การฆ่าตัวตาย
ตั้งกระทู้ใหม่
เพราะส่วนมากการฆ่าตัวตาย ก็ไม่่ทำให้ใครเดือดร้อน มักเกิดจากความกดดันหลายอย่าง แบบอยุ่ก้รอวันตาย แต่ก๋มีไม่กี่คนแหละ ที่ตายเพราะขาดสติ หรือเมา
คือถ้าไม่อยากให้ฆ่าตัวตาย ทำไมฟ้าดินที่ต้องให้คนคนนั้นเจอกับเรื่องร้ายแรงหรอครับ
KiWaVa
11 พ.ค. 55 เวลา 18:04 น.
860
views
18 ความคิดเห็น
ฆ่าตัวตาย , บาปนะ .. ทำลายชีวิตของตัวเอง
ใครบอกว่าฆ่าตัวตายเเล้วไม่เดือดร้อน พ่อเเม่หล่ะ , ลูกฆ่าตัวตายท่านเป็นทุกข์เเน่นอน .
เเล้วถ้าเกิดอยากฆ่าตัวตายเเล้วมันไม่ตาย ยังไม่ถึงเวลาตาย , พิการ คนรอบข้างเดือดร้อน .
ตัวเราเองก็เดือดร้อน , สร้างบาปใหญ่ให้ตัวเอง
เรื่องร้ายเเรง ความกดดันอะไรต่างๆ ที่เกิดขึ้น , เรามองว่ามันเป็น 'ปัญหา'
มีหลายคนเยอะเเยะนะที่มีปัญหา .. เเต่เค้าก็ไม่ได้จบปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย
ปัญหาบางเรื่อง .. ฟ้าติดอาจจะไม่ได้กำหนดให้เราเจอ . เเต่เป็นตัวเองเราที่เป็นตัวกำหนดปัญหา .
PS. YM'Yokizbaer , YMoexe คิดถึงมากรู้ไำหม ? ยังรอวันที่เราจะกลับมาพบกัน :(
บาปแน่นอนค่ะ ตอบเป็นประเด็นไปนะคะ
"ส่วนมากการฆ่าตัวตาย ก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน"
- เดือดร้อนแน่นอนค่ะ ทั้งผู้ตายเองและคนรอบข้าง หากผู้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็เดือดร้อนลูกหลาน หากผู้ตายเป็นวัยรุ่นก็เดือนร้อนพ่อแม่ เดือดร้อนหมู่ญาติ และหากไม่มีครอบครัวเหลืออยู่เลย ก็ยังเดือดร้อนสังคมคนรอบข้าง หากฆ่าตัวตายด้วยการกินยาล้างห้องน้ำ เดือดร้อนคนพบศพ เดือดร้อนตำรวจ เดือดร้อนปอเต็กตึง หากฆ่าตัวตายโดยการวิ่งให้รถชน ก็เดือดร้อนคนที่ขับชนถูกสังคมตราหน้าว่าฆาตกร กระโดดตึกตาย ก็เดือดร้อนคนเก็บศพ เจ้าของสถานที่ โรงพยาบาล ฯลฯ
ทุกปัญหามันมีทางออกเสมอ เพียงแต่คนเราไม่ฝึกสติ แล้วก็วิ่งหนีหาทางออกแบบผิดๆค่ะ การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออกเสมอไป จริงอยู่ว่ามีชีวิตรอความตาย แต่ว่าชีวิตทั้งชีวิตไม่ได้เป็นทุกข์ตลอดไป ความทุกข์มันมี แต่มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลาหรอก คนที่คิดฆ่าตัวตายเป็นพวกหลงผิดคิดว่าเราจะทุกข์ตลอดไป ความทุกข์มันมีเกิดขึ้น สักวันมันก็จะจางหายไป เหมือนกับความสุข เรามีความสุขแต่ความสุขเองก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา ไม่นานมันก็จางหายไปเหมือนๆกับความทุกข์
