Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[สาระ+กึ่งๆจะรก]ชุดเกราะตัวใหม่ของอัศวินอโยธยา ฉบับสมบูรณ์!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เอาล่ะครับ หายหน้าไปพักใหญ่ ตอนนี้ชุดเกราะของผมก็เสร็จสมบูรณ์แล้วครับผม!!!!


เผอิญว่าได้สวมเกราะตัวนี้เป็นปฐมฤกษ์ที่งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์-ห้องสมุดที่โรงเรียนผดุงราษฎร์  จ.พิษณุโลก โรงเรียนเก่าของกระผมเองครับ (เพราะเขาเชิญผมไปเป็นวิทยากรน่ะ) และเพราะว่าทางนี้เขาไม่มีการแต่งคอสเพลย์กัน ก็เล่นทำเอาน้องๆเด็กๆทั้งหลายตื่นเต้นกันใหญ่ โดยเฉพาะพวกน้องๆมารุมขอจับชุดเกราะผมใหญ่เลยเชียว

สรุปก็คือ งานนี้ เกราะผ่านงานได้ดีครับ เพราะสวมแล้วไม่มีปัญหาเรื่องข้อต่อ สามารถลุก นั่ง เดิน และขยับแขนขาขึ้นลงได้โดยสะดวก ไม่งั้นคงต้องเสียเวลารื้อใหม่กันล่ะครับ

Exclusive เบื้องหลังการถ่ายทำครับ



ตอนสวมนี่ฉุกละหุกเหลือหลายครับ เพราะน้องๆเขาก็ไม่เคยเห็นชุดเกราะมาก่อน แถมผมก็ไม่ใช่ตัวเล็กๆ ก็เล่นเอาวุ่นวายเลยทีเดียว



งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้น้องคนนี้ครับ ไม่รู้ว่าเคยไปลองสวมเกราะให้ใครมาหรือเปล่า เพราะคล่องมาก คนอื่นๆเขายืนงงกันเป็นพัก แม่นี่มาถึงจับใส่ๆเอา ไม่ธรรมดาเลยนะนั่นน่ะ



และแล้ว ก็เสร็จสมบูรณ์ออกมาด้วยประการ ณ ฉะนี้แล เอวัง~
PS.  หากฟ้าสวรรค์ปกครองด้วยพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวได้แล้วไซร้ ไฉนบนผืนพิภพจักมีจอมจักรพรรดิเพียงพระองค์เดียวมิได้ - ติมูร์เลน

แสดงความคิดเห็น

>

19 ความคิดเห็น

หนูแดง :3 22 ส.ค. 53 เวลา 01:29 น. 2

 เ้อ้าพี่ท่าน ศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกันเลยนี่ (เพิ่งรู้- -*) ว่าแต่พี่ท่านไปแต่งตัวที่ห้องนาฎศิลป์ตึกประถมใช่มั้ย ฉากหลังช่างคุ้นมาก

รูปแรกเหมือนอาจารย์ยิมจะเป็นแบล็คกราวด์ให้ อิอิ

เกราะสุโค่ยมากค่ะพี่


PS.  [[หนูแดงแกงไก่ใส่พริกไทยร้อยเม็ด คุณย่าว่าเผ็ดใส่น้ำเปรี้ยวครึ่งช้อน หนูแดงโมโหๆ ปักเป้ายิงฉุบ!! :D]]
0
Deta 22 ส.ค. 53 เวลา 02:07 น. 3

บ๊ะ ลงลายสวย = =b!


PS.  [สถานะ:: มันเป็นเรื่องของโชคชะตา...]// กฎหมาย...ถ้าคนไม่เคารพ มันก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ // It's our "Destiny" // อ๊างงงค์~~~
0
น๊อคเทินร์ 22 ส.ค. 53 เวลา 04:31 น. 4

ท่าทางจะเกราะจะแข็งแกร่งมากๆเลยนะขอรับ ตีบวกเท่าไหร่นิ


PS.  ฝากนิยายเกมส์ออนไลน์ พล๊อตซํ้าซาก พบมากแถบเอเซียอคาเนย์ไว้ในง้ามรักแร้ หน่อยครับ http://writer.dek-d.com/norcturn/writer/view.php?id=642035 กาก&เกรียนออนไลน์ NooB-Online
0
haru_tatsu 22 ส.ค. 53 เวลา 10:13 น. 7

นั่นสิ.. เกราะสวยจริงๆนะ


PS.  กรุณาอย่าเอาตัวเองมาเป็นมาตรฐานได้มั๊ย!!............sarangheyo.. Amo-te . Szeretlek. Ich liebe dich . seni seviyorum. Ik hou van jou..ผมรักคุณจริงๆนะ..เชื่อคำจิ้งจอกตัวนี้มั๊ย
0
ar_bu_da_beeee! 22 ส.ค. 53 เวลา 10:31 น. 8

