(เครียด)ใช้กาวดักหนูเป็นบาปไหม???
ตั้งกระทู้ใหม่
เมื่อกี้นี้เองมันก็ติด แล้วแม่ก็อยากกินน้ำเย็นแต่แม่ไม่อยากไปหยิบก็ใช้เราไป เราเข้าไปก็เห็นมันนอนติดกาวอยู่ ตามันแป๋ว~ O^O (แบบนี้เลย) แบบว่าขอความเห็นใจประมาณนี้ เราเห็นแล้วสงสารก็เลยนั่งคุยกับหนูสักประมาณ 5 นาที???? แล้วมันก็เหมือนจะรู้เรื่องกับคำพูดมันก็ดิ้นใหญ่ เราสงสารมันมากเลย ถ้าเราดึงออกได้เราคงดึงไปแล้วละ แต่กาวมันเหนียวมากๆ (ทดลองดึงปลาทูออกจากถาดกาว)
จบแล้ว เรามี 2 คำถามที่อยากถาม
1.เป็นบาปปะที่เราทำแบบนี้ ถึงเราจะไม่ได้เป็นคนวาง คนซื้อ หรือคนคิดทำแบบนี้ แต่เห็นมันแล้วก็ไม่ได้ช่วย(ช่วยไม่ได้)
2.คิดว่าเราบ้าปะนั่งคุยกับหนู????
ตอบทีเถอะนะ เครียดจริง TT
PS. ~My love everytime I'm thinking about you. My life is you. I miss you. I believe my dream will come true.>>>เชื่อมั่นในราชวงศ์ลิงทั้ง 13 ^^
43 ความคิดเห็น
เคยเห็นหนูที่ติดกาวในจานเหมือนกัน
มันจ้องเราตาแป๋ว แล้วดิ้นๆๆ ใหญ่เลยอ่ะ
แต่ทีนี้ กาวมันติดไปทั้งตัว ทั้งขาหน้า-หลัง หัว จมูก แล้วก็ตาอีกข้างอ่ะ
เห็นแล้วสงสาร แต่ดึงออกมาก็ไม่ได้ ถึงดึงได้ ก็ไม่รอดอ่ะ
กาวเต็มตัวเลย
ท่าทางจะบาปเลยเรา (- -; )
PS. สูญสิ้นศรัทธา จึงสูญสิ้นความหวัง เมื่อหมดแล้วซึ่งความหวัง ปาฎิหารย์ ก็คงไม่เกิด จงอย่าไปเดาอะไรผิดๆ เอาซะเอง เพราะเราไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว "เรื่องจริง" มันเป็นอย่างไร
พ่อเราเคยดักตอนเราเด็กๆ อ่ะ
ตอนแรกๆ ก็พอมันติดปุ๊บก็เอาอิฐทุบ >< (อย่าว่าพ่อเรานะ - -)
แต่พอหลังๆ ใช้กรงดักละเอาไปปล่อยทุ่งนาแทนอ่ะ
เราว่าใช้กรงแบบขังเฉยๆ เถอะ อย่าใช้กับดักหรือกาวเลย
คือมันไม่ตายสนิทแต่มันทรมานนะ*
PS. จะว่าฉันบ้าหรืออะไรก็ได้ แต่ฉันอยากยืนบนเวทีใหญ่ มีสปอร์ตไลท์สาดส่อง เสียงเชียร์ดังกึกก้อง ไม่ใช่แค่ร้องเพลงแล้วมีความสุข เพลงเป็นแค่บันไดให้ฉันมีชีวิตอยู่
เออ ช่วยมันได้นะถ้ามันติดอ่ะ
แนะนำให้ใช้้ำมันก๊าดราดตรงที่มันติดอ่ะ
แล้วแคะนิดหน่อยเด่วหลุด
ปล่อยตามทุ่งได้ เราก็สงสารมันมากๆเหมือนกัน
บาปไม่บาปขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้ที่กระทำ เราว่ายังมีวิธีอื่นอีกเยอะนะที่จะไม่ต้องทำให้ตาย เช่น จับเเล้วเอาไปปล่อย
