>>++10 อันดับ ผลไม้กินแล้วอ้วน++<<
ตั้งกระทู้ใหม่
อันดับ 1 กล้วยไข่
อันดับ 2 คือ กล้วยน้ำว้า
อันดับ 3 คือ ขนุน
อันดับ 4 คือ กล้วยหอม
อันดับ 5 คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
อันดับ 6 คือ ลำไยกะโหลกเขียว
อันดับ 7 คือ ลองกอง
อันดับ 8 คือ เงาะ
อันดับ 9 คือ ลางสาด
อันดับ 10 คือ ละมุด
ที่มา โพสท์จังดอทคอม,Teenee.com,Sanook.com
(ที่มา จากการวิจัยของกองโภชนาการ)
เป็นที่ทราบกันว่าถ้าเราไม่อยากอ้วน ก็ไม่ควรกินอาหารที่มีรสหวานมากเกินไป เลยหันไปหาผักและผลไม้แทน โดยอ้างกันไปเรื่อยว่า ผักและผลไม้ ไม่ทำให้อ้วน กินเข้าไปเถอะ ไม่อ้วนหรอก แต่คุณรู้ไหมว่าผักและผลไม้ก็ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน ถ้ากินมากเกินไปหรือกินแต่ผักและผลไม้ที่มีรสหวานมากๆ หวานจัดๆ รับรอง นอกจากจะอ้วนแล้ว น้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งปรี๊ดแน่ๆ ถ้าไม่ระวัง นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง ผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลเกินกว่า 20%
ปริมาณน้ำตาลในผลไม้ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
กล้วยตาก 64.1%
ทุเรียน 34.7%
กล้วยไข่ 34.1%
กล้วยหอม 31.4%
กล้วยหักมุก 26.3%
กล้วยน้ำว้า 26.1%
ขนุน 23.7%
ละมุด 21.9%
น้อยหน่า 20.0%
มะม่วงอกร่อง 17.7%
เงาะ 16.5%
ลิ้นจี่ 16.3%
มะม่วงสุก 15.9%
ลำไย 15.6%
แอปเปิ้ล 15.2%
มะม่วงดิบ 15.0%
มะปราง 15.0%
มังคุด 14.7%
ลางสาด 14.0%
พุทรา 14.0%
กระท้อน 13.9%
องุ่น 12.8%
ระกำ 12.1%
มะละกอสุก 11.8%
สับปะรด 11.6%
ฝรั่ง 11.6%
ส้มเกลี้ยง 11.2%
ส้มเขียวหวาน 11.2%
ส้มโอ 9.5%
ส้มจุก 9.2%
ชมพู่สาแหรก 7.6%
สตรอเบอรี่ 7.6
ชมพู่นาค 7.3%
แตงโม 4.9%
ปริมาณน้ำตาลในผลไม้ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
กล้วยตาก 64.1%
ทุเรียน 34.7%
กล้วยไข่ 34.1%
กล้วยหอม 31.4%
กล้วยหักมุก 26.3%
กล้วยน้ำว้า 26.1%
ขนุน 23.7%
ละมุด 21.9%
น้อยหน่า 20.0%
มะม่วงอกร่อง 17.7%
เงาะ 16.5%
ลิ้นจี่ 16.3%
มะม่วงสุก 15.9%
ลำไย 15.6%
แอปเปิ้ล 15.2%
มะม่วงดิบ 15.0%
มะปราง 15.0%
มังคุด 14.7%
ลางสาด 14.0%
พุทรา 14.0%
กระท้อน 13.9%
องุ่น 12.8%
ระกำ 12.1%
มะละกอสุก 11.8%
สับปะรด 11.6%
ฝรั่ง 11.6%
ส้มเกลี้ยง 11.2%
ส้มเขียวหวาน 11.2%
ส้มโอ 9.5%
ส้มจุก 9.2%
ชมพู่สาแหรก 7.6%
สตรอเบอรี่ 7.6
ชมพู่นาค 7.3%
แตงโม 4.9%
ที่มา www.hisoclub.net
ที่มา www.fruitsandveggiesmorematters.org
ข่าวดีของคนชอบกินทุเรียน
