การจูบปากติดเอดส์ได้ไหม ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ คืองี้ค่ะเราจูบปากกับแฟนเราแล้วทีนี้เค้าเอาฟันมาโดนปากเราปากเราเลือดออกแล้วเราก็ยังไม่รุเราก็จูบต่อนานมากย้ำว่านานมากๆพอกลับมาถึงบ้านเราถึงได้รุว่าปากเราเลือดออกเรากลัวว่าเราจะเป็นเอดส์อ่ะเพราะเรากับแฟนเราที่เป็นทอมน้ำลายกับน้ำลายมันโดนกันอ่ะช่วยด้วยนะคะคือเราเครียดแล้วเรากลัวด้วยคือเรายังเรียนยุเลยแยแค่14เองเราเครียดช่วยบอกด้วยนะคะแล้ววิธีการแก้ไขโอกาศที่จะติดเชื่อมากน้อยแค่ไหนขอบคุนค่ะ มีนี่ 22 ก.ค. 54 เวลา 17:11 น. 0 like 3,144 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
ชานมเย็น 22 ก.ค. 54 เวลา 17:54 น. 1 ถ้าคิดว่าเขาแข็งแรงดี ก็คงไม่ติดหรอก PS. ขอให้ติดตามกระทู้ของผูกจันทร์ ขอให้โหวตกระทู้ของผูกจันทร์ และขอให้โพสกระทู้ของผูกจันทร์ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
skyocean 22 ก.ค. 54 เวลา 18:38 น. 2 อะไร? แค่นี้คิดว่าจะเป็นเอดส์ ถ้ามันเป้ฯง่ายขนาดนั้นคงเดือดร้อนกับทั่วโลกล่ะคะน้องครับต่อให้คนเป็นเอดส์ถุยน้ำลาย100ทีใส่ปากคนที่ไม่เป็นก็ไม่เป็นหรอกครับ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
MirakI 22 ก.ค. 54 เวลา 18:52 น. 3 แล้วทอมเป็นเอดส์หรอแต่เลือดไม่รู้นะ ถ้าน้ำลายอ่ะ ต้องเยอะมากอ่ะถึงจะติด 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
umam 22 ก.ค. 54 เวลา 19:17 น. 4 แล้วตกลงแฟนเป็นเอดส์ป่าวอ่ะ ถ้าเป็นก็ไม่แน่ เพราะ มีแผลที่ปากน่ะ ถ้าไม่มีแผลความเสี่ยงในการติดก็น้อยอ่ะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
บอกให้ 22 ก.ค. 54 เวลา 19:19 น. 5 ต้องกินน้ำลายคนติดเอดส์ที่มีแผลในปาก1ลิตร ถึงจะมีโอกาสครับ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Zeratul 22 ก.ค. 54 เวลา 19:21 น. 6 ผมยังไม่เคยเห็นรายงานที่บอกเปอร์เซนต์ผู้ติดเชื้อ HIV จากการจูบนะครับ ตอบในแง่ของทฤษฎีแล้วกันนะครับ เชื้อชนิดนี้พบในน้ำลายน้อยมากครับ แต่ในช่องปากมันเป็นเยื่อบุแบบ แบบยังไงดี ไม่เหมือนผิวหนัง ประมาณ mucous ประมาณนี้ ซึ่งมีเม็ดเลือดขาวอยู่เยอะมาก เพราะฉะนั้นหากกินน้ำแก้วเดียวกัน รับประทานอาหารโต๊ะเดียวกันโดยที่ปากของผู้ติดเชื้อไม่มีแผลอะไรพวกนี้ โอกาสติดน้อยมากครับ เกือบ0% อย่างกรณีของ จขกท. ก็คงแล้วแต่ว่าจูบแบบไหน จูบกันธรรมดาคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจูบแบบดูดดื่มเลย ก็ไม่แน่ กรณีนี้ จขกท.