7 วิถีกระบี่แสง; วิถีที่ 5 ชิเอ็น/เจ็มโซ

[ลูกศร ต้นนที]

http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1752427
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1752882
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1755712
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1759278

วิถีอื่น ๆ อยู่บนลิงค์ข้างบนครับ

สำหรับวันนี้ เป็นคิวของวิถีกระบี่แสงที่ 5

จับกระบี่ให้มั่น พาดาวัน หากเจ้าไม่แข็งแกร่งพอ เจ้าจะไม่อาจผ่านการฝึกนี้ได้

วิถีที่ 5 ชิเอ็น/เจ็มโซ (Shien/Djem So) วิถีแห่งมังกรเครยท์ (Krayt Dragon)

มังกรเครยท์เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ อาศัยอยู่บนทาทูอิน (ดาวบ้านเกิด อนาคิน และลุค สกายวอร์กเกอร์) สายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดโตได้ถึงร้อยเมตร นำหนักหลายสิบตัน ตลอดชีวิตมังกรเครยท์พวกมันจะไม่หยุดโตขึ้นเลย และมันยังไม่อ่อนแอลงตามอายุขัยที่มากด้วย ถ้าจะเรียกว่ามังกรเครยท์เป็นนักล่าที่ทรงพลังที่สุดบนทาทูอินก็ไม่ผิดนัก เจไดรู้สึกประทับใจในพละกำลังและความดุร้ายของมัน จึงนำชื่อมันมาตั้งเป็นชื่อวิถีกระบี่ที่ 5 ชิเอ็น/เจ็มโซ

วิถีที่ 5 ถูกพัฒนาขึ้นโดยเจไดที่ฝึกฝนวิถีที่ 3 โซเรสุ ที่มีแนวความคิดว่า โซเรสุนั้นเป็นวิถีที่ตั้งรับมากเกินไป และมักจะทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อ ชิเอ็น/เจ็มโซจึงถูกพัฒนาขึ้นโดยมีแนวคิดที่ว่า ไม่ควรจะเอาแต่ตั้งรับแล้วมองหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ แต่ต้องสร้างช่องทางโจมตีนั้นขึ้นมาเอง

ท่านอาจสงสัยว่าทำไมมันถึงมีสองชื่อ ชิเอ็น และ เจ็มโซ นั้นเป็นแนวทางความคิดแบบเดียวกัน แต่ประโยชน์การใช้สอยต่างกัน ชิเอ็นถูกพัฒนาขึ้มาก่อนโดยมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับปืนลำแสง ส่วน เจ็มโซถูกพัฒนาขึ้นมาที่หลัง โดยมีแนวคิดเรื่องการดวลกระบี่แสงเป็นที่ตั้ง แต่เพราะเจไดต้องต่อสู้ทั้งกับปืนลำแสงและกระบี่แสง ผู้ฝึกวิถีที่ 5 จึงฝึกฝนทั้ง ชิเอ็น และ เจ็มโซ

หลักการของชิเอ็นอาจจะอธิบายได้ง่าย ๆ ว่าคือการตั้งรับห่ากระสุนลำแสงแล้วฟาดกลับไปเพื่อทำลายผู้ที่ยิงมาเอง การตั้งรับของ ชิเอ็น อาจจะด้อยกว่าวิถีที่ 3 โซเรสุ แต่ก็ไปเพิ่มความสามารถในการโจมตีกลับ

ส่วนเจ็มโซนั้นอธิบายได้ด้วยคำง่าย ๆ ว่า...พลัง พลัง และพลัง ผู้ฝึกฝนเจ็มโซใช้พื้นฐานในการตั้งรับแบบเดียวกับโซเรสุ แต่ไม่แน่นหนาเท่า ที่แตกต่างไปก็คือ โซเรสุบอกให้เจไดตั้งรับแล้วรอคู่ต่อสู้เผยจุดอ่อน ในขณะที่เจ็มโซบอกให้ตั้งรับแล้วฟาดกลับไปเต็มแรง ใช้พละกำลังบังคับให้คู่ต่อสู้เผยจุดอ่อนออกมา

ก่อนอื่นท่านต้องเข้าใจว่ากระบี่แสงนั้นไม่มีน้ำหนัก น้ำหนักเดียวที่มันมีคือด้ามกระบี่ ส่วนที่เป็นลำแสงเป็นพลังงานล้วน ๆ ไม่มีมวล เจไดจึงไม่ได้รับประโยชน์จากโมเมนตัมไปเพิ่มความแรงในการฟันเหมือนดาบเหล็ก พละกำลังที่ใช้ฟาดฟันคู่ต่อสู้จึงมาจากตัวผู้ใช้เองล้วน ๆ

เจ็มโซเน้นหนักที่การเหวี่ยงกระบี่แสงเป็นวงกว้าง ใช้ทุกวิถีทางเพิ่มพลังทำลายให้มากที่สุด รวมถึงการใช้แรงดันให้คู่ต่อสู้เสียหลัก จนมีคำกล่าวว่า วิถีทางของวิถีกระบี่แสงที่ 5 คือ "แสวงหาสันติด้วยพละกำลังที่เหนือกว่า"

การต่อสู้ในแบบชิเอ็นและเจ็มโซเริ่มต้นด้วยการตั้งท่ายกกระบี่แสงขึ้นเหนือหัว เอียงกระบี่ไปด้านหลัง 45 องศา ท่วงท่าที่เป็นเอกลักษณ์ของชิเอ็นและเจ็มโซเรียกว่า Falling Avalanche (แปลว่าหิมะถล่ม) ซึ่งอธิบายความบ้าพลังของวิถีกระบี่แสงนี้ได้เป็นอย่างดี เป็นท่าฟาดลงมาจากด้านบนด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี ถึงศัตรูจะป้องกันก็ไม่สนใจ ใช้พละกำลังกดกระบี่แสงคู่ต่อสู้ ฟันลงไปทั้งอย่างนั้นเลย (นึกภาพนายกองกัซแห่งเบอร์เซิร์กเข้าไว้ครับพี่น้อง)

