[1.] เฉลยปริศนา...ว่าทำไมนักเรียนต้องใส่เครื่องแบบ?
ขอจัดหนักสักครั้งหนึ่ง เพื่อเปิดตาให้เยาวชนของชาติ
อาจจริงจังไปหน่อย แต่ถ้าอยากรู้ว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงให้เด็กนักเรียนใส่เครื่องแบบ ก็ทนอ่านสักหน่อยก็แล้วกัน จะได้หายคาใจกันน่ะเนอะ
ชื่อพี่เอมค่ะ ตอนนี้พี่อายุ 26 ปี จบปริญญาตรี ทำงานมา 2 ปี วันนี้พี่ไม่ได้มาขายตรง แต่ด้วยความที่เพิ่งเคยต้องทำงานเลี้ยงชีพ รับผิดชอบตัวเอง พี่สังเกตมุมมองของตัวเองเปรียบเทียบกับตอนยังเรียนอยู่ จึงได้รู้ว่าตัวพี่เพิ่งออกจากวัยรุ่นมาสู่ความเป็นผู้ใหญ่ สิ่งที่พี่บอกไปนี้เป็นเพียงการจุดประเด็นให้น้องๆ ได้คิดในมุมมองอื่นบ้าง ไม่ได้จะยัดเยียด ตัดสินว่าถูกผิด หรือชี้นำสิ่งใดทั้งสิ้น
เด็กนักเรียน ที่พูดถึงต่อไปนี้ มีความหมายถึงเด็กที่ศึกษาในระดับการศึกษาภาคบังคับ
ผู้ใหญ่ ที่พูดถึงต่อไปนี้ ตีความเหมารวมตั้งแต่ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในระบบการศึกษา ครู พ่อแม่ หรือคนอื่นๆ ที่พ้นวัยศึกษาไปแล้ว
ภาพประกอบ ที่ประกอบในกระทู้นี้ทุกรูปสูบมาจากกูเกิ้ลแล้วอัพเองในเด็กดี ไม่ได้เบียดเบียนใคร
หัวข้อที่ 1 : ทำไมเด็กนักเรียนต้องใส่เครื่องแบบ
น่าคิด : ทั้งๆ ที่แม้ว่ากำลังแก้ผ้าเราก็เรียนได้ด้วยซ้ำ ไม่เห็นว่าเครื่องแบบจะเกี่ยวอะไรกับชีวิตการเรียนของเราเลย พูดกันตามตรง พวกผู้ใหญ่น่ะขี้บังคับเกินเหตุ มีตั้งเยอะที่ไม่ใส่เครื่องแบบเขาก็ยังเรียนกันได้ พวกฝรั่งเขาก็ใส่ไปรเวทไปเรียนกันนะ ไม่เกี่ยวว่าใส่เครื่องแบบหรือไม่ ดังนั้นจึงขอสรุปได้ว่า การใส่เครื่องแบบและข้อห้ามพวกนี้มันงี่เง่ามาก ไม่ช่วยให้การเรียนของเราดีขึ้นหรือด้อยลงเลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวของเราเองต่างหาก ปล่อยเราให้มีอิสระในเรื่องนี้จะดีกว่า เพราะเราจะอารมณ์ดี และเมื่อเราอารมณ์ดี เราจะอยากตั้งใจเรียนมากขึ้น การใส่ไปรเวททำให้สมองเราสดชื่น มีอิสระ หลุดออกจากกรอบ ฟังดูส่งเสริมการศึกษายิ่งกว่าการใส่เครื่องแบบเสียอีก
มุมมองอื่น : ขอถามกลับว่า เคยคิดกันบ้างไหมว่า ทำไมนักเรียนในประเทศไทยจึงต้องใส่เครื่องแบบ?
