Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

"5 เพลงกล่อมเด็กโหด"ที่มีที่มาจากเรื่องจริง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


เราทุกคนคงผ่านวัยเด็กกันหมดใช่มั้ยค่ะ และในวัยเด็กเราคงเคยฟังเพลงกล่อมเด็กกันๆมาแน่ๆ 

วันนี้จะนำเพลงกล่อมเด็ก 5 เพลงที่โหดและมีเรื่องราวมาจากเรื่องมาบอกกันค่ะ 

"มาเธอร์ กูส (MOTHER GOOSE)" หญิงชาวบ้านเป็นแม่ม่ายอารมณ์ดีคนหนึ่ง ซึ่งเธอมีลูกติดสิบคน
เธอโด่งดังในฐานะนักเล่านิทานและลำนำจำนวนมากมายเหลือเฟือ ที่นำมาเล่าให้ลูกๆ ของเธอฟังอย่าง
ไม่รู้จักหมดสิ้น และเมื่อ ชาร์ลส์ เพอโรลท์ ยอดนักเขียนของฝรั่งเศส ได้ทำการรวบรวมนิทานและเรื่อง
ราวปรัมปราที่นำมาเล่าใหม่ เพื่อจัดทำหนังสือรวมนิทานของเขา ชื่อว่า "นิทานมาเธอร์ กูส" ซึ่งมีเรื่อง
เด่นหลายเรื่อง อย่างเช่น เจ้าหญิงนิทรา หนูน้อยหมวกแดง ซินเดอเรลลา
 
 
ถ้าคุณคิดว่าเพลงกล่อมเด็กของมาเธอร์ กูสนั้นเต็มไปด้วยเนื้อหาน่ารักละก็... ผิดเลย!! เพราะมันเต็ม
ไปด้วยเรื่องราวที่แสนโหดร้าย น่ากลัว เซ็กต์ ฆาตกรรม และความตาย เพลงกล่อมเด็กเหล่านี้เป็นเพลง
แบบที่เขาเรียกว่า nursery rhyme คือเพลงเด็กร้องเล่น ถ้าฟังแบบเฉยๆ ไม่คิดอะไรมากก็นึกว่าเนื้อหา
มันธรรมดา... แต่ถ้าเราตีความหมาย และทราบที่มาละก็มันโหดไม่ใช่เล่นเลย ซึ่งพบว่าเพลงเหล่านี้บาง
เพลงมีที่มาด้วย และมีหลายเพลงก็เอามาจากเรื่องจริง…
 
 
(ปล.เราคนไทยเนอะ...คงไม่รู้จักเพลงเหล่านี้แน่นอน ไม่เป็นไรเว็บ www.youtube.com
เทพอยู่แล้วมีหมด มีลิงค์ที่เขาร้องไว้แล้วไปฟังได้เลย หลอนๆ ดีนะถ้าเรารู้ความหมายเหล่านั้น)
 



อันดับ 5. หนูตาบอดสามตัว (Three Blind Mice)
 
 
 
 
 
(ไปฟังที่ http://www.youtube.com/watch?v=kPNC1WsVxdU)
 
Three blind mice, three blind mice, (หนูตาบอดสามตัว หนูตาบอดสามตัว)
 
See how they run, see how they run, (ดูซิมันจะวิ่งอย่างไร ดูซิมันจะวิ่งอย่างไร)
 
They all ran after the farmer's wife, (มันวิ่งตามหลังภรรยาของชาวนา)
 
Who cut off their tails with a carving knife, (เธอ...เธอตัดหางพวกหนูด้วยมีดอันคมกริบ)
 
Did you ever see such a thing in your life, (คุณเคยเห็นอะไรอย่างนี้ในชีวิตหรือเปล่า)
 
As three blind mice? (อย่าง หนูตาบอดสามตัว)
 
 
ที่มาของมันล่ะ...
 
