Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[สาระ] ภาวะโรคจิตเภทชนิดหวาดระแวงและอาการหลงตัวเอง Paranoid Schizophrenia & Narcissism

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

วันนี้มีกระทู้สาระมาฝากค่ะ  

เผื่อใครมีไอเดียไปแต่งตัวละครในนิยาย  สามารถนำข้อมูลไปอ้างอิงบุคลิกตัวละครได้นะคะ


(Part I)

Paranoid Schizophrenia


Paranoid Schizophrenia หมายถึง โรคจิตเภทแบบหวาดระแวง  ต้องมี Schizophrenia ต่อท้ายเสมอนะคะเพราะคำนี้แปลว่า "โรคจิตเภท" ค่ะ  ถ้า Paranoid เฉย ๆ หมายถึงอาการหวาดระแวงค่ะ

พารานอยด์ (paranoid) หรือ หวาดระแวง หมายความถึง อาการทางจิตอย่างหนึ่ง ได้แก่ ความสงสัยคิดเกินเลยจนเป็นความระแวง มีตั้งแต่น้อยๆ นั่นคือคนอื่นอาจพูดคุยโน้มน้าวใจด้วยเหตุผลก็พอจะโยกคลอนได้ ไม่เชื่อแบบฝังแน่น

แต่หวาดระแวงมากๆ คือฝังแน่นอย่างสุดลิ่ม ไม่ว่าใครจะนำหลักฐานอะไรมาก็ไม่เชื่อ เชื่อตัวเองอย่างเดียว ประการหลังนี่เองที่เรียกว่าเป็นความผิดปกติหรือมีอาการทางจิต

คนหวาดระแวงที่อายุมาก หรือมีการศึกษา เวลาระแวงจะสังเกตได้ยาก เพราะเขาจะรู้ว่าควรระแวงแบบไหนทำให้ดูไม่ผิดปกตินัก

สำหรับรายที่ระแวงมาก ๆ หรืออายุน้อย เช่น วัยรุ่นกลุ่มโรคจิตเภท ค่อนข้างชัดเจน อาจมีอาการหูแว่ว ประสาทหลอน ไม่ดูแลตัวเอง ไม่ไปเรียน ไม่ไปทำงาน แสดงว่าผิดปกติชัดเจน แต่ถ้าทำงานอะไรได้ตั้งหลายอย่าง ต้องดูอาการอื่น ๆ ถ้าไม่แน่ใจอาจปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะบางรายต้องใช้การทดสอบทางจิตวิทยา

รายที่มีอายุมาก สาเหตุไม่ชัดเจน ต้องตรวจร่างกายด้วย ผู้ป่วยบางรายมีอาการทางกาย เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เนื้องอกในสมอง โรคเอสแอลดีขึ้นสมอง ก็ทำให้เกิดความหวาดระแวงได้ จิตแพทย์ต้องสังเกตว่ามีอาการทางกายด้วยหรือไม่

หากพบคนเช่นนี้แก้สถานการณ์อย่างไร?

ต้องสังเกตให้ได้ก่อนว่าคนนี้น่าสงสัย คนที่หวาดระแวงคือคนที่อาจระแวดระวังผิดปกติ เช่น หลบมุม ถือวัตถุสิ่งของที่อาจเป็นอาวุธ อย่างนั้นต้องรีบออกห่าง ถ้าไม่ทันสังเกต หรือไม่ได้คาดการณ์มาก่อน ที่ควรทำคืออย่าไปโต้แย้ง เขาพูดอะไรมาก็ฟังเรื่อยๆ ก่อนพยายามปลีกตัว หรือแจ้งตำรวจตรวจสอบ

กรณีเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องใช้วิชาป้องกันตัว หรือใช้คำพูดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเขา โดยธรรมชาติคนหวาดระแวงจะกังวลว่าตัวเองจะถูกทำร้าย เพราะฉะนั้นเขาต้องป้องกันตัวเอง ทำอะไรที่น่าสงสัยขึ้นมาไม่ดีเขาจะทำร้ายก่อน

