Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สาระ :: เชื่อไหม!! อุลตร้าแมน...เป็นความคิดของคนไทย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



เชื่อแล้วล่ะ คำที่เค้าพูด ๆ กัน ว่าคนไทย "ถ้าตั้งใจทำอะไร ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก!!"



 
'สมโพธิ แสงเดือนฉาย' ผู้ให้กำเนิด อุลตร้าแมน 

4 เมษายน 2544 กองบรรณาธิการ 

เปิดตำนาน "อุลตร้าแมน" ยอดมนุษย์ผู้ครองหัวใจเด็ก และผู้ใหญ่ วีรบุรุษจากจอภาพยนตร์ญี่ปุ่น ที่ถือกำเนิดจากมันสมอง ของคนไทย "สมโพธิ แสงเดือนฉาย" 

เจ้าพ่อหนังสัตว์ประหลาด ของไทย และเขาคนนี้คือผู้ถือครองลิขสิทธิ์ ตุ๊กตาดังซึ่งขายดิบขายดีไปทั่วโลก ทำเม็ดเงินมหาศาลเข้ากระเป๋า กระทั่งบริษัทญี่ปุ่นดัดหลัง ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 1,750 ล้านบาท ในข้อกล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ความจริงเป็นเรื่อง พิสูจน์ได้ สุดท้ายศาลญี่ปุ่นตัดสินให้คนไทย นักคิดเป็นผู้ชนะหลังหมดค่าทนายไป 80 ล้านบาท และใช้เวลาต่อสู้คดีถึง 5 ปี เจ้าตัวประกาศสร้างพิพิธภัณฑ์ "เมืองยอดมนุษย์อุลตร้าแมน" ขึ้นบนแผ่นดินไทย 

น้อยคนที่จะทราบว่า บุคคลที่เป็นผู้ริเริ่มคิดค้นและสร้างตุ๊กตา อุลตร้าแมน และจัมโบ้เอ ที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของเด็กๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะ เด็กชาวญี่ปุ่น จนกลายเป็นกระแสความคลั่งไคล้ที่มีต่อตัวตุ๊กตา 2 ประเภทนี้ มาโดยตลอดร่วม 30 ปี และความนิยมต่อฮีโร่ตัวนี้ไม่เคยตกยุคตกสมัย จะเป็นคนไทยที่กลายมาเป็นผู้ครอบครองและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตุ๊กตา อุลตร้าแมนที่มีจำหน่ายไปทั่วโลก ยกเว้นลิขสิทธิ์ในประเทศญี่ปุ่นแต่เพียงผู้ เดียว 

"สมโพธิ แสงเดือนฉาย" อดีตผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับหนัง ไทย ผู้สร้างตำนานหนังสัตว์ประหลาด คือเจ้าของตำรับอุลตร้าแมนตัวจริง ชีวิตของสมโพธิพลิกชีวิตจากแค่เด็กวัดธรรมดามาเป็นมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวย กอบ โกยรายได้มหาศาลปีละเป็นพันล้านจากค่าลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนที่วางจำหน่าย ไปทั่วโลก ณ ปัจจุบัน มาเป็นระยะเวลานานเกือบ 30 ปี แต่ใช่ว่าชีวิตของ นายสมโพธิ แสงเดือนฉาย ผู้มั่งคั่งร่ำรวยจากตุ๊กตาอุลตร้าแมนที่เขาคิดค้นขึ้น เองจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เขาต้องยุติบทบาทของ ตนเองกับภารกิจหน้าที่การงานต่างๆ ที่มีอยู่ทุกอย่าง เพื่อวิ่งรอกขึ้นศาลที่ประ เทศญี่ปุ่น ต่อสู้คดีความฟ้องร้องในฐานะจำเลย ซึ่งถูกเรียกร้องค่าเสียหายถึง 1,750 ล้านบาท นกรณีการถือครองลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนทั่วโลก ว่า เป็นการจด ลิขสิทธ์ที่ไม่ถูกต้อง และไม่ใช่ผู้ถือครองลิขสิทธิ์ตัวจริง 

