Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ผงะ! ภาพกู้ภัยชำแหละศพ แล่เนื้อสดๆ ข้างวงข้าว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ผงะ! ภาพกู้ภัยชำแหละศพ แล่เนื้อสดๆ ข้างวงข้าว


ผงะภาพกู้ภัยชำแหละศพแล่ เนื้อสดๆ ข้างวงข้าว (เดลินิวส์)

          สยองว่อนเน็ต ภาพชุดภู้ภัยงัดโลงชำแหละศพชายหนุ่ม ตัดคอ หั่นแขนขา ผ่าไส้จะๆ แยกเนื้อออกจากกระดูก แถมทำไม่เข้าท่า เอามือศพมาทำสัญลักษณ์ "ไอ เลิฟ ยู" ก่อนนำชิ้นส่วนไปต้มในถัง 200 ลิตร ผงะภาพต่อเนื่องกัน เป็นรูปเจ้าหน้าที่กินข้าวเอร็ดอร่อย เหมือนต้องการสื่อให้เห็นว่าเป็นการ เปิบเนื้อมนุษย์ ด้านรองประธานมูลนิธิกู้ภัยสว่างฯ ปราณบุรี โต้ภาพที่เห็นเป็นงานล้างป่าช้าช่วงเดือน มี.ค. เผย จนท. ต้องจัดการศพให้เหลือแต่กระดูกเพื่อฌาปนกิจ ระหว่างนั้นทานอาหารเที่ยงเป็นกะเพราเจ เชื่อคนเผยแพร่เมล์สยองจิตไม่ปกติ 

          มือดีโพสต์ภาพกู้ภัยชำแหละศพสุดสยองครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานว่า ได้มีการโพสต์รูปการชำแหละศพมนุษย์เผยแพร่ทางอีเมล ชื่อ "งานล้างป่าช้ามูลนิธิหัวหิน 13 มี.ค. ภาค 3 ..สยองจ้า" จนมีการส่งต่อๆ กันไปอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้ที่พบเห็นพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม และน่าสยดสยอง โดยภาพดังกล่าวมีจำนวน 49 ภาพ เป็นภาพการทำงานเก็บศพของเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิหลายๆ แห่งที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน ทั้งหมดเป็นภาพแสดงขั้นตอนการชำแหละศพชายฉกรรจ์คนหนึ่งอย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ฯ เกือบ 10 คน ลงมือชำแหละศพผู้ชายอายุประมาณ 35-40 ปี ที่นอนอยู่บนโลงศพออกเป็นชิ้นใหญ่ เช่น ตัดคอ แขน ขา อวัยวะภายในทั้ง ตับ ไต ม้าม ปอด ที่ยังดูสด ๆ นำออกมาวางกองไว้ 

          ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ชิ้นเนื้อของศพยังสด มีสีแดงเหมือนเนื้อวัวหรือเนื้อแดงของสัตว์ทั่ว ๆ ไป และยังมีเลือดไหลออกมาด้วย หลังจากชำแหละออกมาเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันชำแหละเนื้อแดงออกเป็นชิ้นเล็ก ขนาดเหมือนการเตรียมเนื้อประกอบอาหารทั่วๆ ไป ส่วนกระดูกได้รวบรวมกองไว้อีกกอง โดยพบภาพเจ้าหน้าที่ฯ หญิงคนหนึ่ง นำมือของศพที่ถูกหั่นออกมาทำเป็นสัญลักษณ์บอกรัก "ไอ เลิฟ ยู" ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส จากนั้นมีการนำกระดูกและชิ้นส่วนศพที่ชำแหละแล้วทั้งหมด ไปต้มในน้ำเดือดปุดๆ ที่อยู่ในถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร อย่างไรก็ตาม ภาพต่อเนื่องกัน เป็นภาพเจ้าหน้าที่ฯกำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนจงใจสื่อให้คนที่ดูรูปภาพเข้าใจว่ามีการชำแหละศพมนุษย์เพื่อนำเนื้อไปประกอบอาหาร

