างนาย ก กับ นาง ข แม้กำหนดเวลาเช่า ๗ ปี และมีการคิดค่าเช่าเดือนละ ๖,๐๐๐ บาท เมื่อนาง ข ปฎิเสธการเช่าดังกล่าว หลังจากอยู่ได้เพียง ๒ ปี นาย ก ก็ไม่สามารถฟ้องบังคับเพื่อให้ตนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวจนครบ ๗ ปีได้ เนื่องจากสัญญาเช่าดังกล่าวไม่ได้มีหลักฐานเป็นหนังลือลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้อง
รับผิดเป็นสำคัญ ย่อมฟ้องบังคับหาได้ไม่ตามมาตรา ๕๓๘ ป.พ.พ.
สรุป
นาย ก ฟ้องบังคับไม่ได้ เนื่องจากการเช่าดังกล่าวไม่ได้ทำสัญญาถูกต้องตามหลักกฎหมาย
ข้อพึงระวังกับการตอบข้อสอบ
๑. อ่านโจทย์ให้เข้าใจ โจทย์ถามกี่ประเด็น เพราะบางครั้ง ข้อสอบข้อเดียวอาจมีหลายประเด็นครับ...
๒. ห้ามเพิ่มข้อเท็จจริงในโจทย์ เพราะจะทำให้การตอบของเรายึดยาว และบางครั้งทำให้ข้อเท็จจริงผิดเพี้ยนไปจากที่โจทย์ต้องการคำตอบ
๓. ห้ามใช้คำ ๆ นี้ เช่น คำว่า อาจจะ ผิดหรือถูก หรือ คำว่า น่าจะ หรือคำว่า คิดว่า เพราะคำเหล่านี้แสดงถึงความไม่มั่นใจในการตอบข้อสอบ
๔. ห้ามตอบข้อสอบแบบดาวกระจาย คือ ตอบทุกเรื่อง ทุกอย่าง แต่ไม่เข้าประเด็นคำถาม ดังนั้นเราต้องตอบเฉพาะประเด็นที่โจทย์ต้องการเท่านั้น
๕. การอธิบายหรือวินิจฉัย ต้องอาศัยถ้อยคำในตัวบทกฎหมายให้มาก ๆ เพราะจะทำให้การตอบข้อสอบดูมีเหตุมีผลทางกฎหมายมากขึ้นครับ
๖. บริหารเวลาในการทำข้อสอบให้ดี ข้อไหนมั่นใจ แนะนำให้ทำข้อนั้นก่อนครับ เพราะจะสร้างกำลังใจให้เราได้มากที่เดียว
สิ่งที่ผู้เขียนหยิบยกมากล่าวในคราวนี้ เนื่องจากผู้เขียนมีเจตนาทีจะแนะนำนักศึกษาเพื่อนำไปใช้เป็นแนวในการเขียนตอบ
ข้อสอบ เพราะหลายคนยังกังวลกับเรื่องนี้อยู่ แต่การเขียนตอบข้อสอบจะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เมื่อนักศึกษาได้ฝึกหัดอยู่บ่อยครั้ง
อย่าลืมว่า เรา คือ นัก + ศึกษา ไม่ใช่ นัก + เรียน หรือ นักเลง อีกต่อไป ... สวัสดีครับ
24 ความคิดเห็น
อ่านไว้ๆๆ
เฟรชชี่ นิติ อุบล ค๊ะๆ
PS. มั่ยมีทิศทางปัย..เมื่อต้องเสียเทอร์
บ้าวิชาอะไรอยากจะตาย อ้อยรักกอล์ฟsct.110
ขอบคุณ มากเลยคับ ผมเองเป็นนักศึกษาราม แต่ไม่เคยเข้าห้องเลย
ได้อ่านกระทูนี้แล้ว ช่วยได้มากจริงๆ ขอบคุณครับ8
มีปัญหาขอปรึกษา น้อง นิติฯม.อุบลฯด้าย เส-มอ จุ๊ บุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ104
หนูกำลังจะสอบนิติ เเต่ไม่มั่นใจเรื่องข้อสอบอัตนัยเลยต้องทำไงดีค่ะ
คริๆๆๆ
ถามผู้รู้ทุกท่าน ผมเริ่มเรียนกฏหมายอยากสอบถามว่าเวลาตอบข้อสอบกฏหมายแบบไม่ใส่เลขมาตราในคำวินิจฉัยจะเขียนอย่างไร เช่น ข้อสอบอาญา  Aต้องการฆ่าB  แต่เห็นCเดินมาคิดว่าเป็นB จึงใช้ปืนยิงC จนทำให้Cได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้กระสุนยังเลยไปถูกDถึงแก่ความตาย และได้เลยไปถูกลูกแมวของนางสาวส้มตายอีกด้วย จงวินิจฉัยความรับผิดทางอาญาของนายแดง( กรุณาแสดงแนวคำตอบแบบไม่ใส่เลขมาตรา)
*ขอบคุณคับ
ขอบคุณคับพี่  เลิดกังวลเลยคับ
เจ๋งสุดๆๆ
ชอบๆๆ
ความเห้นที่ 6 ตอบว่า จากข้อเท็จจริงมีหลักกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง ตามประมวลกฎหมาย อาญา บัญญัติไว้ว่า....