การฟ้องร้องของบริษัทญี่ปุ่นที่ชื่อ บริษัท ซึบูราญ่า โปรดักส์ชั่น จำกัด ในครั้งนั้น ทำให้นายสมโพธิต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการเดินทาง ขึ้นโรงขึ้นศาลที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นว่าเล่น ควบคู่กับการรวบรวมข้อมูลเอกสาร และพยานต่างๆ ไปศาลเพื่อนำสืบพยานในฐานะที่ตกเป็นจำเลย เป็นจำนวน เกือบ 400 คน ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ทุ่มไปสำหรับการต่อสู้คดีเพื่อเอาชนะใน ฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนทั่วโลกที่ถูกต้องแต่เพียงผู้เดียว ยกเว้นแต่ในประ เทศญี่ปุ่นนั้น นายสมโพธิยอมรับว่าเขาต้องเสียค่าใช้จ่ายไปไม่น้อย 

เฉพาะแค่ค่าจ้างทนายความเพื่อสู้ศึกในศาลที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นั้น นายสมโพธิเปิดเผยว่า เขาต้องเสียค่าใช้จ่ายไปมากกว่า ฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้อง เป็นจำนวนเงินมากกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประ มาณ 80 ล้านบาท โดยว่าจ้างทนายความมือหนึ่งร่วม 10 คน จากสหรัฐ อเมริกา อังกฤษ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไทย มาว่าความให้ ซึ่งขณะนี้คดีกำลัง จะแล้วเสร็จ โดยนายสมโพธิเป็นฝ่ายชนะไปได้ในที่สุด และขณะนี้กำลังรอ คำประกาศจากศาลฎีกา 

ขณะเดียวกัน ทางบริษัท ซึบูราญ่า โปรดักส์ชั่น จำกัด ในญี่ปุ่น ก็ยังได้ยื่นฟ้องนายสมโพธิในเมืองไทยด้วย โดยคดีความที่เกิดขึ้น ขณะนี้ถือว่าเป็นคดีทรัพย์สินทางปัญหาและการค้าระหว่างประเทศที่มีการสืบ พยานนานที่สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพราะทั้งสองฝ่ายได้อ้างพยานของ ตนเพื่อสืบพยาน รวมแล้ว 693 อันดับ โดยฝ่ายโจทก์อ้างพยาน 335 อันดับ ขณะที่ฝ่ายจำเลยอ้างพยาน 358 อันดับ 

อีกทั้งเป็นคดีแรกที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่าง ประเทศได้ทำการสืบพยานบุคคลโดยระบบการประชุมทางจอภาพ จากสตูดิโอวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของ กสท. ด้วยการเบิกความผ่านล่ามโดยที่ พยานเบิกความจากห้องส่งของศูนย์โทรคมนาคม บริษัท เคดีดี กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 

และใช้ระยะเวลาการสืบนานติดต่อกันถึง 2 ปีเต็ม โดยบาง ครั้งศาลต้องนั่งพิจารณาคดีตั้งแต่เวลา 09.00-22.30 น.ด้วยซ้ำไป ซึ่งคดีดัง กล่าวได้ข้อสรุปว่า ศาลได้พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งคดีอาญา และแพ่ง ขณะเดียวกัน ในส่วนของการฟ้องแย้งของจำเลยที่เรียกค่าเสียหายจากโจทก์ ถึง 1,750 ล้านบาทนั้น ศาลพิพากษาให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยจำนวน 12 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี 

นายสมโพธิ แสงเดือนฉาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงการเปิดเผยตัว ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญที่เป็นเจ้าของไอเดียผลิตยอดมนุษย์ "อุลตร้าแมน" ทั้งๆ ที่ไม่เคยออกมาเปิดตัวให้ใครๆ ได้รับรู้ความจริงมานาน กว่า 30 ปีว่า หากไม่มีการฟ้องร้องขึ้นมา เขาคงไม่ออกมาพูดถึงการเป็นเจ้า ตำรับอุลตร้าแมนอย่างแน่นอน 

"ถ้าไม่มีคดีการฟ้องร้องอย่างนี้ ผมก็ไม่เปิดเผยตัวแน่ เพราะผมให้เกียรติอาจารย์ของผมเสมอ และการที่ได้ลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนทั่ว โลกแต่เพียงผู้เดียวนั้น มันก็มีที่มาและมีเอกสารการโอนกรรมลิขสิทธิ์โดยลูก ชายของอาจารย์ เอยิ ซึบูราญ่า อย่างถูกต้อง" 