         น.ส.กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ หนึ่งในผู้ที่มีภาพทั้งหมดส่งเข้ามาในอีเมล กล่าวว่า ทันทีที่เห็นภาพดังกล่าวตนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ในเบื้องต้นตนเข้าใจว่าเป็นการชำแหละศพมนุษย์สดๆ เอาเนื้อมาประกอบอาหาร โดยทุกขั้นตอนมีการบันทึกภาพไว้อย่างละเอียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ แต่ละคนไม่ได้แสดงออกถึงความสะอิดสะเอียนออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย ต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนกับว่ากำลังช่วยกันชำแหละหมูหรือวัว ซึ่งตนไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการเผยแพร่ภาพดังกล่าว และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าการส่งภาพมายังอีเมลของตนนั้นได้มีการส่งไปให้ในอีเมลคนอื่นๆ ในคราวเดียวกันนับร้อยราย

          ต่อมาผู้สื่อข่าวพบว่าชื่อฟอร์เวิร์ดเมล สยอง มีการกล่าวอ้างถึงชื่องานล้างป่าช้ามูลนิธิหัวหิน 13 มี.ค. 52 จึงตรวจสอบจนทราบข้อเท็จจริงว่า ช่วงเดือน มี.ค. ทางมูลนิธิกู้ภัยสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการจัดงานล้างป่าช้าตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.-10 พ.ค. รวม 64 วัน จึงได้สอบถามไปยังนายชวลิต รัตนสุทธิกุล รองประธานและเลขามูลนิธิฯ จนทราบความจริงว่า เหตุการณ์ในฟอร์เวิร์ดเมล เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 13 มี.ค. เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และเครือข่าย กำลังช่วยกันจัดการกับศพไร้ญาติที่ปรากฏในภาพอีเมล ด้วยการแล่เนื้อหนังทิ้ง เพราะต้องการนำแต่กระดูกเพื่อเข้าเตาเผา กระทั่งถึงช่วงเที่ยง นายชวลิตได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าจะทานข้าวกลางวันกันตรงจุดที่ชำแหละศพเลยไหม และ ทุกคนก็ตอบตกลงอย่างไม่รังเกียจ เพราะก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาร่วมล้างป่าช้า ต้องถือศีลกินเจเพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์ ไม่รังเกียจศพไร้ญาติเหล่านี้ จากนั้นได้มีการแจกจ่ายอาหารเจ ซึ่งเป็นผัดกะเพราเต้าหู้ให้เจ้าหน้าที่รับประทาน ไม่ใช่การรับประทานเนื้อศพแต่อย่างใด 

          "เราต้องเอาแต่กระดูกจากศพไร้ญาติเพื่อเข้าเตาเผารวมแต่แยกชาย-หญิง โดยฌาปนกิจศพทั้งหมดไปเมื่อวันที่ 21 มี.ค. เป็นชาย 412 ศพ หญิง 204 ศพ เด็ก 128 ศพ และนางฟ้า หรือศพผู้หญิงที่ไม่เน่าเปื่อย 3 ร่าง ผมคิดว่าคนที่นำภาพไปเผยแพร่ในลักษณะให้ร้ายว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ แล่เนื้อศพมารับประทานคงเป็นพวกที่จิตไม่ปกติ พวกเราที่มาทำงานการกุศลต้องถือศีลกินเจในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างเคร่งครัด" นายชวลิต กล่าว 

          ด้านนายวิสิฐ อรุณสกุล ประธานมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งนครศรีธรรมราช เปิดเผยกรณีที่พบบุคคลในภาพฟอร์เวิร์ดเมลสยอง ที่ใส่เสื้อของมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งสีกรมท่าว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น และเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นจริง เพราะทางมูลนิธิฯ จะมุ่งเน้นเรื่องของการช่วยเหลือสังคม เชื่อว่ามีการแอบอ้างมากกว่า




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Forward mail
ข่าว
ข่าว
ข่าว
ข่าว
Thailand Web Stat
ข่าว
ข่าว
ข่าว
ข่าว

PS.  ♥ MIN WOO ♥ Si Won♥ U-know♥ ZaiZai♥ ♥ใจเกาหลี ♥รักความเป็นไทย♥เสื้อเเดงจะทำไม♥