 
 
 
 
เพลงหนูตาบอดสามตัว... เพลงนี้คนไทยน่าจะรู้จักที่สุดแล้วนะ เพราะมันถูกนำมาใช้ในการสอนภาษา
อังกฤษ (ใช่เปล่าหว่า??) ซึ่งใครเคยอ่านนิยายของอกาธาคริสตี้ก็คงร้องเอ๋อ... เพราะมันเป็นเพลงกล่อม
เด็กที่นำไปใช้ในคดีฆาตกรรมในนวนิยายของเธอในตอน The Mousetrap และตอน Three Blind Mice
 
 
แต่ใครจะรู้ไหมว่าเพลงนี้มีอีกความหมายหนึ่งนั้นมันมีที่มาจาก...
 

 
เริ่มจากภรรยาของชาวนานั้นหมายถึงควีนแมรี่ ที่ 1 (Queen Mary I) หรือแมรี่บ้าเลือด (Bloody Mary)
ราชินีแห่งศตวรรษ16 (1516 – 1558) ราชินีที่โหดเ้ยมพระองค์หนึ่งของประวัติศาสตร์อังกฤษที่มี

ความประสงค์ให้อังกฤษเป็นประเทศที่นับถือนิกายคาธอลิกอย่างเดียว พระองค์เลยสั่งประหารพวก
โปรแตสแตนท์ให้หมดสิ้นจากประเทศตายกว่าร้อยคน โดยมีสตีเฟน การ์ดิเนอร์ สังฆราชคนโปรดผู้
เกลียดชังนิกายใหม่นี้เป็นผู้สนับสนุน
 
 
ส่วนสามหนูในที่นี้หมายถึงคนที่ต่อต้านพระราชินีนั้นเอง และที่ตาบอดก็เพราะว่าพวกนั้นหมดสิทธิที่จะ
แก้ต่างให้ตัวเอง ถ้าโดนจับได้เมื่อไหร่ประหารทันที โดยไม่ต้องฟังคำแก้ตัว ส่วนคำว่าตัดหางคือ
“ตัดความกังวล” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์ราชินีแมรี่นั้นมีความเด็ดขาดในการลงโทษนักโทษมาก
 


 
 
อันดับ 4. Georgie Porgie
 
 
 
 
 
(http://en.wikipedia.org/wiki/Georgie_Porgie)
 
Georgie Porgie pudding and pie (Georgie Porgie ขนมพุดดิ้งและขนมพาย)
 
Kissed the girls and made them cry (จูบเด็กผู้หญิงและทำให้พวกเขาร้องไห้)
 
When the boys came out to play (เมื่อไรเด็กชายออกมาเล่น)
 
Georgie Porgie ran away (Georgie Porgied ก็วิ่งหนีไป)
 
 
ที่มาของมันล่ะ
 
 
 
 
 
(อันนี้ไม่แน่ใจนะ... แปลออกมาก็แบบนี้แหละ ผิดตรงไหนขอโทษละกัน)
 
ที่มาเพลงนี้เกี่ยวกับเซ็กครับ เซ็กลูกเดียวๆ (เหอๆ ชอบ) ดูจากเนื้อเพลงอาจหมายถึงการละเล่น
ตามประสาเด็กใช่เปล่าละ แต่ที่มาขอบอกว่าตะลึงมาก เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเซ็กเกย์ชายรักชาย
อันร้อนแรงอื้อฉาวที่เกี่ยวพันกับพระราชา King Charles I แห่งอังกฤษ
 
 
เริ่มจากคำว่า Georgie Porgie หมายถึง George Villiers ท่านดยุคแห่งบักกิงแฮม ซึ่งเขาถูกลือว่า
เขาเคยเป็นคู่รักเก่าของเจ้าหญิงแอนแห่งออสเตรีย (Anne of Austria) (พระราชินีของพระเจ้าหลุยส์
ที่ 8 แห่งฝรั่งเศส)
 