คิดว่าพวกผู้ใหญ่ที่ตั้งระบบการศึกษา วันนี้คืนดีเกิดนึกครึ้ม จึงบังคับให้น้องๆ ใส่เครื่องแบบกันเหรอ? ไม่อยากให้เด็กหน้าตาดีกว่าตัวเอง เลยบังคับให้ตัดผมทรงทุเรศๆ แล้วก็ห้ามแต่งตัวอย่างนั้นเหรอ? ทั้งๆ ที่ในยุคเริ่มต้นการศึกษา เด็กก็เรียนกันในวัด ใส่ชุดไปรเวทกันนี่แหละ ทำไมเวลาผ่านไปแล้วมันกลายเป็นเครื่องแบบไปได้
คิดไม่ออกกันเหรอ? งั้นลองแบบนี้ดีไหม ถอยออกมาจากตัวเอง มาดูคนอื่นกันดีกว่า
น้องๆ คิดว่าทำไมตำรวจจึงมีเครื่องแบบ ตำรวจไม่ต้องใส่เครื่องแบบก็จับคนร้ายได้ ทำไมหมอกับพยาบาลจึงมีเครื่องแบบ หมอใส่เสื้อแบบนักร้องเกาหลี ทำผมสีแดง เจาะลิ้นเจาะหู เขาก็รักษาเรา ผ่าตัดให้เราได้ จะว่ากันตามตรง ในโลกนี้ไม่มีเครื่องแบบเลยก็ยังได้
เครื่องแบบคืออะไร เครื่องแบบมีไว้ทำไม ทำไมนักเรียนต้องใส่เครื่องแบบ?
พี่ขอให้มุมมองอย่างนี้แล้วกัน เครื่องแบบไม่ใช่ของใส่เล่น สังเกตได้ว่าเมื่อเราใส่เครื่องแบบ เราไม่สามารถทำบางสิ่งได้อย่างสะดวกใจ เมื่อเราใส่เครื่องแบบนักเรียน เราไม่สามารถเข้าร้านเกมหรือเข้าเธคได้ ไม่สามารถซื้อบุหรี่ได้ น้องต้องเปลี่ยนชุดเท่านั้นถึงจะทำเรื่องแบบนี้แล้วรู้สึกผิดน้อยลง
ดังนั้นอันดับแรก เครื่องแบบมีไว้เตือนใจถึงสถานะทางสังคมที่น้องกำลังแบกรับ เมื่อสวมไว้บนร่างกาย น้องรับรู้ได้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร และรับรู้ได้ว่าหน้าที่ของน้องคืออะไร เช่นเดียวกับอาชีพอื่นที่มีเครื่องแบบทั้งหลาย "ผมเป็นหมอ ผมแบกรับชีวิตคน ผมต้องใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ไม่สามารถประมาทได้แม้แต่นิดเดียว" "ดิฉันเป็นเป็นพยาบาล ดิฉันเป็นผู้ช่วยหมอ แต่ดิฉันอยู่ในสังคมเพื่อปลอบโยนจิตใจคน ดูแลเอาใจใส่ เป็นกำลังใจให้ผู้ที่เจ็บป่วยและอำนวยให้การรักษาราบรื่น" "หนูเป็นนักเรียน หน้าที่ของหนูคือตั้งใจเล่าเรียน เพื่อวันหนึ่งหนูจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นกำลังของชาติ" หากไม่มีเครื่องแบบ ทุกคนจะทำอะไรอย่างไรก็ได้ คนๆ หนึ่งมีสถานะและบทบาททางสังคมที่หลากหลาย น้องๆ อาจเป็นนักเรียน ในขณะเดียวกันก็เป็นลูก เป็นเพื่อน เป็นพี่ ดังนั้นการใส่เครื่องแบบในเวลาเรียน มีไว้เพื่อเตือนให้ระลึกไว้ว่าขณะนี้น้องเป็นนักเรียน
สังเกตได้อีกอย่างว่า อาชีพที่มีเครื่องแบบนั้นมักจะถูกผู้คนไหว้ เช่น หมอ พยาบาล ตำรวจ ครู ข้าราชการ ไม่สงสัยบ้างเหรอว่าทำไมไม่มีใครไหว้นักวิศวกร นักเคมี นักแสดง หรือคนขายของกันบ้าง นั่นเพราะอาชีพที่มีเครื่องแบบมักแบกภาระอะไรบางอย่างเอาไว้ ต้องใช้ใจ หรือใช้ความรับผิดชอบต่อผู้คนหรือสังคม
หมอแบบนี้หนูควรไหว้
