Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สุนัขที่เขาว่าโหดกว่าลอตไวเลอร์และพิทบูล จริงหรอ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 
เตือนระวังสุนัขพันธุ์โหด ดุที่สุดในโลก บราซิลใช้ลุยกับเสือ คนไทยเริ่มเลี้ยงใช้เฝ้าสวนPDF
วันพุธที่ 29 เมษายน 2009 เวลา 16:10 น.

6 มกราคม 2547
คม ชัด ลึก: เตือนระวังสุนัขพันธุ์โหด ดุที่สุดในโลกยิ่งกว่า ร๊อตไวเลอร์และพิทบูล เทอร์เรีย ที่บราซิลใช้ลุยกับเสือ เผยมีคนไทยเริ่มเอามาเลี้ยงเฝ้าสวน เฝ้าโรงงานแถมยังมีฟาร์มเพาะพันธุ์ขาย ผู้เลี้ยงชอบใจไม่ต้องฝึกเพราะมีพฤติกรรมโหดจากสายเลือด จะลุยกัดทุกคนที่ไม่ใช่เจ้าของทันทีที่เห็น อีกทั้งตัวใหญ่หนักเกือบ 70 กิโลกรัม ชมรมผู้เลี้ยงสุนัขชี้หากปล่อยให้เลี้ยงอันตรายแน่ 

เหตุการณ์สะเทือนขวัญสุนัขพันธุ์ร๊อตไวเลอร์รุมกัดเด็กจนได้รับบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้หลายฝ่ายตระหนักถึงภัยที่เกิดจากสัตว์แสนรู้ชนิดนี้ แต่นั่นไม่ใช่สุนัขพันธุ์เดียวที่ต้องระวัง ล่าสุดมีผู้นิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุโดยสั่งซื้อสุนัขพันธุ์ฟิล่า บราซิเลียโร่ หรือสุนัขพันธุ์โหดที่ชาติตะวันตกเลี้ยงไว้เพื่อสู้กับหมีหรือเสือในฟาร์มกลางป่ามาเลี้ยงบ้างแล้ว 


ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" ได้รับร้องเรียนจากสมาชิกชมรมผู้เลี้ยงสุนัขแห่งหนึ่งว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนนำสุนัขพันธุ์ "ฟิล่า บราซิเลียโร่ (FILA BRASILEIRO)" หรือสุนัขล่าเสือจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงตามบ้าน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุนัขถือกันว่าเป็นสุนัขพันธุ์ดุที่สุดในโลก โดยมีสายพันธุ์ดั้งเดิมเป็นสุนัขพื้นเมืองของบราซิล ที่เลี้ยงในไร่ขนาดใหญ่เพื่อขับไล่เสือหรือหมี 

"สำหรับประเทศไทยแล้วคนเลี้ยงหมาฟิล่าส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมือง ใกล้ชุมชน แต่อยากเลี้ยงหมาตัวใหญ่ไว้กันขโมย โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ข้างเคียง ที่สำคัญคนเลี้ยงหมาฟิล่ากลุ่มนี้ไม่เคยศึกษาถึงวิธีการควบคุมหมาที่ถูกต้อง หากปล่อยไว้เชื่อว่าต้องเกิดเหตุร้ายขึ้นอย่างแน่นอน" เขา กล่าว 

หลังรับเรื่องร้องเรียน "คม ชัด ลึก" ได้ตรวจสอบพบว่า ประเทศไทยมีฟาร์มสุนัขขนาดใหญ่ 3 แห่ง เพาะสุนัขพันธุ์ฟิล่าออกจำหน่าย โดยตั้งราคาขายลูกสุนัขอายุระหว่าง 1-2 เดือน ราคา 30,000 บาทขึ้นไป ส่วนพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์จะมีราคาสูงถึงตัวละ 100,000 บาท ซึ่งสุนัขสายพันธุ์นี้เมื่อโตเต็มวัยจะมีความสูงวัดจากพื้นถึงหัวไหล่ประมาณ 60-75 เซนติเมตร น้ำหนักราว 50-65 กิโลกรัม โดยเจ้าของฟาร์มอ้างว่าเป็นสุนัขยอดอารักขา เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เฝ้าสวน เฝ้าโรงงาน มีนิสัยกล้าหาญ ฉลาด และหวงแหนที่อยู่อาศัย 

