รถถังแบบต่างๆของไทย
ตั้งกระทู้ใหม่
มาทำความรู้จักกับรถถังแต่ละแบบที่ประจำการในกองทัพบกไทยกันครับ
M41 (ประจำการ พ.ศ. 2505)
คุณปู่ M41 นี้อยู่คู่กับกองทัพบกไทยมาเกือบ 50 ปี สร้างชื่อในสงครามเกาหลี M41 ได้รับการจัดหาจากกองทัพบกไทยจำนวนรวม 200 คนในช่วงสงครามเย็นที่เรามีปัญหากับเวียดนามครับ เนื่องจากมันมีขนาดที่เล็กพอดี แต่มีประสิทธิภาพในการรบที่สูง M41 ติดปืนใหญ่รถถังขนาด 76 mm. ซึ่งในปัจจุบันก้ยังมีอีกบางประเทศที่ประจำการด้วย M41 อยู่นะครับ แต่ส่วนใหญ่ได้รับการ upgrade ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ติดเกราะหนาขึ้น แต่ข้อเสียของ M41 ก็คือมันเป็นเครื่องยนต์เบนซินครับ กินน้ำมันมากและเสียงดังมากครับ ประจำอยู่ที่กองพันทหารม้าที่ขึ้นตรงกับกองพลทหารราบ
FV 101 CVR(T) Scorpion (ประจำการ พ.ศ. 2521)
Scorpion เป็นรถถังอังกฤษครับ ตอนจัดซื้อก็ถูกวิจารณ์อย่างมากว่าจะเข้ากับระบบเราที่เป็นอเมริกันได้หรือเปล่า แต่ไป ๆ มา ๆ Scorpion ก็มีส่วนร่วมในหลาย ๆ สมรภูมิทำเอาข้าศึกเละตุ้มเปะมาแล้ว Scorpion ติดปืนขนาด ที่ดูรูปร่างแล้วตลก ๆ (แต่คนโดนยิงตลกไม่ออก) ที่จริงเค้าจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของรถประเภท "รถรบลาดตระเวนสายพาน" หรือ Combat Vehicle Reconnaissance (Tracked): (CVR(T)) Scorpion ติดปืนขนาด 76 mm. ครับ ไทยมีประจำการประมาณ 150 คัน โดยจะประจำการอยู่ที่หน่วยทหารม้าลาดตระเวณและกองร้อยลาดตระเวณระยะไกลครับ
M48A5 (ประจำการ พ.ศ. 2522)
หลังจากเราจัดหา M41 มาได้ซักพัก และหลังจากจัดหา Scorpion ได้ปีเดียว กองทัพบกก็จัดซื้อ M48A5 เข้าประจำการครับ M48A5 มีความแม่นยำสูง โดยมีอัตราการยิงถูกในนัดแรกสูงที่สุดในสมัยนั้น M48A5 มีน้ำหนัก 52 ตัน ติดปืนใหญ่ขนาด 105 mm. เกราะหนาสุงสุดที่ด้านหน้า 120 mm. ทบ.ไทยมีประจำการ 105 คันครับ โดยสังกัดอยู่ที่กองพันทหารม้าประจำกองพลทหารราบ จำนวน2กองพัน ส่วนที่เหลือประจำอยู่กับหน่วยทหารม้า
Type-69 II นั้นเราจัดหาจากจีนในช่วงที่ภัยคุกคามจากเวียดนามพุ่งสูงครับ ช่วงนั้นเราเปิดสัมพันธทางการฑูตกับจีน และขอให้หยุดสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (เวียดนามตอนนั้นเป็นสายโซเวียต) ประกอบกับเราต้องการจัดซื้อรถถังอย่างเร่งด่วนที่สุด เราจึงขอซื้อรถถัง Type-69 II มาจากจีน จีนก็ขายให้ราคาถูกแสนถูก (ประมาณ 5% - 10% ของราคาจริง) แต่เป็นรถถังที่เคยประจำการในจีนมาบ้างแล้ว ซึ่งการที่เราได้รับสุดยอดรถถังในกองทัพปลดปล่อยในขณะนั้นก็ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการเป็นพันธมิตรระหว่างไทยและจีน
Type-69 II เป็นรุ่นปรับปรุงมาจาก Type-69 ธรรมดาครับ (ซึ่งจีนก๊อปมาจาก T-55 ของโซเวียตอีกทีนึง) รุ่น II นี้ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 100 mm. มีระบบ stabilizer ทั้งแนวตั้งและแนวนอนเพื่อรักษาระดับของปืน แถมระบบเล็งด้วยเลเซอร์บนตัวปืนอีก สำหรับ Type-69 II ของไทยนั้นติดตั้งปืน 12.7 mm Browning ของสหรัฐแทน 12.7 ของจีนครับ
