Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องเล่าเกี่ยวกับ สมเด็จพระเทพ ที่น่าประทับใจจนอยากบอกต่อ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เครดิต : Pantip http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/05/K4370145/K4370145.html

หากคนใน Pantip บอกว่าไม่เหมาะสมให้ตั้งกระทู้นี้ บอกได้เลยนะคะ จะทำการแจ้งเว็บมาสเตอร์ลบให้

หวังว่าคงไม่ลงเยอะไปจนเว็บล่ม = ="

แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ แต่ไม่เห็นมีใครในเด็กดีเอามาลง และเป็นเรื่องเล่าที่ไม่มีใครเคยได้ยินด้วยค่ะ

ขออนุญาติ เอามาเฉพาะตอนเด็ดๆนะคะ ใครที่อยากอ่านทั้งหมดทุกตอน เข้าไปอ่านได้ในกระทู้เลยค่ะ
(แต่เอาเข้าจริงก็แทบไม่ได้เว้นซักเรื่อง เอามาแทบทั้งหมด^^"a)


เห็นได้ข่าวว่ากำลังจะทำการพิมพ์กัน รออยู่นาน แต่ยังไม่เห็นข่าวอะไรออกมาเลย^^"a แหะๆๆ

ยาวหน่อย แต่อยากให้อ่านกันค่ะ เพราะตัวเจ้าของกระทู้ไปนั่งอ่าน อ่านได้ไม่หยุดเลย^^"a

สุดท้ายก่อนจะโพส
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานค่ะ

Ps.คอมเมนต์-โหวต กันตามอัธยาศัยค่ะ

เริ่มจาก คุณเจ้าของกระทู้ในPantip คุณ
cartoon's mom ค่ะ

******************************

เรื่องเกี่ยวกับ สมเด็จ พระเทพ เรื่องดี ๆ ที่น่าประทับใจ จนอยากจะบอกต่อ

เมื่อวันวิสาขบูชา

ครอบครัวของพี่สาว ไปเวียนเทียนที่วัด สระปทุม ซึ่ง เขาจะอยู่จนรอเก็บกระถางธูปตอนดึก ทุกปี และเค้าก็ไปทั้งครอบครัวทุกปี

ปี นี้  เขาบอกว่า คนกำลังเวียนเทียนกันอยู่  สมเด็จพระเทพ ก็เสด็จ มาร่วมฟังพระสวดมนต์และเวียนเทียนด้วย  เขาบอกว่า ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น หยุดเวียนเทียนและ นั่งรอให้สมเด็จ พระเทพ เสด็จ ก่อน ซึ่งในนั้น ไม่มีใครรู้ว่า พระองค์จะเสด็จ  ไม่มีทหารมากมาย มีแต่ข้าราชบริพารตามเสด็จไม่มาก  ทุกคนตกใจกันมาก พี่สาวบอกว่า สมเด็จท่านเสด็จผ่าน อยากจะถ่ายรูปมา (พิมพ์ถูกมั้ยเนี่ย)  ก็ไม่กล้า กลัวถูกจับ ได้แต่นั่งพนมมือแล้ว มองจนพระองค์ท่านเสด็จผ่านไป

เขาบอกว่า มันเป็นความภูมิใจอย่างมาก ถึงมากที่สุดในชีวิตเลย

ก็ แค่อยากจะเล่าให้กันรู้ ว่า สมเด็จท่าน ทรงเป็นอะไร ที่คนไทย  ... โอ๊ย บรรยายไม่หมด  ขนาดเราไม่ได้ไปด้วย แค่รับฟังสิ่งที่พี่สาวเล่าให้ฟัง ยังดีใจ ขนาดนี้เลย

จากคุณ : cartoon's mom

******************************
ความคิดเห็นที่ 2

เวลาท่านเสด็จฯมาศูนย์หนังสือ ท่านเสด็จฯมาพร้อมกับข้าราชบริพาร 1 คน ทรงพระดำเนินจากหลังวังสระปทุมมาทางสยามเซนเตอร์ ผ่าน center point มาศูนย์หนังสือ คนก็ตกอกตกใจ+ดีใจกันใหญ่

ที่น่าปลื้ม เด็กฮิปฮอป+เด็กแนว เห็นพระองค์ท่าน ถ้านั่งได้ก็นั่งยกมือไหว้ท่าน ถ้านั่งไม่ได้ก็ยืนไหว้ท่าน ดูน่าแปลกดีครับ

ท่านเสด็จฯศูนย์หนังสือบ่อยๆนะครับ

แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 49 22:30:46

จากคุณ : natthaset 

******************************

ความคิดเห็นที่ 8

ตอบคห. 7 ค่ะ
เพิ่งผ่านมาเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง จริงๆไม่ค่อยอยากเล่าในพันทิปเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างส่วนตัวและเป็นความประทับใจที่เราจะไม่ มีวันลืมเลย

วันนั้นพระองค์ท่านก็เสด็จร้านหนังสือที่สยามพารากอน เราเห็นพระองค์ท่านเดินขึ้นบันไดเลื่อนไป ชนิดที่ว่า คนที่อยู่ข้างบนท่านห่างกันแค่สามขั้นเท่านั้น ไม่มีการกั้นอะไรเลย เราก็เห็นอาจารย์ท่านหนึ่งที่เรารู้จักตามเสด็จด้วย อาจารย์ท่านนี้เป็นพระสหายร่วมรุ่นกับพระองค์ท่านที่อักษร จุฬาฯ และปัจจุบันก็ทำงานถวายท่านอยู่ในวัง

ก่อนหน้านี้เราเคยเฝ้าท่านที่ ทำเนียบท่านทูตในลอนดอนตอนเสด็จมาทรงดนตรีที่ SOAS ท่านก็ได้พระราชทานพระราชวโรกาศให้นร.ทุนอานันท์ที่อยู่ที่อังกฤษเข้าเฝ้า ด้วย ท่านทรงเป็นกันเองมากค่ะ ทรงซักถามว่าเรียนเป็นอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร ฯลฯ ซึ่งตอนนั้นนร.ทุนทุกคนต่างก็รู้สึกปลื้มปีติที่ได้เข้าเฝ้าท่านอย่างใกล้ ชิด

แล้วเดือนเมษาเราก็กลับมาเยี่ยมบ้าน จนก่อนกลับวันหนึ่งก็วันนั้นได้เห็นท่านเสด็จฯขึ้นบันไดเลื่อนไปอย่างที่ เล่าไปข้างต้น แล้วก็เดินไปมาบุญครองเพื่อไปรับมือถือที่เอาไปซ่อม ตอนเดินกลับจากมาบุญครองไปพารากอน (จอดรถไว้ที่นั่น) เราก็แอบสังหรณ์ใจว่าวันนี้อาจจะได้เข้าเฝ้า พอเดินมาถึงช่วงลานระหว่างสยามเซ็นเตอร์กับพารากอน เราก็เห็นขบวนของพระองค์ท่านสวนมาพอดี ตอนนั้นเรายกมือไหว้อาจารย์ที่เรารู้จักซึ่งเดินตามเสด็จอยู่ อาจารย์เห็นเราเลยกวักมือให้เข้ามา แล้วให้องครักษ์ (หรือมหาดเล็ก?) เข้าไปทูลท่านให้ทรงหยุดก่อน ตอนนั้นรู้สึกแผ่นดินมันยวบลงทันที ถึงเราจะเคยเข้าเฝ้ามาก่อนหลายครั้ง แต่ไม่เคยเฝ้ากลางที่สาธารณะโดยไม่เคยได้มีหมายกำหนดการออกมาก่อน พอคุมสติได้ ก็เดินไป แล้วถอนสายบัว

พระองค์ท่านก็ทรงถามว่า กลับมาเยี่ยมบ้านหรือ เรื่องเรียนสันสกฤตไปถึงไหนแล้ว งานวิจัยที่ทำอยู่ถึงไหน เรียกได้ว่า พระองค์ทรงจำได้หมดว่านร.ทุนคนไหนทำอะไรอยู่ แล้วเคยทูลอะไรท่านไปบ้าง เราก็พยายามตั้งใจตอบอย่างเต็มที่ ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าคนที่มาห้างทุกคนหยุดกันหมดแล้วหันมามอง แถมตรงลานนั้น ยังมีงาน event ของ panasonic ที่เป็นธีมบอลโลก คนเลยเยอะ แต่พอท่านเสด็จมา ก็ไม่มีเสียงอะไรจากพิธีกรงานนั้นเลย

หลังจากมีพระ ราชปฏิสันถารได้สักครู่ พระองค์ท่านก็เสด็จฯกลับ เราหันมาอีกทีก็เพิ่งรู้ว่าตกเป็นเป้าสายตา มือยังเปียกๆสั่นๆด้วยความตื่นเต้น เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราเป็นคนสำคัญหรือยิ่งใหญ่มาจากไหน เป็นแค่นร.คนหนึ่งที่โชคดีได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะทรงหยุดเพียงเพื่อถามเราว่าเราเป็นอย่างไรบ้าง เรียนเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งท่านจะทรงผ่านไปเลยก็ได้ ความเป็นกันเองของพระองค์ท่านครั้งนี้ทำให้เรารู้สึกเสมอว่าเราจะต้องตั้งใจ ให้มากขึ้น สมกับที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ

ที่พิมพ์มานี่ไม่ได้ ตั้งใจจะอวดหรืออะไรเลยนะคะ แค่อยากจะบอกว่าพระองค์ท่านไม่ทรงถือพระองค์เลย และใส่พระทัยในพระราชกรณียกิจเสมอ พระจริยวัตรเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เราอยากทำดีค่ะ
แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 49 00:22:16

จากคุณ : Sa-idian 17:34 ]

******************************
ความคิดเห็นที่ 12

มีอีกครั้งนึงท่านทรงเดินจากวังสระประทุมไปสยามดีสคอฟเวอรรี่ ก็มีผู้ตามเสด็จอีก 1-2 คนนี่แหละ แต่ตำรวจที่กั้นรถแถวนั้นบอกว่า ยังไปไม่ได้ มีขบวนเสด็จฯมจ.หญิงสิริวัณวรี ท่านเลยบอกตำรวจว่า "หลานชั้นเอง" ตำรวจเลยรีบถวายความเคารพและทูลเชิญเสด็จแทบไม่ทัน