การได้ลิขสิทธิ์ครั้งนั้น สืบเนื่องมาจากที่ลูกชายของอาจารย์เอ ยิที่เขาให้ความนับถือ และเป็นผู้เปิดโอกาสให้เขาได้คิดค้นไอเดียผุดยอด มนุษย์อุลตร้าแมนออกมาก ได้ยื่นเสนอลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนโดยแลกกับเงิน 16.2 ล้านเยน ที่นายสมโพธิให้หยิบยืมเพื่อนำไปสร้างภาพยนตร์เรื่องจัมโบ้เอ หาเงินใช้หนี้ให้กับอาจารย์เอยิที่เสียชีวิตไปแล้วนั่นเอง 

และจากเงินทุน 16.2 ล้านเยน ที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบ เป็นกำร่วม 100 ล้านเยน ให้กับลูกชายของอาจารย์เอยิภายในระยะเวลา 2-3 ปี ได้ทำให้ลูกชายของอาจารย์ปฏิเสธที่จะคืนเงิน และแบ่งส่วนรายได้ต่างๆ ให้แก่นายสมโพธิ แต่เลือกที่จะโอนลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนให้แทน 

"เงินพวกนี้ให้เขายืมไปภายใน 2-3 ปี เอาไปสร้างหนังเพื่อใช้ หนี้ให้กับ บริษัท โตโฮ ที่อาจารย์เป็นหนี้อยู่ ลูกชายอาจารย์บินมาหาผมที่ เมืองไทยเลยนะ บอกว่าจะขายโรงถ่ายเอาเงินไปใช้หนี้ แต่ผมก็บอกว่าอย่า ขายเลย ถ้าไม่มีเงิน ผมพอมี ผมก็ให้เขายืมไปสร้างหนังเรื่องจัมโบ้เอ ให้เขายืมไป 16.2 ล้านเยน หนังประสบความสำเร็จจนสร้างเรื่องที่ 2 ได้ ขายลิขสิทธิ์ให้กับต่างประเทศไปฉายทั่วโลก ได้เงินไปร่วม 100 ล้านเยน เขาก็มาบอกผมว่าเขาขอไม่คืนเงินนะ แต่จะโอนกรรมสิทธิ์ให้แทน ผมก็เลย ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นี้โดยที่ตัวเองก็ไม่เคยอยากได้" 

นายสมโพธิย้อนประวัติถึงที่มาของการเป็นผู้ให้กำเนิด อุลตร้าแมนว่า เป็นไอเดียและจินตนาการที่คิดค้นขึ้นโดยตัวเขา ซึ่งขณะนั้นได้ ไปศึกษาวิชาการทำภาพยนตร์ที่ บริษัท โตโฮ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปี ระหว่างเป็นลูกศิษย์โปรดของอาจารย์เอยิ ซึบูราญ่า 

นายสมโพธิเล่าว่า เขาเป็นคนที่เสนอไอเดียที่จะผลิตยอดมนุษย์ ขึ้นมาเพื่อปราบสัตว์ประหลาด ซึ่งก็คือ "อุลตร้าแมน" สุดยอดมนุษย์ที่เขาคิด ค้นขึ้นมา เป็นจินตนาการจากสมัยที่ตัวเขายังเป็นเด็กวัด ได้สัมผัสและเห็นใบ หน้าพระพุทธรูปที่อมยิ้ม จึงนำรูปแบบมาดัดแปลงสอดใส่ลงในตัวอุลตร้าแม นที่มีหน้าตาสวยงาม ดูมีเสน่ห์ แต่แฝงไว้ซึ่งความแข็งแรงบึกบึน 

"มันเริ่มจากความคิดของผมที่ว่า โตโฮสร้างแต่สัตว์ประหลาด แต่ไม่เคยมีการสร้างยอดมนุษย์มาปราบสัตว์ประหลาดสักตัว ผมเลยเสนอไอเดียนี้กับอาจารย์"


ใครทราบแล้ว หรือใครเคยอ่านแล้ว ต้องขออภัยด้วยนะคะ ^^




ฝากกระทู้นิดนึงน๊า ^^
====คลายเครียด :: เรารักเมืองไทย มิเป็นคนไทย มิรู้ดอก... ====
====สาระ :: ผู้ชายเจ้าชู้ทุกคน!! โปรดระวัง!!! ไม่งั้นจะเจอแบบนี้!!! ====
====สาระ :: 8 เหตุการณ์ ถ้าอยากเห็นผี!! ====
====สาระ :: คนญี่ปุ่นรวมตัวกันบอยคอร์ด!! ต่อต้านเกาหลีฟีเวอร์!!! ====
====สาระ :: เอาเข้าไป!!! เกาหลีเอามวยไทยไปประยุกต์ แล้วแอบอ้างเป็นของตัวเองเฉย!! ====

