ฟื้น"แป๊ะเจี๊ยะ"สูตรเดียว"หวยบนดิน"
ตั้งกระทู้ใหม่
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีแนวคิดจะเปิดช่องให้ผู้ปกครองรวยสามารถจ่ายแป๊ะเจี๊ยะเพื่อให้บุตรหลานสามารถเข้าโรงเรียนดังว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังเป็นแค่แนวคิด ซึ่งอาจจะไปปรับใช้ให้ทันปีการศึกษา 2555 หรือไม่นั้น เบื้องต้นก็ต้องหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อทำเป็นหลักเกณฑ์ก่อนว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ อาทิ หากบริจาคเงินมาเพื่อให้ รร.สร้างเป็นอาคารเรียนก็จะไม่เอา แต่หากบริจาคมาเป็นอุปกรณ์เพื่อการศึกษาเราก็จะเปิดโอกาสให้ และการบริจาคนั้นจะผูกพันกับการได้ที่นั่งเรียนด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ตนก็ขอยืนยันว่าแนวคิดดังกล่าวไม่ใช้การรับแป๊ะเจี๊ยะ เพราะหาก รร.ใดต้องการจะเปิดรับการบริจาคแล้ว รร.นั้นก็ต้องแจ้งมาที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
"แนวคิดดังกล่าวถือเป็นการเอาสิ่งที่เคยทำแบบหลบๆ ซ่อนๆ ใต้ดินขึ้นมาบนดิน ซึ่งเราเองคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ยังคงมีการฝากเด็กอยู่ ดังนั้น ผมจึงคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะเอาสิ่งที่ผิดเหล่านี้ขึ้นมาบนดินให้ได้ จะไม่ใช่แค่เข้ากระเป๋า ผอ.อย่างเดียว แต่จะเป็นการเอาทรัพยากรดังกล่าวไปพัฒนา รร.ต่อไป ดังนั้น หากผมได้เปิดโอกาสขนาดนี้แล้วยังมี ผอ.คนใดรับแป๊ะเจี๊ยะเองอีกจะถือว่าทุจริตอย่างแน่นอน" นายวรวัจน์กล่าว และว่า แนวคิดดังกล่าวจะทำให้ รร.สามารถนำเงินมาเปิดห้องเรียนเพิ่มได้ เพื่อรองรับนักเรียนที่เหลือ นอกจากนี้ในเรื่องของงบอุดหนุนก็จะพิจารณาไม่ให้เด็กใน รร.ดัง เพราะผู้ปกครองมีฐานะอยู่แล้ว ดังนั้น งบดังกล่าวก็จะไปให้ รร.ที่ขาดแคลนแทน
ขณะที่นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า นโยบายของนายวรวัจน์สอดคล้องแนวคิด รร.พรีเมียมสคูล หรือโครงการ รร.ศักยภาพสูงที่ สพฐ.กำลังดำเนินการอยู่ คือ รร.ที่เข้าโครงการนี้จะสามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครองในเพดานที่สูงกว่า รร.ปกติ แต่ไม่ใช่ปล่อยให้ รร.เรียกเก็บเงินเท่าใดก็ได้ เบื้องต้นในวันที่ 14 ก.ย.นี้ สพฐ.จะเสนอโครงการดังกล่าวเพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุม กพฐ. "ในระยะแรกของการดำเนินโครงการ รร.พรีเมียม จะต้องเพิ่มส่วนห้องเรียนพิเศษต่างๆ ก่อน ในปลายทาง รร.พรีเมียมสคูลจะเป็น รร.ที่มีห้องเรียนพิเศษทั้งหมด เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนที่ต้องการที่เรียนคุณภาพสูง และจะต้องออกเป็นมาตรการระยะยาว ต้องมีการปรับแก้กฎหมาย ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานทั้งด้านบุคลากร งบประมาณ และปรับรูปแบบการรับนักเรียนตามด้วย" นายชินภัทรกล่าว