อ๊ะ...อ๊ะ...ฟังดูดีใช่ไหม แต่อย่าเพิ่งหลงไหลพละกำลังของชิเอ็น/เจ็มโซเร็วเกินไป ชิเอ็นนั้นขึ้นชื่อว่าไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้กับคู่ต่อสู้คนเดียว (เพราะมันคือการปัดกระสุนลำแสงกลับไปหาคนยิง) ส่วนเจ็มโซที่พึ่งพาพละกำลังอย่างมาก ก็ทำให้ผู้ใช้หมดแรงอย่างรวดเร็ว ถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อกว่าที่คิดไว้ ผู้ใช้เจ็มโซจะเสียเปรียบ นอกจากนั้นเจ็มโซยังมีข้อเสียเรื่องการเคลื่อนไหว เพราะเน้นให้ยืนตั้งรับแล้วฟาดกลับไปเต็มแรงอย่างเดียว เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่รวดเร็ว ผู้ใช้เจ็มโซจะพบว่าตัวเองตามคู่ต่อสู้ไม่ทัน

จุดอ่อนอีกอย่างของเจ็มโซคืออารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ในการฟาดฟันคู่ต่อสู้อย่างสุดแรง บ่อยครั้งผู้ใช้เจ็มโซจะลืมตัว แล้วเปิดจุดอ่อนให้คู่ต่อสู้สวนกลับมา นอกจากนี้ อารมณ์พลุ่งพล่านและความโกรธยังพาไปสู่ด้านมืดได้ง่ายอีกด้วย

กระบี่แสงของผู้ใช้เจ็มโซมักจะเป็นชิ้นเดียว ไม่มีรอยต่อ เพื่อป้องกันการกระตุกของลำแสงกระบี่ (ลองนึกสภาพเครื่องเล่นดีวีดีนะครับ ถ้าเราเขย่าเครื่องภาพมันจะกระตุก) จากพลังของผู้ใช้เอง ช่องปล่อยลำแสงมีการ์ดที่แข็งแรง (เพื่อป้องกันการกระตุก) ส่วนปลายมักจะยาวไม่เท่ากัน เพื่อให้องศาที่แตกต่างกันของลำแสง เพื่อให้เหมาะสมสำหรับหน้าที่ในการโจมตี และหน้าที่ในการป้องกัน มันมักจะมีด้ามจับที่หนาและใหญ่ (สีดำ ๆ ตรงด้ามน่ะครับ) เพื่อให้กระชับมือและเพิ่มพลังทำลายให้สูงสุด

อนาคิน สกายวอ์กเกอร์ ขึ้นชื่อว่ามีพรสวรรค์ในชิเอ็นและเจ็มโซ เขาชอบวิถีกระบี่แสงนี้ เพราะสามารถปลดปล่อยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเขาในการต่อสู้ออกมาได้ (โชคไม่ดี...อารมณ์ที่ไม่มั่นคงของอนาคินนำพาเขาไปสู่ด้านมืด)

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 พฤษภาคม 2553 / 13:20
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 9 พฤษภาคม 2553 / 14:19
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 9 พฤษภาคม 2553 / 20:15

---

PS.  For the strength of the Pack is the Wolf, and the strength of the Wolf is the Pack.

Comments

[peecee]

 น่านๆๆๆๆๆๆๆ

ต่อไปสายที่ลุคถนัดหรือเปล่า?

---

PS.  คุณเบื่อรึยังนิยายแนวตลาด...คุณเบื่อรึยังกับนิยายสูตรสำเร็จ...คุณพร้อมรึยังที่จะพบความแปลกใหม่กับนิยาย(ไม่)แหวกแนว แต่ "แหวกกระแส"::ปิแอร์ เดอ มัสแตง-เด็ก หนังสือพิมพ์ และคำพยากรณ์ ได้แล้ว

[mi-ya-keneko]

แอบน่ากลัวตรงที่มีแนวโน้มในการไปสู่ด้านมืดนี่สิ =w= (อารมณ์นี่น่ากลัวดีแท้)

จะรออ่านอีกสองวิถีนะคะ ^ ^

---

PS.  My name is MiyaJung :: 사랑하니까 사랑하니까 너밖에 모르니까

[ลูกศร ต้นนที]

ลุคใช้เจ็มโซเหมือนพ่อครับ

---

PS.  For the strength of the Pack is the Wolf, and the strength of the Wolf is the Pack.

[peecee]

นึกว่าลุคจะติดการใช้อทารุมาเหมือนโยดา  = =

---

PS.  คุณเบื่อรึยังนิยายแนวตลาด...คุณเบื่อรึยังกับนิยายสูตรสำเร็จ...คุณพร้อมรึยังที่จะพบความแปลกใหม่กับนิยาย(ไม่)แหวกแนว แต่ "แหวกกระแส"::ปิแอร์ เดอ มัสแตง-เด็ก หนังสือพิมพ์ และคำพยากรณ์ ได้แล้ว

[Moji__Fercianut]

เห็นอนาคินแล้วได้แต่ถอนหายใจ
มันไม่น่ากลายเป็นโกงเลย

เรารึอุตส่าห์หลงรักมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ

---

PS.  จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ที่มี