Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทุกคนต้องตกนรกใช่ไหม ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมคิดๆดูแล้ว คนที่ทำความดีแบบตลอดชีวิตโดยไม่ทำความชั่วเลยไม่น่าจะมีนะ เพราะแค่คิดไม่ดีนิดเดียวก็บาปแล้ว = =
เพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรกันบ้าง ?

แสดงความคิดเห็น

>

34 ความคิดเห็น

gigoZen 10 พ.ค. 55 เวลา 08:37 น. 1

ในความคิดของผมนะ
     มันขึ้นอยู่กับว่า นรก ในมุมมองของคุณคืออะไร ถ้าเป็นนรกกระทะทองแดง อะไรแบบนี้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมว่าถ้าเป็นนรกในมุมมองของการเปรียบเทียบ อันนี้ผมว่าน่าจะตกแหละครับ เช่น
     นาย ก เป็นคนชอบลักขโมย เมื่อจะขโมยอะไรก็จะรู้สึกหวาดระแวง อาการหวาดระแวงนี้แหละที่เป็นการตกนรก ผมว่านะ ไม่ทราบท่านอื่นจะคิดเห็นอย่างไร

0
DRAMA QUEEN 10 พ.ค. 55 เวลา 09:47 น. 3

เป็นเรื่องจริงที่ไม่เคยมีใครไม่ทำความชั่วเลย แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังเคยตกนรกมาก่อน แต่เมื่อท่านหาวิธีหนีนรกได้ ท่านจึงนำมาสั่งสอนพวกเรา

เรื่องตกนรกขออธิบายแบบนี้นะ
นรกมี 2 แบบ คือ 1)นรกที่เป็นนรกจริงๆ 2)นรกในใจ

แบบที่ 1
ทุกคนคงรู้จักเพราะทุกศาสนามีนรก แต่ถ้าเป็นตามหลักของพุทธ คนที่จะตกนรกหรือไม่นั้นมีหลายเหตุปัจจัย แต่ที่สำคัญคือต้องทำจิตใจให้ไม่เศร้าหมอง ทำใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ คิดแต่เรื่องดีๆ ทำแต่เรื่องดี รับรองได้ว่ายังไงก็ไม่ตกนรกชัวร์

แบบที่ 2
นรกในใจ - เรื่องนี้เข้าใจได้ง่ายมาก นรกแบบนี้ก็คือนรกบนดินนั่นแหละ ตัวอย่างก็มีให้เห็นทุกวัน สังเกตุง่ายๆ คนที่ทำเรื่องดีๆก็จะรู้สึกสุขใจ คนที่ทำเรื่องไม่ดีเมื่อทำแล้วก็จะรู้สึกไม่สบายใจ กังวล กระวนกระวายไม่ต่างจากตกนรก ใครนึกภาพไม่ออกให้นึกตอนที่เรากำลังทำผิดสิ ลองถามตัวเองสิ เวลาคุณกำลังโกรธ หรือตอนที่เพิ่งจะำทำผิดมาคุณรู้สึกยังไง มันทรมานเจ็บปวดไม่ต่างจากตกนรกเลยใช่ไหม

สรุป ไม่ว่าจะตกนรกหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดคือการคิดบวก ทำใจให้สดใส อย่าไปคิดมากดีกว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำทุกวันในชีวิตให้มีความสุขก็พอ อย่างน้อยทุกวันที่เราดำเนินชีวิตก็จะไม่มีความทุกข์ แค่รักษาใจให้ผ่องใส(ได้จริง) ยังไงก็ไม่มีทางตกนรกหรอก


PS.  group dhamma wa wa wow http://group.dek-d.com/autto002/
0
>M@D 10 พ.ค. 55 เวลา 12:14 น. 4

 คนที่ต้องตกนรกคือคนที่ทำบาปหนักจริงๆ เช่น ทุบตีพ่อแม่
ไม่งั้นทุกคนก็ตกนรกหมดแล้วล่ะ