ตามคติพุทธแล้ว คนที่ตายด้วยจิตใจที่เศร้าหมอง ไม่มีทางไปเกิดในสุขคติภูมิได้เลย มีแต่อบายภูมิเท่านั้นเป็นที่ไป แล้วการฆ่าตัวตาย ย่อมไม่ได้ทำด้วยจิตใจที่แจ่มใสเป็นแน่ ดังนั้นการฆ่าตัวตายเมื่อทำลงไปแล้วอบายภูมิกำลังรอคุณอยู่
"ทำไมฟ้าดินที่ต้องให้คนคนนั้นเจอกับเรื่องร้ายแรงหรอครับ"
- ฟ้าดิน ไม่ใช่กำหนดชีวิตคน แต่สิ่งที่กำหนดชีวิตคน ก็คือกรรมที่เขาได้กระทำมาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกรรมในชาติปัจจุบัน หรือกรรมในอดีตชาติ สรุปคือใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ฟ้าดินไม่สามารถลิขิตได้ ทุกอย่างเป็นเพราะกระทำกรรมนั้นๆเอง เมื่อได้รับผลกรรม แล้วทนไม่ได้ เลยไปทำกรรมใหม่อย่างการฆ่าตัวตาย จากนั้นก็จะได้รับผลกรรมนั้นต่อไป หากคนเราคิดว่าเป็นการใช้กรรม แทนที่จะไปฆ่าตัวตาย จากนั้นแล้วหมั่นประกอบกรรมดีให้มากขึ้น ชีวิตมันก็จะดีขึ้นเองแหละค่ะ เรื่องร้ายแรงในชีวิต หากผ่านมันมาได้ คนๆนั้นจะเข้มแข็งขึ้น กลับกัน การฆ่าตัวตายหนีปัญหา ไม่ใช่ทางออกที่ดีค่ะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2555 / 20:12
บาปดิเพราะการฆ่าตัวตายเป็นการทำร้ายตัวเองและวิญญาณก้อจะเร่ร่อน
เพราะส่วนมากการฆ่าตัวตาย ก็ไม่่ทำให้ใครเดือดร้อน"
หัวใจของศีล คือ การไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น การที่เราฆ่าตัวตาย เป็นการเบียดเบียนตัวเราเอง และบางครั้ง ก็ทำให้คนรอบข้างต้องเสียใจไปด้วยเช่น พ่อ แม่ เป็นต้น จึงเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นไปด้วย คนที่ฆ่าตัวตาย เมื่อเกิดใหม่แล้ว หากมีโอกาสเป็นคนอีก ด้วยอุปนิสัยที่สั่งสมมา ก็คิดฆ่าตัวตายอีก เป็นทุกข์ไม่จบไม่สิ้น
"ถ้าไม่อยากให้ฆ่าตัวตาย ทำไมฟ้าดินที่ต้องให้คนคนนั้นเจอกับเรื่องร้ายแรงหรอครับ"
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ชีวิตคือทุกข์ หรือทุกขสัจจะ ทุกคนทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้ ต่างก็ต้องพบเจอเรื่องราวที่ไม่ปราถนากันทั้งนั้น ลองมองดูคนอื่นๆก็เหมือนกับเรา คือมีทุกข์เหมือนกัน ไม่ทุกข์เรื่องนั้นก็ทุกข์เรื่องนี้
เราก็ต้องทำใจยอมรับว่า เมื่อมีชีวิตอยู่ มันก็มีปัญหา มีอุปสรรคทั้งนั้น มันเกิดจากกรรมเก่าที่ไม่ดีของเรา อันนี้มีสาเหตุมาจากอย่างนั้น คือไม่ใช่ว่า ความทุกข์มันไม่มีสาเหตุ หรือมาลอยๆ มันมีที่มาที่ไป สามารถสาวหารู้เหตุได้ ซึ่งสาเหตุก็มาจากการกระทำของเรานั่นแหละ เป็นผลจากกรรมที่ไม่ดีของเรา อันนี้ต้องลองสังเกตุดู
