Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอความกรุณา"ช่วยถอดคำประพันธ์ขุนช้างขุนแผน" ม.6ให้ทีค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ใครก็ได้ช่วยถอดคำประพันธ์ให้ทีนะคะ  หาในเน็ตไม่มีที่ถอดคำประพันธ์แล้วเลย


ใครพอแปลได้ช่วยทีนะคะ   ขอขอบพระคุณมากค่ะ



จะกล่าวถึงโฉมเจ้าพลายงาม         เมื่อเป็นความชนะขุนช้างนั่น

กลับมาอยู่บ้านสำราญครัน             เกษมสันต์สองสมภิรมย์ยวน

พร้อมญาติขาดอยู่แต่มารกา           นึกนึกตรึกตราละห้อยหวน

โอ้ว่าแม่วันทองช่างหมองนวล     ไม่สมควรเคียงคู่กับขุนช้าง

เออนี่เนื้อเคราะห์กรรมนำมาผิด    น่าอายมิตรหมองใจไม่หายหมาง

ฝ่ายพ่อมีบุญเป็นขุนนาง                  แต่แม่ไปแนบข้างคนจังไร

รูปร่างวิปริตผิดกว่าคน                    ทรพลอัปรีย์ไม่ดีได้

ทั้งใจคอชั่วโฉดโหดไร้                   ช่างไปหลงรักใคร่ได้เป็นดี

วันนั้นแพ้กูเมื่อดำน้ำ                        ก็กริ้วซ้ำจะฆ่าให้เป็นผี

แสนแค้นด้วยมารดายังปรานี         ให้ไปขอชีวีขุนช้างไว้

แค้นแม่จำจะแก้ให้หายแค้น           ไม่ทดแทนอ้ายขุนช้างบ้างไม่ได้

หมายจิตคิดจะให้มันบรรลัย           ไม่สมใจจำเพาะเคราะห์มันดี

อย่าเลยจะรับแม่กลับมา                   ให้อยู่ด้วยบิดาเกษมศรี

พรากให้พ้นคนอุบาทว์ชาติอัปรีย์    ยิ่งคิดยิ่งมีความโกรธา

อัดอึดฮึดฮัดด้วยขัดใจ                       เมื่อไรตะวันจะลับหล้า

เข้าห้องหวนละห้อยคอยเวลา         จวนสุริยาเลี้ยวลับเมรุไกร

เงียบสัตว์จัตุบททวิบาท                    ดาวดาษเดือนสว่างกระจ่างไข

น้ำค้างตกกระเซ็นเย็นเยือกใจ         สงัดเสียงคนใครไม่พูดจา

ได้ยินเสียงฆ้องย่ำประจำวัง             ลอยลมล่องดังถึงเคหา

คะเนนับยามได้สามครา                   ดูเวลาปลอดห่วงทักทิน

ฟ้าขาวดาวเด่นดวงสว่าง                 จันทร์กระจ่างทรงกลดหมดเมฆสิ้น

จึงเซ่นเหล้าข้าวปลาให้พรายกิน    เสกขมิ้นว่านยาเข้าทาตัว

ลงยันต์ราชะเอาปะอก                      หยิบยกมงคลขึ้นหัว

เป่ามนตร์เบื้องบนชอุ่มมัว                พรายยั่วยวนใจให้ไคลคลา

จับดาบเคยปราบณรงค์รบ                เสร็จครบบริกรรมพระคาถา

ลงจากเรือนไปมิได้ช้า                      รีบมาถึงบ้านขุนช้างพลัน ฯ

แสดงความคิดเห็น

>

49 ความคิดเห็น

878 21 พ.ย. 52 เวลา 10:35 น. 1

ต่อจากข้างบนนะคะ


เห็นคนนอนล้อมอ้อมเป็นวง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ประตูลั่นมั่นคงขอบรั้วกั้น

กองไฟสว่างดังกลางวัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp หมายสำคัญตรงมาหน้าประตู

จึงร่ายนมตรามหาสะกด&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เสื่อมหมดอาถรรพ์ที่ฝังอยู่

ภูตพรายนายขุนช้างวางวิ่งพรู&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  คนผู้ในบ้านก็ซานเซอะ

ทั้งชายหญิงง่วงงมล้มหลับ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  นอนทับคว่ำหงายก่ายกันเปอะ

