ทำไมแฟนเราไม่หวานเหมือนเก่าเลย หรือเค้าไม่รักเราแล้ว TT^TT
ตั้งกระทู้ใหม่
ไหนจะส่งข้อความมาหา ที่รักอย่างนู้นที่รักอย่างนี้
แต่เดวนี้ เหลือแค่โทรมาหา ห้าหกครั้งต่อวันเอง แต่ก็คุยกันก่อนนอนไม่ว่างจนเช้า เหมือนเดิม
แต่เค้าแบบไม่เรียกที่รัก ไรแล้วอ่า
เรียกแต่ฉายา ไออ้วน บ้าง ไอลิง บ้างไรเงี้ย
แต่ที่มันแย่ๆ ก็คือ เค้าไปเรียกเพื่อนผู้หญิงที่มอเค้าว่าไอลิง เหมือนกัน
เรารู้สึกไม่ดีกะเพื่อนผู้หญิงคนนี้เลย ชอบสนิทกะแฟนเราเกินไป ทั้งที่ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว
ชอบไปไหนมาไหนกะแฟนเรา ทั้งที่แฟนเราไปกะเพื่อน แล้วก็ไปเม้นไรในเฟสบุ๊คอย่างออกนอกหน้าด้วย เราเบื่อมากเลย แถมยังเคยชวนแฟนเราไปที่ห้องตอนตีหนึ่ง บอกว่าจะให้ไปกินมาม่า แต่ยังดีที่เรารู้จักกับเพื่อนของแฟน เค้าก็ไปด้วยกัน หลายๆคน แล้วผู้หญิงคนนั้นจะพยายามบอกให้แฟนเราไปซ่อมคอมในห้องให้หลายครั้งแล้ว เราไม่ไว้ใจเลย เหมือนเค้ามีมารยามาก แถมยังแรงอีก ส่วนเรามันเด็กๆหน่อมแน้ม
เราทะเลาะกันเรื่องคนนี้หลายครั้งมาก แล้วก็เหมือนชียิ่งชอบอ่ะ จนจะทำให้เรากะแฟนเลิกกันอยู่แล้ว
แฟนเราบอก ไม่ต้องคิดมาก ไงเค้าก็รักเราคนเดียว คนนั้นก็แค่เพื่อน เราก็เชื่อแฟนนะ
แต่เราไม่ไว้ใน ผู้หญิงคนนั้นเลย ชอบหาเรื่องให้แฟนเราไปที่ห้องตลอด
เรามันไม่มารยาไรเหมือนคนนั้นนิ๊ เราก็แค่มีความรักแล้วความหวังดีให้แฟนเรา แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะพอไหม
คนคิดมาก
10 ส.ค. 53 เวลา 00:38 น.
515
views
9 ความคิดเห็น
เป็นกำลังใจให้นะ
เพลงไม่เคยลืม - เคลื้ม
เพราะดีนะ ลองฟังดู
PS. สิ่งที่เทอทัม ทัมไห้ชั้ลรั๊คเทอเข้าไปทุกทีแต่... ชั้ลม่ะกล้าบอกเทอแม้เทอจะเคยบอกชั้ลหลายร้อยครั้ง... ชั้ลเลือกที่จะม่ะบอกเทอสักคั้งเพราะ... ชั้ลกัวหัวไจของชั้ลต้องเจ๊บอีกคั้ง....
