Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องจริง ใครอ่านแล้วบ้าง? "สมบัตินางสนมกว่า 2,400 ปีที่ลาว คนขุดผีเข้าสิง คนขโมยเกือบตาย" update เพิ่มเติมข้อมูลและ VDO ให้ดูเอาเอง!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เรื่องราวอาจจะผ่านมาได้สักระยะแต่เรื่องทำนองนี้ไม่เคยเก่าในชีวิตจริง!

เรื่องราวของสองผัวเมีย ที่ขุดไปพบเครื่องเงินสมบัติโบราณโดยบังเอิญ ขุดพบบริเวณเขตพื้นที่ของตัวเอง ในสวรรณเขต พบทองและเงินที่มีอายุ2453ปี ทองหนัก2กิโล8ขีด และเครื่องเงินอีกจำนวนหนึ่ง แถมมีเรื่องเหลือเชื่ออีก คือมีพวกทีมาขโมยแกะพวกพลอยออกจากขันเงินขันทองในตอนกลางคืน พอเช้าพลอยที่ถูกขโมยไปกลับมาอยู่ที่เดิม! เรื่องราวเลยดังไปทั่ว จนรัฐบาลลาวเข้ามาขอดูแล แต่ขณะที่จะทำการขนย้ายเกิดเหตุอัศจรรย์มีลมพัดแรง และอยู่  เมียของเจ้าของบ้านที่ขุดพบถูกผีนางสนมเข้า บอกประมาณว่า "ตนได้ให้สมบัติแก่สองผัวเมียนี้แล้ว พวกไม่มีสิทธิ์เอาไป หากไม่เชื่อก็จะมีอันเป็นไป " และยังบอกว่าตนคือนางสนม( สมัยไหนไม่รู้ว่าบอกหรือเปล่า )กำลังจะถึงเวลาไปเกิด เกิดสงสารสองผัวเมียนี้จึงยกสมบัติให้ ให้สองผัวเมียทำบุญให้กับตน จะได้เกิดมามีเงินมีทองเหมือนก่อน แล้วก็ออกจากร่างไป บรรดาข้าราชการที่ไปขนสมบัติก็ไม่กล้าเอา ได้แต่เอาตะข่ายเหล็กมาล้อมเอาไว้ ชาวบ้านก็ไม่กล้า พอสองผัวเมียทำบุญให้สามวันสามคืน ก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นอีก ปรากฎว่ามีแมลงเม่าขึ้นมาจากโพรงใต้ดิน แต่ไม่ยอมสละปีกไปไหน ประมาณสามวัน จึงสละปีก แต่ที่แปลกก็คือพวกมันจับกันเป็นกลุ่มเหมือนดอกบัวโดยเอาหัวมุดดิน เป็นกลุ่มๆ เวลาสละปีกปีกก็ยังอยู่เหมือนเดิมทำให้คนมองเป็นดอกไม้ เหตุครั้งที่สองก็คือวันที่สามของงานบุญ ผู้หญิงคนเดิมก็ถูกผีนางสนมสิงอีก คราวนี้เข้าแล้วทำการร้องรำฟ้อนไปเรื่อย ๆ จนสว่าง แล้วก็บอกลาไป คนที่ไปดูก็บอกประมาณว่าไม่เคยเห็นท่ารำที่สวยอย่างนี้มาก่อน ตอนหลังสองผัวเมียก็ยกสมบัตินี้ให้เป็นมรกดกของชาติลาวไป แต่ก็ได้สิ่งตอบแทนจากรัฐบาลเป็นเงิน สิบล้านกีบนะ ข้อมูลก็ประมาณนี้แหละ 
ใครอ่านแล้วรู้สึกอย่างไรบอกด้วยนะ ( ใครชอบแต่งนิยายแนวผีๆ ใช้พล๊อตเรื่องนี้ได้เลย! ) 

ปล. ถ้าsearch ไม่เจอไปดูที่เว๊บพลังจิตนะค่ะ  น่ากลัวมาก!  แต่ต้องใช้วิจารณาณในการรับชมเป็น VDO ภาษาลาว ออกตามช่องโทรทัศน์ค่ะ 

http://board.palungjit.com/f2/สมบัตินางสนมกว่า-2-400-ปีที่ลาว-คนขุดผีเข้าสิง-คนขโมยเกือบตาย-vdoภาษาลาว-297188.html


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 12:38
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 8 กรกฎาคม 2554 / 18:59

แสดงความคิดเห็น

>

59 ความคิดเห็น

ซ่อนนาม 7 ก.ค. 54 เวลา 21:35 น. 2

เว็บพลังจิต
มันเป็นเว็บที่เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ไม่ใช่เหรอ ?
เคยตามอยู่กรณีนึง ที่บอกว่าเด็กทำนายอนาคตได้
แต่หลังจากที่ตามก็ไม่เห็นว่าจะแม่นตรงไหน แต่คนอื่นดันกลับบอกว่าแม่นและด่าคนที่จับผิดเฉยเลย