จี่ปลาคาไฟมันไหลเลอะ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp โงกเงอะงุยงมไม่สมประดี

ใช้พรายถอดกลอนถอนลิ่ม&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp รอยทิ่มถอดหลุดไปจากที่

ย่างเท้าก้าวไปในทันที&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  มิได้มีใครทักแต่สักคน

มีแต่หลับเพ้อละเมอฝัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ทั้งไฟกองป้องกันทุกแห่งหน

ผู้คนเงียบสำเนียงเสียงแต่กรน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  มาจนถึงเรือนเจ้าขุนช้าง

จุดเทียนสะกดข้าวสารปราย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ภูตพรายกระโดดเรือนสะเทือนผาง

สะเดาะดาลบานเปิดหน้าต่างกาง&nbsp &nbsp ย่างเท้าก้าวขึ้นร้านดอกไม้

หอมหวนอวลอบบุปผชาติ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เบิกบานก้านกลาดกิ่งไสว&nbsp &nbsp &nbsp 

เรณูฟูร่อนขจรใจ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ย่างเท้าก้าวไปไม่โครมคราม

ข้าไทนอนหลับลงทับกัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp สะเดาะกลอนถอนลั่นถึงชั้นสาม

กระจกฉากหลากสลับวับแวมวาม&nbsp อร่ามแสงโคมแก้วแววจับตา

ม่านมู่ลี่มีแกประจำกั้น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  อัฒจันทร์เครื่องแก้วก็หนักหนา

ชมพลางย่างเยื้องชำเลืองมา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เปิดมุ้งเห็นหน้าแม่วันทอง

นิ่งนอนอยู่บนเตียงเคียงขุนช้าง&nbsp &nbsp &nbsp  มันแนบข้างกอดกลมประสมสอง

เจ็บใจดังหัวใจจะพังพอง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ขยับจ้องดาบง่าอยากฆ่าฟัน

จะใคร่ถีบขุนช้างที่กลางตัว&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp นึกกลัวจะถูกแม่วันทองนั่น

พลางนั่งลงนบนอบอภิวันท์&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  สะอื้นอั้นอกแค้นน้ำตาคลอ

โอ้แม่เจ้าประคุณของลูกเอ๋ย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ไม่ควรเลยจะพรากจากคุณพ่อ

เวรกรรมนำไปไม่รั้งรอ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  มิพอที่จะต้องพรากก็จากมา

มันไปฉุดมารดาเอามาไว้&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อ้ายหัวใสข่มเหงไม่แกรงหน้า

ที่ทำแค้นกูแทนให้ทันตา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ขอสมาแม่แล้วก็ขับพราย

เป่าลงด้วยพระเวทวิทยา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  มารดา็ก็ฟื้นตื่นโดยง่าย

ดาบใส่ฝักไว้ไม่เคลื่อนคลาย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp วันทองรู้สึกกายก็ลืมตา ฯ

0
879 21 พ.ย. 52 เวลา 10:36 น. 2

ครานั้นจึงโฉมเจ้าวันทอง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ต้องมนตร์มัวหมองเป็นหนักหนา

ตื่นพลางชำเลืองนัยน์ตามา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เห็นลูกยานั้นยืนอยู่ริมเตียง

สำคัญคิดว่าผู้ร้ายให้นึกกลัว&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  กอดผัวร้องดันจนสิ้นเสียง

ซวนซบหลบลงมาหมอบเมียง&nbsp &nbsp &nbsp  พระหมื่นไวยเข้าเคียงห้ามมารดา

อะไรแม่แซ่ร้องทั้งห้องนอน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ลูกร้อนรำคาญใจจึงมาหา

จะร้องไยใช่โจรผู้ร้ายมา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  สนทนาด้วยลูกอย่าตกใจ ฯ

0
9556 21 พ.ย. 52 เวลา 10:37 น. 4

ครานั้นวันทองผ่องโสภา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ครั้นรู้ว่าลูกยาหากลัวไม่

ลุกออกมาพลันด้วยทันใด&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp พระหมื่นไวยเข้ากอดเอาบาทา

วันทองประคองสอดกอดลูกรัก&nbsp &nbsp  ซบพักตร์ร้องไห้ไม่เงยหน้า

เจ้ามาไยป่านนี้นี่ลูกอา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เขารักษาอยู่ทุกแห่งตำแหน่งใน