อย่างไรก็ตามความทุกข์ก็เหมือนกับ ลมฟ้าอากาศ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวพายุเข้า เดี๋ยวท้องฟ้าก็ปลอดโปร่ง คือ ความทุกข์ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป เวลาเรามีทุกข์คิดอะไรไม่ออก เราก็นั่งรอให้มันผ่านไปก็ได้ รับประกันว่ามันจะต้องผ่านไป
การคิดฆ่าตัวตายเป็นเหมือนกับลมชั่ววูบ คือลมเวลามันพัดมาวูบนึง แล้วก็ผ่านเราหายไป แต่คนที่ฆ่าตัวตาย ใจเร็วไปหน่อย พอทุกข์มากๆหาทางออกไม่ได้ปุ๊บ ตัดสินใจฆ่าตัวตายทันที จริงๆถ้ารออีกสักหน่อยก็จะเปลี่ยนใจ พอมีสติแล้วก็คิดได้
อันที่จริงความสุขนี้พระพุทธศาสนาก็สอนนะ ทำดี ได้ดี คือกรรมดีของเราก็ให้ผลเป็นความสุข ความสบายใจของเรา ความสุขเห็นผลได้ในทันทีก็มี เห็นผลได้ในอนาคตก็มี หรือ ทำชั่ว ได้ชั่ว เห็นผลได้ในทันทีก็มี อันนี้เรามีวิธีการพิสูจน์ เวลาออกไปข้างนอก เห็นผู้ชายที่หน้าตาโหดๆกล้ามใหญ่ๆหน่อย แล้วลองเดินเข้าไปตบหัวเขาดู แบบเอาให้หัวทิ่มเลยนะ จะได้เห็นชัดๆแบบทันตาทันใจว่า ทำชัว ได้ชั่วจริงๆ หรือ การทำความดีก็เหมือนกัน อาจจะเห็นผลทันตาก็ได้ เช่น ทำจิตใจให้สงบ อันนี้เรียกว่าใจเป็นศีล ความสุขสงบเกิดขึ้นทันที หรือใครปราถนาจะได้อะไรก็อาจจะได้สมความปราถนาด้วยอำนาจแห่งความดีของเรา
เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามกรรมของเรา และทุกคนที่เกิดมาก็มีทั้งกรรมดีและกรรมชั่วคละเคล้ากันไป เวลากรรมดีให้ผล เราก็มีความสุข เวลากรรมชั่วให้ผล เราก็มีความทุกข์ พระพุทธเจ้าจึงสอนว่าให้ละความชั่ว ทำแต่ความดี ชำระจิตใจให้ขาวรอบ
ก็เป็นการทำลายชีวิตตัวเอง ฆ่าสิ่งมีชีวิตก็คือฆ่าตัวเอง คิดดูสมมุติคุณฆ่าแมว คุณก็คิดว่าบาป แล้ว แล้วกับตัวเองล่ะก็เหมือนกัน สิ่งที่บาปมากที่สุดคือการฆ่าตัวตาย คนเราไม่ได้เกิดมากันง่ายๆ ต้องอาศับคุณงามความดีกันเป็นหลายๆชาติ คุณอาจจะไม่เดือดร้อน ไม่เสียใจ และคนที่คุณรักไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครอบครัว เพื่อน พวกเขาจะเสียใจมากแค่ไหน
กำลังอยากฆ่าตัวตายเหมือนกัน เราเป็นโรคซึมเศร้ามา 2 ปีกว่าแล้วทรมานสุดๆๆๆๆ มันไม่มีแรงอยากทำอะไรเลย ชอบเหม่อลอย ชอบนั่งหัวเราะคนเดียว พูดคนเดียว เพื่อนก็กลัวไม่อยากคบ การเรียนก็ตกติด 0 ตลอด ชอบคิดในแง่ร้าย คิดด่าพ่อด่าแม่ คิดด่าพระด่าเจ้า คิดคำหยาบต่างๆนานา(คือเราไม่ได้ตั้งใจอ่ามันเป็นอาการของโรค)เป็นมานานมากแล้ว ชอบเห็นภาพหลอน หูแว่ว เกือบตลอดเวลา
ที่เราให้ฟังนี่ เราแค่อยากให้คุณรู้ว่า "คุณไม่ได้เป็นคนเดียวในโลกที่มีความทุกข์"มนุษย์ทุกคนเกิดมา ทุกข์สุข เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ สุดแล้วแต่เวรแต่กรรม
อยากถามว่าทำไมฆ่าตัวตายแล้วบาปหรอครับ ??
