Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ช่วยเราด้วย ช่วยคิดข้อคิดเรื่องกากีหน่อย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วยเราคิดข้อคิดจากเรื่องนี้หน่อยน๊ะ

ถ้าใครไม่เคยอ่าน
เรามีเนื้อเรื่องมาให้

กากี
เรื่องย่อกากี
    
    พระเจ้าพรหมทัตเป็นเจ้าผู้ครองนครพาราณสี   มีมเหสีที่ทรงโฉมงดงามและกลิ่นกายหอมเหมือนดอกมณฑา   มีนามว่ากากี   ท้าวพรหมทัตทรงมีพี่เลี้ยงที่มีความชำนาญในการดีดพิณ   ชื่อว่า   นาฎกุเวรยักษา   ในครั้งนั้นมีพญาครุฑผู้ยิ่งใหญ่   เรื่องอำนาจด้วยเวทมนตร์คาถาอยู่ตนหนึ่ง   ชอบแปลงร่างเป็นมาณพหนุ่มลงไปเล่นสกากับท้าวพรหมทัต   และพระเจ้าพรหมทัตเองก็พอใจ   ที่ได้เล่นสกากับมาณพหนุ่มแปลกหน้าผู้นี้
    วันหนึ่งพญาครุฑก็ได้แปลงกายมาเล่นสกา   กับท้าวพรหมทัตเช่นเคยการเล่นสกาดำเนินไปอย่างสนุกสนาน   ฝ่ายนางกากีนั้นได้ฟังคำบอกเล่า   ถึงความงามของมาณพหนุ่มที่มาเล่นสกา   อยากจะออกไปทอดพระเนตรดูเหมือนกันจึงตัดสินใจออกมาแอบดูตรงม่านประตู   บังเอิญมาณพหนุ่มผินหน้ามาทางพระนางเข้าและขณะนั้นเอง   มาณพหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นจากกระดาน   มองมาทางม่านประตูก็ประสบกับดวงตาของนางกากีทันที
    จนเวลาใกล้พบค่ำ   พญาครุฑในร่างของมาณพก็ทูลลา   เมื่อมาถึงใต้ร่มไทรก็กำบังก็กลายร่างเป็นพญาครุฑ   บินโฉบเข้าไปในตำหนักของพระนากากี   เมื่อพระนางกากีเห็นพญาครุฑก็ตกใจมาก   พญาครุฑจึงกล่าวว่า  “อย่าตกใจไปเลยพี่นี้แหละคือมาณพที่ทอดสกา”  แล้วพญาครุฑก็กล่าวเกี้ยวพาราณสีนางกากี   และพยายามพูดเกลี้ยกล่อม   จนพระนางกากีทรงเห็นใจ   ยอมตามไปอยู่กับพญาครุฑ
    พญาครุฑจึงถือโอกาสกางปีกสองข้าง   โอบอุ้มพระนางกากีขึ้นแล้วพาทะยานขึ้นสู้ท้องฟ้า   เหาะข้ามแม่น้ำสีทันดรไปอย่างรวดเร็ว   แล้วทั้งสองก็ต่างครองความรักกันอยู่ในถ้ำวิมานนั้นอย่างเป็นสุข   จนนางกากีนั้นหลงใหลในชู้รักคนใหม่   ฝ่ายพระเจ้าพรหมทัตเมื่อทรงทราบว่า   นางกากีหายไปก็ได้แค่เศร้าโศกจึงมีบัญชาให้เหล่าทหารออกค้นหา   โดยมิได้เฉลียวใจเลยว่า   เป็นฝีมือของมาณพที่มาเล่นสกากับพระองค์
    พระองค์ทรงเรียกคนธรรพ์พี่เลี้ยงมาปรึกษา   คนธรรพ์จึงทูลถึงการที่นางกากีทรงหายไปนั้น   อาจเกิดจากมาณพหนุ่มที่มาเล่นสกากับพระองค์   พระเจ้าพรหมทัตให้คนธรรพ์หาวิธีพานางกลับคืนมาให้ได้   และรอจนถึงวันต่อมาเป็นวันที่เจ็ดซึ่งเป็นวันครบกำหนด   ที่พญาครุฑจะลงมาเล่นสกากับพระเจ้าพรหมทัต
    



