ดร.วรภัทร ภู่เจริญ จากนาซ่าสู่ป่าช้าเมืองไทย
ตั้งกระทู้ใหม่
ดร.วรภัทร ภู่เจริญ จากนาซ่าสู่ป่าช้าเมืองไทย ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
เครดิต รายการเจาะใจ
4 ความคิดเห็น
ยังไม่ได้ดู
แต่อยากบอกก่อนว่าน่าสนใจมาก
แต่จะดีกว่านี้ถ้าจขกท.จะสรุปให้ฟัง
แบบว่ามันเยอะอ่ะ ไหนๆก็ตั้งกระทู้แล้ว
ก็น่าจะเขียนสรุปให้ฟังนิดนึง จะดีมากเลยจ้ะ
PS. there is nothing good or bad but thinking make it so
คือว่าเราดูแล้วค่อยมาเขียนอาจจะงงๆหรือไม่ตรงบางจุดที่ละเอียดเกินไปนะ
แต่เราอยากให้ทุกคนได้ดูนะเพราะ ดร.เป็นคนที่น่าชื่นชม แถมอารมณ์ดี
เราคิดว่าความคิดนี้หนะเป็นความคิดที่คนไทยหลายๆคนอยากคิดแต่แค่คิดไม่เอาออกมาทำ
อยากให้พวกผู้บริหารประเทศมาดูด้วยเพราะ ดร.แกพูดเกี่ยวกับระบบประเทศไทยตรงมากกกก
ประมาณว่า ดร.หนิบ้านเคยรวยแต่้ล้มละลายแบบไม่มีเงิมไม่มีงานเลย
เลยได้อพยพมาอยู่กรุงเทพ แล้วบังเอิญไปเจอบาทหลวงบาทหลวงถามว่า
แยากให้ล๔กเรียนหนังสือไหม ถ้าอยากต้องให้ลูกเปลี่ยนศาสนาเป็นคริส
แล้วก็ได้เรียนหนังสือในโรงเรียนอะไรนี้แหละลืมแต่ก็มีแต่ลูกไฮโซเพราะมันเป็นโรงเรียนคริสไง
ก็ประมาณว่าเวลาในห้องโดนขโมยของก็จะมองว่า ดร.นี้แหละที่ขโมย
ดร.ก็เลยคิดว่าอะไรง่ะมันก็ไม่ถูกนะ  แล้วตอนเด็กๆ ดร. มีความคิดอะไรที่แปลกๆ
เช่น นางวันทองหนิไม่ได้เจ้าชู้นะ ไอ่พวกพระอภัยมณีหนิมันเจ้าชู้ว่ะเหมือนราชการไทยเจ้าชู้เมาเหล้าเมียเยอะเก่งก็งั้นๆ อาศัยแค่บารมี ประเทศไทยระบบจัดการไม่ดีเลย  เหตุการณ์ทางการเมืองมันก็แค่ตาแก่สองคนที่ทะเลาะกันแต่ดันเองใครไม่รู้มาสู้แทนตัวเองหละไม่เคยออกมาสู้กันเอง
ทำไมเราต้องตัดผมสั้นมันเกี่ยวรัยกับการเรียนฟ่ะ
ดร. เห็นว่าทำไมคนเราต้องยึดติดกับว่าเกิดที่นี้แล้วต้องตายที่นี้ ทำไมเราต้องอยู่ที่เดิมแล้ว ดร.ก็ได้ดูหนังแล้วก็ได้แรงบันดาลใจจากปู่ที่ว่าเป็นคนจีนแล้วอพยพมาไทย ดร.เลยว่าในเมื่อปู่เป็นคนจีนแล้วยังมาไทยไม่ได้อยู่ที่จีน งั้นเราก็ไม่ต้องอยู่ที่ไทยก็ได้งั้นเราต้องไปอเมริกา ดร.เลยขอพ่อแม่ว่าชาตินี้จะไม่ขออะไรขอแค่เงินในตอนนี้เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตที่อเมริกา