การฆ่าตัวตายเป็นบาปหนัก ทำให้พ่อแม่และครอบครัวเราเสียใจ ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่
การฆ่าตัวตายก็เหมือนการฆ่าพ่อแม่ทางอ้อม การทำให้พ่อแม่ของเราทรมานทั้งกายใจ ย่อมเป็นบาปหนักมหันต์
แค่คิดจะฆ่าตัวตายก็บาปแล้วววว 
อยากให้คุณคิดซะว่า ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้และแน่นอนในโลกนี้ เราเองยังเชื่อว่าสักวันเราต้องหายเป็นปกติ คุณเองก็เหมือนกันเราเชื่อว่าสักวันคุณต้องพบเจอกับสิ่งดีดีในชีวิตตามมา
เคยได้ยินไหม "ปัญหาคือบททดสอบชีวิต"ทุกปัญหาก็ย่อมมีทางออกเสมอ
และความตายเองก็ไม่ใช่ทางออกของชีวิต
ทุกวันนี้เราสวดมนต์ก่อนนอนทุกวัน เลย จะบอกให้^^
อ่าอยากรู้ว่าเรื่องร้ายแรงของคุณน่ะคือเรื่องอะไร บอกได้นะ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ช่วยเหลือกันได้
ถ้าสมมติแบบ มีคนเป็นมะเร็งเงี้ย เห็นอาจารย์ผมบอกว่าคนเป็นมะเร็ง(ตายแน่ๆ)จะทรมานและเสียค่าใช้จ่ายเยอะ อันนี้บาปป่าวมั้ย ถ้าบาปนี่ บาปน้อยหรือบาปมากกว่ากรณีอื่นรึป่าวครับ 
ถ้าจะพูดเรื่องกรรมเก่าจริงๆ ผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมเลยอะครับ
คนตายไป ก้จะถูกลบความจำในชาติที่แล้วออกหมด ก็เหมือนเป็นคนใหม่แล้ว เรื่องที่ผ่านมา ลืมๆมันไปไม่ได้หรอ คือบางทีเห็นก็ขัดๆนะ แบบคนเลวๆๆๆ กลับได้ดี ส่วนคนทำดี โดนกลั่นแกล้งเงี้ย มันดูไม่ค่อยยุติธรรมเลยอะ ถ้าทำชาตินี้ก็ควรได้รับในชาตินี้ให้มันจบๆไปสิ มันดูเหมือนแกล้งกันเลย
ออ ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เห้นช่วงนี้มีข่าวฆ่าตัวตายบ่อย เลยถามดูน่ะครับ
"ถ้าสมมติแบบ มีคนเป็นมะเร็งเงี้ย เห็นอาจารย์ผมบอกว่าคนเป็นมะเร็ง(ตายแน่ๆ)จะทรมานและเสียค่าใช้จ่ายเยอะ อันนี้บาปป่าวมั้ย ถ้าบาปนี่ บาปน้อยหรือบาปมากกว่ากรณีอื่นรึป่าวครับ
ถ้าจะพูดเรื่องกรรมเก่าจริงๆ ผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมเลยอะครับ"
- มันไม่บาปน้อยกว่าหรอก เท่ากันนั่นแหละ ถึงจะเป็นมะเร็งตายแน่นอน แต่เรามีวิธีที่รอความตายแบบไม่ให้ใจเศร้าหมอง เตรียมทำใจได้ ก็อย่างที่บอกค่ะ ฆ่าตัวตาย คือฆ่าชีวิตตัวเอง และตอนที่กระทำจิตใจก็เศร้าหมอง หากเรารอต้อนรับความตาย เราได้ฝึกจิตให้ดีแล้ว หากจิตก่อนตายไม่มีความเศร้า เราก็จะได้ไปสุขคติภูมิ สำคัญตอนจิตก่อนตายนี่แหละ ถ้าเรารู้ว่าต้องตายแน่ๆ แทนที่จะส่งตัวเองลงอบาย ก็จัดการฝึกจิตใจเตรียมรอรับดีกว่า
"คนตายไป ก้จะถูกลบความจำในชาติที่แล้วออกหมด ก็เหมือนเป็นคนใหม่แล้ว เรื่องที่ผ่านมา ลืมๆมันไปไม่ได้หรอ คือบางทีเห็นก็ขัดๆนะ แบบคนเลวๆๆๆ กลับได้ดี ส่วนคนทำดี โดนกลั่นแกล้งเงี้ย มันดูไม่ค่อยยุติธรรมเลยอะ ถ้าทำชาตินี้ก็ควรได้รับในชาตินี้ให้มันจบๆไปสิ มันดูเหมือนแกล้งกันเลย"