Type-69 II ทั้ง 100 กว่าคันเคยมีข่าวเวลาที่ไม่ดีอยู่ช่วงหนึ่งครับ คือวิ่งไม่ได้เลยซักคันเนื่องจากเราไม่มีประสบการณ์ในการซ่อมบำรุงรถถังจากจีนเลย แต่ช่วงหลังประมาณปี 46 -47 ก็มีข่าวว่าจีนรับรถถังส่วนหนึ่งไปซ่อมคืนสภาพให้เองในมูลค่า 10 ล้านเหรียญแบบเราไม่ต้องจ่ายซักกะบาทฟรีครับงานนี้ และเมื่อประมาณ4-5ปีที่ผ่านมีจีนก็ได้ส่งรถถังกลับคืนมาให้ทบ.ทดลองใช้งานก่อน 5คัน ซึ่ง ณ ตอนนี้เราน่าจะได้รับคืนจรครบจำนวนแล้ว และเจ้า Type-69 II ของทบ.นั้น มี5คันที่หน่วยนาวิกโยธินของกองทัพเรือไทยยืมไปใช้งาน
คุณปู่ M41 นี้อยู่คู่กับกองทัพบกไทยมาเกือบ 50 ปี สร้างชื่อในสงครามเกาหลี M41 ได้รับการจัดหาจากกองทัพบกไทยจำนวนรวม 200 คนในช่วงสงครามเย็นที่เรามีปัญหากับเวียดนามครับ เนื่องจากมันมีขนาดที่เล็กพอดี แต่มีประสิทธิภาพในการรบที่สูง M41 ติดปืนใหญ่รถถังขนาด 76 mm. ซึ่งในปัจจุบันก้ยังมีอีกบางประเทศที่ประจำการด้วย M41 อยู่นะครับ แต่ส่วนใหญ่ได้รับการ upgrade ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ติดเกราะหนาขึ้น แต่ข้อเสียของ M41 ก็คือมันเป็นเครื่องยนต์เบนซินครับ กินน้ำมันมากและเสียงดังมากครับ ประจำอยู่ที่กองพันทหารม้าที่ขึ้นตรงกับกองพลทหารราบ
FV 101 CVR(T) Scorpion (ประจำการ พ.ศ. 2521)
Scorpion เป็นรถถังอังกฤษครับ ตอนจัดซื้อก็ถูกวิจารณ์อย่างมากว่าจะเข้ากับระบบเราที่เป็นอเมริกันได้หรือเปล่า แต่ไป ๆ มา ๆ Scorpion ก็มีส่วนร่วมในหลาย ๆ สมรภูมิทำเอาข้าศึกเละตุ้มเปะมาแล้ว Scorpion ติดปืนขนาด ที่ดูรูปร่างแล้วตลก ๆ (แต่คนโดนยิงตลกไม่ออก) ที่จริงเค้าจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของรถประเภท "รถรบลาดตระเวนสายพาน" หรือ Combat Vehicle Reconnaissance (Tracked): (CVR(T)) Scorpion ติดปืนขนาด 76 mm. ครับ ไทยมีประจำการประมาณ 150 คัน โดยจะประจำการอยู่ที่หน่วยทหารม้าลาดตระเวณและกองร้อยลาดตระเวณระยะไกลครับ
M48A5 (ประจำการ พ.ศ. 2522)
หลังจากเราจัดหา M41 มาได้ซักพัก และหลังจากจัดหา Scorpion ได้ปีเดียว กองทัพบกก็จัดซื้อ M48A5 เข้าประจำการครับ M48A5 มีความแม่นยำสูง โดยมีอัตราการยิงถูกในนัดแรกสูงที่สุดในสมัยนั้น M48A5 มีน้ำหนัก 52 ตัน ติดปืนใหญ่ขนาด 105 mm. เกราะหนาสุงสุดที่ด้านหน้า 120 mm. ทบ.ไทยมีประจำการ 105 คันครับ โดยสังกัดอยู่ที่กองพันทหารม้าประจำกองพลทหารราบ จำนวน2กองพัน ส่วนที่เหลือประจำอยู่กับหน่วยทหารม้า
Type-69 II (ประจำการ พ.ศ. 2530)
Type-69 II นั้นเราจัดหาจากจีนในช่วงที่ภัยคุกคามจากเวียดนามพุ่งสูงครับ ช่วงนั้นเราเปิดสัมพันธทางการฑูตกับจีน และขอให้หยุดสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (เวียดนามตอนนั้นเป็นสายโซเวียต) ประกอบกับเราต้องการจัดซื้อรถถังอย่างเร่งด่วนที่สุด เราจึงขอซื้อรถถัง Type-69 II มาจากจีน จีนก็ขายให้ราคาถูกแสนถูก (ประมาณ 5% - 10% ของราคาจริง) แต่เป็นรถถังที่เคยประจำการในจีนมาบ้างแล้ว ซึ่งการที่เราได้รับสุดยอดรถถังในกองทัพปลดปล่อยในขณะนั้นก็ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการเป็นพันธมิตรระหว่างไทยและจีน