จากคุณ : หนูเอง

---ชอบอันนี้ที่สุดเลยค่ะ ฮามากๆ
******************************

ความคิดเห็นที่ 16

ที่ศูนย์หนังสือจุฬา ผมเคยไปเฝ้าฯ ที ตอนนั้นไปซื้อหนังสือตามปกตินะครับ ปรากฎว่า ตอนนั้นมีเสวนา ด้วยรายการที่นี่ประเทศไทยปิดตัว เพราะเปลี่ยนผัง ปรากฎ กำลังๆพูดๆอยู่ คนก็เงียบ ปรากฎว่าท่านเสด็จฯมา

แล้วท่านยืนอยู่ที่ ชั้นวางข้างๆผม ผมมีกล้อง(ตอนนั้นพกกล้องตลอด 55+ เพราะชอบถ่ายรูป) ก็เลยขอพระราชทานพระราชานุญาตฉาย ท่านก็ยิ้มและบอกว่า อะถ่ายๆ ก็ฉายได้ 2 องค์

เสร็จแล้วท่านก็ถามเรื่องการเรียนผม ว่าเรียนที่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง แล้วชอบหรือเปล่า ผมก็กราบบังคมทูลไปว่าสอบใหม่ ท่านก็ถามว่า ทำไมละ ไม่ชอบหรือ หรือว่ายังไง ผมก็กราบบังคมทูลท่านไป ท่านก็ถามว่า อยู่ปีหนึ่งแล้วสอบใหม่เหรอ ผมก็กราบบังคมทูลท่านไปว่า ปี 2 แล้วพระพุทธเจ้าค่ะ

ท่านก็ว่า เอ้า ปี 2 สอบใหม่ได้หรือ แล้วทำไมไม่สอบใหม่แต่แรก ก็ตอบท่านไปว่า คะแนนคณะนิติศาสตร์สูงมาก สอบไม่ได้ ท่านก็บอกว่า อื่มๆ นิติศาสตร์ดีดี ขอให้โชคดีนะ

ท่านมีพระราชปฏิสันถาน ต่อมาอีกนิด แล้วก็อยู่ๆ ผู้ใหญ่ก็คงเห็นว่า เด็กคุยกะท่านนานไป ก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุยเฉยเลย

พอ ท่านเดินมาด้านนอก ศูนย์หนังสือก็ทูลเกล้าฯถวายหนังสือ ศูนย์หนังสือก็ขอฉายพระฉายาลักษณ์ท่านท่านก็ว่า "หันให้ช่างกล้องถ่ายหน่อย" ท่านก็หันมาทางผม ผมเลยเป็นช่างภาพจำเป็นไปเลย

ต่อ มาก็ผู้จัดการศูนย์ ขอท่านฉายพระฉายาลักษณ์หมู่กับพนักงาน ผมก้รับหน้าที่ฉายไปหลายองค์ พอฉายเสร็จก็กราบบังคมทูลท่านว่า เสร็จแล้วพระพุทธเจ้าค่ะ ท่านก็เดินลงมาผมก็ไหว้ท่าน ท่านก็ทรงพระดำเนินกลับวังสระปทุม

มีอีกครั้ง ผมไปเฝ้าที่ศูนย์วิทยาบริการ ท่านมาเปิดห้องสมุดดนตรีที่จุฬาฯ ที่ได้เฝ้าเพราะสนิทกับพนักงานหอสมุด ก็เลยได้ยืนเฝ้าหลังคุณหญิงอารยา ท่านเป็นกันเองมาก คุยสนุกมาก ท่านบอกว่า ที่วังมีเทปหลายม้วนมาก เห็นทีเป็นพัน ตั้งแต่ดนตรีไทยไปถึงเทปาจารย์ ท่านก็ขยายว่า เทปาจารย์คือ เทปที่อัดไว้เวลาตามเสด็จ พออยู่บนเครื่องหรือว่าง ก็เปิดฟัง ตอนนี้อ.เสียหมดแล้ว แต่เสียงยังอยู่ในเทปอยู่เลย น่าแปลกดี ก็หัวเราะกันใหญ่

ท่านบอกอีกว่า ถ้าต้องการเทปพวกดนตรีไทยอีก ก็ให้คนไปเอาที่วัง ท่านจะยกให้หมด มีเยอะมาก นอกจากนี้ยังมีวีดีโออีกเยอะ ที่เห็นน่ากลัวคือกลบบัตรสุมเพลิง เพราะว่าน่ากลัวมาก ต้องดูกันหลายคน ตอนกลางวันจะได้ไม่กลัว (แสดงว่าท่านกลัว) จากนั้นก็เสด็จลงให้ครูอิสลามที่มาอบรมการศึกษาที่คณะครุศาสตร์ เฝ้าฯที่โถงกลาง แล้วเสด็จกลับ เห็นองครักษ์บอกว่า ท่านกลับไปทรงพระอักษรจีนต่อ อ.มารอแล้ว..

ป.ล.พิธีกลบบัตรสุมเพลิง คือ พิธีขับไล่วิญญานร้าย หรือ เชิญวิญญานผู้ที่เสียชีวิตในพระบรมมหาราชวัง หรือพระราชฐาน ครับ งานที่รับสั่งว่าอัดเป็นวีดีโอนั้น ถามผู้ใหญ่มาบอกว่า เป็นงานที่จัดที่สวนจิตร ตอนนั้นมีข้าราชการหัวใจวายในวังสวนจิตร จึงต้องทำพิธีนี้ครับ(นอกจากพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์แล้ว ถือว่าต้องทำพิธีนี้ตลอด แม้แต่หญิงใกล้จะคลอดบุตรที่ทำงานในพระราชฐานก็จะให้พักงานสักระยะ ให้คลอดบุตรเสร็จก่อนจึงกลับมาทำงานได้)

จากคุณ : natthaset

******************************
ความคิดเห็นที่ 25

เป็นสิบ ๆ ปีมาแล้ว ตั้งแต่ computer ยังเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่และโปรแกรมพวก CAD/CAM ยังถือว่าใหม่มากสำหรับเมืองไทย มีหน้าที่อยู่ booth ในงานคอม เพื่ออธิบายระบบ เสด็จมาทรงเปิดงาน พอเสด็จผ่านที่ booth ทรงสนพระทัย รับสั่งถามนานมาก ตอบปากคอสั่น นึกไม่ออกว่าจะใช้ราชาศัพท์ยังไง นึกคำภาษาไทยหลายคำก็ยังไม่ออก เพราะเวลาคุยกันเรื่องงาน ก็จะทับศัพท์ทุกที

ทรงพยักพระพักตรให้ตอบไปเรื่อย ๆ ใช้คำวิชาการธรรมดา จำได้ว่านานมาก จนองครักษ์ขอให้ยกเก้าอี้มาถวาย ซึ่งที่ booth ก็ไม่มี เพราะให้ยกออกหมด ใครสักคนยกมาถวาย ก็ทรงประทับแบบง่าย ๆ

จำได้ว่าพอเสด็จไป ขาอ่อน ลงนั่งร้องไห้เลย รู้สึกเป็นบุญตัวมาจนทุกวันนี้

จากคุณ : scuba734

******************************
ความคิดเห็นที่ 29

องค์อุปนายิกา สภากาชาดไทย
 
 

จากคุณ : natthaset

******************************
ความคิดเห็นที่ 30

อ่านแล้วอยากเล่าบ้างค่ะ

ตอนเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 สมเด็จพระเทพได้เสด็จมาที่โรงเรียน  
แล้วก็เสวยพระกระยาหารกลางวัน  ที่ทางจังหวัดจัดถวายที่โรงเรียน
เราได้รับคัดเลือกให้ไปถวายการรับใช้ที่ห้องเสวยด้วย  บูญหัวยิ่งนักค่ะ

ก่อนหน้าที่จะเสด็จมายังห้องซึ่งจัดเตรียมไว้  ราชองครักษ์และพระพี่เลี้ยง
ก็มาดูแลความเรียบร้อย  ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า  พระองค์เสด็จไปที่ไหน
ก็จะมีคนนำนั่นนำนี่มาถวาย  พระองค์ก็ทรงรับไว้จนทรงพระสมบูรณ์
ทำให้ทุกคนในห้องหายเกร็งเลยค่ะ

หลังจากเสร็จงาน  ก่อนเสด็จออกจากห้อง  พระองค์ท่านก็ทรงหันมาตรัสว่า
'ขอบใจมากนะหนู'  พวกเราตื้นตันจนทูลอะไรไม่ได้  นอกจากถอนสายบัว
ถวายความเคารพพระองค์ด้วยความภักดี

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

จากคุณ : ตอกะจอ

******************************

ความคิดเห็นที่ 35

เคยคิดจะเขียนไว้ในบลอกเหมือนกันครับ แต่กลัวการใช้ภาษาไม่เหมาะควร ...

แต่เห็นเพื่อนๆเขียนแบบนี้แล้วก็ค่อยเบาใจหน่อย ขอเล่าเรื่องของผมบ้างนะครับ ...


............................

ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกนะครับผม ... เล่าให้ใครฟังก็มีแต่คนตลกตัวผมเหลือเกิน -*-


คือวันนั้นผมยืนรอรถเมล์อยู่ฝั่งตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติ คิดภาพออกมะครับ หน้าเซเว่นหน่ะครับ

ขณะผมยืนอยู่กับเพื่อน ผมก็เห็นกลุ่มคนกลุ่มนึงเดินมา ... คาดว่าเดินมาจากทางบ้านจิม ทอมสัน

ผมก็สงสัยว่าทำไมแม่ค้าแถวนั้นเค้านั่งลงกับพื้น ...
ผมกับเพื่อนสายตาสั้นอ่ะครับ ... แถมกลางคืนด้วย มองไม่ค่อยชัด

พอกลุ่มคน กลุ่มนั้นเดือนเข้ามาใกล้ จึงเห็นว่าเป็นสมเด็จพระเทพฯที่ทรงเสด็จมา

บางคนที่รอรถเมล์ก็ไม่รู้เรื่อง เดินผ่านจนเกือบชนท่านก็มี ...

ผมตกใจมากเลยครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย ยืนห่างท่านเพียงแค่ ไม่ถึงเมตร

พอท่านเดินเข้ามาในระยะประชิด ผมตกใจมากคิดอะไรไม่ออก
พูดออกไปเสียงดังฟังชัด ตอนท่านอยู่ข้างหน้าว่า ...