น่าจะทำนองนี้ค่ะ
ความเห็นที่ 6
ตอบตรงวางหลักกฎหมาย
"ประมวลกฎหมายอาญา วางหลักว่า.......(สำหรับคนที่จำได้แค่ตัวบท)...."
"ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ... บัญญัติว่า..........(สำหรับคนที่จำเลขมาตราและตัวบทได้เป๊ะๆ)........................"
เปงวิชาที่น่าเรียนที่สุด จามไว้นะ ทุกคน เด็ก นิติ ราชภัฎ สุราด คับ
ขอบคุณมากมายเลยที่ช่วยชี้ทางสว่างให้ผม  มึนมาตั้งนาน  อิอิ  นิติ ม กรุงเทพ
ขอบคุณ อ. น่ะค้า ที่ ให้ แนวทาง ขอบคุณ ค่ะ
ขอบคุณครับอาจารย์เข้าใจขึ้นเยอะเลยอ่านในหนังสืมันเยอะเกินเลย งง พอได้อ่านบทความนี้เริ่มออกจากป่าได้แล้วครับ  ปี1 วิทยาลัยการเมืองการปกครอง ม.มหาสารคาม
ถึงความเห็นที่ 10 ที่ถึงความเห็นที่ 6
การที่เราจำมาตรากฎหมายได้ในการตอบเราควรใช้เพียงคำว่าวางหลักกฎหมายไว้ว่าเหมือนดังการตอบที่เราไม่สามารถจำมาตราได้เหมือนที่คุณนำเสนอ  คือ
    ประมวลกฎหมายอาญา  วางหลักฎหมายไว้ดังนี้ 
        มาตรา............
  หากเราใช้คำว่าบัญญัติ นั่นหมายความว่าเราต้องยึดทุกคำตามประมวล  ซึ่งในความจิงแม้เราจำได้ทุกคำเราก็มีโอกาสผิดได้  ดังนั้นเวลาอ.ตรวจข้อสอบหากใครที่ใส่คำว่าบัญญัติ  อ.จะไล่ทีละคำเปิดประมวลดูทุกตัวอักษร  คับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆจร้า
นิติฯราชภัฏเชียงราย
คำถาม
            นายปลอดนักยองเบา เดินผานบานนายสมชายซึ่งเปดหนาตางทิ้งไว  นายปลอดเปนคนตัวเตี้ยไมสามารถ  ปนโหนเขาไปลักทรัพยทางหนาตางได ขณะนั้นมีนายโซเมาเหลานั่งพิงบานอยูใตบริเวณหนาตางพอดี  นายปลอดจึงกระโดดขึ้นเหยียบบานายโซเพื่อปนผานทางหนาตางเขาไปลักสรอยคอทองคําของนายสมชายมาได 1 เสน  เชาวันรุงขึ้นขณะที่นายปลอดจะนําสรอยที่ลักไปขายไดถูกนายยอดกระชากสรอยไป
      ใหวินิจฉัยวา  นายปลอดและนายยอดมีความผิดฐานใดบางหรือไม 
ขอความกรุณาท่านอภินันท์ ศรีศิริ  ช่วยตอบเป็นแนวทางในการศึกษากฎหมายด้วยครับ(จากมือใหม่หัดขับ)
กลัวๆมากๆๆๆๆ ไกล้สอบแลวอ่ะ :( ใครก็ได้ช่วยติวที Tt'
การจำมาตรามีเคล็ดลับยังไงงบ้างคับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?