เเละเรื่องคุยกับหนูเราว่าธรรมดานะ ก็เหมือนเราคุยกับหมา เเมว หรือสัตว์อื่น เราว่าสัตว์เข้าใจในสิ่งที่เราพูดนะ สัตว์ก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน
ใจเย็นๆลองหาวิธีที่คิดว่าจะช่วยหนูได้เพราะเราว่าตอนนี้หนูยังไม่ตายหรอกเเต่ทรมานอยู่
เรากับแม่ก็เป็นเหมือนกัน
วางกาวนี้แหละ
พอดักเสร็จละเกิดอาการสงสาร
แต่ไม่ทันแล้ว ละ เหอ ๆ
จากนั้นก็ไม่ได้ดักอีกเล ย
แล้วก็มันก็บุก กัด ล้วง ค้น และวิ่ง
เต็มบ้านเลยยยย
เอ้อ ใครมีวิธีไล่ จิ้งจกบ้าง
มันอยู๋ห้องน้ำบ้านเรา อึเรี่ยเต็มเลย
ถ้าไม่อึนี้จะไม่ว่าเลย เหอๆ
บาปสิคะ
อย่าทำเลย
เราว่ามันก็ชีวิตหนึ่งนะ
จะตัเล้กตัวใหญ่มันก็คือหนึ่งชีวิต
PS. ยิ้มก่อนอ่านตาหวานก่อนคลิกนะจ๊ะ http://writer.dek-d.com/Sine2/writer/view.php?id=645834
ทุกอย่างมันต้องเป็นไป แค่ต้องปล่อยวาง
มันเป็นกรรมของ หนู มันนั่นแหละครับ
อย่าทำบาปอีกเลยครับ ตกนรกนะ อย่างพ่อคนที่เอาอิฐทุบ ก็มีนรกรอไว้เผา และ ก้อนหินกลิ้งทับ อะไรประมาณนั้นแหละครับ การด่า ตำหนิ คนที่ทำบาป จะช่วยลดบาปให้คนที่ทำบาปได้นะ
PS. ใครอยากสมหวังทุกอย่างที่อยากได้ ใครอยากพ้นทุกข์หรือทำอะไรก็ได้ทุกอย่างแต่ต้องใช้เวลา พระพุทธเจ้าท่านบอกทางไว้แล้ว www.samyaek.com
PS. ใครอยากสมหวังทุกอย่างที่อยากได้ ใครอยากพ้นทุกข์หรือทำอะไรก็ได้ทุกอย่างแต่ต้องใช้เวลา พระพุทธเจ้าท่านบอกทางไว้แล้ว www.samyaek.com
ก็คงบาปนะ เพราะมันครบทั้ง เจตนา และการกระทำ
เจตนา : เพื่อที่จะกำจัดให้หนูไปให้พ้นจากบ้าน
การกระทำ : ทำการวางที่ดักกาวไว้ จนดักหนูได้สำเร็จ
แต่ถ้าไม่กำจัดหนู นานไป หนูเค้าก็คงออกลูกออกหลานเต็มบ้านหมด ซึ่งมันก็เป็นอันตรายต่อคนที่อยู่อาศัย
เหมือนกับเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคให้ตัวเราเองดีๆนี่แหละ
เฮ้อ ... เรื่องนี้มันเศร้าจริงๆนะ
แต่จขกท.ไม่รู้เรื่องเลยนะรู้แค่ว่ามีหนูเข้ามาแล้วก็ตอนที่แม่บอกว่าจะดักแต่เราก็ไม่ได้ห้ามอะไร รู้อีกทีมันก็ติดแล้ว T_T เราไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย
แต่ที่รู้สึกไม่ดีเพราะ เราช่วยมันไม่ได้
PS. ~My love everytime I'm thinking about you. My life is you. I miss you. I believe my dream will come true.>>>เชื่อมั่นในราชวงศ์ลิงทั้ง 13 ^^