ยิ่งเป็นพี่พยาบาลคนนี้ ยิ่งต้องไหว้
น้องๆ เองก็เป็นนักเรียน มีเครื่องแบบ ที่จริงแล้วผู้ใหญ่นี่ล่ะที่ควรไหว้น้อง เพราะอนาคตของชาติไม่ได้อยู่ที่ผู้ใหญ่...แต่อยู่ที่น้องๆ ทุกคน น้องมีภาระที่ใหญ่หลวง น้องแบกประเทศเอาไว้ หน้าที่ของน้องยิ่งใหญ่และน่านับถือยิ่งกว่าอาชีพอื่นที่มีเครื่องแบบตั้งเยอะ เพราะผู้ใหญ่ทุกคนเมื่อแก่ลงไปแล้วจะได้มีชีวิตที่มีความสุขหรือไม่ ล้วนฝากชะตากรรมไว้ในมือของน้องๆ ทั้งสิ้น ติดก็เพียงแต่ว่าน้องๆ มีอายุน้อยกว่า จะให้ผู้ใหญ่ไหว้ มันก็ผิดจารีตที่ดีงามกันอยู่
ความสัมพันธ์ชายหญิงในระดับที่เหมาะสม เมื่ออายุ 45 ปีขึ้นไป
สิ่งที่พี่อยากบอก คือขอให้น้องๆ ภูมิใจที่ได้สวมเครื่องแบบนักเรียน เพราะนักเรียนเป็นทรัพยากรที่สูงค่าที่สุดในประเทศ (คงเคยได้ยินแบบมาเยอะแล้วใช่ไหมคะ ^^) การให้นักเรียนใส่เครื่องแบบนั้นไม่ได้ต้องการบังคับเพียงอย่างเดียว แต่มีเพื่อเชิดชูความสำคัญของน้องด้วย เช่นเดียวกับอาชีพอื่นที่สังคมเทิดทูนจนต้องยกมือไหว้
นักเรียนที่ผู้ใหญ่สมควรไหว้
ชาบู ชาบู อูรา อูรา
เปรียบเทียบกับพวกฝรั่ง พื้นเพวัฒนธรรมของเขาไม่เหมือนของเรานี่คะ สำหรับเขา จะใส่เครื่องแบบหรือไม่ หมอ พยาบาล ตำรวจ ครู ก็คืออาชีพหนึ่ง ไม่ได้ปรี่เข้าไปจับมือหรือไหว้อย่างซาบซึ้งเสียหน่อย พูดง่ายๆว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะคุณค่าของเครื่องแบบ และลักษณะหรือโครงสร้างทางสังคมของเขาก็ไม่เหมือนกับเรา แต่ไม่ลองไปถามเพื่อนที่เคยไปเรียนแลกเปลี่ยนบ้างเหรอ ว่าพวกฝรั่งเขาฉลาดกว่าเราจริงไหม ^^
รู้อย่างนี้แล้วจะลดคุณค่าของตัวเองโดยการละทิ้งการใส่เครื่องแบบอีกเหรอ หมอที่ไม่ใส่ชุดกราวด์ก็คล้ายว่าจะไม่ใช่หมอ ตำรวจที่ไม่ใส่ชุดตำรวจก็คล้ายว่าจะไม่ใช่ตำรวจ เครื่องแบบมาพร้อมความรับผิดชอบ และความรับผิดชอบมาพร้อมกับคุณค่าในสังคม เช่นเดียวกับที่ลุงของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์กล่าวไว้ว่า พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับภาระที่ใหญ่ยิ่ง
เอ๊ะ ประโยคสุดท้ายพี่เขียนตกม้าตายหรอกเหรอ 555 ไม่เป็นไร มันก็แค่มุกฝืด -_-" สไปเดอร์แมนหล่อนะตัวเธอว์
ตัวอย่างเครื่องแบบที่ดี ได้รับการโหวตจากแมวส่วนใหญ่ทั่วประเทศ
เนื่องจากเกิดภาวะโลกร้อน นอกจากร้อนแล้วจะได้ประหยัดวัสดุควบคู่กันด้วย
คำถาม : พี่เอมคะ นอกจากเครื่องแบบจะทำให้หนูมีคุณค่าแล้วยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกไหม คือหนูไม่ต้องมีคุณค่าก็ได้ แต่หนูอยากหน้าตาดี
