ทำไมถึงเกิด นิทานชาดก เหรอคะ ??
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
11 ความคิดเห็น
เรียกว่า พระพุทธเจ้านะครับผม  ไม่ใช่พระภัทธเจ้าครับ
ผมเป็นคนธรรมดาครับมิได้นับถืออะไรนอกจากปัญญาของตัวเอง แต่ก็พอจะอธิบายได้บ้างนะครับด้วยปัญญาอันนิดหน่อยนี้  ตามว่าครับพระพุทธศานานั้นสอนเรื่องกรรมและการเวียนว่ายตายเกิดนะครับ แต่อย่าไปติดอยู่ในกรรมอันจะไม่เป็นการขวานขวายประโยชน์แห่งตน ใครทำกรรมดีก็จะส่งผลให้ไปเกิดในเกิดในภพภมฺที่ดีครับเช่นเกิดเป็นพระมหากษัตริย์บ้าง พระเจ้าจักพรรดิราชบ้าง หรือเป็นเศรษฐีบ้าง ด้วยอำนาจในกุศลธรรมที่ตนทำไว้ตอนเป็นคนอยู่บนโลก แต่ตรงข้ามกับคนที่ทำความชั่วนะครับ เหมือนกับพระคริสตศาสนานะครับต้องตกนรกแน่นอนเหมือนกัน กรรมคือการกระทำจึงเป็นแรงผลักดันนำสัตว์เหล่านั้นมาเกิดเป็นพระเจ้าจักพรรดิราชบ้าง หรือเป็นเศรษฐีบ้าง  หรือเป็นสัตว์เดียรัจฉานบ้างตามอำนาจแห่งกรรมที่ตนกระทำไว้จะเป็นตัวส่งผลนำสัตว์มาเกิดเป็นไปต่างๆนาๆตามอำนาจแห่งกรรม  ส่วนนิทานชาดกไม่ได้รับการดลใจอะไรหรอกครับเป็นพระชาติหนึ่งที่พระโพธิสัตย์ไปจุติบำเพ็ญบารมีเพื่อจะได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าเป็นการเกิดในแต่ละครั้งจะแตกต่างกันไปตามอำนาจกรรมเหมือนกันส่วนจะเว้อหรือไม่เว้อผมก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันเหมือนกับศาสนาทั่วไปที่เป็นเทวนิยม ที่รอการกลับมาของพระผู้เป็นเจ้าหรือการเข้าไปอยู่กับพระผู้เป็นเจ้ามันก็เว้อๆๆเหมือนกันแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็น่าจะได้คติเตือนใจจากนิทานชาดกสามารถนำมาเป็นคติเตือนใจในชีวิตประจำวันมันน่าจะมีประโยชน์อยู่บ้างนะครับ  สุดท้าย ขอพระพุทธเจ้า ขอพระผู้เป็นเจ้า อวยพรแด่คุณนะครับ
เพราะชาวพุทธเชื่อเรื่องเวียยนว่ายตายเกิดค่ะ เราไม่ได้เกิดมาแค่ครั้งเดียวเหมือนกับคริสต์ ที่ตายแล้วก็ขึ้นสรรค์-ลงนรก ตลอดกาล
ชาวพุทธเชื่อว่าคนเราเกิดแล้วตาย เกิดแล้วตาย มาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชาติ เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้เพิ่มเติมให้แอดเฟสเรามาละกันจะอธิบายส่วนตัวให้ (Ploynapuss Worakan)เพราะถ้าจะให้พูดคงยาวๆๆๆๆมากกกกกก
เรื่องชาดก อธิบ่ยง่ายๆก็คือชาติก่อนๆของพระพุทธเจ้า ก่อนที่ท่านจะตรัสรู้ไง คือจะว่าเวอร์ไหมก็แล้วแต่คนจะมองนะ แต่ทุกสิ่งไม่ได้เกิดจากพระเจ้าดลใจจ๊ะ สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับชาวพุทธไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นธรรมชาติ เพราะแม้แต่พระุทธเจ้าก็ไม่อาจพ้นจากกฏแห่งธรรมชาติได้ สำหรับชาวพุทธถ้าจะถามว่าพระเจ้ามีจริงไหม ก็ตอบได้ว่ามี แต่ไมม่ได้เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกแบบคริสต์ คือมันจะมีพระสูตรในพระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่าแท้จริงพระเจ้าที่เป็นผู้สร้างโลกน่ะคืออะไรในทรรศนะของพระพุทธเจ้า ท่านจะบอกเลยว่าท่านรู้อะไรมาบ้าง
