Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

R: สาวน้อยวัย 15 ปี ผู้เขียนหนังสือ ผจญภัยในแดนเงือก !!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
น้องคนนั้นใช้นามปากกวาว่า Pieretta Dawn ค่ะ ชื่อจริงๆของเค้าก็คือ แพรกานต์ นิรันดร
เป็นผู้เขียนหนังสือ ผจญภัยในแดนเงือก ด้วยวัยเพียง 15 ปี อีกอย่างต้นฉบับที่เธอเขียนก็เป็นภาษาอังกฤษเสียด้วย
เราไปอ่านกระวัติของเธอกันดีกว่านะคะ



****



เปิดตัวเงือกน้อยเมืองไทย "ปอเปี๊ยะ-แพรกานต์ นิรันดร" นักเขียนวัย 15 ร่ายมนต์สะกดให้ "สุมาลี" แปลผลงาน

จากกระแสวรรณกรรมแฟนตาซี "แฮร์รี่ พอตเตอร์" อันโด่งดัง ทำให้เมืองไทยมีหนังสือแนวแฟนตาซีเข้ามาเยอะมาก ทั้งจากนักเขียนไทยและนักเขียนนอก แต่วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนรุ่นใหม่ และแม้ว่างานเขียนของเธอเป็นแนวแฟนตาซีตามกระแสก็จริง แต่เค้าโครงเรื่องนั้นน่าสนใจและสมจริงจนมิอาจเชื่อว่า เด็กอายุ 15 ปี เป็นผู้แต่งเรื่องนี้ ที่สำคัญคือเธอเขียนด้วยต้นฉบับภาษาอังกฤษ ก่อนที่ "นานมี" จะดึงเอานักแปลชั้นเทพอย่าง "สุมาลี" มาแปลเป็นภาษาไทย

เรากำลังพูดถึง "แพรกานต์ นิรันดร" หรือ "น้องปอเปี๊ยะ" นักเขียนหน้าอ่อนที่ฝีมือไม่อ่อน เจ้าของบทประพันธ์ไตรภาค ชุด "จักรภพพันธุ์มหัศจรรย์" โดยเล่มแรกเสนอ ตอน "ผจญภัยในแดนเงือก"

วันนี้ได้มีโอกาสเห็นตัวจริงและได้พูดคุยแบบใกล้ชิดกับนักเขียนมือใหม่คนนี้ ซึ่งตัวจริงเธอก็ไม่ต่างจากเงือกน้อยในนิทานเลย คือนอกจากจะมีใบหน้าที่สดใสแล้ว ผมยาวตรงเรียบดำขลับของเธอยิ่งทำให้ดูเหมือน "เจ้าหญิงเงือกน้อย" ในตำนานไม่มีผิด

"ปอเปี๊ยะ" บอกว่า ความจริงแล้วเริ่มฝึกการเขียนหนังสือเล่าเรื่องเมื่อตอน 8 ขวบ แต่ตอนนั้นยังเล่าเรื่องด้วยภาพอยู่ เขียนไปซักพักก็เริ่มเบื่อแล้วเลยทำไม่เสร็จ อาจเป็นเพราะตอนนั้นยังเล็กอยู่มากจึงไม่มีความมุ่งมั่น แต่กับจุดเริ่มต้นในการเขียนเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นคนชอบเรื่องราวเกี่ยวกับนางเงือกมาก ชอบอ่านหนังสือแนวแฟนตาซี พวกเอลฟ์ นางเงือก แวมไพร์ หรือพวกสัตว์ลึกลับในตำนาน ความจริงแล้วก็ชอบอ่านหนังสือทุกแนวอยู่แล้ว อ่านได้ตั้งแต่หนังสือไซไฟ หนังสือแนวอาชญากรรมสืบสวนสอบสวน หรือแนวอาชญวิทยาศาสตร์ก็ชอบอ่าน แต่ก็เลือกทำเรื่องเกี่ยวกับนางเงือกเพราะชอบมากที่สุด

"ได้แรงบันดาลใจจากเมื่อครั้งครอบครัวไปเที่ยวที่ฮาวาย แล้วก็เกิดปี๊งไอเดียพล็อตเรื่องขึ้นมา จนจินตนาการเกาะมอนเดรไซด์ (เกาะในจินตนาการตามท้องเรื่อง) จากนั้นก็เริ่มเก็บข้อมูลต่างๆ โดยเริ่มเขียนเรื่องนี้ตอนอายุ 12 ปี เขียนไปเขียนมาก็ต่อยอดความคิดไปเรื่อย จนกระทั่งตัดสินใจว่าถ้าอย่างนั้นเขียนเป็นไตรภาคเลยดีกว่า จากนั้นก็เลยวางแผนการเขียนให้ออกมาเป็น 3 เล่มด้วยกัน โดยเล่มแรกก็คือผจญภัยในแดนเงือก ซึ่งตอนนี้กำลังเริ่มเขียนตอนที่ 2 อยู่เขียนไปได้ 1-2 บทแล้ว"