เลือดออก ก็คงต้องดูทางฝ่ายนั้นว่าปากเค้ามีรอยถลอกหรือแผลในช่องปากพวกนี้ไหม ถ้ามีก็มีโอกาสติดครับ วิธีการแก้ไข ถ้าได้รับเชื้อมาแล้วผมยังไม่เคยได้ยินนะครับ แต่คิดว่า ณ ปัจจุบันนี้ ไม่มี ไม่งั้นคงไม่ได้ว่ายินบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ HIV อุบัติเหตุระหว่างทำการรักษาผู้ป่วย อย่างที่ผมได้ยินมาก็กระหน่ำด้วยยาต้านไวรัสทันที ที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ผล โรคนี้ไม่ได้ติดง่ายๆอะไรขนาดนั้นนะครับ แต่ถ้าถึงขนาดเลือดออกก็มีโอกาสครับ ถ้าไปตรวจ peak จะขึ้นที่สัปดาห์ที่ 6 (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) โอกาสเจอตอนตรวจตอนนั้นเยอะสุดครับ ช่วงนั้นถ้าได้รับเชื้อมาอาจมีต่อมน้ำเหลืองบวมโตบ้าง แต่ถ้าร่างกายแข็งแรงดีอาจเป็นแค่หวัดเล็กน้อย หรือไม่เป็นอะไรเลย ส่วนมากถ้าผู้ป่วยที่ไม่ได้สงสัยตัวเองว่าได้รับเชื้อมาหรือเปล่า แล้วมาตรวจ ก็จะหลุดยาว เหอะๆ เพราะว่าจะเหมือนคนปกติทุกอย่าง จนผ่านไปแล้ว 5-10 ปีแหละครับ CD4 ถึงต่ำจนเริ่มเกิดอาการติดเชื้ออื่นๆตามมา หรือช่วงที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจนติดเชื้อแทรกซ้อนอื่นๆตามมาเค้าเรียกว่า AIDs ผู้ป่วยที่หลุดช่วงแรกไปก็จะมารู้ตัวตอนได้รับเชื้อไปแล้ว 5-10 ปีเนี่ยแหละครับ เพราะฉะนั้นคนที่แข็งแรงดีอย่าคิดว่าเค้าไม่มีเชื้อนะครับ คิดดูว่ามีคนที่รับเชื้อมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าตัวเองไม่มีเชื้อเท่าไหร่ จะโทษเค้าก็ไม่ได้นะครับ เพราะว่าคนที่ไม่ได้ตรวจแต่แรกนี่เค้าไม่รู้จริงๆ เค้าแข็งแรงเหมือนคนปกติทุกอย่าง จนผ่านไปแล้ว 5-10 ปีถึงรู้ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ประมาณ 1,100,000 คน และเพิ่มขึ้นวันละ 32 คน คิดง่ายๆว่าก็คือใน 60 คน จะติดเชื้อ HIV สัก 1 คน(ยังไม่นับคนที่ไม่รู้ตัวนะครับ) ปัจจุบันยาที่ใช้รักษาโรคนี้มีเยอะมาก ถ้าแบ่งเป็นชุด ก็มี 3 เซตหลักๆ ซึ่งยาในแต่ละเซตสามารถควบคุมระดับเชื้อให้ลดลงจนเหมือนคนปกติทุกอย่าง ไม่มีโรคแทรกซ้อนไปตลอดชีวิต แต่ข่าวร้ายก็คือเชื้อมันดื้อยาครับ มีการคำนวนว่าถ้าหากผู้ป่วยให้การร่วมมือในการใช้ยาดี กินยาครบไม่ขาดเลย จะใช้เวลาประมาณ 10 ปี เชื้อถึงจะดื้อยา ซึ่งเรามี 3 เซต ก็กะประมาณว่าผู้ป่วยเชื้อ HIV สามารถอยู่ได้ 30 ปี หากใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ แต่ข้อมูลเรื่องยาของโรคนี้มันเปลี่ยนไวมากนะครับ เรียกได้ว่ามียาใหม่ๆออกมาทุกปีเลย แล้วยารักษาโรคนี้มีอภิสิทธิ์เหนือกว่ายาโรคอื่นคือถ้าหากทำในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองได้ผล เค้าจะไม่ต้องทดสอบในคนมากมายครับ สามารถเอาออกมาสู่ท้องตลาดได้เลย ทำให้ยาใหม่ออกมาไวมากๆๆๆๆๆ กว่าจะถึง 30 ปี