"พระเทพฯ สวัสดีครับ"

ท่านทรงหยุดนิดนึง พร้อมกับทรงยิ้มให้

(ผู้เสด็จตามก็ทำหน้าขำๆผม)

แล้วท่านก็เสด็จไป   ปล่อยให้ผมยืนอึ้ง และงงกับตัวเองที่บังอาจพูดอะไรออกมา ... (ก็ผมตกใจนี่ครับ)


แล้วท่านก็เสด็จพระราชดำเนินไปบนสะพานลอยของบีทีเอส ...
ชอทนี้อึ้งกว่าครับ ...

คนที่เดินลงมาได้เบียดกับท่านเลยครับ เพราะว่าคนเยอะมากๆ ผมเห็นคนนั่งลงไหว้กับท่านตามขั้นบันไดเต็มไปหมดเลย

ท่านทรงไม่ถือพระองค์จริงๆ ...


หลังจากท่านลับตาไป ผมก็โทรหาแม่ขณะเสียงสั่นๆแบบนั้นแหล่ะครับ

คุณแม่ผมก็ตลกผม แล้วก็บอกว่า "คิดยังไงอ่ะ พูดกับท่านไปแบบนั้น"

ก็คนมันตกใจควบคุมสติไม่อยู่นี่ครับ

ไม่คิดว่าจะได้เข้าเฝ้าแบบไม่เป็นทางการ  ปลื้มใจจนทุกวันนี้ครับ

จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม

******************************

ความคิดเห็นที่ 36

อดไม่ได้ครับ เห็นคนอื่นเค้าเล่ากัน ผมก็มีเลยอยากนำเรื่องราวของผมมาถ่ายทอดให้หลายท่านได้อ่านกันครับ
ประมาณว่าผมมีความตั้งใจจะทำงานถวายรัชกาลที่ ๔ ซึ่ง
ผม คิดว่างานที่ผมจะทำนั้น อาจจะเกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระเทพด้วยครับ แต่ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้เข้าเฝ้าจริงๆ เสียที ได้แต่เคยเห็นเวลาเสด็จฯ อยู่ห่างๆ ตอนผมเด็กๆ พอจะได้ทำงานดังกล่าวฯ ผมก็อธิษฐานว่า หากผมจะได้ทำงานสำคัญนี้ ก็ขอให้ได้เฝ้าสมเด็จพระเทพฯ ก่อน อยู่ๆ
เช้าวันที่ 23 ต.ค.46 เวลาประมาณ 10 โมงเช้า ผมก็เกิดอยากไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวเรือโกเหม่ง แถวๆ ปทุมธานี ซึ่ง
ญาติๆ ก็บอกกันว่า เป็นร้านอร่อย สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จอยู่หลายครั้ง ผมก็ไม่ได้คิดอะไรพอขับรถไปถึงหน้า
ร้าน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนน ร้านดูธรรมดามาก เรียกว่า "ชาวบ้าน"เลยครับ ข้างๆ ร้านติดคลอง แถมคลองดังกล่าวน้ำก็ดำมากด้วย ฝั่งตรงข้ามก็เป็นบ้านเรือนผู้คนริมคลอง พอผมจอดรถ ผมก็เห็นรถตู้พระที่นั่ง จอดอยู่ ผมก็หันไปบอกญาติที่ไปด้วยว่า เนี้ยรถพระที่นั่งของสมเด็จพระเทพฯ นะ บรรดาญาติๆ ก็บอกว่าไม่ใช่หรอก ท่านจะเสด็จมาได้ยังไง ตำรวจก็ไม่เห็นจะมีเลย ร้านก็ดูชาวบ้านมากๆ แต่ผมก็ยื่นยันว่าใช่ พอพวกเราเดินเข้าไปในร้าน ก็อดปลื้มใจไม่ได้ครับ ที่พระองค์ ประทับอยู่ในร้าน โต๊ะที่ประทับทางร้านจัดให้อยู่ส่วนด้านซ้ายติดริมคลองฯ ชาวบ้านฝั่งตรงกันข้ามยังนั่งหยองๆ มองพระองค์อยู่ตลอดเวลาเลย โต๊ะที่ประทับเป็นโต๊ะไม้ยาวๆ บรรดาผู้ร่วมโต๊ะเสวยประมาณ 10-15 คน (ไม่ทราบได้ว่าเป็นพระสหาย หรือผู้ติดตามส่วนพระองค์) พวกผมก็อดไม่ได้ที่จะปลื้มใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว พวกเราก็ยกมือไหว้พระองค์ พระองค์ทรงแย้มพระสรวล พอพระองค์จะเสด็จฯ กลับ พวกเราก็รีบยกขบวนไปส่งเสด็จจนติดรถพระที่นั่งกันเลยครับ อยู่ๆ พระองค์ก็หันมาพูดกับคณะของผมว่า วันนี้พระองค์ฯ มากันหลายคนหน่อยนะ และพวกเรามากันกี่คน แล้วพระองค์ก็ตรัสอีกว่าแล้วพบกันใหม่นะ.....หลังจากนั้น ไม่นานผมก็ได้มีโอกาสอีกหลายครั้งที่ได้เข้าเฝ้าถวายสิ่งของ และได้ทำงานดังกล่าวถวาย...ถือเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตเลยครับ

จากคุณ : นพ

******************************

ความคิดเห็นที่ 37

ครั้งหนึ่งขณะยืนเลือกของอยู่ที่ร้านลอฟท์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สักพักรู้สึกว่ามีคนมายืนข้างๆ ดิฉันก็หันไปมอง ตกใจมากเลยค่ะ สมเด็จพระเทพมายืนเลือกสมุดอยู่ข้างๆ ท่านเสด็จมาพร้อมกับพระสหายอีกหนึ่งท่าน ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย นอกจากไหว้ท่านไปหนึ่งครั้งแล้วเดินหลบออกมามองท่านห่างๆ รู้สึกดีใจมากๆค่ะ

จากคุณ : ความประทับใจ

******************************

ความคิดเห็นที่ 41

ที่ สยามอาราก้อน เอ้ย สยามพารากอน
วันขี้นปีใหม่ ที่ร้านหนังสือ คิโนคุนิยะ
ระหว่างที่ผมก้มหน้าก้มตาเดินดูหนังสือไปเรื่อยๆ
มาถึงชั้นหนังสือภาษาฝรั่งเศส ผมก็ต้องหยุด
เมื่อพบว่า ชั้นนี้มีคนดูเยอะ ก็เงยหน้ามองดูเพื่อ
จะเดินไปชั้นอื่น แต่ผมแทบทรุด เพราะว่า
ที่ชั้นนั้น สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ ทรงทอดพระเนตร
หนังสืออยู่ พร้อมผู้ตามเสด็จ ไม่กี่คน ใจในก็คิดว่า
เกือไปแล้ว เกือบไปชนท่านแล้วไหมล่ะ
ก็มานึกอีกที วันปีใหม่ ได้เข้าเฝ้าท่านอย่างใกล้ๆ
นอกจากเคยเฝ้าในงานกาชาด หรืองานที่โรงเรียนที่
เห็นท่านแต่ไกลๆ ก็นับว่าเป็นพรปีใหม่ที่พิเศษสุดของผมคับ

จากคุณ : พ่อปลัด

******************************
ความคิดเห็นที่ 42

ผมมีอยู่เรื่องหนึ่งครับ อาจจะไม่ประทับใจเท่าไหร่สำหรับคนอื่น แต่เป็นภาพที่งามมากสำหรับผมเลย

สมัยเรียนป.ตรี รุ่นของผมรับปริญญากับพระองค์ท่านครับ งานรับปริญญามีสองวัน คณะของผมรับวันเดียวกับคณะอักษรศาสตร์

พวก เราบัณฑิตตอนที่รอรับก็นั่งรอ ก่อนรับก็ตื่นเต้น พอรับเสร็จก็มานั่งชื่นชม บางคนก็นั่งเหนื่อย เพราะนั่งมาหลายชั่วโมง ในขณะที่พระองค์ท่านทรงพระราชทานปริญญาบัตรอยู่ตลอดเวลา

ปกติ การรับปริญญา (ของมหาวิทยาลัยผมนะครับ ที่อื่นคาดว่าเหมือนกัน) จะเรียงตามลำดับตัวอักษรครับ

วัน นั้น คณะอักษร ฯ รับเป็นคณะสุดท้าย คนสุดท้ายของคณะ (ซึ่งเป็นคนสุดท้ายของวัน) นี้ชื่อ อา... (ขออภัยครับ หลายปีแล้ว ผมจำไม่ได้จริง ๆ แต่ชื่อ อา อะไรซักอย่างครับ)


คนอื่นก่อนหน้าจะเดินขึ้นมาตามปกติ แต่คนนี้ต้องมีคนจูงขึ้นเวที ผมและเพื่อน ๆ ก็งงว่าเค้าเป็นอะไร

สังเกตดูดี ๆ ถึงทราบว่า

คนสุดท้ายนี้เป็นคนตาบอดครับ เป็นคนตาบอดคนเดียวสำหรับรุ่นผมเลยที่ผมทราบ

เค้าเดิน (แบบมีคนจูง) ขึ้นมาช้า ๆ พออยู่หน้าที่ประทับแล้วก็ยื่นมือไปรอพระราชทานปริญญาบัตร

ตาม ขั้นตอนปกติ ท่านจะทรงยื่นปริญญาบัตรมาวางพักไว้ที่ด้านหน้าที่ที่ทรงประทับอยู่ แล้วคนทั่วไปก็จะยื่นมือไปรับจากพระหัตถ์ท่านใช่มั้ยครับ

สำหรับ นิสิตคนนี้ พอพระเทพ ฯ ท่านทรงนำปริญญาบัตรไปวางพักไว้ที่ตรงนั้นแล้ว (ตรงหน้าท่าน ระหว่างท่านกับนิสิตผู้นั้นพอดี) แต่เนื่องจากคนนี้ตาบอด มือเค้าจะวางเยื้องไปทางขวาค่อนข้างมาก ประมาณว่าเกือบ ๆ สองฟุตเลยทีเดียวที่ผมเห็น ผมเห็นก็นึกว่าคนที่จูงเค้ามาจะช่วยบอกทิศให้เอื้อมมือกลับไปทางซ้ายเพื่อ ที่จะไปรับปริญญาได้

แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ พระองค์ท่านทรงเอื้อมพระวรกาย (คาดว่าอาจจะลุกจากที่ประทับเลย) เพื่อที่จะทรงพระราชทานปริญญาบัตรของเค้าให้กับมือของเค้าโดยตรงครับ