คำตอบ : (น้องไม่อยากมีคุณค่าเหรอคะ...พูดอย่างนี้เดี๋ยวพี่ก็ตบบ้องหูให้เลย ถ้าน้องไม่มีค่าแล้วพี่จะเอาน้องไปทิ้งประหนึ่งว่าเป็นขยะก็ได้สินะ) มีค่ะ ^^ เครื่องแบบมีประโยชน์เยอะ อย่างเห็นตำรวจใส่ชุดตำรวจ คนก็จะเกรงๆ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดใช่ม้า เครื่องแบบก็มีของแบบนั้นเหมือนกัน ลองถามผู้ใหญ่ดูสิคะ นักเรียนที่ใส่เครื่องแบบจะน่าเอ็นดูขึ้นทุกคน ^^ เวลาซื้อของอาจได้รับคิวพิเศษ ได้ของแถม เวลาขึ้นรถเมล์ก็จะได้รับการลุกให้นั่ง เวลาทำผิดก็จะได้รับการให้อภัยมากกว่าลงโทษ ในกรณีนี้คือเปรียบเทียบกันระหว่างใส่เครื่องแบบกับไปรเวทนะคะ เช่นการลุกให้นั่งเนี่ยะ ถ้าเป็นไปรเวทจะแทบไม่ได้เลย ในขณะที่ถ้าใส่เครื่องแบบจะได้บ้าง พูดกันตามตรง เครื่องแบบนักเรียนก็มีดีแค่นี้แหละ มันไม่ได้ทำให้น้องใส่แล้วบินได้หรอก -_- ส่วนเรื่องความหน้าตาดี...พี่เห็นเยอะนะ ที่หน้าตาดีในเครื่องแบบนี่แหละ แล้วจะมาเหมาว่าเครื่องแบบทำให้หน้าตาไม่ดีได้เหรอ -*-
พี่ล่ะสงสัยจัง คือสมัยพี่ยังเป็นเด็กมัธยม (สังเกตได้ว่าเด็กประถมไม่ค่อยสนใจเรื่องเครื่องแบบเท่าไร ทำไมกันนะ หึหึหึ) พี่ก็อยากใส่ไปรเวทไปเรียนเหมือนกัน อยากมากๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่มันติดอยู่หน่อยนึงตรงที่พี่ขี้เกียจ คือขี้เซา ไม่ชอบตื่นเช้าน่ะค่ะ พี่คิดว่าการตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วไม่ต้องมานั่งคิดว่าวันนี้จะแต่งตัวยังไงก็สะดวกดีเหมือนกัน ถ้าแต่งตัวเราก็จะห่วงสวย เสื้อตัวนี้ กระโปรงตัวนี้ จะเข้ากันได้กับกระเป๋าใบนี้มั้ย แล้วกระเป๋าใหญ่เกินไปมันก็ไม่สวย แต่กระเป๋าเล็กมันก็ใส่หนังสือไม่ได้ พี่ก็คงจะเลือกกระเป๋าสวยไว้ก่อน ใช่ม้า ใครฟระจะกล้าแต่งตัวเฉิดฉาย เสื้อผ้าหน้าผมพร้อม แต่ดันหิ้วกระเป๋าใบเท่าบ้านไปเรียน พี่ว่าชีวิตพี่คงมีปัญหาอีกเยอะ ไม่รู้สิ พี่คิดได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนะ คงแก่เร็วแหละ -_-
คำถาม : พี่เอมคะ แต่ยังไงหนูก็อยากใส่ไปรเวทบ้างจริงๆ นะ ทีพวกดีไซเนอร์เขายังแต่งตัวจัดเพื่อให้ความคิดแล่นเลย พวกเราเป็นนักเรียนต้องใส่เครื่องแบบไปจนแก่เลยเหรอคะ แล้วอย่างนี้จะเอาความคิดสร้างสรรค์มาจากไหน
คำตอบ : อืม...ก็จริง ไม่รู้สิ โรงเรียนม.ปลายของพี่มีวันปล่อยผีปีละ 1 วัน เรียกว่า ฟรีเดย์ คือวันนี้นักเรียนทุกคนจะแต่งตัวยังไงก็ได้ ใช้กระเป๋า แต่งหน้า ทาเล็บมาก็ยังได้ วันนั้นมันจะรู้สึกว่าโรงเรียนเปลี่ยนไปแบบสุดๆ เลยนะ ให้ความรู้สึกสนุกมากทั้งๆ ที่อยู่ในห้องเรียน คือพี่ว่ามันคงเพราะนานๆ ทีจะได้ใส่ด้วยแหละ ถ้าใส่ทุกวันก็คงเฉยๆ กันใช่ม้า เอาอย่างนี้สิ ไม่ลองไปเสนอพวกครูดูล่ะ ขอแค่เทอมละครั้งหรือปีละครั้ง น่าสนใจออก!
