Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องที่น่ารู้ของ "มหาวิทยาลัยรามคำแหง"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆชาวเด็กดีทุกคน
มีเรื่องที่จะมาแนะนำเรื่องของ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ....
ซึ่งน่าสนใจมากที่เดียวเลย.... มาดูกัน
**คำเตือน: โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ^_____^
**ที่มาของเรื่องที่อ่าน http://th.uncyclopedia.info/wiki/ไร้วิทยาลัย:มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ม.รามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสแก่ทุกคน  
มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีความหลากหลายทางสังคมอย่างยิ่ง เหนือมคำว่าหลากหลายกลายเป็นหนึ่ง
ถ้าคุณเข้ามาในรามคุณจะเสมืนได้ไปเที่ยวปักใต้ ( เพราะประมาณ 80 %เป็นนักศึกษาชาวใต้)
นักศึกษาราม( ที่ไม่ได้เรียนสองสถาบัน) ยอมเสียทุกสิ่งเพื่อรักษาไว้ซึ่งเกีรยติภูมิของสถาบัน
มหวิทยาลัยรามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่มีวิทยาเขตมากที่สุดในโลก (ยอมรับว่าเยอะจริง - -*)
นักศึกษาม.รามคำแหงได้เชื่อว่ามีความรับผิดชอบ มีวุฒิภาวะ และความสามารถในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นใด้ดี    
นักศึกษา ม.ราม มีกลุ่มนักศึกษาที่เคร่งครัดด้านศิลธรรมอย่างยิ่งคือ ชมรมพุทธศาสนา กลุ่มนักศึกษาชาวมุสลิม และนักศึกษาชาวคริสต์
บัณทิตรามที่จบการศึกษาจากรามคำแหง มีงานทำ 100 %
คณาจารย์รักนักศึกษาเหมือนลูก
คณะนิติศาตร์รามใด้ชื่อว่าแข็งเป็นอันดับหนึ่งในสาม ( จุฬา มธ มร)
ม.รามมีนักศึกษามากที่สุดในโลก
หอนาฬิกาหน้าราม ชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็น"หอนาฬิกา"แต่ไม่เห็นมีเวลาให้ดูเลย (555+)

พวก ส.ส. ที่จบจากรามส่วนใหญ่มักเรียนคณะรัฐศาสตร์
มร เปิดสอนปี 2514 ตอนนี้เป็นหนุ่มเต็มตัวเชียว สมัยนั้นลงทะเบียนได้เต็มที่ อ. บอกเทอมนึงลงไป 60 หน่วยกิต
วิชายาขมหม้อใหญ่ของชาว มร คือ EN 101 + 102 ขนาดต้องมีหลักสูตรพิเศษเลย ไม่งั้นไม่จบกันเยอะ (จริง ไวยากรณ์จริงจัง ปล.พอดีเคยเห็นตำราเพื่อนที่เรียน - -*)
ม.รามฯ1 มีจระเข้เผือกที่สระกลางตัวนึง เย็นๆจะมีคนไปนั่งดู ใครไม่เห็น ไม่จบนะจะบอกให้
ที่ ราม2จะมีเยอะกว่า เเต่ตัวเล็กกว่า ประมาณ10 ตัวเห็นจะได้
เชื่อหรือไม่ ม.รามปี2551 มีดาราเกาหลีมาเป็นอธิการบ่ดี ชื่อ "คิม ไชย ชุก"  (เค้าแซวเล่น)
เชื่อหรือไม่ว่า อธิการบ่ดี ม.รามคนก่อน ก็เป็นดาราไต้หวัน ชื่อ "รัง สัน ฮั้ว" (เเซวเช่นเดียวกัน)
เด็กรามตอนนี้จะทำกิจกรรมเพื่อสังคมต้องแอบทำ ม.ไม่สนับสนุนงบ แต่เอางบไปทำลานจอดรถ ( - -*)
"ม.รามคำแหง" มีข้อแนะนำว่าวันที่ไปสมัครเข้าเรียน ไม่ควรพาผู้ปกครองไปด้วย
2 สัปดาห์หลังจากเปิดเรียน นักเรียนจะน้อยลง คนเตะบอลจะเยอะขึ้น (อย่าว่าแต่รามเลย - -*)
ถ้าไม่มีบาร์โค้ดลงทะเบียน สมารถเขียนรหัสวิชาลงในกระดาษเองได้(อย่าเขียนเยอะเกิน4ตัว ไม่งั้นโดนไล่ให้ไปซื้อ)
**สมัครเสร็จ จะรู้สึกเหมือนดารา เพราะพวกรุ่นพี่จะฉุดกระชากลากถูยื้อแย่งกันเพื่อให้เข้าชมรม (55+)
เรียนซัมเมอร์ใส่ขาสั้นไปเรียนได้(จริงๆแล้วเทอมไหนก็ได้)แต่ถ้าเจออาจารย์เจ้าระเบียบ จะถูกประจานหน้าจอทีวี
* ใครว่านักศึกษารามฯบ้านนอก....นักศึกษารามฯจากต่างจังหวัดส่วนใหญ่มีมือถือที่ถ่ายรูปได้แล้วทั้งนั้น
    * เป็นมหาลัยที่คนมีอคติกันเยอะ (มันไม่มีอะไรซักหน่อย มาเรียนดูเถอะ)
    * คณะนิติฯเคยมีคนสมัคร 2 หมื่นกว่าคน จบจริง 2 ร้อยกว่าคน (ปัจจุบันก็น่าจะจบกันประมาณนี้)
    * คณะมนุษย์ เอกภาษาอังกฤษ หรือเด็กเอกอิ้งค์ สามวิชามหาเทพ(แห่งความยาก)คือEN 206 305 405 เทอมล่าสุดลงเรียน2000กว่าผ่าน 140 และไม่มีใครได้Gเลย เทพ!!!
    * เข้าง่าย ออกยาก นั่นล่ะรามฯ ^ ^ (เดินเข้า สอบออก)
    * คณะวิศวะของรามฯสอบเข้านะครับ ยากด้วยขอบอก
    * หนังสือพิมพ์ของรามฯ เป็นหนังสือพิมพ์ที่นักศึกษารามฯที่ไม่ค่อยได้ไปมหาลัยเห็นว่ามีค่ามากที่ สุด แล้วแถมเป็นหนังสือพิมพ์ที่บุรษไปรษณีย์ชอบทิ้งข้างทางแล้วเผาทำลายหลักฐาน (เพื่อนบอกมา)เพราะฉะนั้นอย่าได้สงสัยว่าเสียค่าข่าวราม 100 บาท

    * ทั้งเทอมทั้งปีทำไมข้าพเจ้าไม่เคยได้รับเลยวะ นั้นแหละสาเหตุ (แต่ทำไมฉันได้ทุกเทอมเลยฟะ)
    * ห้ามนำดอกไม้ธูปเทียน ของแก้บน ช่อดอกไม้แสดงความยินดี เข้าในวันรับปริญญา

    * รถเมล์สาย 182 วิ่งระหว่าง หมอชิตใหม่-รามฯ2 ถือว่าเป็น rare bus เพราะส่วนใหญ่มักตัดระยะที่รามฯ1(ขาไป) และที่บิ๊ก C ลาดพร้าว (ขากลับ) รวมทั้งตอนเย็นๆไปวิ่งที่มอเตอร์เวย์ด้วย (แปลกสิ้นดีเลยนะเอ่อ)
    * สาย 207 รามฯ-รามฯ2 ใครว่าเป็นรถรับ-ส่ง น.ศ. (เห็นมีคนธรรมดาขึ้นเยอะกว่าอีก)
    * รามฯคึกคัก(มากๆ)จริงๆก็คือวันสอบเทอม 1 เทอม 2 ซัมเมอร์ (และสอบซ่อม)
    * รามฯมีเกรดแค่ G P F นะ สอบซ่อมก็ยังลุ้น G ได้นะขอบอกๆ
    * อธิบดี ทำไมอยู่นานจัง...มีอธิบดีใหม่แล้วเว้ย เขาเรียก "อธิการบดี" เว้ย ...ไม่รุจริงแล้วยังพิมพ์อีก...ที่ คนปัจุบันอยู่นานเพราะคนก่อนเขาสร้างตึก BNB ได้ไม่ถึง 3 ปีก็พังไง แถมอาคารที่เก็บเอกสารก็ไฟไหม้ก่อนหมายศาลมาถึง คืนเดียว ไง น้องงงงงง