- มันยุติธรรมที่สุดแล้วค่ะ สมมุตินะ มีคนไปโกงคนอื่นมา ผ่านไป20ปี คนคนนั้นลืมไปแล้ว งั้นคนคนนั้นก็ไม่ต้องได้รับโทษสิ ก็จำไม่ได้แล้วก็ให้มันจบๆไป เป็นแบบนี้จะดีป่าว
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 11 พฤษภาคม 2555 / 21:29
ดูข่าวเยอะๆนะ
แล้วฟังเสียงคนรอบข้าง
แล้วเอามาเทียบกับตัวเองนะ
แล้วจะรู้ว่าทำไม
PS. นี่ยังไม่ใช่ของจริง
อยากไม่มีชีวิตอยู่ ก็เป็น ตัณหา ที่เรียกว่า วิภวตัณหา - ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น
ตัณหา ก็คือต้นเหตุของทุกข์
การเบื่อตัณหาเป็นสิ่งดี แต่การเบื่อชีวิตไม่ดีนะครับ
PS. เมตตา และ ปัญญา เป็นที่มาของความสุข
แถวบ้านผมมีป้าคนหนึ่ง ผมเห็นแกมาตั้งแต่ผมยังเด็กๆ ประมาณปีที่แล้วแกล้มป่วย ไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นมะเร็ง(แต่เป็นที่ไหนผมไม่ทราบรายละเอียด) ช่วงระยะหลังๆมานี้แกต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก จนในที่สุดหมอก็ประมาณมาว่า อยู่ได้อีกไม่เกินเดือนนึง
ผมเคยฟังเพลงของบิ๊กแอ๊ส ที่เขาร้องว่า "...จะมีสักกี่คนที่รู้วันตาย..." ป้าคนนี้แกเป็นหนึ่งในนั้น เป็นคนที่พอจะรู้วันตาย ป้าแกมีลูกสาว2คน คนนึงอายุน่าจะประมาณ29 ส่วนอีกคนน่าจะประมาณ30เศษๆ ปรากฏว่าลูกสองคนนี้พอนึกถึงเรื่องที่หมอพูดทีไร ร้องไห้ทุกที เศร้าที่จะต้องเสียแม่ไป จะต้องจากกันแล้วหรอนี่?
จนประมาณปลายๆเดือนเมษายนปีนี้ อาการป้าแกก็หนักมาก ผมก็ไม่ได้ไปเห็นสภาพของป้าแกตอนนั้นหรอก ฟังจากแม่เล่ามาอีกที ต้องไปนอนอยู่ที่โรงพยาบาล กลับบ้านไม่ได้แล้ว หมอเจาะคอเป็นรูเพื่ออะไรผมก็ไม่ทราบ เวลาป้าแกสื่อสารกับคนอื่นต้องใช้วิธีเขียนใส่กระดาษเอา เพราะว่าพูดไม่ได้
ครั้งหนึ่งป้าแกเขียนอยู่6คำ คือ "ทรมาน ทรมาน ทรมาน อยากตาย อยากตาย อยากตาย" 6คำนี้เหมือนเอามีดมากรีดตรงใจของลูกทั้ง2คน ประหนึ่งว่าทรมานใจไม่น้อยไปกว่าแม่ ที่เห็นแม่ต้องทุกข์ทรมานแต่ช่วยอะไรไม่ได้
จนในที่สุดวันนั้นก็มาถึง โรงพยาบาลเขาโทรมาบอกลูกว่าแม่เสียแล้ว ให้ไปรับศพได้ นี่แหละคือที่สุดของชีวิต ความทุกข์จบไปพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของป้าแก เหลือไว้แต่ความอาลัยของลูกสาวและหมู่ญาติ
เป็นอันว่าคุณป้าก็ได้ชดใช้กรรมจบไปอีกชาติหนึ่ง
"...นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง เสี่ยงบุญกรรม ทุกคนเคยทำกรรมไว้ก่อน..." เพลงพระราชนิพนธ์ : แสงเทียน
สิ่งที่จะไปกับเราได้คงมีแต่ต้นทุนบุญกุศลกับบาปกรรม...
เหตุผลก็อ่านกระทู้อื่นเอาละกันครับ คิคิ
PS.
