Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ความจริงของญี่ปุ่นที่คอการ์ตูนต้องอึ้ง!!!!!!.....

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 นี่เป็นบทความจากใจของคนที่ไปอยู่ที่ญี่ปุ่น

1. บางทีก็ใจแคบกันจัง นั่งรถมา มีคุณยายแก่ ๆ ขึ้นมาก็ต้องยืนรอจนมันว่างถึงจะได้นั่ง ไม่มีใครลุกให้นั่ง เห็นแล้วคิดถึงเมืองไทย...

2. ไม่ชอบตรงที่ ในรถไฟ เค้าไม่ลุกให้ คนแก่ ๆ เด็ก ๆ หญิง หรือคนแบกของเยอะ ๆ นั่งอ่ะ แล้วพอผมลุกให้นั่งทีไร ก็ชอบหันมามอง ชักหลัง ๆ เริ่มชินเลยหันไปมองคนมองตอบแล้วชูสองนิ้ว 5 5 5 นี่ล่ะคนไทยเฟร้ยยย

3. คนญี่ปุ่นจะบอกว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง กินจนเผ็ดปากแดงเหงื่อตก Karai desu ka? (เผ็ดเหรอครับ) Iie, Oishii desu ne (ไม่คะ อร่อยดีคะ) ทั้ง ๆ ที่เผ็ดแต่ก็รักษามารยาทมาก จะฉุนก็ฉุน จะสงสารก็สงสาร ไม่รู้จะว่าไงเลยครับ

4. ไม่ชอบคนมันระเบียบเวอร์ไป ถนนไม่มีรถสักคัน ดึก ๆ หนาว ๆ จะข้ามถนนมันก็ห้ามให้รอสัญญานไฟ กรูจะแข็งตายแล้วว

5. ไม่ชอบที่ให้สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ในรถ ขนาดมีเด็กนั่งก็ยังสูบ

6. ไม่ชอบ (ตัวเอง) เวลาอยู่ที่ญี่ปุ่น ทำไมไฟฟ้าสถิตย์มันแปร้บบบๆ ง่ายจริง ๆ เวลาเปิดประตูรถ ประตูบ้าน จะหวาดเสียวมาก ว่ามันจะ แปร้บ ๆ รึปล่าว ทุกวันนี้ ใช้ชายแขนเสื้อ เอามือซ่อนไว้ข้างใน แล้วใช้เปิดประตูค่ะ แขนเสื้อดำมาก ๆ

7. ไม่ชอบประโยคภาคบังคับ แบบ "ฮือ อร่อยจัง" "ไว้วันหลัง เรามาทำขนมนี้ด้วยกันนะ" "วันหลังมาเที่ยวบ้านฉันนะ" แบบที่เป็นความรู้สึกจริงๆ ก็มี แต่แบบพูดโดยมารยาท วันหลังที่ว่านั้น ไม่มีจริง ก็เยอะ ตอนมาญี่ปุ่นใหม่ ๆ แยกแยะไม่ออก นึกว่าเขาพูดจากใจจริง ตอนนี้เก่งขึ้นเริ่มแยกออกนิดหน่อย เลยรู้สึกว่า ประโยคแบบที่พูดไปงั้นเอง บางทีก็ทำให้เดาใจกันยากจัง

8. พริกหยวกสีแดง เหลือง แพง อยากกินสลัด ต้องตัดใจซื้อแบบครึ่งๆ 109 เยน แต่ก็ยังแพงงง

9. บรรดาผักทั้งหลาย หน้าหนาวโคตรแพง

10. นมถั่วเหลือง ก็แพง เมืองไทย 5 บาทเอง แถมเครื่องเพียบ

11. หน้าหนาวตัวคันคะเยอ เพราะผิวแห้ง

12. หน้าร้อน ร้อนมากก แต่ไอติมอร่อย

13. ค่าตั๋วหนังแพงจริงด้วย เกือบ 700 บาท ฮ่วย!!

14. ทางด่วนยิ่งแพง

15. หาที่จอดจักรยานตามสถานียาก เพราะถ้าไม่จ่ายแบบรายเดือนก็จะเจอใบเตือน

16. อาหารและขนมอร่อยทำให้กินจนอ้วน

17. หาที่กดน้ำตามชักโครกยาก ในกรณีไม่ได้เป็นแบบปุ่มโยกอ่ะค่ะ

18. ไม่ชอบเท่าไรเวลาข้ามถนนตามไฟเขียว แล้วต้องระวังรถอีกฝั่งที่จะเลี้ยวมาตอนเราข้ามได้

19. จอดรถซี๊ซั๊ว ตามที่จอดรถส่วนตัวของชาวบ้านไม่ได้อ่ะ แหะ ๆ

20. เมื่อแม่บ้านเจอหน้ากันเมื่อไหร่ เป็นต้องเม้าท์แตก ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ยูเป็นคนต่างชาติเหรอ ..ฟังเฉย ๆ แล้วกัน