    * ความจริงรถเมล์สาย 207 ราม1 - ราม2 ก็มีนักศึกษาเยอะนะแต่ส่วนใหญ่ไม่แต่งชุดนักศึกษากัน
    * น.ศ.รามชายทุกคนชอบเตะฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งแบบปกติที่ใช้เท้า หรือใช้มือ
    * ซอยรถเมล์ 38 ข้างๆราม2 ไม่ว่าฝนจะตกหรือไม่ น้ำก็ท่วมตลอดปี (เรียนมา4ปีไม่เคยเห็นมันแห้งซักวัน)

    * หนังสือเรียนหลาย ๆ วิชาของรามฯ จัดพิมพ์มากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ แถมถูกกว่ากันเยอะ
    * ค่าเฉลี่ยการจบของเด็กวิทย์คอมราม จะอยู่ที่ 6 ปีขึ้นไป (นานนนน)
    * คณะนิติศาสตร์ เป็นคณะที่ น.ศ. ชอบเอาพวงมาลัยไปไหว้บอร์ด
    * น.ศ. คณะนี้ จะบูชาบอร์ดประดุจมหาเทพ เมื่อประกาศผลว่าตัวเองสอบผ่าน
    * กระบวนวิชาที่ขนหัวลุกที่สุดสำหรับนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ คือ กฎหมายล้มละลาย และ กฎหมายลักษณะพยาน เพราะบางเทอม มีคนผ่านแค่สองคน!
    * ว่ากันว่าเนติบัณฑิตไทย เป็นบัณฑิตราม ประมาณ 400 คน จากผู้สอบได้ 500 คน
    * ข้าราชการตุลาการเกินครึ่งจบจากราม
    * เด็กคณะนิติมีการแต่งกายที่เป็นเอกลักลักษณ์
* ในแต่ละปีเด็กนิติจบประมาณ 30 % อีก 20 %จบปีหน้า 50 % เปลี่ยนคณะ


    * วันไหว้ครูของรามทุกปี จะมีคนมาล้นหัองประชุม จนต้องยืนกันข้างนอกห้องประชุม
    * สระในรามเป็นสระที่มีเต่ามากที่ในโลก ( อันนี้ไม่แน่นใจ แต่มีเต่าเยอะมากกกก)
    * ถ้าใครสังเกตจะพบว่าถ้ามองจากบริเวรเสาร์ธงจะเห็นว่าพ่อขุนนั่งประทับในศาลาพุทธไทสวรรค์
    * สำนักหอสมุดกลาง เจ้าที่แรงมาก โต๊ะที่เราว่าว่างแล้ว และกำลังไปนั่น หรือไม่พบว่าผู้ใดนั่งอ่านหนังสืออยู่เป็นเวลานาน แต่มีหนังสือวางไว้นั้น พอเราจะไปนั่ง เจ้าที่จะโผล่มาเฉดหัวเราไปทันที
    * ข้อควรระวังในการใช้บริการสำนักหอสมุดกลางคือ ไม่ควรไปนั่งอ่านหนังสือใกล้วันสอบ ยกเว้นคุณจะมีเส้นสายกับเจ้าที่ คุณถึงจะมีที่นั่ง
    * ระหว่างหนังสือกับที่นั่ง สิ่งที่หายากสำหรับหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยรามคำแหง คือ ที่นั่ง


    * ร้านกาแฟชั้นใต้ดินของสำนักหอมสมุด มีขนม กาแฟ และน้ำดื่มประเภทต่างๆ บริการถึง 17.00 น. ของกินพื้นๆ แต่รสชาติอร่อยอย่างคิดไม่ถึง
    * ที่ร้านกาแฟแห่งนี้ เป็นที่รวมนักอ่านหนังสือที่ต้องการพัก มีเรื่องสนทนามากมาย เสียงอาจดังเกิน 80 dB แนะนำให้พกที่อุดหูลงไปด้วย
    * และร้านกาแฟแห่งนี้ เป็นสถานที่เดียวในวิทยาเขตหัวหมาก ที่สัญญาณมือถือทุกระบบเข้าไม่ถึง
    * ที่วิทยาเขตหัวหมาก มีห้องอ่านหนังสือ อยู่ที่ตึก VKB และ VPB ปิดตอนเทียงคืนนะ
    * วิทยาเขตปัจฉิมสวัสดิ์-สุวรรณภาศรี หรือราม2 หอสมุดน่านั่งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    * วิทยาเขตปัจฉิมสวัสดิ์-สุวรรณภาศรี หรือราม2 มีห้องอ่านหนังสือที่ PBB และ PRB จะแน่นมากเฉพาะช่วงสอบ
    * ตึก BNB 1-8 ที่ วิทยาเขตปัจฉิมสวัสดิ์-สุวรรณภาศรี หรือราม2 เป็นตึกอาภัพ ทำบุญมาน้อย กุศลไม่มีเลยอายุสั้น อาจจะเป็นเพราะว่าทำบุญตักบาตรใส่หิน ใส่ปูน ใส่ทราย ใส่เหล็กเส้นมาน้อย อายุการใช้งานเลยไม่ถึง 20 ปี คาดว่าอีกไม่นานจะละสังขารกันไปตามๆ แม้จะมีบางตึกจวนเผาแล้ว แต่ก็ยังไม่รื้อถอนออก คาดว่าอยากให้มีการสังเวยเลือดกันก่อนการรื้อถอน เป็นแน่
    * ตึก BNB 1-8 หลังอื่นที่ยังไม่จวนถล่มนั้น หน้าต่างและบานประตู ก็ "แอ่นสู้" จนถึงวาระสุดท้ายดุจกัน .....
    * ข้อควรระวังในการใช้ตึก BNB คือ ผีสิงเพราะทุกตึกเคยเกิดคดี ฆ่าข่มขืน และฆ่าชิงทรับมาแล้วทุกตึก


    * หน้า วิทยาเขตปัจฉิมสวัสดิ์-สุวรรณภาศรี หรือราม2 มีรถตู้บริการเยอะมาก อยากไปไหน...มีหมด
    * ม.รามคำแหง มีฟิตเนสด้วย ชื่อ "ฝ้ายคำ ฟิตเนส" มีอุปกรณที่ไฮโซ ห้องน้ำสะอาด ห้องสตรีม+ซาวน่าก็เยี่ยม ราคาไม่แพง ( สำหรับ เด็กป.ตรี เท่านั้นที่ไม่แพง ) บริหารงานโดยสำนักกีฬา โดยมีเทรนเนอร์ใจดีเป็น น.ศ. ในสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาคอยให้คำแนะนำเรา
    * ร้านกาแฟสดข้างสำนักหอสมุดกลาง ไม่รับปั่นกาแฟสด...แต่กาแฟชงปั่นได้


    * มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีหลักสูตรปริญญาโทเยอะมาก
    * คาดว่าต่อไปจะเปิดหลักสูตร " MBA สำหรับสาวเชียร์เบียร์รุ่นใหม่ " / " YoungEX สำหรับผู้ขายปลีกเสื้อผ้าตามแผงตลาดนัด" หรือไม่ก็ " SMEs สำหรับนักส่องพระขนาดกลางและขนาดย่อม "
    * หลักสูตรปริญญาโทบางหลักสูตร คือ ปริญญาบัตร+เสียเงินไปดูงาน ( ซื้อแพ็กเกจทัวร์ต่างประเทศ) = สำเร็จการศึกษา
    * การออกเกรดของที่มหาวิทยาลัยนี้ มีกำหนด 45 วัน นับจากการสอบเสร็จในวันสุดท้ายของภาคการศึกษา