เป็น การปิดท้ายคนสุดท้ายในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรที่สวยงามและน่าประทับใจจริง ๆ ทุกคนปรบมือดังและยาวนานเป็นพิเศษสำหรับคนสุดท้ายนี้เลย

ขอให้ฟ้าคุ้มครองครับ

แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 49 18:21:24

แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 49 05:55:52

จากคุณ : Quasi

******************************

ความคิดเห็นที่ 43

เมื่อปีที่แล้ว ไปงานพระราชทานปริญญาบัตรที่ราม ด้วยความว่า ผมไปถึงเวลาใกล้เสด็จฯครับ ท่านเสด็จฯตรงเวลาครับ(รู้สึกก่อนเวลาอีก) ตอนนั้น เหมือนถนนรามคำแหง นอนหลับ ประชาชนนิ่งเงียบ เมื่อรู้ว่า พระเทพจะมา

วันพระราชทานปริญญาบัตรนั้น ได้ยินว่า "ให้จัดเข้าเรื่อยๆเลย ท่านขอพักเสวยครึ่งชั่วโมงเท่านั้น"

ช่วง พระราชทานปริญญาบัตร ประมาณ 5 วัน ทรงพักวันละครึ่งชั่วโมงเท่านั้นครับ แต่ละวันก็เสด็จฯกลับไปทรงงานต่ออีก (ดูข่าวในพระราชสำนัก)

จากคุณ : natthas

*****************************

ความคิดเห็นที่ 45

เก็บความปลื้มปิติของตัวเองไว้เกือบจะยี่สิบปีผ่านมาเห็นจะได้ ขออนุญาต

บ่าย วันนั้น ผมพาฝรั่งลูกทัวร์ห้าคนขึ้นไปชมภูเขาทองวัดสระเกศ ช่วงขาเดินลง ผมก็สนทนาปราสัยกับลูกทัวร์ไปเรื่อยเปื่อยตามอาชีพมัคคุเทสก์โดยไม่สนว่าใคร จะเดินผ่านไปมา ประจวบก็บันไดที่คดโค้งบนภูเขาทอง ผมก็ไม่ใคร่จะใส่ใจว่าใครเดินไปมา กว่าจะรู้ตัวก็ตอนเดินเข้ามาใกล้ๆ กันนั่นแหละ และในช่วงระหว่างครึ่งทาง ผมเกือบจะเดินสวนกับกลุ่มคนสี่ห้าคนที่กำลังเดินขึ้นมา พอหันไปมองช่วงใกล้ๆ จะจวนตัวนั่นแหละ.......ผมถึงได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่าน คือสมเด็จพระเทพฯ ....ตอนแรกก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก เพราะผิวพระองค์ออกจะคล้ำๆ นิดหนึ่ง ประจวบกับชุดที่พระองค์ทรงอยู่ก็เหมือนคนทั่วๆ ไปธรรมดา เนื่องเพราะไม่เคยเห็นหรือเข้าเฝ้าเจ้าฟ้าเจ้านายกับเขาในชีวิต ทำให้ผมนึกไปว่าเจ้าฟ้าเจ้านายคงมีผิวพรรณที่ขาวและสะอาดสะอ้าน......พอได้ เห็นพระองค์ท่านจริงๆ ...ผมลังเลนิดหนึ่งว่าใช่ไม่ใช่?? ก็ต่อเมื่อเห็นองค์รักษ์สองคนที่ถือwalkie talkie อยู่นั่นแหละ ผมก็มั่นใจ.....ประจวบกับพระองค์ทรงหยุดมาถามผมนั่นแหละว่าเป็นมัคคุเทสก์พา ฝรั่งเที่ยวหรือ??......ผมสั่นเลยครับ สั่นมากเลยล่ะ....ฝรั่งลูกทัวร์ออกอาการงง ที่ผมหยุดและทำท่านอบน้อม ตอนนั้นย่อตัวแทบนั่งกับขั้นบันไดบนภูเขาทอง......ราชาศัพท์ก็ไม่รู้เรื่อง ....สั่นไปหมด สุดท้ายก็หลุดปากไปภาษาที่คิดว่าสุภาพที่สุดครับ "ขอรับกระผม"


พระองค์ตรัสถามฝรั่งลูกทัวร์ผมเป็นภาษาอังกฤษ สั้น "Is he a good guide?" ลูกทัวร์ซึ่งไม่รู้ว่าพระองค์เป็นใครก็พยักหน้าตอบ "Yes".....จากนั้นพระองค์ก็เสด็จขึ้นบนภูเขาทองต่อ.....คล้อยหลัง ฝรั่งลูกทัวร์ถามผมว่าพระองค์เป็นใคร ผมตอบสั้นๆ (ตอนนั้นยังตื่นเต้นอยู่ แม้ขณะเขียนอยู่ตอนนี้ก็สามารถจับความรู้สึกตื่นเต้นตอนนั้นได้) she is a princess. ฝรั่งลูกทัวร์ส่ายหัวไม่เชื่อ You must be joking. เขาคิดว่าผมกำลังพูดเล่น (อาจจะเนื่องด้วยที่ชุดที่พระองค์ทรงอยู่ ดูเหมือนคนทั่วไปธรรมดา


มาก) .....เพราะรู้สึกภูมิใจและรู้สึกว่า "ยังไม่พอ" ที่ได้เห็นพระองค์ท่านในสถานการณ์ที่ไม่มีพิธีรีตองอะไรอย่างนี้ ผมจึงชวนฝรั่งลูกทัวร์ขึ้นเดินย้อนกลับขึ้นไปบนภูเขาทองอีกครั้งเพื่อ พิสูจน์ .....ตอนนั้นผมนึกไว้ในใจแล้วว่า นักท่องเที่ยวคนไทยที่อยู่บนภูเขาทองเห็นพระองค์ท่านเข้า อย่างน้อยๆ ก็คงต้องทำความเคารพ.....จริงดั่งคาด เมื่อพวกเราย้อนกลับขึ้นไปข้างบนภูเขาทอง เหล่าคนไทยที่อยู่บนภูเขาทองต่างก็นั่งบนพื้นแสดงความเคารพต่อพระองค์ ฝรั่งลูกทัวร์ผมถึงบางอ้อตรงนั้น.......และช่วงขาลงจากภูเขาทอง ผมก็ได้บรรยายพระเกียรติคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาให้ฝรั่งลูกทัวร์ฟัง ด้วยความปลื้มปิติ



พระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้าเจ้านายที่ผมเคารพและเทิดทูนที่สุด ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

จากคุณ : คนอุดรฯ

******************************

ความคิดเห็นที่ 48

มีโอกาสได้พบท่านหลายครั้ง ตอนรับปริญญาคิดว่า
ใกล้ ชิดที่สุดแล้ว จนเมื่อตอนที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ ได้ไปช่วยจัดของบริจาคที่สภากาชาดไทยกับเพื่อน ได้มีโอกาสรับเสด็จท่าน และคอยรอเวลาที่ท่านจะเสด็จกลับ จนท่านเสด็จออก ก็มีคนไปตั้งแถวรออยู่หลายคน แล้วก็มีลุงคนหนึ่ง ถวายเงิน 20บาท พอคนอื่นๆเห็น ก็อยากทำตามบ้าง แต่ท่านก็เดินเลยไปแล้ว หลายๆคนก็วิ่งตาม จนไปรุมท่าน(ขออภัยไม่ทราบว่าจะใช้คำอะไร)อยู่หน้าประตูรถพระที่นั่ง ท่านจะถอยหลังก็ไม่ได้ แล้วคนก็กรูกันมาเพื่อจะแย่งกันถวายเงิน  เราอยู่ข้างหลัง เข้าไปไม่ถึง ดูอยู่ห่างๆ ยังกังวลว่าทำไมไปรุมท่านกันขนาดนั้น แต่เพื่อนผู้ว่องไว ได้ยืนอยู่ระยะใกล้ชิดท่าน มาเล่าให้ฟังว่าท่านทรงพระสรวลแล้วบอกว่าอย่ามาชนฉันหกล้มล่ะ ท่านทรงไม่ถือองค์จริงๆ

จากคุณ : ม่านมัสลิน

******************************
ความคิดเห็นที่ 50

ตอนนั้นผมไปสยามดิสฯ ตรงแถวๆร้าน Asia book กำลังเดินเล่นอยู่ สักพักรู้สึกว่ามีกลุ่มคนกลุ่มนึงกำลังเดินสวนมา พวกผมกับเพื่อนก็สงสัยกันก็เลยหยุดรอไม่เดินสวนเข้าไปหา สักพักก็เห็นพระองค์ท่าน เพื่อนผมกับผมที่กำลังเดินหน้ากระดานกันอยู่ รีบแปรรูปขบวนมายืนชิดขอบทางอย่างรวดเร็ว

แล้ววินาทีนั้นก็มาถึง พระเทพทรงเสด็จผ่านหน้าพวกเราไปในระยะประชิดมาก มากจนพวกเรายกมือไหว้ไม่ได้ เพราะกลัวว่าพระองค์จะตกพระทัยก็ได้แต่ยืนค้อมตัวอย่างเรียบร้อยที่สุด หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ไม่นึกว่าจะได้ใกล้ชิดพระองค์ขนาดนั้น
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 49 01:46:30

จากคุณ : Troi

******************************

ความคิดเห็นที่ 52

อยากเล่าเหมือนกัน

ครั้งหนึ่ง เคยมีโอกาสครั้งสำคัญ นั่งอยู่หน้าพระองค์ท่านเมื่อครั้งเสด็จทรงระนาดในงานดนตรีไทยมัธยมศึกษา

ด้วยความที่อยู่ห่างพระองค์ท่านไม่มาก เสียงระนาดที่ทรงอยู่ทุกจังหวะดังเข้าหู เป็นเสียงสด ที่ไม่ได้ผ่านเครื่องขยายเสียง

ระนาดทุกลูกล้วนส่งเสียงเพราะเสนาะ สะท้อนให้เป็นที่ประจักษ์ว่าเป็น "ของแท้"
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 49 18:17:28