แล้วก็ได้ไปอเมริกาได้เรียนวิศวะโลหะ(ตอนอยู่ไทยเรียนเคมีจุฬา) แบบว่าเปลี่ยนสายไปเลยแล้วพอดีนาซาต้องการคนที่รู้ทุกเรื่องอ่อคือชีวะก็ได้(เรียนวิทเคมีมันต้องรู้ชีวะบ้างเคมีบ้าง) เคมีก็ได้ วิศวะก็ได้ ดร.ก็เลยได้ไปทำงานที่นาซาโดยได้เรียนป.เอกด้านพลาสติก(อะไรประมาณนนี้) แล้วพอทำงานไปในนาซาต้องการทำโครงการไปสุดขอบโลก ดร.ก็เห็นว่ามันจะไปกันทำไมฟ่ะ ไม่อยากทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้อยากรู้ใจตัวเองมากกว่า แล้วแบบว่าถ้าอยู่อเมริกาต่อไปจะตอบคำถามชีวิตไม่ได้เลยกลับมาไทย มาสอนวิศวะจุฬาแล้วบังเอิญหลังหักเลยได้อยู่เฉยๆแล้วไม่มีอะไรทำเลยได้อ่านหนังสือธรรมะ แล้วก็ไปบวชจนรู้่ว่าสุขที่แท้จริงคืออะไร
ขอเล่าตอนสอนที่จุฬาหน่อยนะแบบว่าฮาอ่ะ คือ ดร.แกสอนไม่เหมือนใครคือในต่างประเทศเขาจะพาไปสนามหญ้าเด็ดใบไม้มาแล้วถามว่าใช้เเรงเด็ดเท่าไหร่  ผิดกับประเทศไทยที่นั้งสอนอยู่แต่ในห้องไม่ได้คิดอะไรสักอย่าง เด็กไทยเหมือนลูกนกอีแ้ร้งคือกินแต่ของตายแล้วไม่มีประโยชน์ ไม่กินของที่สดๆ แล้ว ดร.เห็นว่าเด็กไทยหนิมันอ่านหนังสือสามวันสอบมันไม่เรียนกันงั้นพวกแกก็ไปเอาชีทรุ่นพี่มาอ่านแล้วกัน ในห้องก็จะเล่าเรื่องชีวิตต่างๆ แล้วบอกในต้นคาบว่าสอบมิทเทอมหนิจะให้ออกข้อสอบเองแต่ต้องออกให้ดูดีมีีสมองนะ สุดท้ายก็0ทั้งห้องเพราะบางคนมันก็ไปลอกข้อสอบหนังสือมาเลย นักเรียนเลยมาฟ้อง ข้อสอบครั้งหน้าก็บอกนักเรียนตั้งแต่คาบแรกว่าจะถามว่าทำไมปั้นจั่นถึงไปอยู่บนยอดตึกได้ เด็กก็ไม่คิดว่า ดร.จะถามจริงๆเลยไม่ใส่ใจแต่ ดร.ออกแบบนั้นจริงๆเลยไม่มีใครตอบได้สักคน
ที่เล่าอันนี้ขึ้นมาเพราะต้องการให้เด็กๆทุกคนรู้จักคิดกันหน่อยเวลาเรียนไม่ใช่เอาแต่จำๆๆๆๆๆไม่คิดไม่สนใจสิ่งที่ครูบอกทำตัวเป็นลูกนกอีแร้งกินแต่ของตายมานานไม่สร้างสิ่งใหม่ๆสักที
เอาเป็นว่าดูกันเองดีกว่านะแล้วคิดตามจะรู้ว่าที่ดร.พูดมาหนะมันจริง
เราชอบนะ ต้องดูเองถึงจะเยอะแต่เราจะมองอะไรที่แตกต่างจากการที่เราโดนตีกรอบไว้มากเลย
ชอบค่ะ ^^ เนี้ยแหละหลักของศาสนาพุทธ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?