    * ตึกใหม่ น.ศ.หน่วยกิตละ 25 บาท ไม่มีวันได้ใช้...
    * ในวันที่อากาศร้อนจัด ทางมหาวิทยาลัยไม่บริการแอร์ให้ เพราะยึดหลักปรัชญาเศษฐกิจพอเพียง
    * เสียเงินแค่ หน่วยกิต 25 บาท รู้จักอดทนต่ออากาศร้อนซะมั้งนะ...
    * ที่นี่รามคำแหง...ตามตึกเรียน มีแอร์ก็เหมือนไม่มี ใช่สิ...กูจ่ายแค่ 25 บาทต่อหน่วยกิตนี่

    * รถรับบริจาคโลหิตจะมารับบริจาคโลหิดทุกวันอังคารที่ 2 ของทุกเดือน อยู่ข้างสำนักหอสมุดกลางนะ
    * คณะเดียวในรามคำแหงที่ไม่มีครุยวิทยาฐานะเป็นของตัวเอง คือ คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน เนื่องจากผู้บริหารมหาวิทยาลัย ยังไม่อนุมัติให้ เพราะความผิดพลาดของผู้บริหาร ในการจัดการหลักสูตร ...ซวยเด็กตลอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    * ที่ตำราของรามคำแหงถูกเพราะพิมพ์ด้วยกระดาษแดง...อารยประเทศ เค้าก็พิมพ์ด้วยกระดาษแดงทั้งนั้นแหละ เพราะต้นทุนถูก เข้าถึงได้ มีแต่ประเทศไทยที่บ้าเลือดพิมพ์แต่กระดาษขาวแกรมเยอะๆ ให้มันแพงเล่นนี่แหละ
    * เด็กจุฬา , ธรรมศาสตร์ ต่างก็นิยมมาซื้อตำรากฎหมายของรามคำแหง

    * ทันที่ ที่อาจารย์บอกว่าหมดเวลา เด็กที่เรียนวิชาเรียนต่อไป จะรีบเข้าห้องทันที ทั้งๆ ที่เด็กทีเรียนวิชาเดิมยังไม่ออกเลย...รีบไปไหน?

    * คณะนิติศาตร์ รามคำแหง เป็นคณะที่มีอาจารย์พิเศษ สอนเยอะกว่าอาจารย์ประจำ โดนส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการฝ่ายตุลาการ พนักงานอัยการ หรือไม่ก็อาจารย์ที่สำนักอบรมกฎหมายเนติบัณฑิต ซึ่งที่รามคำแหงให้ค่าสอนต่อชั่วโมงน้อยกว่าที่อื่นมากกกกกกก แต่อาจารย์เหล่านี้ ท่านก็โดดงานประจำ เสียสละเวลามาสอนให้กับนักเรียนกฎหมายรามคำแหงทุกเทอม _/\_ ขอบคุณอาจารย์มากๆ ครับ T-T
    * ในการสอบวิชากฎหมาย จะมีผู้มีอายุในทุกช่วงวัยนั่งสอบกับคุณ

    * คณะศึกษาศาสตร์ เอกจิตวิทยา ใครที่คิดว่าตัวเองไม่ไหวตั้งแต่ปีหนึ่ง จงรีบออกซะ ไม่งั้นจะถอนตัวยากมาก หลายคนกว่าจะถอนตัวได้ก็เรียนไป 3+ ปีแล้ว มานึกเสียดายเวลากับหน่วยกิตกันเยอะแล้ว
    * จิตวิทยาสังคม คนเรียนโคตรน้อยเลย แสดดด หลังๆเอกนี้มีคนเรียนแค่ประมาณ 3 คนเท่านั้น ใครเรียนจิตสังคมจนจบได้ก็ถือว่าเจ๋ง เพราะวิชาสายนี้โหดไม่แพ้จิตวิทยาคลีนิก แถมงานสายนี้หางานยาก(จริงๆมันก็หายากอยู่แล้ว จิตวิทยาเนี่ย) เห็นอาจารย์บอกว่าจะยุบแล้ว

    * สาขาวิชาที่เกี่ยวกับสายตาที่เป็นปริญญาตรีแห่งแรกของประเทศไทยเกิดที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหงในปี พ.ศ. 2545 เดิมชื่อ สาขาวิชาทัศนศาสตร์ แต่ในท้ายที่สุดได้ชื่อของทางราชการว่า สาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ เป็นสาขาวิชาเดียวที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะเป็นของสาขาเอง คลินิกฝึกปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย(หลบมุมอยู่ใต้ตึกสุโขทัย) และมีครุยของตัวเองเป็นสีเขียวเข้ม มีหลายคนบอกว่า สาขาวิชานี้คือสาขาวิชาแพทย์ของรามฯ
    * ปริญญาทัศนมาตรศาสตรบัณฑิต ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า DOCTOR OF OPTOMETRY (OD)

    * วิชาบังคับในคณะนิติศาสตร์ ครึ่งต่อครึ่งเป็นวิชาเลือกของคณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยอื่น...

    * ปัญหาคลาสสิกของ ราม1 คือ น้ำท่วม

    * ใบเช็คเกรดที่นี่ ต้องเสียเงินค่าพิมพ์ 20 บาท...ทั้งๆ ที่พิมพ์ลงกระดาษ A4 ธรรมดาๆ นี่แหละ...(ข้อแก้ต่าง: จะได้ไม่มีคนจิ๊กบัตรเพื่อนมาเช็คเล่นไงครับ)
    * บางคนไม่รู้ว่าการยืมหนังสือไปอ่านที่บ้านคืออะไร มีความรู้สึกอย่างไร เพราะตั้งแต่เรียนจนจบ ไม่เคยใช่บัตรนักศึกษายืมหนังสือเลยสักครั้ง

    * ของคู่กาย น.ศ.คณะนิติศาสตร์ คือประมวลกฏหมาย มีคนหมั่นไส้ หาว่าถือเท่ห์ๆ...จริงๆ นั่นหน่ะ ชีวิตทั้งชีวิตเลยนะนั่น
    * ระหว่างประมวลฯ หาย กับกระเป๋าตังค์หาย กว่า 80% ของน.ศ.คณะนิติฯ ขอเลือกให้กระเป๋าหาย
    * ประมวลกฎหมาย เป็นอาวุธโดยสภาพ ( เพราะเล่มใหญ่มาก ประมาณว่าตีหัวใครสักสามที่.......ถึงตาย)
    * ร้านถ่ายเอกสารใต้ตึกคณะทุกคณะ คือแหล่งสะพัดทางภูมิปัญญา เพราะอาจารย์มักฝากชีททิ้งไว้
    * ร้านขายหนังสือกฎหมาย ร้านเล็กๆ ที่อยู่ในโรงอาหารนั้น มีหนังสือกฎหมายทุกเล่มที่อยากได้ อย่าท้า อย่าถาม มีหมด เห็นร้านเล็กๆ แบบนั้นก็เหอะ
    * ถ้าไม่มีตำราเรียนของปีหนึ่ง ของทุกคณะแล้วหล่ะก็ ใต้ตึก PPB ราม2 ช่วยคุณได้...แต่รหัสสองขึ้นไป หาเอาที่สำนักพิมพ์ ราม1 เองแล้วกัน
    * ชีทรามฯ ชีทลุงชาวใต้ ชีทธนิต ชีทติวเตอร์กุ้ง ชีทพี่โน่น พี่นั้น คือ เพื่อนสนิทสำหรับ เด็กรามคำแหง
    * สถาบันติวเตอร์ทั้งหลายแหล่หน้าราม 99% มีวิธีที่สามารถทำให้คุณเรียนจบได้ใน 2 ปีครึ่ง หรือผ่านวิชาที่คุณลงมาจนจะครบ 8 ปีก็ยังไม่ผ่าน ได้ 1000% แต่แล้วแต่ระดับ มันเป็นปาฎิหารย์ที่ต้องเงินหนาเท่านั้น
    * สถาบันติวเตอร์หน้ารามส่วนใหญ่ มีส่วนเอี่ยวกับการทุจริตและซื้อขายข้อสอบ เพราะมีคนในที่เรารู้ๆอยู่รับทั้งทางหลังบ้านและใต้โต๊ะ

