Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไม GPAX ต้อง 20 %

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ข้อเสนอแนะของผม อยู่ล่างเส้นประ (B) นะครับ
ข้อความภายในเส้นประ (A)-(B) คือบทความประกอบเหตุผล ..ถ้าหากอ่านแล้วรู้สึกไร้สาระ ให้เลื่อนลงไปอ่านใต้เส้นประ(B) เลย...อย่างไม่ต้องลังเลครับ


-------------------------------(A)--------------------------

..................................................
GPA (จีพีเอ - ย่อมาจาก Grade Point  Average) หรือที่เรียกในภาษาไทยว่า "ผลการเรียนเฉลี่ย"  คือ ผลการเรียนสะสมของผู้เรียนในทุกรายวิชาที่เรียนตลอดหลักสูตรของแต่ละช่วง ชั้นการเรียน  ที่นำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ย (Mean) เพื่อแสดงภาพรวมของผลการเรียนตลอดหลักสูตรของผู้เรียนอันเป็นผลผลิตของหลัก สูตรว่าอยู่ในระดับใด  ซึ่งจะช่วยสะท้อนให้เห็นระดับความรู้ ความสามารถและความสนใจในการศึกษาในภาพรวมของผู้เรียนแต่ละคน
      ทั้งนี้การหาค่าผลการเรียนเฉลี่ย (GPA)  สามารถคำนวณได้จากการนำผลรวมของผลคูณระหว่างหน่วยการเรียนกับระดับผลการ เรียนที่ได้ในแต่ละรายวิชา  แล้วหารด้วยผลรวมของหน่วยการเรียนทุกรายวิชาตลอดหลักสูตร

GPAX คือผลการเรียน (เกรด) เฉลี่ยของทุกวิชาที่ได้เรียนมาตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (หรือเทียบเท่า) ในปีการศึกษา

ขอบคุณข้อมูลจาก http://xn--12cfq6bb9fes3kqa9id1i.blogspot.com/2009/10/gpa-gpax.html
.................................................

ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไม GPAX ถึงต้อง 20%
ผมคิดว่า 10 % น่าจะเป็นคะแนนที่น่าจะสมเหตุพอตัวแล้ว (อาจจะถึงขั้นที่เรียกว่าเยอะไปด้วยซ้ำในความคิดของผมนะ)
หรือไม่คิดไปเลย เหมือนเอนทรานส์ระบบเก่า

เพราะคะแนน GPAX ซึ่งถ้าคิดคะแนนเต็ม 30000 ..นั่นคือGPAX เล่นกินพื้นที่คะแนนไปถึง 6000 คะแนน

ประเด็น GPAX เป็นที่ถกเถียงกันมามากพอสมควร สำหรับบางโรงเรียนที่กด และบางโรงเรียนที่ปล่อยเกรด
ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ 4.00 ของมาตรฐานเกรดแต่ละโรงเรียนแทบจะเทียบกันไม่ได้เลย ..ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ



ผมเองเคยได้ยินมาว่า เหตุผลของการปรับน้ำหนัก GPAX ให้ 20 % เนื่องจาก ทางผู้ใหญ่เค้าเห้นว่าเด็กเอนทรานส์สมัยก่อน มักจะไม่สนใจเรียนหนังสือหนังหา ไม่ฟังอาจารย์ ไม่เข้าห้องเรียน มัวแต่ไปสุมหัวอ่านหนังสือเอนส์กัน จนไม่เข้าห้องเรียน ปล่อยให้ครุบาอาจารย์นั่งคุยเล่นอยู่กับกระดานดำ โอบล้อมไปด้วยเสียงใบพัดเก่าๆของพัดลมกระทบกับฝุ่นที่เกาะเป้นก้อนเหมือนฝอยทองของผงช็อคที่เกราะกรัง รอคอยให้ศิษย์รักเข้ามาและกล่าวว่า ... นักเรียน เคารพ!!
(ซึ่งผู้ใหญ่ที่มาตั้งกฎในวันนี้ ก็คือเด็กเอนทรานส์ในวันนั้น ..)
ก็เลยเกิด GPAX ขึ้น เพื่อทำลายความอ้างว้างของอาจารย์ในการสอน .. โดยเฉพาะอาจารย์ ม.6

