จบเภสัชแล้ว บรรจุเข้ารับราชการ
ตั้งกระทู้ใหม่
bait
14 ส.ค. 55 เวลา 12:28 น.
4,408
views
25 ความคิดเห็น
รัฐบาลทุกที่บรรจุได้หมดแหละคั้บ
PS. ถึงผมจะปุ๋ย...แต่ผมก็เป็นหลานสามป้ามาเฟียและคุณปู่โจรใต้นะค้าบบบ
ไอที่ทำสัญญาตั้งแต่ก่อนเรียนเลย เท่าที่เห็นมี ม.อุบลนะครับ
ส่วนที่อื่น ต้องหาสมัครหลังจบ ส่วนทุกที่มีบรรจุหมดก็จริง แต่ว่าแต่ละปีจะมีโควต้าของมัน
คือ จะไม่ได้ บรรจุทุกคน แต่ได้ทำงานทุกคน
แต่บางคนอาจอยู่ใน สัญญาอัตตราจ้าง ไม่ได้เป็น ขรก. แต่[อีกที] ตำแหน่งก็มาเรื่อยๆ
ทำงานไป สักหน่อยไม่เกิน 5 ปีเดี๋ยวเขาบรรจุให้เอง[พูดในกรณีโรงบาลใหญ่ในเมืองคนแย่งกันลง]
ส่วนถ้าอยากบรรจุเร็วๆเลย ก็เลือกสมัครไป ที่ไกลๆเขตเมือง ที่เขามีโควต้าเยอะ แต่คนสมัครน้อย
ตรงนั้นจะได้บรรจุเร็วกว่า
มหาวิทยาลัยของผมก็เซ็นนะครับ อย่าไปเชื่อว่ามีแค่อุบลม.เดียว
รัฐที่ไหนๆเค้าก็เซ็นจริงๆค่ะ ส่วนตำแหน่งก็แล้วแต่ภูมิลำเนาว่ามันเหลือให้บรรจุเท่าไหร่
สงสัยจะสื่อความหมายผิด
"เท่าที่เห็น" แปลว่า เท่าที่เคยเห็น/เคยรู้ มานะ ครับ
ผมบอกตอนไหนว่ามีอุบลที่เดียวว่ะ 
เท่าที่รู้มาคือ ภาคพิเศษ หลายที่ ไม่ได้เซน ส่วนรับตรงไม่รู้ แต่เกือบทุกที่ ไม่ได้บอกว่าจะเซน
ส่วนของ ม.อุบล เขาลงรายละเอียดว่า มีการรายงานตัว และเซนสัญญาไช้ทุนผูกพัน ในวันรายงานตัวเลย
พูดถึงรายระเอียด ในระเบียบการนะ
โลกทัศน์แคบ เห็นแค่มหาวิทยาลัยเดียว
เอิ่มมม เอาจริง ๆนะครับ การเซ็นสัญญาของเภสัช เปนแบบผูกพันฝ่ายเดียว
นั่นคือ ถ้ามีเด็กจบ 100 มีตำแหน่งว่าง 20 เค้าก็จะให้ยื่นความจำนงว่าใครจะใช้ทุนบ้าง
แต่ถ้าเด็กจบ 100 แต่มีตำแหน่งที่ต้องการถึง 100 แสดงว่าทุกคนต้องใช้ทุน (และต้องรอจนกว่าจะได้บรรจุ)
ดังนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีเภสัช มหาวิทยาลัยใด ที่จบแล้วบรรจุเป็นข้าราชการเลยแน่นอน !