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0
Prisma Dominatus 7 ก.ค. 54 เวลา 21:55 น. 3

กระจอกมากเมื่อเจอซึนามิเมืองไทย
ไม่ใช่แค่เข้าสิง...เขาจะพาคนกู้ภัยไปนอนด้วย


PS.  คนทุกคนเท่าเทียมกัน แต่บางคนเท่าเทียมมากกว่าคนอื่น (Warhammer 40K)
0
Earende| G!|m!rath 7 ก.ค. 54 เวลา 21:58 น. 4

แล้วรู้ได้ไงว่าเป็นสมบัตินางสนมคะ?

PS.  จากนคราห่างมาหลายแสนลี้ จากราตรีค่อยเคลื่อนเลือนลับหาย จากคิมหันต์วสันต์เหมันต์กลาย จากชีพวายไม่สิ้นกลิ่นไอรัก
0
ลูกศร ต้นนที 7 ก.ค. 54 เวลา 22:18 น. 5

เอ่อ...เคยเช็คกันมั่งไหมว่า 24 ศตวรรษที่แล้วน่ะแถวนี้ยังเป็นอารยธรรมโบราณกันอยู่เลย (ทำโลหะได้หรือยังเหอะ)


PS.  For the strength of the Pack is the Wolf, and the strength of the Wolf is the Pack.
0
Prisma Dominatus 7 ก.ค. 54 เวลา 22:25 น. 6

@4 อยากบอกว่า "เออ ว่ะ"  ครับท่าน


PS.  คนทุกคนเท่าเทียมกัน แต่บางคนเท่าเทียมมากกว่าคนอื่น (Warhammer 40K)
0
Ziar 7 ก.ค. 54 เวลา 22:53 น. 7

 ระบุอายุได้ชัดเจนถึงนัยสำคัญหลักสุดท้ายแบบนั้น ไม่น่าจะระบุโดยสายตาชาวบ้านได้นะคะ ต้องระบุโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีการตรวจวิเคราะห์คาร์บอน ซึ่งถ้ามีผู้เชี่ยวชาญมาตรวจวิเคราะห์ ข้าวของก็น่าจะถูกย้ายไปเก็บรักษา ประโคมข่าวพบสมบัติโบราณและนำไปเก็บในพิพิธภัณฑ์แล้ว ไม่น่าจะปล่อยไว้ล่อมือโจรขนาดนี้= ="


PS.  ~วิ่งเล่น กิน นอน เดินจร ร่อนไป~
0
นิโกร 7 ก.ค. 54 เวลา 23:06 น. 8

ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 5 ครับ

ประเทศแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เราเนี่ย ช่างเงินช่างทองเค้าเก่งนะครับ เรื่องวิทยาการด้านโลหะต้องย่านนี้เลยครับ จะขึ้นรูป หรือตีบางเป็นกระดาษก็ทำได้ อย่าไปคิดว่าสมัย 3000 ปีก่อน มนุษย์เอเชียยังนุ่งหนังสัตว์ เอาอาวุธหินไปตีหัวกัน ไม่ใช่ครับ! (นั่นประวัติศาสตร์ฝรั่งแต่งขึ้น) ยกตัวอย่าง สมัยจิ๋นซี สองพันกว่าปีเนี่ย เอารถศึกรบกันแล้วนะครับ มีระบบประปาด้วย แถมยังรู้จักใช้เชื้อราไม่ก่อโรคในการย้อมสีติดทนนาน พูดได้ว่านักเคมีสมัยนั้นเก่งมาก เพราะฉะนั้นอย่าพูดเหมือนเอเชียเราล้าหลังเลยครับ ขอร้อง

แต่เรื่องผีสางนี่ ไม่แน่ใจ ฟังหูไว้หูละกัน

0
ซ่อนนาม 7 ก.ค. 54 เวลา 23:20 น. 9

#8
แล้วมีหลักฐานว่าทำเครื่องเงินหรือเหล็กได้หรือยังล่ะท่าน ?


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 7 ก.ค. 54 เวลา 23:26 น. 10

เจอข้อมูลแล้ว ช่วยวิเคราะห์ก็แล้วกัน

Early Metal Phases in Southeast Asia

It was around 2500 BC that the Austronesian people started to populate the archipelago and introduced primitive ironworks technology that they had mastered to the region.