21. ตราบใดที่เราไม่เอ่ยปากถามอะไรเขาก็จะไม่หันมาคุยด้วย ถ้าเรารำคาญเรื่องที่เขาเม้าท์กัน ก็ต้องชวนคุยเรื่องละครเกาหลี ยิ่งพระเอก ของ ฟุยุโนะโซนาตะ (winter love song) ล่ะก็ ถูกใจแม่บ้านยิ่งนัก (ที่ญี่ปุ่นคลั่ง เป ยอง จุน หรือ ยงซะมะ กันมาก)

22. หน้าหนาวญี่ปุ่นทนได้ แต่หน้าร้อนนี่สุดๆๆ เหงื่อออกตลอดเวลา สิวขึ้นหลังเต็มไปหมดเลย เมืองไทยก็ร้อนแต่ไม่เคยเป็นแบบนี้

23. ไม่ชอบคนญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยจะพูดอะไรตรงๆ ไม่ชอบระบบการทำงานแบบญี่ปุ่น ที่ต้องทำเป็นเคร่งเครียดตลอดเวลา แม้ว่าจะทำงานเสร็จแล้ว ก็ต้องทำเป็นยุ่งอะไรกันตลอด

24. สาวยุ่นบางนางน่ารักเกินไป

25. ไม่ชอบที่ข้าวขาหมูหากินยาก

26. หน้าร้อนโครตร้อน

27. หน้าหนาวโครตหนาว
28. แผ่นดินไหวบ่อย ๆ

29. น้ำในโอฟุโระ ลงแช่กันทั้งบ้าน (ทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้)

30. เดี๋ยวมีคาฟุนโช อีก ตอนนี้เริ่มฮัดเช้ย ๆ ๆ ละ (** คุฟุนโช ภาษาไทยคือ ไข้ละอองฟาง (Allergic Rhintis) เป็นปฏิกิริยาต่อสารที่เป็นละอองในอากาศ เช่น เกสรดอกไม้ เชื้อรา ซึ่งถูกสูดดมผ่านทางปากหรือจมูก ซึ่งทำให้มีอาการหายใจเสียงดัง คัดจมูก น้ำมูกไหล มีน้ำมูก น้ำลายมาก ตาแฉะ แสบร้อน คอแห้ง บางครั้งอาจจะมีเป็นช่วง ๆ ของฤดู สาเหตุเกิดจากเกสรดอกไม้ เชื้อรา เราจึงมักเรียกว่า ไข้ละอองฟาง คนญี่ปุ่นมักจะเป็นกันมากช่วงฤดูใบไม้ผลิค่ะ ไปใหนมาใหนจึงจะเห็นแต่คนใส่ผ้าปิดจมูกกัน เราก็เริ่มเป็นละตอนนี้ ออกนอกบ้านทีไร กลับเข้ามาจามฮั๊ดเช้ย ๆ ๆ ทุกที น้ำมูกใส ๆ เช็ดจนจมูกแดงเลย)

31. มีแต่คนไม่ใส่เสื้อผ้า (ที่ออนเซ็น)

32. พาหมาไปเดินเล่นนอกบ้าน ถ้ามันเกิดอึ๊ขึ้นมา ต้องโกยอึ๊มันกลับบ้านด้วย....ยี้... (จะแกล้งทำหมกเม็ดเอาใบไม้มาปิดไว้ก็ไม่ได้ )

33. รถถูก แต่ค่าทางด่วนโครตแพง

34. กะเทียม (ญี่ปุ่น) หัวละ 198 เยน กรี๊ดดดด....ทำใจไม่ได้

35. เรื่องตะเกียบก้อโดน ดอกใหญ่ ตอนนั้นกำลังเม้าเต็มที่เรื่องสนุกด้วย กลับโดนเบรคจังๆว่า ห้ามพูดโดนถือตะเกียบอยู่ เสียมารยาทด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจของเขา ทำให้เราหมดอารมณ์ไปเลย

36. เรื่องตรงต่อเวลา นี่โดนหนักสุด แบบว่ามาสายกว่าที่นัดไว้ (จะไปกินข้าวกัน) แต่ระหว่างเดินทางก้อส่งเสจเสจไปบอกแล้ว เกินไปห้านาที พอเขา (สนิทกันตั้งแต่เมืองไทย จึงแสดงออกกันตรงๆ) เห็นหน้าเรา ก้อทำนิ่งเลย ไม่พูดจา ทำเย็นชา และไม่พูดกับเราเป็นอาทิตย์เลยละ เขาว่าที่นี่เรื่องเวลา การนัดหมาย พูดคำไหนต้องเปนคำนั้น จะสายเกินหนึ่งหรือสองนาที ก้อถือว่าคุณไม่รักษาคำพูดแล้ว บางคนถึงขนาดเลิกคบกันเพราะนัดแล้วไม่เคยมาทันเวลานัด เรานี่ก้อยอมรับว่ามันไม่ดี แต่มันรุนแรงมากเลยในสายตาเขา แต่ในบ้านเราแค่เกินสามนาทีห้านาที และส่งเมสเสจทางโทรแล้ว ก้อยอม ๆ กัน เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