 บวก10ชัดๆ

มีประกายออร่าด้วย


PS.  ความจริงคือความจริง โกหกคือโกหก.........เหมือนเเต่แตกต่าง
0
mi-ya-keneko 22 ส.ค. 53 เวลา 11:19 น. 9

สวยมากค่ะ สุดยอดจริงๆ ^ ^d

แต่เหมือนเกราะจะติดพุงนะคะ 555 ลดๆหน่อยก็ดีค่ะ จะได้เปล่งประกายความเท่ได้มา่กขึ้น


PS.  Chocolate Love ❤ แม้ความรักนั้นจะหวานสักเพียงใด ย่อมไม่อาจหลีกหนีความขมพ้น...แม้จะขมเจียนตายแทบขาดใจสักเท่าไหร่ แต่ความหวานที่มีก็ทำให้มีกำลังใจที่จะเฝ้ารอต่อไป
0
B.J.Chan 22 ส.ค. 53 เวลา 12:15 น. 10

ขอเข้ามาแซวแบบความเห็นบน ๆ

ลายงาม...


PS.  http://writer.dek-d.com/yaya-aom/writer/view.php?id=609040 - อ่าน PS. แล้วก็เข้าไปอ่านนิยายแฟนตาซีของข้าน้อยซะ มันฉีกกรอบของคำทำนายนะรู้มั้ย อ้าวไม่รู้เรอะ ไม่รู้ก็เข้าไปอ่านเซ่
0
peecee 22 ส.ค. 53 เวลา 14:30 น. 12

ชุดเกราะไทย   ดาบซามูไรญี่ปุ่น   กับเข็มขัดนักเรียน


PS.  คุณเบื่อรึยังนิยายแนวตลาด...คุณเบื่อรึยังกับนิยายสูตรสำเร็จ...คุณพร้อมรึยังที่จะพบความแปลกใหม่กับนิยาย(ไม่)แหวกแนว แต่ "แหวกกระแส"::ปิแอร์ เดอ มัสแตง-เด็ก หนังสือพิมพ์ และคำพยากรณ์ ได้แล้ว
0
ติมูร์ข่าน 22 ส.ค. 53 เวลา 15:04 น. 13
ตอบ คุณน๊อคเทินร์

เกราะนี้ทำจากพลาสติก PE ครับ ตัดด้วยกรรไกรได้ แต่ความเหนียวนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ เอาไปลนไฟก็ดัดทรงได้ตามที่ต้องการ แต่ถ้าในรวมราคาแล้ว ถ้าไม่ลงลายก็ 2000 - 2500 บาท ซึ่งก็แล้วแต่ว่า จะเอาเกราะส่วนไหนบ้าง ถ้าเอาแค่ลำตัวเพียวๆ ไม่มีกรองคอ บังไหล่และบังขาก็แค่ 1500 ครับ แต่ถ้าลงลายแบบนี้ ก็คิดเพิ่มเป็น 3000 บาทครับ

ตอบ peecee

บอกแล้วไงครับว่า ขี้คร้านตัดเข็มขัดใหม่ เอาเข็มขัดนักเรียนนี่แหละ ง่ายดี (ฮา) ส่วนเรื่องดาบนั้น ลองไปดูที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนครเถิด ดาบไทยแต่โบราณ โดยเฉพาะพวกดาบของขุนนาง ยันพระแสงดาบของพระมหากษัตริย์เรา ก็นิยมใช้ดาบซามูไรกันทั้งนั้นล่ะครับ แถมผมยังเคยเห็นดาบซามูไรสัญชาติไทยที่ลงรักปิดทอง แถมด้ามก็ทักด้วยด้ายทองมาแล้วนะครับ

ตอบ บรรดาพี่น้องผู้มาแซวเรื่องพุง (ฮา) 

จริงๆแล้ว เกราะยุโรปแท้ต้องมีส่วนป่องที่ท้องครับ เกราะบางตัวจะป่องมากจนดูเหมือนคนท้องเลยก็มี เข้าใจว่าเพื่อให้ผู้สวมหายใจเข้า-ออกได้โดยสะดวก






 เห็นไหมครับว่า เกราะชุดแบบนี้จะป่องออกจริงๆ แต่เผอิญว่าผมทำไม่ได้ (เพราะมันไม่ใช่เหล็ก) แต่เผอิญว่ามีพุงเป็นกันชนหน้าอยู่แล้ว ก็ใช้มันให้เกิดประโยชน์เสียเลย ผลออกมาคือป่องสมใจอย่างเกราะยุโรปแท้มันเสียเลย (ฮา)