ใส่ดาลบ้านช่องกองไฟรอบ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พ่อช่างลอบเข้ามากระไรได้

อาจองทะนงตัวไม่กลัวภัย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  นี่พ่อใช้หรือว่าเจ้ามาเอง

ขุนช้างตื่นขึ้นมิเป็นการ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เขาจะรุกรานพาลข่มเหง

จะเกิดผิดแม่คิดคะนึงเกรง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ฉวยสบเพลงพลาดพล้ำมิเป็นการ

มีธุระสิ่งใดในใจเจ้า&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp พ่อจงเล่าแก่แม่แล้วกลับบ้าน

มิควรทำเจ้าอย่าทำให้รำคาญ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อย่าหาญเหมือนพ่อนักคะนองใจ ฯ

0
897 21 พ.ย. 52 เวลา 10:38 น. 5

จมื่นไวยสารภาพกราบบาทา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ลูกมาผิดจริงหาเถียงไม่

รักตัวกลัวผิดแต่คิดไป&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ก็หักใจเพราะรักแม่วันทอง

ทุกวันนี้ลูกชายสบายยศ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พร้อมหมดเมียมิ่งก็มีสอง

มีบ่าวไพร่ใช้สอยทั้งเงินทอง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พี่น้องข้างพ่อก็บริบูรณ์

ยังขาดแต่แม่คุณไม่แลเห็น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เป็นอยู่ก็เหมือนตายไปหายสูญ

ข้อนี้ที่ทุกข์ยังเพิ่มพูน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ถ้าพร้อมมูลแม่ด้วยจะสำราญ

ลูกมาหมายว่าจะมารับ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เชิญแม่วันทองกลับไปคืนบ้าน

แม้จะบังเกิดเหตุเภทพาล&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ประการใดก็ตามแต่เวรา

มาอยู่ไยกับอ้ายหินชาติ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp แสนอุบาทว์ใจจิตริษยา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 

ดังทองคำทำเลี่ยมปากกะลา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  หน้าตาดำเหมือนมินหม้อมอม

เหมือนแมลงวันว่อนเคล้าที่เน่าชั่ว&nbsp มาเกลือกกลั้วปทุมมาลย์ที่หวานหอม

ดอกมะเดื่อหรือจะเจือดอกพะยอม ว่านักแม่จะตรอมระกำใจ

แม่เลี้ยงลูกมาถึงเจ็ดขวบ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เคราะห์ประจวบจากแม่หาเห็นไม่

จะคิดถึงลูกบ้างหรืออย่างไร&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp หรือหาไม่ใจแม่ไม่คิดเลย

ถ้าคิดเห็นเอ็นดูว่าลูกเต้า&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  แม่ทูนเกล้าไปเรือนอย่าเชือนเฉย

ให้ลูกคลายอารมณ์ได้ชมเชย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เหมือนเมื่อครั้งแม่เคยเลี้ยงลูกมา ฯ

