'ข้าวเจ้า'ห้ามเลือดรางวัลเทคโนดีเด่น
ตั้งกระทู้ใหม่
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงข่าวเปิดตัวผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่นและนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ประจำปี 2552 โดยนักเทคโนโลยีดีเด่นประเภทบุคคล ได้แก่ รศ.นพ.สิทธิพร บุณยนิตย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของผลงาน "ข้าวเจ้ากรดห้ามเลือด" ซึ่งเป็นแผ่นไฮโดรเจลชนิดย่อยสลายได้ใช้ห้ามเลือดขณะผ่าตัด และผลงาน "ข้าวเจ้าเย็บแผล" วัสดุเย็บแผลผ่าตัดชนิดย่อยสลายได้ผลิตจากแป้งข้าวเจ้า
รศ.นพ.สิทธิพรกล่าวว่า ได้ประดิษฐ์คิดค้นแผ่นไฮโดรเจลชนิดย่อยสลายได้ ปลอดภัยในร่างกายมนุษย์ ใช้ห้ามเลือดต่ออวัยวะอ่อนนุ่มที่ตกเลือดขณะกำลังผ่าตัด โดยผลิตจากผงแป้งข้าวเจ้าไทยเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งได้ปรับให้มีสภาพความเป็นกรดมีค่าเฉลี่ย ph 1.5 เพื่อเข้าไปแปรสภาพโปรตีนในเลือดให้เป็นลิ่มเลือดเทียม อุดตันการไหลของเลือดได้ โดยไม่ต้องเอาออกจากร่างกาย ที่มาของผลงานเกิดการจากแนวคิดที่จะลดการนำเข้าวัสดุห้ามเลือดจากต่างประเทศ เพราะประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ ดังนั้น ตนและคณะวิจัยจึงนำแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ 100% ไม่มีโปรตีน ไขมันและเกลือแร่ มาใช้ผลิตแผ่นไฮโดรเจล และยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวไทยอีกด้วย
"งานวิจัยชิ้นนี้ได้ผ่านการตรวจสอบวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการและการทดสอบในสิ่งมีชีวิตจากสัตว์ทดลอง โดยผ่านการรับรองจากคณะกรรมการจรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลอง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอรับรองเชิงจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์เพื่อการทดสอบทางคลินิก คาดว่าอีกประมาณ 1 ปีจะสามารถผลิตจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้" รศ.นพ.สิทธิพรกล่าว
ส่วนผลงาน "ข้าวเย็บแผล" เป็นวัสดุชนิดย่อยสลายได้ผลิตจากแป้งข้าวเจ้า เป็นเส้นใยเดี่ยวใช้เย็บแผลหรืออวัยวะอ่อนนุ่มในร่างกายมนุษย์ขณะกำลังผ่าตัด โดยปรับคุณสมบัติแป้งข้าวเจ้าให้แข็งแรง โดนน้ำแล้วไม่ขยายตัว ทนทานเหมือนไหมสังเคราะห์จากต่างประเทศ ด้วยการเติมผงนาโนคาร์บอนจากถ่านกะลามะพร้าว ผลิตเป็นเส้นไหมเย็บแผล มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 มิลลิเมตร รับน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม ขณะนี้งานวิจัยยังอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงโครงสร้างเชิงเคมีฟิสิกส์ทางห้องปฏิบัติการ และได้จดสิทธิบัตรเมื่อเดือนมีนาคม 2552
ส่วนผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่นประเภทกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี "ปุ๋ยสั่งตัด" เพื่อการผลิตพืชอย่างยั่งยืน โดยมี ศ.ดร.ทัศนีย์ อัตตะนันทน์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และคณะ มีผลงานการจัดการธาตุอาหารเฉพาะพื้นที่ หรือที่กันว่าปุ๋ยสั่งตัด ทำให้เกษตรกรลดค่าปุ๋ยในการผลิตข้าวได้ถึงร้อยละ 47 และผลผลิตข้าวก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ได้ สำหรับข้าวโพด ถ้าใช้ปุ๋ยสั่งตัดจะช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากกว่าร้อยละ 30 นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังได้พัฒนาชุดเครื่องมือวิเคราะห์ดินที่เกษตรกรสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง
สำหรับผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่มี 2 คน ได้แก่ ผศ.ดร.เจษฎา วรรณสินธุ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีผลงานการพัฒนาเทคโนโลยีการขึ้นรูปโลหะด้วยกระบวนการหล่อโลหะกึ่งของแข็ง เทคโนโลยีนี้จะทำให้อุตสาหกรรมหล่อโลหะไทยมีศักยภาพในการผลิตที่เพิ่มขึ้น และยังสามารถประยุกต์ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่ใช้กับทางทหารได้ เช่น เกราะกันกระสุนและเกราะกันระเบิดน้ำหนักเบา
ดร.ฉันท์ทิพ คำนวณทิพย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มีผลงานการพัฒนาแผ่นอะครีลิกนำแสงประหยัดพลังงาน โดยใช้สารช่วยในการกระจายแสง ทำให้แผ่นแผ่นอะครีลิกให้ความสว่างที่ได้รับจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แม้ในยามค่ำคืน อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าของต่างประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่นและรุ่นใหม่ จะเข้ารับรางวัลประติมากรรมเรือใบซูเปอร์มดและเหรียญรางวัลเรือใบซูเปอร์มด ในงานการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 35 (วทท.35) ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ณ เดอะ ไทด์ รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี.
PS. รักคายรักจิง... แต่ที่รักยิ่งกว่าคือs-lineจุนซู
4 ความคิดเห็น
แจ๋วไปเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
คนไทยนี่ล่ะเก่งที่สุดในโลกแล้ว
แต่ขานเงินทุนในการศึกษาวิจัย+รัฐบาลไม่ค่อยช่วยเหลือ
ผมเชื่อว่าถ้ามีเงินทุนมากกว่านี้รับรองคนไทยเป็นที่1ของโลกชัวร์
คนไทย เมพ ครับ *-*
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?