แน่ใจรึว่าไม่มีใครเดือดร้อนจากการฆ่าตัวตาย พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ไม่มีเลยหรอ อย่างน้อยก็ปอเต๊กตึ้งอ่ะ 555 (เอาซะหน่อยๆ)
อัตตวิบาตกรรมเป็นกรรมหนักรองจากอนันตริยกรรม แต่ก็น่าแปลกที่คนที่ก่ออัตตวิบาตกรรมจะต้องตกนรกขุมที่ร้ายแรงกว่า ไม่เข้าใจจริงๆ
ป.ล. สุดท้ายจะบอกอะไรให้ฟัง รู้เปล่า คนที่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย กับการบรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้านั้นเหมือกันอยู่อย่างนะ เพราะเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียว เน้อ!!!
PS. [ตรรกะที่ขาดจินตนาการก็เป็นเพียง ทิฐฐิ มานะ] [จินตนาการที่ขาดตรรกะก็เป็นเพียง อุธธัจจะ ดีๆ นี่เอง]
ถึงคหข้างบน แหมคนใจดี ยังมีวลามาห่วงปอเต็กตึ้งเดือดร้อนอีกเนอะ
PS. group dhamma wa wa wow http://group.dek-d.com/autto002/
�บาปนะคะ เป็นการดับวิญญาณตัวเองนะคะ�
แม้คิดว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน �แต่ชีวิตของเราทุกคนมีคุณค่านะคะ�
ถึงคุณจะมีเงินทองมากมายแค่ไหน แต่คุณก็ไม่อาจทำให้คนที่เสียชีวิตแล้วฟื้นขึ้นมาได้
คุณนึกถึงคนที่นอนอยู่ที่ รพ นะคะ �เขาก็รักษาชีวิตของเขา เขาก็มีความหวัง
คนเราต้องมีความหวังใจอยู่เสมอ�
เมื่อเราเจอปัญหา �แล้วเรามองตัวเอง ว่าทำไมเราถึงเจอปัญหาโน่นนี่นั้น�
ตั้งปัญหา และ ข้อสงสัยให้ตัวเอง ว่า ทำไม ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น อย่างนี้�
บางที เราอาจหมกมุ่นกับปัญหามากเกินไปนะคะ �หรือปัญหาที่เรายังไม่ได้รับการแก้ไข
เลยเอาทุกปัญหามารวมกัน �เราลองเปลี่ยนวิธีการใหม่นะคะ �สิ่งสำคัญคือ การวางแผนค่ะ
การฆ่าตัวตายเป็นการขาดสติทั้งนั้นแหละค่ะ �ขาดสติยั้งคิดค่ะ �ไม่มีสติที่จะควบคุมตัวเองได้อ่ะค่ะ
ถ้าไม่อยากให้ฆ่าตัวตาย แต่ทำไมมีแต่เรื่องร้ายๆหรอคะ
เอ
แต่คนที่ฆ่าก็คือตัวเราเองเป็นคนตัดสินใจไม่ใช่หรอคะ
เราก็ต้องมาดูกันว่า เรื่อยร้ายๆนั้นนะ �ร้ายแค่ไหน
ลองมองกลับกันในอีกมุมนึงดีไหมค่่ะ�
ลองคิดดูนะคะ ว่าสื่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราสร้างมันเอง หรืออยู่ๆมาจากไหนไม่รู้ �หรือคนอื่นอาจโยนปัญหาให้เรา โดยที่เราก็แบกปัญหาเขามา
และสิ่งที่เราทำไว้ในอดีตก็ส่งผลมาถึงเราในวันนี้
ยกตัวอย่าง เรื่องเด็กเลี้ยงแกะอะคะ � ที่วันนั้น �เขาโกหก �พอวันต่อมา ก็ไม่มีใครเชื่อเขาอีกเลย
ถ้าคุณอยากเจอแต่่สิ่งดีๆ เรื่องดีๆ ให้คุณคิด และ มีความหวัง ว่า สิ่งนั้นจะเป็นจริง และจะดี
คิดไว้เลยค่ะ เรื่องดีๆอ่ะคะ �แล้วเราก็ใช้ชีวิตในทางที่ดีด้วยนะคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ชีวิตของเรามีคุณค่า มีอะไรให้ทำอีกมากมายเยอะแยะ
ใช้ชีวิตและเห็นความสำัคัญของชีวิตนะึคะ
ขอให้เราอยู่ด้วยความหวังใจ �และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดนะคะ �
(ถ้านึกอะไรไม่ออก ลองอธิษฐานดูนะคะ )
สู้ๆๆค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?