By around the 5th century BC, people of the Dong Son culture, who lived in what is now Vietnam, had mastered basic metal working. Their works are the earliest known metal object to be found by archeologists in Southeast Asia.


http://en.wikipedia.org/wiki/History_of_Southeast_Asia


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 7 ก.ค. 54 เวลา 23:33 น. 11

แปลแบบงู ๆ ปลา ๆ

ชาวออสโตรนีเซีย (ที่วนเวียนอยู่ในเกาะแถว ๆ ออสเตรเลียจนถึงมหาสมุทรอินเดีย)
มีความรู้เกี่ยวกับการทำเครื่องโลหะและนำมันเข้ามาเผยแพร่ในช่วง 2500 ปีก่อน

จนกระทั่ง 5 ศตวรรษก่อนคริสศักราช (ก็ 2500 ปีที่แล้วนี่ฟร่า ?)
ก็สามารถสร้างเครื่องโลหะเป็นของตนเองได้เป็นที่สำเร็จ
ดังนั้นอาจจะพูดได้ว่า อยู่ในคาบเกี่ยวของช่วงแรกของประวัติศาสตร์ที่สร้างได้พอดี

แต่...เครื่องโลหะแต่ละชนิดต้องการเทคนิคที่ต่างกัน ดังนั้นการสร้างเครื่องโลหะได้
ก็ใช่ว่าจะสร้างเครื่องเงิน หรือเครื่องทองได้ เพราะจะมีเทคนิคที่ลงลึกมากกว่า


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 7 ก.ค. 54 เวลา 23:39 น. 13

Early history

The ruins of the Khmer temple at Wat Phū, near Champasak in southern Laos

The Tai (also spelled Dai) are a linguistic group originating in southern China, which includes the Lao, the Siamese, the people of the Shan region of north-eastern Burma, the Zhuang people of Guangxi Province in China and the Tho and Nung people of northern Vietnam. Under pressure from the expansion of the Han Chinese, the Tai began to migrate into South-East Asia during the first millennium AD. They displaced earlier peoples (including the iron age culture who made the great stone jars from which the Plain of Jars in central Laos takes its name). The Mekong River, which flows through what is now Laos, was a major migration route, but the strength of the Khmer Empire (Cambodia) prevented the Tai from dominating the Mekong Valley. Instead the main area of Tai settlement was further south in the Chao Phraya Valley, where they formed a series of kingdoms ancestral to modern Siam and Thailand.

The earliest Lao legal document (and the earliest sociological evidence about the existence of the Lao people) is known as "the laws of Khun Borom" (also spelled "Khun Bulom"), still preserved in manuscript form.[1]

http://en.wikipedia.org/wiki/History_of_Laos_to_1945#Early_history


แปลไม่ออกแล้วเฟ้ย !!!


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 7 ก.ค. 54 เวลา 23:42 น. 14

#12
หลักหน่วยกับหลักสิบใช่ไหม ?
ถึงจะไม่ใช่ C-14 แต่ขนาดมีอยู่ในบันทึกพงศาวดารยังไม่รู้ลึกขนาดนั้นเลย !

อย่าว่างู้นงี้ ถึงผีจะมีอยู่จริง ก็ใช่ว่าตอนที่เป็นคนอยู่จะรู้ว่าปีที่ตัวเองอยู่คือปีอะไรเหมือนกัน


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0
Doggiebiz 7 ก.ค. 54 เวลา 23:49 น. 15

ผมว่าการสกัดแร่ทองกับแร่เงินมันทำง่ายกว่าเหล็กอีกนะ  เพราะงั้นถ้าจะมีเครื่องเงินหรือทองในสมัยนั้นก็ไม่น่าจะแปลกนัก  แถมแถวลาวเองก็มีเหมืองทองอยู่บ้างด้วย  คงจะเป็นไปได้ล่ะนะ


PS.  ไม่มีแว่นก็ทำให้ใจละลายได้....
0
Earende| G!|m!rath 7 ก.ค. 54 เวลา 23:56 น. 16

#9 ท่านซ่อนนาม

ถ้าอายุประมาณ 2500 ปีจริงๆ ก็คงมีเหล็กแล้วล่ะค่ะ

ไว้พอนึกแหล่งออก จะบอกอีกทีนะคะ

แต่จะบอกว่าแหล่งโบราณคดีบ้านนาดี จ.ขอนแก่น

อาจจะเป็นแหล่งโบราณคดีสมัยสำริดที่เก่าแก่มากกว่าในตะวันออกกลางอีก

เพราะกำหนดอายุด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์

ได้ว่ามีอายุประมาณ 6000-7000 ปีแล้วนะคะ

พูดง่ายๆ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้รู้จักทำโลหกรรมตั้งแต่ 7000 ปีมาแล้วนะคะ