หุ่นโมเดลนักเรียนแต่งกายยอดเยี่ยม เธอเป็นนักกีฬาบาสฯ ดีเด่น ซึ่งได้รับเกียรติไปตั้งโชว์ใน
พิพิธภัณฑ์คุณนายทรุดโซม วันฟรีเดย์ นักเรียนควรสวมชุดทางขวามือเพื่อดูแล้วฟรีจริงๆ
คำตอบ : ที่น้องบอกมาเป็นเรื่องจริงค่ะ แต่งนิดแต่งหน่อยมันไม่ทำให้เครื่องแบบมันบรรลัยไปสักเท่าไหร่หรอก แต่พี่ว่ามันอีกเยอะ เอาไว้พรุ่งนี้มะรืนนี้ พี่เอมคนดีจะขอมาสาธยายใหม่(จะมีใครอยากรู้เหรอเนี่ยะ -_-" ) แต่รอบหน้าที่พี่อยากรู้มากกว่า คือทำไมต้องเรียนสูตรคำนวนเส้นรอบวงกลมกับของที่ดูยังไงก็ไม่เคยได้ใช้อื่นๆ พี่โน้สยังฮาเลย ตั้งแต่เรียนจนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยใช้!!
วันนี้สวัสดีค่ะ ^^
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 16 มกราคม 2554 / 20:01
13 ความคิดเห็น
เห็นด้วยมากๆครับ :D
ถ้าจบไป ผมว่าผมคงคิดถึงเครื่องแบบนักเรียนมากๆแน่เลย
ไม่อยากจะบอกว่า มีแต่คนวัยเดียวกัน หรือไม่ก็กำลังลาจากเครื่องแบบนี่แหละค่ะที่มองออก ^^
บังเอิญไปเห็นกระทู้จุดประเด็น ฟังเด็กๆ คุยกันแล้วเอมเศร้ามากๆเลยล่ะ T_T ไม่อยากให้มีการสอบงี้ ไม่ต้องเช็คชื่องี้ ไม่ต้องทนเรียนวิชาที่ไม่ชอบงี้... อย่างน้อยตอนนี้ ก็อย่าเพิ่งไม่อยากใส่เครื่องแบบนักเรียนด้วยเลย
เฮ้อ... ก็หวังว่าจะมีน้องๆ สักคนช่วยซึมอะไรบางอย่างที่เอมบอกเข้าไปในใจสักนิดด้วยเถอะ
(ป้า...บ่นจนได้ =[]= )
PS. ´¯`Ψ... นิยามความรักก็คือนามปากกา "ดมิศรา... งดงามในความมืด" ...Ψ´¯`
ตอนนี้กำลังจะจบม.6 ค่ะ
คิดๆไปก็ใจหายเอามากๆที่จะไม่ได้ใสชุดนร.อีก
เมื่อก่อนตอนม.ต้นดูรุ่นพี่แล้วก็แบบ...
เอ้อ...อยากไว้ผมยาวมั่ง อยากสวย อยากได้ชุดแบบพี่ม.ปลาย มีเข็มขัด
แต่พอมาเป็นรุ่นพี่จริงๆแล้ว มันเหนื่อยนะ ผมที่ยาวๆอยู่ตอนนี้ก็อยากตัดจะแย่
ส่วนชุดนี่ก็...คอซองแบบม.ต้นยังใส่สบายกว่าอีก -_-**
แล้วที่พี่บอกว่าถ้าให้ใส่ชุดไปรเวทได้เนี่ย...เออ...มันก็ขี้เกียจลุกมาจัดเซ็ทเสื้อผ้าหน้าผมจริงๆอะแหละ
สรุป...ชุดนักเรียนนี่แลน่ารักเรียบร้อยที่สุด
ชุดนักเรียนจงเจริญญญ!!!