    * อาจารย์ภัทรา อยู่สำราญ คือ นิติศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัยในรอบ 20 ปี ทั้งคว้า อันดับ 1 เนติบัณฑิตไทยมาแล้ว
    * เจอตัวอาจารย์ได้ในวิชามรดก ละเมิด ตัวการ-ตัวแทน คำประกัน-จำนำ-จำนอง สอนดีมาก แต่วีนมากเหมือนเหมือนกัน รีบเรียนก่อนที่อาจารย์จะไปเป็นศาลนะ
    * การเฉลยข้อสอบของอาจารย์ท่านละเอียอดยิบ ( ชนิดที่บอกลำดับของตัวอักษรที่อยู่ในประมวลได้เลย)
    * อาจารย์สอบอัยการได้ หลังจากพยายามมาหลายปี แต่คงไม่หยุดแค่อัยการ คงเป็นผู้ช่วย


    * ที่สำนักหอสมุดกลาง ในห้องอ่านวารสารสิ่งพิมพ์ ไม่อนุญาตให้นั่งอ่านตำรา...แม้เราจะเดินหาที่นั่งทั่วตึกแล้ว จะมานั่งอ่านที่นี่ เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีเมตตา
    * รามคำแหง มุ่งมั่นที่จะเป็นมหาวิทยาลัยแบบ E-SERVICE ให้ได้ โดยบริการนักศึกษาผ่าน WEBSITE ของมหาวิทยาลัย...แต่ก็น่าแปลกที่มี Server ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ก็ใช้งานไม่ได้จริง แถมล่มบ่อยมาก จนฉันเบื่อ ไปเดินต๊อกๆ หาข้อมูล+นั่งเรียนในมหาวิทยาลัยเอาดีกว่า
    * วันสอบไล่ประจำภาคเรียน หรือ สอบซ่อม จะเป็นวัน ส่องหนุ่ม-ส่องสาว เพราะจะมีคนมาสอบเยอะมาก ซึ่งบางคนเราไม่เคยเห็นเขาเข้าเรียน รวมทั้งได้ส่องเด็กต่างสถาบันด้วย
    * ถ้าบอกว่าบ้านตัวเองอยู่แถวบางแค มักจะโดนบอกว่า "ไกลโคตร"

    * วิชาที่ชาวรามมีปัญหากันมากที่สุด บางคนลงเป็นสิบๆรอบแล้วก็ยังไม่ผ่าน คือ EN ทั้งหลายแหล่ โดยเฉพาะ 101,102 MA 103,ST 203
    * มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นสถาบันการศึกษาที่ถูกมองด้วยอคติสูง...แต่มีเด็กต่างสถาบันมาลงเรียนให้เพียบ...แล้วจะมีอคติกันเพื่อ?

    * หากคุณเป็นนักศึกษาธรรมดาที่ใฝ่สูง และไม่พอใจในชนนั้น สามารถเพิ่มความพิเศษให้ตัวเองได้ โดยการไปทำงานเป็นจ๊อบที่ สวป. เพราะคุณจะมีสิทธิ ตะคอก บ่น ก่นด่า และชักสีหน้าใส่เพื่อนนักศึกษาได้ โดยไม่มีความผิด และไม่โดนทำร้ายร่างกายเหมือนกรณีที่ทำกริยาแบบนั้นนอกหน้าที่ หรือตอนทีเป็นนักศึกษาธรรมดาๆ(เฉพาะบางคนเท่านั้นโว้ย อย่าเหมารวม ขอร้อง เพราะก็ทำเหมือนกัน ไม่เคยว่าไรครัยเฟ้ย มีแต่นศ.บางคนอะ ทำกิริยาใส่นศ.ช่วยงานอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น โยนบัตรใส่ ก่นด่า บ่น ตะคอก ทำไงได้อะ เราเป็นแค่นักศึกษาช่วยงานนี่นา จะเถียงได้ไง)

    * ในกรณีที่คุณโดนกระทำเช่นว่านั้นจากนักศึกษาช่วยงานในสวป. วิธีแก้คือ ให้คุณหึสู้โดยทำเสียงดังใส่กลับคืนแล้วการบริการจะดีขึ้น
    * ว่ากันว่านักศึกษาช่วยงานมักจะตอบคำถามในข้อสงสัยใดๆของคุณไม่ได้ และทุกครั้งที่คุณถามคำถามเคาจะต้องวิ่งไปถามอาจารย์เพื่อมาตอบคุณ
    * คาดว่านักศึกษารามคำแหง บริโภคกาแฟร้อนมากที่สุดในประเทศไทย
    * ร่วมทั้งนำเย็นจากตู้กดน้ำของสวัดดิการนักศึกษาด้วย ( กินประมาณคน 20 ลิตรต่อวัน)
    * ห้องน้ำหน้าเวียงคำและเวียงผา น่าจะเป็นห้องน้ำที่สกปกที่สุดในประเทศไทย ร่วมทั้งแม่บ้านที่รับผิดชอบจะต้องทำงานหนักที่สุดในบรรดาแม่บ้านในราม
    * ห้องน้ำที่สะอาดจะอยู่ที่ตึกคณะ และ สำนักหอสมุดกลาง นอกนั้น..."โครตๆ สกปรก"

    * กรุณาพกไฟสปอตไลท์ และหน้ากากออกซิเจนไปทานข้าว ที่โรงอาหารใหม่ ( ราม 1 ) เพราะทั้งร้อน อับ มืด และเสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจ
    * โรงอาหารใหม่ ของอาคารสำนักพิมพ์ เป็นโรงเรียนอนุบาล และ โรงเรียนสาธิตฝ่ายประถมมาก่อน...นั่งทานข้าวอึดอัดมากกกกกก
    * โรงอาหารลับแล อยู่หลังตึกตรีบูรณ์ หายากแต่แม่ค้าใจดี โดยเฉพาะข้าวแกงร้านหน้า

    * ที่รามคำแหงสามารถเรียนปริญญาตรีได้ตั้งแต่ ม.4 และเรียนปริญญาโทได้ตั้งแต่ยังไม่จบ ป.ตรี
    * คณะวิศวฯ ไม่ได้หน่วยกิตแพงหรอก แต่พวกเค้าเรียนแบบบุฟเฟ่(เหมาจ่าย)เทอมละสองหมื่นลงได้ไม่เกินเทอมละ 22 หน่วยกิต ลงวิชาเดียวก็สองหมื่น ต่างจากรามฯ ปกติซึ่งเขาเรียนกันหน่วยกิตละ 25 บาท
    * พยายามยอมรับว่าสายไปเสียแล้ว ถ้าไม่มีปากกาติดตัวตอนสอบข้อเขียน . . . .
    * วิ่งมาราธอนตอนเสียงออดเข้าห้องสอบดังเป็นอะไรที่ตื่นเต้นดี ยกเว้นว่าจะสอบชั้น 4 หรือชั้น 5 แต่เอาเถอะยังไงก็มีเพื่อนร่วมทางจะไปกลัวอะไรเราไม่ได้สายคนเดียวซักหน่อย ถ้ายามกั้นตะแกรงเหล็กแล้วก็ซวยไป
    * ถ้าเป็นราม2 สามารถมุดเข้าไปได้ ของเค้าเป็นแบบหมุนลงจากข้างบน แต่ถ้าเค้าหมุนเสร็จแล้วมันก็ไม่ได่อ่ะนะ
    * ขอบอก 'จารย์คุม LAB คณะมนุษยศาตร์ดุโคตร
    * หัวก็อกน้ำเย็นไว้ดื่ม จะหายหมด - ไม่งั้นแม่บ้านขายน้ำขวดสิบบาทไม่ได้ -
    * ข่าวราม เสียเทอมละ หนึ่งร้อยบาท หมดอาทิตย์นึง ภารโรงจะนำไปทิ้งที่หน้าธุรการ เช่นเดียวกับ มร.30 (กำหนดการเรียนการสอบของชาว มร) พิมพ์ไว้ทิ้งโดยเฉพาะ
    * ร้านถ่ายเอกสารตรงซอยโรงหนังเก่า มีข้อสอบนิติภาคผ่านมา เยอะกว่าร้านถ่ายเอกสารตึกนิติ + ร้านพี่รินทร์ หน้าโรงอาหารใหม่