พญาครุฑจำต้องตัดใจไปเพราะว่า   ถ้าไม่ไปเล่นสกากลัวเป็นพิรุธ   พญาครุฑหรือพญาราชเวนไตย   จึงปลอบประโลมนางกากี   จนรุ่งเช้าของวันใหม่พญาครุฑก็ออกเดินทาง   ก่อนเดินทางก็ได้ร่ายมนตร์ผูกบานประตูทั้งสองไว้   ชั่วพริบตาก็บินมาถึง   เมื่อบินลงพื้นดินก็เนรมิตกายเป็นมาณพ   แล้วก็เดินเข้าสู่ท้องพระโรงทันที   การเล่นสกาในวันนี้   เป็นการเล่นสกาที่ขาดรสชาติ   เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเรื่องภายในใจด้วยกันทั้งคู่
    จนตะวันชายแสง   พญาครุฑเป็นห่วงกากีมากจึงรีบทูลลากลับ   นาฎกุเวรหรือคนธรรพ์จึงสะกดรอยตามมาทันที   โดยมิให้พญาครุฑรู้ตัว   เมื่อพญาครุฑกลับร่างเดิมแล้ว   คนธรรพ์ก็เนรมิตกายเป็นตัวไร   เช้าแทรกในขนของพญาครุฑทันที   เมื่อพญาครุฑบินกลับมาถึงก็ร่ายมนตร์สะเดาะบานประตูทันที   กากีนั่งคอยชู้รักอยู่   พญาครุฑก็โถมเข้ารับขวัญนางเป็นการใหญ่   จนรุ่งเช้าของวันใหม่พญาครุฑก็บอกแก่นางกากีว่า   จะออกไปเที่ยวเขาหิมพานต์   และเก็บผมไม้ไว้เป็นเสบียงอาหาร
    ฝ่ายคนธรรพ์เมื่อเห็นพญาครุฑออกไปแล้วก็กลับคืนร่างเดิม   เมื่อกากีเหลือบมาเห็นก็ตกใจ   เพราะคิดไม่ถึงว่า   คนธรรพ์จะสามารถเดินทางมาถึงวิมานนี้ได้   คนธรรพ์ก็นึกในใจว่า   อันนางกากีนี้คงเป็นสตรีที่มีจิตใจรวนเร   ยากที่จะปักใจให้แก่ชายใดเป็นที่แน่นอน   เรามาถึงนี่แล้วก็อยากจะลองลิ้มชิมรสกลิ่นกายนางที่ว่าหอมติดชายไปถึงเจ็ดวันดูบ้าง   คนธรรพ์จึงใช้วิธีปากว่ามือถึง   เพียงครู่เดียวนางกากีก็ใจอ่อนยอมให้คนธรรพ์ชมเชยอย่างสมใจ
    ตลอดเวลาหกวันคนธรรพ์ได้ทำหน้าที่เป็นสามีกลางวันให้แก่กากี   ส่วนเวลากลางคืนนั้นนางเป็นของพญาครุฑ   ครั้นครบกำหนดเจ็ดวันพญาครุฑจะต้องลงไปเล่นสกากับท้าวพรหมทัต   พญาครุฑก็นั่งสั่งเสียล่ำลากากี   เสร็จแล้วก็เตรียมจะโบยบิน   ไปยังธานีของท้าวพรหมทัต   คนธรรพ์จึงถือโอกาสแปลงเป็นไรแทรกขนของพญาครุฑ   เพื่อกลับสู่วังเช่นกัน   และเมื่อบินมาถึงเมือง   พญาครุฑก็เนรมิตเป็นมาณพรูปงาม   เข้าไปเล่นสกากับท้าวพรหมทัต
    ฝ่ายคนธรรพ์ได้เล็ดลอดออกมาแล้วแปลงกลับคืนสู่ร่างเดิม   จึงเข้าไปทำกิริยาบุ้ยใบ้ทูลให้พระเจ้าพรหมทัตทราบว่า   มาณพผู้นี้แหละที่ลักพานางกากีไป   เมื่อเล่นสกาได้สักครู่   คนธรรพ์ก็หยิบเอาพิณขึ้นมาดีด   พร้อมกับเสียงขับกลอนที่คนธรรพ์แต่งขึ้นจากเรื่องราว   ที่เขาลักลอบขึ้นไปร่วมภิรมย์กับนางกากี   พญาครุฑได้ฟังก็เป็นที่กระจ่างแก่ตน   จะโทษคนธรรพ์ก็ไม่ได้   นี้เป็นเพราะกากีนั้นประพฤติชั่วไม่เลือกชายต่างหาก   ครั้นแล้วพญาครุฑก็ถือโอกาสทูลลาท้าวพรหมทัต