การป้องกันไม่ให้มีอาการหวาดระแวง

โดยทั่วไปร่างกายมีกลไกตามธรรมชาติอยู่แล้วในการป้องกัน คือเหตุผล เช่น สงสัยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็จะหาเหตุผลว่าใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ล้มเลิกไป นอกจากนั้น สถานการณ์บางอย่าง เช่น อยู่ในสังคมที่หวาดระแวง หรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ถ้ามีความระแวงบ้างอาจมีประโยชน์ เพราะระมัดระวังตัวมากขึ้น แต่หวาดระแวงแบบนี้ไม่ใช่อาการ เป็นความระแวดระวัง  แต่มากเกินไปก็ไม่ไหวคนรอบข้างจะทนไม่ได้เอา


ต่อมามาดูอีกคำที่ (ไม่) น่าจะสับสนกันนะคะ

คำนั้นคือคำว่า "วิตกจริต" ค่ะ

วิตกจริต  ตรงกับภาษาอังกฤษว่า  be worried about  แปลว่า คิดหวาดระแวงไปในทางร้าย

มาดูจากพจนานุกรมกันบ้างนะคะ


ฉบับราชบัณฑิตยสถานระบุไว้ว่า    วิตกจริต  [วิตกกะจะหฺริด, วิตกจะหฺริด] ว. มีนิสัยคิดไปในทางร้ายทางเสีย. (ป.).

ฉบับอ.เปลื้อง ณ นคร  แปลไว้ว่า     วิตกจริต ว. มักประพฤติตรึกตรองเป็นนิสัย, มีนิสัยคิดเป็นห่วงในกิจการอยู่เสมอ.

ถ้าเราเอาคำนี้มาแยกจะพบว่า          วิตก หมายถึง ความตรึก, ตริ, การยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ หรือปักจิตลงสู่อารมณ์ การคิด, ความดำริ ; ไทยใช้ว่าเป็นห่วงกังวล  หรืออาจหมายถึงเป็นทุกข์   ร้อนใจ  เป็นกังวล

                                                        จริต [จะหฺริด] น. ความประพฤติ, กิริยาหรืออาการ

รวมกันจะได้ว่า  วิตกจริต หมายถึง พื้นนิสัยหนักในทางตรึก, มีวิตกเป็นปรกติ   มีความประพฤติหรือกิรินาอาการที่แสดงออกถึงความร้อนใจ เป็นทุกข์ เป็นกังวล

ซึ่งวิตกจริตอาจมีอาการหวาดระแวง แต่ไม่ใช่อาการของจิตเภท  ภาวะวิตกจริตสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ แนวทางแก้ไขคือการกำหนดจิต ทำสมาธิ เจริญอานาปานสติกัมมัฏฐาน


แถมอีกคำแล้วกัน  "วิกลจริต" ค่ะ

วิกลจริต เอาสั้น ๆ ได้ใจความก็คือ คำนี้ตรงกับคำว่า บ้า ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานค่ะ

จะเห็นได้ว่า  วิตกจริตกับวิกลจริตนั้นไม่เหมือนกัน  วิตกจริตนั้นยังปกติอยู่ แต่วิกลจริตนี่บ้าค่ะ  ต้องได้รับการรักษานะคะ

สุดท้ายนี้หวังว่า ผู้อ่านทุกท่านคงจะได้ไอเดียอะไรกลับไปบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ  โดยเฉพาะ ส่วนที่เน้นข้อความให้นะคะ ^^ สาระค่ะ สาระ

ปล. หากจะนำข้อความในกระทู้นี้ไปอ้างอิง ขอให้ใส่เครดิทที่ลินลงด้านท้ายนี้ไว้ด้วยนะคะ  ขอบคุณค่ะ


credit :
nachart@yahoo.com << ไม่ใช่ของลินนะคะ ของคุณหมอค่ะ
NECTEC's Lexitron Dictionary
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร



(Part II)

Narcissism

จาก part I ได้ไอเดียอะไรบ้างไหมคะ  มาลองดู part II บ้างนะคะ  เวลาแต่งนิยายตัวละครมักจะมีบุคลิกหลากหลายกันไป ซึ่งตัวละครตัวหนึ่งที่มีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจก็คือ  ตัวละครที่มีบุคลิกแบบ Nascissism หรือ ภาวะหลงตัวเอง ค่ะ