    * ประกันอุบัติเหตของชาว มร ถูกที่สุดในโลก ปีละร้อยบาท ค่าพยาบาลครั้งละไม่เกินหมื่น ถ้าตายได้ตั้งแสนแน่ะ
    * อดีตนายหัว (รัง สั้น ฮั้ว หัวคิว) กับ คนปัจจุบัน (คิม ไชย ซุก) เขาลือว่าเป็นทายาทอสูร (กาย)กัน โดยเฉพาะเรื่องตึกบางนา กับ เอกสารไหม้ไฟหมดก่อนจะมีหมายจากศาล
    * มร. 3 หรือติวเตอร์หน้าราม เป็นแหล่งความรู้คู่ มร. 1 - 2 จบแล้วอย่าลืมแก้บนด้วย
    * น้ำชาคือสิ่งยอดฮิตของนักศึกษาราม เวลาว่างส่วนใหญ่ของเด็กราม มักจะมานั่งโรงอาหารแล้วจิบน้ำชาคุยกัน( สงสัยไหมละว่าทำไมขวดน้ำจึงมีเชือฝางผูกอยู่ที่ปากขวด เพราะเอาไว้ใส่น้ำชาไงละ )
    * คณะนิติ ตึกมันอย่างหรู แต่ของคณะวิทย์คอมดันสิงอยู่ในตึกชั้นเดียว เฮ่อ~~
    * ใต้ตึกคณะนิติใหม่ มีร้านถ่ายเอกสารที่มีลูกจ้างเป็นชาวต่างชาติ และมักพูดไทย"มายชัก" ( คนพม่าไง )


    * ถ้าถามหาชีทประกอบวิชาต่างๆ ใต้ตึกของคณะวิทย์ ถึงมี เด็กที่ร้านก็จะบอกว่าไม่มี !!
    * สาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์เป็นสาขาวิชาเดียวของรามที่เรียน 6 ปี เป็นหลักสูตรปริญญาของผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาทัศนมาตรแห่งแรกของประเทศไทยที่ ผ่านการรับรองถูกต้องตามกฎและระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (ทบวงเดิม)
    * สาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ยังเป็นสาขาวิชาแรกของม.รามฯที่ได้ชื่อว่าเป็น คณะหมอตา!!
    * มร. 3 เป็นม.รามฯที่ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ไปอยู่จังหวัดสุโขทัย(ไปดูมาแล้ว...ใหญ่โคตะระ)

    * ศึกษาศาสตร์ราม เรียนเหมือน ม. ปิด เช็คชื่อเข้าห้องเรียน ทำรายงาน มีการพรีเซนต์หน้าห้อง หลักสูตร 5 ปี ข้อสอบร้อยละ 80 เป็นข้อเขียน หาแนวข้อสอบยากมาก ไม่มีชีทขายตามท้องตลาด แถมก่อนจบ ต้องมีการวัดใจด้วยการฝึกสอนตั้งหนึ่งปี ทรมานมาก แต่ก็ภูมิใจได้ใส่เครื่องแบบนักศึกษาเต็มยศโดยเฉพาะ นศ.ชายในรามแทบหาคนใส่ไม่มีเลย ที่เห็นใส่ก็ไม่เรียบร้อยเพราะไม่ใช่ นศ.ฝึกสอน
    * ซุ้มโค้กที่รามขาดเธอเหมือนขาดใจ ว่ากันว่าถ้าไม่มีซุ้มโค้กแล้วอาจหิวตายได้ (เปรียบเหมือนไม่มีร้านสะดวกซื้อนั้นแหละ) มีทั้งมาม่า กาแฟ ขนม น้ำดื่มฯลฯร้านโค้กปิดวันหยุด ดังนั้นถ้าไม่มีแล้วท่านอาจต้องเดินไปโรงอาหาร หรือหน้ารามสถานเดียว

