การเงินกับการตลาด

[ทัศชานนท์]

การตลาด-การเงิน อันไหนดีกว่ากัน..?

แล้วดีการยังไง


ถ้าระหว่างสองอันนี้ จบมา เกรดเท่ากัน..ทำงานที่เดียวกัน แล้วอันไหนจะมีโอกาศได้ทำงานดีกว่ากัน.....
ทั้งเรื่อง-เงินเดือน
-ความยาก-ง่าย
-ความกดดัน
-และความก้าวหน้าในอนาคต..

(ยกตัวอย่างมาหลายๆอันก็ได้ครับ)


......ขอบคุณร่วงหน้าจากใจจริง.....

Comments

[สงสัยอารัยให้ถาม M_-P]

คหสต.น่ะคิดว่าขึ้นอยู่กับความชอบของคนเรามากกว่าค่ะ 
ถ้าเปรียบเทียบเรื่องความยากง่าย ก็ขึ้นอยู่กับมีความถนัดแบบไหน
การเงินจะเน้นเรื่องการคำนวณ (ตัวเลขเยอะมาก) หรืออะไรที่มีความเป็นแบบแผน การวิเคราะห์ก็จะเป็นไปในรูปแบบแนวทางเดิม มีความใกล้เคียงกับการบัญชีพอสมควร 
ส่วนการตลาด จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย เน้นเกี่ยวกับการวิเคราะห์วางแผนในธุรกิจ ต้องเป็นคนมองการณ์ไกล มีความคิดสร้างสรรค์ ครีเอทงานใหม่ๆได้ตลอดเวลา ต้องมีความทันสมัย สนใจใฝ่รู้ความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ เน้นการปฎิบัติที่ดีมากกว่าการมีทฤษฎีที่ดีแต่นำมาปฎิบัติไม่ได้ ตอนนี้เรียนการตลาดอยู่สิ่งที่เหมือนเกือบเป็นความจำเป็น เลยคือความคิดสร้างสรรค์+การพรีเซนต์ที่ดี
การเงิน มีความกดดันเพราะต้องใช้ความระเอียดรอบคอบ
(ทำงานกับเงินอาทิเช่นพนักงานธนาคาร มีความกดดันสูงต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ..เงินเดือนดูน้อยไปด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับงานที่ได้รับ คหสต.)
การตลาดความกดดันคงเป็นการที่ต้องรับผิดชอบรายได้ทั้งหมดของบริษัท การทำกำไรให้แก่บริษัท
การต้องพบกับลูกค้าหลากหลายประเภท
ด้านความก้าวหน้า ระหว่างสองอันนี้ จบมา เกรดเท่ากัน..ทำงานที่เดียวกัน แล้วอันไหนจะมีโอกาสได้ทำงานดีกว่ากัน คงตอบไม่ถูกเหมือนกัน แต่โดยส่วนตัวคิดว่าการตลาดถ้าเป็นคนที่มีความสามารถก็มีโอกาสที่จะได้รับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น มีความก้าวหน้ามากขึ้น (เพราะโอกาสทำผลงานจะมีมากกว่า)

ยาวไปไหมเนี่ย...



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 สิงหาคม 2554 / 22:06

---

PS.  "เราไม่ได้เจ็บปวดเพราะความรักสิ้นสุดลง ... แต่เราเจ็บปวดเพราะความรักยังคงดำเนินต่อไป"

[MizakiSR]

ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิดถึงเรี่องของการทำงานเลยดีกว่าค่ะ
เพราะมันก็ไม่เสมอไปที่เราจำได้ทำงานในสาขาที่เราเรียนจบมา

หรือบางที เราเรียนๆไปอาจจะมารู้สึกว่า "เห้ย ไม่ได้ชอบแบบนี้เลยอ่ะ" ก็ได้นะ
แต่ระหว่าง การเงิน กับการตลาด นี่ก็ค่อนข้างจะต่างกันไม่น้อยนะคะ
สำหรับคนที่ ชอบงานซ้ำๆ ไม่ต้องพบปะผู้คนมาก ไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เท่าไหร่
แค่ทำงานตามที่ได้รับมา  เป็นงานเกี่ยวกับตัวเลขซะเยอะเลย  การเงินก็จะเหมาะกว่าค่ะ

