ทำอย่างไรเมื่อเป็น เริม งูสวัด
ตั้งกระทู้ใหม่
โรคเริม
1.เกิดจากเชื้อไวรัส "เฮอร์ปีส์" ชนิดที่ 1 หรือ 2 พบได้บ่อยบริเวณริม1. ฝีปาก อวัยวะเพศ และก้น2.การติดเชื้อครั้งแรก อาการจะค่อนข้างรุนแรง มีไข้ ปวดเมื่อยต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียงมีการอักเสบ เช่น ถ้าเป็นเริมที่อวัยวะเพศ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบจะอักเสบ ถ้าเป็นเริมที่ริมฝีปาก ต่อมน้ำเหลืองที่คอจะอักเสบ ลักษณะจะเป็นตุ่มน้ำขนาดเล็ก พองใส มีขอบแดง มักขึ้นรวมกันเป็นกลุ่ม แต่ไม่เรียงตามแนวเส้นประสาท และตุ่มน้ำนี้จะแตกเป็นแผลถลอกตื้น ๆและหายไปในที่สุด ภายใน 1-2 สัปดาห์
3. เชื้อไวรัส "เฮอร์ปีส์" หรือเริมสามารถกระจายสู่ผู้อื่นได้ด้วยการสัมผัสทางกาย การจูบ การมีเพศสัมพันธ์ โดยเชื้อจะแทรกเข้าทางเยื่อบุหรือผิวหนังที่ถลอกเป็นแผล แล้วก่อให้เกิดผื่นเริมภายใน2-20 วัน หลังรับเชื้อ หรือในรายที่มีร่างกายแข็งแรงอาจไม่ปรากฏรอยโรคเริมเลยก็ได้ หลังจากนั้นเชื้อจะหลบแฝงตัวที่ปมประสาท จนกว่าจะถูกกระตุ้น ก็จะกลับมาเป็นโรคเริมอีกครั้ง4. ผู้ที่เคยเป็นโรคเริมแล้ว จะมีโอกาสเป็นซ้ำในตำแหน่งเดิมได้บ่อยและสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดซ้ำ คือ ภาวะเครียด มีภูมิต้านทานร่างกายต่ำลง พักผ่อนไม่เพียงพอ อ่อนเพลีย ขาดสารอาหาร วิตกกังวลหากหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ความถี่ของการเป็นโรคเริมจะน้อยลง
5. สำหรับผู้ที่เป็นโรคเริม ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสตุ่มน้ำหรือแผลเพราะอาจแพร่เชื้อไปสู่บริเวณอื่นของ ร่างกายหรือติดต่อไปยังผู้อื่นได้เมื่อมีแผลเริมที่ริมฝีปาก ห้ามจูบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ผู้หญิงมีครรภ์งดการมีเพศสัมพันธ์ ตั้งแต่เริ่มมีอาการคันจนกระทั่งแผลหาย เพราะเป็นช่วงปล่อยเชื้อ ถึงแม้ใช้ถุงยางอนามัยก็ไม่ปลอดภัย 100% และล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หลังเข้าห้องน้ำอย่าขยี้ตาหากเป็นเริม6. ในปัจจุบันยังไม่มียาใดที่ทำให้โรคนี้หายขาดได้ ถึงแม้ว่ายาต้านไวรัสจะมีประสิทธิภาพสูง ในรายที่เป็นเริมถี่มากกว่า 6 ครั้งต่อปีควรปรึกษาแพทย์ซึ่งจะพิจารณาใช้ยาต้านไวรัสขนาดต่ำ เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ หรือลดความถี่ของเริม ปัญหาของโรคเริมคือ การกลับเป็นซ้ำทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ขาดความมั่นใจรู้สึกไม่สวยงาม เสียบุคลิกภาพ
โรคงูสวัด