Type-69 II เป็นรุ่นปรับปรุงมาจาก Type-69 ธรรมดาครับ (ซึ่งจีนก๊อปมาจาก T-55 ของโซเวียตอีกทีนึง) รุ่น II นี้ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 100 mm. มีระบบ stabilizer ทั้งแนวตั้งและแนวนอนเพื่อรักษาระดับของปืน แถมระบบเล็งด้วยเลเซอร์บนตัวปืนอีก สำหรับ Type-69 II ของไทยนั้นติดตั้งปืน 12.7 mm Browning ของสหรัฐแทน 12.7 ของจีนครับ
Type-69 II ทั้ง 100 กว่าคันเคยมีข่าวเวลาที่ไม่ดีอยู่ช่วงหนึ่งครับ คือวิ่งไม่ได้เลยซักคันเนื่องจากเราไม่มีประสบการณ์ในการซ่อมบำรุงรถถังจากจีนเลย แต่ช่วงหลังประมาณปี 46 -47 ก็มีข่าวว่าจีนรับรถถังส่วนหนึ่งไปซ่อมคืนสภาพให้เองในมูลค่า 10 ล้านเหรียญแบบเราไม่ต้องจ่ายซักกะบาทฟรีครับงานนี้ และเมื่อประมาณ4-5ปีที่ผ่านมีจีนก็ได้ส่งรถถังกลับคืนมาให้ทบ.ทดลองใช้งานก่อน 5คัน ซึ่ง ณ ตอนนี้เราน่าจะได้รับคืนจรครบจำนวนแล้ว และเจ้า Type-69 II ของทบ.นั้น มี5คันที่หน่วยนาวิกโยธินของกองทัพเรือไทยยืมไปใช้งาน
Commando Stingray (ประจำการ พ.ศ. 2532)
เราคงจะไปหา Stingray ที่ประเทศอื่นไม่ได้ เพราะรถถังชนิดนี้มีประจำการที่ประเทศเราประเทศเดียว (แม้แต่อเมริกาผู้ผลิตก็ไม่ได้ประจำการ) เพราะบริษัทผู้ผลิตประสบความสำเร็จในการขายให้เราแค่ประเทศเดียว 100 กว่าคันนิด ๆ
Stingray ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 105 mm. พร้อมด้วยระบบเล็งเป้าด้วยเลเซอร์ ระบบ stabilizer ที่รักษาระดับของปืนทำให้ยิงปืนได้โดยที่รถไม่ต้องหยุดวิ่ง ด้วยความที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา คือราว23ตันกว่าๆ ทำให้เจ้านี่มีความคล่องตัวค่อนข้างสูงและซ่อนตัวได้ง่าย
M60A1/A3 TTS (A1 ประจำการ พ.ศ. 2534 ,A3 ประจำการ พ.ศ. 2539)
M60 ที่เราจัดหาเป็นมือสองจากสหรัฐครับ ผู้รู้หลายท่านทั้งในและต่างประเทศให้ความเห็นว่า M60 เหมาะสมที่สุดในภูมิประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ดินค่อนข้างอ่อน ถ้าเรารถถังหนัก ๆ และมีแรงกดต่อพื้นที่มาก ๆ มีหวังติดหล่ม ทำให้ขาดความคล่องตัวไปเยอะครับ
M60 ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 105 mm. โดย M60A3 จะพิเศษกว่าตัว A1 ก็ตรงที่มันมี Tank thermal Sights ฉะนั้น บางทีเราก็เรียก A3 ของเราว่า TTS เช่นกัน TTS ซึ่งเป็นระบบสร้างภาพจากความร้อนครับ
ไทยมีประจำการรวม ๆ กันแล้วประมาณ 178 คันครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมรถถังของเราเก่าจัง ทำไมถึงไม่มีรถถังใหม่ๆแบบสิงคโปร์หรือมาเลย์บ้าง เก่าแบบนี้จะสู้คนอื่นได้หรือ นี่คือคำถามที่รอคำตอบ
และคำตอบที่ว่านั่นก็คือณปัจจุบันนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องจัดหารถถังแบบใหม่มาครับ เพราะภัยคุกคามยังไม่มี อีกอย่างคือรถถังแบบ Stingray และ M60 นั้นยังถือว่าทันสมัยอยู่ครับ และทบ.เราก็มีโครงการปรับปรุงรถถังทุกรุ่นให้ดีขึ้นกว่าเก่าอยู่แล้ว ยกเว้นเจ้า M41ที่เริ่มจะล้าหลัง