เรื่องทั่วไป

    * ศรราม เทพพิทัก เป็นนศ.ราม ใช้เวลาเรียน13ปีจบ(ก็ไม่ว่างนี่)
    * พี่ต๋อยต่อยต้อย ไตพ๊บ ก็จบรามนะจ๊ะ
    * สระน้ำที่ราม1และ2นศ.ชอบไปนั่งตอนเย็นๆ แต่ต่างกันที่ราม1เค้านั่งจีบกัน(แถมนั่งแดกเบียร์กันอีก) ราม2เค้านั่งตกปลา
    * ตัวแทนสมาชิกสภานศ.ปี1บางคนหน้าแก่พอๆกะพ่อนศ.ปี8 -(เรื่องจริง ไม่ได้ฮา)
    * เมล์207เป็นอะไรที่Amazingมากๆ ขาไปราม1ใช้เวลาราว50นาที แต่ขากลับราม2บางวันซัด2ชม.กว่า(ขึ้น5โมงเย็นถึง1ทุ่ม)-*-
    * เวลาสอบ สาย 207 บางคันจะติดป้ายมอเตอร์เวย์ ใช้เวลาไม่มาก ทันสอบ
    * ม.ราม มีประตูเปิดใหม่อีกช่องทางคือ ประตูเชื่อม ต่อ กกท. หรือการกีฬาแห่งประเทศไทย (ปิดไปแล้วไม่รู้จะเปิดอีกทำไม)
    * ประตูรั่วที่ติดกับกกท.สงสัยว่าจะกลัวนักศึกษารามล้นเข้ามาในกกท.จึงไม่กล้า เปิด ( เพราะที่นั่งอ่านหนังสือในรามไม่พอกับจำนวนนักศึกษา)
    * วิชาที่นักศึกษาคณะสิงห์ (รัฐศาสตร์) สอบไม่ผ่านเยอะที่สุดคือ lw312 ตอนนี้ย้ายมาลงเรียน318แทน (แต่ก็ยังสอบไม่ผ่านกันเยอะอยู่เหมือนเดิม)
    * ที่นี้จะไม่มีคณะนิเทศศาสตร์ แต่จะมีคณะเทคโนโลยีและการสื่อสารมวลชน สรุป เรียนเหมือนกัน
    * คณะมนุษยศาตร์ มีสาขา สื่อสารมวลชน ก็คือนิเทศศาสตร์นั้นเอง
    * ที่นี่ ใช้วันในการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร มากกว่ามหาลัยอื่น
    * คณะจัดตั้งใหม่คือ ศิลปกรรมศาสตร์รามคำแหง ปกติเรียก ศิลปกรรมศาสตร์
    * คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นคณะที่มีผู้ชายหล่อ และ เป็นคณะที่หน่วยกิตแพงที่สุด
    * หอประชุมหรือศูนย์ประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช นักศึกษาจะได้ใช้ในตอนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเท่านั้น ส่วนมากจะเป็นแบบที่บอก
    * อาคารสุโขทัย เป็นอาคารที่สูงที่สุด ในตอนนี้
    * รามคำแหง1 หรือรามหัวหมาก เป็นที่เรียนของ ชั้นปีที่2-4 ป โท ป เอก
    * สถาบันการศึกษานานาชาติ เป็นหนวยงานการจัดการศึกษาหลักสูตรอินเตอร์ ที่อื่น เป็นวิทยาลัยนานาชาติ แต่ที่นี่ใหญ่กว่า
    * รามคำแหง มีรองอธิการบดีมากที่สุดในประเทศไทย
    * มีวิทยาเขตแห่งเดียวที่ บางนา หรือ รามคำแหง2(ใครบอก)....มีวิทยาเขตใหม่ที่ต่างจังหวัดอีกมากมายตอนนี้
    * สาขาวิทยบริการ เป็นที่เรียนส่วนภูมิภาค จัดตั้งตามจังหวัดต่างๆ
    * โรงอาหารอาคารแห่งใหม่ หรือโรงกลางเดิม จะมี6ชั้น มีลาดจอดรถด้วย
    * ในราม1 จะมี จระเข้เผือก หากใครเห็นจะเรียนจบเร็ว ตามที่เขาลือ
    * ในราม 1 จะมีผู้หญิง 1 คนและผู้ชาย 1 คน ที่มีลักษณะป่วยทางสมอง และชอบมาทำกิจกรรมร่วมกับนักศึกษา
    * ผู้หญิงนั้นจะมีลักษณท้วมติดกิ๊ฟเต็มหัวและใส่ชุดสีม่วง และผู้ชายหัวโลน มักมีกลิ่นเหล้าเสมอ ( แม้นแต่รปภ.ยังไม่กล้าจับป
    * ที่นี่ จะมีเสื้อชมรม มากที่สุดในประเทศ มีหลายแบบ หลายสี ตามซุ้ม
    * ที่นี่ เป็นมหาลัยจัดตั้งหลัง แต่ ชื่อเสียง และ เป็นมหาลัยที่มีนักศึกษามากที่สุดในโลก
    * แต่ละภาคการศึกษาจะเปิดสอนวิชา1900กระบวนวิชา
    * กระบวนวิชา หรือ วิชายุทธ สำหรับให้นักศึกษารามศึกษา เรียนกัน
    * ที่นี้เคยใช้คำว่านิสิต ต่อมาเปลื่ยนเป็นนักศึกษา
    * ชื่ออาคารในมหาวิทยาลัย ใช้ชื่ออำเภอของจังหวัดสุโขทัย เกือบทั้งหมด
    * ส่วนมากอาจารย์ กับเจ้าหน้าที่ ในรามหัวหมาก นศ จะแยกไม่ออกว่า ใครคือใคร
    * การถามว่า "เรียนปีไหนแล้ว, เหลืออีกกี่ปีจบ" ถือเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมาก ควรเลี่ยงมาถามแทนว่า "เก็บได้กี่ตัวแล้ว, เหลืออีกกี่ตัวจบ" ดูเป็นเป็นการดีกว่านะ
    * ตึกเวียงคำ กับ ตึกเวียงผา เวลาสอบเข้าผิดประจำ แปลกแต่จริง หรือจะต้องเปลี่ยนชื่อ เพราะเป็นตึกลูกแฝด
    * เป็นมหาลัยเดียวในเอเชีย ที่เปิดสอนภาษากรีก
    * เรียน biotech รามฯ จะได้เรียนกับอาจารย์พิเศษจากมหาลัยต่างๆ และนักวิจัยจาก สวทช. (ไปเรียนที่มหาลัยอื่นๆ ไม่มีโอกาสขนาดนี้นะครับ)
    * เรียน biotech รามฯ ได้จับ ได้ใช้เครื่องมือจริงๆ ไม่ใช่แค่ได้ดู เพราะนโยบายอาจารย์ที่นี่ คือ ให้นักเรียนใช้จนพัง ดีกว่าวางเฉยๆ จนมันพัง
    * ผู้กล่าวนำนักศึกษาในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร คัดเลือกกันในวันรับฯ เลย ก่อนพระเทพฯ เสด็จประมาณครึ่งชั่วโมง โดยจะเลือกจากบัณฑิตเกียรตินิยม 2-5 คน ในคณะที่นั่งด้านหน้าของห้องประชุม แล้วให้อ่านบทกล่าวนำ 1 หน้ากระดาษ มีโอกาสอ่านครั้งเดียว ใครอ่านผิดหรือสะดุดเพียงครั้งเดียว จะเปลี่ยนคัดเลือกคนใหม่แทนทันที จนกระทั่งได้คนที่อ่านรอบเดียวผ่าน จึงจะเป็นผู้กล่าวนำนักศึกษา




เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

    * บอล ภราดร บ้านมันอยู่หลังราม 2
    * ลูกชายนักการเมืองบางคนถูกกล่าวหาว่าทุจริตในการสอบไล่ แต่ก็ยังสำเร็จการศึกษาออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย
    * นักการเมืองบางคนเป็นนักศึกษามา 20 ปี เพิ่งจะสำเร็จการศึกษาออกมาเมื่อเร็วๆ นี้โดยอิทธิฤทธิ์ของป๋ารังสรรค์
    * ชื่อเต็มๆของตึก ส.ว.ป. คือ อาคารสารวัตรปราบปราม (มันใช่ซะที่ไหนละเว้ย แต่กรูก้อไม่รู้เหมือนกัน)
    * รามคำเเหง มี น.ศ. มากที่สุดในโลก
    * ถ้าสอบได้ จี 5 ตัวจะได้เรียนฟรีในเทอมถัดไป--แก้ไข: จะได้เรียนฟรีในปีถัดไป ในภาคการศึกษาเดียวกัน และต้องลงทะเบียนไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิตในภาคที่จะเอา G นั้นด้วย
    * ถนน ใน ม.ราม เชื่อมโยงกันเป็น ใยเเมงมุม ใครไม่เคยเข้ามาระวังจะหลงเอาง่ายๆ
    * ที่ ม.รามฯมี "สวรรค์ 7 ชั้น" ตั้งอยู่หน้า รร.สาธิตฯมัธยม
    * 3 3แยกนั้น สาวๆไม่ค่อยอยากผ่าน เพราะเด็กชีวะมันอยู่เยอะ
    * เรียนที่ สวรรค์ชั้น 5 ร้อนมาก เเต่ สเต็กเนื้อ ที่ สวรรค์ ชั้น 2 อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    * คนที่ มาเรียนครั้งเเรกมัก หาตึก TB ไม่เจอ ไม่ต้องกลัวครับคนที่ไปเรียนทุกวันบางคนยังไม่รู้จักเลย คิคิ
    * มีคนบอกว่า ถ้าจะลงเล่นการเมืองต้อง มาเรียนที่รามให้จบก่อน สังเกตดูดิ นักการเมืองหลายๆคน จบจากรามทั้งนั้น
    * พบ งู ไม่ต้องเรียกยาม เดี๋ยวเด็ก ชีวะ ก็มาจับไป สต๊าฟส่งอาจารย์เอง (สมัย อ.ซาหวงอยู่)




ความเชื่อ

    * บนพ่อขุนราม โดยการวิ่งรอบอนุสาวรีย์พ่อขุน

แล้วแต่จะบนเลย ส่วนตัวคนแก้ไม่เคยบน เพราะกลัวบนแล้วจะทำตามที่บนไว้ไม่ได้ ก็บ้านไกลนี่หว่า ซึ่งเรื่องการวิ่งแก้บนนี่ ให้ดูตามเลขรหัสวิชานั้นด้วยนะ สมมุติ อยากผ่าน EN101 ก็ต้องวิ่ง 101 รอบ เป็นต้น