อาการหลงตัวเอง  เป็นอาการหนึ่งของผู้มีบุคลิกภาพผิดปกติ  

จิตแพทย์ได้กล่าวไว้ว่า อุปนิสัยหรือบุคลิกภาพที่สะท้อนความเป็นตัวตนของบุคคลมาจากกรรมพันธุ์ 50% ส่วนอีก 50% มาจากพัฒนาการและการเลี้ยงดูของครอบครัว

สภาวะที่ทำให้กลายเป็นคนหลงตัวเองคือ การเลี้ยงดูที่ผิดตั้งแต่เยาว์วัย เช่น การตามใจลูกมากเกินไป  ไม่กล้าขัดใจ ไม่ลงโทษเมื่อทำผิด เอาใจตลอดเวลา เด็กเลยไม่รู้จักคำว่า "ไม่"  ไม่รู้จักอุปสรรค เคยชินแต่กับคำว่า "ได้" ชีวิตขึ้นอยู่กับความพอใจของตัวเอง มักจะไม่มีความอดทน ชอบเอาชนะเพราะเอาชนะพ่อแม่จนเคยชิน  และคิดว่าตัวเองถูก

คนหลงตัวเองที่พบได้บ่อยในสังคมมักเป็นคนที่มีอำนาจ  ไม่มีใครกล้าวิจารณ์  คนที่คิดว่าตัวเองเก่ง  มั่นใจตัวเองสูง ไม่ฟังความคิดเห็นผู้อื่น  ยึดมั่นความคิดตัวเองเป็นสำคัญ  คิดว่าความคิดเห็นของตัวเองถูกฝ่ายเดียว และมองคนอื่นต่ำต้อยกว่าตัวเอง

คนหลงตัวเองมักทำงานร่วมกับผู้อื่นยาก เพราะยึดติดกับตัวเอง  ต้องการให้คนอื่นนอบน้อมและยอมให้ตัวเองตลอด  คิดว่าตัวเองไม่มีปัญหาและคิดว่าคนอื่นมีปัญหาตลอดเวลา  คนที่อยู่ด้วยเกิดความลำบากใจเพราะไม่ฟังความเห็นคนอื่น คิดว่าความเห็นคนอื่นสู้ของตนไม่ได้  รู้สึกว่าตัวเองฉลาดกว่าใคร ๆ ทั้งหมด  หรือพูดง่าย ๆ คือคิดว่าคนอื่นโง่กว่าตัวเอง ยิ่งกับผู้ที่อายุน้อยกว่า  ประสบการณ์น้อยกว่า ยิ่งไม่อยู่ในสายตา และจะเเสดงออกมาทางสายตาและอาการภายนอก คือ ไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนอื่น นอกจากไม่รับฟังแล้วยังตอบโต้กลับแบบดูถูกดูแคลนในสติปัญญาอีกฝ่าย

จริง ๆ แล้วคนเราควรจะหลงตัวเองอยู่ในระดับหนึ่ง มี self - esteem พอประมาณ  หากไม่มีความพอใจ ไม่ภาคภูมิใจในตัวเองเลยจนกลายเป็นคน low - self esteem จะยิ่งอยู่ในสังคมได้อย่างลำบาก

อย่างไรก็ตามควรมีความพอดีในการชื่นชมตัวเอง  การหลงตัวเองมาก ๆ จนเกิดผลเสียกับตัวก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น คนที่คุณก็รู้ว่าใคร


(เนื้อหาข้างล่างนี้อาจสปอยล์ค่ะ)

สำหรับคนไม่เคยอ่านแฮร์รี่  คนที่คุณก็รู้ว่าใคร เป็นตัวละครในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นบุคคลที่มี self - esteem สูงมาก  เชื่อมั่นในตัวเองเพียงอย่างเดียวไม่สนใจคนรอบข้าง กลุ่มคนที่สามารถอยู่ข้างกายเขาได้ (อาจไม่เรียกข้างกาย ที่จริงคือต่ำกว่า) มีเพียงผู้ที่ยอมสยบให้อำนาจของเขา  เทิดทูนบูชาเขา  และเห็นว่าเขาอยู่เหนือกว่ามนุษย์อื่นทั้งหมด  คนที่คุณก็รู้ว่าใครมองเห็นแฮร์รี่ต่ำกว่าและดูถูกอยู่เสมอ  ผลสุดท้ายก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดี พระเอกชนะอยู่แล้ว

อีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนและเป็นที่มาของศัพท์คำนี้ก็คือ Narcissus ที่หลงกับรูปโฉมของตัวเองจนถึงแก่ความตาย (ยาวอะ ขี้เกียจเล่า)



credit:
รศ. นพ. รณชัย  คงสกนธ์ คณะแพทยศาสตร์ รพ. รามาธิบดี



มีข้อสงสัยซักถามได้นะคะ หรืออยากให้อธิบายเพิ่มตรงไหนก็บอกได้ค่ะ (ยังกะนั่งเลกเชอร์ ) :P

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552 / 01:53

PS.   อันตัวเรานี้หนอ ก็แมงกะพรุนดีๆนี่เอง - - ลอยไปลอยมาไม่ทำไร - - แต่ถ้าใครมากวนใจ = = ตาย !!

แสดงความคิดเห็น

>

46 ความคิดเห็น

Sirisobhakya 12 พ.ย. 52 เวลา 20:44 น. 1

วิตกจริต วิกลจริต วิตกจริต วิกลจริต ใกล้วิปริต.....
(จาก Sket Dance เล่มสามมั้ง)


PS.  Mju AERO [Who are We? INTANIA!!!] Boeing 747-4D7 Thai Airways GE CF6-80C2B1F HS-TGX Sirisobhakya
0
Chesser Cat 12 พ.ย. 52 เวลา 20:47 น. 2

อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคฮินามิซาว่า !!
ทฤษฎีขบคิด


PS.  ทุกสิ่งที่ทำให้เธอเสียใจ เชสเซอร์จะ... ทำลายมัน
0
BIGBALL 12 พ.ย. 52 เวลา 20:55 น. 4
ผมก็ระแวงนู่นนี่อยู่บ่อย ๆ จะเข้าข่ายรึเปล่าหว่า? 555
PS.  ก็แค่ความเห็นไม่ตรงกัน มันเป็นสัจธรรมของโลก
0
เหมันต์ใบไม้ผลิ 12 พ.ย. 52 เวลา 20:56 น. 5

มันแล้วแต่สิ่งที่เขาเคยเผชิญมาขอรับ
ขอตอบตามตรง เมื่อก่อนผมไม่ค่อยหวาดระแวงอะไร พอเจอมรสุมขนาดยักษ์เข้า ก็เป๋..... บอกตามตรงเข้าใจว่าการอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืดในโลกมันเป็นยังไงเลยขอรับ

ตอนนี้ผมก็รู้จัระวังตัวมากขึ้น หวาดระแวงไหม? มันมีคนเคยทำให้เป็น เลยต้องดูไปก่อน ยังไม่คบลึกนัก
แต่ตอนนี้ก็คิดว่าช่างมันขอรับ อย่าไปหวังอะไรกับการทำดีมาก รู้จักระวังคน แต่อย่าระแวงให้มากเกิน น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดขอรับ

อย่างไรก็แล้วแต่ หากไม่ระวังคนเลย จะจนใจเองนะท่าน การระวังคนไม่ถือเป็นเรื่องวิกลจริตแต่อย่างใดเพราะคนในสังคมก็ร้อยพ่อพันธ์แม่


PS.  The rule For me, It's nothings
0
~r@kIa~ 12 พ.ย. 52 เวลา 20:58 น. 6

หิวข้าวว -0-



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552 / 21:39

PS.   อันตัวเรานี้หนอ ก็แมงกะพรุนดีๆนี่เอง - - ลอยไปลอยมาไม่ทำไร - - แต่ถ้าใครมากวนใจ = = ตาย !!
0
~r@kIa~ 12 พ.ย. 52 เวลา 22:03 น. 8

แชร์ความรู้เจ้าค่ะท่าน

เอ แล้วพี่บอลระแวงอะไรกันน้า  อยากรู้จัง


PS.   อันตัวเรานี้หนอ ก็แมงกะพรุนดีๆนี่เอง - - ลอยไปลอยมาไม่ทำไร - - แต่ถ้าใครมากวนใจ = = ตาย !!
0
Destiny of Miyajung~♪ 13 พ.ย. 52 เวลา 17:23 น. 9