37. ไม่ชอบความหนาวเลยเพราะไปใหนแต่ละทีต้องใส่เสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้นแล้วก็หนา ๆ เวลาเข้าห้างทีต้องถอดแล้วถือเกะกะไปหมด

38. รักความเป็นส่วนตัวสุด ๆ ของส่วนตัวของใครก้อของ ๆ คนนั้น เช่น คอม เสื้อผ้า กล้อง เครื่องเล่นเพลงพกพา อย่าได้พยายามไปแตะเลยเดี๋ยวมีปัญหา ยกเว้นว่าเขาตั้งใจจะซื้อของมากินมาใช้ด้วยกันหรือให้ยืม ที่คบ ๆ มา เจอคนที่มีนิสัยมาแบ่งกันกินกันใช้แบบคนไทยน้อย และเขาแบ่งให้เรา เราก้อไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง

39. สังคมกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ค่อนข้างเป็นสังคมปิดพอสมควร สังคมสังกัดกลุ่ม มหาลัยเดียวกัน บริษัทเดียวกันอะไรทำนองนั้น และถึงจะเป็นกลุ่มสังกัดเดียวกันเข้าหาเขาบ่อยเพียงใด เขาก็ยังมองเราเป็นเพื่อนแบบไกโกกุจิน มากกว่าเพื่อนแบบนิฮองจิน สังเกตจากมารยาท ความรู้สึกที่คุยกับเรา บางครั้งนะ แบบชื่นชมโอเวอร์ ตื่นเต้นจนรู้สึกว่านี่แกจริงใจหรือแสร้งชมกันนะ แต่กับเพื่อนญี่ปุ่นนี่พูดกันคนละแบบ ซึ่งให้ความรู้สึก ความสนิทสนมในจิตใจต่างกับเพื่อนๆที่เมืองไทยเราพอสมควร

40. ประหยัดกันสุดฤทธิ์ คนที่นี้ (บางคน) ยอมกินราเมงทุกวัน อยู่ห้องเล็ก ๆ แคบ ๆ แต่พอออกนอกบ้าน she จะใส่แต่ของแบรนแนม ตั้งแต่หัวจรดเท้า เราก็เลยเข้าใจแล้วว่า มันเอาตังค์ไปทำอะไร เชื่อเขาเลย

41. เวลาทานข้าวบนโต๊ะอาหาร หากส่วนไหนที่ไม่ทาน จะคีบใส่จานของเขา ๆ (แฟน) จะพูดว่า Just leave it. เค้าว่าเสียมารยาทที่เราจะเที่ยวคีบของที่เราไม่กินไปใส่จานคนอื่น ....บ้านอื่นเป็นกันมั้ยคะ

42. เวลาเผลอตัว มือจับตะเกียบอยู่แล้วฝอยเรื่องอะไรอยู่ ก็จะทำมือทำไม้ (ทั้ง ๆ ที่ตะเกียบอยู่ในมือ) คนข้างตัวของดิฉันก็จะบอกว่า ให้วางตะเกียบให้เรียบร้อยเสียก่อน อย่าถือตะเกียบชี้ไปชี้มา มันอันตราย...บ้านอื่นเป็นมั้ยคะ

43. เวลาดิฉันเรียงจาน-ชามอาหาร ถ้วยซุปต้องอยู่ทางขวามือเสมอ หากเรียงผิด ก็คนข้างตัวเนี่ยแหล่ะ ที่ต้องมาพร่ำสอน ทั้ง ๆ พ่อแม่ไม่ว่าอะไรสักคำ บ่นมาก ๆ เข้าดิฉันก็บอกให้ช่วยหุบปากเหมือนกัน ฟังมากขี้หูไหลค่ะ....บ้านอื่นเป็นกันมั้ยคะ

44. ส่วนเรื่องของใช้ส่วนตัว หากแม่เห็นกางเกงในของดิฉันขาดกะรุ่งกะริ่ง แม่ก็จะรีบเอามาเย็บให้ แม่ว่าอย่าให้พ่อเห็นเชียวนะ...เดี๋ยวถูกเอ็ด เป็นลูกผู้หญิงใส่กางเกงในขาด ๆ ไม่งาม...บ้านอื่นเป็นกันมั้ยคะ

