เด็กซิ่ว พ่อแม่ไม่เข้าใจ ท้อแท้มาก ทำยังไงดี
ตั้งกระทู้ใหม่
แอบเสียดายค่าเทอมเหมือนกันนะสงสารพ่อแม่ แต่จะสงสารยิ่งกว่าถ้าต้องเสียเงินให้เราฝืนทนเรียนที่เราไม่ชอบต่ออีกสี่ปีน่ะ
13 ความคิดเห็น
จากประสบการณ์ที่พี่เคยเจอ ลาออกหลังเทอมที่1เป็นต้นไป มันเคว้งมากนะ วันๆอยู่แต่ในบ้าน น่าเบื่อจะตาย ชีวิตมหาลัยอย่างน้อยยังพอมีข้ออ้างไปโน่นไปนี่ได้บ้าง
รีไทน์หรือลาออก มันก็คือสิ้นสภาพนักศึกษาเหมือนกันนะ แค่ต่างกันตรงที่ถ้าโดนรีไทน์แล้ว เกิดซิ่วที่ใหม่ไม่ติด ก็ไม่มีที่เก่าให้เกาะอีก เหมือนทิ้งแฟนเก่าไปหาคนใหม่ที่ไม่คิดจะเอาด้วย ประมาณนั้น
พี่แนะนำว่า ทนเรียนไปก่อนสักปีก็ดีเหมือนกันนะ เวลาเราออกไปซิ่วที่ใหม่ เราก็เอาเกรดจากวิชาพื้นฐานไปโอนหน่วยกิจได้ (ถ้าเกรดแต่ละวิชามันอยู่ในระดับ C+ ขึ้นไป)
สู้ๆต่อไปครับ ไม่มีพ่อแม่คนให้อยากให้ลูกทรมานกับสิ่งที่ลูกไม่ชอบหรอก ท่านแค่อยากให้ลองฟันฝ่าต่อไปสักระยะนึงก่อน บางทีสิ่งที่เราไม่ชอบในตอนแรก อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เราชอบหรือถนัดในภายหลังก็ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ค่อยว่ากันอีกที
PS. ไม่มีใครปั้นหม้อที่สวยงามและมีมูลค่าได้ โดยที่มือไม่เปื้อนดินหรอก
อาการเียวกับพี่เลยน้อง เเต่พี่อยากเเนะนำว่าถ้าอยากเปลี่ยนใจพ่อเเม่อ่ะ
น้องต้องซุ่มอ่านหนังสือหนักๆทำข้อสอบออกมาคะเเนนจะได้สูงๆ พ่อเเม่จะได้มีความหวังว่าถึงเราซิ่วก็น่าจะติด
ส่วนเรื่องที่ม.อ่ะ อย่าเพิ่งลาออกเลยเพราะมันจะเหงามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เรียนๆไปเหอะ
T^Tขอบคุณทุกความเห็นค่ะ
ถอนออกบางวิชาดีกว่ามั้ง? - -
ถ้าออกมาวังเวง เคว้งคว้าง
อยู่ ม. อย่างน้อยมีเพื่อนอ่ะนะ
ง่ายๆๆ ตอนนี้ถอนวิชาออกเลย
เเละเทอม 2 ก็ลงเเต่วิชาเบาๆๆ
เรียน 3-4 วันที่เหลือก้อ่านหนังสืออยู่บ้าน
เอาวิชาเบาๆๆนะ
เเละก็ตั้งใจสอบตรง GAT-pat ให้สูงๆๆ
เเล้วถ้ายื่นคะเเนน แอดติด ก็ค่อยมาบอกเขาว่า จะออกนะ
ยังไงปี 1 ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องต้องลาออกอยู่เเล้ว
ณ ตอนนี้อ่านหนังสือให้เต็มที ตุลาสอบGAT*PAT สู้ๆๆ