PS.  ทำดีไม่ได้ดี... ดีกว่าทำชั่วแล้วมีปัญหา
0
with him we can 10 พ.ค. 55 เวลา 12:16 น. 5

ใครไม่อยากตกนรก มาเชื่อในพระเจ้าสิ พระองค์จะลบล้างความผิดบาปของเราทุกคนถ้าเรารู้ว่าผิด และขอให้พระองค์ช่วย ไม่ว่าบาปเล็กๆหรือว่าร้ายแรงในความคิดเรา พระเจ้าสร้างเรามา และพระองค์รู้จักเราทุกคนแบบส่วนตัวด้วยนะ ไม่ใชพระของพวกฝรั่งเท่านั้นจ้า

0
chan--chan 10 พ.ค. 55 เวลา 12:21 น. 6

อยู่ที่ว่า เราทำชั่ว หรือทำดีมากกว่ากันในชาตินี้
แล้วตอนที่เรากำลังจะตาย เพื่อไปเกิดใหม่ เราหวังอะไร

หากนึกถึงสิ่งที่ตนกระทำชั่ว นึกถึงสิ่งที่ชั่วร้าย ก็ต้องไปเกิดในที่ชั่วร้าย อาทิเช่นนรก

แต่ถ้านึกถึงคุณงามความดีที่เคยกระทำไว้ นึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงสวรรค์ หรือนิพพาน
นึกถึงสิ่งที่ดี ก็จะได้ไปเกิดใหม่ในที่ๆดี เช่นสวรรค์ หรือถ้าดียิ่งกว่านั้นก็อาจเป็นนิพพาน

หรืออีกทางหนึ่งคือ หากตอนที่กำลังจะตาย เรายังมีห่วงอยู่ ก็จะต้องมาเกิดเป็นผี เร่ร่อนไปมาตามสิงอยู่ในที่ๆเราหวง หรืออาจมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่งก็ได้

การที่ได้ไปเกิดบนสวรรค์ เป็นเทวดานางฟ้า เมื่อหมดบุญแล้ว ก็ต้องไปเกิดใหม่เช่นกัน แล้ววิธีก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก เมื่อใกล้จะหมดบุญ ก็ต้องทำบุญต่อไป เพื่อที่จะได้ไปเกิดใหม่ในที่ๆดีอีก แต่หากมัวแต่หลงระเริงถึงอบายมุข และกิเลสต่างๆ เมื่อตายไป ก็คงต้องตกนรก เพื่อใช้กรรมเสียก่อน ที่จะได้มาใช้บุญ

0
๛ไหลฤา๛ 10 พ.ค. 55 เวลา 13:00 น. 7



ตายด้วยความโลภ ไปเป็น เปรต

ตายด้วยความโกรธ ไปลงนรก

ตายด้วยความหลง ไปเป็น สัตว์เดรัจฉาน










PS.  เมตตา และ ปัญญา เป็นที่มาของความสุข
0
min 10 พ.ค. 55 เวลา 13:02 น. 8

มนุษณ์ทุกคนเคยทำบาปด้วยกันทั้งสิ้น แค่คิดก็ผิดแล้ว - -''

แล้วความบาปมิอาจลบล้างด้วยการทำความดี

เพราะ ความดีเป็นพื้นฐานของมนุษณ์ที่ต้องทำอยู่แล้ว ^^

สวรรค์มีไว้สำหรับคนดีใช้ไหมคะ? แล้วผู้ที่ขึ้นสวรรค์ได้ต้อง"บริสุทธิ์ 100%" คะ

แต่มีสิ่งนึ่งที่จะใช้ให้เรารอดจากนรกได้นะคะ คือการขอร้องจาก "เจ้าของสวรรค์" นั้นแหละคะ ^^

หรือไม่ก็ต้องล้างบาปให้หมดแต่มันจะหมดยังไงล่ะ? ถ้าไม่มีผู้ไถ่บาป?

