Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 อันดับตำนานที่น่ากลัวที่สุดในโลก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
โพล66098

อันดับที่ 10 โฮป ไดมอนด์ (Hope Diamond) หรือ "เพชรนางสีดา"

โฮป ไดมอนด์เป็นเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักเดิม 102.73 กะรัต ถูกประดับบนพระนลาฏ(หน้าผาก)ของเทวรูปพระนางสีดาที่อินเดีย มีคำสาปว่า "มันผู้ใดแตะต้องเพชรแห่งตูข้า ผู้นั้นมันต้องตายอนาถ" ครั้งแรกมันถูกขโมยมาโดยกลุ่มโจร อาถรรพ์ครั้งแรกคือทำให้กลุ่มโจรนั้นฆ่ากันเอง ยกเว้นเพียงคนหนึ่งได้หนีรอดออกมา นำเพชรมาเจียรไนไม่ให้ใครจำได้ ตอนนี้มีน้ำหนักเหลือเพียง 80.32 กะรัตแล้ว พ่อค้าฝรั่งเศสชื่อนายทราวิเนียร์ได้รับซื้อไว้แล้วนำไปขายต่อให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 อาภรรพ์ครั้งที่ 2 จึงเกิดขึ้น เมื่อพระเจ้าหลุยส์ฯทรงพระราชทานเป็นของขวัญวันพระราชสมภพแก่พระนางมารีอองตัวเนตต์ และพระนางนำไปเจียรไนอีกเป็น 72.09 กะรัต และแล้ว ไม่นานพระองค์ทั้ง 2 ก็ถูกสำเร็จโทษโดยกีโยติน เรื่องนี้หายไปนานจนกระทั่งไปจนกระทั่งปรากฏอีกครั้งในน้ำหนัก 62.03 กะรัต แล้วผู้เคราะห์ร้ายรายรองสุดท้ายที่เคยรวยที่สุดในโลกก็ได้นำไปเจียรไนเหลือ 45.52 กะรัต แล้วลูกสาวของเธอก็ตาย สามีก็เป็นบ้า ส่วนเธอก็จนลงจนกลายเป็นขอทานและตายอย่างอนาถในที่สุด จนมาถึงผู้รับคนสุดท้ายที่เอะใจทันเอาไปให้พิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียนเป็นเพชรที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก เรื่องราวอาภรรพ์แห่งความตายจึงได้จบเพียงแค่นี้
อันดับที่ 9 วิหารกระดูก เมืองอีโวรา ประเทศโปรตุเกส

วิหารนี้สร้างในศตวรรษที่ 15 โดยพระนิกายฟรานซิสกัน ที่แปลกคือวิหารนี้ทำด้วยกระดูกของมนุษย์ 5,000 คน! และยังมีโครงกระดูกแขวนไว้เปล่าๆบนผนังนี้ด้วย ตำนานได้กล่าวไว้ว่ามีหญิงคนหนึ่งเธอเป็นคนดีและยึดมั่นในคาทอลิก ทว่าในวันหนึ่งเธอได้ถูกสามีผู้โมโหร้ายและลูกชายแท้ๆของเธอช่วยกันทรมานด้วยการโบยจนตาย ก่อนตายเธอได้สาปแช่งไว้ว่าขอให้วิญญาณของ 2 ลงนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ แม้แต่พื้นพสุธาก็ยังไม่รับเขาไว้ และไม่นาน ชายทั้ง 2 ก็ได้ตายลง พวกชาวเมืองจึงขุดหลุมฝังศพให้เขา แต่ไม่ว่าจะขุดที่ไหนก็จะเจอแต่หินเต็มไปหมด จึงจนปัญญาเลยเอาไปแขวนไว้กับผนังวิหารกระดูก นับว่าเป็นคำสาปที่ขลังยิ่ง นักบวชจะใช้โครงกระดูกนี้สำหรับปลงครับ
อันดับที่ 8 ละครเวทีแม็คเบ็ทของเช็คสเปียร์