ซิ่วรอบแรกพี่เรียนเทอมเดียวแล้วออกมาเลยอ่ะ อยู่บ้านก็เหงานะ คิดถึงเพื่อนที่โน้น แต่โดยรวมไม่ชอบคณะที่เรัียน สังคม บลาๆ อยู่ไม่ไหว พ่อแม่เค้าก็ไม่ยอมหรอก แต่ดื้อไง ตอนที่อยู่บ้านช่วงเทอมสองนี้เครียดมาก ทั้งพ่อแม่ และตัวเอง รู้สึกกดดันกว่าตอนมอหกมากกกก พ่อได้แต่บอกไม่ติดก็กลับไปเรียนที่เดิมนะ พี่ก็โอเคๆ แต่ในใจ ไม่ยอมยังไงก็ไม่กลับไปเรียนที่เดิมแน่นอน เลยฟิตอ่านหนังสือแต่ทำไม่ได้เท่าที่ควรอ่ะ เพราะอยู่บ้านมันเหงา เบื่อมากกเลยพาลทำให้เราขี้เกียจ (อันนี้น้องต้องกระตุ้นตัวเองเยอะๆนะ เพราะ ณ ตอนนี้มันอยู่ที่ตัวเราแล้ว) สุดท้ายแล้วติดมหาลัยที่พ่อแม่โอเคอ่ะ แต่สำหรับพี่เรียกว่าพลาดมากกว่า ไอ่ที่อยากได้ก็ไม่ได้ เลยคิดจะซิ่วอีกปีนี้แหละ แต่คราวนี้ จะซุ่มอ่ะ ไม่บอกพ่อกับแม่แล้ว เดี๋ยวบ้านแตก และต้องยอมรับว่ามันหนักมากก ทั้งมหาลัย ทั้งซิ่ว ทำได้แค่ตัดบางตัวออกแล้วพยุงๆไปไม่รู้จะรอดรึเปล่า แต่ในใจเราต้องไม่ยอมนะ เราต้องคิดตลอดว่าเราต้องเข้าที่อยากเข้าให้ได้ นี้รอบสองแล้วพี่ก็ทุ่มสุดๆเลย (ประมาณทุบหม้อข้าวของพระเจ้าตากสินอะค่ะ 555 จริงๆนะ ปลุกใจตัวเองเยอะๆ ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆ เข้าใจว่าเหนื่อย ลำบากมาก แต่ถ้าเราได้มันมาก็คุ้มนะ)
    ส่วนเรื่องพ่อกับแม่พี่เข้าใจนะ เคยผ่านมา ไม่ว่าจะสรรหาเหตุผลไร เค้าไม่อยากให้เราซิ่วก็เท่านั้นแหละ ทำได้อย่างเดียวคือ ดื้ออ่ะ แบบไม่ต้องหาเหตุผลมาพูดแล้ว ทำเลยยยย อ่านเยอะๆ ฝึกเยอะๆๆ ทุบหม้อข้าวไปเลยค่ะน้อง แล้วที่มหาลัยถ้าไม่อยากไปจริงๆแล้วไม่ดรอปนะ ตัดหน่วยกิตออกไปเกือบครึ่งนึงเลยอะ (อันนี้พี่ทำอยู่ แต่สำหรับน้องแล้วแต่พิจารณาค่ะ รู้ว่ามันเสี่ยง) สู้ๆๆๆ
ถูก อยากออกมาก สังคมไม่ใช่ คณะก็ไม่ชอบ  เลยกลายเป็นมีอคติกับบางวิชาไปเลย  รู้สึกไม่มีจิตใจอยากจะเรียน อยากอ่านหนังสือ
นี่หนะสิปัญหาคิดจะซิ่วแต่ตอนนี้ทำไรไม่ได้เลยปวดหัวมาก
ของพี่ปีที่แล้วตอนซิ่วนั้นไม่ได้ลาออกแต่ไม่เคยไปเรียนเลยตั้งแต่วันแรก คือเท่ากับพ้นสภาพนิสิตไปโดยปริยายอยู่ดี พี่ยอมรับเลยว่าอ่านหนังสืออยู่บ้านคนเดียวมันเหงา แต่ถ้าไปเรียนแล้วไม่มีความสุขจะไปทำไม เสียเวลาอ่านหนังสือเปล่าๆไม่สู้เอาเวลามาอ่านมาทำโจทย์เพื่อคณะที่อยากเข้านะ ถึงจะต้องใช้ความมุ่งมั่นและการเอาชนะใจตัวเองกับความขี้เกียจอย่างสูงก็เถอะแต่ว่าถ้าทำได้พี่ว่ามันจะคุ้มกว่าไปนั่งเรียนแบบทุกข์ๆ พะวงกับการสอบในมหาลัยไหนจะต้องอ่านอันที่เราอยากสอบใหม่อีก ถ้าคิดว่ายังไงคณะที่เรียนอยู่ตอนนี้มันก็ไม่ใช่และไม่อยากกลับไปเรียนอีกแล้วก็ออกมาเถอะ หรือถ้าจะมองอีกมุมว่าไม่มีที่เรียนแล้วจะแคว้งมันก็เป็นการกดดันตัวเองดีนะ ว่ายังไงเราต้องพยายามให้ได้ดีที่สุด เป็นการเตือนตัวเองว่าตอนนี้เราไม่มีที่เรียนแล้วนะ
แต่ครอบครัวพี่เข้าใจให้ออกมาอ่านหนังสือที่บ้านได้ พี่ว่าลองคุยกับพ่อแม่อีกทีดู ลองถามพ่อแม่ไปตรงๆว่าถ้าเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบแล้วทำได้ไม่ดีหล่ะ หรือถ้าเรียนจบออกมาแบบถูไถแล้วไม่มีงานทำหล่ะ หรือต่อให้เรียนจบเกียรตินิยมอันดับ1ได้งานตรงสายจากคณะที่เรียน(คณะเดิมที่ไม่ชอบ)แต่เป็นงานที่ทำแล้วก็ไม่ชอบและอาจจะไม่มีความสุขกับงานนั้นไปตลอดชีวิตหล่ะ???  ควรหรือเปล่าที่น่าจะลองเชื่อมั่นในตัวลูก ลองให้โอกาสลูกอีกครั้ง ควรมั้ยกับอนาคตทั้งชีวิตของลูกตัวเองที่จะให้ลูกเป็นคนเลือกและพยายามเพื่อให้ได้อยู่กับสิ่งที่รักไปตลอดชีวิต
อยากซิ่วมากเลยอะ คือรู้ตัวเองว่าจะเข้าคณะ... แต่เกิดปัญหาตรงที่พ่อแม่ไม่ให้ซิ่วอะ วิธีของเราคือแอบไปอ่านหนังสือ ทำโจทย์ ในระหว่างนี้แบ่งเวลาอ่านหนังสือเตรียมซิ่ว + มหาลัย ( จะขึ้นปี 2 ละ )
ปล.ใจจริงอยากอ่านหนังสือที่บ้าน แบบหยุดเรียนไปเลย 1 ปี แต่ถ้าทำแบบนี้เราโดนพ่อแม่ด่าแน่เลย
ถ้ามันไม่เวิร์ค ก็วางแผนซิ่ลดีๆ ออกมาเราจะไปไหน ทำอะไร ได้ที่ใหม่แล้วเกิดไม่ชอบมาอีกล่ะ ทำไง
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะ วางแผนให้ดี
คิดเหมือนหลายๆคนนะคะว่า อย่าเพิ่งลาออกดีกว่า
พ่อแม่ไม่ได้ไม่เข้าใจ ... เค้ากลัวคุณจะไม่มีที่เรียนนะคะ
มองเห็นความหวังดีตรงนี้ แล้วทนจนจบปี 1 เถอะค่ะ
เค้าก็ไม่ด้ห้ามไม่ให้ซิ่วซักหน่อย
ทนอีกนิดเดียวนะคะ เราเองก็ต้องทนจนจบปีเหมือนกัน
แถมไม่รู้ซิ่วจะได้รึป่าวด้วย ^^