แม่เทอ อะบาป100 เปอเซ็น มีเจตนาไปซื้อกาวมา รู้ว่าซื้อกาวดักหนูมาแล้ว มันต้องตายแน่ๆ ก็บาปไป  กรรมที่แม่เทออาจจะได้รับ คือโดนวางยาเบื่อ โดนวางยาพิษ หรืออื่นๆที่ทำให้ตายนั้นแหละ ไม่ได้แช่งนะ แต่เป็นไปตามหลักกฏแห่งกรรม ทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้นตอบแทน
ส่วน จขกท เห็นสัตว์กำลังจะตายแล้วไม่ช่วย รู้ว่าช่วยได้ (ถึงจะยาก) แต่ถ้าคนที่เขาจะช่วยจริงๆเขาต้องช่วยจนได้แหละ นี้ไม่ช่วย เหอะๆ
สมมุติ จขกท ตกบ่อน้ำ แล้วมีคนมาเห็นแล้วถามว่าเป็นไงบ้าง แต่ไม่ช่วย เธอจะรู้สึกแบบนั้นแหละ
ที่ไปคุยกะหนู มันรู้เรื่องแหละ  ปล. แทนที่จะคุยกับมัน เราว่าเทอรวมบุญที่เธอทำมาจากอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติแล้วแผ่เมตตาให้หนูมันจะดีกว่านะ ถ้ามันตายมันจะได้บุญเราแล้วไปเกิด  แล้วเป็นการอโหสิกรรมกับมันไปในตัวด้วย
PS. ศาสนาไม่เคยทำให้ใครเสียใจเท่าความรัก
ตามหลักวิทยาศาสตร์และจิตวิยา ถ้าคิดว่าไม่บาปมันก็ไม่บาป
เอาจริงๆนะครับ เอาตามหลักวิชาการจริงๆ คำว่า ดี-เลว มันไม่มีจริงๆ หรอกครับ
คนในสังคมนั่นๆ เป้นผู้กำหนด อันใหนดีแล้วมากกว่า
เมืองไทยเป้นเมืองพุทธ จึงยึดติดกับ คำว่าบาปที่เป็้นรูปธรรม
เอาเข้าจริงๆ บาป มันเป็้นเพียง นามธรรมที่เราจินตนาการส้รางขึ้นมาเองมากกว่าครับ
ผมไม่เชื่อว่า สิ่งที่ดี ไม่ดี มันมีอยู่จริงๆอยู่ในโลกครับ แต่ ถ้าเราไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน นั่นก็ จะทำให้เรา
อยู่ไม่เป้นสุขแน่นอน
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 15 กันยายน 2553 / 08:11
PS. มีปัญหา อยากด่า หรือท้าต่อย แอดเมล์ครับ
คห14 เหมือนไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง ไม่เชื่อว่าบุญ-บาป ของการกระทำมีจริง ไม่เชื่อกฏแห่งกรรมของการกระทำอาซิ
อย่าเอาวิทยาศาสตร์ หรือจิตวิทยามาป่นกับหลักคำสอนของพุทธองค์ซิ
เหมือนพวกเอาสัตว์ไปทำวิจัยนั้นแหละ งานวิจัยสัตว์โทรโลกคิดว่าไม่บาปเพราะเป็นงาน แต่ทางศาสนาก็ไปพลากชีวิตมันก็บาป
นายเองก็อย่ายึดติดกับวิทยาศาสตร์มาก ตายไปแล้วจะลำบาก โอกาศเกิดเป็นคนมันยากมหาศาล