45. ไม่ชอบ ไปดูหนังก็แพง แม้จะมีเลดี้เดย์ก็เหอะ แต่ก็พันเยน หนังก็เข้าช้า หนังอินดี้หาดูตามโรงยาก ไม่มีลิโด้แบบบ้านเรา

46. ไม่ชอบ ตรงที่ ซื้อของในซุปป้า (ซุปเปอร์มาร์เก็ต) แล้วต้องใส่ถุงเอง (ขี้เกียจ อิอิ)

47. ไม่ชอบ ตรงที่ ชอบชมว่า คาวาอี้ๆๆๆๆๆ ตอนเจอกันครั้งแรก รู้สึกเหมือนโดนโกหก ตอนแรกได้ยินก็ดีใจแต่ตอนหลังเห็นคนหน้าเห่ยมาก โดนชมว่าคาวาอี้ๆๆ ก็เลยรู้สึกว่า เค้าชมเราไปอย่างนั้นแหละ

48. ไม่ชอบ ความหนาวค่ะ มันหน๊าว หนาวจนรู้สึกโกรธแค้นว่าทำให้ต้องให้เรามาเจออะไรอย่างนี้ด้วย เมื่อไหร่มันจะจบสิ้น เสื้อโค้ทก็หน๊า หนา จนปวดหลัง ปีนึงสำหรับคนขี้หนาวอย่างเรา ตั้งแต่เดือนตุลา ถึง กุมภา ห้าเดือนก็เกือบครึ่งปีแล้ว

49. ไม่ชอบ ที่รถบัสไม่สะดวกเหมือนรถเมล์ไทย ถึงจะตรงเวลาก็เหอะ แต่ชั่วโมงนึงมีสอง สามคันงี้ แถมไม่เข้าถึงทุกซอกซอยทำให้ต้องเดินไกล ๆ จะนั่งแท็กซี่ก็แพง

50. เก็บความรู้สึกมากไปจน เรียกว่าเก็บกด

51. ไม่ชอบ ที่เข้าไปร้านอาหาร อย่างน้อยก็ต้องสั่งอะไรสักอย่าง จะไปนั่งแจม ๆ กับเพื่อนอย่างเดียวไม่ได้ หรือเช่นไปกับเพื่อนสั่งอย่างเดียวก็ไม่ได้ และก็เอาขนม หรือของกินไปกินในร้านก็ไม่ได้ ไม่รู้จะเข้มงวดอะไรกันนักหนา

52. ไม่ชอบตรงที่ ว่าเวลาไปบ้านคนญี่ปุ่นเนี่ย เราจะต้องอยู่ตรงนั้นที่เดียวตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่สนิทกันแล้ว เช่นบ้านพ่อแม่สามีก็เหมือนกันเราว่ามันอึดอัดนะ ถ้าบ้านคนไทยเนี่ยถ้าสนิทกันแล้ว เราสามารถเดินเล่นในบ้านได้แบบสนิทใจ จะนั้งท่าไหนนอนท่าไหนก็ได้ หรือจะนอนคุยกัน ทำไรกินกัน ไงก็ได้ แต่ที่นี่ ต้องนั่งเฉพาะที่รับแขกเท่านั้น เดินไปเดินมาก็ลำบาก ต้องทำตัวสงบนิ่ง อีกอย่าง

53. คนญี่ปุ่นเห่ออะไร ๆ ที่เป็นฝรั่งจังเลยเพื่อนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยกัน ถ้าเป็นชาวตะวันตกจะได้รับความสนใจมาก จนน่าเบื่อค่ะ ทำไมต้องบ้าเห่อขนาดนั้น บางทีนักเรียนมาใหม่ที่เป็นฝรั่ง ก็มารุมคุยด้วย บางทีการสนทนาก็เป็นเรื่องดูออกว่าเห่อฝรั่ง ไปเที่ยวบ้านอาจาร์ยกับเพื่อนฝรั่ง เรื่องที่คุยก็ประมาณว่า ไวน์ประเทศนั้นประเทศนี้อร๊อย อร่อย ฉันชอบกินเสต็ก ฉันเคยไป ยุโรป อเมริกา ฉันชอบแอลเอ วันนี้คุยกันเรื่องซึนามิ ฝรั่งกะญี่ปุ่นคุยกันต่อหน้าเราว่า บ้านฉันบริจาคให้ไทยนะ ญี่ปุ่นก็พูดว่าเค้าบริจาคเยอะนะ คิดดูสิเราคนไทยนะมาพูดเรืองบริจาคต่อหน้าเรามันแม่ง ๆ นะ คนญี่ปุ่นเห็นฝรั่งเป็นพระเจ้ามั้ง

54. ไม่ชอบมากๆๆๆๆๆๆ เลยคือ คนที่นี่บางคนปากกับใจไม่ตรงกันค่ะ

55. คนญี่ปุ่นหลาย ๆ คนที่ไม่ชอบเอเชียประเทศอื่น ๆ มักจะยกตนข่มคนเอเชียอื่น ๆ อย่างรุนแรง ทั้ง ๆ ที่จริงไม่ได้ความภาษาอังกฤษยังพูดออกมาไม่ได้เลยแต่ชอบอวดเบ่ง