ล่าสุดก็มีการเปิดเผยโครงการจัดหารถถังหลักแบบใหม่จำนวน 200คันครับ โดยคาดว่าน่าจะมาแทนที่คุณปู่ M41ที่รับใช้ชาติมาอย่างยาวนาน แต่ว่าคงยังไม่มีการจัดหามาในช่วงนี้ครับอาจจะซัก 3-5ปีเป็นอย่างน้อยกว่าเราจะได้เห็นรถถังแบบใหม่
แต่ปัญหาของเราก็อยู่เงินอย่างเดียวแหละครับ คงได้แต่ลุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้นเร็วๆ
จบแล้วครับสำหรับวันนี้ ขอบคุณข้อมูลจาก Bloggang Analayo ของคุณ Skyman
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=05-09-2006&group=3&blog=1
เราคงจะไปหา Stingray ที่ประเทศอื่นไม่ได้ เพราะรถถังชนิดนี้มีประจำการที่ประเทศเราประเทศเดียว (แม้แต่อเมริกาผู้ผลิตก็ไม่ได้ประจำการ) เพราะบริษัทผู้ผลิตประสบความสำเร็จในการขายให้เราแค่ประเทศเดียว 100 กว่าคันนิด ๆ
Stingray ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 105 mm. พร้อมด้วยระบบเล็งเป้าด้วยเลเซอร์ ระบบ stabilizer ที่รักษาระดับของปืนทำให้ยิงปืนได้โดยที่รถไม่ต้องหยุดวิ่ง ด้วยความที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา คือราว23ตันกว่าๆ ทำให้เจ้านี่มีความคล่องตัวค่อนข้างสูงและซ่อนตัวได้ง่าย
M60A1/A3 TTS (A1 ประจำการ พ.ศ. 2534 ,A3 ประจำการ พ.ศ. 2539)
M60 ที่เราจัดหาเป็นมือสองจากสหรัฐครับ ผู้รู้หลายท่านทั้งในและต่างประเทศให้ความเห็นว่า M60 เหมาะสมที่สุดในภูมิประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ดินค่อนข้างอ่อน ถ้าเรารถถังหนัก ๆ และมีแรงกดต่อพื้นที่มาก ๆ มีหวังติดหล่ม ทำให้ขาดความคล่องตัวไปเยอะครับ
M60 ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 105 mm. โดย M60A3 จะพิเศษกว่าตัว A1 ก็ตรงที่มันมี Tank thermal Sights ฉะนั้น บางทีเราก็เรียก A3 ของเราว่า TTS เช่นกัน TTS ซึ่งเป็นระบบสร้างภาพจากความร้อนครับ
ไทยมีประจำการรวม ๆ กันแล้วประมาณ 178 คันครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมรถถังของเราเก่าจัง ทำไมถึงไม่มีรถถังใหม่ๆแบบสิงคโปร์หรือมาเลย์บ้าง เก่าแบบนี้จะสู้คนอื่นได้หรือ นี่คือคำถามที่รอคำตอบ
และคำตอบที่ว่านั่นก็คือณปัจจุบันนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องจัดหารถถังแบบใหม่มาครับ เพราะภัยคุกคามยังไม่มี อีกอย่างคือรถถังแบบ Stingray และ M60 นั้นยังถือว่าทันสมัยอยู่ครับ และทบ.เราก็มีโครงการปรับปรุงรถถังทุกรุ่นให้ดีขึ้นกว่าเก่าอยู่แล้ว ยกเว้นเจ้า M41ที่เริ่มจะล้าหลัง
ล่าสุดก็มีการเปิดเผยโครงการจัดหารถถังหลักแบบใหม่จำนวน 200คันครับ โดยคาดว่าน่าจะมาแทนที่คุณปู่ M41ที่รับใช้ชาติมาอย่างยาวนาน แต่ว่าคงยังไม่มีการจัดหามาในช่วงนี้ครับอาจจะซัก 3-5ปีเป็นอย่างน้อยกว่าเราจะได้เห็นรถถังแบบใหม่
แต่ปัญหาของเราก็อยู่เงินอย่างเดียวแหละครับ คงได้แต่ลุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้นเร็วๆ
จบแล้วครับสำหรับวันนี้ ขอบคุณข้อมูลจาก Bloggang Analayo ของคุณ Skyman
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=05-09-2006&group=3&blog=1
bassFGT
17 มิ.ย. 52 เวลา 21:46 น.