แสดงความคิดเห็น

>

34 ความคิดเห็น

สงสัย 2 มิ.ย. 52 เวลา 12:52 น. 2

แล้วทำไมเวลาเผาคนตายปกติก็เผาไปทั้งตัวพร้อมโลง

แล้วทำไมล้างป่าช้าต้องเผาเฉพาะกระดูก

แล้วแล่เนื้ออกมา แล้วเอาไปทิ้งที่ไหนคะ

สงสัยเฉยๆนะคะ

0
GranDAnGlE 4 มิ.ย. 52 เวลา 01:18 น. 4

เค้าต้องเผารวมไง คับ

ไม่เห็นเหรอ

ที่เค้าบอก

เผาทีละคนมันนาน ครับ

ก็ต้องทำแบบเนี่ยแหล่ะครับ


PS.  เหตุผลเหนืออารมณ์ จึงถือว่าเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ฝากผลงานด้วยนะครับ ศึกดาบคู่สะท้านภพ
0
เฮ้อ 4 มิ.ย. 52 เวลา 01:44 น. 5

อ๋อ เข้าใจเเล้ว
คือ ศพเยอะ ก็เลยต้องทำเเบบนั้น

เเต่ก็อยากรู้เหมือนกัน เนื้อที่เอาไปต้ม ต้มเสร็จ จะเอาไปทำอะไรหรอคะ??

คนที่เผยเเพร่รูปทำให้คนเข้าใจผิด ก็คงบาปมาก ๆ เลยอ่า
คนเค้าอุตส่าห์มีใจบุญ ดันมาทำเเบบนี้ เหอะ ๆ

0
ตะไครเกาะ 4 มิ.ย. 52 เวลา 02:38 น. 6

= =

โธ่เอ๊ย.... นึกว่าอะไร เรื่องปกติเลยค่ะ เมื่อ ประมาณ 2 ปีก่อนก็มีการล้างป่าช้าที่จังหวัดเชียงราย

เพื่อน ๆ ในกลุ่มไปกัน เลยไปด้วย งานเค้าโอ่อ่ามาก เป็นงานบุญ เค้าจำเป็นต้องล้างเพราะ จำนวน ศพเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

พอไปถึงแต่ละกลุ่มก็พากันจับจองหลุม == แล้วช่วยกันขุด ศพที่ถูกฝังนานแล้ว จะเหลือแต่โครงกระดูก จะถูกขุดขึ้นมา

แล้วจะมีคนทำพิธีเค้าจะโยนไม้อะไรไม่รุ 2 อันเสี่ยงทายว่าเป็น ช หรือ ญ แล้วจัดการ

ห่อผ้าขาว แล้วเอาไปขัดให้สะอาดก่อนเผาที่ วัดจีนที่เค้าจัดงานอีกทีนึง ส่วนศพที่ฝังใหม่ ๆ โดยมากเจ้าหน้าที่จะทำเอง

เพราะชำนาญกว่า โดยจะขุดขึ้นมา แล้วแล่เอาเกลือทา แล้วเผา ให้เหลือแต่โครงกระดูก บางศพต้องเผาถึง 2-3 วัน ตรงปากหลุม

มีสังกะสีรอง ส่วนกะโหลกจะเผายากสุด แล้วเก็บแต่โครงกระดูกไปเผา งานเค้าจัดประมาณ เดือนนึง 30 ปีจะล้างทีมั้ง แต่ล้างที

ชาวจีนทั่วประเทศเลยมาช่วยกัน เหมารถบัสมาเลยทีเดียว สามัคคีกันมาก

0
FIRST 4 มิ.ย. 52 เวลา 05:01 น. 7

ไอคนที่ถ่ายอ่ะ คงเป็นโรคจิตแน่ๆ
ถ่ายเก็บเอาไว้ทำไม....บ้ารึป่าว~
มีคนปกติคนไหนเค้าชอบดูรูปแบบนี้กันบ้างเล่า~?!!!109

0
จุดจุดจุด 4 มิ.ย. 52 เวลา 06:11 น. 8

เค้าสำรอกกันแบบนี้แหละครับ....