และอีกประเด้นคือเพื่อต้องการกระจายโอกาสทางการศึกษาให้ครอบคลุมไปทั่วทุกแห่งหนตำบลไทย ..ซึ่งประเด้นนี้ผมแอบเห้นด้วยและไม่เห้นด้วย
ที่เห้นด้วยคือ เป้นการดีที่เพื่อนนักรียนในชนบทจะได้มีโอกาศศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้มากขึ้น
แต่ที่ผมไม่เห้นด้วยคือ เพื่อนๆที่อยู่ในชนบท หรือท้องที่ห่างไกลจริงๆ มีน้อยคนมากที่ฝันถึงมหาลัยดังชั้นนำเลย พวกเค้าเรียนเพื่อให้สำเร็จการศึกษา และประกอบอาชีพอย่างที่เค้าฝันจะทำ (จะว่าไปความคิดแบบนี้ก็น่าอิจฉานะครับ ..)  ..มีแต่พวกในเมืองหลวง เมืองชั้นนำของภุมิภาคินี่แหละที่ยึดติดค่านิยมว่าต้องมหาลัยดัง คณะเด่นเด้ง ( ซึ่งรวมถึงผมด้วย แหะๆ)

.. แต่นี่แหละ สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า .... ค ว า ม ฝั น...





ซึ่งตัวผมเองก็ประสบกับปัญหานี้อยู่ (ผมเองจบจากโรงเรียนที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ 1 ใน 10 ของเวปไซต์ที่เกี่ยวกับการศึกษาไทย รวมถึงเวปเด็กดีด้วย )
ผมยกตัวอย่าง ผม กับ วิญญาณ ให้ดูเป้นตัวอย่างง่ายๆนะครับ

Gatผม แตะๆ 250........... Gatวิญญาณ แตะๆ 200
Patผม แตะๆ 200 ...........Patวิญญาณ แตะๆ 100
Onetผม เหยียบ 57%........... Onet วิญญาณ เหยียบๆ 50 %

แต่พอมาถึงพระเอกของงานนี่แหละ ..ผมเองก็ตกม้าตาย ทั้งๆที่ม้ายังไม่เริ่มวิ่งเลยด้วยซ้ำ
GPAX ผม แตะๆ 2.7........... GPAXวิญญาณ อีกนิดนึงจะฟาด 4.00 แล้ว

เมื่อคำนวณออกมาแล้ว ..คะแนนรวมผมกับวิญญาณ ก็ไม่ต่างอะไรกับปลาท่องโก๋เลย สูสีกัน เคียงคู่กันไป ..เราอยู่คู่เคียงกันตลอด ไม่ว่าจะคำนวณคณะหรือสถาบันไหน บางที วิญญาณเองอาจจะแซงผมไปด้วยซ้ำ

-------------------(B)--------------------------------------

ข้อเสนอของผมนะครับ (ผมเองอาจจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆแล้ว แต่ผมคิดว่าคงเปนประโยชน์ให้กับรุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลานต่อไป .. หวังว่าตอนที่ผมโตขึ้นเป้นอากง ..คงเห้นระบบการศึกษาไทยเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น )

1..อยากให้ยกเลิกการคิด% GPAX ทิ้งซะ
2..หากทำข้อ(1)ไม่ได้จริงๆ อยากให้ลดเกณฑ์ลงอีก จะเป้น 10 หรือ 5 ก็แล้วแต่จิตศรัทธา
3..หากเห้นว่าข้อ (1) และข้อ (2) ไม่สามารถพาให้ประเทศชาติเจริญงอกงามทัดเทียมอณาประชาราษฎ์ได้ ก็อยากให้มีการคิด GPAX ตามค่าเฉลี่ยรวมของ ONET โรงเรียนนั้นๆ เพื่อลดข้อครหาว่า ..โรงเรียนนี้ปล่อย หรือโรงเรียนนี้กดเกดร
อธิบายง่ายๆคือ ในแต่ละปี ในประกาศอันดับคะแนน ONET ของแต่ละปีออกมาเลย
แล้วตัดเกณฑ์โรงเรียนที่มีค่าเฉลี่ยสูง ให้คูณน้ำหนักของGPAX แตกต่างกันไปตามค่าเฉลี่ยของโรงเรียน