อาการพารานอยด์นี่ก็น่าสนใจนะคะ โดยเฉพาะที่เข้าขั้นผิดปกตินี่ก็นะ... (เทอมนี้ลงจิตวิทยาเบื้องต้นด้วย เข้าทาง 55)

อยากลองนำไปเขียนเป็นนิยายดูเหมือนกัน คงจัดอยู่ในแนวระทึกขวัญ...เหอๆๆ


PS.  My name is MiyaJung :: Dakishimete Dakshimete~
0
~r@kIa~ 13 พ.ย. 52 เวลา 18:02 น. 11

ท่านวอร์คเป็นหรอคะ อิอิ แต่ลินว่า ที่น่ากลัวที่สุดน่าจะเป็น

Combine paranoid narcissism นะคะ 

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552 / 18:05


PS.   อันตัวเรานี้หนอ ก็แมงกะพรุนดีๆนี่เอง - - ลอยไปลอยมาไม่ทำไร - - แต่ถ้าใครมากวนใจ = = ตาย !!
0
จิ้ง 13 พ.ย. 52 เวลา 18:26 น. 12

กรณีนี้ถือว่าเข้าข่ายไหมหว่า
- เชื่อมั่นว่านิยายที่เขียนดีที่สุด ไม่มีใครทำได้ ไม่ว่าจะเป็นฉากฉุดนางเอก เอานางเอกไปขัง บราๆ ตนเองคิดได้ก่อนใคร เป็นต้นกำหนดพล็อตในตำนาน
- คนที่ไม่เห็นด้วย หรือมีความคิดขัดแย้งเพราะอิจฉา
- หวาดระแวงว่าจะมีคนลอกพล็อตในตำนานของตนเอง
- หมั่นเข้าไปตรวจนิยายที่ติดอันดับสูงๆ ค้นหาจุดที่เหมือนนิยายตัวเอง แม้จะเป็นประโยคพื้นๆ ก็สามารถเหมาว่าถูกลอกได้ 

0
เดี๋ยวนะ... ขอนึกก่อน 13 พ.ย. 52 เวลา 18:42 น. 14

อันท้ายนี่ธรรมดาโลกครับ...

แต่ถ้ายิ่งรู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเองมากเท่าไหร่ อาการหลงตัวเองก็จะเหลือน้อยลงครับ...


PS.  ...มันไม่ใช่พีเอสนะ มันคือปัจฉิมลิขิตต่างหาก...
0
~r@kIa~ 13 พ.ย. 52 เวลา 18:56 น. 15

บางคนก็มีสภาวะ ปฏิเสธที่จะมองเห็นของเสียของตัวเองค่ะ

คนแบบนี้ยิ่งอยู่ไปก็ยิ่งหลงตัวเองหนักขึ้นเรื่อย ๆ

ถ้าวันไหนที่ค้นพบความจริง ก็จะทนไม่ได้ค่ะ (หรืออาจจะไม่รอมเชื่อ  ไม่ยอมรับความจริงนั้น และแสดงออกมาในอาการที่หลงหนักกว่าเดิม)


PS.   อันตัวเรานี้หนอ ก็แมงกะพรุนดีๆนี่เอง - - ลอยไปลอยมาไม่ทำไร - - แต่ถ้าใครมากวนใจ = = ตาย !!
0
Earende| G!|m!rath 13 พ.ย. 52 เวลา 19:33 น. 16


ซึ้ง....กับข้อมูลเลยนะคะ

^________^


PS.  จากนคราห่างมาหลายแสนลี้ จากราตรีค่อยเคลื่อนเลือนลับหาย จากคิมหันต์วสันต์เหมันต์กลาย จากชีพวายไม่สิ้นกลิ่นไอรัก
0
น้ำโขง 13 พ.ย. 52 เวลา 19:38 น. 17

สองโรคที่ว่า เคยเป็นอยู่บ้างบางครั้ง แต่อันหลังนี่พอนึกถึงความจริง ก็ไม่ค่อยหลงตัวเอง ชมตัวเองน้อยลง (จะมีหลงตัวเองอีกทีก็ตอนที่ต้องการกำลังใจล่ะนะ(พูดว่าโกหกตัวเองน่าจะถูกกว่า))
มีช่วงหนึ่งที่ชอบออกจากบ้านแล้วกลับเข้ามาตรวจดูว่าถอดปลั๊กไฟเรียบร้อยแล้วหรือยัง ปิดน้ำแล้วหรือยัง เพราะแต่ก่อนเคยเปิดน้ำทิ้งไว้ เปิดไฟทิ้งไว้ เสียบเตารีดทิ้งไว้ อย่างนี้เขาเรียกว่าโรคย้ำคิดย้ำทำใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้ก็ไม่เป็นแล้วล่ะ