พอถามถึงความสมจริงสมจังในเรื่องนี้มีมากน้อยแค่ไหน เพราะเหนือจินตนาการย่อมจะต้องอ้างอิงบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงด้วย นักเขียนตัวน้อยกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า ทำรี เสิร์ชเยอะมาก ตั้งแต่ที่ว่าโครงสร้าง รูปร่าง อนาโตมีของนางเงือกเป็นอย่างไร หมายถึงว่าหากว่ามันมีอยู่จริง ควรจะมีรูปร่างอย่างไร หายใจอย่างไร ซึ่งตรงนี้ก็ค้นคว้าจากหนังสือบ้าง จากเว็บไซต์ต่างๆ บ้างเอามาประกอบกัน ส่วนดินแดนตามท้องเรื่องรวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของตัวเอกวัฒนธรรมและการใช้ ชีวิตก็นอกจากค้นคว้าจากหนังสือแล้ว ยังใช้ประสบการณ์จากการเดินทางท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ กับคุณแม่มาประกอบกัน

"อย่างผู้คนบนเกาะมอนเดรไซด์ และเกาะอื่นๆ รอบข้างก็จินตนาการว่าถ้ามันอยู่ใกล้กับฮาวายมันน่าจะมีสภาพอากาศคล้ายกัน ผู้คนและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ก็น่าจะคล้ายกันด้วย ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่สักแต่ว่าเราจะเขียน แต่เราต้องมีข้อมูลด้วย เพื่อความสมจริงก็ใช้เวลาทำรีเสิร์ชพอสมควรก่อนเขียนเสร็จเล่มแรกก็ใช้เวลา 1 ปีแล้ว"

แล้วการไปตีพิมพ์ที่สำนักพิมพ์เริ่มได้อย่างไร ปอเปี๊ยะ เล่าว่า พอหลังจากที่เขียนจบ ก็ถามคุณแม่ว่าจะส่งต้นฉบับนี้ไปที่ไหนดี คุณแม่ก็แนะนำว่ามีอยู่ 2 แห่งที่จะตีพิมพ์หนังสือแนววรรณกรรมเยาวชนก็คือที่นานมี และที่อัมรินทร์ฯ แต่ก็ตัดสินใจเลือกนานมีเพราะเห็นว่านานมีตีพิมพ์แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ซึ่งหลังจากส่งต้นฉบับไปก็ใช้เวลานานมากกว่าที่เค้าจะตกลงพิมพ์ของเรา ต้องโทรตื้อ โทรอ้อนวอนอยู่นานหลายครั้งว่าขอให้อ่านต้นฉบับของเราด้วย คือที่ต้องทำเพราะมีคนแนะนำว่าถ้าเราไม่ทำเค้าก็อาจจะคิดว่าเราไม่ได้กระตือ รือร้น เพราะอย่าลืมว่าจะมีคนส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์อ่านผลงานของเค้าเยอะมาก ถ้าเพียงแค่เค้าสนใจและอ่านของเราก็ปลื้มแล้ว แต่นี่ได้ตีพิมพ์ด้วยก็ยิ่งปลื้มใหญ่

"หลังจากนั้นก็ใช้เวลาเกือบครึ่งปี จนกระทั่งคุณแม่โทรมาบอกว่าเค้าจะพิมพ์ให้แล้ว ก็กรี๊ดเลย ดีใจมาก บอกเพื่อนๆ ว่าหนังสือของชั้นจะได้พิมพ์แล้วนะ รู้สึกเฮ้อ...โล่งมาก ทางสำนักพิมพ์เค้าก็บอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เค้าพิมพ์หนังสือภาษาอังกฤษของ นักเขียนคนไทยที่อายุแค่ 15 ปี เค้าไม่เคยทำมาก่อน มีแต่แปลมาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ เค้าก็แปลกใจมากที่มีคนส่งต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษแถมยังเป็นเด็กอีกด้วย นอกจากนี้ ทางสำนักพิมพ์ยังแนะนำให้แปลเป็นภาษาไทยขายด้วยเพราะตลาดหนังสือภาษาอังกฤษ ยังเล็กอยู่"