4.. หากไม่ได้จริงๆในสามข้อข้างต้น ..เห้นทีคงหมดหนทางทำกิน ..ใ้ห้นำน้ำมันเบนซิน ฉีดพ้นให้ทั่วกระทรวงและสำนักงานที่เกี่ยวข้อง ..และเผามันทิ้งซะไม่ให้เหลือซาก ..แต่หากการกระทำดังกล่าวดูป่าเถื่อนและร้ายแรงจนเกินไปก็ให้เเขวนป้ายหน้ากระทรวงว่า ..เซ้งด่วน!!..





หากผิดพลาดประการใด หรือมีข้อข้องใจอะไรอยากเสนอแนะ ..ช่วยๆพูดกันด้วยเหตุผลดีๆนะครับ
ผมเองก็คิดอยู่เองคนเดียวโดยไม่ปรึกษาใคร ..บางทีอาจจะมีเหตุผลดีๆบางอย่างซ่อนอยู่ก็อยากให้เอามาแชร์กัน

..หลายๆความคิดเห้นหรือหลายๆข้อเสนอ ทำให้เราได้มองในสิ่งเดียวกันได้หลายมุม

บางทีผู้ใหญ่เองก้น่าจะเข้ามามองในมุมมองของเด็กๆ ..เด็กๆเองก็ควรจะลองศึกษาในมุมมองของผุ้ใหญ่ดูบ้างด้วยเช่นกัน
ไม่มีประโยชน์เลย ถ้าต่างฝ่ายต่างทระนงตนว่า ..ฉันถูกนะ ฉันไม่ผิดนะ ฉันเจ๋งนะ ฉันประสบการณ์สูงนะ ต่างๆนาๆ

...พบกันครึ่งทาง เป้นทางทีดีที่สุด...



“…ประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน เป็นประเทศของทุกคน เข้าหากันไม่เผชิญหน้ากันแก้ไขปัญหา เพราะปัญหามีอยู่ ที่เวลาเกิดจะใช้คำว่า บ้าเลือด เวลาคนมีการปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ประชาชน เฉพาะในกรุงเทพมหานคร ถ้าสมมติว่า เฉพาะในกรุงเทพมหานครเสียหายไป ประเทศก็เสียหายไปทั้งหมด แล้วก็จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง…”

พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


ขอบคุณนะครับ

แสดงความคิดเห็น

>

32 ความคิดเห็น

1235 2 เม.ย. 55 เวลา 13:34 น. 1

ถ้าเป็นแบบนั้นจะแก้ปัญหาเด็กไม่ตั้งใจเรียนในโรงเรียนไม่ได้ครับ

ถ้าคิด gpax น้อย หรือไม่คิดเลย เด็กจะตั้งใจเรียนในห้องน้อยลงจริงๆ เพราะจะเอาเวลาวิชาที่คิดว่าไม่สำคัญ(หรือทุกวิชา) ไปเรียนพิเศษกันหมด

ซึ่งถ้าเด็กไม่ใส่ใจกับการเรียนในห้อง มัวแต่สนใจการติวที่ รร.กวดวิชา การศึกษาไทยจะแย่ลงกว่านี้มากครับ

ดังนั้น สิ่งที่ควรแก้คือแก้ที่การให้เหรดของครู อย่าให้ยากเกินไป และอย่าปล่อยเกินไป

แต่เท่าที่ผมเห็น ไม่ว่าจะโรงเรียนชื่อดังหรือชื่อด้อย ถ้าเด็กเก่งจริง ตั้งใจจริง เกรดก็จะดีอยู่แล้วล่ะครับ มไม่เคยเห็นคนที่ตั้งใจจริงๆ ขยันจริงๆ เก่งจริงๆ ได้เกรดต่ำติดดินเลยสักคน