PS.  ทว่านั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราค่อยพูดถึงในโอกาสต่อไป
0
Sirisobhakya 13 พ.ย. 52 เวลา 21:00 น. 18

ความคิดเห็นที่ 17
แถบสถานะโหวตลบโหวตเก็บความคิดเห็นนี้
บอร์ดมีอะไรใหม่?
   คะแนนเห็นด้วย 0
สองโรคที่ว่า เคยเป็นอยู่บ้างบางครั้ง แต่อันหลังนี่พอนึกถึงความจริง ก็ไม่ค่อยหลงตัวเอง ชมตัวเองน้อยลง (จะมีหลงตัวเองอีกทีก็ตอนที่ต้องการกำลังใจล่ะนะ(พูดว่าโกหกตัวเองน่าจะถูกกว่า))
มีช่วงหนึ่งที่ชอบออกจากบ้านแล้วกลับเข้ามาตรวจดูว่าถอดปลั๊กไฟเรียบร้อยแล้วหรือยัง ปิดน้ำแล้วหรือยัง เพราะแต่ก่อนเคยเปิดน้ำทิ้งไว้ เปิดไฟทิ้งไว้ เสียบเตารีดทิ้งไว้ อย่างนี้เขาเรียกว่าโรคย้ำคิดย้ำทำใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้ก็ไม่เป็นแล้วล่ะ

PS.  ทว่านั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราค่อยพูดถึงในโอกาสต่อไป
Name : น้ำโขง < My.iD > [ IP : 118.173.68.75 ]
Email / Msn: momo_casiopeia(แอท)hotmail.com
วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 / 19:38

อันหลังนี่อาจไม่ใช่โรคย้ำคิดย้ำทำนะครับ แต่เป็นโรค "กลัวแม่ด่า"
ผมก็เป็น เหอะๆ....

แก้ ทำไมจะพิมพ์ว่าย้ำคิดย้ำทำ กลายเป็นพิมพ์ว่าหลงตัวเองไปได้ฟะ ?

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2552 / 22:10

PS.  Mju AERO [Who are We? INTANIA!!!] Boeing 747-4D7 Thai Airways GE CF6-80C2B1F HS-TGX Sirisobhakya
0
นางพญาไร้รัก 13 พ.ย. 52 เวลา 21:40 น. 19

ทรายแอบเป็นนาซีซัส ขี้จิตตก


PS.  "งานที่เราใฝ่ฝัน ก็คืองานที่เราทนรอที่จะทำไม่ไหว...เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ใจ มันอยากจะทำให้เร็วที่สุด" (Christ Widener)
0
~r@kIa~ 13 พ.ย. 52 เวลา 23:43 น. 20

คห. 19

จิตตก คืออาการหดหู่อย่างหนึ่ง รู้สึกว่าชีวิตไร้สีสันมืดมน  บางคนอาจรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า

ส่วนนาซิสซัสนั้น ไม่หดหู่ค่ะ  เขามีความสุขกับการเฝ้ามองรูปโฉมของตัวเองและชื่นชมมันมากจนไม่สนใจสิ่งอื่น  แน่นอนว่าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองมีค่าที่สุดในโลกนี้ สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดรวมถึงการจะรักษาชีวิตตัวเองให้รอด  ดังนั้นนาซืสซัสจึงนั่งเฝ้ามองเงาของตัวเองจนตายค่ะ

ที่พูดมานี่คือจะบอกว่า  ลินงงน่ะท่คน ๆ เดียวสามารถเป็นนาร์ซิสซัสพร้อม ๆ กับมีอาการจิตตกได้


PS.   อันตัวเรานี้หนอ ก็แมงกะพรุนดีๆนี่เอง - - ลอยไปลอยมาไม่ทำไร - - แต่ถ้าใครมากวนใจ = = ตาย !!
0