จากคุณ : AntiS

******************************

ความคิดเห็นที่ 55

ขอเล่าบ้างนะครับ เป็นเรื่องที่ปลื้มในใจตลอดเวลาที่ได้มีโอกาสเช่นนี้

ก็นานมากแล้วครับ สิบกว่าปีแล้วครับ สมัยยังเรียนอยู่ที่พระจอมเกล้า ลาดกระบัง สมเด็จพระเทพฯท่านเสด็จมาทรงวางศิลาฤกษ์ หอสมุดใหม่ แล้วผมได้มีโอกาสได้ไปยืนเฝ้าระหว่างทางที่ท่านจะเสด็จผ่าน เพื่อความปลอดภัย
จัดแถวไปจัดแถวมาผมเกิดได้ไปยืนใกล้กับลาดพระบาทที่ ปูข้ามถนนมาเพื่อให้พระองค์เสด็จผ่าน แล้วดันมีรถนักข่าวที่มาช้า วิ่งทับลาดพระบาท ทำให้ลาดพระบาทเลอะรอยล้อรถ (แล้วช่วงนั้นก็มีฝนมาก่อนทำให้ค่อนข้างเลอะเห็นได้ชัดมาก) อาจารย์ที่ยืนอยู่แถวนั้นเลยรีบหยิบกระดาษทิชชู่แล้วยื่นมาให้ผมไปรีบเช็ด ลาดพระบาท ผมก็รับกระดาษไปด้วยความตื้นเต้นแล้วก็รีบไปเช็ดลาดพระบาท เช็ดไปด้วยความตื่นเต้น เหมือนคนทำอะไรไม่ถูก

พอเช็ดเสร็จอีกสักพัก ท่านก็เสด็จผ่านมา แต่โอกาสมองท่านได้นิดเดียวเท่านั้นเพราะแถวนักศึกษานี้เค้าไม่ให้หันไปมอง ท่านมากเพราะมาเข้าแถวเพื่อความปลอดภัย และก็จะมีผู้ตามเสด็จ อาจารย์ และก็นักข่าวมากันมากมายเลยไม่สามารถที่จะเห็นท่านได้ชัดนัก

เป็นความภูมิใจที่สุดในชีวิตครับที่ครั้งนึงได้มีโอกาสเช็ดลาดพระบาทให้กับสมเด็จพระเทพครับ

จากคุณ : kotaroz

******************************

ความคิดเห็นที่ 57

อ่านของหลายๆท่านในที่นี้แล้ว รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จนต้องขอเล่าบ้าง
ของ ผมเอง มีโอกาสได้เข้าเผ้าฯพระองค์ท่านห่างๆอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่เด็กๆเคยเล่นโขนหน้าพระที่นั่ง แม้จะเป็นตัวเล็กๆ ออกแป๊บเดียว แต่ก็จำภาพที่ทรงทอดพระเนตรการแสดงอยู่ได้อย่างดี ต่อมาก็เคยเฝ้าส่งเสด็จฯพระองค์ท่าน ตอนเสด็จฯมาเปิดพิพิธภัณฑ์ที่โรงเรียน
แต่ ที่ประทับใจที่สุดคือ วันที่ท่านเสด็จฯมาในวันสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปี 2545 โดยหลังจากที่ทรงบาตรเสร็จแล้ว ก็ทรงพระดำเนินเยี่ยมบุคคลากรที่มาร่วมตักบาตรด้วย เมื่อเสด็จถึงโต๊ะของร้านสหกรณ์จุฬาฯที่ผมยืนอยู่ ก็ทรงทักทันทีว่า "ขายดีล่ะสิ" แล้วก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ ผมยังจำได้ว่า ปีนั้นพระองค์พึ่งเสด็จกลับจากเมืองจีนไม่กี่วันก่อนหน้านั้น พระพักตร์ยังออกสีอมชมพูอยู่เลย ช่วงบ่ายก็มีโอกาสเข้าไปชมการแสดงดนตรีไทยที่ท่านทรงเล่นระนาดเอกและขับร้อง ด้วยพระองค์เอง ทำให้ผมรู้สึกประทับใจงานวันนั้นและยังจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้
ที่รู้สึก ประทับใจยิ่งขึ้นคือ ในวันนั้นผมเข้าไปชมนิทรรศการที่หอประวัติฯ ตึกจักรพงษ์ หลังหอนาฬิกา (เรียนมาจะ4 ปี พึ่งเคยเข้าไปครั้งแรก) พบนักศึกษาชาวจีนคนหนึ่ง ซึ่งเขาเล่าให้ฟังว่า ชาวจีนรู้จักพระองค์ดี และรักพระองค์มาก เพราะทรงสนพระทัยในเรื่องราวของประเทศจีน ฟังแล้วรู้สึกตื้นตันใจมากๆครับ

จากคุณ : !P!O!N!G! (NaRoOn)

******************************

ความคิดเห็นที่ 58

เล่ามั่ง

เมื่อปี 2540 เรารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระองค์ท่าน ก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดากลัวว่าจะรับงานผิด  พอถึงตาเราจะรับงาน เราเห็นพระองค์ท่านหลับตา ก็กลัวว่าพระองค์จะไม่รู้ว่าเรามาถึงหน้าพระพัก เราก็ไม่ยื่นมือ กะว่าให้พระองค์ท่านลืมตาก่อนแล้วเราถึงจะรับงาน เราก็มองท่าน ท่านคงเห็นว่าเราไม่รับงานซักทีก็เลยลืมตา เราก็สบตาท่านพอดี ท่านคงจะงงนิดๆ ว่าทำไมไม่รับงานซักที แต่ก็ผ่านไปด้วยดี

ตอนหลังมาถึงบางอ้อ ว่าท่านก็มีพระปรีชาสามารถพระราชทานปริญญาบัตร โดยการหลับตา ทำให้เรารู้สึกผิดที่ปลุกท่านให้ตื่น

จากคุณ : ต้นลูกตาล

******************************

ความคิดเห็นที่ 65

ขอแจมค่ะ

เคยไปเดินสยามดิสคัฟเวอร์รี่แล้วพบพระองค์ท่านโดยบังเอิญสองครั้งค่ะ

ครั้ง แรกเดินกำลังเดินเข้าไปในเอเชียบุ๊ค ท่านกำลังทรงเดินสวนออกมา แต่ก็เสด็จช้า ๆ พร้อมมีพระปฏิสันฐานกับผู้คนในร้านด้วย จำได้ว่าได้ยินพระสุรเสียงชัดเจนมาก หลังจากนั้นเลยจำเสียงท่านได้ไม่ว่าได้ยินที่ไหน

อีกครั้งหนึ่งนัด กับเพื่อนไว้สองคนในห้าง หลังจากเจอเพื่อนคนนึงแล้วระหว่างรอเพื่อนอีกคนหนึ่ง หนูกับเพื่อนก็เดินไปเรื่อยเปื่อย ก็พบท่านทรงพระดำเนินมาจากร้านภูฟ้าคราวนี้หนูกับเพื่อนก็วิ่งตามเสด็จแล้ว หละค่ะ ตามไปดูว่าท่านไปไหนบ้าง ก็เห็นท่านทรงบันไดเลื่อนขาลงปน ๆ ไปกับผู้คนในห้าง บางคนเห็นพระองค์แล้วก็ทำท่าตกใจ แล้วก้มหน้างุด ๆ ที่คุย ๆ กันอยู่ก็วงแตกมาถอนสายบัวรับเสด็จ ท่านก็ยิ้มให้ มีแต่พวกชาวต่างชาติที่เดิน ๆ ตัดหน้าพระองค์ไปแบบไม่สนใจ เห็นแล้วหนูกับเพื่อนรู้สึกโมโหพวกคณะผู้ติดตามที่ปล่อยให้พระองค์เดินนำ หน้าไปแต่เพียงลำพังแบบนั้นจัง แต่ดูเหมือนพระองค์จะไม่ใส่ใจอะไรค่ะ

หนู กับเพื่อนเดินตามจนท่านเสด็จออกไปนอกห้างแล้ว สักพักก็ได้พบเพื่อนที่รออยู่ เพื่อนบอกว่าได้พบพระองค์ท่านที่ด้านนอก แถมยังได้เห็นเหตุการณ์เด็กแนวแถว ๆ หน้าห้างทำทะเล่อทะล่าใส่พระองค์ท่านด้วย คือน้องเค้าเดิน ๆ เอะอะมะเทิ่งอยู่กับเพื่อน ๆ น่ะค่ะ แต่เค้าก็เดินแจ้นออกมาหน้ากลุ่มเพื่อน ๆ แล้วกำลังเสียงดังประกาศศักดาอยู่พอดีก็หันไปจ๊ะเอ๋กับพระองค์ท่านซึ่งกำลัง พระดำเนินอยู่ในระยะประชิด คงจะตกใจ น้องคนนั้นก็โพล่งขึ้นมาว่า "อุ๊ย สวัสดีค่ะ" แล้วก็วิ่งงุด ๆ หนีไปเลย

ในงานรับพระราชทานปริญญาของหนู พระองค์ก็โดยเสด็จฯด้วยค่ะ แต่เห็นพระองค์ท่านหลับตลอดเวลา ตอนอยู่บนเวทีหอประชุมก็ลุ้นให้ท่านทรงตื่นขึ้นมา แต่ก็ทรงหลับอยู่อย่างนั้น รูปที่ติดไว้ที่ฝาบ้านทุกวันนี้เลยมีแต่หนูกับในหลวงค่ะ