นักเขียนตัวน้อยเล่าต่อว่า จากนั้นเค้าก็ให้รายชื่อนักแปลมา ก็เห็นชื่อ อ.สุมาลี บำรุงสุข ก็รู้ว่าอาจารย์เคยแปลแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ก็เลยตัดสินใจขอให้อาจารย์แปลให้ ซึ่งทีแรกอาจารย์ก็ยังไม่ตอบรับเพราะว่ายังอยู่ที่อังกฤษและก็มีงานยุ่งมาก เลยขอต้นฉบับไปอ่าน 2-3 บทก่อน จากนั้นก็ขออ่านทั้งฉบับเลย แล้วก็ตัดสินใจจะแปลให้ในที่สุด ซึ่งก็ดีใจมากที่ได้นักแปลระดับโลกอย่างอาจารย์มาแปลผลงานชิ้นแรกของตัวเอง

สำหรับโปรเจ็คต์หน้า นางเงือกสาวเผยว่า ที่ คิดๆ ไว้หลังเขียนชุดจักรภพพันธุ์มหัศจรรย์จบก็อยากจะเขียนแนวอาชญากรรมสืบสวนสอบ สวน แต่ออกแนวย้อนยุค อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยากจะลองทำแนวนี้ดูบ้าง

แล้วหาเวลาเขียนหนังสือได้อย่างไร ไหนจะต้องเรียน ไหนจะต้องเก็บข้อมูล "หนู ถือว่างานเขียนเป็นงานอดิเรก เราต้องแบ่งเวลาให้เป็น หลังเสร็จจากการบ้านและการทบทวนตำราเรียนแล้ว การเขียนหนังสือก็คือการรีแลกซ์อย่างหนึ่งของหนู จะไม่ทำในเวลาที่เรายังทำงานประจำไม่เสร็จ"

ปอเปี๊ยะ เผยถึงนักเขียนในดวงใจของเธอว่า มี Jonathan Stroud ผู้แต่ง Bartimaeus trilogy, Eoin Colfer ผู้แต่ง Artemis Foul และ Airman และ Rick Riordan คนแต่ง Percy Jackson Series พร้อมกับบอกเคล็ดลับของคนที่อยากเป็นนักเขียนว่า "ต้อง อ่านหนังสือเยอะๆ อ่านหลายๆ ประเภท หลายๆ แนวเพื่อการสั่งสมความรู้ และที่สำคัญคืออย่าท้อแท้ต้องมุ่งมั่น ถ้าเราเขียนๆ ไปแล้วเกิดเบื่อไม่อยากเขียนต่องานก็ไม่สำเร็จ หรือพอเขียนแล้วสำนักพิมพ์ไม่ตีพิมพ์ให้ก็ท้อถอย ยอมแพ้เสียแล้ว อะไรก็ไม่สำเร็จแน่ สิ่งสำคัญอยู่ที่ความมุ่งมั่นต้องไม่ท้อถอยง่ายๆ"

คิดอย่างไรถ้ามีใครเรียกเราว่า "นักเขียน" แล้ว ปอเปี๊ยะ บอกว่า "ถ้า มีคนเรียกอย่างนั้นจริงก็คงเขินๆ เพราะยังไม่ชินกับคำๆ นี้ ถ้าจะให้เรียกเราแบบนั้นเหมือนนักเขียนคนอื่นๆ ก็คิดว่าอย่าเลย เรายังไม่ถึงขั้นนั้น ยังต้องพัฒนาอะไรอีกเยอะ แค่ได้ทำตามความฝันของตัวเองแค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ"

... นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างเยาวชนไทย ที่กำลังพิสูจน์ประโยคที่ว่า "คนไทยอ่านหนังสือแค่ 8 บรรทัด" กำลังทลายลงแล้ว...


เรียบเรียงโดย : ทีมข่าวมติชนออนไลน์รายงาน
วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:59:09 น.  มติชนออนไลน์


****


เพื่อนๆได้อ่านผลงานของเธอกันหรือยังคะ
ถ้ายัง  แล้วอยากจะลองอ่านก็ไปหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเห็นผลงานของเธอกันมาแล้ว เราก็สอยมาแล้วเล่มนึง
แต่ยังอ่านไปได้นิดเดียวเอง และนี่เป็นหน้าปกหนังสือของเธอค่ะ
ดึงดูดใจคนอ่านอย่างเรามากมาย



และนี่คือโฉมหน้าของ แพนกานต์ หรือปอเปี๊ยะ ค่ะ







แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 28 เมษายน 2553 / 10:32

PS.  แม้เราจะไม่มีหัวใจของเราแล้ว แต่เราก็ยังมีหัวใจของคนคนนั้น คนที่เขาฝากหัวใจเอาไว้...