อยากซิ่วเหมือนกันค่ะ คือเราเรียนจีน แล้วตอนนี้รู้สึกว่ามันไม่ใช่ บอกที่บ้านอยากซิ่ว แล้วที่บ้านก็ไม่เข้าใจ เขาบอกว่าถ้าเราเริ่มใหม่ มันจะไม่ได้ดี เพราะมันล้มไปแล้ว แต่เราว่า การเปลี่ยนแปลงมันก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไปนะ ทุกวันนี้ อยุที่มอเดิม ไม่มีความสุขเลย รู้สึกมีอคติกับทุกอย่าง ไม่อยากเห็นป้ายมหาลัย ไม่อยากเห็นสัญลักษณ์ ไม่อยากเข้าทุกกิจกรรม ไม่อยากจะเดินเหยียบที่นี่อีก ไม่อยากจะเรียนวิชาที่เรียน เห็นตัวหนังสือจีน อยากอ้วก ปวดหัว เครียดทุกวัน
ที่เรายอมเรียนอยุที่นี่ในทุกๆวันนี้ เรารอแค่ว่า ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองพ้นสภาพ ไปเรียนทุกวัน แต่ไม่ค่อยเท่าไหร่ สอบก็งั้นๆ เรียนก็งั้นๆ สงสารที่บ้านเหมือนกันที่ต้องส่งค่าเทอมแพงๆให้ แต่เรากลับไม่ตั้งใจเรียน แต่ทำไงได้ เราไม่มีความสุขเลยที่ทำแบบนี้...ถ้าเผื่อเค้าจะเข้าใจเรามากขึ้นว่าเราต้องการอะไร เค้าอาจจะไม่ต้องมาเสียอะไรมากมายกับเราก็ได้ ตอนนี้เราก็เลยซุ่ม ที่จะ สอบ แกทแพท เพราะคะแนนเดิมก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราเลยตั้งใจจะทำให้ได้ ทำทุกวิถีทางที่จะให้ติด ให้ที่บ้านเข้าใจ ไปบน ไปไหว้พระ ขอให้เราติด ขอให้ที่บ้านเข้าใจ แต่ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกที่บ้านยังไง ถ้าเกิดติดขึ้นมา ไม่รู้ว่าเค้าจะยอมรึเปล่า เพราะเค้าบอกว่ากลัวอาย..กลัวเสียเวลา..ไปเปล่าๆ เราทำแบบนี้ ที่บ้านเราจะเสียใจไหม ..แต่อยากให้เค้ารู้ไว้เหมือนกันว่า เราก็เสียใจเหมือนกันที่ทำเค้าผิดหวัง แต่เราไม่มีความสุขเลย ที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป.. อยากให้เค้าเข้าใจ ในสภาพของเรา..
เราเรียนมนุษย์อิ้ง ตอนนี้อยากซิ่วมากกกกกกก !! ไม่รู้เหมือนกันนะ เราไม่เคยอยู่ในสังคนที่ต่างคนต่างอยู่อ่ะ คือมันอยู่ยากมาก คนที่ได้ก็ได้ คนที่ไม่ได้ ไม่เข้าใจก็ไม่มีใครให้ปรึกษา ตอนนี้เหนื่อยมาก ทั้งเสียดายความรู้วิทย์-คณิตที่เรียนมาแต่ไม่ได้ใช้ เมื่อก่อนเคยคิดนะว่าไม่ได้เรียนพวกวิทย์ พวกคณิตมันคงจะดี แต่พอไม่ได้เรียนก็เหมือนขาดอะไรไป อยากซิ่วเรียนใหม่แต่พ่อแม่ไม่เข้าใจ ลองคุยกับแม่แล้ว ก็เหมือนๆ จะยอมให้เราซิ่ว แต่พอเวลาผ่านไปสักพักก็ไม่อยากให้เราซิ่วเพราะกลัวพ่อจะด่า เราทนมานานแล้วนะ ตอนนี้ไม่รู้จะเรียนยังไงต่อไปแล้ว มันไม่ กระจิต กระใจ ที่จะอยากเรียนต่อแล้ว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?