ข่าวดีของคนที่ชอบกินทุเรียนในขณะที่คนไทยยกย่องให้ "ทุเรียน" เป็นราชาและ "มังคุด" เป็นราชินีแห่งผลไม้ เป็นที่ยอมรับกันว่าทุเรียนไทยมีรสชาติอร่อยและคุณภาพดีที่สุดในโลก ปัจจุบันมีการส่งออกไปขายยังสาธารณรัฐประชาชนจีนมากที่สุด ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคมของทุกปี ทุเรียนจากเขตพื้นที่ ภาคตะวันออกจะออกสู่ตลาด คนไทยนิยมบริโภคทุเรียนกันมากมีผลทำให้ผลไม้ชนิดอื่น ๆ ที่ออกสู่ตลาดในช่วงเวลาเดียวกันมีราคาตกต่ำ ในขณะเดียวกันมักจะมีคำเตือนจากหมอว่าไม่ควรกินทุเรียนในปริมาณมากเกินไป บ้างก็ว่าในเนื้อทุเรียนมีปริมาณแป้งและไขมันสูง เป็นของแสลงของผู้ป่วยโรคเบาหวาน, โรค ความดันโลหิตสูงและคนที่กลัวอ้วนทั้งหลาย |
จากงานทดลองพบว่า ทุเรียนที่มีความสุกพอดีจะมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าทุเรียนดิบหรือทุเรียนที่สุกเกินไป (ที่เรียกกันทั่วไปว่าทุเรียนปลาร้า) และยังพบว่าทุเรียน พันธุ์หมอนทอง มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระดีกว่า พันธุ์ชะนี และ พันธุ์ก้านยาว นอกจากนั้นเมื่อมีการตรวจวิเคราะห์ แร่ธาตุอาหารที่มีอยู่ในเนื้อทุเรียน อ.สุมิตรา บอกว่า ทุเรียนมีปริมาณเส้นใยอาหารและธาตุเหล็กสูงมากซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อมีการเปรียบเทียบทุเรียนพันธุ์หมอนทองกับผลไม้เมืองร้อนชนิดอื่น พบว่ามีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่า สละ, มังคุด, ลิ้นจี่, ฝรั่ง และมะม่วงสุก ตามลำดับ
คณะผู้วิจัยยังได้นำทุเรียนไปเลี้ยงหนูทดลอง ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่พิสูจน์ว่าทุเรียนมีดีจริงไม่ใช่ เพียงข้อมูลในห้องปฏิบัติการเท่านั้น จากการเลี้ยงหนูทดลองด้วยอาหารที่ผสมทุเรียนกับคอเลสเตอรอล พบว่า หนูทดลองที่ได้รับทุเรียนหมอนทองในอาหาร สามารถลดสารคอเลสเตอรอลทั้งหมดได้ 16% และลด LDL คอเรสเตอรอลได้ถึง 31.3% เมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับอาหารที่มีคอเลสเตอรอล ผสมอย่างเดียว จากการทดลองในครั้งนี้ทำให้พบว่าถึงแม้ว่าในเนื้อทุเรียนจะมีปริมาณไขมันมากแต่ส่วนใหญ่เป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย
จากงานทดลองในครั้งนี้ทำให้เห็นว่าทุเรียนจัดเป็นผลไม้ไทยอีกชนิดหนึ่งที่สามารถบริโภคเป็นอาหารและยาจัดเป็นผลไม้สุขภาพอีกชนิดหนึ่งของไทยแต่ควรจะบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 29 ตุลาคม 2554 / 18:42
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 29 ตุลาคม 2554 / 18:55
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 30 ตุลาคม 2554 / 18:22
PS. กิ๊บชื่นชอบในการตั้งกระทู้ข่าวดี ๆ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ดี ๆ แก่เพื่อน ๆ บางมุมอาจต้องการความเป็นส่วนตัวร่วมเป็นหนึ่งแรงในการสร้างสรรค์สังคม
89 ความคิดเห็น
อะไรกั๊น!!!