อ้างอิงท่านอ.ศรีศักร วัลลิโภดมค่ะ

เพิ่มเติมมีนักวิชาการฝรั่งชื่อโซลไฮล์มได้กล่าวไว้ว่า

"ดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยเป็นแหล่งที่มีพัฒนาการ

ในเรื่องสำริดเก่าแก่ที่สุดในโลก" ค่ะ


PS.  จากนคราห่างมาหลายแสนลี้ จากราตรีค่อยเคลื่อนเลือนลับหาย จากคิมหันต์วสันต์เหมันต์กลาย จากชีพวายไม่สิ้นกลิ่นไอรัก
0
ซ่อนนาม 8 ก.ค. 54 เวลา 00:00 น. 17

#16
ระวังให้ดีท่าน สำริด กับเหล็ก และโลหะชนิดอื่นไม่เหมือนกัน
โดยเฉพาะสำริดกับเหล็ก
สำริดใช้ความร้อนต่ำ มนุษย์จึงสามารถทำได้เร็ว
แต่เหล็กใช้ความร้อนสูง จึงทำให้กว่ามนุษย์ทำได้จึงเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่พันปีมานี้นี่เอง
(เขาถึงแยกยุคสำริดแล้วต่อมาเป็นยุคเหล็ก)

ส่วนโลหะประเภทอื่นเช่นทองคำ เงิน พวกนี้เราไม่รู้นะว่าทำกันได้เมื่อไหร่
และพวกนี้หายากกว่าโลหะชนิดอื่น ๆ ด้วยการจะถลุงมาได้คงต้องใช้วิธีเฉพาะมากขึ้นกว่าเดิม


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0
ซ่อนนาม 8 ก.ค. 54 เวลา 00:07 น. 18

เจอข้อมูลแล้วแหะ

http://en.wikipedia.org/wiki/4th_millennium_BC


Copper alloys used by Egyptians and Sumerians; smelting of gold and silver known.

สรุปว่ามีการค้นพบและหลอมโลหะเงินกับทองตั้งแต่ยุค 4000 BC (ก่อนเหล็กอีกเรอะ !?)


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0
Earende| G!|m!rath 8 ก.ค. 54 เวลา 00:08 น. 19

แวร์ไม่พูดมากล่ะกันนะคะ

เดี๋ยวชื่อเสียงคณะจะป่นปี้

เพราะแค่แวร์ไม่ยอมใช้อากู๋และวิกิช่วยตอบคำถาม

แต่เรื่องแค่นี้ แวร์ทราบค่ะ (ที่พูดในคห.17นะ)


PS.  จากนคราห่างมาหลายแสนลี้ จากราตรีค่อยเคลื่อนเลือนลับหาย จากคิมหันต์วสันต์เหมันต์กลาย จากชีพวายไม่สิ้นกลิ่นไอรัก
0
Doggiebiz 8 ก.ค. 54 เวลา 00:13 น. 20

ลองแปลมั่ว ๆ คห. 13 ดู

ไท (หรือไต) เป็นกลุ่มภาษาที่กำเหนิดบริเวณภาคใต้ของจีน  ซึ่งประกอบไปด้วย ชาวลาว  สยาม  ชาวฉานบริเวณทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของพม่า  ชาวจวง (ออกเสียงอย่างนี้เปล่าเอ่ย) จากจังหวัดกวางสีในจีน  ชาวโท และนัง (ออกเสียงอย่างนี้เปล่าเอ่ย) ทางตอนเหนือของเวียดนาม  ภายใต้แรงกดดันจากการแผ่ขยายอำนาจของชาวจีนฮั่น  ชาวไทเริ่มอพยพลงมาสู่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ตอนช่วงต้นสหัษวรรษหลังคริสตกาล  พวกเขาขับไล่ชนพื้นเมือง (ที่รวมไปถึงอารยธรรมช่วงยุคเหล็กที่ผลิตแจกันหิน  และเป็นที่มาชองชื่อทุ่งราบแจกันในภาคกลางของลาวอีกด้วย) แม่น้ำแม่โขงที่ไหลผ่านบริเวณลาวในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นเส้นทางอพยพหลัก  แต่อำนาจของจักรวรรดิเขมรขัดขวางชาวไทจากการครองครองบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง  ดังนั้นบริเวณหลักของพื้นที่ตั้งรกรากของชาวไทจึงอยู่ลึกไปในบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยที่พวกเขาได้ก่อตั้งกลุ่มอาณาจักรที่เป็นบรรพบุรุษของอาณาจักรสยามและไทยในปัจจุบัน

 

บันทึกของกฎหมายลาวฉบับแรกสุด (และเป็นหลักฐานชิ้นแรกสุดเกี่ยวกับการมีตัวตนของชาวลาว) รู้จักกันในชื่อว่า “กฏหมายขุนบรม (หรือขุนบุลม) ยังถูกเก็บรักษาไว้ในรูปแบบของบันทึกลายลักษณ์อักษร


PS.  ไม่มีแว่นก็ทำให้ใจละลายได้....
0