0
เต้าฮู้ของมารุโกะ!!! 21 พ.ย. 52 เวลา 10:48 น. 7

เท่าที่เคยเรียน

ตอนจบกลอนมันมีเนื้อเรื่องสรุปให้นิค่ะ

จมื่นไวยสารภาพกราบบาทา            ลูกมาผิดจริงหาเถียงไม่

รักตัวกลัวผิดแต่คิดไป                       ก็หักใจเพราะรักแม่วันทอง

ทุกวันนี้ลูกชายสบายยศ                     พร้อมหมดเมียมิ่งก็มีสอง

มีบ่าวไพร่ใช้สอยทั้งเงินทอง             พี่น้องข้างพ่อก็บริบูรณ์

ยังขาดแต่แม่คุณไม่แลเห็น                 เป็นอยู่ก็เหมือนตายไปหายสูญ

ข้อนี้ที่ทุกข์ยังเพิ่มพูน                         ถ้าพร้อมมูลแม่ด้วยจะสำราญ

ลูกมาหมายว่าจะมารับ                      เชิญแม่วันทองกลับไปคืนบ้าน

แม้จะบังเกิดเหตุเภทพาล                  ประการใดก็ตามแต่เวรา

มาอยู่ไยกับอ้ายหินชาติ                      แสนอุบาทว์ใจจิตริษยา          

ดังทองคำทำเลี่ยมปากกะลา             หน้าตาดำเหมือนมินหม้อมอม

เหมือนแมลงวันว่อนเคล้าที่เน่าชั่ว  มาเกลือกกลั้วปทุมมาลย์ที่หวานหอม

ดอกมะเดื่อหรือจะเจือดอกพะยอม ว่านักแม่จะตรอมระกำใจ

แม่เลี้ยงลูกมาถึงเจ็ดขวบ                   เคราะห์ประจวบจากแม่หาเห็นไม่

จะคิดถึงลูกบ้างหรืออย่างไร            หรือหาไม่ใจแม่ไม่คิดเลย

ถ้าคิดเห็นเอ็นดูว่าลูกเต้า                   แม่ทูนเกล้าไปเรือนอย่าเชือนเฉย

ให้ลูกคลายอารมณ์ได้ชมเชย            เหมือนเมื่อครั้งแม่เคยเลี้ยงลูกมา ฯ
 

แปล (ผิดอย่าว่าน่ะ)

พรายงาม หรือ
จมื่นไวย มารับมารดาที่อยู่กับขุนช้างให้กลับไปอยู่กลับตนที่บ้าน บ้านตนนั้นอยู่สบาย มีเงินทอง ๆแล้วทำไมต้องทนอยู่กลับขุนช้านที่แสนอุบาทว์ด้วย ด้วยความที่นางวันทองรักลูกเช่นเดียวกันจึงบอกว่า แม่ก็รัก และคิดถึงลูกเหมือนกัน แต่นางกลับไปด้วยไม่ได้

จำได้ว่ามันมีต่ออีก............


PS.  T_T : ความสุขมีอยู่ทุกที่ 555+
0
kueaponz 21 พ.ย. 52 เวลา 12:03 น. 10
เด็กไทยสมัยนี้ถอดความวรรณคดีไม่เป็น 
แต่เรื่องแกะเนื้อเพลงเกาหลี ถนัดนัก


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 พฤศจิกายน 2552 / 12:09

PS.   แน่นอน ! ฉันขี้อิจฉาอยู่แล้ว ..
0
JokerdeZ~ 21 พ.ย. 52 เวลา 12:09 น. 11

(เอาแบบย่อๆ กระชับๆนะ เหอๆ เราก็อ่านไปแปลไป)
พลายงามเมื่อชนะความขุนช้าง ก็กลับบ้านมาด้วยอารมณ์เปรมปรีดิ์ แล้วก็คิดได้ว่า บ้านเรานี้มีวงศาคณาญาติครบทุกคน เหลือก็แต่แม่ (นางวันทอง) ที่อยู่กับขุนช้าง จากนั้นก็เริ่มเกิดความคิดที่ว่า จะไปลักพาตัวแม่กลับมา ให้อยู่กับพ่ออย่างมีความสุข เพราะเห็นว่าแม่ไม่คู่ควรกับขุนช้าง เพราะขุนช้างนั้นจิตใจแสนชั่วช้า รูปร่างก็อัปลักษณ์ผิดมนุษย์ แม่รักลงได้อย่างไร แล้วก็หวนคิดถึงความเก่า ที่ตนเคยชนะขุนช้าง(แข่งไรกันซักอย่าง ดำน้ำเหรอ - -") ซึ่งตอนนั้นตนจะฆ่าขุนช้างทิ้ง แต่แม่มาห้ามขอชีวิตขุนช้างไว้ เมื่อคิดได้ดังนั้น พลายงามก็รอเวลายามสาม เมื่อเสียงฆ้องประจำยามดังมาจากวัง ก็ทำพิธีบริกรรมคาถา ทำของมงคลใส่ตัวเพื่อคุ้มภัย แล้วก็ออกไปรับแม่ทันที

พอถึงบ้านขุนช้าง ก็พบว่า ผู้คนยังคงเฝ้ายามกันขันแข็ง อีกทั้งบ่าวไพร่ยังไม่หลับไม่นอน ว่าแล้วพลายงามก็ร่ายมนต์ ให้คนในบ้านหลับทั้งหมด บ่าวไพร่นอนหลับทับกันไปมา เมื่อเห็นเช่นนั้น พลายงามก็ใช้พรายสะเดาะกลอน จากชั้นหนึ่ง ไปชั้นสอง ไปชั้นสาม (ชั้นสองมันมีร้านดอกไม้อ่ะ ไม่แน่ใจ ใครอธิบายที ขุนช้างเปิดร้านขายดอกไม้อ่อ ?? ) เมื่อถึงห้องนอนขุนช้าง ก็เปิดประตูเข้าไป (อันนี้อีก มีมู่ลี่ด้วย ?!?) เห้นขุนช้างนอนกับแม่อยู่ ก็เกิดอารมณ์โกรธเหลือกำลัง ครั้นจะถีบขุนช้างให้ตกเตียงก็กลัวจะโดนแม่ จึงก้มลงกราบแม่แล้วก็เป่ามนต์ให้แม่ตื่นขึ้น