ก็มียาใหม่ออกมาจนอยู่ได้ตลอดอายุขัยพอดีแหละครับ ข่าวดีอีกอย่างนึงคือวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้ ทำถึง phase3 แล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคงได้ออกสู่ท้องตลาด แต่ราคาก็ต้องแพงแน่ๆ ตอบแบบไม่คิดเลย เหอะๆ ตอบเกินคำถามของ จขกท. ไปหน่อยนะครับ แต่ก็ให้ความรู้คนอื่นไปด้วย อยากให้ป้องกันกันนะครับ สำหรับ จขกท. ถ้าไม่สบายใจก็ให้แฟนของ จขกท. ไปตรวจเลือดแหละครับ ชัวสุด 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
คหสต 22 ก.ค. 54 เวลา 19:36 น. 7 อายุ 17 ยังไม่เคยจูบใครเลย (ไม่ใช่ประเด็น?) ไม่ติดหรอกจ้าอย่าคิดมาก 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
สแลมดั้ง 22 ก.ค. 54 เวลา 20:48 น. 8 ไม่เปนแน่นอน!! เราเคยไปอบรมเรื่องนี้มา PS. 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
prewmilk 22 ก.ค. 54 เวลา 21:04 น. 9 อันดับแรก อยากถามว่า แฟนเป็นเอดส์หรือป่าว PS. ขอบคุณจ้า....... 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Yuuuu. 23 ก.ค. 54 เวลา 01:02 น. 10 ผมว่าไม่เป็นนะ เพราะเลือดสู่เลือดนี่นา ไม่ใช่น้ำลายสู่เลือด PS. เมื่อไหร่จะสูงเหมือนคนอื่นเขามั่ง??? 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
HYUNJA 26 ก.ค. 54 เวลา 17:17 น. 11 การติดเอดส์ทางน้ำลายนี่ต้องถุยใส่ในแก้ว อย่างน้อยๆๆ ครึ่งแก้ว(ใหญ่) แล้วดื่มเอาอ่ะค่ะ ถึงจะติด =..= เอ๊ะ.. เรา18แล้วอ่ะ ก็ยังไม่เคยจูบเลย =_______________=;;; 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
the fox 14 เม.ย. 57 เวลา 23:47 น. 12 เครียดมากครับ ไปจูบปากแบบแลกลิ้นมาตอนสงกรานเนี้ย ต้องแรกเขิลๆกลับบ้านมานี้เครียดมากกลัวติดเอดส์มากอ่ะ TT 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
KwangNoi 16 พ.ค. 60 เวลา 11:30 น. 13 ถ้ารู้ตัวเองว่าเสี่ยง เราว่าไปหาหมอ ตรวจ HIV เถอะจ้าเพราะเดี๋ยวนี้คลินิคเขาสะดวกสบายมาก ญาติเราก็ไปมานะที่เชียงใหม่V-med Clinic โทรไปถามเขาก่อนได้ที่เบอร์นี้ 052-001119 หรือเข้าไปดูเว็บไซต์เขาก่อนได้เลย www.vmedclinic.com จะได้สบายใจจ้า 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ข่าวดี! #dek67 ทดลองจัด 10 อันดับ Admission พร้อมพรินต์ PDF ได้แล้ว (ใช้ปรึกษาคะแนนใน Dek-D's TCAS Fair ได้) TCAS/รับตรง/แอดมิชชั่น
13 ความคิดเห็น
ถ้าคิดว่าเขาแข็งแรงดี ก็คงไม่ติดหรอก
PS. ขอให้ติดตามกระทู้ของผูกจันทร์ ขอให้โหวตกระทู้ของผูกจันทร์ และขอให้โพสกระทู้ของผูกจันทร์
อะไร? แค่นี้คิดว่าจะเป็นเอดส์ ถ้ามันเป้ฯง่ายขนาดนั้นคงเดือดร้อนกับทั่วโลกล่ะคะน้องครับ