ละครเรื่องนี้มีฉากที่เกี่ยวกับแม่มดและคําสาปมนต์ดํา ว่ากันว่าทําให้แม่มดตัวจริงสมัยนั้นเคืองแค้นที่เชคสเปียร์นําเอาเรื่องลับของพวกเขามาเปิดเผย จึงสาปให้ละครเรื่องนี้มีอันเป็นไป หากใครนํามาแสดงโดยเฉพาะตัวละครที่เล่นบทแม็คเบ็ธ
ผลของคําสาปอุบัติขึ้นตั้งแต่หนแรกสุดที่ละครนี้ออกแสดง โดยผู้แสดงที่ชื่อ ฮัล เบอร์ริดจ์ ซึ่งสวมบทเลดี้เอม ได้ล้มเจ็บลงในคืนนั้น และสิ้นใจตายหลังเวที และนับแต่นั้นมาเกือบ 400 ปี ละครเรื่องนี้ก็มีอาถรรพณ์เกิดขึ้นกับนักแสดงมาตลอด เช่น มีอุบัติเหตุบาดเจ็บ ล้มตาย บางคนฆ่าตัวตาย และที่น่าพรึงเพริดที่สุดก็คือ ในปี ค.ศ. 1947 นักแสดงชื่อ ฮาโรลด์ ทอร์แมน เป็นผู้รับบทแม็คเบ็ธ ในระหว่างการดวลดาบนั้น คู่ต่อสู้ของเขาลืมสวมที่ครอบปลายดาบ พอแม็คเบ็ธถูกแทงล้มลงกลางเวที ผู้ดูต่างก็ปรบมือพอใจในบทบาท หากทว่า หลังเวทีนั่นซิ ต่างก็ตกใจกันยิ่งนักที่เขาโดนแทงจริงๆ ทอร์แมนตายใน 3 สัปดาห์ต่อมา 

อันดับที่ 7 อลิสแตร์ ครอวลีย์ พ่อมดแห่งล็อกเนส
สกอตแลนด์ ปี 1899 ครอว์ลีย์อาศัยอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยวทางตอนใต้ของทะเลสาบที่ลือลั่นในเรื่องอสุรสัตว์ กล่าวกันว่าเขาขมังในเรื่องเวทมนตร์และเลี้ยงวิญญาณภูตไว้ถึง 115 ตน เขาสามารถดลบันดาลให้เพื่อนบ้านหลายคนมีอันเป็นไปนานา จนเป็นที่หวาดหวั่นไปทั่ว ก่อนตายครอว์ลีย์ได้สาปทิ้งท้ายไว้กับยอดเขาแห่งหนึ่งซึ่งเรียกกันว่า "ปล่องไฟปีศาจ" และครอว์ลีย์เคยหลงทางที่ยอดเขานี้ ซึ่งทําให้เขาขัดเคืองใจ จึงสาปว่าเมื่อใดที่ยอดเขานี้พังทลาย สิ่งชั่วร้ายต่างๆก็จะถูกปลดปล่อยแผ่กระจายไปด้วย "ปล่องไฟปีศาจ" ยืนหยัดอยู่นานนับพันปี แต่แล้วในเดือนเมษายน 2001 ยอดสูงราว 70 เมตร ก็มีอันถล่มทลายลงมาในทะเล เรื่องนี้ทําให้ผู้ที่เชื่อถือในตํานานพากันผวาไปตามกันเลยครับ ป่านนี้นรกคงครอบคลุมแผ่นดินแล้ว!
อันดับ 6 คําสาปวูดูแห่งนิวออร์ลีนส์


สหรัฐฯ แม่มดวูดูผู้นี้มีนามว่า มารี ลาโว มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1800 กว่าๆ เพื่อนบ้านรํ่าลือกันว่าเธอสามารถสาปได้ทั้งคนและสัตว์ โดยใช้มนต์ดําของวูดู กระทั่งทุกวันนี้ยังมีการจัดทัวร์พาไปชมบ้านของเธอ รวมทั้งบนบานขอให้เธอช่วยสาปใครก็ได้ เรียกกันว่าบลัดดี้มารีทัวร์ ทั้งนี้ผู้ขอจะต้องปฏิบัติดังนี้ครับ เริ่มจากเคาะ 3 ครั้งบนโลงศพของมารี แล้วหมุนกายทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ เซ่นเหล้ารัม ข้ามหลุมศพ 3 หน แล้วเปล่งชื่อของเธอออกมาดังๆ จากนั้นก็บอกกล่าวถึงจุดประสงค์ของคุณ (ว่าจะให้เธอดลให้ศัตรูของคุณวิบัติอย่างไร) ไม่เชื่อก็เดินทางร่วมทัวร์ไปพิสูจน์ได้
อันดับ 5 คําสาป ตุตันคาเมน



สรุปสั้นๆแค่ว่า ทั้ง โฮวาร์ด คาร์เตอร์, ลอร์ด คาร์นาวอน และผู้มีส่วนรบกวนสุสานของฟาโรห์องค์นี้ ล้วนมีอันล้มหายตายจากก่อนวัยอันควรทั้งนั้น ตุตันคาเมนเป็นฟาโรห์หนุ่มที่ถูกกล่าวถึงกันมากในเรื่องอาถรรพ์จากคำสาปที่นักบวชแดนไอย์คุปต์บรรจงสลักไว้ในสุสานของพระองค์ ข้อความคลังเปี่ยมด้วยอาถรรพ์ที่ว่า "มรณะจักโบยบินมาสังหารสู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์" ทำให้มีการตายอย่างน่าพิศวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เชื่อกันว่าความตายเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์คำสาป
นับแต่สุสานถูกเปิดเมื่อปี 1922 ผู้ร่วมพิธีเปิดเสียชีวิตไป 22 คน และเล่ากันว่า นับจากนั้นมาแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร หากครั้งใดที่ฟาโรห์ตุตันคาเมนถูกรบกวนก็ย่อมจะมีผู้ที่สังเวยต่อคำสาปอันลี้ลับนี้เสมอมา รวมถึงลอร์ดคาร์นาร์วอน เจ้าของทุนในการขุดค้นสุสานก็เสียชีวิตลงหลังจากถูก "ยุงกัด"  "ตุตันคาเมน" เป็นฟาโรห์องค์ที่ 12 ในราชวงศ์ที่ 18 ของอียิปต์ ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนม์เพียง 10 พรรษา ทรงเป็นกษัตริย์อียิปต์โบราณในช่วงปี 1334 - 1323 ก่อนคริสตกาล ภายหลังขึ้นครองราชย์ได้เปลี่ยนพระนามเป็น "ตุตันคามุน"  พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อพระชนม์เพียงแค่ 18 พรรษาโดยไม่ทราบสาเหตุแต่เชื่อกันว่าฟาโรห์หนุ่มองค์นี้ถูกลอบปลงพระชนม์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีข่าวออกมาแย้งว่าจากการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่พบว่าพระองค์น่าจะสิ้นพระชนม์จากบาดแผลที่ติดเชื้อมากกว่าถูกลอบปลงพระชนม์
ด้วยระยะเวลาอันสั้นในการครองราชย์ทำให้ทรงไม่มีภารกิจใดมากนัก นอกจากนั้นหลังสิ้นพระชนม์ทรงถูกกษัตริย์องค์ต่อมาลบทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งพระนามของตุตันคาเมนออกจากรายนามพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ทำให้ไม่มีนักประวัติศาสตร์คนใดรู้จักพระนามของพระองค์เลย จนกระทั่งในวันที่ 4 พฤศจิกายน 1922 โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ และลอร์ด คาร์นาวอน ชาวอังกฤษค้นพบสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก พวกเขาเป็นสองคนแรกที่เข้าไปในสุสานของตุตันคาเมนในรอบ 3,000 ปี ในห้องที่พวกเขาพบเต็มไปด้วยทองคำและของมีค่ามากมาย ซึ่งเจ้าของของสิ่งมีค่าเหล่านี้คือฟาโรห์หนุ่มที่มีพระนามว่า "ตุตันคาเมน" นั่นเอง
เนื่องจากพระศพและสุสานที่สร้างขึ้นไม่ได้สลักชื่อว่าเป็นของกษัตริย์ เลยรอดพ้นเงื้อมมือโจรที่คอยปล้นและทำลายสุสานไปได้ จึงทำให้ทุกอย่างยังคงสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด แต่กระนั้นพระองค์ก็ยังทรงไม่วายถูกรบกวนหลังจากโลงพระศพถูกเปิด อาถรรพ์ของคำสาปจึงเป็นเกราะอย่างหนึ่งที่จะทำให้ฟาโรห์ตุตันคาเมนทรงได้พักผ่อนอย่างสงบตลอดกาล
อันดับ 4 อีกา แห่งป้อมปราสาท ลอนดอน (Tower of London)
 