7,636
views
14 ความคิดเห็น
@o@!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
PS. o*-"...A man is not born in the possession of knowledge..."-*o
โหหหห
สุดยอด น่ารรักมีไว้ขับสัก คัน เนอะ
รับรองไม่มีใครกล้า หือ
PS.
มาผิดเว็บแหละ
น่าจะไปเว็ย เสธแดงนะ
ถ้าคลั้งชาติ
แนะนำให้ไปรู้จักกับ คนที่ชื่อ ขุนกำแหง นะ
อยากทราบเกี่ยวกับไทยเคยสร้างรถถังไทยในอดีต ใครพอมีข้อมูลบ้าง
PS.
โอมร๊ากรถถัง
UPGRADE M60A3 ที่มีเหมือนอิสราเอลน่าจะดีกว่าซื้อใหม่นะ
นี่ขนาดกินกัน chip lost ยังมีเครื่องบินใหม่อาวุธใหม่ๆใช้
ประเทศเรานี่รวยจิงๆแฮะ
ถ้าไม่โกงไม่กินกันซะได้เราว่า อินโดก็สู้เราไม่ได้หรอกนะ
ผมว่านะ ไทยเรา ติดเขี้ยวเล็บได้มากกว่านี้ ถ้าไม่โกงกิน  เขมร แชงเราแล้ว  555
เขาออกมาเฉลยแล้วครับรถถังที่ไทยจะนำเข้าประจำการแทนเจ้า m41 นี่ คือ K1A1 ของเกาหลีครับ ตอนนี้เรื่องจัดหารถถังรุ่นนี้เข้าประจำการนำเข้าที่ประชุมรัฐสภาแล้วครับ สงสัยเทรนเกาหลีจะมาแรงมาก ขนาดรถถังที่จะนำเข้าประจำการ ยังเป็นของเกาหลีเลย แต่ที่ผมคาดการณ์เราจะได้ของมือ2
เหมือนเดิม เพราะรถถังตัวนี้น่าจะปิดสายการผลิตไปแล้ว เพราะตอนนี้เกาหลีกำลังจัดหารุ่น a2
เข้าประจำการ
ขอแนะนำให้ใช้ M 1 A2 ของอเมริกา หรือไม่ก็ Leopard 2a4  หรือ  Leopard 2a6 ของเยอรมัน
แม้จะแพงหน่อย แต่เป็นของดีที่ใช้งานได้ยาวนาน มีมาตรฐานสูง เรียกว่าเป็นของดีมีคุณภาพ
คือ ถ้าจะเสียเงินทั้งที เอาให้ดีไปเลย ไมใช่ซื้อแต่ของถูกมาแต่ด้อยคุญภาพ ใช้งานได้ไม่ทันไร
ก็พังเสียแล้ว
ขอเสียทีเถอะ เลิกซื้อของจาก ยูเครนเสียที ของไม่มีคุณภาพ เหมือนเขาขายเศษเหล็กให้เรา
จำเรื่อง รถหุ้มเกราะล้อยางได้ใหม ทำไมไทยเราถึงไม่เข็ดเสียที เห็นแต่เป็นของถูก ไม่คำนึงถึง
คุณภาพ และอายุการใช้งาน มาตรฐานก็ต่ำ ขอเสียทีเถอะเลิกซื้ออาวุธจากทางค่ายคอมมิวนิส
เสียที ไม่ใช่ผมคั่งใคร้ อเมริกา หรือ เยอรมันหรอกนะ แต่ของเขาเป็นของดีมีคุณภาพสูง มีมาตรฐาน
สูง อายุการใช้งานยาวนาน ระบบต่างๆภายในตัวรถเป็นดิจิตอล และคอมพิวเตอร์หมด ระบบเครื่อง
ยนต์ และระบบส่งกำลังก็ทนทาน ใช้งานได้สมบุกสมบัน มีแผ่นเกราะที่หนาและเป็นความลับ ระบบอาวุธก็สุดยอด มีกระสุนให้เลือกใช้ได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล็ง หรือยิง หรือการหาเป้า ใช้คอมพิวเตอร์หมด ใช้ระบบ GPS ในการหาที่อยู่ตัวเอง และการหาเป้า คือใช้ดาวเทียมเป็น