ต่อให้คนเป็นเอดส์ถุยน้ำลาย100ทีใส่ปากคนที่ไม่เป็นก็ไม่เป็นหรอกครับ
แล้วทอมเป็นเอดส์หรอ
แต่เลือดไม่รู้นะ ถ้าน้ำลายอ่ะ ต้องเยอะมากอ่ะถึงจะติด
แล้วตกลงแฟนเป็นเอดส์ป่าวอ่ะ
ถ้าเป็นก็ไม่แน่ เพราะ มีแผลที่ปากน่ะ
ถ้าไม่มีแผลความเสี่ยงในการติดก็น้อยอ่ะ
ต้องกินน้ำลายคนติดเอดส์ที่มีแผลในปาก1ลิตร ถึงจะมีโอกาสครับ
ผมยังไม่เคยเห็นรายงานที่บอกเปอร์เซนต์ผู้ติดเชื้อ HIV จากการจูบนะครับ ตอบในแง่ของทฤษฎีแล้วกันนะครับ เชื้อชนิดนี้พบในน้ำลายน้อยมากครับ แต่ในช่องปากมันเป็นเยื่อบุแบบ แบบยังไงดี ไม่เหมือนผิวหนัง ประมาณ mucous ประมาณนี้ ซึ่งมีเม็ดเลือดขาวอยู่เยอะมาก เพราะฉะนั้นหากกินน้ำแก้วเดียวกัน รับประทานอาหารโต๊ะเดียวกันโดยที่ปากของผู้ติดเชื้อไม่มีแผลอะไรพวกนี้ โอกาสติดน้อยมากครับ เกือบ0% อย่างกรณีของ จขกท. ก็คงแล้วแต่ว่าจูบแบบไหน จูบกันธรรมดาคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจูบแบบดูดดื่มเลย ก็ไม่แน่ กรณีนี้ จขกท.เลือดออก ก็คงต้องดูทางฝ่ายนั้นว่าปากเค้ามีรอยถลอกหรือแผลในช่องปากพวกนี้ไหม ถ้ามีก็มีโอกาสติดครับ
วิธีการแก้ไข ถ้าได้รับเชื้อมาแล้วผมยังไม่เคยได้ยินนะครับ แต่คิดว่า ณ ปัจจุบันนี้ ไม่มี ไม่งั้นคงไม่ได้ว่ายินบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ HIV อุบัติเหตุระหว่างทำการรักษาผู้ป่วย อย่างที่ผมได้ยินมาก็กระหน่ำด้วยยาต้านไวรัสทันที ที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ผล
โรคนี้ไม่ได้ติดง่ายๆอะไรขนาดนั้นนะครับ แต่ถ้าถึงขนาดเลือดออกก็มีโอกาสครับ ถ้าไปตรวจ peak จะขึ้นที่สัปดาห์ที่ 6 (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) โอกาสเจอตอนตรวจตอนนั้นเยอะสุดครับ ช่วงนั้นถ้าได้รับเชื้อมาอาจมีต่อมน้ำเหลืองบวมโตบ้าง แต่ถ้าร่างกายแข็งแรงดีอาจเป็นแค่หวัดเล็กน้อย หรือไม่เป็นอะไรเลย ส่วนมากถ้าผู้ป่วยที่ไม่ได้สงสัยตัวเองว่าได้รับเชื้อมาหรือเปล่า แล้วมาตรวจ ก็จะหลุดยาว เหอะๆ เพราะว่าจะเหมือนคนปกติทุกอย่าง จนผ่านไปแล้ว 5-10 ปีแหละครับ CD4 ถึงต่ำจนเริ่มเกิดอาการติดเชื้ออื่นๆตามมา หรือช่วงที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจนติดเชื้อแทรกซ้อนอื่นๆตามมาเค้าเรียกว่า AIDs ผู้ป่วยที่หลุดช่วงแรกไปก็จะมารู้ตัวตอนได้รับเชื้อไปแล้ว 5-10 ปีเนี่ยแหละครับ เพราะฉะนั้นคนที่แข็งแรงดีอย่าคิดว่าเค้าไม่มีเชื้อนะครับ คิดดูว่ามีคนที่รับเชื้อมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าตัวเองไม่มีเชื้อเท่าไหร่ จะโทษเค้าก็ไม่ได้นะครับ เพราะว่าคนที่ไม่ได้ตรวจแต่แรกนี่เค้าไม่รู้จริงๆ เค้าแข็งแรงเหมือนคนปกติทุกอย่าง จนผ่านไปแล้ว 5-10 ปีถึงรู้