0
ฟ่าง 2 เม.ย. 55 เวลา 13:50 น. 2

20% สำหรับเราก็ว่าดีอ่ะ เพราคะแนนสอบเราออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ในห้องเราตั้งใจเรียน สอบออกมาเกรดก็ใช้ได้ มันก็ช่วยให้เรามีโอกาสที่จะเลือกมหาลัยที่ดีๆได้อ่ะค่ะ มันก็คุ้มค่าสำหรับคนที่เขาตั้งใจเรียนในห้่องนะ แล้วเด็กที่เขาไม่มีตังค์เรียนพิเศษ เกรดมันก็ช่วยให้เขาไปต่อสู้กับคนที่มีเงินเรียนพิเศษอ่ะค่ะ

0
มายดี้ 56 2 เม.ย. 55 เวลา 14:05 น. 4

ห้องเรียนของเราอ่ะ คนที่ได้เกรด3นิดๆ(ไม่เกิน3.20) วันๆเอาแต่โดดเรียน ช่วงไหนสอบแกทแพทไรเนี่ยไม่มาโรงเรียนกันเลย เราว่ามันเป็นการฝึกความรับผิดชอบของเด็กได้อย่างดี เมื่อคุณขยันอ่านหนังสืออย่างเดียวมันไม่พอ คุณต้องทำหน้าที่ของโรงเรียนให้ดีด้วย

0
งงจังครับ 2 เม.ย. 55 เวลา 14:32 น. 5

ผม จขกท.เองนะครับ
คห. 3 ครับ
ผมไม่ได้มีเจตนาเอาเบื้องสูงมาเกี่ยวนะ
แต่ผมชอบพระราชดำรัสของในหลวงท่าน บทนี้มาก ผมคิดว่ามันตรงกับสถานการณ์ในปัจจุบันมาก
ผมเองเก็บพระราชดำรัสบทนี้ไว้เตือนใจตัวเองทุกครั้ง

เมื่อก่อนผมติดลบกับระบบคัดเลือกมากๆ เวลาไปปรึกษากับพื่อนๆคนอื่นเรื่องเกรดไรงี้ ..เพื่อนๆก็จะปลอบใจ ว่าไม่เป็นไร ช่างมัเถอะนะ ทำคะแนนตรงอื่นให้ดีกว่า
..แต่เค้าไม่เข้าใจหรอก เพราะเขาไม่ได้ยืนอยู่ในที่ ที่เรายืน

มันน่าน้อยใจไหมล่ะ เราอุตส่าห์ท่องศัพท์ อุตส่าฝึกทำโจทย์ ฝึกต่างๆนาๆ เพื่อมาเพิ่มคะแนน gat เพิ่มคะแนน pat แต่เกรดน้อย .. กลับเป้นว่าเราด้อยกว่าคนอื่นไปเยอะเลย
อย่าลืมนะ แค่ทสนิยมนึงก็ตัดกันได้

คิดดูนะ GAT pAt จะซิ่ว ยังเพิ่มกันได้ ยังลดกันได้ แต่GPaX นี่เหมือนตราบาปติดตัวเลย แล้วเปอร์เซนต์ก็สู๊ง สุง สูงจนขนาดบางที ถึงเราจะได้ Gat เต็ม Pat เกือบเต็ม ยังยื่นบางคณะไม่ถึงเลย

ผมเลยงงว่าทำไมต้อง 20%

เพราะโรงเรียนผม ข้อสอบมิดเทอมบางข้อ เอามาออก Pat สบายๆเลย

จริงอยู่ในห้องเรียนเราต้องขยัน เราต้องตั้งใจฟังอาจารย์ แต่ผมคิดว่าการทำแบบนี้มันแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เพราะยังไงโรงเรียนเค้าก็กำหนดชั่วโมงเรียนอยู่แล้วว่าต้องเข้าให้ครบเท่าไหร่ ..ถึงจะผ่านเกณฑ์ไม่ถูก มส. หรือ มผ.