56. ปากเหม็นค่ะ ไม่รู้ทำไมคนชาตินี้หาวในรถไฟทีเหม็นกันเป็นไมล์ ๆ เลย สงสัยตอนเช้า ๆ รีบ ๆ มาทำงานไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟัน

57. สูบบุหรี่ในทุก ๆ ที่ แต่พยายามกินอาหารที่มีประโยชน์ทดแทนเผื่อไม่ตาย.....ไม่รู้เอาเอาอะไรคิดค่ะ เลิกสูบกันไปได้แล้วววววว ประเทศอื่น ๆ เค้าแอนตี้กันแล้วววววว

58. ไม่ชอบ ห้างปิดเร็ว สองทุ่มก็ปิดแล้ว

59. บางคนฟันเรียงกันเหมือนข้าวโพดคะ (เหมือนเฉพาะสีนะคะ) เวลาจุ๊บ ๆ ก็ เออ...

60. เวลาเราไปต่างประเทศ เพื่อนคนญี่ปุ่นถามเราว่าเธอพูดภาษาอังกฤษได้เหรอ เหอ ๆ งง เลยคะ เขาชอบคิดว่าสำเนียงภาษาอังกฤษของเขาเลิศที่สุดน่ะคะ แต่พอคุยกับฝรั่งเราก็ต้องแปลให้อีกต่อทุกที .. ให้มันได้หยั่งงี้ซิ

credit:http://www.japankiku.com/ 

แสดงความคิดเห็น

>

59 ความคิดเห็น

`AGASADA 8 มิ.ย. 55 เวลา 21:51 น. 1
 นี่คงเป็นอีกด้านหนึ่งทางตะวันออกไกล (?) ของคนยุ่น...
สินะ สินะ สินะ...




PS.  เป็นเด็กส่งน้ำดูแลที่กินนอนให้ผู้ชายเจร็อก PSC //
0
YoNgヨンヨン 8 มิ.ย. 55 เวลา 22:00 น. 2

เริ่มไม่อยากไปยุ่นแหละ...


PS.  ในสายตาทุกคน ตัวฉันนั้นมีตัวตน แต่กลับไม่มีตัวตนในสายตาใครบางคน
0
theinfamous 8 มิ.ย. 55 เวลา 22:08 น. 3

เท่าทีดูทั้งหมดก็เห็นเเล้วไม่ค่อยอยากไปเลย เเต่ผมเคยได้ยินมาว่าในญี่ปุ่น การลุกให้ผู้อื่นนั่งถือเป็นการดูถูกเค้า ประมาณว่าเหมือนเค้าช่วยเหลือตนเองไม่ได้ครับ (เเต่ถึงเป็นผมถ้าเค้าดูเซจะไม่ไหวก็คงต้องลุกล่ะนะ)

0
หลุยส์ วี วิคตอเรีย★ 8 มิ.ย. 55 เวลา 22:09 น. 4

 คืออ่านไปอ่านมา ก็นะ บางข้อมันก็ไม่ดีจริงๆ
ส่วนบางข้อมันก็เอ่อ แม่งเป็นสิ่งดีจะตายห่าน
อย่างเก็บขี้หมาเวลาหมามันไป___อ้ะ มันควรทำไม่ใช่ ปล่อยแม่ง
หลายๆข้อเรารับกับคนไทยไม่ได้...
แต่หลายข้อที่เราภูมิใจในความมีน้ำใจ



PS.  (ノ・益・)ノ หลุยส์!!! @we love vocaloids
0
lonely ~ spirit 8 มิ.ย. 55 เวลา 22:42 น. 5

ไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านเรา 5555


PS.  s@y:: แม้นายจะไม่ได้เป็นน้องชายของลูลูช วี บริทาเนีย... แม้นายจะไม่ได้เป็นน้องชายของลูลูช ลัมเพรูจ... แต่นายกำลังจะได้เป็นน้องชายของคุรูรูกิ ลูลูช!!! O___O
0
Special ball 8 มิ.ย. 55 เวลา 23:10 น. 7
รู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวกับการ์ตูนเลย.....//เห็นชื่อกระทู้นึกว่าเกี่ยวกับการ์ตูน
ที่จริงก็แค่เอาข้อเสียของญี่ปุ่นมาบอกเฉยๆ

ญี่ปุ่นมีข้อดีและข้อเสีย
แต่เราไม่ได้สนใจพวกข้อเสีย เรารักอนิเมและมังงะ ข้อมูลนี้ไม่ได้ทำให้เราไม่อยากยุ่งกับของที่เกี่ยวพันกับญี่ปุ่นเลยสักนิด