ผู้ไถ่บาปก็ต้องบริสุทธิ์ 100% ซึ่งต้องไม่ใช้มนุษณ์ เพราะมนุษณ์ทำบาปกันทุกคนไม่ว่ายุคไหนๆ

แล้วรู้เปล่าว?ว่าใครเป็นผู้ไถ่บาปให้เรา? นั้นก็คือ พระเจ้า !!&nbsp 

พระองค์นั้นแหละคะ คือ ทางรอด เป็นทางแคบ ถึงจะแคบแต่ก็รอดได้ง่าย(หรอ?แต่มันก็ไม่ง่ายนะคะ^^)&nbsp พระเจ้าอวยพรคะ

0
=-No~name-= 10 พ.ค. 55 เวลา 16:34 น. 10

จะมองว่าแค่คิดนิดเดียวก็บาปแล้ว มันก็จริงนะ แต่เคยมองเปล่าว่า ความคิดคนเรามันมีทั้งดี ทั้งชั่ว แล้วก็ไม่ดีไม่ชั่วน่ะ คือจริงๆในชีวิตคนเรามันทำทั้งความดี ความชั่ว แล้วก็ไม่ดีไม่ชั่วปะปนกันไปนะ มันไม่ได้ทำแต่ชั่วอย่างเดียวสักหน่อย ที่ว่า ทำดีได้ไปสวรรค์ ทำชั่วตกนรก คนเรามันทำปนๆกันไป ต้องมาดูอีกทีว่าดีมากกว่าหรือชั่วมากกว่า ก่อนตายคิดดีหรือชั่ว จิตใจของคนๆนั้นเป็นยังไง ดีหรือชั่ว

คนไม่เคยทำชั่วน่ะไม่มี แต่คนที่สามารถละชั่วได้แล้่วน่ะมีค่ะ

การจะละชั่วได้ไม่ใช่ขอให้คนอื่นช่วย ต้องตัวเองเท่านั้นถึงจะทำได้ค่ะ

ศาสนาพุทธสอนให้คนลุกขึ้นมาสู้กับกิเลสของตน เพื่อละความชั่ว ไม่หลงมัวเมาไปกับกิเลส

เหมือนที่เคยได้ยินกัน การเติมน้ำกับเกลือ

สมมุติเติมน้ำคือการทำความดี และเติมเกลือคือทำความชั่ว

ตอนแรกมีเกลืออยู่ ถ้าให้ชิม รสมันก็จะเค็มๆ พอเติมน้ำเข้าไปทีละนิดละหน่อย ความเค็มก็จะเจือจางลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่เหลือความเค็ม แต่เกลือที่มีก็ยังอยู่เท่าเดิม แต่น้ำนั้นไม่เค็มแล้ว เว้นแต่เราจะเผลอเติมเกลือเข้าไปอีก เราก็ต้องเติมน้ำเข้าไปใหม่จึงจะหายเค็ม


0
ขอตอบ 10 พ.ค. 55 เวลา 16:53 น. 11

ถึง คห.9&nbsp 
สำหรับคนที่ไม่สนนรก-สวรรค์ล่ะ&nbsp จะทำยังไง
.....................................................................................

การที่เราไม่สนใจ ไม่ใช่สิ่งนั้นมันจะไม่มี เราไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลสักหน่อย คนบอกไม่มี ถ้ามันมีมันก็คือมี บอกว่ามันมี ถ้ามันไม่มีก็คือไม่มี คุณเชื่อเรื่องความยุติธรรมมีจริงมั้ยล่ะ ?&nbsp เพราะถ้าคุณเชื่อ นรกสวรรค์ก็มีอยู่จริง เพราะทำบาปก็ต้องถูกลงโทษก็คือนรกงัย ถ้าคุณไม่เชื่อแล้วคุณคิดว่าคนที่ทำชั่วแต่ร่ำรวยมาตลอดไม่เคยถูกตำรวจจับถึงเวลาตายก็นอนหลับตายไปแบบสบายๆ คุณคิดว่าเค้าจะไปอยู่ไหน ? ให้กลับไปคิดดู
เช่นกัน พระเจ้ามีจริง ต่อให้คุณปฏิเสธ พระเจ้าก็ยังคงอยู่แบบนั้นล่ะ