เรื่องลึกลับ

    * ในรามคำแหง 1 มีรูปปั้นต้องห้ามอยู่บริเวณ หลังคณะนิติศาสตร์ ใครไปจับละก้อจะเรียน ไม่จบ (เรื่องจริง )
    * คำขอแรกที่กล่าวต่อพ่อขุนรามจะประสบผลสำเร็จเสมอ
    * ถ้าอยากจบสองปีครึ่งให้นำดอกดาวเรืองจำนวน 25 ดอกไปไหว้พ่อขุน และเดินวนขวา 2 รอบครึ่ง
    * คนที่ไม่สบายบ่อยๆให้นำเต่ามาปล่อยสระหลังเสาร์ธง ราม .1
    * ตึกซ้อมกีฬาหลังตึกสุพรรนิกา ( จำชื่อม่ายได้ ) ผีโคตรเยนยิ่งนัก ( ขนาดกลางวันยังได้ยินเสียงคนเดิน ทั้งๆที่ไม่มีคนอยู่ )
    * ในทุกสามปีจะต้องมีนักศึกษาสังเวยในสะน้ำบริเวณข้างตึกองค์การนักศึกษา (ครั้งสุดท้าย ปี 51 )
    * ทุกวันพระ 15 ค่ำ ตอนเทียงคืนสุนัขจะหอนเสมอ ( ไม่เชื่อไปคอยฟัง )
    * ประมวลกฎหมายใดที่ได้เจิมในพิธ๊บวงสรวงวันเกิด ม.ราม เจ้าของมักจะจบสองปีครึ่งเสมอ
    * รุ่นพี่ที่เรียนเนติบัณฑิต ที่จบนิติจากราม จะมีเคร็ดให้รุ่นน้องเสมอ
    * หอหน้ารามสร้างทับสุสานของบรรดาทหาร ในสมัย กรุงธนฯ และบางที่สรางทับสุสานของชาวมุสลิมในสมัย ที่ย้ายมาจากปัตตานี และมักมีนักศึกษาฝันเห็นเหตุการณ์การรบในช่วงเดือนตุลาคม
    * เพลงฟ้ารามเป็นเพลงที่ พ่อคุณ และบรรดาสิ่งศักสิทธิ์ใน ม.ราม ชอบฟัง (เพราะฉนั้นบนด้วยเพลงฟ้ารามมักจะประสบผลสำเร็จเสมอ)
    * โทนี่เหมา เอ๋อ กวยตุง มักมาฝึกมวยจีนที่มหาลัยเสมอ
    * ทั้งที่ราม1และราม2 มีจระเข้เผือกอยู่ในสระน้ำ แต่ตัวเล็กนิดเดียว สังเกตุเอานะมันอาบแดดอยู่ข้างสระแหละ
    * บางคนเรียนจนจบก็ยังหาซุ้มจังหวัดตัวเองไม่เจอก็มี (มันไปแอบอยู่ไหนว่ะ)
    * ที่ราม2 มีสนามฟุตบอลขนาดมาตราฐานซ่อนอยู่ แต่นักศึกษามักมองไม่เห็นเพราะต้นกกมันสูงท่วมหัว (ตัดมั้งสิเว้ย)
    * ราม บอกเริ่ม บอก เพิ่มรายวิชาไม่ได้นะ นอกจากเทอมจะจบ





ของกิน

    * ร้านข้าวมันไก่ ข้าวหมกไก่ที่ราม2 คนสับไก่โคตรเทพ ขาไก่1ขา พี่แกใช้เวลา2วินาทีเลาะกระดูกออกหมดแถมสับเรียบร้อย (อร่อยด้วยนะแก)
    * โรงอาหารราม2เปิดเฉพาะช่วงสอบเท่านั้น <---ไม่จริงจ้า เดี๋ยวนี้เปิดทุกวันแล้ว
    * ตอนนี้ราม 1 โรงอาหารใหญ่ไม่มีแล้วนะจ๊ะ ตอนนี้ย้ายไปอยู่ข้างตึกสำนักพิมพ์ เค้าจะเอาไปทำเป็นที่จอดรถ

ว่าปริญญาตรีใช้รถเยอะขนาดนั้นเลยหรอ แต่จริงๆไม่ใช่หรอก เอาไว้ให้ปริญญาโทจอดจ๊ะ ^_^ เสียดาย ที่แคบจะตายอันใหม่ เฮ้อ

    * ร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกล๊อก3 อร่อยโคตรๆ น้ำข้น รสเข้ม แต่ย้ายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้ทุบโรงอาหารเก่าไปแล้วอะ (ใครรู้มาตอบมั่งนะ)*ก็ไปหาที่โรงอาหารใหม่ดิ--หลังตึกVPB
    * ร้านน้ำปั้นผลไม้ของพี่โอเล่ ขายดีมาก เพราะปั่นผลไม้ทุกอย่าง มีครอบทุกอย่าง สั่งอะไร ปั่นได้หมด
    * มารามคำแหง ไม่ว่าจะรา1หรือราม2 ต้องกินกล้วยปิ้ง เผือกปิ้ง ไม่งั้น เหมือนมาไม่ถึงราม
    * ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก แผงที่ 10 ลูกชิ้นทำเอง อร่อยมากกกก
    * สเต็กเนื้อ ที่สววรค์ ชั้น 2 ก็อร่อยเหมือนกัน เเต่จะเต็มไปด้วย บรรดาเด็กสาธิต
    * โรงอาหารราม1 เป็นสวรรค์ของชาวมังสะและเจ เพราะมีให้เลือกถึง3ร้านอร่อยด้วย แต่ราม2ไม่มี(รู้สึกจะมีตรงที่จอดรถตู้)
    * ตึกสวรรค์ชั้นสองมีร้านอาหารตามสั่งชื่อแจ๋วอยู่ ร้านนั้นถ้าไปสั่งตอนช่วงเที่ยงกว่าจะได้กินนาน เพราะคนสั่งเยอะและอร่อยมาก




บทความที่เกี่ยวข้อง

    * นักศึกษารามคำแหงส่วนใหญ่มีความสันโดดอย่างยิ่ง และมักไม่ค่อยสนใจ หรือพาดพิงสถาบันการศึกษาใด
    * โรงอาหารใหญ่ หรือโรงกลางที่ ทำการรื้อไปนั้น เขาจะใช้ที่เดิมนี้สร้างโรงอาหารและลาดจอดรถ 6ชั้น
    * ตึกที่สร้างใหม่(กำลังสร้าง) ได้แก่ ตึกคณะมนุษยศาสตร์ ตรงประตูหลังรามฯ ตึกคณะรัฐศาสตร์ (อาคารเรียนรวมคณะ) และตึกบริหาร หรือที่ นักศึกษาจะเรียกว่า คณะบัญชี เพราะบริหาร จะมีคนเรียนบัญชีเยอะ จึงเรียกแบบเอกเทศ คณะบัญชี
    * คณะที่ไม่มีตึกเป็นของตัวเอง คือคณะเทคโนโลยีการสื่อสารมวลชน หรือนิเทศศาสตร์ จะฝากเรียนและเรียนรวมกับคณะมนุษยศาสตร์
    * โรงอาคารในมหาลัยตอนี้เปรียบเสมือนกับกรุงเทพ เพราะว่า แบ่งออก2ฝั่ง หมายถง ฝั่งธนบุรี กับฝั่งพระนคร ประวิติศาสตร์ดีเนาะ
    * คณะสังคมศาสตร์ ที่นี้หมายถึง คณะรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์
    * สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ เทียบเท่าคณะ สอน ปโท เป็นหลักสูตรวิทยาศาสตร์สุขภาพบัณฑิต <--หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สารสนเทศทางสุขภาพ) เดิมมีม.รามฯที่เดียวแต่ปัจจุบันมีหลายที่แล้วละ
    * คณะที่มีนักศึกษาแต่งตัวแนวแฟชั่นคือ สื่อสารมวลชน
    * นักศึกษาที่ไม่ค่อยพูดไทย จะเป็นพวกที่เรียน สถาบันการศึกษานานาชาติ(แต่อื่นคือวิทยาลัยนานาชาติ) มี ป้ายทองติดเสื้อ การันตีอยู่
    * คณะที่นักศึกษาจะเรียกชื่อแบบใหม่คือ คณะรัฐศาสตร์ เป็นคณะสังคมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ จะเรียกคณะพณิชศาสตร์และการบัญชี
    * สำนักที่นักศึกษา จะเรียกชื่อไม่ค่อยถูก เพราะยาวคือ สำนักบริการทางวิชาการและทดสอบประเมินผล หรือ สวป นั้นเอง