พญาครุฑรีบโบยบินสู่วิมารฉิมพลีโดยเร็ว   เมื่อเปิดประตูพอกากี   พญาครุฑได้เริ่มเปิดฉากเกรี้ยวกราดเอากับนางกากีทันที   แต่มารยาทของกากียังมีอยู่   นางจึงพยายามพูดออดอ้อน   ประจบประแจงพญาครุฑ   แต่พญาครุฑไม่ใช่ชายใจอ่อนที่จะหลงใหลในคำออดอ้อนของสตรีง่ายๆ   พญาครุฑจึงพานางกลับคืนให้แก่ท้าวพรหมทัต   โดยทิ้งนางกากีไว้กลางพระลานคลี   ตรงหน้าห้องบัญชรห้องบรรทมของท้าวพรหมทัต   แล้วพญาครุฑก็ทะยานขึ้น   โบยบินกลับไปสู่ฉิมพลีโดยเร็ว
พอรุ่งเช้าท้าวพรหมทัตตื่นจากบรรทมก็เดินไปเปิดหน้าต่าง   มองออกไปข้างนอกก็เห็นนางกากีนอนฟุบอยู่ก็ทรงระงับใจ   กากีมองเห็นก็ก้มกราบแล้วทูลพลางร้องไห้ออดอ้อน   ท้าวพรหมทัตก็ปล่อยกากีให้ออดอ้อนไปเรื่อย ๆ โดยมิได้สนใจเลย   แล้วท้าวพรหมทัตก็มีบัญชาให้ทหารนำนางไปลอยแพ   เมื่อนางลอยแพได้ไม่นาน   พ่อค้าเรือสำเภามาพบก็ช่วยนางขึ้นจากแพ   ด้วยความสวยของนางกากี   นายวานิชก็หลงรัก   และได้นางเป็นภรรยาอีก
    วันหนึ่งเมื่อเรือเช้าถึงฝั่ง   นายวานิชได้พานางกากีขึ้นมานั่งพักผ่อนใต่ร่มไทร   แล้วทั้งคู่ก็เผลอหลับไป   พอดีขณะนั้นมีกลุ่มโจนเดินผ่านมา   และเห็นนางกากีเข้าก็เกิดหลงรัก   จึงร่ายมนตร์สะกดนายวานิช   แล้วก็อุ้มนางกากีไป   กากีจึงตกเป็นภรรยาโจรอีก   แต่อยู่ได้ไม่นานหัวหน้าโจรก็ถูกลูกน้องฆ่าเพื่อแย่งชิงกากี   กากีจึงหลบหนีซัดเซพเนจรอยู่ในป่า   ต้องรับทุกข์เวทนาอีกครั้ง
กล่าวถึงท้าวทศวงศ์ผู้ครองนครไพสารี   ได้เสด็จออกประพาสป่า   และได้มาพบนางกี   ท้าวทศวงศ์ทอดพระเนตรนางกากีก็ถูกพระทัย    ประกอบกับเมื่อเข้าใกล้นางก็ได้กลิ่นหอมจากนางดั่งดอกมณฑา   ก็เลยรับเอากากีเข้าวังอภิเษกนางเป็นมเหสีทันที
กล่าวถึงท้าวพรหมทัต   เมื่อเนรเทศนางกากีไปแล้ว   พระองค์ก็ทรงตรอมใจเสวยไม่ได้จนถึงกับประชวรและสวรรคต   และแต่งตั้งนาฎกุเวรขึ้นครองราชย์แทนใช้พระนามว่าท้าวพรหมทัตต่อมา
นาฎกุเวรหรือพระเจ้าพรหมทัตนั้น   อดที่จะคิดถึงนางกากีชู้รักไม่ได้   จึงคิดว่าจะต้องระงับเวรของพระองค์ด้วย   โดยหาหนทางพานางกลับคืนพระนครดังเดิม   ท้าวพรหมทัตก็รับสั่งถามเสนาว่า   รู้ข่าวของกากีบ้างไหม   อำมาตย์ผู้หนึ่งชื่อขุนวิจิตรมภักดีได้ทูลว่า   ได้ทราบข่าวจากพ่อค้าที่มาจากเมืองไพสารีว่านางกากีได้เป็นมเหสีเอกของท้าวทศวงศ์   ท้าวพรหมทัตจึงแต่งสารไปขอกากีคืนแต่ท้าวทศวงศ์ไม่ยอม   จึงเกิดศึกชิงนางกากีขึ้น   และผลสุดท้ายท้าวทศวงศ์พ่ายแพ้ไป   ท้าวพรหมทัตหรือคนธรรพ์ได้ชัยชนะ   จึงพานางกากีกลับมาครองรับอย่างมีความสุข