ยังไงก็รักการ์ตูนญี่ปุ่นเสมอนะ♥

แล้วคนเขียนบทความนี้ ไม่เจอข้อดีของญี่ปุ่นเลยรึ? เห็นเขียนแต่ข้อเสีย
อ่านแล้วแปลกๆเหมือนมาตั้งใจว่าญี่ปุ่นยังไงไม่รู้......
ถ้าเขียนจากใจ แล้วข้อดีมันอยู่ไหน?ทำไมไม่เอามาเขียนบ้าง? จะบอกว่าญี่ปุ่นไม่มีอะไรดีเลย?
ไปต่างประเทศไม่ใช่ง่ายๆ อย่างน้อยต้องรู้จักดีก่อนตัดสินใจให้ดี ค่าเครื่องบินไม่ถูกเลย
น่าจะมีอะไรที่ชอบในประเทศนั้น  แต่พอไปถึงกลับเขียนแต่ข้อเสีย?

ก็รู้ว่าจขกท. แค่เอาความเห็นของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยนก็ไม่ผิด
ไม่ได้ว่าอะไร จขกทนะ ยังไงก็ชาวบอร์ดการ์ตูนเหมือนกัน ^^/

ถ้าเราไปอยู่ญี่ปุ่น ก็คงลำบากยอมรับจริงๆ เพราะไม่ชินกับสภาพอากาศ
แต่คงไม่เขียนแต่ข้อเสียแบบนี้หรอก
ข้อเสียญี่ปุ่นอาจมี60ข้อ
แต่ข้อดีแน่นอนว่าต้องมีเกิน100แน่ๆ

ปล.ไม่ดราม่านะ ;[]; แค่แลกเปลี่ยนความเห็นเฉยๆ
 ส่วนตัวชอบ ข้อ 24 กับ 31 =.,=



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 มิถุนายน 2555 / 23:15
0
Katoo 8 มิ.ย. 55 เวลา 23:18 น. 8

เรื่องภาษาอังกฤษยอมรับจริงๆค่ะ แต่ละคำแทบฟังไม่ออก เรื่องยกยอตัวเองก็เหมือนกัน คิดว่าตัวเองดีมาจากไหน อีกเรื่องก็ปากไม่ตรงกับใจนี่ล่ะ ถ้ามันไม่ใช่อย่างนั้นจริงๆสู้พูดออกมาตรงๆดีกว่ามาพูดชมแบบไม่จริงใจ มันน่าหงุดหงิดนิดๆเหมือนกันนะ แต่ก็ช่างเถอะ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอก 

0
ตกใจนะนี่ 8 มิ.ย. 55 เวลา 23:53 น. 9

ภาษาอังกฟษสำเนียงญี่ปุ่นเป็นสำเนียงที่เห่ยที่สุดเท่าที่เคยได้ยินสำเนียงอังกฤษทุกอันมาในชีวิตแล้วค่ะ  ตัวอย่างเช่น

Ultraman Land = อุลละตะอิมันลันดุ

nice body = ไนซ์สึ โบดี

great = กุเร้ท

และอีกมากมาย มันก็นะของไทยในสายตาต่างชาติก็คงแปลกๆเหมือนกันแต่มันก็ยังฟังออกกว่านี้ล่ะนะ  เราชอบฐี่ปุ่นนะ(โอตาคุหน่อยๆด้วย)แต่พอมาอ่านบทความนี้ดูเหมือนคนญี่ปุ่นจะไม่ได้ร่าเริงสดใสเหมือนนางเอกอนิเมแฮะ(แต่ในไทยสดใสแบบนั้นเกลื่อน) เราชอบแบบนั้นมากว่านะ

0
Maree_Y(นะจ๊ะ) 9 มิ.ย. 55 เวลา 00:09 น. 10

 แหมๆๆ ต่างประเทศต่างภูมิภาคนิค่ะ?

มันก็ต้องมีบ้างข้อเสียของเขาหรือข้อเสียของประเทศเรา

เรื่องปกติค่ะ เราก็แค่ต้องปรับตัวเท่านั้นเอ๊งง 


PS.  แค่หม่ามี๊รับได้ว่าลูกสาวตัวเองเป็นสาววายได้ ข้าไม่สนหรอกว่าคนอื่นจะคิดยังไง!!
0
Alexandria et Claire 9 มิ.ย. 55 เวลา 00:23 น. 11
ส่วนตัวคิดว่าภาษาอังกฤษสำเนียงที่ฟังแล้วปวดตับที่สุดคือญี่ปุ่นกับเยอรมัน(= =
เชื่อเขาเลย อย่างร้านแมคโดนัลด์...สามพยางค์ พี่ยุ่นแกเรียกมักโดนารุโดะ OTL
ภาษาอังกฤษคนญี่ปุ่นไม่ไหวจริงๆ

