[26 มิ.ย. วันสุนทรภู่]...งานกวีบทไหนที่คุณชอบ
วันสุนทรภู่ ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน เป็นวันคล้ายวันเกิดของพระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่) เจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวัง ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นกวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และมีผลงานประพันธ์มากมาย เฉพาะเรื่อง พระอภัยมณี วรรณกรรมชิ้นเอกของท่าน ก็มีความยาวถึง 12,706 บท ถือได้ว่าเป็นกวีนิพนธ์ที่ยาวที่สุดในโลก ในขณะที่บทประพันธ์เรื่องอีเลียต (Iliad)) และโอเดดซี (Odyssey)ของฝรั่งที่ว่ายาวที่สุด ยังมีเพียง 12,500 บทเท่านั้น เมื่อปี พ.ศ. 2529 ท่านได้รับยกย่องจากยูเนสโก ให้เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก
26 มิถุนายนของทุกปี ถือว่าเป็น "วันสุนทรภู่" ครับ ผมว่าทุกคนที่เรียนหนังสือในประเทศ จะต้องเคยอ่านบทวรรณกรรมของท่านมาแล้วทั้งสิ้น มหากวีแห่งรัตนโกสินทร์
http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=67429
ผลงานของท่านยังมีอีกมาย...แต่...บทประพันธ์ไหนที่คุณชอบ
อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ
ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก
จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย
กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "เพลงยาวถวายโอวาท"
จริงๆ อยากชวนมาแต่งกลอนสดุดีท่าน...แต่ด้วยความที่สมองเบลอยามเช้า...เลยกลายเป็นว่าอยากถามชาวบอร์ด ชอบงานประพันธ์ชิ้นไหนของครูกวีสุนทรภู่...
PS. ไปตายให้หนอนกิน~
13 ความคิดเห็น
บทที่ผมชอบในเนื้อความ คือบทที่จำกันได้มากที่สุด และคนรู้จักมากที่สุด
"แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
ชีวิตนี้ที่รักอยู่สองสถาน
บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน
เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา
แม้ใครรักรักมั่งชังชังตอบ
ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"
พระอภัยมณี....
ส่วนบทที่ชอบเสียงและลีลาที่สุด คงจะเป็น
"เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า........ดาดาว
จรูญจรัสรัศมีพราว.............พร่างพร้อย
ยามดึกนึกหนาวหนาว.......เขนยแนบ แอบเอย
เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อย.............เยือกฟ้าพาหนาว"
โคลงนิราศสุพรรณ
สุดท้ายขอกราบครูด้วยกลอนแบบครู
๏ ขอกล่าวคุณภุมราจอมอาลักษณ์
ผู้จำหลักจักรวาลผ่านห้วงหาว
"เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว
เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร"
"แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์"
จึงผ่องผุดพรายแจ้งแห่งอักษร
"บ้างชมป่าช้าปีทีละคร"
ทุกบทตอนก้องขลังดังกังวาน
"เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว"แจ่ม
ก็วับแวมแอร่มรุ่งพุ่งไพศาล
"หวาดประหวัดสตรีฤดีดาล"
ระรินซ่านซึ้งใจดุจได้เป็น
"อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก"
แต่หวานปากกลอนครูอยู่ให้เห็น
"ทั้งหนาวนอนไกลนุชสุดจะเย็น"
โศกกระเซ็นซึมซาบอาบดวงใจ
ข้าผู้หัดจัดเขียนเพียรอักษร
เป็นบทกลอนวอนกราบทราบวิสัย
จบเทียนธูปบุปผาสุมาลัย
ประณตไหว้ครูกลอนด้วยกลอนครู๚๛
PS. In omnibus requiem quaesivi, et nusquam inveni nisi in angulo cum libro.