นายสกล ตั้งรัตนนพกุล เจ้าของฟาร์มสุนัขฟิล่า เฮ้าส์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสุนัขพันธุ์ฟิล่า ไม่เคยมีประวัติกัดเด็กหรือกัดคนไทยจนเป็นข่าวมาก่อน เพราะถึงแม้จะเป็นสุนัขพันธุ์ดุแต่ไม่ขี้หงุดหงิด ต่างจากร๊อตไวเลอร์หรืออเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์ดุที่สุดในโลกนั้น นายสกล ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะต้นกำเนิดมาจากการคัดเลือกสายพันธุ์สุนัขดุที่สุด 4 สายพันธุ์มาผสมกัน คือ บลัดฮาวน์, มัสทิฟ, บลูด๊อก และอาโซเรน ซึ่งสุนัขแต่ละพันธุ์นั้นส่วนใหญ่จะฝึกเพื่อใช้ในการต่อสู้ เช่น พันธุ์มัสทิฟเคยใช้ในการสู้กับทหารในสงคราม 

"ฟิล่าเป็นหมาสายกัด คนเลี้ยงปลูกฝังให้กัดทุกคนที่ไม่ใช่เจ้าของ เป็นหมาอารักขาแท้ๆ ตัวโตแต่ว่องไว เดินเหมือนเสือ ถ้าเจอศัตรูจะพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว ชอบกัดมือ กัดแขน ขนาดเจ้าของฟาร์มร๊อตไวเลอร์ยังเคยมาติดต่อขอซื้อไปเฝ้าฟาร์มมาแล้ว" นายสกล กล่าว 

พร้อมกันนี้ นายสกล ยังย้อนประวัติการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุชนิดนี้ในประเทศไทยว่า เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีที่แล้วมีชาวต่างชาติคนหนึ่งสั่งซื้อพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์มาจากประเทศบราซิลทั้งหมดเกือบ 10 ตัว จากนั้นนำมาผสมพันธุ์ขายต่อให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจ 

นายสกลเปิดเผยด้วยว่า ลูกค้าที่มาติดต่อซื้อสุนัขที่ฟาร์มฟิล่า เฮ้าส์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่พัทยาและหัวหิน ส่วนอีกกลุ่มคือเจ้าของไร่ขนาดใหญ่ที่ต้องการสุนัขพันธุ์ดุไปเฝ้าไร่ป้องกันขโมย ทั้งนี้ก่อนจะขายสุนัขนายสกลยืนยันว่าจะต้องถามรายละเอียดลูกค้าก่อนว่า มีวัตถุประสงค์อะไรในการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ฟิล่า และมีความรู้เรื่องสุนัขหรือไม่ หากเลี้ยงในทาวน์เฮ้าส์หรือตึกแถวจะปฏิเสธไม่ขายให้ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้ต้องการพื้นที่ในการวิ่งเล่น และบ้านทาวน์เฮ้าส์มีรั้วต่ำสุนัขอาจจะหลุดออกไปทำร้ายคนได้ 

ด้าน นายสัตวแพทย์เกียรติศักดิ์ โรจน์นิรันดร์ ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อการรักษาสุนัขจรจัด กล่าวถึงการนำสุนัขพันธุ์ดุจากต่างประเทศมาเพาะพันธุ์ขายในไทยว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากกฎหมายควบคุมผู้เลี้ยงสุนัขของไทยยังไม่มีมาตรการควบคุมเข้มงวดเหมือนต่างประเทศ ประกอบกับจิตสำนึกและความรับผิดชอบของคนเลี้ยง ซึ่งคนไทยบางคนมักง่าย ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตคนอื่น โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่ชอบเลี้ยงสุนัขตัวใหญ่ แต่ไม่มีแรงฉุดหรือควบคุมสุนัขเวลาไปกัดคนอื่น 

"ในต่างประเทศเจ้าของหมาจะถูกบังคับให้มีสายรัดคอ เชือกจูง ตะกร้อครอบปาก และยังมีกฎหมายคุ้มครองเหยื่อที่โดนหมากัด แต่ของไทยยังไม่มีการปรับปรุงกฎหมายเหล่านี้ บางครั้งเด็กโดนหมากัดเจ้าของก็อ้างว่าไม่ใช่หมาตน เป็นหมาจรจัดจะได้ไม่ต้องจ่ายค่ารักษา" นายสัตวแพทย์เกียรติศักดิ์ กล่าว 

อย่างไรก็ตาม นายสัตวแพทย์เกียรติศักดิ์ แนะนำผู้ที่ต้องการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุไว้ป้องกันขโมยว่า ควรทำให้สุนัขเหล่านั้นลดความดุร้ายลงด้วยการตัดเขี้ยวและทำหมันเสีย เนื่องจากเป็นวิธีทำให้สุนัขหมดความมั่นใจ ซึ่งวิธีการเช่นนี้สามารถช่วยลดความดุร้ายลงได้มากกว่า 50% 