จากคุณ : สุดสวยแห่งอัมสเตอดัม

******************************

ความคิดเห็นที่ 77

คือ เราอยากเล่าบ้างเราเก็บความประทับใจมานานมาก ๆๆ
เมื่อ ครั้งที่เราเป็นเด็กนักเรียนอยู่ที่จังหวัดเชียงราย และก็เป็นดุริยางค์ของโรงเรียน ทุกครั้งที่ท่านเสด็จเยือนเชียงราย และพระตำหนักดอยตุง วงค์ดุริยางค์ก็จะบรรเลงเพลงมหาฤกษ์มหาชัยรับเสด็จทุกครั้ง พอเสด็จกลับก็จะบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
จำได้ว่าครั้งหนึ่งสมเด็จ ท่านมาเปิดงานงานหนึ่ง แล้วท่านก็เสด็จผ่านประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จ ท่านก็ทรงซักถามและก็เป็นกันเองมาก เราเองอยู่ในแถวดุริยางค์ ยังปลื้มอกปลื้มใจไม่ลืม เคยคิดว่าถ้าหากพระองค์ท่านทรงรับสั่งถามเรา เราจะใช้คำราชา๋ศัพท์เป็นมั้ย ตอนนั้นเราคิดแต่เพียงว่าเพียงแต่เห็นพระำำพักตร์ของพระองค์ท่าน ไม่ว่าจะยืนรับเสด็จอยู่ไกลแค่ไหนก็มีความสุขแล้ว
จนเมื่อ สามปีที่แล้ว หลังจากจบมหาลัย เราก็ได้ไปเรียนภาษาจีนที่กวางโจวและ
เรา ได้มีโอกาสไปรับเสด็จรวมกับนักเีัรียนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่หน้าสถานทูตไืทยใน นครกวางโจวครั้งนั้นนักเรียนไทยต้องยืนเป็นแถวรับเสด็จ เรายืนอยู่เป็นคนที่ห้าจากหน้าสุด เมื่อรถพระที่นั่งมาถึง พระองค์ท่านทรงพระดำเนินมาและก็หยุดอยู่ตรงหน้าเรา เราถอนสายบัวเสร็จ พระองค์ก็ืทรงซักถาม เราน้ำตาไหล มือสั่น ตอบคำถามแบบไม่มีคำราชา๋ศัพท์ดีที่พี่ที่ยืนอยู่ข้างช่วยเราตอบคำถาม พระองค์ทรงถามเป็นกันเองมาก เรียนที่ไหน ชอบเมืองนี้มั้ย พูดจีนได้คล่องรึยัง นักเรียนไทยเยอะมั้ย หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงพระดำเนินไปยังที่ประทับ
สรุป เราก็ปลืิ่ืมในพระกรุณามหาธิคุณของพระองค์ท่านมากๆๆ จากนั้นเราก็ตั้งใจเรียนภาษาจีน(เกี่ยวมั้ย )อยากรับเสด็จอีก และเท่าที่รู้คนจีนก็รักพระองค์มากเช่นกันค่ะ
ขอพระิองค์ทรงพระเึจริญ
ผิดถูกขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ัะ

แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 49 06:08:02

แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 49 05:37:36

จากคุณ : P (atinarock)

******************************

ความคิดเห็นที่ 80

เรื่องแรก คุณพ่อเล่าให้ฟังค่ะ

สมัยคุณพ่อเรียน อยู่ ปริญญาโทอยู่มศว.ประสานมิตร สมเด็จพระเทพฯ ทรงเสด็จมาที่ตึกคณะที่คุณพ่อเรียนอยู่ คณะอาจารย์ก็เชิญเสด็จท่านขึ้นลิฟท์ค่ะ ตั้งแต่ชั้นล่างเลย ไม่ทราบจะขึ้นไปชั้นไหน แล้วคุณพ่อ กับเพื่อนๆซึ่งเพิ่งจะเรียนเสร็จจากชั้นกลางๆของตึกนั้น ก็ทะเล่อทะล่า กดลิฟท์ซะ......
พอลิฟท์เปิด คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า เห็นสาวน้อยคนนึงถักเปียคู่ด้วย ยืนอยู่ในลิฟท์ล้อมรอบด้วยอาจารย์ระดับสูงๆ ซึ่งทำหน้าดุใส่นักศึกษาที่มาเปิดลิฟท์ อารมณ์คุณพ่อดิฉันตอนนั้น ก็อึ้งค่ะ พอนึกขึ้นได้ ก็รีบโค้งถวายความเคารพก่อนประตูลิฟท์ปิด สมเด็จพระเทพฯท่านก็สรวลให้ คุณพ่อบอกว่าภาพติดตามากค่ะ ท่านเป็นสาวน้อยที่น่ารักมากที่สุดที่คุณพ่อเคยเห็นเลย

ส่วนความ ประทับใจของตัวเอง ตอนเด็กๆดิฉันเรียน โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ แล้วเค้ามีเปิดตึก โดยอัญเชิญพระนามมาเป็นชื่อ ชื่อว่า ตึกสิรินเทพ (ถ้าผ่านทางด่วนจะเห็นนะคะ) แล้วสมเด็จพระเทพเสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด ตอนนั้นได้รำถวายหน้าพระที่นั่งค่ะ เป็นระบำฝัดข้าว ก็รำกันทั้งรุ่น ตอนอยู่ในแถวด้วยความอยากเห็นพระพักต์มาก ก็เลยชะโงกหน้ามาดูท่านนอกแถว เห็นท่านนั่งอยู่ก็ปลื้มมากแล้วค่ะ แล้วมารู้ทีหลังว่าเพื่อนๆก็แอบชะโงกหน้ามาดูท่านกันเกือบทุกคนเลย ระหว่างที่อยู่โรงเรียนนี้ก็ได้มีโอกาสรับเสด็จอยู่เรื่อยๆค่ะ

ตอนนี้ดิฉันเรียนปริญญาโทอยู่ราม ปี 2550 จะได้รับปริญญากับท่านค่ะ ดีใจมากๆเลยค่ะ

ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนานค่ะ

พ่อให้มาแก้นิดหน่อยค่ะเพื่อความถูกต้อง * *
แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 49 01:09:57

จากคุณ : Chollaphin

******************************

ความคิดเห็นที่ 84

ขอป้าเล่าบ้างนะจ๊ะ
ตอนสมเด็จพระเทพท่านเสด็จพังงา ทางจังหวัดได้ปูลาดพระบาทไว้ด้านบน(เป็นระยะทางที่สั้นที่สุดที่จะดำเนินจะ จุดจอดรถพระที่นั่งถึงประรำพิธี) และจัดให้ประชาชนที่มาเฝ้าชมพระบารมีนั่งอีกทางนึงซึ่งไกลจากลาดพระบาทพอ สมควร
พอรถพระที่นั่งจอดสนิท พระเทพท่านไม่เดินบนลาดพระบาทค่ะ ท่านเสร็จมาทางประชาชนที่เข้าเฝ้า ดำเนินเร็วมาก พวกข้าราชการปั่นป่วนกันใหญ่ เพราะตามเสด็จไม่ทัน แถมมีคูน้ำ(นึกภาพคูน้ำตามจังหวัดออกหรือปล่าว ท่อคอนกรีตใหญ่ๆไงคะ) ขวางท่านอยู่ ท่านเอ่อ....กระโดดข้ามมาเลยค่ะ ไม่ถือพระองค์เลย

จากคุณ : ...ป้าปราง...

******************************
ความคิดเห็นที่ 88

เคยไปกินอาหารจีนที่สยามเซ้นเตอร์ ตอนเดินเข้าไปที่ร้านพนักงานที่ร้านพาไปนั่งที่โต๊ะโต๊ะนึง แต่เราเห็นว่าโต๊ะริมหน้าต่างว่างอยู่ อยากไปนั่ง จะได้เห็นวิวห้าง Paragon ที่เพิ่งเปิด น้องพนักงานก็กระซิบว่าไม่ได้ค่ะ เพราะทูลกระหม่อมประทับอยู่ ก็เลยมองที่โต๊ะข้างๆที่มีกลุ่มคนสิบกว่าคนอยู่ ก็เลยได้เห็นพระองค์ท่านประทับอยู่ช่วง กลางๆโต๊ะ ตอนนั้นเกิดอาการตื่นเต้นมากมาย โต๊ะที่เรานั่ง
ก็อยู่ห่างจากโต๊ะของ ท่าน 2-3 เมตร ตอนกินก็พยายามก้มหน้า เพราะเงยหน้าขึ้นก็เห็นพระพักตร์ท่าน กลัวจะเป็นการรบกวนท่าน ตอนท่านเสด็จกลับ ทางเดินของร้านก็ค่อนข้างเล็ก เราก็เลยคลุกเข่าข้างโต๊ะส่งเสด็จ มองอีกที ผู้ตามเสด็จคนหนึ่งเป็นคนรู้จักกัน เขายกมือสวัสดีเราแล้วรีบเดินตามเสด็จต่อ เพราะท่านดำเนินเร็วมาก สำหรับเรา แทบไม่รู้รสอาหารมื้อนั้นเลย มันตื้นตันจนเกือบกินไม่ลงเลย ตอนกินเราก็มองไปที่กิริยาอาการของลูกค้าอื่นๆ ส่วนมากจะรู้ว่าท่านเสด็จ ดูจากสีหน้าอิ่มเอิบตื้นตัน แต่มีบางคนก็ไม่รู้ตัวนะ เพราะไม่มีพิธีรีตรองอะไร จนท่านเสด็จกลับ คนที่รู้ก็จะลุกยืนกันพรึบก็ถึงรู้ก็มีค่ะ
แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 49 12:25:07

จากคุณ : เจริญกรุงต้นซอย (เจริญกรุงต้นซอย)