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 สิงหาคม 2554 / 08:22
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 18 สิงหาคม 2554 / 08:23
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 18 สิงหาคม 2554 / 08:23
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 18 สิงหาคม 2554 / 17:07
แก้ไขครั้งที่ 5 เมื่อ 18 สิงหาคม 2554 / 17:10

PS.  

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

พัมกิ้นเลิฟ 18 ส.ค. 54 เวลา 14:05 น. 1

เออ คุณ คห.2 เค้าก็เขียนไว้หนิว่า ใครทราบแล้ว หรือใครเคยอ่านแล้ว ต้องขออภัยด้วยนะคะ ^^ เค้าไม่ได้ถามหนิว่ารู้แล้วหรือยัง เค้าตั้งกระทู้ไว้เป็นสาระสำหรับคนยังไม่รู้  ไม่แหกตาดูเหรอ หรือจะคอยแต่จะกัดคนอื่น แล้วอีกอย่านะ เราก็พึ่งรู้เนียแหระ 



PS.  -ขอบคุนคร้า-
0
ซ่อนนาม 19 ส.ค. 54 เวลา 23:08 น. 4

เหมือนกับพ่อที่ไปไข่แล้วทิ้ง
พอแม่เลี้ยงลูกจนโตจนมีชื่อเสียง ก็ไปแอบอ้างว่าเป็นลูกเพื่อจะขอส่วนแบ่งในทรัพย์สินที่เขาได้มา


---------------------------------

ตีความตุลากวน-บุญชิต ฟักมี : คุณรู้ไหม พ่อผมเป็นใคร
 
โดย บุญชิต ฟักมี 23 พฤศจิกายน 2544 10:35 น.
 