การเซ็นสัญญาทำทุกที่ที่เป็น มหาวิทยาลัยของรัฐบาลนะครับ... ยกตัวอย่าง มมส.(ที่พี่เรียนอยู่) ก็เซ็นนะไม่ว่าจะระบบปกติ หรือพิเศษ (ไม่มียกเว้น) ....เมื่อจบทางส่วนกลางจะมีตำแหน่งที่พร้อมรับมาให้จับฉลากเลือก และให้นิสิต นักศึกษาเภสัชใช้ทุนแจ้งความประสงค์ใช้ทุน ซึ่งหลายคนไม่อยากใช้ทุนก็ลงไปว่าไม่ขอรับการจัดสรรตำแหน่ง หรือบางคนได้งานดีๆ เงินเดือนสูงๆ ก่อนแล้วก็ขอสละสิทธิ์....แล้วก็เอาตำแหน่งเภสัชที่เหลือ(อยู่ไม่มาก) ประมาณ 300+ นิดๆ และมีเด็กเภสัชที่ประสงค์ใช้ทุน 500+ (เฉพาะรัฐบาล) ก็จะมีทั้งคนที่ได้และไม่ได้......เอาพอคร่าวๆ ละกันนะเด็กๆๆ หึหึ ประมาณนี้ละ ..... ส่วนตัวแล้วไม่ซีเรียสเท่าไหร่...ทำเอกชนหรือรัฐ ก็ : ) ได้ ^^
ก็คือส่วนมากจะได้เซนตอนเรียนจบไปแล้ว
แต่ที่ ม.อุบล [หรืออาจมีที่อื่นด้วย ก็ลงบอกด้วยแล้วกัน]
เขาจะให้เซนสัญญาใช้ทุนผูกพันตั้งแต่ วันมอบตัวเลยนะครับ
แต่ที่นี่เหมือนจะกั๊กเด็ก ไม่ไห้ทำงานของเอกชน
แต่จะให้บรรจุรับราชการใช้ทุนก่อนอย่างน้อยสองปีนะครับ
สำหรับคนที่ไม่รู้ว่ามีในกรณีนี้ด้วย ก็ถือว่าเข้าใจตรงกันแล้วเนาะ
ส่วนกรณีทั่วไปอื่นๆ ก็เหมือนกับข้างบนว่าไว้
ที่รู้จักพี่มออุบล เค้าก็ทำงานทั้งเอกชนเเละรัฐ (รุ่นเซ็นสัญญา)เพราะเค้าให้เซ็นสัญญาก่อนเข้าเรียนทุกมออยู่เเล้ว(อาจจะช้าบ้าง เเล้วเเต่ที่ครับ) สัญญานี้เป็นนโยบาลตั้งเเต่ปี48 ให้นิสิตนักศึกษาเภสัชของมอรัฐ ย้ำ!! มอรัฐครับ(ทุกระบบ ปกติ พิเศษ ภาคอินเตอร์)เซ็นสัญญา เพื่อให้ลงใช้ทุนที่มีตำเเหน่งงานเภสัชกรว่าง เมื่อใกล้จบปีการศึกษา(ปี6)จะมีหนังสือว่าใครจะมีความประสงค์ลงจับฉลากใช้ทุนหรือไม่ใช้ทุนครับ(เเต่คุณต้องสอบใบประกอบให้ผ่านรอบเเรกถึงมีสิทธิ์สมัครนะครับ!!ยากมากกว่าจะได้ใบประกอบ)>>ปัจจุบัน มีเเนวโน้มว่าจะไม่มีการใช้ทุนเภสัชกรเเล้วเพราะรัฐเห็นว่าการผลิตได้เพียงพอเเล้ว(ไปดูตามรพชุมชนมีเเค่1-2คนเองมันพอตรงไหน!!) การจับฉลากมันอยู่ที่ดวงเเล้วครับว่าจะได้เป็นข้าราชการหรือไม่(ส่วนใหญ่ควรลงที่คนน้อยเพราะคนจะเลือกจับน้อย คือ ที่รพ.กันดารตามเเนวชายเเดน กับ สสจ ครับ)มีโอกาสมากที่จะได้มากกว่า รพทั่วไป ครับ ขอย้ำ!!ขอให้จขกทรียนให้จบเเละสอบใบประกอบผ่าน ยังไงเภสัชกรก้ไม่ตกงานครับ ถ้าไม่เลือกกงาน ^^
ทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ทั้งน้อง ทั้งแฟน เรียนเภสัชที่ ม.อุบล เขาบอกว่าแตกต่างจากที่อื่นนะครับ
ที่นี่ ไม่มีสิทธิ์เลือกจับสลากบรรจุ ทุกคนจบ ต้องทำราชการตามที่ บัญชีเรียก หลายรุ่นแล้ว
รวมถึงปีนี้และก็อาจเป็นปีสุดท้ายก็จริง แต่ในระเบียบการกล่าวชัดเจนในระเบียบการปีนี้ว่า
"จะต้องทำสัญญากับมหาวิทยาลัยฯ ตามเงื่อนไขของรัฐบาล เพื่อทำงาน
เข้ารับราชการเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ดังนี ้
คณะเภสัชศาสตร์ ต้องทำสัญญาเข้ารับราชการ และทำงาน ไม่น้อยกว่า 2 ปี ทัง้ นีให้ผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษาดังกล่าว
ข้างต้น จัดหาผู้คำ้ ประกัน หรือหลักทรัพย์คำ้ ประกันสัญญา(ตามเงื่อนไขของมหาวิทยาลัยฯ) มาในวันทำสัญญา ซึ่งจะ
ประกาศให้ทราบอีกครัง้ ในภายหลัง"
ซึ่งในภายหลัง ปีที่แล้ว เพื่อนผมซิ่ว ติดภาคสมทบ ต้องไปเซนสัญญาในวันรายงานตัว