******************************

ความคิดเห็นที่ 117

ขอเล่าด้วยคนนะครับ ตอน๑
ผมในฐานะที่จบจากโรงเรียน นายร้อยพระจุลจอมเกล้าได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลกระหม่อมอาจารย์อยู่หลายๆครั้ง ผมขออนุญาติเล่าเรื่องต่างๆที่ ทูลกระหม่อมอาจารย์ ทรงปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบันนี้ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เพื่อ
ให้ คนอื่นๆที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนได้ทราบถึง พระจริยะวัตรอันงดงาม ความไม่ถือพระองค์ และความเรียบง่ายของพระองค์ท่านนะครับ นักเรียนนายร้อยต่อไปจะพิมพ์ว่า นนร. นะครับ นนร.นับว่าโชคดีมากที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดพระองค์ท่านอยู่เสมอๆ เริ่มจาก ตอนเปิดภาคการศึกษาแรกนั้น นนร.ทั้งหมดจะต้องเดินแถวไปยังส่วนการศึกษาในตอนเช้า ซึ่งปกติจะทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วแต่ ใน
วันแรกของปีการศึกษาทูล กระหม่อมอาจารย์จะมารับแถวในตอนเช้าให้พวกเรา นนร.ได้แสดงความเคารพพระองค์ท่าน ในวันแรกวันนั้น หลังจากนั้น นนร.ทุกคนจะเฝ้ารอจนถึง ชั้นปีที่ ๒ เพราะ ในชั้นปีนี้ พวกเราทุกคนจะได้เรียน วิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาที่พระองค์ ทรงสอน หลายท่านอาจสงสัยว่าพวกเราเรียนกันยังไงนะครับ เริ่มแรกก็จะเข้าห้องเรียน เวลา ๑๐๐๐ น. ถึง ๑๒๐๐ น.
ที่กองประวัติศาสตร์ ห้องเรียนรวมนะครับ( อาทิตย์ ละ ๑ ครั้งนะครับ ) พวกเราจะไปพร้อมกันก่อนอยู่แล้ว
ลืม บอกไปหน่อยนะครับ ขบวนเสด็จของทูลกระหม่อมอาจารย์ จะมีเพียงรถนำแค่ ๑ คันและก็รถที่ประทับเท่านั้นนะครับ และก็สภาพภายในห้องเรียนก็จะมีผู้ติดตามพระองค์ไม่กี่ท่าน และก็พวกเรา นนร.ชั้นปีที่ ๒ ทั้งชั้นปี องครักษ์ นี่ไม่มีนะครับ ส่วนการสอนทูลกระหม่อมอาจาย์ จะสอนในครั้งแรก ครั้งที ๒ และ ครั้งสุดท้ายตอนสรุปจบนะครับ ส่วนในคาบอื่นๆก็จะมีอาจารย์ จากภายนอกที่
มี ความรู้ดีในด้านนั้นๆมาทำการสอน นนร. โดยมีทูลกระหม่อมอาจารย์ นั่งประทับฟังอยู่ด้วยโดยตลอด ครั้น เมื่ออาจารย์เปิดโอกาสให้ซักถาม พวกเราก็จะซักถามกัน และ ในบางครั้งทูลกระหม่อมอาจารย์ก็จะทรงพูดอธิบาย เพิ่มเติม ในประเด็นต่างๆ ให้พวกเรา นนร.ได้เข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตรงนี้ครับที่ผมอยากบอกให้ทุกคนได้รับรู้นะครับ ตั้งแต่ทูลกระหม่อมอาจารย์ เสด็จมาทรงสอน
ตั้งแต่วันแรกที่ทรงเสด็จมาเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อย จนถึงปัจจุบัน ทูลกระหม่อมอาจารย์ของพวกผมไม่เคย ขาดการสอนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าเรา
จะเห็นข่าวพระองค์ท่านอยู่ต่าง ประเทศหรือมีพระราชกรณียกิจที่อื่นใด ในวันรุ่งขึ้นที่ต้องทรงสอน ผมก็จะเห็นพระองค์ท่านประทับอยู่ที่นั่งตรงนั้นเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง พระองค์ท่านมีพระราชกรณียกิจมากทั้งวัน วันรุ่งขึ้นเพื่อนผมสังเกตเห็นพระองค์ท่าน นั่งแล้วเผลอหลับไป เพื่อนผมมันบอกผมว่า เฮ้ย ๆ ไอ่..... ดูเร็ว ดูเร็ว พระเทพหลับ พระเทพหลับ ผมก็หันไปดูก็เห็น อย่างนั้น ผมและพวกเพื่อนๆรู้สึกเป็นห่วงพระวรกายของพระองค์ท่านมากเลยครับ ในใจคิดเสมอครับว่าทูลกระหม่อมถึงแม้ว่าจะมีพระราชกรณียกิจมากมายเพียงใด พระองค์ท่านก็ไม่เคยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทูลกระหม่อมอาจารย์ของพวกกระผมเลย ทรงเป็น
ตัวอย่างที่ดีให้แก่ นนร. และเป็นโอกาสอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ที่พวกเราได้รับการสอนจากพระองค์ท่าน

จากคุณ : นายร้อย

******************************

ความคิดเห็นที่ 116

ขอเล่าด้วยคนนะครับ ตอน ๒
ระหว่างเรียนวิชาประวัติศาสตร์ในชั้นปีที่ ๒ นั้น จะมีการดูงาน พวกเราก็จะได้

ไปดูงานที่วัดพระแก้ว และ วังหลัง(ตำหนักใน) ที่ที่อยู่ด้านหลังวัดพระแก้วนะ

ครับ ซึ่งในวังหลังนี่เองเป็นที่ที่ห้ามมิให้ผู้ชายเข้าไปโดยเด็ดขาดก็มีแต่พวกเรา

นนร.นี่แหละครับที่ได้รับอนุญาต เป็นกรณีพิเศษจากทูลกระหม่อมอาจารย์ ให้

เข้าไปข้างในได้ ข้างในเราก็จะได้เห็นจุดกำเนิดของพวกเรา ที่มาจาก ทหาร

มหาดเล็กไล่กา (ในสมัยรัชกาลที๕ พระปิยมหาราช ได้แต่งตั้งลูกขุนนางชั้นสูง

ในวัง มาเป็นทหารมหาดเล็กประจำพระองค์ จำนวน ๑๒ นาย ซึ่งในขณะที่

พระปิยมหาราชทรงผนวช อยู่นั้นในระหว่างเสด็จบิณฑบาตร มักจะมีอีกามา

คอยจิกเศษข้าวที่ตกหล่น เหล่าทหารมหาดเล็กก็จะคอยไล่อีกาเหล่านั้นไม่ให้

มาต้องพระวรกาย จึงเป็นที่มาของทหารมหาดเล็กไล่กา และก็เป็นต้นกำเนิด

นนร. ของพวกเราด้วย ) และก็การดูงานในพระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระ

แก้วนั้น ก็จะมีบุคคลที่คอยให้ความรู้แก่พวกเราที่มาจากในวังสวนจิตรฯเลย

ซึ่งทำให้เราทราบข้อสงสัยต่างๆที่เราอยากรู้ในเรื่องต่างๆได้ และก็ในวันที่พวก

เราไปดูงาน นั้นในส่วนที่ปิดก็จะเปิดให้เราได้เข้าไปหมด เช่น ประสาทพระเทพ

บิดร พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และที่ประดิษฐานของพระสยามเทวาธิราช

ผมขอเล่าในส่วนที่ผมได้ไปเห็นมาหล่ะกันนะครับ เริ่มจากที่บรรทมของพระ

เจ้าอยู่หัว หลังพระที่นั่งอะไรสักอย่างผมก็จำไม่ได้ แต่จำได้แม่นว่า อยู่ในพระ

ที่นั่งเดียวกับที่ประดิษฐานของพระสยามเทวาธิราช ภายในห้องบรรทมนะครับ

ก็เป็นเตียงไม้ขึ้นเป็นอู่ธรรมดาๆเหมือนที่เราเห็นในหนังจักรๆวงศ์ๆนี่แหละครับ

คิดภาพตามนะครับเพื่อให้เห็นภาพ ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนกับวัดนะ

ครับมีหน้าต่างแต่ว่าที่ผนังไม่ได้วาดรูปอะไรลงไปและก็แบ่งกั้นห้องด้วยฉากไม้

แกะสลักเหมือนบ้านทรงไทยที่อยุธยา หรือในหนังไทยแหละครับ ส่วนที่โต๊ะ

เครื่องหอม (หรือโต๊ะเครื่องแป้ง) ก็จะมีโลหะสัมฤทธ์ไม่แน่ใจว่าเป็นทองหรือ

เปล่า ขัดมันให้เป็นเงาวาว ไว้แทนกระจกครับ ส่วนหน้าห้องก็จะเป็นที่เก็บ

เครื่องบรรณนาการ ต่างๆรวมถึง ของที่แลกเปลี่ยนกันระหว่างสยามและชาติ

มหาอำนาจ วางประดับไว้ในตู้ไม้ เท่าที่เห็นก็มี ดาบ กระบี่ ทองคำฝังเพชรทั้ง

เล่ม มีดาบของอเมกาด้วยนะครับ หัวดาบเป็นรูปนกอินทรีครับ ตรงนี้ครับที่

อยากบอกคุณรู้ไหมครับว่า ที่บรรทมตรงนี้ พระบาทสมเด็จพระเจาอยู่หัว

รัชกาลที่ ๑ ๒ และ ๓ สวรรณคต ณ ที่บรรทมนี้ และก็พระมหากษัตริย์ไทยทุก

พระองค์ก่อนที่จะปราบดาภิเษก ต้องเสด็จประทับบรรทมที่นี่ก่อนวัน

ปราบดาภิเษกนะครับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ก็ทรงประทับ

มาก่อนแล้ว
จริงๆแล้วมีเรื่องเยอะแยะมาก ทั้งเรื่องอิทธิฤทธิ์ของพระสยามเทวาธิราช หลาย

เรื่องมากครับแต่ที่เล่ามาก็เพื่อจะบอกให้ได้รู้ว่า ทูลกระหม่อมอาจารย์ให้

ความสำคัญแก่พวกเรา นนร.มาก ให้พวกเราได้เห็นในสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครจะได้

เห็นแม้แต่ เพื่อนนักเรียนนายร้อยเหล่าอื่นๆ ยังอิจฉาพวกเรานักเรียนนายร้อย

จปร.เลย สิ่งที่พวกเราได้เห็นนั้น ทำให้พวกเรารู้สึกรักและหวงแหนสมบัติอันมี

ค่าของชาติไทยของเรา และจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายสมบัติอันมีค่าเหล่านี้ได้
กว่าจะจบโรงเรียนนายร้อย ได้ดูงานมากมายหลายที่ เรียนตั้ง ๗ ปี ไปดูงานที่

วังสวนจิตรฯก็ไปมาแล้ว อีกที่หนึ่งครับที่ผม อยากเล่าให้ฟัง วังของทูล

กระหม่อมอาจารย์ที่ ปทุมธานีครับเป็นที่ที่ ติดแม่น้ำเจ้าพระยานะครับ ซึ่งที่

แห่งนี้ที่ผมได้ถามคนในนั้นดูนะครับ จะได้เข้าเฉพาะ นนร.ชั้นปีที่ ๕ และ

คณะอาจารย์จาก จุฬาฯ ซึ่งเป็นวังสวนปทุมน่ะครับ พิมพ์ไม่ผิดนะครับ ที่หลัง

สยามพารากอน นั้นวังสระปทุมนะครับ ที่วังนี้ผมยังตกใจเลยครับ ทางเข้าวัง

ที่นี่ขอบอกเลยครับ ไม่อยากเชื่อเลยครับว่าในซอยนี้จะมีวังของทูลกระหม่อม

อยู่ข้างใน ทูลกระหม่อมทรงเป็นตัวอย่างที่ดี ด้านความเป็นอยู่อย่างพอเพียง

มากเลยครับ พระตำหนักที่ประทับเป็นบ้านไม้ สูง ๓ ชั้น ทรงไทยแบบ ธรรมดาๆ
กำแพงวังหรือรั้วที่เรารู้จัก คุณเชื่อไหมครับ เป็นเสาแล้วมีลวดหนามขึง ๓ เส้น