ลอง ไปหาหนังสือของสัปเหร่อเก่าๆ มาอ่านดูครับ....ซึ่งส่วนใหญ่เค้าจะทำเวลากลางคืนด้วยเพราะจะได้ไม่มีแมลง วันมารบกวน.....และจะไม่สวมถุงมือเพราะจะลื่นไม่ถนัดมือ....โดยจะเอาผงขมิ้น ลงไว้ดับกลิ่นและซับของเหลวให้ฝืดมือจับสะดวก






คือ ในสมัยก่อนนั้นเค้าจำเป็นต้องทำเพราะเทคโนโลยีในการรักษาศพยังไม่มี....ห้อง เย็นยังไม่มี...โลงเย็นยังไม่มี....ยังไม่มีน้ำยาฉีดรักษาศพ......ดังนั้น การจะเก็บศพไว้นานๆ จำต้องสำรอกเพื่อแยกเนื้อซึ่งเปื่อยเน่าเร็วออกจากกระดูกเสียก่อน....แล้ว จึงเก็บกระดูกไว้เพื่อประกอบพิธีในภายหลัง




แต่ใน ปัจจุบันการสำรอกกลับเป็นการทำเอามันส์.....เอาความแปลก.....โชว์ความเก๋า ว่าได้เคยชำแหละเนื้อคน.....ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำแล้วในสมัย นี้.....





และดูจะพฤติการณ์ในภาพของแต่ละคนที่แฝงไว้ ด้วยความคะนอง......เอาชิ้นส่วนศพมาโชว์เล่น.....เป็นการกระทำที่ไร้วุฒิ ภาวะมาก.....ไม่มีความเคารพในศพผู้ตายแม้แต่น้อย....ไม่มีความสำรวมระวังเลย แม้แต่น้อย.....ไม่เป็นการกระทำไปเพื่อเจริญอสุภะกรรมฐานเลย....







ดังนั้น....จึงอาจกล่าวได้ว่าการกระทำนั้นเป็นไปเพื่อสนองความคึกคะนอง...อยากลอง....เอามันส์....ไร้สติ...ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง

เครดิตจากคุณ อินทร์นิล แห่งห้องหว้ากอ ครับ

0
จุดจุดจุด 4 มิ.ย. 52 เวลา 06:15 น. 9

อีกอันจาก คุณwhen i'm feeling .. blue แห่งห้องหว้ากอ เหมือนกันครับ ให้ความรู้ไว้ ลองอ่านดู

ตอบ จขกท. ก่อนที่ถามว่ารูปที่เห็นน่ะจริงเหรอ .. จริงค่ะ
ถ้าตาม link ที่ให้ไว้ไป เค้าจะบอกว่าเป็นงานล้างป่าช้าที่หัวหิน
แต่คิดว่าน่าจะเป็นที่ปราณบุรีมากกว่า

ปีนี้ของมูลนิธิสว่างฯล้างป่าช้ากัน 3 ที่ค่ะถ้าจำไม่ผิด
มีที่ปราณ ที่นครนายก แล้วสุดท้ายถ้าจำไม่ผิดคืออุดรมั้งคะ

จะว่าไปแล้วกระบวนการทำงานแบบนี้ ถ้าอย่างของที่ทำงานเราจะเรียกว่าการสลายเนื้อเยื่อค่ะ
เป็นการกำจัดเนื้อเยื่อส่วนที่ไม่ต้องการออกเพื่อที่จะให้ได้กระดูกมาทำการวิเคราะห์

แต่อย่างในภาพคิดว่าเป็นการล้างป่าช้า .. ก็ต้องอธิบายขั้นตอนการล้างป่าช้ากันหน่อย
เอาแบบย่อ ๆ สั้น ๆ ละกันนะคะ