และในสัญญา บอกประมานว่า ถ้าไม่เลือกใช้ทุนในเวลาที่กำหนด จะต้องชดใช้เงินคืนให้กับมหาลัยครับผม
http://202.28.50.42/news/newsAttachments/02/1214.pdf
ที่ ม.อ. พี่สาวเราบอกว่า ตำแหน่งเขาเก็บไว้ให้หมอ กับ พยาบาลนะค่ะ
เหมือนพนักงานเดียวนี้ เขาจะไม่บรรจุให้แล้ว
เพียงแค่ ลูกจ้างประจำของ รพ. ประมาณนี้ ซึ่งเมื่อก่อนบรรจุให้
เภสัชก็กรณีเดียวกันค่ะ
จริงเท็จแค่ไหน ลองเข้าไปถามเองเลยจะดีกว่า ^^
ถ้าการพิมของผมไม่มีน้ำหนักพอ เข้าลิ้งได้านบนก็ได้ครับ ระเบียบการ แปะไห้แล้ว
คุณ RYO คำว่า "ตามเงื่อนไขของรัฐบาล" งัยครับ
เงื่อนไขมันเป็นสัญญาปลายเปิด ผูกพันฝ่ายเดียว
ตามที่บอกครับ เงื่อนไขใช้ทุนอย่างน้อย 2 ปี เหมือนกัน
และเภสัชกรทุกสถาบัน เมื่อจะเลือกใช้ทุนจะต้องจับฉลากในกรณีที่พื้นที่นั้น ๆ มีคนแสดงความจำนงมากกเกินกว่าตำแหน่งที่มี
ขออธิบายคำเดิม ถ้าปีนั้นมีตำแหน่งเท่ากับหรือมากกว่าเด็กที่จบ ทุกคนก็ต้องใช้ทุนอย่างน้อย 2 ปี ไม่มีสิทธิ์เลือกว่าจะใช้ทุนหรือไม่ใช้ ส่วนจะได้บรรจุหรือไม่ต้องดูว่ามีตำแหน่งข้าราชการว่างหรือไม่ แต่ก็มีบางคนที่ได้ใช้ทุนในพื้นที่ ที่มีตำแหน่งว่างพอดี ก็ได้บรรจุเลย
กรณีที่ตำแหน่งน้อยกว่าเด็กที่จบ แบบนี้จะมีสิทธิ์เลือกว่าจะใช้ทุนหรือไม่ก็ได้
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมี นศ ส่วนหนึ่งที่ยื่นความจำนงจะใช้ทุนอยู่แล้ว คนที่ไม่ได้ใช้ทุนก็ไปทำงานของตัวเองได้
ปล อ้างอิงมาจากรุ่นพี่เภสัช ที่กำลังจะเรียนจบไม่นาน
ผมว่าคุณ RYU น่าจะเข้าระบบการชดใช้ทุนนิสิต/นักศึกษาเภสัชศาสตร์ผิดนะครับ
คืออย่างนี้นะครับ ของเภสัชศาสตร์บางมหาวิทยาลัยจะมีการเซ็นต์ตั้งแต่วันรายงานตัว บางสถาบันก็จะเซ็นต์หลังจากเข้าเรียนไปแล้ว ไม่มีที่ไหนให้เซ็นต์วันเรียนจบครับ วันเรียนจบที่เขาเซ็นต์นะคือใบแสดงความจำนงชดใช้ทุน ดังนั้น สมมุติว่าที่เรียนจบมีตำแหน่งมา 100 ตำแหน่ง แล้วมีคนเรียนจบมา 120 คน ก็ต้องมีการจับสลากครับ ถึง ถ้าผู้ใดไม่ประสงค์ที่จะชดใช้ทุนก็ไม่ต้องแสดงความจำนงครับ
เพราะถ้าเป็นอย่างที่คุณว่า “ทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ทั้งน้อง ทั้งแฟน เรียนเภสัชที่ ม.อุบล เขาบอกว่าแตกต่างจากที่อื่นนะครับ ที่นี่ ไม่มีสิทธิ์เลือกจับสลากบรรจุ ทุกคนจบ ต้องทำราชการตามที่ บัญชีเรียก หลายรุ่นแล้ว” แสดงว่าทาง ม.อุบลราชธานี ทำไมได้สิทธิในรับราชการมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น
สรุปนะครับ
สอบเข้าหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิตของรัฐบาล
เซนต์สัญญาชดใช้ทุนกับรัฐบาล
เรียนจบได้รับปริญญา
สอบใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
แสดงความจำนงชดใช้ทุนกับรัฐบาล
ถ้าจำนวนแสดงความจำนงมากกว่าจำนวนชดใช้ทุน จับสลาก
ถ้าจำนวนแสดงความจำนงมากกว่าจำนวนชดใช้ทุน รับทั้งหมด
ผู้ไม่แสดงความจำนงชดใช้ทุน หางานทำตามอัธยาศัย
PS. อ่านคำตอบแล้วช่วย กด เห็นด้วย หรือ ขอบคุณ สักนิดจะได้รู้ว่าอ่านแล้ว
มหาลัยรัฐ เซ็นทุกม.ค่ะ
คุณ RYU เข้าใจคนที่มาอธิบายบ้างค่ะ เปิดใจรับฟัง
ภาคพิเศษของรัฐทุกม.ก็ได้เซ็นนะคะ
แล้วสรุปว่าต้องการบรรจุ หรือไม่ต้องการละ....