พระพุทธเจ้าท่านไม่ใช่แค่ครูของมนุษย์แต่เป็นครูของเทวดาด้วย ถ้าจะอธิบาย ก็คงยาวอีกนั่นแหละ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 10 พฤษภาคม 2555 / 20:07
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 10 พฤษภาคม 2555 / 20:09
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 10 พฤษภาคม 2555 / 20:27
PS. group dhamma wa wa wow http://group.dek-d.com/autto002/
มีเพชรอยู่ในชาดกเยอะเลยครับ ใครอ่านดีเหมือนได้เพชร
PS. เมตตา และ ปัญญา เป็นที่มาของความสุข
ชาดกเป็นเรื่องในอดีตชาติของพระพุทธองค์ เมื่อครั้งดำรงเป็นพระโพธิสัตว์
ศาสนาพุทธกล่าวถึงเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด (รวมถึงพราหมณ์ ฮินดู ก็กล่าวไว้เช่นกัน) คือ ตราบใดยังมีเหตุ ก็ย่อมต้องมีผลตามมาอย่างแน่นอน เมื่อดับที่เหตุได้ ก็เป็นอันสิ้นสุด
ชาดกเป็นเรื่องของการสอนในเรื่องต่างๆ มากมาย ไม่ว่า จะเป็นการเสียสละ การประพฤติปฏบัติที่ดี ฯลฯ ซึ่งนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้นะ
และที่สำคัญคือสอนให้รู้ว่าบาปบุญ คุณโทษ มีจริง นรกสวรรค์มีจริง ให้เห็นภัยในวัฏฏะนี้ แล้วก้าวออกอย่างผู้มีปัญญา เช่นพระพุทธองค์ และพระสาวกทั้งหลาย
และยังแสดงให้เห็นอีกว่าแม้แต่พระองค์เอง ผู้ซึ่งจะมีอันตรัสรู้ในภายหน้าเมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ และครั้งตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งยิ่งใหญ่แล้ว ก็ล้วนหนีไม่พ้นอำนาจของกรรมได้เลย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 10 พฤษภาคม 2555 / 22:42
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 10 พฤษภาคม 2555 / 22:41
ที่พระเยซูยังเกิดมาโดยที่มารีอายังเวอร์จิ้นได้
พระเยซูรักษาคนตาบอดได้ และทำอภินิหารต่างๆ ได้ (เรายังไม่เห็นว่าเวอร์เลยนะ)
แล้วทำไมพระพุทธเจ้าท่านมีเรื่องเวอร์แบบนั้นบ้างไม่ได้ นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว พระสาวกทั้งหลายก็สามารถทำเรื่องเวอร์ๆที่เรียกว่าอภินิหารได้อีก(ถ้าท่านอยากจะทำ)
ถ้าคุณคิดว่าเรื่องชาดกมันเวอร์ ศาสนาเราทั้งคู่ก็เวอร์ได้พอๆกันนั่นแหละ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2555 / 10:27
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2555 / 13:55
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2555 / 13:50
PS. group dhamma wa wa wow http://group.dek-d.com/autto002/