สวัสดี

0
binti Abd-HaD 10 พ.ค. 55 เวลา 16:59 น. 12

ไม่ใช่ทุกคนที่ตกนรก


ตามหลักอิสลามน่ะนะ


PS.  แค่เราเป็นคนดี คิดดี ทำดี ต่อให้อยู่ในช่วงที่มืดมนที่สุดของชีวิต เราก็จะพบแสงสว่างและทางออก อิงชาอัลเลาะฮ์
0
DRAMA QUEEN 10 พ.ค. 55 เวลา 18:03 น. 13

เราก็ไม่เคยปฏเสธว่าพระเจ้าไม่มีจริงนะ แต่เราก็มีมุมมองเกี่ยวกับพระเจ้าในแบบของเราที่เขียนแบบนั้นเพราะต้องการจะสื่อว่า การเอานรกมาขู่มันใช่ไม่ได้กับทุกคน ถึงจะมีจริง คนบางคนก็ไม่สนใจหรอก เขาสนแค่วันนี้พรุ้งนี้ ตอนตายนั่นอีกเรื่องนึง คนแบบนี้มีเยอะนะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรใส่ใจคือชีวิตขณะที่ยังหายใจ ไม่ใช่ชีวิตหลังความตาย เพราะ "นรก" จริงไม่ต้องรอให้ตาย เคยได้ยินไหม "สวรรค์ในอก นรกในใจ" ถึงการทำดีอย่างเดียวสำหรับบางศาสนาอาจจะบอกว่าไม่สามารถช่วยให้ขึ้นสวรรค์ได้  แต่อย่างลืมทุกครั้งที่เราทำสิ่งดีๆเอาไว้ความสุขใจจากความดีนั้นจะอยู่กับเราเสมอ ความสุขนั้นก็คือการขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น  การทำความชั่วก็เช่นกัน เมื่อคุณทำสิ่งไม่ดีคุณก็จะรู้สึกไม่ต่างจากตกนรกหรอก
ทุกข์หรือสุข  มันอยู่ที่ใจ
ขึ้นสวรรรค์-ลงนรก (บนดิน)  มันก็อยู่ที่ใจ


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2555 / 00:28


PS.  group dhamma wa wa wow http://group.dek-d.com/autto002/
0
ขอตอบ 11 พ.ค. 55 เวลา 08:01 น. 14

ถึง คห.13
เราก็ไม่เคยปฏเสธว่าพระเจ้าไม่มีจริงนะ แต่เราก็มีมุมมองเกี่ยวกับพระเจ้าในแบบของเราที่เขียนแบบนั้นเพราะต้องการจะสื่อว่า การเอานรกมาขู่มันใช่ไม่ได้กับทุกคน ถึงจะมีจริง คนบางคนก็ไม่สนใจหรอก เขาสนแค่วันนี้พรุ้งนี้ ตอนตายนั่นอีกเรื่องนึง คนแบบนี้มีเยอะนะ
..........................................................................
ตอบ :
อ่าผมเข้าใจๆ แต่อันนี้ผมก็ขอตอบซ้ำนะ "มันเป็นเรื่องของเขา" แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ "ตัวคุณ" เรื่องจะเชื่อไม่เชื่อมันเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับ แต่ถ้ามันจะมีอยู่ต่อให้ไม่เชื่อมันก็มีอยู่อย่างนั้นแหละ เหตุผล(ส่วนหนึ่ง)ที่มันมีอยู่ก็ตามที่ผมอธิบายไว้ใน คห.11

...........................................................................