สุภาษิตนี้แด่เจ้าของกระทู้ที่ ๑๔  ว่า  "เมื่อเปลือกตาของท่านปิดลง  ความลับทั่วทั้งจักรวาลก็จักเปิดเผย"..........บุญบารมีของแต่ละคนที่เกิดมาไม่เท่ากัน การที่จะเห็นบาปบุญคุณโทษนั้นจึงไม่เท่ากัน....................เจริญพร
ก็ไม่อยากทำหรอกแต่ มันทั้งฉีใส่แอร์รถล้างหมดไปสองพัน แล้วจากนั้นก็กัดสายไฟเป็นว่าเ่ล่น ตอนแรกไม่ทำหรอก อดทดมาสองปีกว่าแล้วความอดทดก็หมดไปนำวันยิ่งทวีความรุนแรง เฮฺ้อ เซ็ง101
ไม่ขอรักษานำใจนะครับ บาป ครับ
แต่ต้องดูว่าบาปมากหรือบาปน้อย
จากการกระทำ ทำไปโดยไม่ตั้งใจจริงๆทำไปโดยไม่รู้
บาปน้อยกว่าพวกที่เจตนาแน่นอนครับแน่ๆด้วย
PS. ขอบคุณครับ
ขุดซะหนอ่ยละกันครับ ผ่านมาเจอพอดี
วิธีปล่อยหนูจากถาดกาว ง่ายมากครับ 
อุปกรณ์มี น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ ถ้าทำบ่อยก็ซื้อเป็นขวดเล็กๆไว้ก็ได้    แล้วก็พู่กันหรือแปรงทาสีหรือใช้เชื่อกฟางตัดสั้นๆแล้วมัดไว้กับตะเกียบ ฉีกปลายให้เป็นฝอยๆ ใช้แทนก็ได้
วิธีการคือ  เทน้ำมันพืชลงบนถาดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ  อีก 1 ช้อนโต๊ะราดลงบนลำตัวหนู  จากนั้นใ้ช้แปรงหรือพู่กัน เกลี่ยน้ำมันพืชให้ทั่วทั้งถาด เริ่มจากบริเวณที่เทน้ำมันไว้นะครับ  พอขนแปรงติดน้ำมัน มันจะไม่ติดกาว ก็เกลี่ยน้ำมันให้ทั่วถาดเลย เพื่อว่าถ้าหนูหลุดจากกาวที่ติดอยู่ก่อน จะได้ไม่ไปติดบริเวณอื่น  จากนั้นเอาแปรงทาตัวหนูให้ทั่วแล้วใ้ช้แปรงค่อยๆแซะบริเวณลำตัวหนูที่ติดกาวโดยเริ่มจากบริเวณด้านท้ายตรงหางและขาหลังก่อน เอาแปรงค่อยๆปัดแซะกาวไป เมื่อกาวโดนน้ำมันมันจะไม่เหนียวติดครับ หนูจะค่อยๆหลุด  แต่ตรงส่วนหัวต้องทำระวังหน่อย ถ้าหนูตัวเล็ก น้ำมันอาจจะละลายกาวไปอุดจมูกมันได้ ถ้าลำตัวมันหลุดเยอะแล้ว แล้วดิ้นหน่อย จะหลุดง่ายครับถ้าตัวชุ่มน้ำมันแล้ว พยายามทาน้ำมันให้ทั่วๆตัวหนูและแซะบริเวณท้องหรือข้างๆที่มัีนติด ไม่นานเกิน 5 นาทีครับ หลุดแน่นอน
กลับมาเรื่องบุญบาป  ส่วนตัวเป็นชาวพุทธเช่นกัน ก็เชื่อในแบบใช้สติไตร่ตรองคำสอนตามหลักศาสนา  บุญบาปมันก็อยู่ที่ใจตั้งแต่กระทำแล้ว  ทำบุญย่อมสบายใจ  ทำบาปใจไม่สบายหรอกครับ  การเบียดเบียนกัน ในที่สุดมันย่อมส่งผลถึงตัวเราได้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม  แต่บางครั้ง เราไม่อาจหลีกเลี่ยงบาปได้ัทั้งหมด ก็ต้องกล้าที่จะเลือกหนทางที่มันเหมาะที่สุด  ยกตัวอย่างเช่น เจอคนจะตายสองคน  แต่คุณช่วยได้แค่ 1 คน  ช่วยคนนึงอีกคนจะตาย  หรือช่วยได้ 1 คน แต่อีก 10 คนต้องมาตายทีหลัง แบบนี้