ป.ล. แอบเห็น #7 แล้วอยากเถียงเบาๆ นะและเห็นด้วยแรงๆ ในหลายๆ จุด
ข้อหนึ่ง คนเขียนเขาอาจจะเขียนข้อดีไปแล้วก็ได้ อีกอย่างคนส่วนใหญ่ที่ไปญี่ปุ่น เขาก็มักร่ายข้อดีกันมาจนหมดแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่คนเขียนเขาต้องไปอวยมันเพิ่มอีก หรือเขาอาจอวย แต่แยกบทความไว้สองบทความ ข้อดีกับข้อเสีย และจขกท. ก็แค่หยิบยกประเด็นข้อเสียมาโพสต์ ให้พวกเราอ่านเฉยๆ ด้วยเหตุผลบางประการอีกอย่างคือ คำพูดจากใจ คำพูดที่มันตรงๆ มักฟังไม่รื่นหูเสมอแหละค่ะ(หรือเขาอาจจะแค่อยากดิสเครดิตเอาสะใจก็ได้)นอกจากนี้จะไปว่าเขาไม่เตรียมตัวไปก็ไม่ถูก ต่างคนก็ต่างมีนิสัยต่างกัน คนอื่นไปอาจจะคิดว่าญี่ปุ่นสุดยอด แต่ทางเจ้าของบทความอาจจะความอดทนต่ำเองก็ได้(สังเกตจากหลายๆ ข้อ พูดได้เอาแต่ใจมาก ขนมอร่อยเกินกินแล้วอ้วน...เอิ่ม = = บวกกับหลายๆ ข้อเราว่ามันทำให้รู้เลยนะว่าผู้เขียนเป็นคนยังไง บางข้อมันก็บอกสันดานเลย 60 ข้อนี่ มีสาระจริงๆ มันไม่ถึง 60 หรอกนะ)หรือเขาอาจจะไม่ประทับใจจริงๆ ก็ได้ ไม่อย่างนั้นจะมีโพลจัดอันดับประเทศที่แย่ที่สุดในด้านโน้นด้านนี้เหรอ(ยังจำได้ดีว่าฝรั่งเศสกับอังกฤษติดชาร์ต =v= แอร๊ย!)ยังมีอีก เราว่าข้อเสียเนี่ยมันมีประโยชน์มากกว่าข้อดีด้วยนะ จะได้เป็นการเตือนไงคือถ้ามันไม่เกิดไม่มี ก็โอเค แต่ถ้ามันมีจะได้เป็นการป้องกันไม่ให้เราวาดฝันไว้ให้โอเวอร์เกินไป(หรือไม่แน่นะคะ เจ้าของบทความอาจเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าตัวเกลียดยุ่นเลยมาเขียนดิสเครดิตก็ได้ ทุกคนก็น่าจะเคยเป็นนะ ประทับใจอะไรมากมาย แต่สุดท้ายดันมาผิดหวังเพราะตั้งความหวังไว้สูงเกินไป)ที่สำคัญบางประเทศข้อเสียมันก็มีมากกว่าข้อดีจริงๆ นะเออ(แต่ในกรณีนี้เราว่าเจ้าของบทความเรื่องมากเองมากกว่า = =)


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 มิถุนายน 2555 / 00:23

PS.  That's all you are. Nothing more and nothing less. - Nate River
0
P.Allist 9 มิ.ย. 55 เวลา 01:19 น. 12

เราชอบญี่ปุ่นมากที่สุดเรื่องถังขยะ ระบบจัดการขยะที่นี่ดีมาก ให้ทุกครัวเรือนมีส่วนร่วม บ้านไหนไม่แยกขยะมีปรับเงิน
บ้านเรารณรงค์กันเป็นสิบๆ ปี ถังขยะแห้งก็ยังคงมีแก้วน้ำพลาสติกเฉอะแฉะ มีถุงใส่ก๋วยเตี๋ยว แถมเป็นไรไม่รู้ชอบเผาขยะ เผาใบไม้กันใกล้ๆป่า

ดิท: มันก็แล้วแต่มุมมองล่ะนะ บางคนไปอยู่แล้วเกิดอคติในแง่ลบ บางคนก็รักที่นั่นไปเลย

เราชอบเรื่องการต่อแถวซื้อของ การรอสัญญาณไฟข้ามถนน มันทำให้เห็นความอดทนของคนที่นั่น
อ้อ แล้วก็ชอบที่คนเป็นหวัดเขาใส่หน้ากากกัน



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 9 มิถุนายน 2555 / 01:33

PS.  Yesterday is history. Tomorrow is mystery. TODAY IS A GIFT.
0
1235 9 มิ.ย. 55 เวลา 09:15 น. 13

ข้อเสียบางข้อผมมองว่าดีจะตายไป คนในประเทศเขามีระเบียบ เขาจริงจัง ไม่เหมือนเรา หยวนๆกันจนจะเละทั้งประเทศไปแล้ว

เรื่องเก็บขี้หมา เรื่องข้ามถนนตามไฟสัญญาณจราจร เรื่องห้ามจอดรถมั่วซั่ว มันแย่ตรงไหนครับ?