PS. ความสำเร็จ...มีไว้ให้เราสร้าง
หนูอยากกลับไปใส่ชุดนักเรียนมากมายเลยพี่เอม>O<
ชอบชุดนักเรียน ม.ปลายที่สุดเลย
PS. ฉันก็แค่ใครคนหนึ่งที่ชอบเพ้อฝันว่าตัวเองเป็นนางเอกในนิยาย...
ผมขอถามหน่อยเถอะครับ
ที่พี่บอกว่า ไม่อยากให้มีการสอบงี้ ไม่ต้องเช็คชื่องี้ ไม่ต้องทนเรียนวิชาที่ไม่ชอบงี้
ผมว่าไม่ต้องทนเรียนวิชาที่ไม่ชอบอ่ะดีแล้ว
ลองคิดดู ถ้าเราเลือกเรียนสิ่งที่ชอบ และเหมาะกับตัวเอง มันจะเป็นการที่ไม่บังคับเด้กเรียน
เด็กจะไปเรียนด้วยตนเอง แล้วเรียนอย่างมีความสุข ถ้าหากว่าให้เรียนหมดอย่างนี้
แล้วเรื่องที่เรียนได้เอาไปใช้ประโยชน์บ้างหรือเปล่า ยกตัวอย่าง ผมอยากเป็นนักดนตรีอย่างงี้
แต่ให้ไปเรียนไพอาร์กำลังสอง ซึ่งคนที่ไม่ได้ใช้มันก็ไม่มีประโยชน์ จริงไหมล่ะครับ?
ควรจะปฏิรูปการศึกษาไทยได้แล้ว!
ส่วนเครื่องแบบ  จริงๆแล้วมันก็ดูเป็นเอกลักษณ์ดีนะ ที่เด็กนักเรียนไทยต้อง สวมเครื่องแบบอย่างนี้
ไว้ผมเกรียน + ตัดผมสั้นแบบนี้ แบบนี้ละดีแล้วล่ะ มันจะได้มีเอกลักษณ์ที่ชาติอื่นเขาไม่มีกัน
อยา่งญี่ปุ่นงี้ มีเครื่องแบบ แต่ให้เด็กนักเรียนไว้ผมยาวได้  สรุปอยากให้ปรับปรุงระบบการศึกษาหน่อย ส่วนเครื่องแบบนี่ไม่เท่าไหร่
ตอนม.ต้น มองชุดพี่ม.ปลายแล้วก็คิดว่าสวยดี ไว้ผมยาวได้ด้วย ดีจังเลย
พอม.ปลาย อยากกลับไปใส่ม.ต้น ชุดน่ารักนะใส่ง่ายด้วย บังพุงได้ด้วย(อันนี้สำคัญมากที่สุด ^^;) มี2 กระเป๋าด้วย
พอใส่ชุดนักศึกษาแล้วต้องคิดถึงชุด ม.ปลายแน่ๆเลย
PS. อยากเขียนนะ แต่ไม่รู้จะเขียนไร เท่ๆดี
ไม่ว่าตำรวจ แพทย์ วิศวกร ครู ฯลฯ ไม่มีเครื่องแบบก็ทำงานได้เหมือนกัน
เช่นกันนักเรียนก็เรียนได้โดยไม่ต้องมีเครื่องแบบ
<br>
<img>https://image.dek-d.com/24/1277808/106533470</img>
<br>
ทำไมพยาบาลในรูปนี้ถึงดูไม่น่าเคารพ เพราะค่านิยม หลายคนอาจจะมองว่ามันไม่ถูกกาละเทศะ วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม
ทั้งหมดนี้เพราะเราสมมติขึ้น
ถึงไม่มีเครื่องแบบก็ไม่ทำให้พยาบาลคนนี้มีความรู้น้อยลงหรือมากขึ้น
เครื่องแบบเป็นสิ่งที่มนุษย์สมมุติขึ้นเพื่อแบ่งแยกสถานะของบุคคลแต่
ความสามารถของบุคคลไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องแบบ
ข้อเสียของเครื่องแบบ
ชุดนักเรียนเป็นชุดพระราชทาน
มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นระเบียบ
แล้วถ้าหากเราไม่สร้างความภาคภูมิใจในสถาบันหรือเครื่องแบบ เพื่อที่จะมากำหนดขอบเขตของพฤติกรรมหรือความคิดของมนุษย์เพียงชั่วครั้งคราว แต่เราสร้างความภาคภูมิใจจากความสำเร็จของตัวบุคคลเอง โดยไม่ต้องเอาอะไรมายึดติดล่ะคะ?