อย่าระวังจนกลายเปนระแวง
พูดกับผู้หญิงคนนั้นไปตรงๆเลย
ว่าเราไม่ชอบนะที่ให้เทอมายุ่งกะแฟนเราอะไรปะมานนี้อ่ะ
หรือไม่ก้อมันต้องเริ่มที่แฟนเทอเอง แบบว่าจากที่เคยโทรหาวันละหลายๆรอบก้อให้เปลี่ยนวันละรอบหรือ2รอบดู
แล้วทำอย่างนี้ไปซักพักแฟนเราจะเริ่มรู้สึกว่าเขาจะเสียเราไปแล้วเขาก้อจะกลับมาเอาใจใส่เราเหมือนเดิม
ลองวิธีนี้ดูนะค๊ะเผื่อจะใช้ได้ผล
ป.ล.เราเคยลองใช้วิธีนี้ดูแล้ว แล้วมันก้อได้ผลจริงๆคะ
ช่วงเวลาหวานชื่นที่กำลังจืดจาง
คนเรามีช่วงเวลาแห่งความสุข
สั้นยาวไม่เท่ากัน
ฝรั่งมักเรียกช่วงที่เราอินเลิฟว่า
เป็นช่วงเวลาของฮันนีมูน
ฮันนีมูนหรือการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์
ไม่ได้มีเฉพาะคู่แต่งงานเท่านั้น
คนที่เริ่มรักกันใหม่ใหม่
ก็จะมีอารมณ์ของการฮันนีมูนปะปนอยู่ด้วย
ฮันนีมูนโดยเฉลี่ยมีอายุประมาณสามถึงสี่เดือน
เมื่อตอนเริ่มต้นคบหรือรักกัน
อะไรก็สวยสดงดงามไปหมด
ไม่ว่าจะพูดอะไรหรือคุยถึงอะไร
ก็สนุกสนาน ลื่นไหล และหวานชื่น
ฮันนีมูน ทำให้เราคิดถึงกันบ่อยบ่อย
ฮันนีมูน ทำให้บทสนทนาไม่น่าเบื่อ
ฮันนีมูน ทำให้สีชมพูโรยรายอยู่รอบตัวเรา
แต่ ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เริกรา
ฮันนีมูนก็เช่นกัน
หลังหมดช่วงเวลาแห่งความดื่มด่ำแล้ว
โลกสีชมพูที่เราเห็นจะค่อยค่อยสลายไป
เหลือแต่โลกแห่งความเป็นจริง
และโลกแห่งความเป็นจริง
มักโหดร้ายกว่าโลกแห่งความฝันเสมอ
หลายคู่เมื่อผ่านพ้นฮันนีมูนแล้ว
ก็เพิ่งรู้ว่า
เค้าคนนั้นมีแฟนอยู่แล้ว
เค้าคนนั้นยังตัดใจจากคนรักเก่าไม่ได้
เค้าคนนั้นขอเราย้อนกลับไปคบกันแบบเมื่อก่อนได้ไหม
เค้าคนนั้นกลับมาขอเป็นเพื่อน
เค้าคนนั้นบอกว่าขอระยะทางห่างไว้ใช้ชีวิตส่วนตัวได้ไหม
ความเปลี่ยนไปต่างต่างนี้
เป็นสัญญาณบอกเราว่า ฮันนีมูนกำลังจบลงแล้ว
แต่ก่อนจะคิดว่าโลกนี้คงต้องถล่มทลายไป
เพราะคนที่เคยดีกับเรามากมากกำลังเปลี่ยนแปลงไป
บางที เมื่อมองให้ดีแล้ว
เค้าคนนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย
แต่เค้าที่ทำดีกับเรามากมาก
หรือเรามีความสุขมากมาก
เรา กำลังโดนช่วงเวลาของฮันนีมูนลวงตา
เมื่อติดกับความรักเข้าแล้ว
ความจริงก็เริ่มปรากฏ
คนที่เราเห็นหลังฮันนีมูน
นั่นแหละตัวตนที่แท้จริง
อย่าตีโพยตีพายให้เค้ากลับมาเหมือนเดิม
สามเดือนแรกที่เรารู้จักนั่นตังหาก...ที่เป็นตัวปลอม
รู้สึกว่า...เขารักเราน้อยลง เรารักเขาน้อยลง...ทำไงดี เมื่อเราหมดรักในตัวเขา เมื่อเรารักคนอื่น(ต่อ)..