นายลือชัย ศรีรัตน์ อายุ 46 ปี หนึ่งในผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์โหด เปิดเผยว่า เลี้ยงสุนัขพันธุ์ฟิล่ามาปีครึ่งแล้ว เริ่มจากเห็นเพื่อนเลี้ยงแล้วสนใจจึงนำมาเลี้ยงเฝ้าบ้าน ช่วงเย็นจะพาสุนัขไปเดินเล่นต้องใช้โซ่ล่ามคอไว้ถึง 2 เส้น ตลอดจนใช้ตะกร้อครอบปากป้องกันไม่ให้กัดคนอื่น แต่ส่วนใหญ่เมื่อสุนัขเห็นคนแปลกหน้าเดินเข้ามาใกล้ก็มักจะกระโจนเข้าใส่ทันที 

ขณะที่ นายวิรัตน์ ธนะสาร อายุ 40 ปี ผู้เลี้ยงสุนัขฟิล่าเฝ้าบ่อกุ้ง ยอมรับว่า สาเหตุที่นำสุนัขพันธุ์ฟิล่ามาเฝ้าบ่อกุ้งเพราะชอบที่รูปร่างใหญ่แต่ว่องไว ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา โครงสร้างการเดินเหมือนับสิงโต ที่สำคัญคือไม่ต้องฝึกเพราะฟิล่าจะสามารถเรียนรู้ได้เอง ตอนนี้เลี้ยงฟิล่าไว้เฝ้าบ่อกุ้ง 8 ตัว ป้องกันคนแปลกหน้าเข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่จะให้เฝ้ายามตอนกลางคืนตามจุดต่างๆ ส่วนตอนกลางวันจะปล่อยให้วิ่งเล่นในที่ที่จัดไว้ให้เท่านั้น 

"คนแปลกหน้าหรือลูกน้องผมจะเข้าใกล้ในระยะ 5-10 เมตรไม่ได้เลย เพราะฟิล่าจะเข้าชาร์จทันที หากพาออกข้างนอกผมต้องใช้สายหนังเส้นใหญ่และที่รั้งอกสุนัขรัดไว้เพื่อให้สามารถควบคุมเขาไว้ได้ ด้วยฟิล่าเป็นสุนัขตัวใหญ่ทำให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าสุนัขทั่วไป" นายวิรัตน์ กล่าว 

ด้าน พ.ต.ท.ภาสวัช ศรีทัย อุปนายกสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) กล่าวว่า สุนัขพันธุ์ฟิล่าเป็นสุนัขที่ดุ มักใช้ในการอารักขา ขณะเดียวกันผู้เลี้ยงจะต้องมีจิตวิทยาในการเลี้ยงดู คอยดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เพราะสุนัขจะรักเจ้าของเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามสุนัขพันธุ์นี้กัดแรงถึงขั้นกระดูกแตก แต่ที่ผ่านมายังไม่มีรายงานว่า กัดคนรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต 

"นิสัยโดยทั่วไปของสุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขตัวใหญ่ที่รักเจ้าของมาก ฉลาด ว่องไว มีความตื่นตัวอยู่เสมอ เหมาะที่จะใช้ในการอารักขา แต่หากมีคนแปลกหน้ามาเข้าใกล้เจ้านายของมัน ก็จะเข้าชาร์จและกัดทันที" พ.ต.ท.ภาสวัช กล่าว 

นายธีรวัฒน์ สองวงศ์ อายุ 36 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างย่านลาดพร้าว ยอมรับว่า เคยเห็นเจ้าของสุนัขฟิล่าพาสุนัขมาเดินเล่นหน้าหมู่บ้านแล้วรู้สึกกลัว เพราะไม่เคยพบสุนัขตัวใหญ่ขนาดนั้นมาก่อน มีลายคล้ายเสือ หากหลุดออกมาทำร้ายผู้คนคงจะอันตรายมาก
เครดิตhttp://www.environnet.in.th/index.php?option=com_content&view=article&id=96&catid=26&Itemid=19

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

b_bigbike 7 ม.ค. 64 เวลา 22:11 น. 1

จริงๆแล้ว ร๊อตไวเลอร์มันก็ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด แต่ผู้เลี้ยงยังไงก็ต้องระวัง และทำความรู้จักพวกมัน ก่อนเลี้ยงก็ควรศึกษาแนวทางการเลี้ยงเพื่อรับมือกับพวกมัน ลองดูตามนี้นะ http://petsocietythailand.com/?p=158

0