สังคมไทยเน้นการมีภาพพจน์ ที่ดีโดยไม่จำเป็น ต้องเป็นคนดี และ เก่งก็ได้
พูดได้ดีครับ ชุดนักเรียนทำให้ตระหนักได้ว่าเราเป็นนักเรียนอยู่ต้องตั้งใจเรีนย แต่ผมคิดว่ากฎระเบียบที่ดีควรจะมาทีหลังความอยู่รอด บางครอบครัวไม่มีข้าวจะกินแล้วต้องเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าไปจำนำเพื่อซื้อชุดนักเรียน ถึงจะมีนโยบายเรียนฟรีแต่มันก็ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายแอบแฝงสารพัด??? ใส่ชุดอะไรมันก็เรียนได้คนที่ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนมันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องบังคับในทุกๆ คน เหมือนเป็นความผิดร้ายแรง..
เห็นด้วยอย่างยิ่ง
และตรรกะที่บอกว่าตำรวจ ทหาร ใส่ นั่นก็ไม่น่านำมาใช้กับการศึกษาอย่างยิ่ง นอกจากว่าเรายังต้องการนักศึกษาที่ทำตามกฎระเบียบจนไม่ลืมหูลืมตา เขาบอกว่าถูก เขาบอกว่าดี ก็ดีตามกันไปหมด ภาคภูมิใจก็ภูมิใจตามๆกันไปกับวาทกรรมความภูมิใจจอมปลอมที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อไม่นาน ทำยังกับนักศึกษาเราไม่รู้จักกาลเทศะขนาดที่จะเลือกชุดไปเรียนหรือไปที่เป็นทางการด้วยตัวเองจึงต้องบังคับใส่ เด็กเราไม่รู้จักวิธีแต่งกายให้เหมาะสมจริงหรือ ถ้ายกเลิก มันจะมีสักกี่คนที่แต่งตัวเว่อร์มาโรงเรียน เราเรียนสถิติย่อมมีค่ามีน โหมด มีเดียมกันมาแล้ว คงเห็นๆกันอยู่ว่ามันมีจำนวนน้อยมากที่จะใส่ชุดโอเว่อร์มาเรียนทุกวันได้ อย่างมากอาทิตย์เดียวก็ขี้เกียจแล้ว การที่เราจะบังคับเด็กแต่งกายเรามาสอนให้เด็กแต่งกายให้สุภาพถูกกาลเทศะ ใช้ได้ทั้งปัจจุบัน และอนาคตแน่นอน
ทุกที่มันก็มีค่านิยมทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย boarding school ดีๆในต่างประเทศก็ใส่เครื่องแบบเพื่อเกิดความมีระเบียบ ความมีระเบียบนี่แหละที่สังคมไทยขาดอย่างแรง เอาแต่ตามใจตัวเอง
คือจริงๆ น้องๆควรภูมิใจในชุดเครื่องแบบนะคะ อย่างน้อยประสบการณ์หนึ่งในชีวิตเรา เราเคยได้ใส่ ได้สัมผัสชุดนร.มา แล้ววันนึงน้องๆเรียนจบ ก็จะทำให้นึกย้อนถึงเครื่องแบบที่เคยใส่เนี่ยแหล่ะค่ะ จะเกิดความภูมิใจและก็คิดถึงสมัยใส่ชุดนร. อยากกลับไปใส่จัง มันจะเกิดโมเมนต์ที่ดีค่ะ แต่ถ้าแบบเมืองนอกเช่นในทวีปยุโรปส่วนใหญ่จะไม่ใส่ เขาจะไม่มีความทรงจำดีดีเกี่ยวกับชุดนร.ให้จดจำและนึกถึงเรื่องดีดีนะคะ เช่น ซอสเลอะชุดประจำกลับไปโดนแม่ด่า 55555 คหสต.
รัชกาลที่6เขากำหนดไว้ว่าให้ประเทศไทยมีเครื่องเเบบนักเรียนเพื่อที่ทุกคนจะได้มีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่มีใครจนกว่าใครหรือรวยกว่าใคร เเบบนี้เเหละดีเเล้ว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?