ป้อมปราสาทนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะถูกใช้เป็นที่คุมขังและประหารบุคคลสําคัญๆของอังกฤษมากมายหลายท่าน ณ ลานปราสาทแห่งนี้จะมีการเลี้ยงดูอีกาจํานวน 6 ตัว เนื่องจากมีคําสาปมานานกว่า 900 ปี ว่าถ้าหากอีกาลดจํานวนลงเมื่อใด เมื่อนั้นความหายนะจะมาเยือนนครลอนดอน และสิ้นสุดพระราชวงศ์แห่ง อังกฤษ!
เรื่องนี้มีตํานานปรากฏเป็นเอกสารในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ราวศตวรรษที่ 17 ด้วยนะครับ ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอยแต่อย่างใด และทําให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นยามหรือกษัตริย์ถือเป็นเรื่องจริงจังอย่างเคร่งครัด เช่นว่า ถ้ามีอีกาตายหนึ่งตัว จะต้องรีบถวายรายงานต่อควีนทันที และต้องจัดหาอีกาตัวใหม่มาทดแทนโดยด่วน ซึ่งอีกาทุกตัวจะมีชื่อเรียก และถ้าตายก็จะถูกนําไปฝังอย่างมีพิธีการ จะมีการเลี้ยงอีกาไว้สํารองตลอดเวลา ถ้าตัวใดล้มป่วย ก็ต้องรีบตรวจสอบ หาไม่ถ้าหากตายโดยโรคติดต่อ (เช่น ไข้หวัดนก) และเช้าขึ้นมาอีกาตายเกลี้ยงละก้อ เชื่อกันว่าทั้งพระราชวงศ์ก็จะอันตรธานไปเช่นกัน
อันดับ 3 คําสาปตะกั่วแห่งกรีซ 
ใน ค.ศ. 1979 มีการขุดค้นโบราณสถานชื่ออโกรา, นครเอเธนส์ ทําให้พบแผ่นม้วนตะกั่วบางๆ ซึ่งมีจารึกภาษาโบราณอันเป็นคําสาปปรากฏอยู่ แผ่นตะกั่วนี้เรียกกันว่า คาตาเรส (Katares) ใช้ใส่ลงในโลงศพก่อนจะฝัง เชื่อกันว่าตะกั่วจะทําให้คําสาปจมลงไปอย่างรวดเร็วถึงขุมนรกพร้อมกับวิญญาณผู้ตาย เพื่อที่พระยมจะได้อ่านคําสาปและดลบันดาลให้เป็นไปตามนั้น นอกจากนี้ การฝากหรือทิ้งแผ่นคําสาปลงไปในนํ้าก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง เพราะนํ้าจะสามารถสื่อไปถึงผู้ที่เราต้องการสาปได้ ซึ่งแผ่นคาตาเรสกว่า 100 แผ่นที่ค้นพบนี้ได้ระบุจ่าหน้าถึง ซูลิส ไมเนอร์วา ซึ่งเป็นเทพีด้านอุทกของโรมันครับ
อันดับ 2 คําสาป วัฏจักรมรณกรรม ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ



นี่ก็เป็นอาถรรพณ์อีกอย่างซึ่ง โด่งดังมาก นั่นคือ ปธน. สหรัฐฯ ท่านใดที่ได้รับเลือกตั้งในปี ค.ศ. ที่ลงท้ายด้วยเลข 0 จะต้องถึงแก่มรณกรรมในหน้าที่ ตํานานระบุว่าผู้ที่สาปก็คือ เตคัมเซ่ หัวหน้าเผ่าอินเดียนแดง ผู้คับแค้นจากการถูกชนผิวขาวเข้ามายํ่ายีแย่งแผ่นดิน เขาได้สาปไว้ก่อนที่จะถูกฆ่าตายในปี ค.ศ. 1813 ปธน.คนแรกที่ตกเป็นเหยื่อก็คือ วิลเลียม เฮนรีย์ แฮร์ริสัน ที่ได้รับเลือกตั้งใน ค.ศ. 1840 ถัดจากนั้นคําสาปก็เป็นจริงมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นลิน-คอล์น (1860) การ์ฟิลด์ (1880) แม็คคินลีย์ (1900) ฮาร์ดิ้ง (1920) รูสเวลท์ (1940) เคนเนดี้ (1960) เพิ่งมีรอดรายเดียวคือ ปธน. เรแกน (1980) แต่ท่านก็ถูกมือปืนชื่อ จอห์น ฮิงค์ลีย์ ยิงบาดเจ็บสาหัสในปี 1981 นัยว่าปืนที่ใช้นั้นไร้ประสิทธิภาพ ท่านจึงรอดพ้นอาถรรพณ์มาได้อย่างหวุดหวิด
อันดับ 1 คําสาปในสวนเอเดน (Garden of Eden)