ขอบคุณน๊ะ จ๊ะ ^^

แสดงความคิดเห็น

>

14 ความคิดเห็น

Anemone2526 29 ส.ค. 52 เวลา 20:32 น. 1

ข้าน้อยขอแสดงความเห็นในอีกแง่ได้ไหมค่ะ

คิดว่าคนอ่านกากีส่วนใหญ่ โยนบาปให้กากีไปหมด ว่าเป็นผู้หญิงใจโลเล มากชู้

แต่เรากลับไม่เคยมองมาทางด้านผู้ชายเลยว่า เขามีส่วนทำให้กากีเป็นอย่างนี้...แย่งผู้หญิงกันไปมา โดยเฉพาะคนธรรพ์นะตัวดีเลย เมียเจ้านายแท้ๆ ยังจะลักลอบเอาอยู่...ถ้าในเรื่องนี้ผู้ชายมีสำนึกพอ (โดยเฉพาะพญาครุฑที่เป็นต้นเรื่องคนแรกเลย) กากีก็คงไม่มีชะตากรรมถูกแย่งไปมาเป็นของแบบนี้หรอก

ถ้าข้อคิดสำหรับเรื่องนี้...ข้าน้อยคงไม่ด่ากากีในฐานะผู้หญิงด้วยกัน แต่ขอด่าผู้ชาย(ในเรื่อง)บ้างว่า ควรมีจิตสำนึกเสียบ้าง ไม่ควรจะไปทำให้ชีวิตผู้หญิงเสียหายเพียงเพื่อสนองตัณหาตัวเองแบบนี้