(ต่อ)..รู้สึก ว่า...เขารักเราน้อยลง เรารักเขาน้อยลง...ทำไงดี เมื่อเราหมดรักในตัวเขา
เมื่อเรารักคนอื่นมากกว่าเขา เราเริ่มห่างกันออกไปเรื่อย ๆ
...เขาดูเนือย ๆ กับเรา เขาไม่เหมือนเดิม...หรือเราที่เปลี่ยนไป
“เราไม่ได้รักกันอย่างที่เราเข้าใจ
เราแค่คิดว่า เราจะรักกันได้เท่านั้นเอง”
เมื่อ ความรักเดินทางมาถึงจุด ๆ หนึ่ง มันเหมือนจุดหักเหจะพุ่งสูงขึ้น หรือจะดิ่งลง ช่วงนี้แหละจะเป็นช่วงชี้ชะตา หากพุ่งสูงขึ้น
ก็จะเข้าสู่จุดของเส้นชัย ที่ล้อมรอบไปด้วยดอกกุหลาบ และมีประตูของการใช้ชีวิตคู่รออยู่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันดิ่งลง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะรับรู้ได้
ว่าความรักของเราเริ่มเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ในทางทีดีขึ้น แต่เหมือนมันลดลง ดูมันค่อย ๆ หดหายจืดจางไปเรื่อย ๆ
เหตุการณ์ ที่ความรักดิ่งลงเหว ส่วนใหญ่สืบเนื่องมาจากจุดเริ่มต้นของความรัก หากเกิดกับหนุ่มสาวที่คบกันอย่างผิวเผินก็ตกลงใจเป็นแฟนกัน
ด้วยความต้องตาต้องใจ และประทับใจอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ จะด้วยเหตุการณ์เป็นใจ หรือรูปกายภายนอก แต่เป็นความคิดว่ารักกันทั้ง ๆ
ที่ยังไม่รู้จักกันและกันเท่าไหร่เลย คู่รักเหล่านี้มักใช้เวลารวดเร็ว เหมือน รีบ ๆ รัก และรีบ ๆ เลิก เวลารักก็แสดงออกกันอย่างเต็มที่
รักกันมากมายเหลือเกิน แล้วลมอันหอมหวานนั้นก็พัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แต่ สำหรับคู่รักที่ได้เรียนรู้ศึกษากันและกันมาก่อนที่จะตกลงปลงใจบอกรักกัน เป็นแฟนกัน ความรักมักเป็นไปอย่างเรียบง่าย ค่อยเป็นค่อยไป
แต่ไม่ได้หมายถึงว่ามันจะยั่งยืนแน่นอน เพราะไม่มีใครรู้จักใครดีพอในทุก ๆมุม แม้จะรู้จักกันมานาน การปฏิบัติตนกับคนรู้จัก
กับคนรักก็ต่างกัน การได้เรียนรู้กันในรูปแบบคนรักเหมือนแบบฝึกหัดใหม่ที่ทั้งคู่ต้องฝึกฝนเพียง
แต่มันเป็นการดีตรงที่เราได้เห็นครึ่งหนึ่งของเขามาแล้ว และส่วนนั้นเราก็รับมันได้แล้ว จึงทำให้ปัญหาต่าง ๆ
ที่เกิดจากความไม่เข้าใจกันลดน้อยลงไปด้วย
เมื่อความรักถึงจุดดิ่งลง เหว ไม่มีใครที่เป็นคู่รักจะไม่รู้สึกถึงอารมณ์นี้ โดยเฉพาะฝ่ายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เป็นฝ่ายที่ยังรักษาปริมาณไว้ได้เท่าเดิม
แต่อีกฝ่ายกำลังทำให้มันลดลง อาการที่แสดง ว่าลดลงก็มักมาจาก ปกติเป็นไง ตอนนี้ไม่ปกติ โทรมาทุกวัน เริ่มวันเว้นวัน จนเป็นนาน ๆ ครั้ง
อะไรที่เคยทำกลับไม่ทำ มักลืมกับเรื่องต่าง ๆ ของเรา ไม่ค่อยใส่ใจถามไถ่เรื่องราวของกันและกัน ความห่วงใยลดลง การดูแลเอื้ออาทรน้อยกว่าเดิม