นับเป็นคําสาปแรกเริ่มสุดๆ ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าสร้างโลกโน่นเลยครับ โดยปรากฏเรื่องราวอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลว่าทรงเสกอาดัม-มนุษย์ผู้ชายขึ้นก่อน จากนั้นก็แซะเอาซี่โครงของอาดัมมาเสกเป็นอีฟ แล้วส่งทั้งคู่ไปอยู่ในสวนเอเดน พร้อมรับสั่งว่าจะกินอะไรก็ได้ทุกอย่าง ยกเว้นผลไม้จากต้นแห่งความรู้หรือแอปเปิ้ล แต่ X งูตัวแสบสิครับ มันยุยงอีฟให้หมํ่าแอปเปิ้ลเข้าไปหมํ่าคนเดียวไม่พอ อีฟยังชักชวนให้อาดัมหมํ่าด้วย เมื่อขัดคําสั่งของพระเจ้าก็เป็นเรื่องสิครับ โดย X งูจอมแสบโดนสาปให้ไปไหนมาไหน ด้วยการใช้ท้องไถไป อีฟโดนสาปให้คลอดลูกด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ส่วนอาดัมต้องทํางานหาเลี้ยงปากท้องอย่างเหน็ดเหนื่อยทั้งชีวิต ซึ่งคําสาปมหากาฬนี้ก็ตกทอดมาถึงพวกเราทุกคนกระทั่งทุกวันนี้
นี่เป็นกระทู้แรกของผม ดังนั้นขอความกรุณาจากทุกคนช่วยกันคอมเมนท์ด้วยนะครับ (หาข้อมูลและรวมรูปนานมากกกกก T^T)
สุดท้าย ช่วยกันโหวตว่าเรื่องไหนน่ากลัวที่สุดด้วยนะครับ ^^
โพล66098
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์ด้วยนะครับ ^^
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์ เพราะมันคือล้านกำลังใจให้ผม
*~Grazie per tutte Camemnts. Perché si tratta di milioni mi ha incoraggiato.~*
แล้วเจอกันนะครับ Poi incontrato scrivere.^^

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

My lovely 26 พ.ย. 52 เวลา 20:46 น. 1
คำสาปประธานาธิปดีสหรัฐนี่น่ากลัวจังเรย

แล้วเพรชที่ใหญ่ที่สุดไหงค่อยๆเล็กลงเสียดายเพชร T_T

PS.   ทำไมคุณถึงน่ารักอย่างนี้นะ > <
0
Sataann83 26 พ.ย. 52 เวลา 20:57 น. 2
ถึงจะน่ากลัวแต่อ่านไปก็สนุึกดีขอบคุณครับ^^
PS.  ฝากบทความ^0^ของผมด้วยนะครับ (อย่าตัดสินผมด้วยเพียงขี้ปากของคนอื่นจงมารู้จักผมด้วยตัวเอง ผมไม่ใช่คนดีแต่ผมก็ไม่เคยตอแหล!~)
0
nam 11 เม.ย. 53 เวลา 20:30 น. 6

อีฟกับอดัม ไม่น่ากินแอปเปิ้ลเลยง่ะ T^T

รู้สึกเริ่มเกลียดแอปเปิ้ลล่ะ - -

0
pia 2 ม.ค. 54 เวลา 00:05 น. 8

เรื่องเพชร น่ากลัวดี สรุปคนที่ได้ครอบครองตายกันหมดเลย น่าเศร้า......
0
IceJunG 28 มิ.ย. 54 เวลา 21:12 น. 10

ถ้า อดัมกะอีฟ มะกินเเอปเปิ้ลทุกคนก้คงต้องเเก้ผ้า อ่ะนะ


ปล.ไอเเก้ผ้านี้เอามาจากไบเบิ้ลนะค๊า

0
sawarach 9 ส.ค. 54 เวลา 19:17 น. 13

คำสาปสวนเอเดนคนโหวตให้เยอะจัง แต่คำสาปสวนเอเดนผมไม่กลัวเลย เพราะผมไม่ได้นับถือคริสต์ เลยไม่เชื่อเรื่องแบบนี้&nbsp &nbsp แต่ก็ดีครับอ่านมาหลายตำนานเริ่มค่อนข้างเครียด มาอ่านคำสาปแห่งสวนเอเดนแล้วคลายเครียดเลย&nbsp อ่านแล้วรู้สึกสนุกดี เหมือนอ่านนิยายเลย

0
nami 30 พ.ย. 56 เวลา 05:49 น. 16

เรื่องอันดับที่1ไม่น่ากลัวเท่าอันดับที่5เลยน่ากลัวกว่าเยอะ
แต่ก้อดีได้ความรู้ไปเยอะเลย ขอบคุณมากกกกกสู้สู้

0