ด้านนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของนายวรวัจน์ ต้องถามกลับไปว่า ศธ.สามารถปิดกั้นเรื่องแป๊ะเจี๊ยะได้จริงหรือไม่ ถ้าปิดกั้นไม่ได้ก็ต้องคิดนอกกรอบ เพื่อที่จะพัฒนา รร.ที่อยู่รอบนอกให้มีคุณภาพมากขึ้น และให้นักเรียนทุกคนมีสิทธิได้เรียนอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องเงินกินเปล่าหรือแป๊ะเจี๊ยะเคยสร้างปัญหาด้านต่างๆ ส่งผลกระทบต่อการศึกษาอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องโอกาสและความเท่าเทียมด้านการศึกษา ซึ่งจะยิ่งขยายช่องว่างโอกาสในการได้เข้าเรียนใน รร.ที่มีชื่อเสียงของคนรวยกับคนจน และกระทบไปถึงมาตรฐานของรร.แต่ละแห่งซึ่งไม่เท่ากัน เป็นเรื่องที่แก้ได้ยากและต้องใช้เวลาจัดการอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากยังยืนยันแนวคิดดังกล่าวปัญหาก็จะย้อนกลับไปสู่วังวนเดิมๆ
"น่าแปลกใจอย่างยิ่งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงด้วยการพยายามลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน แต่กลับมีนโยบายที่หลุดมาจากปาก รมว.ศธ.ที่ขัดแย้งกับนโยบายของพรรค จึงน่าสงสัยว่านายกฯ ทราบเรื่องนี้หรือไม่" ส.ส.พรรค ปชป.กล่าว
นายอำนวย สุนทรโชติ ประธานชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะแป๊ะเจี๊ยะเป็นเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ ไม่ใช่เห็นว่าแก้ไม่ได้แล้วต้องทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่ถูกต้องด้วยการนำมาวางบนโต๊ะเหมือนการนำหวยใต้ดินมาอยู่บนดิน ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขกฎระเบียบให้เอื้อกับประเด็นดังกล่าวจริงก็พร้อมที่จะนำเรื่องฟ้องศาลปกครอง
"เรื่องนี้เราเดินมาถูกทางแล้ว ปีที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนนี้น้อยลง จึงขอท้าให้รัฐมนตรีแก้กฎใดๆ ก็ตามที่เอื้อให้เกิดการจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะ เราจะสู้ไปถึงศาลปกครองแน่นอน เพราะเป็นการแบ่งแยกกีดกันคน โดยการใช้ฐานะทางเศรษฐกิจ" นายอำนวยกล่าว.
http://www.thaipost.net/news/130911/44910
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 กันยายน 2554 / 13:36
จูกัดเหลียง
13 ก.ย. 54 เวลา 13:42 น.
938
views
6 ความคิดเห็น
นโยบายนี้ไม่ได้เอาใจรากหญ้านะครับ เพราะยังไงเสียถ้าไม่ค่อยมีตังค์กันซักเท่าใหร่เราก็เรียนกันตามมีตามเกิดกันอยู่แล้ว แต่นโยบายนี้เอาใจคนกระเป๋าหนักโดยเฉพาะ สำหรับพ่อแม่ที่ชอบเสียเงินยัดลูกเข้าโรงเรียนดังๆ นโยบายนี้ตอบสนองคนรวยเท่านั้น แต่ไม่ตอบสนองคนรากหญ้า
"แป๊ะเจี๊ยะ" โรงเรียนดังๆ ก็เก็บกันแต่ก็อย่างว่า เก็บกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตอนนี้ลูกคนรวยไม่ต้องบอกพ่อแม่ให้หลบๆ ซ่อนๆ จ่ายแล้วนะครับ เพราะต่อไปนี้ เก็บแป๊ะเจี๊ยะกันอย่างเสรี
เรามักพูดเสมอว่าการศึกษาเราต้องได้เท่าเทียมกัน แต่ถ้ายังมีการปล่อยช่องว่างให้จ่ายกันอย่างนี้แล้ว วุฒิการศึกษาก็มีเอาไว้แค่อวดความเก่งเท่านั้น ถามว่าอยากเข้าโรงเรียนดังๆ ทำอย่างไง
คำตอบ "จ่ายมาสิครับ" รับรองอนาคตสดไส ไปสมัครงานที่ใหนใครเห็นเป็นโรงเรียนดังมันก็มีเครดิต แต่ใครจะไปรู้ว่า กว่าจะเข้าใด้เนี่ย "จ่ายไปเท่าไรแล้ว"
ผมมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ดี....เขาบอกว่าหากเจอศัตรู มีอยู่สองทาง คือทำให้มันหายไป หรือไม่ก็ไปเป็นพวกเดียวกับมันเสียเลย
แน่นอน เราๆก็รู้กันอยู่ว่าใต้โต๊ะ เส้นสาย แป๊ะเจี๊ยะน่ะมันไม่ดี....