กลอนบทนี้จากเรื่องพระอภัยมณีครับ ชอบมาก เพราะเกี่ยวกับดนตรี
พระฟังความพราหมณ์น้อยสนองถาม
จึงเล่าความจะแจ้งแถลงไข
อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป
ย่อมใช้ได้ดังจินดาค่าบุรินทร์
ถึงมนุษย์ครุฑาเทวราช
จตุบาทกลางป่าพนาสิณฑ์
แม้นปี่เราเป่าไปให้ได้ยิน
ก็สุดสิ้นโทโสที่โกรธา
ให้ใจอ่อนนอนหลับลืมสติ
อันลัทธิดนตรีดีหนักหนา
ซึ่งสงสัยไม่สิ้นในวิญญาณ์
จงนิทราเถิดจะเป่าให้เจ้าฟัง
แล้วหยิบปี่ที่ท่านอาจารย์ให้
เข้าพิงพฤกษาไทรดังใจหวัง
พระเป่าเปิดนิ้วเอกวิเวกดัง
สำเนียงวังเวงแว่วแจ้วจับใจ
ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราหมณ์เอ๋ย
ยังไม่เคยชมชิดพิสมัย
ถึงร้อยรสบุปผาสุมาลัย
จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย
พระจันทรจรสว่างกลางโพยม
ไม่เทียบโฉมนางงามเจ้าพราหมณ์เอ๋ย
แม้นได้แก้วแล้วจะค่อยประคองเคย
ถนอมเชยชมโฉมประโลมลาน
เจ้าพราหมณ์ฟังวังเวงวะแว่วเสียง
สำเนียงเพียงการเวกกังวานหวาน
หวาดประหวัดสตรีฤดีดาล
ให้ซาบซ่านเสียวสดับจนหลับไป
ปล. กลอนข้างล่างนี้ผมแต่งเองนะครับ ขำๆ อย่าคิดมาก ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นท่านสุนทรภู่แต่อย่างใด ผมสงสัยมานานแล้ัวว่าที่ท่านสุนทรภู่เขียนบทกลอนได้เก่งนั้นเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่า แล้วอีกอย่าง วันนี้ก็ยังเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลกอีกด้วย แ่ต่ผมขอเรียกสั้นๆ ว่าวันยาเสพติดก็แล้วกัน
สุนทรภู่ดูดกัญชาวันยาเสพติด
แล้วจึงคิดงานเขียนได้แจ่มแจ๋ว
เยาวชนรุ่นหลังควรยึดเป็นแนว
เพื่อให้แล้วเสร็จเป็นงานเขียนดี
ปล.2 ผมจะโดนกระทืบไหมเนี่ย...
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 มิถุนายน 2552 / 06:08
PS. ทว่านั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราค่อยพูดถึงในโอกาสต่อไป...
^
^
สมัยสุนทรภู่ กัญชา (cannabis sativa) ถือว่าเป็นยาชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ยาเสพติด และคนก็ไม่ติดด้วย
หลายประเทศในโลกปัจจุบันก็ไม่ถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ และสามารถเสพได้อย่างถูกกฎหมายใต้เงื่อนไข
อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานใดๆปรากฏว่าสุนทรภู่เสพกัญชา แม้กระทั่งสุราเองท่านก็ไม่ได้ดื่มหนักมากมายตามที่หนังสือกล่าวหามายาวนาน
"ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันขโมง
มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย"
ท่านเขียนเมื่อตระหนักถึงพิษภัยจากสุราได้แล้วนั่นแล....
PS. In omnibus requiem quaesivi, et nusquam inveni nisi in angulo cum libro.
ไม่ทราบว่าคุณ เทราสเฟียร์ เอล เซราฟีเตอร์ ชอบนิราศภูเขาทองเหมือนกันหรือเปล่า?
..................
ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง
มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ
สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย
ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ
กำลังเมารักค่ะ.....รักนักอ่าน
PS. คนที่กล้าทว้งติงเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เราทำไม่ถูกไม่ควรนั่นแหละคือ "กัลยาณมิตร"
สุนทรภู่ดูดกัญชาวันยาเสพติด
แล้วจึงคิดงานเขียนได้แจ่มแจ๋ว
เยาวชนรุ่นหลังควรยึดเป็นแนว
เพื่อให้แล้วเสร็จเป็นงานเขียนดี
เอาบ้าง น่าสนุก
สุนทรภู่ดูดกัญชายาเสพติด
แล้วจึงคิดงานเขียนได้แจ่มแจ๋ว
เยาวชนรุ่นหลังยึดเป็นแนว
เพื่อให้แล้วเสร็จสิ้นงานชิ้นดี
เอาเนื้อห่อมายำกันบนเขียง
แล้วเรียบเรียงใส่บ้องคล่องวิถี
จุดไฟรนพ่นควันไม่ปราณี
ใจสุขีรื่นรมย์สมฤทัย
เมื่อตาลอยคล้อยเอียงเสียงเริ่มหลอน
บ้างก็นอนอ้อนเอ่ยเผยวิสัย
บ้างอาจอยากของหวานสึดชื่นใจ
บ้างก็ไม่รู้สึกดีแล้วแต่คน
แต่เรื่องจินตนาการนั้นน่าแปลก
บ้างก็แหลกราญไปไม่น่าสน
บ้างก็ล้ำสรรสร้างบ้างเริ่มลน
เพราะสุดทนพิษยาหรือบ้าบอ ฯ
PS. http://emperorsss.deviantart.com http://emperorsss.multiply.com อ่านนิยาย จ้าวศาสตรา ได้ที่หน้านิยาย http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=519969
กระโดดเผาะเกาะะผับขยับคืบ
ถีบกระทืบมิใครหลุดสุดแสยง
ปลดที่ตีนติดที่ขาระอาแรง
ทั้งขาแข้งเลือดโซมชโลมไป
-จาก นิราศเมืองแกลง-
โอ้เสียวไส้สุดๆ -.- มีอีกบทที่ชอบจาก พระอภัยมณี
สะใจ หุหุ
ปล. อีกนัยหนึ่งก็เพราะนะ อ่านแล้วเห็นภาพเลย ชอบๆ >0<
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 มิถุนายน 2552 / 13:32
PS. ถ้าผิดพลาดก็ขออภัย วิบัติไปก็ขอโทษที
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหนือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี้ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งน้ำใจคน
พระอภัยมณี...