ผิดถนัด หายหน้าหายตา ไม่ค่อยได้เจอกัน เจอกันก็ไม่สวีทเหมือนเก่า แถมบางทีก็ดูเหมือนไม่เต็มใจมา ใจลอย ดูไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่
และสังเกตได้ว่านับวันจะอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกอาจคิดไปในทางที่ดีว่า เป็นเพราะมีปัญหา มีเรื่องกลุ้มใจอะไรบางอย่างที่บอกกันไม่ได้
แต่นานวันเข้ามันก็ไม่ได้ดีขึ้น ถามแล้วก็บอกว่าไม่มีอะไร เราเริ่มห่าง ๆ กันออกไป
ก่อนอื่นต้องพิจาณาดูก่อนว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับ เราสองคนหรือเปล่า มีใครเข้ามาทำให้เขาหรือเราเปลี่ยนแปลงไหม
ถ้าไม่มี ก็ดูที่ตัวตนของแต่ละคน เราหรือเปล่าที่ทำให้เขาเป็นอย่างนั้น เรามีอะไรผิดปกติในใจไหม เราอาจทำอะไรบางอย่างให้เขาเบื่อก็ได้
หรือเพราะเราไปมีใจให้คนอื่น และเราเองนี่แหละที่เปลี่ยนแปลงไป จนทำให้เขารู้สึกได้ แต่ที่แน่ ๆ ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ มันจะจบอย่างไม่สวยแน่นอน
เราอาจจะเก็บข้อสงสัยและกลายเป็นคนแปลกหน้ากันไปเลย โดยไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา
เมื่อเกิดปัญหานี้ ขึ้น ไม่ว่าเธอจะเป็นฝ่ายที่รู้สึกรักเขาน้อยลงหรือเขารักเธอน้อยลง
อย่าปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่กับความสงสัยนานเพราะมันจะทำให้เกิดอาการคิดมาก ปวดหัว ไม่เข้าใจ การปล่อยให้คนที่เราเคยพูดว่าเรารักเขา
จมอยู่ในความทุกข์ ที่มีสาเหตุมาจากเรา ถือว่าเราทำผิดอย่างร้างแรง ลองหันหน้าเข้าหากัน ถ้าเธอเป็นฝ่ายรู้สึกก่อน
อย่าปล่อยให้การกระทำหมางเมินทำร้ายเขา เปิดปากพูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมา แต่ต้องหาสาเหตุให้ตัวเองได้ก่อนว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น
ถ้ามันเป็นเพราะพฤติกรรมของเขาบางอย่างที่เราไม่ชอบ ก็ควรพูดคุยให้เขาฟัง เพราะการปรับเข้าหากัน เชื่อเถอะว่าถ้าเขารักเรา
เขาจะยินดีทำมัน แต่หากเขาทำไม่ได้ เขาก็พร้อมที่จะเข้าใจ จริง ๆ แล้วถ้ามีปัญหานี้มันต้องแก้มาตั้งแต่ต้น คือถ้าเธอไม่พอใจอะไรเขา
เธอควรพูดตั้งแต่ต้น อย่าปล่อยให้เขาทำอย่างนั้นมาโดยตลอด ตามใจแต่ในใจขัดใจ นานวันเขาก็ไม่มีวันรู้เลยว่าเธอไม่ชอบ
แล้ววันหนึ่งที่เธอสะสมมานาน เธอเองนั่นแหละที่ทำลายความรักของตัวเอง และทำร้ายคนอีกคน เหมือนยืมมือเขาให้มาทำร้ายตัวเขาเองโดยไม่รู้ตัว
ใน ทางกลับกันถ้าเขาเป็นฝ่ายกระทำ และเธอไม่รู้ ไม่ต้องรอให้เขาบอกหรอกนะ ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่อยากทำร้ายจิตใจผู้หญิง
มักใช้การกระทำเป็นตัวบอกว่าไม่รักแล้ว หรือรักน้อยลง ตัดสินใจคุยกับเขาอย่างตรงไปตรงมา เริ่มถามก่อนเลย
