Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ข้อสอบความถนัดแพทย์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ข้อสอบความถนัดแพทย์ปีที่ผ่านๆมาออกฉบับละกี่ข้อหรอคะ

ข้อสอบฉบับที่1 แบ่งออกเปนกี่ส่วน  อะไรบ้าง

เช่น มิติสัมพันธ์ ลำดับ พวกนี้ออกอย่างละกี่ข้อคะ

แล้วมีภาษาไทยแบบที่หาคำไม่เข้าพวก/เติมคำในช่องว่าง/คำที่ความหมายคล้ายกัน กับอ่านสรุปความมั้ย

ข้อสอบฉบับ1นี้เปนปรนัยหมด หรือมีอัตนัยด้วยคะ

ข้อสอบฉบับที่3เชื่อมโยง มีเรื่องให้อ่านกี่เรื่อง แล้วถามเรื่องละกี่คำถามคะ


รบกวนรุ่นพี่และผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ

ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

ซาาร่า ลี 20 ต.ค. 52 เวลา 16:35 น. 1

แบ่งเป็น 3 ส่วนจ้า(ปีที่แล้วนะ) พาร์ทละ 100
ส่วนแรกเป็นปรนัยหมด จะออกแนวให้ดูมิติสัมพันธ์,วิเคราะห์เรื่อง จะให้เคสมาแล้วมาวิเคราะห์ เช่น ผลการตรวจ,เรื่องข้อมูลต่างๆ อ่านสรุปความ
แล้วก็วิเคราะห์อนุกรม หาอะไรแฝงจากตัวอักษร,ตัวเลข สนุกมากเหมือนเล่นเกมส์ปริศนา ซึ่ง(ทำไม่ทัน..)มันจะexpertกว่าข้อสอบครูอ่ะ
คำไม่เข้าพวกเหมือนจะไม่มีนะ (มันเก่าไปละ..)

ส่วนสอง จริยธรรมแพทย์ ตอบแบบนางเอก ให้นึกถึงเสียสละเข้าไว้ ส่วนนี้ไม่ค่อยห่วงและไม่ค่อยออก แต่จะเจอแนวคำถามว่า
"ประเด็นใดที่ทำให้.....ต้องทำ....ให้...."อะไรแนวๆนี้อ่ะจำคำถามไม่ได้ละ แต่แบบนี้มีเยอะ เพราะฉะนั้นต้องใช้ตรรกะนิดนึง นางเอกใช้ไม่ค่อยได้ผล
แนวๆว่า "ประเด็นใดที่ทำให้หมอเอไม่แปลงเพศให้บีซึ่งเป็นเพื่อน"

ส่วนสาม ความคิดเชื่อมโยง 2 passage ละ 10 ข้อ ปีที่แล้วเรื่อง ฟัน กับ ราคาน้ำมัน ง่ายมากๆๆๆ มั่นใจว่าง่ายกว่า gat แน่นอน ^^ (พาร์ทนี้พี่ได้ 97/100)

สู้ๆพี่ทำได้ 203/300 อ่ะ (Max มัน 230 กว่า..ภูมิใจ)
แต่ขณะนี้ไม่ได้เรียนหมอ แต่ไปเรียนสายศิลปื จุฬาฯ +555 กลับลำกลางทางซะก่อนน

อ่อ ลืม ช้อยสื 5 ตัวเลือกนะ

0
ซาร่า ลี 20 ต.ค. 52 เวลา 17:08 น. 4

คห.3 คอนเฟริม ว่า จริงๆๆ
เคยสอบแกทครั้งนึง passage มาเป็นตับ ให้ตายเหอะ งง+555
อันนี้อ่านง่าย เข้าใจง่าย แค่เชื่อมให้ทุกจุดแค่นั้นเอง
ข้อสอบแพทยืไม่เรื่องมาก
ขนาดฝนที่นั่งสอบยังไม่ต้องเลย มันฝนมาให้อยุ่แล้ว

0
ทางเลือกหนึ่ง 20 ต.ค. 52 เวลา 17:10 น. 5

หลักสูตรทัศนมาตรศาสตรบัณฑิต (Doctor of Optometry, O.D.) เป็นหลักสูตรปริญญาสำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 จัดเป็นหลักสูตรแรกและหลักสูตรเดียวของประเทศไทยที่เน้นการตรวจและวินิจฉัยปัญหาทางด้านสายตาและสุขภาพตาอย่างครบถ้วน หลักสูตรทัศนมาตรศาสตรบัณฑิตยังได้รับการรับรองตามมาตรฐานหลักสูตรจากคณะกรรมการการอุดมศึกษา สมาคมนักทัศนมาตรศาตร์ไทย คณะกรรมการประกอบโรคศิลปะและราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยซึ่งไม่เคยมีหลักสูตรใดผ่านการพิจารณาทั้งหมดได้เท่านี้มาก่อน ดังนั้นหลักสูตรทัศนมาตรศาสตรบัณฑิตจึงเป็นหลักสูตรมาตรฐานสูงสุดของประเทศในการขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตร

ต่างจากความเข้าใจเดิมๆ ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตรไม่ได้มีหน้าที่หลักในการประกอบแว่นสายตาหรือเปิดร้านตัดแว่น หลักสูตรทัศนมาตรศาสตรบัณฑิตไม่ได้มุ่งสำหรับการผลิตบุคลากรสำหรับร้านแว่นสายตาแต่เป็นการปฏิวัติการปฏิบัติงานทางการแพทย์ด้านสายตาของทั้งประเทศขึ้นมาใหม่ทั้งระบบ โดยกำหนดให้มีบุคลากรที่มีมาตรฐานสูงระดับผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตรตามมาตรฐานสากลและสถานพยาบาลเฉพาะสำหรับการประกอบโรคศิลปะด้านนี้ด้วย

ผู้ที่ต้องการศึกษาในสาขาทัศนมาตรศาสตร์จำเป็นต้องผ่านการสอบข้อเขียนซึ่งประกอบด้วย 5 รายวิชาสายวิทยาศาสตร์ได้แก่ ชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ หากมีคำถามก็สามารถถามไปที่ http://www.ihs.ru.ac.th , http://www.thaiOD.com หรือ http://www.thaioptometry.net ซึ่งจะมีพี่โอดีหลายคนตอบคำถามให้น้องที่สนใจได้อย่างตรงประเด็นที่สุด

0
MiChan 21 ต.ค. 52 เวลา 12:19 น. 6

พาร์ทแรก จะมีพวกอนุกรมรูปภาำพ อักษร พวกปัญหาเชาว์ วัดไอคิว ปนไปกับการอ่านจับใจความ ตีความ วิจารณ์ข้อความ เน้นทำไว ทอปปีที่แล้วถ้าจำไม่ผิดน่าจะได้ราวๆ 73 มั้งครับ ส่วนตัวผมได้ 38 คะแนน มั่วเอา ที่จะบอกคือ หนังสือส่วนใหญ่จะยากไม่ถึงครึ่งของข้อสอบจริงเลย แล้วอนุกรม ซึ่งปีที่แล้วใช้อักษร ก็ค่อนข้างจะซับซ้อนมาก แล้วปัญหาบางข้อ ผมก็คิดออกมาแล้วไม่มีคำตอบ ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือว่าอะไร แต่เคยได้ยินคนบอกมาว่า บางข้อไม่มีคำตอบให้ตอบใกล้เคียงสุด พาร์ทนี้คนส่วนใหญ่ทำไม่ทันครับ ทำให้คนได้ทอปคะแนนแค่ 70 กว่้าๆเท่านั้น และคนส่วนใหญ่จะทำได้ราวๆ 30-50 คะแนน พาร์ทนี้แทบจะวัดกันเลยว่าโอกาสติดหมอมากน้อยแค่ไหน เพราะพวก 60+ นี่คือพวกเก่งละครับ พาร์ทนี้ข้อไหนคำนวนไม่ได้ ให้มั่วเลยครับ

พาร์ทสอง คอนเฟิร์มว่าถ้าตอบนางเอกแบบ rep 2 ว่านะครับ จะได้ราวๆ 60 กว่าคะแนนครับ ไม่เชื่อลองดูได้ วิธีจะได้เยอะๆ ซึ่งรู้สึกจะทอปแค่ 80 คะแนนนะครับ คือตอบโดยคำนึงถึงบุคคลที่ 1 ที่ 2 และมองภาพรวมด้วยบุคคลที่ 3 เอาใจเขาใส่ใจเรา บางคำตอบดูช่างเป็นคนดีมากๆ แต่อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่สุดครับ ผมตอบแบบคนดี ผมได้ 64 คะแนนครับ เห็นว่าพาร์ทนี้เป็นพาร์ทฆ่าพวกเรียนเก่งพอสมควร บางคนทำพาร์ท 1 กะ 3 เทพ มาพลาดพาร์ทนี้ก็มีครับ แต่ถ้าจะทำให้ได้คะแนนดีจะเสียเวลาพอสมควร ตอนผมทำ ผมทำแค่ 45 นาทีครับ อ่านแล้วตอบเลย ไม่คิดไร

พาร์ทสาม การเชื่อมโยง พาร์ทที่ควรทำให้ได้เยอะ เพื่อเป็นทุึนในการจะได้คะแนนดีๆครับ น่าจะพอรู้อยู่แล้ว พาร์ทนี้ผมแนะนำว่าใช้เวลาอ่านแล้วทำ ส่วนละ 20-30 นาทีครับ เพราะการฝนจะใช้เวลาประมาณส่วนละ 8-15 นาที จะลงตัว 1.15 ชั่วโมงพอดี (ตัวอย่าง ทำข้อสอบ 20x2 = 40 ฝน 15x2 = 30 ตรวจทาน 5 รวม 75 นาที หรือ ทำข้อสอบ 30x2 ฝนทั้งหมดรวดเดียว 15 นาที รวม 75 นาที) เพราะพาร์ทนี้บางคนไม่ทันตอนฝนครับ แบบคิดนานไปแล้วผิดคาด คิดว่าฝนแปปเดียวเสด แต่ไม่ทัน หรือบางคนฝนผิดครับ แล้วแก้ไม่ทัน

0