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ประมาณ 1,100,000 คน และเพิ่มขึ้นวันละ 32 คน คิดง่ายๆว่าก็คือใน 60 คน จะติดเชื้อ HIV สัก 1 คน(ยังไม่นับคนที่ไม่รู้ตัวนะครับ)
ปัจจุบันยาที่ใช้รักษาโรคนี้มีเยอะมาก ถ้าแบ่งเป็นชุด ก็มี 3 เซตหลักๆ ซึ่งยาในแต่ละเซตสามารถควบคุมระดับเชื้อให้ลดลงจนเหมือนคนปกติทุกอย่าง ไม่มีโรคแทรกซ้อนไปตลอดชีวิต แต่ข่าวร้ายก็คือเชื้อมันดื้อยาครับ มีการคำนวนว่าถ้าหากผู้ป่วยให้การร่วมมือในการใช้ยาดี กินยาครบไม่ขาดเลย จะใช้เวลาประมาณ 10 ปี เชื้อถึงจะดื้อยา ซึ่งเรามี 3 เซต ก็กะประมาณว่าผู้ป่วยเชื้อ HIV สามารถอยู่ได้ 30 ปี หากใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ แต่ข้อมูลเรื่องยาของโรคนี้มันเปลี่ยนไวมากนะครับ เรียกได้ว่ามียาใหม่ๆออกมาทุกปีเลย แล้วยารักษาโรคนี้มีอภิสิทธิ์เหนือกว่ายาโรคอื่นคือถ้าหากทำในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองได้ผล เค้าจะไม่ต้องทดสอบในคนมากมายครับ สามารถเอาออกมาสู่ท้องตลาดได้เลย ทำให้ยาใหม่ออกมาไวมากๆๆๆๆๆ กว่าจะถึง 30 ปี ก็มียาใหม่ออกมาจนอยู่ได้ตลอดอายุขัยพอดีแหละครับ
ข่าวดีอีกอย่างนึงคือวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้ ทำถึง phase3 แล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคงได้ออกสู่ท้องตลาด แต่ราคาก็ต้องแพงแน่ๆ ตอบแบบไม่คิดเลย เหอะๆ
ตอบเกินคำถามของ จขกท. ไปหน่อยนะครับ แต่ก็ให้ความรู้คนอื่นไปด้วย อยากให้ป้องกันกันนะครับ สำหรับ จขกท. ถ้าไม่สบายใจก็ให้แฟนของ จขกท. ไปตรวจเลือดแหละครับ ชัวสุด
อายุ 17 ยังไม่เคยจูบใครเลย (ไม่ใช่ประเด็น?)
ไม่ติดหรอกจ้าอย่าคิดมาก
ไม่เปนแน่นอน!! เราเคยไปอบรมเรื่องนี้มา
PS.
อันดับแรก อยากถามว่า แฟนเป็นเอดส์หรือป่าว
PS. ขอบคุณจ้า.......
ผมว่าไม่เป็นนะ เพราะเลือดสู่เลือดนี่นา ไม่ใช่น้ำลายสู่เลือด
PS. เมื่อไหร่จะสูงเหมือนคนอื่นเขามั่ง???
การติดเอดส์ทางน้ำลายนี่ต้องถุยใส่ในแก้ว อย่างน้อยๆๆ ครึ่งแก้ว(ใหญ่) แล้วดื่มเอาอ่ะค่ะ ถึงจะติด =..=
เอ๊ะ.. เรา18แล้วอ่ะ ก็ยังไม่เคยจูบเลย =_______________=;;;
เครียดมากครับ ไปจูบปากแบบแลกลิ้นมาตอนสงกรานเนี้ย ต้องแรกเขิลๆกลับบ้านมานี้เครียดมากกลัวติดเอดส์มากอ่ะ TT
ถ้ารู้ตัวเองว่าเสี่ยง เราว่าไปหาหมอ ตรวจ HIV เถอะจ้า
เพราะเดี๋ยวนี้คลินิคเขาสะดวกสบายมาก ญาติเราก็ไปมานะที่เชียงใหม่
V-med Clinic โทรไปถามเขาก่อนได้ที่เบอร์นี้ 052-001119
หรือเข้าไปดูเว็บไซต์เขาก่อนได้เลย www.vmedclinic.com จะได้สบายใจจ้า
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?