แต่ประเด็นของผมคือ มาตรฐานแต่ละโรงเรียนมันไม่เท่ากันอะครับ ถ้าGAT PAT ONET ก็วาไปอย่างเพราะเป้นข้อสอบส่วนกลางเลย

ประเด้นของผมมีแค่ ทำไมต้องคิดรวม GPaX และทำไมต้อง 20 % เท่านั้นแหละครับ แต่สำหรับอย่างอื่นผมโอเคแล้วครับ



นี่ไง ผมเลยบอกว่า อยากให้ลองมองในมุมมองหลายๆมุมมอง


มีโจรหนึ่งคน ..อย่ามัวแต่มองว่าคนคนนั้นชั่วร้าย คิดไม่ดีเพียงอย่างเดียว ..ให้ลองมองย้อนดุว่า แล้วทำไมเค้าถึงต้องเป้นโจร เค้าถึงต้องไปขโมยคนอื่นเขาหล่ะ ??
..เค้าอาจจะไม่มีเงิน
..เค้าอาจจะต้องการเอาเงินไปรักษาคนในครอบครัว
..เค้าอาจติดหนี้พนันบอล
..เค้าอาจติดยา จนเป้นประสาท

แล้วลองคิดว่า ถ้าเราประสบปัญหาแบบที่เค้าประสบ ..เราจะหาทางออกอย่างไร

นี่แหละครับ คือวิธีมองต่างมุม ..ลองยืนในที่ที่เราไม่เคยยืน และเปิดโอกาสให้คนที่ยืนที่อื่นได้มาลองยืนที่เรา..เอาใจเขา มาใส่ใจเราไง

เราจะได้เข้าใจอะไรมากๆๆขึ้นครับ
การะเลาะ การไม่เข้าใจกันมันจะได้ไม่เกิดขึ้น




ส่วนทุกความเห้นที่เหลือ ..ขอบคุณนะครับ
เม้นท์กันดีๆนะครับ ผมรออ่านทุกความคิดเห้นเลย บางทีผมจะได้รูปว่า ..มุมมองของผมที่ผมมอง มันอาจจะไม่ดีก็ได้ ..ผมจะได้ฝึกมองแบบใหม่ไง


ขอบคุณครับ

0
จ่ะ 2 เม.ย. 55 เวลา 14:40 น. 6

ไม่เห็นด้วยนะ เกรดนี้เป็นวัดความขัยนเลย โรงเรียนเราไม่ดังบอกได้เลย แต่คนได้เกรดเยอะเค้าก็ต้องขยันมาก อย่างเตรียมอุดมเราเห็นเค้าเกรดเยอะมากทั้งที่โรงเรียนเค้าต้องกดเกรดสุดๆ

ปล่อยเกรดมันก็มีจริงๆแหละ แต่ถ้าไม่สนใจจริงครูเค้าไม่ให้ผ่านหรอก

0
มิ้นนี่ 2 เม.ย. 55 เวลา 14:46 น. 7

เอาGPAXมาใช้อ่ะดีแล้วเด็กจะได้ใส่ใจเรียนมากขึ้น สิ่งที่ต้องแก้ไขน่าจะเป็นระบบเกรดมากกว่า ที่แต่ละโรงเรียนไม่เท่ากันอ่ะ แต่มันก็เป็นเรื่องที่แก้ยากเนอะ ถ้าจะเอาตัวคูณเข้ามาช่วยมันอาจจะไม่ยุติธรรมกันเด็กเก่งๆในโรงเรียนนั้นๆอ่ะ ซึ่งมันก็ต้องมีแหละ ไม่ใช่ว่าค่าเฉลี่ยต่ำแล้วเด็กจะไม่เก่งทุกคน

ปัญหานี้มันแก้ยาก ไม่มีทางที่เราจะตีคะแนนเด็กออกมาได้เป๊ะๆ และคุณสมบัติที่ต้องการก็ไม่ใช่เฉพาะความรู้ด้วย เพราะต้องบวกคุณลักษณะอันพึงประสงค์เข้าไปอีกนิดหน่อย เลยตีออกมาเป็นคะแนนยาก

ถ้าจะเปลี่ยนจริงๆ เราว่าน่าจะพัฒนาครู พัฒนาการเรียนการสอนและปลูกจิตสำนึกให้เด็ก จะได้ไม่ต้องมีกฎที่เอาไว้กันเด็กไม่ตั้งใจเรียนแบบนี้ ตอนนี้ก็มีโครงการครู5ปีโท+ไม่จบครูเป็นครูไม่ได้อยู่ ก็ต้องลองดูข่าอนาคตจะเป็นยังไงต่อไป (แต่รุ่นเราคงไม่ทันแล้วเนอะ) เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆมากกว่าออกกฎมาคุมเด็ก