PS.  เป็นแฟนพันธุ์แท้เรา...ต้องอดทน!!!
0
2548 29 ส.ค. 52 เวลา 21:44 น. 2

ข้อคิดสมัยนั้นกับยุคสมัยนี้มันคนละเรื่องกันเราสรุปให้ละกัน

-บุรุษเพศ ยินดีชื่นชมที่จะได้ลิ้มรสสวาทอันหอมหวานของสตรีที่งดงาม
-บุรุษเพศ หึงหวง"ของ"ของตนแต่กลับไม่ปกป้องศักดิ์ศรี"ของ"ของตน
-บุรุษเพศ นิยมเอาเปรียบสตรีทุกย่างก้าว
-บุรุษเพศ โง่เขลาขาดสติคิดไตร่ตรองอย่างสุขุม จึงต้องระทมทุกข์เสวยอยู่สุขมิได้
-บุรุษเพศ มิได้นึกถึงหัวจิตหัวใจของสตรีเพศเอาเสีย คิดว่าเธอชื่นชอบการ"เสพสังวาล"จากชายแปลกหน้านักรึฤๅ

อันที่จริงต้องเชือดทิ้งรายตัวไปเลย โดยเฉพาะคนธรรพ์
ที่บังอาจลอบเป็นชู้กับมเหสีของนายตน แล้วดันทะลึ่งได้ปกครองเมืองอย่างเป็นสุขในตอนจบ
ทั้งที่ท้าวทศวงศ์นั้นดูดีมีภาษีกว่าเยอะ ตอนนางตกตระกำลำบากไม่เห็นศีษระตัวผู้ที่ไหนสักคน
พอเธอมีเจ้าของสามีเป็นตัวเป็นตนแต่งตั้งให้อวยยศเป็นมเหสีโดยมิสนใจประวัติเบื้องหลัง
กลับเสรือกไปขอกลับมาซะดื้อๆ อะไรวะนั่น คนนะไม่ใช่สิ่งของ ฮ้วย!!

0
ลูกศร ต้นนที 29 ส.ค. 52 เวลา 21:48 น. 3

เรื่องกากีสอนให้รู้ว่า "ผู้หญิงเป็นควาย ผู้ชายเป็นคน" นั่นแหละ จบข่าว


PS.  You may call me a freak, Or someone like me for that matter, But in our eyes, You are a freak too.
0
Deta 29 ส.ค. 52 เวลา 22:21 น. 4

เพราะหญิงไทยสมัยก่อนถูกฝังหัวว่า "ตนเองจะไร้ค่า หากไม่มีใครมาขอแต่งงาน"

เค้าคงจะรู้สึกว่าตนมีค่ามากกว่า ที่ได้มีคนแย่งชิง

เอ่อ...ล้อเล่น - -"

ลองคิดๆดูว่าตัวท่านเป็นกากีเอง มีสามีอยู่แล้ว คนนึงก็แก่คราวพ่อ  อีกคนหล่อ แต่ไม่เคยให้เวลา

และคนสุดท้ายที่เข้ามา มีทั้งหน้าตาดี แล้วยังคอยเทคแคร์ท่านได้ตลอด

ท่านจะเลือกใคร

ปล.พิมพ์ไป นึกถึงเพลงเก่าไป "เหตุผลของคนหลายใจ" โด๊น โดน เข้ากับกระทู้


กร๊ากกกกกกกก


PS.  [สถานะ:: แอบเซ็ง]// ข้าน้อยไม่ชอบสบู่ก้อน เพราะงั้นข้าน้อยไม่ก้มเก็บสบู่หรอกนะ =w=~ เมี้ยว~ // โฮะ! อะไรกัน? ท่านที่ทำสบู่ตกแบบนั้น หมายความว่ายังไงกันนะ? ลัลลา~~
0
เจ้าหนูกังหันลม 30 ส.ค. 52 เวลา 10:55 น. 5
ที่เคยอ่านจากที่อื่น กากีโดนลักพาตัวไปไม่ใช่เหรอ(รึเปล่า อ่านมานานแล้ว)
แล้วกากีน่ะถูกลักพาตัวไปอยู่ฉิมพลี หล่อนจะมีวิธีลงมายังไงนอกเสียจากต้องจำอยู่ต่อไป
แถมซ้ำพอมีคนธรรพ์มา กากีจะหนียังไงได้ก็ในเมื่อหล่อนอยู่ฉิมพลีน่ะ
แล้วที่กากีมีผู้ชายหลายคน มันไม่ได้แปลว่ากากีมีหลายใจนะ ที่อ่านๆมาน่ะ เธออยู่ในสภาพจำยอมนะ  เป็นคนน่าสงสารไม่ใช่เหรอ(น่ากลัวกากีจะติดเอดส์)