  การปล่อยหนู ดูผิวเผิญแล้วก็อาจจะเป็นบุญ  แต่ต้องอย่าลืมว่า หนูเป็นพาหะนำโรคหลายอย่าง โดยเฉพาะเลปโตสไปโรสิส  (ขออภัยถ้าสะกดผิดนะครับ) หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า โรคฉี่หนู ซึ่งหนูเมื่อได้รับเชื้อ จะเป็นพาหะนำโรคโดยที่ตัวมันไม่แสดงอาการ เชื้อจะอยู่บริเวณไต และปนเปื้อนมากับฉี่ของมัน เมื่่อคนหรือสัตว์เลี้ยงมาโดนเชื้อเข้า ก็จะติดเชื้อนี้ได้  อันตรายถึงตายถ้ารักษาไม่ทัน เพราะอาการเริ่มแรกคล้ายไข้หวัด 
  เราปล่อยหนูไป  ก็ต้องดูบริเวณที่ปล่อยด้วย เช่นไปปล่อยหน้าบ้านแล้วมันก็วิ่งเข้าบ้านคนอื่น โดยที่เราก็ไม่ได้สนใจแล้วว่า  มัีนจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร จะไปนำโรคให้ใคร ก็เป็นการทำบุญโดยละเลยบาปที่จะไปก่อให้กับคนอื่นในอนาคต แบบนี้ก็อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่ๆ
  บางครั้ง บาปเราอาจจะเริ่มตั้งแต่ เราไม่จัดบ้านให้สะอาดเรียบร้อย ปล่อยให้หนูมาอยู่อาศัย และแพร่พันธ์แล้ว  ซึี่่งหนูเป็นสัตว์ที่วงจรชีวิตสั้น แพร่พันธ์เร็วมาก  อายุแค่ 3-4 เดือนก็ตั้งท้องตกลูกได้ครอกละ 8-10 ตัว  ลองคิดดูว่า  ถ้าหนูมาอยู่อาศัยและแพร่พันธุ์สัก 1 ปี มันจะทวีคุณจำนวนขึ้นไปกี่ตัว  ยิ่งถ้ามีอาหารเีพียงพอด้วยแล้ว  มาเป็นหลักร้อยแน่นอน 
  เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว  บางทีก็ต้องดักแล้วทิ้งให้มันตายเหมือนกัน  ถามว่าบาปไหม บาป แต่ดีกว่าละเลยเอาตัวเองสบายใจ  แล้วปล่อยบาปกรรมไปตกกับคนอื่น ให้คนอื่นที่เค้าทนไม่ไหวต้องเป็นคนฆ่ามัน  แล้วตัวเองก็มานั่งสบายใจกัน    แต่สิ่งที่ิคิดว่าควรทำคือเมื่อกำจัดมันไปแล้ว  ก็ต้องรีบดูแลรักษาความสะอาดในบ้านให้ดี อย่าให้มันมาอยู่อาศัยได้อีก เพื่อให้ไม่ต้องก่อเวรกรรมต่อกันไปไม่รู้จบ
  แต่ถ้ามีสถานที่ที่จะปล่อยมันแล้ว ไม่เดือดร้อนคนอื่น ก็เอาไปปล่อยเถอะครับ ตามวิธีที่ผมลงไว้ ไม่ตายแน่นอน เพราะผมก็เคยทำแล้ว ขนาดหนูตัวเล็กนิดเดียวก็ช่วยออกมาได้ครับ แต่ต้องเบามือหน่อยเท่านั้น ส่วนตัวใหญ่จะหลุดง่ายอยู่แล้ว บางทีแค่เทน้ำมันราดมันก็ดิ้นแปปเดียวหลุดแล้ว