แสดงความคิดเห็น

>

37 ความคิดเห็น

Tartara 28 เม.ย. 53 เวลา 11:10 น. 1

ไม่ธรรมดาแฮะ...

อ่านแล้วได้ทั้งเรื่องการหาข้อมูล ทั้งเรื่องติดต่อสำนักพิมพ์
เธอเจ๋ง...
วันหลังคงต้องหาอ่านละ ตอนแรกเปิดดูก็งงๆ อ้าว นักเขียนคนไทยเรอะ? เพิ่งเข้าใจ...

ปล.อ่านชื่อเกาะเป็นเกาะมอเตอร์ไซค์อยู่หลายรอบ -_-


PS.  อย่าพูดคำว่าพยายามออกมานะ เพราะนั่นแปลว่าไม่ได้พยายามเลยต่างหาก
0
peecee 28 เม.ย. 53 เวลา 11:12 น. 2

นับถือเค้าจริงๆ  (เห็นเรื่องนี้แวบๆ)

ชำนาญภาษาปะกิดมากกว่าไทยภาษาบ้านเสียอีก  อะไรจะปานนั้น เทพขิงๆ

มาส่อนผมมั่งน่อ

อยากแต่งภาษาปะกิดมั่ง (อันเรานั้นก็ด้อยเสีย)


PS.  คุณเบื่อรึยังนิยายแนวตลาด...คุณเบื่อรึยังกับนิยายสูตรสำเร็จ...คุณพร้อมรึยังที่จะพบความแปลกใหม่กับนิยาย(ไม่)แหวกแนว แต่ "แหวกกระแส"::ปิแอร์ เดอ มัสแตง-เด็ก หนังสือพิมพ์ และคำพยากรณ์ ได้แล้ว
0
The Silver Rose[-โรส-] 28 เม.ย. 53 เวลา 11:22 น. 3
เ้กาะ มอเตอร์ไซค์? ฮ่าๆๆ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 28 เมษายน 2553 / 11:21
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 28 เมษายน 2553 / 09:30

PS.  แม้เราจะไม่มีหัวใจของเราแล้ว แต่เราก็ยังมีหัวใจของคนคนนั้น คนที่เขาฝากหัวใจเอาไว้...
0
จิ้ง 28 เม.ย. 53 เวลา 11:30 น. 4

นานๆ ทีจะรู้สึกเหมือนได้เห็นแสงสว่างเล็กๆ ที่ส่องประกายขึ้นในคำว่า วรรณกรรมเยาวชน

0
น๊อคเทินร์ -oThe MiseRy-o- 28 เม.ย. 53 เวลา 12:01 น. 6

อืมม ไม่ได้อยากจะชักใบให้เรือเสีย แต่ผมคิดว่าการที่บ้านน้องเขามีฐานะค่อนข้างรวย  อาจจะมีสิทธิพิเศษในการที่ได้ออก

ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มซึ่งเราก็ไม่อาจทราบได้  แต่เห็นตัวอย่างแบบ Christopher Paolini  ผู้แต่ง เอรากอน ซึ่งก็ได้ตีพิมพ์กับทาง

ครอบครัวของตนเอง ก็ทำให้อดคิดไม่ได้  

ผมไม่ได้อิจฉาในความสามารถของน้องเขา  เพราะผมเป็นนักอ่านอย่างเดียว แต่แค่รู้สึกเคลือบแคลงในวิธีการสรรหานักเขียน

ซึ่งผมเคยอ่านรวมเรื่องสั้นของเยาวชนที่เป็นหนังสือทำมือ ปรากฏว่าน้องๆเขาเขียนได้ดีมากๆ อ่านเพลินให้ข้อคิดมากมาย

แต่แค่ขาดคนหยิบยื่นโอกาสดีๆในการรวมเล่ม  โฆษณา และวางแผงตามร้านหนังสือชั้นนำเท่านั้น


ปล.ถ้าแฟนคลับน้องๆเขาเข้ามาอ่านก็ขออภัยด้วยครับ ผมแค่สงสัยเท่านั้น


PS.  " And I ll Forget The World That I Knew But I Swear I Won' t Forget You..." By Owl City
0
The Silver Rose[-โรส-] 28 เม.ย. 53 เวลา 12:10 น. 7
ตอบท่าน น๊อคเทินร์ -oThe MiseRy-o-

ฮ่า ๆ ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ
เราก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน

แต่เรายังไม่เคยอ่านหนังสือทำมือเลยน่ะสิ
อยากรู้ว่ามีขายหรือเปล่าคะ แล้วถ้ามีนี่ขายที่ไหนเหรอ?