พวกคุณคงนึกออก ส่วนด้านหน้าเป็นกำแพงธรรมดาๆ ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่า

เป็นวังเลยนะครับ ข้างในก็จะมีสวนพฤษศาสตร์ รวมพืชนานาพรรณจากที่

ต่างๆ และก็มี สุนัขทรงโปรดของทูลกระหม่อมอาจารย์อยู่ด้วยนะครับ เป็น

สุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด ชื่อ คล้ายๆยาหม่องยี่ห้อนึงผมก็จำไม่ค่อยได้กลัว

สะกดผิด ตัวนี้นะครับทูลกระหม่อมทรงโปรดมากเพราะเป็นสุนัขที่ ในหลวง

พระราชทานให้ในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ตัวนี้นี่นอนหน้าห้องบรรทมเลย

นะครับ ผมก็โอบกอดมาแล้ว ตัวใหญ่มาก ตัวนี้นี่ถ้าไม่ใส่เครื่องแบบนี่โดนเห่า

เข้าใกล้ไม่ได้เลยนะครับ และก็ทานเก่งเสียด้วย มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากบอก ของ

ที่บุคคล หรือคณะบุคคลต่างๆ ทูลเกล้าถวาย ทูลกระหม่อมทรงโปรดให้นำมา

รวบรวมไว้เป็นคล้ายๆกับพิพิธภัณฑ์ แบ่งแยกเป็นหมวดหมู่มีคำอธิบาย และมี

บาร์โค้ดบอกว่าได้มาเมื่อไหร่ ที่ไหรในโอกาสอะไร ผมไปดูมานี่เยอะมากจริงๆ

ครับ มีของที่รอจัดหมวดหมู่อีกเยอะแยะไปหมดเลยครับ เช่นที่จำได้นะครับ

ระนาดแก้ว จะเข้ ที่เป็นรูปจะเข้จริงๆ เครื่องคนตรีไทยต่างๆ พระเครื่อง เครื่อง

เบญจรงค์ งานหัตถกรรม ฯลฯ คงนึกออกนะครับของต่างๆที่พสกนิกรชาว

ไทยนำมาทูลเกล้าถวาย ทูลกระหม่อมทรงโปรดให้นำมาจัดเก็บไว้ที่นี่ หมดเลย

ครับ จนไม่มีที่จะเก็บเลยนะครับ เดี๋ยวตอนนี้พอแค่นี้ก่อนครับ

จากคุณ : นายร้อย

******************************

ความคิดเห็นที่ 135

ปีที่แล้วสมเด็จพระเทพรัตนฯเสด็จเป็นองค์ประธานวันสถาปนาจุฬาฯ
ผมเข้าเฝ้าถวายรายงานเรื่องแผนการตลาดที่ชนะเลิศ
เป็นแผนการตลาดของเมืองโบราณ สมุทรปราการ
พระองค์สนพระทัยเป็นอย่างยิ่ง แม้อากาศจะร้อนมาก
พอถึงช่วงการทำ Promotion ก็อธิบายไปว่า เราจะสร้าง
การประกวดนางงามเมืองโบราณ โดยจัดประกวดหญิง
อายุ 50 ปีขึ้น   พระองค์ตรัสว่า"อุ้ยปีนี้เราก็สมัครได้แล้วสิ"
คนที่มุงกันอยู่ฮากันครืน

จากคุณ : Madonremon

******************************

วามคิดเห็นที่ 189

ขอเล่าบ้างแล้วกันนะครับ เป็นเรื่องของแฟนผมกับความซุ่มซามของเธอ

เรื่อง มีอยู่ว่า วันนั้ แฟนผมเค้าไปกับเพื่อนที่ loft siam dis ตอนที่เดินดูของอยู่ เค้ารุ้สึกว่าทำไมแถวนี้มันโล่งๆนะ แต่เค้าก็ไม่ได้คิดอะไร และเดินดูของไปเรื่อย จนเกือบไปชนกับใครคนหนึ่ง แฟนผมก็เลยเงยหน้าขึ้นมาขอโทษ เท่านั้นแหละคับ แฟนก็อึ้ง พูดอะไรไม่ออกเลย ท่านก็ยิ้มแล้วเดินดูของต่อ  แต่แฟนผมเค้ายังไม่เลิกคับ ยังคงอยู่แถวนั้น เลยได้ยินท่านตรัสกับเพื่อนว่า"ถังขยะใบนี้น่ารักนะ แต่มันแพงเราคงไม่ซื้อหรอก รอคนถวายดีกว่า" พระสหายท่านก็ขำ แล้วพูดว่า ใครจะกล้า ท่านก็เลยแย้มพระสรวล  แต่แฟนผมได้ยินทุกคำพูด เลยขำไปด้วย แถมยังแอบเอามาเล่าอีกว่าถังขยะใบนั้นน่ารักจริงๆ เป็นรูปการ์ตูนสปริง

แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 49 11:47:04

จากคุณ : BoyZ_Russ

******************************

ความคิดเห็นที่ 231

อีกครั้งค่ะกับความตื่นเต้น

เมื่อวันที่ 2 มกราคม  2002 ขณะที่ดิฉันกำลังเดินดูหนังสือในร้านเอเชียบุ๊ค สยามดีสคอฟเวอรรี่ กะว่าจะหาหนังสือเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง

เดิน ดูหนังสือไปสักพักก็เริ่มแปลกๆ ตอนนั้นอยู่หน้าชั้นหนังสือที่ท่านเขียน (( ดิฉันนึกไม่ออกว่าใช่ราชาศัพท์ว่าอะไร ต้องขอโทษมานะที่นี้ด้วย )) เหมือนมีคนมาจ้องที่ดิฉัน หันไป ทำไมคนถึงดูเรียบร้อยกันจริง ตอนนั้นดิฉันไม่รู้หรอกว่าท่านเดินเข้ามาในร้านแล้ว

สักพักดิฉันก็หันไปสบตากับท่านอย่างจัง ด้วยความตกใจ มือก็เลยหยิบหนังสือที่ท่านเขียน ชื่อว่า "เย็นสบายชายน้ำ" ยื่นให้ท่านเซนต์

ท่านก็รับไปเซนต์ให้อย่างไม่ถือตัว แต่คงจะตกใจไม่น้อยที่เจอดิฉันทำอะไรแปลกๆเข้าใส่ จากนั้นท่านก็ถามดิฉันว่ามาดูหนังสือหรือ?

ดิฉันก็ได้แต่ตอบ ค่ะๆๆ (( คำว่าเพคะ ก็ลืม ดูสิ เฮ้อ...yuck)) ตอนนั้นหูอื้อหมด ขนาดว่าลืมถวายความเคารพและนั่งลงกับพื้นด้วยซ้ำ - -"

ตอนท่านเซนต์เสร็จแล้วยื่นกลับมาให้ดิฉัน ท่านยิ้มแล้วก็บอกว่ารักษาให้ดีดีหละ อย่าลืมอ่านด้วยนะ

เชื่อมั้ยว่าหนังสือเล่มนั้นดิฉันยังไม่เคยเปิดอ่านเลย เพราะกลัวว่าหนังสือจะบุบสลายไป แป่ว....กระพริบตา

ปีนั้นดิฉันจึงได้ของขวัญปีใหม่อันมีค่าที่สุดในชีวิต นับว่าเป็นบุญเหลือเกินที่คนธรรมดาอย่างดิฉันจะได้รับ

ปล. มีรูปหนังสือเล่มนั้นพร้อมกับลายพระหัตถ์ของท่านด้วย
 
 


จากคุณ : T@GeTheR


ความคิดเห็นที่ 232

ให้เห็นชัดๆค่ะ ทำได้แค่นี้ค่ะ ถ่ายรูปไม่ค่อยได้เรื่อง
 
 


จากคุณ : T@GeTheR

******************************

เอาแค่นี้ก่อนละกันค่ะ มีเรื่องสนุกๆ น่าอ่านเยอะในกระทู้ เพราะคงลงทั้งหมดในนี้ให้ไม่ไหวน่ะค่ะ
(ไม่ใ่ช่เพราะขี้เกียจ
แต่กลัวลงมากไปจะเข้ากระทู้กันไม่ได้(่ล่ม)) ค่ะ

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/05/K4370145/K4370145.html <<<อ่านในนี้กันเอานะคะ


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 3 มกราคม 2553 / 14:11

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

โดเรมอนจัง....ฮับ 3 ม.ค. 53 เวลา 15:00 น. 1

ยาวอ่ะค่ะขี้เกียจอ่าน  คงไม่ว่ากันน้า...
  

ยังไงก็
                                   
   ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


PS.  รับทราบเจ้าคร่
0
i-moshi 3 ม.ค. 53 เวลา 15:40 น. 2

อ่านจบแล้วว

ประทับใจ เรื่องนี้ อิอิ

ความคิดเห็นที่ 12

มี อีกครั้งนึงท่านทรงเดินจากวังสระประทุมไปสยามดีสคอฟเวอรรี่ ก็มีผู้ตามเสด็จอีก 1-2 คนนี่แหละ แต่ตำรวจที่กั้นรถแถวนั้นบอกว่า ยังไปไม่ได้ มีขบวนเสด็จฯมจ.หญิงสิริวัณวรี ท่านเลยบอกตำรวจว่า "หลานชั้นเอง" ตำรวจเลยรีบถวายความเคารพและทูลเชิญเสด็จแทบไม่ทัน

จากคุณ : หนูเอง



ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
0
noop23525 4 ม.ค. 53 เวลา 02:55 น. 3

อ่าน จบ ค่ะ ชอบเรื่องที่ สวัสดีครับ พระเทพ มาก


PS.  นี่หรือมนุษย์..ชั่งร้ายกาจนัก
0
แอมค่ะ 7 มิ.ย. 53 เวลา 20:56 น. 4

เป็นครั้งแรกที่อ่านกระทู้จนจบ ถึงแม้ว่าจะยาวขนาดไหนก็ตาม ต่อให้ยาวมากกว่านี้ก็จะนั่งอ่านให้จบค่ะ

ขอจงทรงพระเจริญเพคะ

0
ชัยพร 29 ส.ค. 53 เวลา 14:55 น. 5

เช่นกันครับ ไม่เคยอ่านกระทูยาวขนาดนี้มาก่อนเลย
อ่านแล้วรู้สึกเทิดทูนพระองค์ท่านมาก พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดีครับ

0