ระยะเวลาในการล้างป่าช้าแต่ละครั้งกินเวลานานค่ะ อย่างที่นครนายกก็เกือบ 2 เดือนได้
มีหลายขั้นตอนที่ต้องทำ แต่ช่วงที่นานที่สุดก็น่าจะเป็นการขุดศพขึ้นมาทำความสะอาดเนี่ยแหล่ะค่ะ
ส่วนใหญ่ศพที่ถูกขุดขึ้นมาก็มักจะถูกฝังมาแล้วหลายปี ศพก็มักจะเน่าจนเหลือแต่กระดูกไปแล้ว
ศพแบบนี้ง่ายค่ะ เอามาล้าง ๆ เช็ด ๆ ขัด ๆ ก็ใช้ได้แล้ว
แต่บางครั้งก็จะเจอแจ็คพ็อตเป็นศพที่เพิ่งถูกฝังไปไม่นาน ยังมีเนื้อเยื่อติดอยู่
ทีนี้ก็ต้องทำการเลาะเนื้อแล้วเอาไปต้ม [จริง ๆ น่าจะเรียกว่าเคี่ยวมากกว่า]
เพื่อกำจัดเนื้อเยื่อที่เราไม่ต้องการออกไปให้หมดหรือมากที่สุด

เมื่อเสร็จกระบวนการในแต่ละศพ กระดูกก็จะถูกบรรจุลงถุงผ้ามารวม ๆ กันไว้
พอเสร็จงานในแต่ละวันก็จะมีการลำเลียงเอากระดูกเหล่านั้นไปเก็บไว้ในห้องที่จัดเตรียมไว้เฉพาะเพื่อเก็บกระดูก
พอเสร็จสิ้นการขุดศพทั้งหมดแล้ว [อาจกินเวลาเป็นเดือน] สุดท้ายของงานก็จะเป็นการฌาปนกิจกระดูกทั้งหมด

ทีนี้เข้าใจรึยังคะว่าทำไมต้องเลาะต้องต้มศพ
ลองคิดถึงว่าถ้านี่เป็นศพที่ขุดได้ในช่วงสัปดาห์แรกของการล้างป่าช้า
ถ้าไม่ไม่เลาะเนื้อออกแล้วต้องไปอยู่ในห้องเก็บกระดูกอีกเป็นเดือน
กลิ่นในห้องนั้นคงไม่ต้องพูดถึงอ่ะค่ะ ราอีกอะไรอีก ไม่ไหวแน่

-----------------------------------------

สิ่งที่เราไม่เห็นด้วยจากการทำงานในรูปคือการป้องกันตัวของคนที่ทำงานค่ะ
เหมือนเค้าจะมีความเชื่อกันว่าการเลาะศพเนี่ยจะยิ่งได้บุญกว่าการล้างขัดกระดูก
โอเค อันนั้นพอเข้าใจได้ แต่ความเชื่อที่ว่าการเลาะศพด้วยมือเปล่าจะยิ่งได้บุญกว่าการใส่ถุงมือ
อันนี้เราไม่เห็นด้วยอย่างมากเลยค่ะ

แต่ละศพน่ะ เค้าเป็นอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ บางคนเป็นเอดส์ บางคนเป็นวัณโรค บางคนเป็นไวรัสตับอักเสบบี
คิดว่าเค้าตายแล้วมันยังอยู่มั๊ยคะ? คำตอบคือมันยังอยู่ไง

การเลาะศพโดยใส่ถุงมือน่ะ มันไม่ได้ทำให้มือลื่นทำงานไม่ถนัดอย่างที่ใครเค้าว่ากันหรอก
มันขึ้นอยู่กับว่าคุณใส่ถุงมือแบบไหน ถ้าเป็นถุงมือส้มแบบที่ใช้ล้างห้องน้ำน่ะ เขวี้ยงทิ้งไปได้เลย
อันนั้นน่ะไม่ถนัดชัวร์ แถมคลำศพไปก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรอีก เลาะ ๆ ไปยิ่งเสี่ยงต่อการเลาะมือตัวเองไปใหญ่
แต่ถ้าเป็นถุงมือผ่าตัดหรือถุงมือที่เป็น latex ทั่วไปอันนั้นน่ะใช้ได้ไม่มีปัญหา