PS.  แม้เราจะไม่มีหัวใจของเราแล้ว แต่เราก็ยังมีหัวใจของคนคนนั้น คนที่เขาฝากหัวใจเอาไว้...
0
Tartara 28 เม.ย. 53 เวลา 12:17 น. 8

เออ...มันอาจจะไม่ยุติธรรมกับเขาไปหน่อย ถ้าตั้งแง่ว่าเขารวย
ขอลองอ่านก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

เพราะสำนักพิมพ์คือนานมีบุ๊คส์...ก็พอเชื่อถือได้ระดับนึงนะ ถ้าออกงานแย่ๆมา ผลเสียก็เข้าสู่ตัวสำนักพิมพ์อยู่่ดี


PS.  อย่าพูดคำว่าพยายามออกมานะ เพราะนั่นแปลว่าไม่ได้พยายามเลยต่างหาก
0
น๊อคเทินร์ -oThe MiseRy-o- 28 เม.ย. 53 เวลา 12:17 น. 9

ตอบท่านโรส

ตอนนั้นเดิน JJ ก็มีคนขายครับเป็นหนังสือภาพ และก็เคยซื้อที่งาน Fat Festival จ้า


PS.  " And I ll Forget The World That I Knew But I Swear I Won' t Forget You..." By Owl City
0
ลูกศร ต้นนที 28 เม.ย. 53 เวลา 12:25 น. 10

ถามว่าเก่งไหม...แน่นอนว่าเก่ง

แต่ก็เถียงไม่ได้หรอกว่าที่ได้พิมพ์ ไม่ใช่เพราะพ่อแม่เส้นใหญ่



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 28 เมษายน 2553 / 12:47

PS.  For the strength of the Pack is the Wolf, and the strength of the Wolf is the Pack.
0
น๊อคเทินร์ -oThe MiseRy-o- 28 เม.ย. 53 เวลา 12:29 น. 11
อ่ะจ้า ท่านTartaraครับ  ผมไม่ได้ตั้งแง่ว่าน้องเขารวย  แต่แค่ตั้งข้อสงสัยว่าเรื่องฐานะมันอาจจะมีอิทธิพลต่อการได้ตีพิมพ์

ไม่ได้บอกว่าผลงานของใครดีใครไม่ดี  หากผลงานน้องเขามีคุณภาพ สำนักพิมพ์ก็นับว่าตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

ผมก็ยอมรับในเหตุผล 

เรื่องฐานะยอมรับเถอะครับว่ามันมีผลกระทบกับทุกเรื่องๆในชีวิตคุณ ไม่ใช่แค่ว่าเรื่องการเขียนหนังสือเท่านั้น


PS.  " And I ll Forget The World That I Knew But I Swear I Won' t Forget You..." By Owl City
0
Tartara 28 เม.ย. 53 เวลา 13:00 น. 12

อืม...จริงๆก็เห็นด้วยนะว่าเขามีโอกาสดีกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่ได้สนับสนุนด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม


PS.  อย่าพูดคำว่าพยายามออกมานะ เพราะนั่นแปลว่าไม่ได้พยายามเลยต่างหาก
0
น๊อคเทินร์ -oThe MiseRy-o- 28 เม.ย. 53 เวลา 13:31 น. 13


งืม..  พ่อน้องเขาทำธุรกิจยานยนต์ แถมยังเป็นเจ้าของบริษัทผักสดปลอดสารพิษเดลิเวอรี่   

เป็นเพื่อนกับดิษยุทธ เจียรวนนท์  แค่เห็นนามสกุลผมก็เสียวสันหลังแล้วล่ะ  นี่เราเล่นของสูงไปหรือเปล่า  


PS.  " And I ll Forget The World That I Knew But I Swear I Won' t Forget You..." By Owl City
0
ซ่อนนาม 28 เม.ย. 53 เวลา 13:51 น. 14