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะว่า ศาสนาพุทธมีความเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด คือ เราจะไม่ได้เกิดมาแค่ชาติเดียว แต่เราเกิดมาไม่รู้กี่ล้านชาติแล้ว นับประมาณไม่ได้ และหากเรามีความดีมากพอก็ไปเกิดในสวรรค์ ไปเป็นเทวดา ไปเป็นพรหม แล้วพอหมดบุญก็ลงมาเกิดใหม่ หากมีบาปตามมาทันก็ลงไปเกิดในนรก ไปเกิดในเปรตภูมิ ไปเกิดในเดรัจฉานภูมิ หากยังมีบุญพอก็ไปเกิดเป็นมนุษย์
พระโพธิสัตว์คือผู้ที่ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า ชาดกคือเรื่องของพระพุทธเจ้าในสมัยยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ โดยพระโพธิสัตว์เองนั้นก็ยังมีความดีความชั่ว เคยทำชั่วจนตกนรกก็มี ไปเป็นเดรัจฉานก็มี เป็นมนุษย์เป็นเทวดาก็มี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ในชาดกจะมี เป็นลิงบ้าง มนุษย์บ้าง เทวดาบ้าง เป็นกษัตริย์บ้าง พราหม์บ้าง จัณฑาลบ้าง
ส่วนที่ำทำไมถึงมีการแสดงชาดก มันไม่ใช่เรื่องของอะไรมาดลใจค่ะ แต่เป็นการแสดงอดีตชาติที่พระพุทธเจ้าเคยเป็นมาก่อน มาเป็นคำสอนให้พุทธบริษัทได้ฟัง
เป็นอย่างนั้นแหละครับ พุทธะ แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
คือ พอรู้ความจริงแล้วก็ตื่นจากความหลง พอไม่หลงแล้ว แม้มีทุกข์จากภายนอกเข้ามา ก็เป็นแต่เพียงผู้เห็น ไม่ได้เป็นทุกข์ไปด้วย จึงมีความเบิกบานอยู่ภายในจิตใจ เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น
ศาสนาพุทธ คือ ศาสนาของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
หลวงพ่อชา ท่านสอนลูกศิษย์ว่า เห็นทุกข์ ไม่มีทุกข์
จขกท นับถือศาสนาคริสต์ คงจะงง ว่า เอ ทำไมศาสนาพุทธมองโลกในแง่ร้ายจัง พูดแต่เรื่องทุกข์
ศาสนาพุทธไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แต่มองโลกตามความเป็นจริง อะไรเป็นความจริงศาสนาพุทธยอมรับหมด
เห็นทุกข์ ไม่มีทุกข์ น่าแปลก แปลกจริงๆ พอเห็นทุกข์ปุ๊บ ไม่มีทุกข์
แต่เราต้องรู้ก่อนว่าทุกข์อยู่ที่ไหน
สมมุติ เราเดินอยู่ในห้าง มองเห็นเค้กที่หน้าตาน่ากินชิ้นนึงอยู่ในตู้กระจก เราอยากจะกินมาก แต่วันนั้นพอดีถือศีล8 กินหลังเที่ยงไม่ได้
คำถามถามว่า การที่เราอยากกินเค้กชิ้นนั้นมาก ความทุกข์อยู่ที่ไหน?
ความทุกข์ก็อยู่ที่ใจเรานั่นเอง เค้กไม่ใช่เป็นความทุกข์ เค้กมันก็อยู่ของมันดีดี แต่เรากลับไปอยากกินมันเอง ใจของเรานี่แหละเป็นเหตุให้เกิดทุกข์
ความทุกข์อยู่ที่ใจ เพราะฉะนั้นการแก้ความทุกข์ ก็ต้องแก้กันที่ใจ มันถึงจะจบเรื่อง ถ้าไปแก้ความทุกข์ด้วยการสนองความอยาก ชาตินี้ก็ไม่จบ ชาติหน้าก็ไม่จบ
วันนี้ไม่มีอะไร แค่อยากจะแสดงธรรมเฉยๆ ^ ^
"นัตถิ ตัณหา สมา นที"
ทำไมต้องศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับชาดป
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?