  สุดท้ายแล้ว ก็ขอให้ทุกคนใช้สติไตร่ตรองคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ดี  พระองค์ท่านไม่เคยสอนให้ชาวพุทธเชื่ออะไรเป็นตุเป็นตะ  แต่ให้เชื่อตามหลักเหตุและผล การปฎิบัติให้ทุกชีวิตอยู่ร่วมกันได้โดยสันติทั้งคนและสัตว์  ซึ่งจริงๆแล้วต้องพึ่งพากันในทุกๆด้าน โดยเฉพาะในระยะยาว  ทำแค่นี้เราก็ละบาปไปได้เยอะแล้วครับถ้าไม่เบียดเบียนกันจนเกินไป  ส่วนเรื่ืองของโลกหน้า ก็อย่างที่มีคนบอกไว้แล้ว  เมื่อเปลือกตาปิดลง เราก็คงจะรู้เองแหละว่ามันจะเป็นยังไง ก็เป็นเรื่องที่ลุ้นดีเหมือนกันนะ
ขอบคุณมากเลยค่ะ
ทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะหนูมันก่อกวนอย่างมาก ก็เลยไปซื้อกาวดักหนูมา ก็ดักได้ ตอนเห็นมันติดกับกาว ตามันก็มองมาเหมือนกัน  เราก็กลั้นใจหยิบปลายถาด เอาใส่ในถุงก๊อบแก๊บ มันปากถุง
เอาไปทื้งที่ถังขยะ  บางทีมันก็ดิ้น บางทีมันก็ดิ้นจนเหนื่อยตายก่อนที่เราจะเจอ  พอมาระยะหลังๆ ก็สงสัยตัวเองว่าทำไม ปวดหัวเข่าไม่หายซักที เป็นๆหายๆ มาประมาณ 5-6 ปีแล้ว หาหมอมาสารพัดอย่าง  จนตอนหลังนั่งสวดมนต์ไปเรื่อยๆ ทำให้นึกออกว่า มันคงจะเป็นกรรมจากการที่เราดักหนูแน่เลย เพราะว่าขามันจะติดกาว ก้าวไม่ออกมันยึดติด เหมือนขาเราเลย มันปวดมาก นั่ง เดิน นอน ยืน
ไม่ได้สะดวกเลย  พอนึกออก ก็พอดีเจอหมอรักษาวิธีใหม่ กายภาพบำบัดแต่เจอหมออีกคนที่ไม่ใช่คนเดิม  พอคุยๆ กันไป หมอก็บอกว่ารู้สึกอะไรไหม ที่ต้องเจ็บขาเดินไม่ได้ เพราะอะไร เราก็บอกว่าคิดอยู่เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ปรากฏว่าคุยกับหมอที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เป็นเรื่องเดียวกันกับที่เราคิดอยู่ในใจ  หมอก็เลยบอกว่า ทุกอย่างมันมีจังหวะเวลาที่จะเป็น และมีจังหวะเวลาที่จะหาย  ถ้าให้หายเร็วๆ ก็ไม่ยุติธรรมกับสิ่งที่เราทำไปใช่ไหม  แต่พอเราละลึกได้ปู๊ปก็ได้เจออะไรๆ ที่ดลมาให้เจอหมอที่รักษาวิธีใหม่  ทั้งๆที่ก็เป็นนักกายภาพเหมือนกัน แต่รักษาคนละวิธีกับที่เคยรักษามาก่อน
สรุปก็คือ  อยากจะบอกว่า เวรกรรมมีจริง ถ้าเราสำนึกได้เร็วเท่าไร ก็อาจจะมีโอกาสหายได้เร็วเท่านั้นแต่ต้องอุทิศส่วนกุศลให้ กับหนูพวกนั้นด้วยนะ  สาธุ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?