#ท่านน็อค

แต่ถ้าจะเล่นประเด็นให้หนักขึ้นอีกก็คือ
ชื่อที่อยู่บนหน้าปก อาจจะไม่ใช่คนแต่งจริง ๆ ก็ได้
บางทีอาจจะแค่พูดประเด็นและวางพล็อต แต่คนเขียนจริงอาจจะเป็นอีกคน
เราเรียกคนพวกนี่ว่า "นักเขียนเงา"
ดาราหลายคนที่อ้างว่ามีหนังสือและเขียนหนังสือขาย ว่ากันว่าให้นักเขียนเงาเขียนให้ทั้งนั้น

ดังนั้นบางทีรายนี้อาจจะได้แค่วางพล็อตและเขียนบางส่วน
แต่คนเขียนเรื่องโดยละเอียด เขียนให้ถูกตามไวยากรณ์อาจจะเป็นนักเขียนเงาด้วยก็ได้


แต่ถึงกระนั้น คุณค่าของหนังสือที่ออกมามันก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
เพราะเราไม่ได้สนใจคนเขียนหรอก สนใจที่ผลงานมากกว่า
เราไม่สนใจหรอกว่าจะใช้นักเขียนเงาหรือไม่ใช้เลยก็ตาม


PS.  ทุกชีวิตมีคุณค่า เราไม่เคยคิดอยากจะฆ่าใคร ดังนั้นควรจะทรมานให้นานๆก่อนที่จะปล่อยให้มันตาย!
0
น๊อคเทินร์ -oThe MiseRy-o- 28 เม.ย. 53 เวลา 13:57 น. 15

เคยได้ยินมาเหมือนกันครับท่านซ่อนฯ  แบบพวกดาราที่ออกพ๊อคเก็ตบุ๊ค เขาก็ใช้วิธีนี้ในการเขียน


จะว่าไปผมก็ผิดนะเนี่ย  

เพราะยังไม่ได้อ่านหนังสือของเขาด้วยเหมือนกัน     


PS.  " And I ll Forget The World That I Knew But I Swear I Won' t Forget You..." By Owl City
0
ซ่อนนาม 28 เม.ย. 53 เวลา 14:08 น. 16

#15
เช่นกัน


PS.  ทุกชีวิตมีคุณค่า เราไม่เคยคิดอยากจะฆ่าใคร ดังนั้นควรจะทรมานให้นานๆก่อนที่จะปล่อยให้มันตาย!
0
Porglon Zaseank 28 เม.ย. 53 เวลา 15:06 น. 17

คนนามสกุลไม่ดังก็สู้ๆ คับ (ให้กำลังใจ)

ส่วนคนนามสกุลดังก็อย่าหยุดเขียนครับ (ให้กำลังใจ)

งานเขียนเหมือนการวิ่งมาราธอน ใครอยู่นานสุดตัวจริงคับ

0
Deta 28 เม.ย. 53 เวลา 15:16 น. 18

ที่ไม่เข้าใจคือ "ทำไมต้องภาษาอังกฤษ"

คือเข้าใจนะว่า พอเ้นภาษาอังกฤษแล้วมันดูไฮขึ้นไปอีก...

แต่ไงๆชีก็คนไทยนะเฟ้ย!!!!
...

ปล.กลัวว่าอีกหน่อยจะเป็นเหมือน "ท่านผู้นั้น"

ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเด็ก กรูเก่ง กรูเมพ ห้ามใครแตะต้องกรู ไรงี้

หะหะหะ

ปปล.แอบคิดประเด็น"นักเขียนเงา" เหมือนกันนะ...คือ...แหม...นะ


PS.  [สถานะ:: มันเป็นเรื่องของโชคชะตา...]// ผมก็ไม่เชื่อคุณ คุณก็ไม่เชื่อผม "อ้าว! งั้นเราจะคุยกันทำไมครับ?" // It's our "Destiny" // อ๊างงงค์~~~
0
นักกร 28 เม.ย. 53 เวลา 16:10 น. 19
เด็กไทย15 ปี?? แถมเขียนเรื่องเป็นภาษาอังกฤษได้ตลอดทั้งเรื่อง?

ถ้าเด็กคนนี้รวยจริง แสงดว่าเขาต้องมีพี่เลี้ยงเป็นคนฝรั่ง แล้วให้คนฝรั่งเขียนก็ได้

หรือเด็กคนนี้อัจฉะริยะจริง?

ผมจะไม่ยอมแพ้!!

อุ๊วะ ฮ่า ฮ่า (ขอวิบัติเพื่อเสียง)

PS.  กระทู้คุณเด็ดมากครับ!
0