ปล.เราเป็นเด็กซิ่วนะ ปีที่แล้วพลาดอันดับ1 พอเข้ามหาลัยเจอเพื่อนที่เกรด(มหาลัยเทอม1) น้อยกว่าเรา แต่เกรด(GPAX)มากกว่าเราเยอะ ถ้าเราได้เกรดเท่าเพื่อนคงติดอันดับ1ไปแล้ว โรงเรียนเรากดเกรดอ่ะ เซ็งเบาๆ=_=

0
Tor_Thanawut@CB 2 เม.ย. 55 เวลา 15:24 น. 8

 จริงๆแล้ว
การใช้ GPAX มาคิด มันก็ช่วยให้นักเรียนตั้งใจเรียนใน รร. มากขึ้น
แต่ว่าบาง รร. ก็ถือเอาโอกาสนี้ปล่อยเกรดเด็ก รร. ตนเองให้มีคะแนนแอดสูงๆจะได้ทำชื่อเสียงให้กับ รร.

มันจึงมีปัญหาการ รีไทล์ ค่อยข้างเยอะ
เราว่าไม่น่าจะใช้ถึง 20%
น่าจะใช้ซัก 10% ก็น่าจะพ่อแล้ว
คหสต. นะ


PS.  ทุกสิ่งที่อย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุและผล.. และเราสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ด้วยเหตุและผลเช่นกัน..
0
1235 2 เม.ย. 55 เวลา 15:40 น. 9

#5
ถ้าผมจับใจความไม่ผิด เกรดของคุณคือ 2.7 แต่เพื่อนๆของคุณได้มากกว่า(3+) ใช่ไหมครับ

งั้นเราก็จะต้องมาถกปัญหากันแล้วสิว่า ทำไมเพื่อนของคุณถึงได้เยอะกว่าคุณ

โรงเรียนเดียวกัน ครูคนเดียวกันหรือไม่ ถ้าใช่ ข้ามไปข้อต่อไป

คะแนนสอบเพื่อนดีกว่ามากใช่หรือไม่ อันนี้ก็ไม่น่าใช่นะ เพราะคุณบอกว่า gat เยอะ pat เยอะ นั่นแสดงว่า คุณเองก็มีศักยภาพสูงอยู่เหมือนกัน งั้นประเด็นนี้ถือว่ามีผลน้อย หรือไม่มีเลย

ส่วนข้อสอบกลางภาคที่คุณบอกว่า ยากเหมือน pat นั้น ความจริงแล้วนั่นถือเป็นเรื่องดี แปลว่าคุณสามารถสอบข้อสอบ pat ได้ด้วยความรู้ที่ครูได้สอนมา

ผมก็มีเหมือนกัน โดยเฉพาะวิชาคณิตเพิ่มเติม แจกข้อสอบปุ๊บ เปิดมา ขำกันทั้งห้อง เอาบ้าอะไรมาออกก็ไม่รู้ ยึกยือ ตกกันระนาว

แต่ก็ยังมิวายมีคนได้เต็ม

สรุปสั้นๆว่า

เพื่อนเกรดดี เราเกรดดี = เราเก่ง เพื่อนเก่ง หรือ รร.ปล่อยเกรด

เพื่อนเกรดต่ำ เราเกรดต่ำ = เพื่อนไม่เก่ง เราก็ไม่เก่ง หรือ รร.กดเกรด

เพื่อนเกรดต่ำ เราเกรดดี = เพื่อนไม่เก่ง เราเก่ง

เพื่อนเกรดดี เราเกรดต่ำ = .......