นางวันทองเมื่อตื่นขึ้นแล้ว เห็นเงาผู้ชายตะคุ่มๆก็ตกใจร้องเขย่าปลุกขุนช้างทันที พลายงามจึงบอกว่า ไม่ต้องกลัว นี่ลูกแม่เอง เมื่อนางวันทองเห็นดังนั้นจึงคลายความตกใจลง พลายงามเข้าไปกอดเท้าแม่ นางวันทองก้มหน้าร้องไห้ แล้วถามว่ามาทำไมเอาป่านนี้ เค้ามีเวรยามเฝ้าอยู่เยอะแยะ&nbsp ไม่กลัวหรือไร แล้วนี่พ่อใช้ หรือว่ามาเอง(แม่ดุลูกนั่นแหละ - -") มีธุระอะไรก็รีบบอกแล้วกลับบ้านไปซะ

พลายงามได้ยินอย่างนั้นก็บอกว่า ลูกนี้มาผิดจริง แต่หาได้กลัวไม่ ตอนนี้ลูกอยู่สบายดี เมียก็มีสองคน(โอ้วววว...) พี่น้องข้างพ่อก็บริบูรณ์ แต่ขาดแม่ ทำให้ชีวิตเหมือนยังไม่เต็ม จึงจะมารับแม่ไปอยู่ด้วย เพราะขุนช้างนั้น ไม่เหมาะสมที่จะอยู่กับแม่ มันทั้งชั่วร้าย ใจ อัปลักษณ์ บลาๆๆ เมื่อครั้งเด็กก็พรากกันครั้งหนึ่ง จะไม่คิดถึงลูกบ้างเลยหรือ ขอให้แม่กลับเรือนอย่าอิดออด แล้วลูกจะดูแลแม่ให้ดี เหมือนที่แม่เลี้ยงลูกมา

โอ้วววว ยาววมากกกกก !!

ไม่แน่ใจว่าถอดความถูกหรือป่าวนะคับ ใครเห้นว่าผิดตรงไหนก็แก้หน่อยละกันนะคับ พอดีเรียนสายวิทย์ เลยไม่ค่อยถนัดเรื่องวรรณคดีไทยเท่าไหร่ แหะๆ ^^"


PS.  จินตนาการ สำคัญกว่า ความรู้~
0
8789 21 พ.ย. 52 เวลา 14:07 น. 12

ขอบคุณความเห็นที่8&nbsp ที่12 มากนะคะ


แต่ช่วยเราแปลต่อได้มั๊ยมีอีกหลายน่าเลย


ขอบคุนมากๆนะ

ครานั้นจึงโฉมเจ้าวันทอง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เศร้าหมองด้วยลูกเป็นหนักหนา

พ่อพลายงามทรามสวาทของแม่อา&nbsp &nbsp  แม่โศกาเกือบเจียนจะบรรลัย

ใช่จะอิ่มเอิบอาบด้วยเงินทอง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  มิใช่ของตัวทำมาแต่ไหน

ทั้งผู้คนช้างม้าแลข้าไท&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ไม่รักใคร่เหมือนกับพ่อพลายงาม

ทุกวันนี้ใช่แม่จะผาสุก&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  มีแต่ทุกข์ใจเจ็บดังเหน็บหนาม

ต้องจำจนทนกรรมที่ติดตาม&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  จะขืนความคิดไปก็ใช่ที

เมื่อพ่อเจ้าเข้าคุกแม่ท้องแก่&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เขาฉุดแม่ใช่จะแกล้งแหนงหนี

ถึงพ่อเจ้าเล่าไม่รู้ว่าร้ายดี&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เป็นหลายปีแม่มาอยู่กับขุนช้าง