แต่ถึงขนาดนั้น ผมก็ไม่ได้อึดอัดนะครับ สวมได้สบาย ลุก เดิน นั่ง ยันยกขาเตะหรือเงื้อดาบได้สบายครับ ไม่เป็นปัญหา เสียแค่ใส่นานๆแล้วมัน "ร้อน" น่ะ (แต่รุ่นพี่ผมแกสวมเกราะเหล็กฝึกดาบทั้งวัน จนแกชินไปแล้วครับ)

อ้อ ส่วนการแต่งลายที่น้องๆหลายคนกล่าวชมมานั้น จะขอสอนน้องๆทั้งหลายเป็นวิทยาทานก็แล้วกันนะครับ โดยเฉพาะน้องๆที่ชอบแต่งหรือมีเพื่อนแต่งคอสเพลย์ก็แล้วกัน

จริงๆก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรหรอกครับ ไม่ต้องลำบากลำบนมาตัดสติ๊กเกอร์แปะให้เปลืองเงินเปล่า (บอกตามตรงว่าแพงสุดๆเลยละ) หรือว่าตัดแบบบนกระดาษแล้วพ่นสีสเปรย์ให้แสบตาแสบจมูกเลย  เพราะผมใช้ภูมิปัญญาช่างศิลป์ไทยแต่บรรพบุรุษนี่ล่ะครับ วิธีนั้นก็คือ "การเขียนลายกำมะลอ" ครับ

วิชาการเขียนลายกำมะลอเป็นวิชาช่างศิลป์ของไทยแต่สมัยอยุธยาโน่นแล้วครับ เพราะในการลงลายที่เรียกว่าลงรักปิดทอง เป็นวิชาช่างชั้นสูง ซึ่งมีใช้กันในหมู่ขุนนางชั้นสูงและเจ้านายท่านเท่านั้น ด้วยเพราะว่าทองคำเป็นธาตุชั้นสูง ห้ามมีการซื้อขายโดยเด็ดขาด การที่จะได้เครื่องใช้หรืองานศิลป์ทองคำมานั้น จะต้องมีตำแหน่งหรือศักดินาสูงมาก (ระดับคุณพระขึ้นไป) จึงจะได้รับการพระราชทานจากเจ้าเหนือหัวโน่นล่ะครับ 

นอกจากทองคำจะหามาได้ยากแล้ว การลงรักปิดทองยิ่งยุ่งยากไปกันใหญ่ เพราะเขาไม่ได้เขียนลายทองบนพื้นดำนะครับ แต่ต้องลงรักดำบนพื้นก่อน จากนั้นก็ทาบลายลงปิดทอง ซึ่งวัสดุที่ใช้วัตถุดิบที่หายากและราคาแพงมาก อย่างกระดาษไข (กระดาษลอกลายนั่นล่ะครับ) เอามากรุลาย น้ำรัก (ยางรักดำๆน่ะนะ อย่าคิดอุตริเป็นอื่น - -) หรือน้ำยาครั่ง (อันนี้ให้สีแดงหรือน้ำเงินครับ - อยู่ที่เขาผสมสีมาให้แล้ว) ทองคำเปลว ดินสอพอง ฯลฯ ยุ่งยากตายชักครับ

แต่การเขียนลายกำมะลอนั้นง่ายกว่ามากครับ และราคาถูกกว่างานศิลป์ที่ลงรักปิดทองมาก (พวกขุนนางชั้นล่างชอบหาซื้อมาใช้ครับ) แค่เราไปหาซื้อสีทองแจ่มๆ มาทาทับบนพื้นที่เราต้องการ รอให้แห้ง จากนั้นก็ใช้ปากกาดำ (สมัยนั้นก็มีแล้วนา) หรือลงลายสีดำเขียนตัดเส้นลายตามที่ต้องการ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีแล้วครับ 

แต่สำหรับวิธีปัจจุบันทันด่วนนี้ ก็ทำคล้ายๆกันครับ แต่สะดวกกว่า คือผมขอแนะนำว่าใช้สีอะคิริคของกรมศิลปากร วินเซอร์ หรือมาสเตอร์อาร์ทจะดีที่สุดครับ มาทาบนพื้นผิวของชุดเกราะ รอให้แห้ง แล้วใช้ปากกาน้ำมันตัดลาย (ขอย้ำ ต้องเป็นปากกาน้ำมันเท่านั้น เพราะสีจะติดทนนาน โดนน้ำก็ไม่ลอก) เขียนตัดเส้นหรือลวดลายที่เราต้องการ แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ 

เห็นไหมล่ะครับว่า วิชาช่างไทยเราก็ไม่อายใครเหมือนกัน ฮา


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 สิงหาคม 2553 / 15:23

PS.  หากฟ้าสวรรค์ปกครองด้วยพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวได้แล้วไซร้ ไฉนบนผืนพิภพจักมีจอมจักรพรรดิเพียงพระองค์เดียวมิได้ - ติมูร์เลน
0
ลูกศร ต้นนที 22 ส.ค. 53 เวลา 15:55 น. 15