0
หนูหยก 2 เม.ย. 55 เวลา 15:58 น. 10

 เห็นด้วยกับ จขกท.อยู่นะ   แต่ตัดไปเลยก็คงไม่ดี

น่าจะเหลือซัก 10 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นคะแนนความตั้งใจ

แล้วก็เด็กเก่งน่ะ  แน่นอนว่าต้องได้คะแนนดี  แต่เด็กขยัน บางคนก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย เกรดของคนขยันก็จะมาจากส่งงานซะส่วนใหญ่
แต่อย่างโรงเรียนเรา วิชาเคมี เราสอบกันอาทิตย์ละสองครั้ง สอบต่อครั้งคะแนนเต็ม 3 คะแนน  แล้วบางทีวิชาแบบนี้ใช้ความขยันอย่างเดียวมันก็ไม่สำเร็จผลหรอก มันต้องใช้ความเข้าใจ+การรู้จักประยุกต์ใช้อีก


PS.  รักแรกมันแยกยาก รักมากๆ จะยากแยก รักเธอเป็นคนแรก จะให้แยกมันคงยาก
0
Juthaporn 2 เม.ย. 55 เวลา 16:11 น. 11

น่าจะใช้ 10 เปอร์เซ็นต์น่ะ
แค่นี้ก้อมากเกินพอเเร้ว&nbsp แต่ไม่ควรตัดไปเรยอ่า&nbsp เพราะจะทำให้ นักเรียนไม่สนใจในการเรียนในห้องไง....คหสต

0
Romanova 2 เม.ย. 55 เวลา 17:32 น. 14

เราคนนึงละที่ คะแนน GPAX ออกมาค่อนข้างช่วยตอนแอด(มั้ง) เพราะรร.เราเป็นรร เอกชน

แต่เราเข้าใจรร.ที่กดเกรด เรามีเพื่อนอยู่ในรร ที่คะแนนโอเน็ตรร สูงและเป็นรร ดังในกทม

เพื่อนเราค่อนข้างเรียนเก่งแต่คะแนน GPAX ของเค้าต่ำกว่าเราพอสมควรก็เพราะรร เค้าค่อนข้างกดเกรด

เราเห็นใจคนในรร ที่กดเกรด จริงๆนะ

ถ้าจะให้ GPAX 20% เราว่าน่าจะให้การสอบ มิด-ไฟนอล ทำข้อสอบกลาง ทุกๆรร สอบข้อสอบเดียวกันไปเลย


PS.   Keep On Fighting
0
คหสต 2 เม.ย. 55 เวลา 17:46 น. 15

ลองดูกรณี 2 คนนี้นะ
เอ เรียนอยู่โรงเรียนชื่อดังอาจารย์สอนดีมาก ข้อสอบในห้องยากระดับสอบเข้ามหาลัย เกรด 3.00 ทั้งๆที่ตั้งใจเรียน (แต่ไม่ที่สุด)
บี เรียนอยู่โรงเรียนชานเมืองในห้องเรียนเรียนแค่พื้นฐาน(เท่าที่หนังสือมีเขียนไว้)ข้อสอบก็แจกแต้มเพราะไม่ยากถ้าตั้งใจเรียน ฟังครูสอน บีเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียนมากๆ เกรดเกือบ 4
พอถึงตอนสอบเข้ามหาลัย เอทำได้สบายๆแต่บีที่ตั้งใจเรียนมากกลับทำได้ไม่ดี(แต่ดีที่สุดของโรงเรียนแล้ว)เพราะที่โรงเรียนไม่ได้สอนยากขนาดนั้น ไม่เคยคิดว่าข้อสอบจะออกยากขนาดนี้&nbsp เอสอบติดคณะที่อยากได้ไม่ยาก ส่วนบีสอบติดคณะเดียวกันหวุดหวิดเพราะให้น้ำหนักเกรด 20 %
ถามว่าเมื่อมีโอกาศได้เรียนที่เดียวกันแล้วใครจะเก่งกว่ากัน? ปี1ยังไม่แน่เพราะพื้นฐานโรงเรียนเดิมมีผล แต่ปี2 3 4 จนถึงตอนทำงานล่ะ? ใครจะไปได้ไกลกว่ากัน ?