ถึงแม้การถอนรากมันออกมันจะนาน แต่ถ้าทำได้มันก็คุ้ม....เทียบกับการเป็นพวกเดียวกับมันโดยการยกระดับมันแล้ว ผมว่ามันมีแต่จะแย่ลงกว่าเดิมนะ
สุดท้าย พ่อผมสอนว่าอย่าเป็นหนี้บุญคุณใครถ้าไม่จำเป็น ถึงคุณจะจ่ายตังให้เขา แต่อย่าลืม นี้ไม่ใช่การค้าขายธรรมดาที่เงินมาของไปนะ มันมีเรื่องของบุญคุณเล็กๆน้อยๆบ้างก็มี
หากนโยบายนี้ มีการนำไปปฏิบัติจริง คงไม่ต้องสาธยาย ว่าระบบการศึกษาของไทย จะถอยหลังลงคลองแน่ๆ
ต่อไปโรงเรียนดังๆ คงเต็มไปด้วยเด็กที่มาจากระบบฝากเข้า เส้นสาย ใช้เงิน โดยไม่คำนึงถึงความสามารถในการสอบเข้า ส่วนเด็กเรียนดี แต่ไม่มีทุนทรัพย์ คงได้แต่นั่งเรียนตามโรงเรียนวัด โรงเรียนเทศบาล
รู้สึกว่า เรื่องการทำดำให้เป็นขาว ทำผิดให้เป็นถูก จะเป็นงานถนัดของรัฐบาลชุดนี้จังเลยนะครับ และดูเหมือนนโยบายนี้ จะเป็นการ บ่อนทำลายชาติ จากภายใน ยังไงชอบกล..
PS. ทั้งชีวิตไม่คิดเป็นวีรบุรุษ แต่ก็สุดจะเห็นชาติพินาศสลาย..
เด็กมีตังค์เก่งไม่เก่งก็ช่างก็ได้เข้าเรียนโรงเรียนดีๆ
เด็กเก่งๆแต่ไม่มีตังค์ก็เรียนตามมีตามเกิด
นี่แหละการศึกษาของไทย
สุดท้ายจะเข้าทำงานหรือที่ไหนๆก็มีแต่แป๊ะเจี๊ะบนดิน
เอื้อให้คนมีเงินมีเส้นสายเท่านั้นถึงจะมีโอกาส
เอาจริงๆมันจะมีปัญหาปะ
แบบรร.ดังๆ หลายที่ ก็รับเด็กเส้นอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เงียบๆก็ไม่มีคนรู้ว่าใครเป็นเด็กเส้นบ้าง เกิดรู้ขึ้นมาก็โดนรังเกียจนะ
ยกเว้นพวกเอกชนดังๆที่จ่ายทุกคนอยู่แล้วก็คงไม่เป็นไร
PS. ภูเขาเอนกล้ำ มากมี บ่มิหนักธรณี หน่อยไซร้ หนักนักแต่กระลี ลวงโลก อันจักทรงทานได้ แต่พื้นนรกานต์ฯ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?