    * มีเรื่องอีกมากมายในรามที่คุณรูแล้วจะอึ้ง


**โหวตๆๆๆ อย่ากให้เพื่อนๆเด็กดี รู้จักอีกมุ่มหนึ่งของ "ม.รามคำแหง" ^^

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 ธันวาคม 2552 / 13:12

PS.  รักโบราณคดี รักมหาวิทยาลัยศิลปากร

แสดงความคิดเห็น

>

27 ความคิดเห็น

อิอิ 12 ธ.ค. 52 เวลา 12:52 น. 5

เทอมล่าสุด ตอนสอบ 1/52 น้ำท่วมสุดๆ หลายวันด้วย TT^TT

ปล. วิชา MA113 ST203 ใครให้เข้าเรียนกัน เชื่อเถอะไม่รู้เรื่องหรอก เจอมากับตัว ซื้อหนังสือไป แต่พี่แกสอนหน้าไหน หาทั้งชั่วโมง ยังไม่เจอเลย ไปติวอย่างเดียวเลย ต้องเลือกที่ติวดีๆด้วยนะ เดินหาดูแล้วกัน ซอยรร.บดินทร์อะ แต่เราแนะนำตึกที่ทาสีฟ้าๆ รอบเดียวผ่าน ได้จีด้วยละ

0
เหอะๆ 12 ธ.ค. 52 เวลา 13:32 น. 7

ได้ข่าวว่าธรรมศาสตร์เค้าพิมพ์ตำราจากโรงพิมพ์ของเค้าเองบ้างเหอะ พี่ชายฉันเรียนอยู่...มั่วได้อีกเนาะ

0
Thak-a-NAP!!! 12 ธ.ค. 52 เวลา 15:28 น. 10

ยาวได้อีกนะคับ

" มหวิทยาลัยรามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่มีวิทยาเขตมากที่สุดในโลก (ยอมรับว่าเยอะจริง - -*) "

อันนี้ คอนเฟิร์ม

" เด็กจุฬา , ธรรมศาสตร์ ต่างก็นิยมมาซื้อตำรากฎหมายของรามคำแหง "

อันนี้มั่วได้อีก ไม่เชื่อมาดูศูนย์หนังสือ จุฬาฯ ที่ติดชาร์ดขายดีมันไม่ใช่ตำรา ราม ซะหน่อย

0
ติดลานพ่อขุนฯ 12 ธ.ค. 52 เวลา 17:02 น. 11


ม.รามฯไม่มีหอแต่เวลาใกล้สอบซุ้มต่างๆจะมีนักศึกษาอยู่เต็มตั้งแต่เช้าจนดึกดื่นค่อนคืน (เที่ยงคืนมันยังอยู่อ่านกฎหมายงะ...)
0
อือ 12 ธ.ค. 52 เวลา 18:28 น. 12

ไม่นะ ฉันเห้นเด็กเกษตร มาซื้อเยอะ

จุฬา มธ ก็มีบ้างแหละ เพระ รามมีร้านขายหนังสือมือ 2 อยู่ฝรั่งตรงข้าม มหาลัย

ไม่แปลกที่เด็กมหาลัยอื่นจะซื้อไปเรียน เพราะบางทีมันก็เหมือนๆ กัน


หรืออีกอย่าง เด็ก ฬ มธ ก็มาซื้อ เพราะว่า เค้าเรียน ปริญญาใบที่ 2 ก็ได้

0
Claek 12 ธ.ค. 52 เวลา 18:45 น. 13

เรายังเคยไปซื้อหนังสือประวัติศาสตร์ที่รามคำแหงเลย มีเยอะมากๆๆๆๆๆ เขียนดีด้วยแหละ


PS.  รักโบราณคดี รักมหาวิทยาลัยศิลปากร
0
ฟูจิเอดะ โยชิโนะ 12 ธ.ค. 52 เวลา 20:02 น. 14

ของเค้าดีจริงๆนะ
เด็กรามอย่างเราขอฟันธง


PS.  I Love Digimon ดิจิม่อนคือเพื่อนของเรา เราชอบดู F4 เวอร์ชั่นไต้หวัน ದಲಗಸಾಲದಕಬದ
0
เมลิโมนี่~ 12 ธ.ค. 52 เวลา 21:59 น. 15

โห เรื่องเยอะจริงๆเลยอ่า อ่านแล้วเพลินเลย

ผมชักอยากเรียนรามแล้วสิ แต่ติดที่เรียนควบปริญญาได้อย่างเดียว

มีเมื่อไรก็บอกผมที่นะครับ


PS.  Thank you 4 your comment ตอนนี้เราต้องสู้ สู้เพื่อบ้านเมื่องที่กำลังจะล่มจม จากสิ่งยั่วยุต่างๆ มาช่วยรักษาโลกใบนี้เถอะ Keep Save Grow Reuse Reduce Recycle
0
แว๊ง 12 ธ.ค. 52 เวลา 23:14 น. 16

ตำรากฎหมายเราว่าส่วนใหญ่ก็มีเด็กมาซื้อๆ กันนะ ทั้งจุฬาฯ มธ. บางคนเรียนควบ 2 ที่อะไรแบบนี้
แต่ตำราเรียนที่รามเราชอบนะ ราคาถูก เยอะดี

0
jing 13 ธ.ค. 52 เวลา 09:42 น. 17

ตำรา ราม ที่เห็นมา ซื้อกัน ก็เอามาจาก ตำราที่เป็นหนังสือเล่มใหญ่ๆดัง ของ จุฬา มธ นั่นแหล่ะครับ

แค่เอามาย่อ ให้ มันดูง่ายมากขึ้น

ส่วนแบบฝึกหัด ก็พวกที่เรียนจบแล้ว มานั่งเขียน นั่นแหล่ะครับ อย่างเจ้าของร้าน เนี่ย ก็นั่งเขียนเอง


แต่ผมก็นิยมซื้อ ครับ

0
Claek 13 ธ.ค. 52 เวลา 12:01 น. 18

ถึง ค. 17

ก็อาจจะมีอ้างอิงกันบ้างแหละครับ 
ทำไงได้อ่ะ เช่น กฏหมายคืออะไร คำตอบก็คือข้อบังคับ ควบคุม จะให้ตอบอะไรล่ะ - -*

อย่าเหมาร่วมเลย 
หนังสือ ราคาถูก เนื้อหาเยอะ ครอบคุม ไม่นอกประเด็น
หลักการไม่ต้องมาก เน้นความเข้าใจ นำใช้ปฏิบัติจริง

คุณว่ามันดีไหมละ ดีกว่ามานั่งอ่านทฤษฏี อ่านหลักการ
ที่รามสอนเน้นปฎิบัติจริง ศึกษาจากเหตุการณจริง
อีกอย่างมีคุณภาพมาก

ดูได้จากเกรด G P and F 
บางวิชาคุณได้ 65 จาก 100 คุณก็ตก
แต่บางมหาวิทยาลัยคุณอาจจะได้ C+ 
ประมาณนั้น ถูกปะละ

ตัดเกรดแบบนี้ มันไม่ง่ายเลยนะ - -* 
เราว่าโหดกว่าเกรด F to A อีก มันถี่มาก - -*

รักราม จบ.


PS.  รักโบราณคดี รักมหาวิทยาลัยศิลปากร
0
Claek 13 ธ.ค. 52 เวลา 12:08 น. 19

ถึงความเห็นที่ 10

เค้าหมายถึง ต่างนิยมมาซื้อหนังสือที่ราม 
ไม่ได้บอกว่า หนังสือรามขายดี เข้าใจไหมเอ๋ย?
แล้วที่บอกว่า ที่จุฬา หนังสือขายดี ไม่ใช่ของรามซะหน่อย 

เหอๆ

เช่นเดียวกัน เค้าหมายถึงมาซื้อที่ ราม ไม่ใช่ไปซื้อที่จุฬา GET ? isn't it???

โทษทีนะ คนมันรักรามคำแหง ....


PS.  รักโบราณคดี รักมหาวิทยาลัยศิลปากร
0