บอกมาหลายรอบแล้วน้อ ระวังตัวกันหน่อย&nbsp &nbsp -"-

0
wanwan-jang 4 มิ.ย. 52 เวลา 07:04 น. 10

ขอบอกว่าอยากอ๊วกมากๆ


PS.  เคล็ดลับความสุขของเราไม่ได้อยู่ที่การได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ.. แต่อยู่ที่ชอบสิ่งที่ตัวเองทำ (Sir James Matthew Birie) ขอบคุณ ^_^ มากๆ
0
กกก 4 มิ.ย. 52 เวลา 13:43 น. 11

เพิ่งรู้เหรอว่าเค้าทำกันมานานแล้วอ่ะ

ที่เลาะเนื้อออก เหลือแต่กระดูกแล้วเอาเนื้อไปต้มอ่ะ -*-

เค้าไม่ได้เอาไปกินหรอกนะ -*-

0
หน้าฝน 4 มิ.ย. 52 เวลา 15:00 น. 12

เราว่า การทำพิธีล้างป่าช้านี่ เป็นอะไรที่ได้บุญมากๆนะ

คนส่ง fw mail นี่ก็ทำไปได้

พี่ที่เรารู้จักเค้าก็เคยไปทำมา ครั้งนึงในชีวิต พอทำเสร็จเลิกกินเนื้อไปเป็นปีๆเลย กินไม่ลง

แต่ที่เค้าทำเค้าก็ไม่ได้คิดอะไรมากนะ ของยังงี้มันต้องใช้จิตใจที่บริสุทธิ์ อยากช่วยเหลือคนอยู่เเล้ว = =ll

0
เซียวเหล่งนึ่ง 4 มิ.ย. 52 เวลา 16:29 น. 15

โอ๊ย เค้าก็ทำกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ เป็นเรื่องปกตินะแต่เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าถึงกันมากกว่า
ที่ไหนๆ ก็ทำกันแบบนี้ แต่ปกติไม่ค่อยได้เผยแพร่เท่านั้นเอง
แล้วส่วนใหญ่ศพที่เค้าจะทำการฌาปนกิจน่ะ มันจะเน่าแล้วก็เหลือแต่ซาก เหลือแต่กระดูกซะเป็นส่วนใหญ่
เพราะว่าจะเป็นศพไร้ญาติที่ทางมูลนิธิเค้าไปเก็บกู้มาได้ แล้วหาญาติไม่ได้
ตอนแรกเค้าก็จะนำศพมาเก็บไว้ก่อน เผื่อว่าจะมีญาติมาตามหา แต่ว่าพอนานๆๆเข้าจำนวนศพมันก็จะเยอะขึ้น
จนต้องมาทำการฌาปนกิจสักทีนึง ที่เค้าเรียกว่าพิธีล้างป่าช้าน่ะ
คนที่มาทำก็จะเป็นคนถือศีลกินเจกันทั้งนั้น เพราะที่ทำน่ะเป็นการช่วยเหลือศพไร้ญาติให้ไปสู่สุขติ
ส่วนเรื่องพิธีการน่ะ ก็ปกติดี มูลนิธิแถวบ้านเราเค้าก็ทำกันแบบนี้ คือว่า ถ้าเป็นศพที่เก็บไว้นาน ก็จะเหลือแต่กระดูกน่ะ
ก็จะนำขึ้นมาใช้แปรงสีฟันขัดๆๆๆ ให้สะอาดเลย แล้วก็นำมาวางเรียงเป็นร่างคนน่ะ
ส่วนศพที่ยังเน่าเปื่อยไม่หมด มีเศษเนื้อติดอยู่ ก็จะต้องทำการลอกเนื้อลอกหนังออกจากกระดูกก่อน
โดยการนำไปต้มให้เหลือแต่กระดูกจริงๆ ................อือออ เล่าให้ฟัง

เรื่องวิธีการเราไม่สงสัย แต่ว่า.....นี่เราก็เพิ่งเคยเห็นที่สดๆ แบบนี้ งงเหมือนกันว่าทำไมถึงเอามาชำแหละแล้วล่ะ
ดูเหมือนว่าศพเพิ่งจะเสียชีวิตมาไม่นาน (เพราะยังสดๆ) แล้วถ้าเผื่อญาติเค้าเพิ่งจะตามมาเจอล่ะ T^T
หรือว่าแน่ใจแล้วว่าเค้าไม่มีญาติ...