 
       คุณรู้ไหมพ่อผมเป็นใคร...
        เปล่าเลย ผมไม่ใช่ลูกชายนักการเมืองชื่อเหม็น
        ไม่ใช่บุตรโสเภณีผู้สำส่อน จนไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อผม
        จริงอยู่ ผมเกิดในครอบครัวใหญ่โต ของผู้ทรงอิทธิพล
        บ้านผมใหญ่กันทั้งบ้าน
        ใหญ่ชนิดที่ว่า แน่ๆ ใหญ่ๆ ในบ้านนี้เมืองนี้ อย่างสามใบถ่อย มาเทียบไซส์กับผมคงได้แค่ๆ หัวแม่ตีนผม เท่านั้นเอง
        ถึงผมมีอิทธิพล มีพละกำลังมหาศาล กระทืบเท้าทีนึง แผ่นดินก็สะเทือนไปทั่ว แต่ผมและครอบครัวก็ใช้ไปในทางที่เป็นธรรม
        ใครมีเรื่องเดือดร้อนก็เรียกหาแต่ผม
        แต่ก็นั่นแหละ การใช้อำนาจหรือพละกำลัง มันก็ต้องมีความสูญเสียกันบ้าง
        แต่ความสูญเสียนั้นก็นับว่าคุ้มกับความสงบเรียบร้อยที่ได้กลับมามิใช่หรือ
        ครอบครัวผมเป็นครอบครัวใหญ่อย่างที่บอกไปแล้ว ผมมีพี่น้องมากมาย
        (ไม่ใช่แค่สามคนแบบแถวนี้หรอกน่า)
        พ่อแม่พี่น้องของผมต่างสืบทอดภารกิจต่อสังคม ต่อประเทศชาติ ต่อโลกนี้มานับรุ่นต่อรุ่น เอ่ยชื่อไปทุกคนก็ต้องรู้จัก
        แต่วันหนึ่ง ก็เปรียบประดุจสายฟ้าที่ผ่าโครมลงมา กลางกบาลหัว เมื่อผมได้ทราบว่า คนที่ผมคิดว่าให้กำเนิด ผม ไม่ใช่พ่อของผม !!!!
        ผมได้รับการเปิดเผยความจริงที่ขมขื่น
        หลังจากวันเวลาผ่านไปนานนับสิบปี...
        ว่าพ่อของผมอยู่แดนไกล ในดินแดนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน
        พ่อที่ให้กำเนิดผมมา เป็นเพียงคนที่ดูแล เลี้ยงดูผมและครอบครัวจนโตขึ้นมา และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั้งเมืองเท่านั้นเอง
        แต่ผู้ที่ให้กำเนิดของผม หลังจากที่มา ปล่อยเชื้อ
       ให้กำเนิดผมและพี่ๆ น้องๆ แล้ว เขาก็จากไปอย่างไร้ร่องรอย ปล่อยให้ผมและพี่น้องร่วมชะตากรรม เติบโตอยู่กับพ่อบุญธรรมที่ประเทศนี้จนเป็นหนุ่ม จนกระทั่งพวกเรากลายเป็นวีรบุรุษของคนที่นี่ เด็กๆ ทุกคนจะกล่าวขวัญถึงผม ผู้ใหญ่ทุกคนก็จะรู้จักผม ภาพของผม และครอบครัวติดอยู่แทบทุกหัวระแหงที่ไฟฟ้าไปถึง ตลอดไปจนทั่วโลก
        หากวันหนึ่ง ก็มีคนมาอ้างตัวว่าเป็นพ่อผม...
        เพราะเขาจำปานแดงหัวใจที่แก้มก้นของผมได้ และเมื่อดูที่ก้นของพี่น้องทุกคน ก็ปรากฏรูปปานแดงเดียวกันหมด เป็นข้อพิสูจน์ว่า เขาเป็นพ่อผม
        เมื่อผมถามคนที่เลี้ยงดูผมมาจนโต คนที่ผมเคยเข้าใจ ว่าเขาเป็นพ่อผมมาตลอด เขาก็ยอมรับด้วยน้ำตาว่า มันเป็นเรื่องจริง ผมไม่ใช่ลูกเขา
        ผมไม่ใช่คนที่นี่
        จริงๆ แล้วพวกผมเป็นคนไทย !!!
        เรื่องนี้เกิดขึ้นในสมัยที่พ่อที่แท้จริงของผมมาเรียน หนังสือที่เมืองนี้ และได้รู้จักกับแม่ผม จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เสียกันตามประสาภาพยนตร์น้ำนิ่ง จนกระทั่งเกิดผมและพี่ๆ น้องๆ ขึ้นมา พ่อที่แท้จริงของผมก็มีอันต้องกลับบ้านกลับเมืองไปตั้งแต่พวกผมยังแบเบาะ เหลือเพียง สัญญาว่า อีกยี่สิบปีจะกลับมารับพวกผมไปเลี้ยง
        ยี่สิบปีผ่านไป วันนั้นมาถึงแล้ว พ่อที่แท้จริงของผม พาผมกลับมาเมืองไทย และแนะนำให้ผมรู้จักกับน้องชาย ร่วมสายเลือดที่เกิดที่ประเทศไทย ให้ตายเถอะ แม้เขาจะมีเค้าหน้าเหมือนกันกับผมและพี่ๆ น้องๆ แต่ผมก็ไม่ค่อยสนิทกับเขา อย่างน้อยสีหน้าสีตาของเขาก็แตกต่างจากพวกเรา และพูดกันคนละภาษา รูปร่างก็ดูเห่ยๆ ไม่เท่เลย ที่สำคัญยังชื่อเชยบรม คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ชื่อ
        "มิลเลเนียม"
        ผมต้องปรับตัวอีกนานกว่าจะคุ้นชินกับบ้านนี้ กระทั่งชื่อของพ่อ ผมยังเรียกไม่คล่อง เพราะมันไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ผม
        ทีนี้คุณรู้ไหม ว่าพ่อผมเป็นใคร และผมควรเป็นลูกใคร ระหว่างคนที่ปล่อยเชื้อทิ้งไว้ แล้วไม่ดูไม่แล พอผมโตแล้วค่อยเก็บมาเลี้ยง หรือคนที่เลี้ยงดูผมมาจนเติบโต มีชื่อมีเสียง
        คุณรู้ไหมครับผมลูกใคร
        ผมสับสนแล้ว...
       
        ลงชื่อ
        อุลตร้าแมนทาโร่
 


PS.  อบอุ่นและมีความฝันความหวังไหม / 人◕‿‿◕人 \
0