ลองไปจับวัดดวงดูก็ดีนะ... ไม่มีี่ไหนเค้าบล็อคตำแหน่งไว้ให้หรอกครับ : ) ขนาดสอบใบประกอบรอบแรกไม่ผ่าน เค้าก็ยังไม่ให้สิทธิจับเลยยย.... ดังนั้น ทำรัฐหรือเอกชน ก็ทำโลด.... สุขใจเช่นกัน... ^^
คุณ RYU อาจจะยังไม่เข้าใจในคำว่าจะต้องทำสัญญากับมหาวิทยาลัยฯ ตามเงื่อนไขของรัฐบาล
มหาวิทยาลัยในที่หมายถึงมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีคณะเภสัชศาสตร์ครับ น่าจะเข้าใจเเล้วเนอะ
บ้างที่ก็ปรับครับ บ้างที่ก็ไม่ปรับ หากลาออกก่อนสำเร็จการศึกษาขึ้นอยู่กับคณะกรรมของคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยนั้นๆ
เป็นเภสัชรุ่นใช้ทุนรัฐบาลรุ่นแรกค่ะ
ไม่ได้เรียนมออุบลค่ะแล้วเพื่อน ๆ ที่ใช้ทุนรุ่นเดียวกันมีเกือบทุกมหาวิทยาลัยค่ะ แล้วเพื่อนภาคพิเศษ
ก็ทำงานใช้ทุนเหมือนกันด้วย แล้วแต่ว่าเขาจะเลือกใช้ทุนหรือเปล่า ไปจับฉลากกันทั้งเครียด ทั้งสนุกละคะ(เลือกตอนสุดท้าย เป็นผู้เลือกด้วยตนเอง)แต่ต้องทำสัญญากันตั้งแต่เขามหาวิทยาลัยค่ะ
ถามว่าบรรจุเป็นข้าราชการบอกตรง ๆ ตอนนี้ไม่ทราบแล้วค่ะ
เพราะพึ่งมีหนังสือราชการล่าสุดออกมาช่วงไม่กี่เดือนมานี้ บอกระงับการใช้ทุน(โดยนักศึกษาที่จะ
เข้าเรียนใหม่ตั้งแต่ปี 2556 จะไม่มีการทำสัญญาผูกพันเพื่อเข้ารับราชการแปลว่าปี 2549-2555
ยังมีการจัดสรรตำแหน่งให้และทางกระทรวงกำลังแก้ปัญหาลูกจ้างที่ยังไม่บรรจุอีกซึ่งไม่ทราบว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไร เนื่องจากตำแหน่งที่ได้มามีไม่เพียงพอต่อภาระงานจริง จากการยังอยู่กับกพ.ค่ะ
ถ้าทางกพ.ไม่เลงเห็นความสำคัญในอนาคตอาจบรรจุยากซักนิด
เว้นแต่จะมากับดวงเหมือนเภสัชกรบางท่านที่จบก่อนรุ่นใช้ทุนรุ่นแรกแต่มีตำแหน่งพอดีเลยได้
บรรจุ
ส่วนถ้าทำงานกับมหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยทราบรายละเอียด ส่วนมากเขาไม่ได้เรียกข้าราชการ
แต่เขาเรียกพนักงานมหาวิทยาลัย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?