แต่ปัญหาของกากีความจริงมันก็แก้ง่ายนิดเดียวนะ


ถ้าเราเป็นกากีนะ...

จะกรีดหน้าตัวเองให้เละแล้วก็เดินมาถาม ครุฑ คนธรรพ์ พ่อค้า พระเจ้าพรหมทัต โจร ท้าวทศวง ว่า
"ยังอยากจะได้หนูอยู่อีกไหม"
ถ้จะมีใครสักคนในนี้มันพยักหน้ารับรึเปล่า
0
จักรพรรดิ_หน่อง 30 ส.ค. 52 เวลา 15:57 น. 7

หลายคน ตอบไปแล้วสินะ
เอาเป็นว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องของความเชื่อทางวัฒนธรรม 
และ เผยแนวความคิดของคนในยุคนั้นได้ดี

กากีคือ เคสตัวอย่าง และเป็น กรณีศึกษา แนวความคิดด้านหนึ่งของคนในยุคนั้น
เกี่ยวกับเพศกับฐานะทางสังคม


PS.  http://emperorsss.deviantart.com http://emperorsss.multiply.com อ่านนิยาย จ้าวศาสตรา ได้ที่หน้านิยาย http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=519969
0
จักรพรรดิ_หน่อง 30 ส.ค. 52 เวลา 16:21 น. 8

ถ้าเราเป็นกากีนะ...

จะกรีดหน้าตัวเองให้เละแล้วก็เดินมาถาม 
ครุฑ คนธรรพ์ พ่อค้า พระเจ้าพรหมทัต โจร ท้าวทศวง ว่า
"ยังอยากจะได้หนูอยู่อีกไหม"
ถ้าจะมีใครสักคนในนี้มันพยักหน้ารับรึเปล่า
 

SSS : อานะ อย่าใช้คำว่า ถ้า... สิ เราเป็นเพียงคนที่มองจากมุมนอก พูดยังไงก็ได้
แต่หากเราเป็นเขาจริงๆขึ้นมา อาจไม่คิดแบบนี้ก็ได้ 

ไม่เชื่อ ลองมีคนแนะนำว่า "หนูๆ พี่คิดว่า ถ้าน้องเบื่อที่บ้าน เป็นพี่นะ หนีออกจากบ้านแล้ว"
เห็นไหมครับ คนอื่นพูด จะพูดอะไรก็ง่าย 
แต่คนที่ต้องตัดสินใจหรือคนที่ต้องกระทำนี่สิ ลำบากใจนะ

ส่วนเรื่องกากี ถ้าไม่มองเรื่องเพศหรือความเชื่อเป็นหลัก
แล้วลองหาข้อคิดหลายๆมุม
ก็อาจจะคิดได้เพิ่มมาอีกว่า

1. คนเราทุกคนเกิดมา มีข้อดีและข้อเสีย 
บางครั้งการที่เรามีข้อดีมากเกินไปก็กลายเป็นข้อเสีย

อย่างการที่สวยเกินไปอย่างในเรื่อง 
ก็เห็นแล้วว่าผลที่ออกมาก็พะอืดพะอมขนาดไหน

หรือ การที่ใช้ความฉลาดมากเกินไป ทำงานได้ผลงานมากเกินไป 
ก็อาจจะไปขัดหูขัดตา และกลายเป็นเป้าให้คนบางประเภทคอยจ้องทำลาย 
จึงควรตั้งระดับที่ดีในการใช้ชีวิตคิดให้ดีว่า บางครั้งการมีมากเกินไป ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี

2. การวางตัวในสังคม เป็นการยากว่า หากเราคิดอย่างหนึงแล้วคนอื่นจะคิดเหมือนเรา
การที่กากีมองว่าจำต้องทำเพื่อการอยู่รอด เพราะตัวเองรักชีวิต รักในตัวของตัวเอง
ถ้ากากีปฏิเสธ ก็อาจจะตาย หรือถ้าเป็นนิทานแบบนี้ก็อาจจะมีเทวดาระดับสูงเห็นใจ 
ลงมาช่วย แต่เปล่าเลย 

ในความเป็นจริง การตัดสินใจเหตุการณ์เฉพาะเราไม่อาจคาดเดาว่าจะเป็นอย่างไร
และการวางตัวแต่แรกนั้นจะส่งผลให้เกิดความคิดต่อเรา 
ซึ่งถ้าวางตัวพลาด เรื่องราวต่างๆอาจเปลี่ยนไปเลย

3. การกล้าที่จะปฏิเสธ เป็นเรื่องยากแต่บางครั้งให้ผลที่ดี 
และอาจชนะใจของคนที่ถูกขอร้องได้ 

หากแต่ในกรณีของการขืนใจ ต้องใช้กลอุบายและการแก้ไขปัญหาที่ยากยิ่ง
บางครั้ง หลายๆคนอาจจะยอมเสียตัวเพื่อให้รอดชีวิต 
และบางคนก็ยอมที่จะตายเพื่อไม่ให้เสียเกียรติ(ขณะที่มีชีวิตอยู่นั้น)

เอาเป็นว่าพอก่อนแล้วกัน สามข้อที่พยายามไม่เอาเรื่อง เพศ แนวความคิดทางวัฒนธรรม
และจารีตประเพณีมาเกี่ยวข้อง แต่มองในมุมมองของหลักการ บริหาร นะครับ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 30 สิงหาคม 2552 / 16:29

PS.  http://emperorsss.deviantart.com http://emperorsss.multiply.com อ่านนิยาย จ้าวศาสตรา ได้ที่หน้านิยาย http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=519969
0
อนนท์_เต้ 31 ก.ค. 55 เวลา 16:10 น. 10

ความคิดเห็นเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก

"รักแท้ย่อมแพ้อุปสรรคทั้งปวงได้ในที่สุด"

0
cartoonnetwork 10 พ.ย. 56 เวลา 21:32 น. 12

มีตัวละคร 5 ได้แก่ 1.นางกากี 2.ท้าวพรหมทัต 3.นาฏกุเวร 4.เวนไตย 5.ท้าวทศวงศ์
ส่วนข้อคิด รักแท้ย่อมเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงได้ในที่สุด กากีดูจะประสบกับชะตากรรมที่น่าเห็นใจที่สุด กากีต่างกับวันทองและโมราในแง่ที่เธอมิได้มีสองผัว แต่มีถึงสาม และด้วยเหตุนี้กระมัง พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ จึงถึงกับบัญญัติว่า “กากี” เป็นคำด่า หมายถึง “หญิงมากชู้หลายผัว” ยิ่งกว่านั้น เมื่อเทียบกับวันทองและโมรา กากีเป็นตัวละครที่มีคนแก้ต่างให้น้อยที่สุด ในที่นี้ผมจึงขอหยิบบทประพันธ์ กากีคำกลอน หรือ กากีกลอนสุภาพ ของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) มาอ่านใหม่ เพื่อหาแง่มุมที่แผกไปจากเดิมต่อตัวละครหญิงผู้ถูกประณามหยามเหยียดจนกลาย เป็นแบบฉบับของหญิงชั่วในสังคมไทย ตั้งใจ

1
minttt 8 ก.ย. 58 เวลา 18:36 น. 12-1

ขอนิสัยของแต่ละตัวละครหน่อนค้าาาาาา

0