1. เกิดจากเชื้อไวรัส "เฮอร์ปีส์" ชนิดที่ 3 หรือชื่อเดิม คือ Varicellazoster virus ซึ่ง เป็นไวรัสตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคสุกใส2.เริ่มแรกจะรู้สึกไม่ค่อยสบาย อาจมีไข้ขึ้น ปวดร้าวตามผิวกาย
โดยเฉพาะตามแนวเส้นประสาทที่จะเกิดเป็นงูสวัด บางคนอาจปวดมากหรือปวดแสบปวดร้อน 3-4 วัน ต่อมาจะมีเม็ดผื่นแดงๆขึ้น ตรงบริเวณที่ปวดแล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใส จากนั้นจะเป็นตุ่มเหลืองขุ่น มักเรียงกันเป็นแถวยาวตามแนวเส้นประสาท และจะแตก ค่อยๆ ยุบไปจนแห้ง และเมื่อหายแล้ว ภายหลังอาจมีอาการปวดตามแนวเส้นประสาทได้3. ถึงแม้ว่าเราสามารถตรวจพบเชื้อไวรัสนี้ จากตุ่มน้ำรอยโรคแต่การรับเชื้อครั้งแรกจะรับทางการหายใจ และออกผื่นเป็นโรคสุกใสก่อน ต่อมาเมื่อร่างกายอ่อนแอจึงกำเริบ ออกผื่นเป็นแบบงูสวัด 4. ในคนส่วนมาก งูสวัดเกิดครั้งเดียวในชีวิตมีเพียงส่วนน้อยที่มี
ความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกันจึงจะเป็นซ้ำได้5.เมื่อเกิดตุ่มน้ำงูสวัด ควรจะทำแผลโดยการประคบน้ำเกลือ (0.9% normal saline) ครั้งละประมาณ 10 นาที ประมาณ 2-3 ครั้ง/วันถ้าตุ่มน้ำแตกให้ทำความสะอาดแผลเหมือนแผลทั่วไป เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม6. ในปัจจุบันมียาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูงทำให้โรคหายได้ ลดอาการเจ็บปวด และแผลหายไวขึ้น ลดระยะเวลาแพร่เชื้อ แต่ผู้ป่วยต้องมารับยาเร็วที่สุดจะได้ประสิทธิภาพการรักษาสูงสุด
อย่าง ไรก็ตาม ทั้งเริมและงูสวัดไม่ถือเป็นโรคที่ร้ายแรง และจะหายได้เองหากร่างกายแข็งแรงดี ภายใน 1-2 สัปดาห์ สำหรับการรักษาจะบรรเทาตามอาการ ซึ่งมีทั้งยากินแก้ปวด แก้ติดเชื้อแบคทีเรียกรณีเป็นหนองลุกลาม และยาทาแก้ผดผื่น อาการปวดแสบปวดร้อน ในรายผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เป็นโรคเอดส์ อายุมาก มีความเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนไม่พอ เป็นมะเร็ง ใช้ยาต้านมะเร็งหรือยากดภูมิคุ้มกันควรได้รับยาต้านไวรัสอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีทั้งยากินหรือยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายทั่วตัวและอาจมีการติดเชื้อของอวัยวะภายในร่วม ด้วยได้ เช่น ปอดบวม สมองอักเสบ เป็นต้น
5 ความคิดเห็น
ถ้าอยากหายต้องไปให้หมอบ้านเป่า
PS. อย่าให้ความหวัง
เอาใบเสลดพังพอนมาตำกับเหล้าขาว
รับรองหาย
(คนแถวบ้านเป็นมาขอใบเสลดพังพอนเอาไปตำอ่ะ)
เราก้อเคยเปนอ่ะ......มันเหมือนเป็นไข้ตลอดเวลาอ่ะ....
ถ้าพันรอบตัวจะตายไหม ? เห็นเค้าบอกกันมา
PS. เด็กเตรียมเอนท์ ★☆ จะทำเพื่อพ่อกับแม่ :)) !!!
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?