0
คนฮะ(อาอิ/ซางิ) 9 มิ.ย. 55 เวลา 09:59 น. 14

เอ่อ...บางข้อเราก็คิดว่ามันดีนะ แต่เคร่งเกินไป พูดตรงๆไม่ได้ก็ลำบากเหมือนกันแฮะ


PS.  จะเลิกเป็นเกรียนจอมโวยวายแต่จะเปลี่ยนมาเป็นเกรียนจอมรั่วแทน!!!
0
Sci' Swiftiez 9 มิ.ย. 55 เวลา 11:54 น. 15
มันก็มีบางข้อที่ไม่ดีจริงๆ อย่างชมตามมารยาทไรงี้เราก็ไม่ชอบอะ

แต่เรื่องระเบียบอย่างข้ามถนนงี้ ความจริมมันควรเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ คนไทยบางทีเรื่องพวกนี้ก็หย่อนยานไป
อย่างเรื่องอึน้องหมาเนี่ย จริงๆเราก็ควรเก็บสิ ก็น้องหมาเรา ไปอึในที่สาธารณะ จะปล่อยเกะกะสกปรกตามท้องถนนของไทยทำไม
แล้วเวลาเข้าร้านอาหารแล้วไม่สั่งอะไร ไปนั่งคุยเฉยๆ มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ ก็ต้องสั่งกินบ้างสิ

จอดรถซี๊ซั๊ว ตามที่จอดรถส่วนตัวของชาวบ้านไม่ได้อ่ะ แหะ ๆ
<< ความจริงที่ส่วนตัวก็ต้องส่วนตัวสิ
ถ้าใครไปจอดหน้าบ้านแล้วเราถอดรถออกไม่ได้ เราก็ว่าเขาอีกนั้นแหละ

ไม่รู้อะ ชอบที่คนไทยมีน้ำใจ แต่ไม่ชอบที่ทำอะไรก็แบบว่า "ยอมๆกันหน่อย ปล่อยๆกันไป" อะไรแบบนั้นอะ
ปล. บ่นยาวจริงๆ ตอนแรกนึกว่าจะเกี่ยวกับการ์ตูนซะอีก อ่านซะจบเลย

PS.  --คือทะเล แด่ท้องฟ้า ที่ก้มหน้า คือจันทรา คู่อาทิตย์ ไม่หวั่นไหว คือสายลม โอบภูผา คอยห่วงใย คือดวงไฟ ในคืนมืด ให้กับดาว .... ลูฟาเอล ลูเฟลล์ รักลูฟตลอดไป ^^ --
0
#.scarecrow 9 มิ.ย. 55 เวลา 12:40 น. 16

 ทุกประเทศมีทั้งจข้อดีข้อเสียครับผมๆ 


PS.  Mio Banzai Tsuna Only !!! ถูกใจสองคนนี้เป็นพิเศษ Yuri NM บันไซ !!!
0
Angel Evil 10 มิ.ย. 55 เวลา 12:42 น. 18

มันก็มีทั้งข้อดีและเสียนั้นแหละ~ ว่าแต่มันเกี่ยวกับการ์ตูนตรงไหนหว่า= =


PS.  Y---a---o---i~
0
`RSR♔Chanlizm 10 มิ.ย. 55 เวลา 13:53 น. 19
แต่มีบางพวกที่เห็นญี่ปุ่นดีเกินไป แล้วดูถูกประเทศไทยนะคะ พวกคนไทยนี่แหละ
แต่เราคิดว่า ญี่ปุ่นกับไทยมันก็ต้องมีดีกว่ากันและแย่กว่ากันในบางอย่างอ่ะค่ะ

PS.  ไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเรื่องของฉัน ชีวิตของฉัน เธอมีสิทธิ์ด้วยเหรอ
0
black-kitty 10 มิ.ย. 55 เวลา 17:27 น. 20

 ไฟฟ้าสถิตน่ะเหรอ แก้ง่ายจะตายไป  ก่อนจับลูกบิดประตูก็เอามือแปะที่กำแพงก่อน
ก่อนเปิดประตูรถก็เอามือแตะหลังคารถ หรือแตะที่พื้นก่อน เพื่อระบายไฟฟ้าที่สะสมออกไป
แค่นี้ก็ไม่โดนช็อตแล้ว   (เครดิตจาก โคนันเจ้าหนูยอดนักสืบ  555+)


PS.  http://writer.dek-d.com/blackkitty/writer/view.php?id=517297
0