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรใส่ใจคือชีวิตขณะที่ยังหายใจ ไม่ใช่ชีวิตหลังความตาย เพราะ "นรก" จริงไม่ต้องรอให้ตาย เคยได้ยินไหม "สวรรค์ในอก นรกในใจ" ถึงการทำดีอย่างเดียวสำหรับบางศาสนาอาจจะบอกว่าไม่สามารถช่วยให้ขึ้นสวรรค์ได้&nbsp แต่อย่างลืมทุกครั้งที่เราทำสิ่งดีๆเอาไว้ความสุขใจจากความดีนั้นจะอยู่กับเราเสมอ ความสุขนั้นก็คือการขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น&nbsp การทำความชั่วก็เช่นกัน เมื่อคุณทำสิ่งไม่ดีคุณก็จะรู้สึกไม่ต่างจากตกนรกหรอก
ทุกข์หรือสุข&nbsp มันอยู่ที่ใจ
ขึ้นสวรรรค์-ลงนรก (บนดิน)&nbsp มันก็อยู่ที่ใจ

................................................................................
ตอบ : มันเป็นไปตามหลักการหว่านพืชอะไรย่อมได้ผลอย่างนั้น หรือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ซึ่งก็โอเคอยู่แล้ว และก็โอเคอีกเช่นกันที่คุณบอกว่า "ควรใส่ใจคือชีวิตขณะที่ยังหายใจ" แต่การที่คุณพยายามที่จะบอกปัดประเด็นเรื่องชีวิตหลังความตายออกไปหรือพยายามลดความสนใจที่มีต่อมันลงอันนี้ผมไม่โอเค เพราะมันเป็นประเด็นที่ทำให้คุณพยายามแสวงหาทางรอดที่แท้จริงให้เจอ ! จงอย่ามัวพอใจอยู่กับแค่สิ่งชั่วคราวในโลก ทำดีก็มีความสุข ถึงมันจะเป็นสิ่งที่ดีแต่มันก็เป็นสิ่งชั่วคราว สักพักมันก็ค่อยๆจางไปเหมือนน้ำหอม ขอย้ำมันเป็นผลตอบแทน ชั่วคราวที่คุณได้รับเท่านั้น ! อย่ามองการณ์ใกล้ ให้มองการณ์ไกลด้วยครับ โลกมันก็เป็นสิ่งชั่วคราวถึงแม้คุณจะบอกว่ายังเหลืออีก 2500 ปี แต่ขอโทษครับมันใกล้เวลาของมันแล้ว(ดูข่าวก็จะรู้) เตรียมตัวให้พร้อม ! พระเจ้าส่งพระคริสต์มาช่วยคุณแล้วอย่าดื้อดึงต่อไปเลยพี่น้องที่รักไม่มีประโยชน์อะไรที่จะยึดติดกับศาสนา นี่มันไม่ใช่เรื่องของศาสนา มันเป็นเรื่องของชีวิต และความจริงๆแท้ๆมีแค่อันเดียว! ทางรอดมีทางเดียวเท่านั้น !&nbsp และพระเยซูก็บอกแล้วว่า "เราคือทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต"

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

0
มนุสนิริโย 11 พ.ค. 55 เวลา 10:32 น. 15

          สัตว์ที่ยกจิตตนขึ้นสู่โลกุตตระภูมิ ๙ (โสดาปฏิมรรค - โสดาปฏิผล, สกิทาคามีมรรค - สกิทาคามีผล, อนาคามีมรรค - อนาคามีผล, อรหัตมรรค - อรหัตผล, นิพพาน) 
          บุคคลทั้ง ๙ ไม่มีตัวไม่มีตน ความตายก็ดี อบายภูมิก็ดี มองท่านไม่เห็น ตามท่านไม่ทัน นอกจากนั้นเตรียมตัวไว้ให้ดี