กุอุตสาห์อดข้าวเย็น หิวก็ไปเด็ดกล้วยมากิน
จะอ้วนซ่ะงั้น
PS. คิดถึงเค้า!!! แต่เค้าจะเคยคิดถึงเรามั้งรึป่าว~*
นึกว่าจะไม่อ้วนสะอีก
PS. If you deed,I can't help you for your life.But I can helpyou to send you to hell...
ทุเรียนหายไปไหน???
PS. Bubble Bubble Bubble POP! Bubble Bubble POP!POP! :)
ไอ่เราก็นึกว่ากินแล้วจะผอมซะอีก 555
PS. บ้า ๆ บอ ๆ ไร้สาระอยาถือสาอิชั้นเลยย 55
ผลไม้เหล่านี้ มันขึ้นอยู่กับปริมาณของสารอาหาร ควรบริโภคให้พอดี ไม่ต้องกลัวอ้วนหรอกครับ ขอแค่ไม่กินจนอิ่มเกินไปก็พอแล้ว
PS. Мы все рождаемся с промышленност
เอาอะไรวัดอ่ะ
ทำไมเคยมีหนังสือกินกล้วยแล้วผอม
อร่อยทั้งนั้น
PS. ^____________^
ทุเรียนหายไปไหนหนอ???
=w=
PS. คำสัญญาของคุณมันไม่มีความหมายสำหรับผมอีกต่อไป ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าพูดมันเลย เสียดายเวลาฟัง...
....ต่อไปนี้จะกินทุเรียนแทนกล้วยแล้วนะ..
PS. ฉันไม่รู้....
สรุปมันยังไง ?
คือการกินกล้วยแล้วผอมคือ  เมื่อกินกล้วยแล้วกล้วยจะไปสร้างแก๊สในท้อง ทำให้เรารู้สึกอิ่มแล้วจะทานอาหารได้น้อยลงจ้า
ตาย !!!! มีแต่ของโปรด
ถึงว่าทำไมไม่ผอมกับเขาสักที
PS. BM : บ้าบอ คอแตก รักเพื่อน
มะม่วงน้ำดอกไม้ ฉันแค้นมันมาก แต่ก่อนกินมันทุกวันวันละหลายลูก สองอาทิตย์ต่อมา น้ำหนักขึ้น10โล แม่เจ้าาาาา
PS. เราทุกคนเป็นเพื่อนกันนะ เพื่อนรัก เพื่อนกิน เพื่อนตาย สุดท้ายเพื่อนร่วมโลก spsygk@hotmail.com
ดีนะไม่ชอบกินกล้วย 555+
PS. http://www.facebook.com/yingyingbaw , http://twitter.com/yingyingbawbaw
ของชอบเลยเธอ....
PS. เฮตาจังงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เราชอบกินกล้วยอ่ะ...
PS. อยากให้เธอคิดเหมือนอย่างที่ฉันคิด...กับเธอ :') (แค่นั้นก็สุขใจ...)
ชั้นเคยกินกล้วยเป็นหวีๆ(วันนึง)
ตอนนี้ก็กำลังอ้วนเลยง่ะเอวตั้ง 30!!!!!
ไม่จริงอ่ะ เค้าลดน้ำหนักโดยการกินอ้วนน้ำว้าแทนของว่าง น้ำหนักยังลดเลย
PS. ++ได้แอบมองแค่ข้างเดียวอยู่ที่มุมนี้ ก็พอแล้วไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในความหวังดี แค่ได้ชอบเธออย่างตอนนี้ ก็ถือเป็นโชคชะตาดีๆ ที่คนอย่างฉันได้เกิดมาพบกับเธอ ++
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?