เมื่อพ่อเจ้ากลับมาแต่เชียงใหม่&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ไม่เพ็ดทูลสิ่งไรแต่สักอย่าง

เมื่อคราวตัวแม่เป็นคนกลาง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ท่านก็วางบทคืนให้บิดา

เจ้าเป็นถึงหัวหมื่นมหาดเล็ก&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  มิใช่เด็กดอกจงฟังคำแม่ว่า&nbsp &nbsp &nbsp 

จงเร่งกลับไปคิดกับบิดา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ฟ้องหากราบทูลพระทรงธรรม์

พระองค์คงจะโปรดประทานให้&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  จะปรากฏยศไกรเฉิดฉัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 

อันจะมาลักพาไม่ว่ากัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เช่นนั้นใจแม่มิเต็มใจ ฯ

0
986 21 พ.ย. 52 เวลา 14:07 น. 13

ครานั้นจึงโฉมเจ้าพลายงาม&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ฟังความเห็นว่าแม่หาไปไม่

คิดบ่ายเบี่ยงเลี่ยงเลี้ยวเบี้ยวบิดไป&nbsp &nbsp เพราะรักขุนช้างกว่าบิดา

จึงว่าอนิจจาลูกมารับ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp แม่ยังกลับทัดทานเป็นหนักหนา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 

เหมือนไม่มีรักใคร่ในลูกยา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อุตส่าห์มารับแล้วยังมิไป

เสียแรงเป็นลูกผู้ชายไม่อายเพื่อน&nbsp  จะพาแม่ไปเรือนให้จงได้

แม้นมิไปให้งามก็ตามใจ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จะบาปกรรมอย่างไรก็ตามที

จะตัดเอาศีรษะของแม่ไป&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ทิ้งแต่ตัวไว้ให้อยู่นี่

แม่อย่าเจรจาให้ช้าที&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp จวนแจ้งแสงสีจะรีบไป ฯ

0
6856 21 พ.ย. 52 เวลา 14:08 น. 14

ครานั้นวันทองผ่องโสภา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ตกใจกลัวว่าจะฆ่าฟัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 

จึงปลอบว่าพลายงามพ่อทรามรัก&nbsp  อย่าฮึกฮักว้าวุ่นทำหุนหัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 

จงครวญใคร่ให้เห็นข้อสำคัญ&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp แม่นี้พรั่นกลัวแต่จะเกิดความ

ด้วยเป็นข้าลักไปไทลักมา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เห็นเบื้องหน้าจะอึงแม่จึงห้าม

ถ้าเห็นเจ้าเป็นสุขไม่ลุกลาม&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ก็ตามเถิดมารดาจะคลาไคล

ว่าพลางนางลุกออกจากห้อง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เศร้าหมองโศกาน้ำตาไหล

พระหมื่นไวยก็พามารดาไป&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พอรุ่งแจ้งแสงใสก็ถึงเรือน ฯ

0
98565 21 พ.ย. 52 เวลา 14:08 น. 15

จะกล่าวถึงเจ้าจอมหม่อมขุนช้าง&nbsp  นอนครางหลับกรนอยู่ป่นเปื้อน

อัศจรรย์ฝันแปรแชเชือน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ว่าขี้เรื้อนขึ้นตัวทั่วทั้งนั้น

หาหมอมารักษายาเข้าปรอท&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  มันกินปอดตับไตออกไหลหลั่น

ทั้งไส้น้อยไส้ใหญ่แลไส้ตัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ฟันฟางก็หักจากปากตัว

ตกใจตื่นผวาคว้าวันทอง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ร้องว่าแม่คุณแม่ช่วยผัว

ลุกขึ้นงกงันตัวสั่นรัว&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ให้นึกกลัวปรอทจะตอดตาย

ลืมตาเหลียวหาเจ้าวันทอง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ไม่เห็นน้องห้องสว่างตะวันสาย

ผ้าผ่อนล่อนแก่นไม่ติดกาย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เห็นม่านขาดเรี่ยรายประหลาดใจ

0
9889 21 พ.ย. 52 เวลา 14:09 น. 16

ตะโกนเรียกในห้องวันทองเอ๋ย&nbsp &nbsp &nbsp หาขานรับเช่นเคยสักคำไม่

ทั้งข้าวของมากมายก็หายไป&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ปากประตูเปิดไว้ไม่ใส่กลอน