อย่าปล่อยให้มันบั่นทอนจิตใจนาน คนที่มีความรัก ต้องซื่อสัตย์กับความรัก นั่นหมายถึงเมื่อความรักมันขยับตัว
ก็ควรบอกให้อีกฝ่ายรู้ มิใช่ปล่อยให้เรานั่งรออยู่ที่เดิมทั้ง ๆ ที่เขาไม่คิดจะออกมาเจอเรา
ถ้าเธอยังมีความทรงจำที่ดีกับความรักอยู่ไม่อยากมองว่าเขาเป็นคนใจร้ายมากไป กว่านี้ ไม่มีคำว่าสาย
แต่ถ้าหากคุยกันแล้ว ยากที่เราจะปรับเข้าหากัน เพราะมันเป็นนิสัยส่วนตัวที่เกินเยียวยา ก็ควรยินดีที่จะทำให้มันจบลง
ดีกว่าการทู่ซี้นั่งมองความรักที่ลดลงไปเรื่อย ๆ การมองเห็นมันค่อย ๆ หาย กับการเดินจากไปซะก่อน เราน่าจะรู้สึกดีกับอย่างหลังมากกว่า
หากสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดเพราะมีใครเข้ามาเพิ่มเติมในใจของอีกฝ่าย ก็ย่อมแสดงว่า เราไม่ได้รักกันอย่างที่เราเข้าใจ
เราแค่คิดว่าเราจะรักกันได้ก็เท่านั้นเอง ไม่ ว่าเธอหรือเขาจะเป็นฝ่ายเสียใจที่เห็นอีกฝ่ายมีใจให้กับอีกคน เธอต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า
กว่าคน ๆ หนึ่งจะมาเจอคน ๆ หนึ่งและใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน บางครั้งก็ต้องผ่านการทดสอบร่วมกับคนอื่น ๆ มาก่อน คนที่เราแต่งงานด้วย
อาจไม่ใช่คนแรกที่เรารักก็ได้ ถ้าเราไม่ ลองผิดลองถูก เราจะไม่รู้หรอกว่า ความรักที่แท้จริงมันอยู่ที่คนไหนกันแน่ เราอาจคิดว่าคนนี้ใช่
แต่เมื่อไหร่ที่ไม่ใช่ เราจะรู้ว่าที่ใช่มันเป็นยังไง
เชื่อใจเธอ แต่ไม่ไว้ใจเขา
เจอเหมือนกันเรย  เพิ่งสดๆร้อนๆมาเรย นั่นดิ
เราอ่ะนะเชื่อจัยแฟนเรา บอกไม่มีรัยก้อไม่มีรัย
แต่ไอผุหญิงคนัน้นอ่าดิ มันไม่น่าไว้ใจ
แต่แฟนเราก้อบอกเรานะว่า  ตบมือข้างเดียวยังไงก้อไม่ดังหรอก  เพราะผุหยิงมันคิดอุฝ่ายเดียว
แต่ถ้ามันจิงๆ  อย่ายอมสู้ๆๆๆให้มันสุดๆ  หรือไม่ก้อทำเปนแกล้งโง่ ไม่รุเรื่องว่ามันทำไรกัน แล้วค่อยรอระเบิดทีเดียวเรย
สู้ๆนะเจ้าของกระทู้^^
เราก็เคยเจอนะสถานการณ์เนี่ย เพื่อนรักก็กลายเป้นรักเพื่อน เพราะคนของเราเป็นคนเบื้องหลังไงรู้เห็นเป็นใจกับเธอคนนั้น ช่างเค้าเถอะเราไม่มีมารยาทเท่าเขา สักวันถ้าเค้าเป็นของเราเป็นเนื้อคู่เราไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ ผ่านอะไรมามากเท่าไหร่เค้าก็คงจะกลับมาเป็นของเราอยู่ดีนั่นแหละ
PS. รักกัลๆๆๆ
อย่าไปเครียดเลย
หารัยทำดีกว่าจะได้ลืมๆ
คำว่าเชื่อใจเท่านั้น ที่ทำให้คน 2 คน คบกันอย่างมีความสุข
คู่กันแล้ว ก็ไม่แคล้วกัน นะ อย่าระแวงมากไปเลยค่ะ
เดี่ยวแฟนคุณจะรำคาญ จนไปสนใจหญิงคนนั้นขึ้นมาจริงๆก็ได้
เอาความดี ชนะใจให้ได้นะค่ะ สู้ๆค่ะ ^^
PS. PS.
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?