ตัวช่วย นี่ผมยังอธิบายยังไม่หมด ยังมีระบบอื่นๆที่ทันสมัยอีกมากมายในตัวรถ
ผมว่าน่าจะให้กองทัพไทย ซื้อรถถังรุ่น merkava 4 ของอิสราเอลมาใช้นะ
Abram ประเทศไทยใช้ไม่ได้ครับนน.เกิน ยังไม่ต้อพูดถึงราคาเลย อีกทั้งค่าน้ำนม เอ๊ย น้ำมันเครื่องกังหันเทอร์ไบมันก็เครื่องเจ็ดดีๆนี่เอง เราไม่มีกองรถลำเลียงยุทโธปกรหนักแบบอเมริกานะ อย่าว่าแต่รบเลยแค่ซ้อมรบก็ต้องไปแย่งคลังน้ำมัน ทอ.อีกนะครับ คงไม่ได้หละครับ
  Leopard สายการผลิตอะไหล่ไม่ดีครับ ผลิตจากโรงงานแยก และโรงงานบางส่วนก็ปิดไปแล้วบางส่วนก็ผลิตในต่างประเทศครับ ถ้าจะสั่งก็ต้องเปิดโรงงานใหม่ ราคาก็ต้องขึ้น อีกทั้งเวลาซื้อก็ต้องซื้อรถอะไหล่ด้วยราคาต่อคันจะเพิ่มอีก 50% ทั่งเยอรมันยังมีอัคติกับไทยหลังจากรัฐประหารครั้งที่แล้วอยู่ครับ
  Merkava ม้าเหล็กจากอิสราเอลไม่เหมาะกับภูมิประเทศของไทยครับ เพราะขนาดที่ใหญ่และน้ำหนักมาก และอีกอย่างเขาไม่ขายครับ เพราะเขาผลิตเพื่อใช้ในประเทศครับ
  K1 ของเกาหลี ถ้าจะซื้อก็คงได้แค่มือสอง และก็ไม่มีอะไหล่ครับเพราะเขาหยุดการผลิตไปแล้ว ซึ่งคงจะแพงอยู่แล้วในการเปิดสายการผลิตใหม่
  Oplot ของยูเครนคงเป็นคำตอบสุกท้ายแล้วครับเพราะผลิตจากโรงงานเดียว สายการผลิตก็เปิดอยู่ แล้วประสิทธิภาพก็ไม้ได้ด้อยกว่า Leopard นะครับ แล้วที่ดีอีกอย่างคือเขาสามารถรับความต้องการพิเศษของเราและเปลี่ยนแบบให้เราได้ครับ เช่นขนาดลำกล้อง และอื่นๆ อาจจะเรียกได้ว่ารุ่นของไทยก็ว่าได้ครับ แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องอะไหล่ครับ เพราะการจะหารถถังหลักที่จะใช้ไปอีก30ปี เรื่ออะไหล่สำคัญมากเพราเราผลิตเองไม่ได้ครับ
  การทีจะหารถถังหลักมาประจำการไม่ใช้คักดิ์แต่ว่าประสิธิภาพอยางเดียวนะครับ ต้องดูหลายๆปัจจัยครับ เช่นภูมิประเทศ สภาพอากาศ ความคุ้มค่าและเทคโนโลยีที่ประเทศเรารับได้ครับไม่ใช่สั่งมาแล้วแปลกแยกแหกคอก แล้วก็ต้องสั่งเทคโนโลยีร่วมมาใช้อีกอันนี้ก็ไม่เวิรค์นะครับ กองทัพก็จะไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การรบก็จะไม่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีซื้อมาแล้วไม่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมันก็ไร้ค่านะครับ เน้นแต่ประสิทธิภาพระวังเจอแบบเยอรมันใน world war 2 นะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?