พลางเรียกหาข้าไทอยู่ว้าวุ่น&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp อีอุ่นอีอิ่มอีฉิมอีสอน

อีมีอีมาอีสาคร&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  นิ่งนอนไยหวามาหากู

บ่าวผู้หญิงวิ่งไปอยู่งกงัน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp เห็นนายนั้นแก้ผ้ากางขาอยู่

ต่างคนทรุดนั่งบังประตู&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ตกตะลึงแลดูไม่เข้ามา

ขุนช้างเห็นข้าไม่มาใกล้&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ขัดใจลุกขึ้นทั้งแก้ผ้า

แหงนเถ่อเป้อปังยืนจังกา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ย่างเท้าก้าวมาไม่รู้ตัว

ยายจันงันงกยกมือไหว้&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp นั่นพ่อจะไปไหนพ่อทูนหัว

ไม่นุ่งผ่อนนุ่งผ้าดูน่ากลัว&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp ขุนช้างมองดูตัวก็ตกใจ

สองมือปิดขาเหมือนท่าเปรต&nbsp &nbsp  ใครมาเทศน์เอาผ้ากูไปไหน

ให้นึกอดสูหมู่ข้าไท&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ยายจันไปเอาผ้าให้ข้าที

ยายจันตกใจเต็มประดา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เข้าไปฉวยผ้าเอามาคลี่&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 

หยิบยื่นส่งให้ไปทันที&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  เมินหนีอดสูไม่ดูนาย

ขุนช้างตัวสั่นบอกบ่าวไพร่&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  วันทองไปไหนอย่างไรหาย

เอ็งไปดูให้รู้ซึ่งแยบคาย&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  พบแล้วอย่าวุ่นวายให้เชิญมา ฯ

0
894 21 พ.ย. 52 เวลา 14:10 น. 17

ข้าไทได้ฟังขุนช้างใช้&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ต่างเที่ยวค้นด้นไปจะเอาหน้า

ทั้งห้องนอกห้องในไม่พบพา&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ทั่วเคหาแล้วไปค้นจนแผ่นดิน

เห็นประตูรั้วบ้านบานเปิดกว้าง&nbsp &nbsp &nbsp ผู้คนนอนสล้างไม่ตื่นสิ้น

เสาแรกแตกต้นเป็นมลทิน&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  กินใจกลับมาหาขุนช้าง

บอกว่าได้ค้นคว้าหาพบไม่&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp แล้วเล่าแจ้งเหตุไปสิ้นทุกอย่าง

ข้าเห็นวิปริตผิดท่าทาง&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  ที่นวลนางวันทองนั้นหายไป ฯ

0
i-noe 21 พ.ย. 52 เวลา 19:10 น. 19

ไม่ทราบว่าอยู่ม.6รึเปล่า
ถ้าอยู่ม.6 แล้วครูสั่งการบ้านมาให้ถอดคำประพันธ์
ก็กรุณาพยายามทำด้วยตัวเองเถอะ
เพราะมันจะเป็นผลดีกับตัวเธอเอง
ถ้าบอกว่า พยายามแล้ว แต่ทำไม่ได้
ไม่เชื่อหรอก ต่อให้โหลยโท่ยขนาดไหน มันก็ต้องพอทำได้
ค่อยๆเปิดพจนานุกรมไปก็ได้นนี่
ถ้าเอาแต่จะหาในเนต หรือ ให้คนอื่นทำให้
คิดเองละกันนะ ว่าอนาคตของตัวเองจะเป็นยังไง

ส่วนถ้าอยากรู้เฉยๆ ก็ถือว่าดี
ไปให้พ่อแม่เล่าให้ฟังก็ได้

แต่ดูจากที่สรรหามาแล้ว
คงต้องส่งการบ้านแหงๆ
ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัย


จะว่าเราใจแคบก็ได้
แต่ก็ถามตัวเองด้วยนะ ว่าเธอทำถูกมั้ย


PS.  August Rush : All you have to do is listen
0
Temma 25 พ.ย. 52 เวลา 22:55 น. 20

ขอบคุงน้า....เราก็ทำการบ้านเหมือนกัน
คำบางคำมันก็แปลไม่ได้หาในพจนานุกรมก็ไม่มี
มาดูในนี้มันก็ช่วยได้เยอะประหยัดเวลาไปด้วย

0