ไม่เมาเหล้าแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
นิราศภูเขาทอง....
ผู้ใดเกิดเป็นสตรีอันมีศักดิ์ บำรุงรักกายไว้ให้เป็นผล
สวงนงามตามระบอบให้ชอบกล จึงจะพ้นภัยพาลการนินทา
เป็นสาวแส่แร่รวยสวยสะอาด ก็หมายหมาดเหมือนมณีอันมีค่า
แม้แตกราวรานร่อยถอยราคา จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง
อันตัวต่ำแล้วอย่าทำให้กายสูง ดูเยี่ยงยุงแววยังมีที่วงหาง
ค่อยเสงี่ยมเจียมใจจะไว้วาง ให้ต้องอย่างกิริยาเป็นนารีฯ
จะนุ่งห่มพอสมศักดิ์สงวน ให้สมควรรับพักตร์ตามศักดิ์ศรี
จะผัดหน้าทาแป้งแต่อินทรีย์ ดูฉวีผิวเนื้ออย่าเหลือเกิน
สุภาษิตสอนหญิง......( มีต่อ )
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 มิถุนายน 2552 / 14:51
PS. ไม่มีสิ่งใดในโลกที่สวยหรู ไม่มีสิ่งใดดีพร้อม ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่มีข้อเสีย อย่ามองว่าตัวเราดีเลิศแต่จงมองให้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองและพยายามแก้ไขมันให้มีน้อยที่สุด(ถ้ามีเยอะเราจะอ้วน )
เป็นสุภาพราบเรียนแลเจริญ คงมีผู้สรรเสริญอนงค์ทรง
ใครเห็นน้องต้องนิยมชมไม่ขาด ว่าฉลาดแต่งร่างเหมือนนางหงส์
ถึงรูปงามทรามสวงนนวลอนงค์ ไม่รู้จักแต่งทรงก็เสียงามฯ
ประการหนึ่งซึ่งจะเดินดำเนินนาด ค่อยเยื้องยาตรยกย่างไปกลางสนาม
อย่าไกวแขนสุดแขนเข้าห้ามปราม เสงี่ยมงามสงวนไว้แต่ในที
อย่าเดินกรายย้ายอกยกผ้าห่ม อย่าเสยผมกลางทางหว่างวิถี
อย่าพูดเพ้อเจ้อไปไม่สู่ดี เหย้าเรื่อนมีกลับมาจึงหารือ
ให้กำหนดจดจำแต่คำชอบ ผิดระบอบแบบกระบวนอย่าควรถือ
อย่านุ่งผ้าพกใหญ่ใต้สะดือ เขาจะลือว่าเล่นไม่เห็นควร
อย่าลืมตัวมัวเดินให้เพลินจิต ระวังปิดปกป้องของสงวน
เป็นนารีที่อายหลายกระบวน จะสงวนศักดิ์สง่าอย่าให้อาย
อนึ่งเนตรอย่าสังเกตให้เกินนัก จงรู้จักอาการประมาณหมาย
แม้ประสพพบเหล่าเจ้าชู้ชาย อย่าชม้ายพีทำชม้อยตะบอยแล
อันนัยน์ตาพาตรีให้มัวหมอง เหมือนทำนองแนะออกบอกกระแส
จริงมิจริงเขาเอาไปเล่าเเช คนรังแกมันก็ว่านัยน์ตาคมฯ
สุภาษิตสอนหญิง......
PS. ไม่มีสิ่งใดในโลกที่สวยหรู ไม่มีสิ่งใดดีพร้อม ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่มีข้อเสีย อย่ามองว่าตัวเราดีเลิศแต่จงมองให้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองและพยายามแก้ไขมันให้มีน้อยที่สุด(ถ้ามีเยอะเราจะอ้วน )
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหนือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี้ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งน้ำใจคน
วอร์ชอบบทนี้แฮะ- -
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตจะคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
ชอบอ่ะ
PS. ด้วยรักและอยากฆ่า หึๆ โชคดีและโชกเลือด เป็นห่วงนะหวังว่านรกจะดูแลคุณ
เรย์ชอบนี่.....
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
มนุษย์นี้ที่รักสองสถาน
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ
รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา
จงคิดตามไปเอาไม้เท้าเถิด
พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี
ครูเขาให้ท่องตอนเรย์อยู่ ป.4 ตอนนี้อยู่ ป.6 มีบทอาขยานผ่านเข้า มาหลายบท
แต่ก็ยังชอบบทนี้มากที่สุดอยู่ดีน่ะแหละ ^^
PS. Love is not the thing that have the most value in my life... But love is the thing that make my life have the value Do you know that nothing last forever ??
PS. TO ASH I BE BURNT, FROM ASH I BE RISEN.
แม้นชายใดประสงค์มาหลงรัก ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น
อันความรักของชายมีหลายชั้น ที่ว่ารักรักนั้นประการใด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?