PS.  [ตรรกะที่ขาดจินตนาการก็เป็นเพียง ทิฐฐิ มานะ] [จินตนาการที่ขาดตรรกะก็เป็นเพียง อุธธัจจะ ดีๆ นี่เอง]
0
DRAMA QUEEN 11 พ.ค. 55 เวลา 10:44 น. 16

 ขอบตอบคหที่ 14  เราก็มองการณ์ไกลเอาไว้แล้วล่ะ เป้าหมายของฉันคือการบรรลุเป็นอริยะบุคคลในอนาคต คนที่เป็นอริยบุคคลได้นั้น ไม่มีทางลงนรกเด็ดขาด  เป้าหมายของเราคือ ไม่มีเกิด ไม่มีตาย ไม่ใช่สวรรค์นิรันดร์  เราไม่อยากเกิดอีกมากกว่า


 เอาเป็นว่าถ้าเราบรรลุเป็นอริยะบุคคลเมื่อไหร่ ตอนนั้นเราก็คงถอดจิตไปคุยกับพระเจ้าด้วยตัวเองได้ เอาเป็นว่าเราจะไปถามพระเจ้าเองก็แล้วกัน เพราะความสามารถพวกไปดูนรก-สวรรค์เนี่ย มันได้ตั้งแต่สมาธิขั้นต้นๆแล้ว  ไม่ต้องรอถึงระดับอริยะหรอก


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2555 / 10:56
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2555 / 11:10


PS.  group dhamma wa wa wow http://group.dek-d.com/autto002/
0
ขอตอบ 11 พ.ค. 55 เวลา 11:22 น. 17

คห.17&nbsp 
ผมทำได้แค่บอกแหละนะ การตัดสินใจคือของคุณ แต่เปลี่ยนแปลงได้เสมอตราบเท่าที่มีลมหายใจ พระเจ้ารอคุณอยู่เสมอตราบเท่าที่มีลมหายใจ...

0
พพพ 11 พ.ค. 55 เวลา 11:53 น. 19

แค่คิด แต่ยังไม่ลงมือทำ ถือว่าเป็นบาปทำให้จิตใจเศร้าหมอง
แต่ "ไม่ถือว่าผิดศีล" จ้าาา&nbsp  คนที่ตกนรกคือคนที่ทำผิดศีลเลย คือทั้งคิดและลงมือทำจริงๆ

เช่น นาย&nbsp ก&nbsp คิดจะฆ่าหมู แต่ไม่ฆ่า&nbsp  ------>ยังไม่ผิดศีล
&nbsp &nbsp &nbsp นาย&nbsp ข&nbsp คิดจะฆ่าหมู และลงมือฆ่า จนมันตาย------->อันนี้ผิดศีล เตรียมตัว ไปรับโทษจ้าาา

0
min 11 พ.ค. 55 เวลา 12:40 น. 20

คห 16&nbsp 

เราไม่ได้เลือกพระเจ้า แต่พระเจ้าต่างหากที่เลือกเรา !อย่างที่ คห 11 17 บอก

พระเจ้ารักคุณนะ ลองแสวงหาพระองค์ดูสักครั้ง&nbsp !
-----------------------------
"คนป่วยต้องการหมอ แต่คนสบายดีนั้นไม่ต้องการ" ฉันใด ความบาปก็ไม่ต่างกัน ฉันนั้น
( ผู้ที่ไม่คิดว่าตัวเองบาปเค้าก็จะไม่ต้องการผู้ไถ่บาป )

พระเจ้าเป็นพระเจ้าของคนยากจน เป็นพระเจ้าของคนบาป และเป็นพระเจ้าของคนไม่สมบูรณ์ และเป็นของทุกคนที่ต้องการพระองค์ และไม่ต้องการพระองค์ด้วย&nbsp "เราเป็นซึ่งเราเป็น"

0