ส่วนการตลาด ก็จะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบพบปะผู้คน ชอบค้นหาอะไรใหม่ๆ
แล้วก็ต้องคอยติดตามข่าวสารด้วยนะ ถึงจะดีค่ะ :)

ปล. การเงินนี่ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่อ่ะ  แต่เรียนการตลาดอยู่ค่ะ

---

PS.  รับปรึกษาปัญหาทุกเรื่องค่ะ~ ลองเข้ามาร่วมกรุ๊ปกันก่อนนะ :) http://dek-dgroup.com/let-it-go/

[_เพื่อนแต่งฟิค_]

การเงิน ถ้าชอบ ก็เรียนค่ะ แต่ตัวเลขมันเยอะ ปวดหัว = =
การตลาด ตรงกับคห.ด้านบนค่ะ ต้องครีเอทตลอดเว อัพเดทตลอด ตอนนี้เรียนการตลาดอยู่เหมือนกัน เรียนเพราะชอบค่ะ ถามว่าความกดดันมีไหม มีค่ะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งสิ้น
ไงก็คิดดีดีนะคะ เพราะเลือกผิดไปล่ะ เสียเวลาแน่ๆ ค้นหาสิ่งที่ชอบและเป็นตัวเราจริงๆจะดีกว่าค่ะ :)

[numya]

 เรียนการเงินอยู่คะ
ก็เหมือนที่ข้างบนบอกอะคะ ว่าตัวเลขเยอะ ใกล้เคียงกับบัญชีแต่ความรู้ทางคณิต ใช้ขั้นสูงกว่าบัญชีคะ แฮ่ๆ บัญชีมันไม่มีไรมากก็แค่ เดบิต เครดิต ทำงบใหดุล แต่มันละเอียดมากกกกกกก เลขที่ใช้ขั้นสูงสุดเท่าที่เคยเห็นกับพบเจอกับตัวเอง ก้แค่ บวก ลบ คูน หาร ขั้นต้น แต่ต้องละเอียดแค่นั้น!!
ส่วนการเงินจะเป็นเลขแบบพิศดารกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับพวกที่เรียนmath
การเงินนี่เรียนเกี่ยวกับพวกเงิน โครงสร้าง การลงทุน พวกหุ้น ลงทุนยังไง เอาง่ายๆ ทำอย่างไรกับเงินที่มีอยู่ให้เพิ่มมากขึ้น เรียกว่าเรียนกับเงินๆทองๆ ว่างั้นเหอะ ถามว่าหนักไหม ก็เอาเรื่องอยู่ แต่สำหรับคนที่ชอบ มันเป็นอะไรที่สนุกมากคะ ประมาณทั้งโหดทั้งมัน
ส่วนการตลาดก็ เน้นพวกที่ชอบคิด คิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มยอดขายจะใช้กลยุทธ์ไหน วิธรีใด ต้องเป็นคนที่ ไอเดียกระฉูดตลอดเวลา คิดนู่นนี่นั่น  ซึ่งต่างกับพวกเรียนการเงินมาก


ส่วนเรื่องเงินเดือนอะไรได้เงินเดือนมากกว่ากัน การตลาดขึ้นอยู่กับความสามารถคะ คือน้าเป็นผู้จัดการการตลาดแล้วเคยถามเค้าว่าเวลาสัมภาษณ์งานดูยังไง เค้าบอกว่าเกรดมันไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เค้าสนเรื่องทรรศนคติมากกว่าเพราะการตลาดต้องทำงานเป็นทีมถ้าคุณเก่งแต่ไม่สามารถไปกับทีมได้ก็เท่านั้น เงินเดือนนี่ถ้าเก่งจริงก็จะสูงมากกก แต่ถ้าไม่ก็ต่ำมากเหมือนกันเรียกว่าrangeค่อนข้างกว่า แต่ถ้าการเงินมันจะกองอยู่ที่หมื่นกลางๆถึงสองหมื่น สำหรับเด็กจบใหม่อะนะ
(อันนี้อ้างอิงจากที่เคยไปสำรวจพี่บัณฑิตของมหาลัย) แต่การเงินเนี่ยถ้าเมื่อไหร่ที่ได้cfa มันก็ก้าวกระโดดเลยเหมือนพวกบัญชีที่ได้cpaอะ ส่วนการตลาดขึ้นอยู่กับความสามารถ คนยิ่งเก่งก็จะถูกแย่งตัว ค่าตัวยิ่งสูง