ตอบ คห.2 การที่เค้าไม่เผาไปทั้งโลงก็เพราะว่า ต้องเก็บโลงไว้ใช้กับศพรายอื่นด้วยน่ะ
เผาไปเฉยๆไม่ได้หรอก เพราะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับศพไร้ญาติเหล่านี้จ้า
(ต้องเข้าใจว่าเป็นการทำโดยการกุศล ดังนั้นงบประมาณต่างๆ จึงน้อย และได้มาจากการบริจาค)

0
DeK-lnw`ZODIAC 4 มิ.ย. 52 เวลา 16:34 น. 16

แต่ผมก็ว่าดีนะที่ทำแบบนี้เพราะเป็นการลดCO2ไปในตัวด้วย แถมการทำแบบนี้มันก็คล้ายๆกับงานศพที่ธิเบตแหละครับ

อีกอย่างถ้ากินเนือคนจริงแล้วทำไมต้องเซนเซอร์ล่ะ เขาคงเอาเนือที่ได้จากศพมาน้งชำแหละต่อล่ะมั้งครับ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 4 มิถุนายน 2552 / 16:45


PS.  เปลี่ยนความคิด ปลดปล่อยจิตใจ สู่แนวหน้า ทันสมัย
0
ศิษย์ซือจุง 4 มิ.ย. 52 เวลา 17:11 น. 17

**(ถ้าอธิบายมันคงจะยาวมากเลยนะจะอธิบายคราวๆละ)
การล้างป่าช้าในสมัยนี้ แตกต่างจากสมัยก่อน-ก่อน
การชำแหละศพในภาพอย่างที่เห็นนั้น
การล้างป่าช้าในสถานที่ที่จัดงานขึ้นจะมีห้องเก็บกระดูกที่แยกเป็นสองห้อง&nbsp ห้องผู้ชายและผู้หญิง&nbsp 
ที่ชำแหละ&nbsp ก็เพราะว่าจะได้นำเฉพาะกระดูก ไปไว้ในห้องที่ว่านั้นแหละ
ตอนเย็นที่มูลนิธิที่จัดงาน&nbsp จะนิมนต์พระสงฆ์มาสวดอภิธรรมศพให้
และที่ต้มหรือเผานั้น
รองคิดดูถ้านำศพที่ยังมีสภาพยังเต็มตัว นำไปไว้ในห้องนั้นจะมีกลิ่นแรงมาก อีกอย่างสถานที่จะต้องกว้างมากด้วย
สำหรับศพที่มีนั้นจะเป็นศพที่ได้มาจาก&nbsp การเกิดอุบัติเหตุต่างๆ รถชน จมน้ำ
และ ศพที่ไม่มีญาติ ที่จะได้โรงพยาบาลหรือสถานีตำรวจ และขอย้ำว่า ศพไม่มีญาติ
แต่มีบางนะที่ญาติบางคนนำศพมาร่วมพิธีด้วย อนึ่ง ญาตินั้นไม่มีทรัพย์ที่จะจัดงาน
และอีกอย่างการล้างป่าช้านี้ เป็นบุญอันมหากุศลมากด้วย
คนที่คิดในสิ่งดีก็จะได้ดีและได้บุญมากด้วย....
(ถ้าสงสัยในส่วนไหนก็ลองถามได้)

0
monds 4 มิ.ย. 52 เวลา 18:18 น. 19

เสียดายที่เซนเซอร์ แต่ขอบคุณพี่ๆมูลนิธิสว่างฯ ด้วยนะคะ ที่ดูแลแม้กระทั้งคนตาย


PS.  จะไม่ยอมแพ้ แม้จะล้มสักกี่ครั้ง เพราะรู้สึกถึงความโชคดีที่มีความรู้สึกแบบนั้น....
0
jeab 4 มิ.ย. 52 เวลา 18:51 น. 20

ของไม่ใช้ >>เอาไปแลกกัน
ของสวยๆแปลกๆ >>เอาไปแลกเงิน
ไม่มีของ มีแต่เงิน >>เอาเงินไปแลกของ

ที่----WW.W**....malakkan***com---
ขอให้สนุกกับการแลกนะคะ104

0