ปล.1 ทั้งหมดที่ว่ามานี้เรื่องจริงไว้ลองเข้าไปเรียนแล้วจะรู้ว่าจริงไหม
ปล.2 หากทำให้ใครไม่พอใจก็ขอโทษด้วยครับ
ปล.3 ผมก็ไม่ใช่คนเกรดดีเมือนกัน

0
MinT~FairY 2 เม.ย. 55 เวลา 18:15 น. 16

เห็นด้วยกับจขกท.นะ
คือโรงเรียนเรากดเกรดมากอ่ะ โรงเรียนเราถูกจัดอันดับอยู่ท็อป 2 อ่ะ ไม่เกินจากนี้ จากการจัดอันดับไม่ว่าที่ไหนก็แล้วแต่
เกรดเราได้แค่ 3.3x แต่โอเน็ตเราได้ 70 กว่าเปอร์เซ็นต์
แกทเราได้ประมาณ 270 (ไม่ค่อยเยอะถ้าเทียบกับเพื่อนเรา เพราะเราอ่อนอังกฤษมากอ่ะ ไม่เคยได้เกรด 4 เลย อังกฤษเนี่ย 55555)
แพทวิทย์เราเกือบ 200
ความจริงคะแนนเราน่าจะเยอะ(ในความคิดเรา) แต่เกรดมันฉุดอ่ะ
ตอนม.ต้นเกรดเรา 3.9x ตลอดอ่ะ แต่ตอนม.ปลายมัน.......อ่ะนะ

คือแบบ แล้วคนที่ได้เกรด 4 แต่คะแนนอันอื่นน้อยกว่าเรา เค้าอาจจะได้คะแนนแอดมากกว่าเราก็ได้อ่ะ แอบเซ็ง -3-

0
POO 2 เม.ย. 55 เวลา 18:39 น. 17

20 เปอร์เซ็นแต่ถ้า จขกท. ลองเทียบกับ 100 มันก็ยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำเราว่ามันช่วยให้เด็กที่ทำข้อสอบไม่ได้มีคะแนนที่พอจะสูสีคนอื่นๆเค้า

ป.ล.จขกท.คิดว่าเด็กที่ได้เกรดมากนั้นเค้าได้มาเพราะการปล่อยเกรดของ รร. อย่างงั้นหรือ ????

0
jinnnij 2 เม.ย. 55 เวลา 20:12 น. 18

อาจารย์โรงเรียนเราท่านเคยบอกว่า ถ้าอยากให้GPAXมามีเอี่ยวในแอดมิชชั่น ใช้เป็น Z-Scoreจะดีกว่านะ อย่างน้อยก็พอจะใช้วัดอะไรได้มากกว่าGPAXเพียวๆ เราได้4หมดแต่พละได้2.5 GPAXก็ลดฮวบกันไปตามระเบียบ เฮ่อออ

0
แนน 2 เม.ย. 55 เวลา 20:49 น. 19

*** เราก็เห็นด้วยกับ จขกท นะที่ตัวเราทำ gat pat ได้ดีแล้วต้องมาเสียแค่ GPAX แทนมันทำให้คนที่มีความตั้งใจมากกว่าคนที่อาจไม่ได้แม้อ่านหนังสือ แต่สามารถทำข้อสอบได้&nbsp GPAX แต่ละ รร.มันไม่เท่ากันเพราะเราก็เชื่อว่าหลาย รร.. มากที่ปล่อยเกรดเพราะมาจาก ครู แล้วถ้ารร.ต่างจังหวัดแล้วก็ปล่อยมากเลยก็ไม่รู้ ****&nbsp 


&nbsp &nbsp &nbsp แต่อย่างไรก็ตาม จขกท ก็ต้องหัดกลับมาดูตัวเองการเรียนที่ผ่านตลอด 3ปี จขกทตั้งใจที่จะเรียนภายใน รร. มากน้อยเพียงใดหรือว่าเอาเวลาไปติว gat pat มากกว่าที่จะเรียนใน รร.จดลืมส่งงานไปบ้าง ลืมที่จะอ่านหนังสือตอนสอบกลางภาค ปลายภาคไปหรือป่าว&nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp 
&nbsp &nbsp &nbsp สู้ๆ คะเพราะคนเรามันไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่ผ่านได้แล้ว แต่จะนำสิ่งนั้นสามารถทำให้มองย้อนตัวเราเองได้เสมอกับสิ่งที่เคยทำไว้ได้ :))))))

0