พีซีเอ๊ย...เจ้านายก็ใช้ดาบญี่ปุ่นกันทั้งนั้นแหละ ดาบหน้าลูกไก่ ดาบหน้าลาวนั่นพวกไพร่ใช้กันเพราะมันถูก ดาบคาตานะมันดีกว่าและแพงกว่า


PS.  For the strength of the Pack is the Wolf, and the strength of the Wolf is the Pack.
0
ติมูร์ข่าน 22 ส.ค. 53 เวลา 19:10 น. 16
ตอบลูกศร ต้นนที

จะว่าเช่นนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียวครับ เพราะหน้าดาบมิได้บอกถึงชนชั้นหรือฐานันดรของผู้เป็นเจ้าของหรอกครับ เพราะสรรพคุณของมันก็ต่างกัน (รวมถึงความถนัดชำนาญของนักดาบคนๆนั้นด้วย) ซ้ำวิชาช่างดาบของเราแต่โบราณ ก็มิได้น้อยหน้าช่างดาบญี่ปุ่นเลย เพราะเราเองก็ได้รับวิชาโลหะวิทยามาจากจีน แขก และญี่ปุ่นอยู่มาก ชนิดที่ว่าเราสามารถหล่อปืนไฟและปืนใหญ่ได้เอง โดยไม่ต้องง้อช่างต่างชาติแล้ว เรื่องดาบของเราเองก็ไม่ต่างกันครับ แต่เนื้อดาบของเราค่อนจะเหมือนจีนกับแขกมากกว่า คือถ้าใครมีโอกาสได้เห็นดาบโบราณแท้ๆ จะเห็นว่าบนตัวดาบมีริ้ว (Grain) บนเนื้อดาบ เหมือนอย่างดาบแขกหรือดาบจีนเลยครับ 

 อย่างดาบหน้าลูกไก่กับหน้าลาวที่คุณกล่าวนั้น มักเป็นดาบที่ใช้สำหรับการแทงเป็นหลักครับ โดยเฉพาะดาบหน้าลาวนั้นเหมาะที่สุด เพราะหัวใหญ่และแหลมคมมาก แต่ก็มีปัญหาคือขาดความคล่องตัว ในเวลาถอนดึงดาบออกจากร่างของศัตรู จึงนับว่าเป็นดาบที่ใช้ยากเอาการอยู่ ส่วนดาบหน้าลูกไก่นั้นก็มีลักษณะเหมือนกับหน้าดาบซามูไร แต่ดาบที่เหมาะสำหรับการฟันที่สุดคือดาบหัวตัด และดาบหัวหยัก คือเป็นดาบที่หน้าตัดเรียบแบบไม้บรรทัดเลยครับ เขานิยมใช้ตัดขาหรือคอมากกว่า บางเล่มก็มีขนาดใหญ่มากจนถึงขั้นฟันตัดขาม้าได้ ส่วนดาบหัวหยักก็มีปลายแหลมหน่อย และมีขยักขึ้นที่หลังดาบเล็กน้อย เข้าใจว่ามีไว้ใช้กระทุ้งหรืออัดใส่ศัตรู เวลาเข้าตะลุมบอนกันแล้ว

ส่วนดาบอีกประเภทที่ถือว่าเป็นดาบไทยแท้ๆนั้นคือหัวปลาหลดหรือดาบหัวบัวครับ โดยเจ้าดาบสองแบบนี้ เป็นดาบที่มีหัวสองคม ในวงการนักเลงดาบว่าเป็นดาบที่ดีที่สุด เพราะผู้ใช้สามารถแทง ฟัน และตวัดเฉือนข้อต่อของศัตรูได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งใบดาบที่มีหัวสองคมแบบนี้ ก็มีนิยมใช้กันทั้งนั้นจีน เกาหลี และญี่ปุ่นเหมือนกันครับ

PS.  หากฟ้าสวรรค์ปกครองด้วยพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวได้แล้วไซร้ ไฉนบนผืนพิภพจักมีจอมจักรพรรดิเพียงพระองค์เดียวมิได้ - ติมูร์เลน
0
Smile Music 22 ส.ค. 53 เวลา 21:47 น. 17

ท่านข่าน ที่ถ่ายนี่ แต่งชุดนี้ที่ไหนหรือขอรับท่าน?


PS.  มนุษย์เราควรพึงพอใจในสิ่งที่ตนมี ไม่ยกย่องชูเกียรติตนมากเกินความเป็นจริง เพราะความเป็นจริงก็คือความเป็นจริง สัตว์โลกมิอาจหลบหนีความจริงได้หรอก
0