 
นอกจากนี้ George Villiers ก็หันมาจีบ King Charles I แห่งอังกฤษ ยอมเป็นคู่นอนของพระองค์เพื่อ
อำนาจ ซึ่งก็ได้ผลครับเพราะ Villiers กลายเป็นคนมีอำนาจ มีอิทธิพลและยศอัศวิน แต่เรื่องนี้ทำให้รัฐ
สภาปวดหัวเป็นอย่างมากจนมีคำสั่งให้ King Charles I ตัดความสัมพันธ์กับ Villiers ในที่สุด ซึ่งตรงกับ
เนื้อหาสุดท้ายของเพลงคือ “เมื่อไรเด็กชายออกมาเล่น Georgie Porgied ก็วิ่งหนีไป” ซึ่งคำว่า
“เด็กชาย” ก็หมายถึง King Charles I นั้นเอง
 


 
 
อันดับ3. ห่านตัวผู้ (Goosey Goosey Gander)
 
 
 
 
 
(หาฟังได้จาก http://www.youtube.com/watch?v=FOwP8Ozoixc)
 
Goosey Goosey Gander, whither shall I wander? (ห่านตัวผู้มันถามว่าฉันควรไปไหน)
 
Upstairs and downstairs and in my Lady's chamber. (ชั้นบน ชั้นล่าง และห้องของคุณนาย)
 
There I met an old man who wouldn't say his prayers, (ที่นั้นฉันพบชายแก่ผู้ซึ่งไม่เว้าวอน
สงสาร)
 
So I took him by his left leg and threw him down the stairs. (ดังนั้นฉันจึงจับขาซ้าย
ของเขาและโยนเขาลงบันได)
 


 
ที่มาของมันล่ะ
 
เพลงนี้ฟังๆ ดูก็ไร้ศีลธรรมดีเนอะ รังแกคนแก่อย่างโหดร้ายน่ากลัว ความจริงแล้วมันมีความหมาย
มากกว่านั้นครับ คำว่าชายแก่ (old man) นั้นแปลว่าพวกคาทอลิกนั้นเองครับ ในศวรรษที่ 16 (ยุคของ
แมรี่อีกแล้ว) ชาวยุโรปส่วนใหญ่กำลังยุ่งอยู่กับการกำจัดโรคระบาด และกำจัดพวกโปรแตสแตนท์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักบวชชั้นสูงของโปรแตสแตนท์ ซึ่งจะมีรางวัลให้กับพวกคาทอลิกที่พบพวกนั้น
และจะมีเงินพิเศษถ้าทำการกำจัดพวกนักบวชโปรแตสแตนท์ โดยการจับพวกนั้นมัดขาแล้วโยนลงจาก
ขั้นบันไดหรือไม่ก็บ่อน้ำ ซึ่งแน่นอนพวกโปรแตสแตนท์ก็กลัวตายเหมือนกันเลยอ้อนวอนขอให้คนฆ่า
เมตตาพวกเขาบ้าง หรือไม่ก็สวดมนต์เป็นภาษาลาติน ซึ่งคนฆ่ามันฟังไม่ออกหรอกว่ามันแปลว่าอะไร
เลยไม่สนใจจับพวกนักบวชโปรแตสแตนท์นั้นโยนซะเลย
 
 
ส่วนคำว่า “ห่าน (Gander)” ที่เป็นภาษาตลาดของอังกฤษ หมายถึงโสเภณีหรือผู้หญิงที่มักมากใน
กามจะออกหาผู้ชายตอนกลางคืน ซึ่งมักติดโรคจากผู้ชายเหล่านี้จนทำให้เกิดกามโรคนั้นเอง ซึ่งถ้า
เอามารวมๆ กันมันก็หมายถึงการกำจัดโรคระบาดและพวกโปรแตสแตนท์นั้นเอง
 


 
 
อันดับ 2 ลิซซี่ บอร์เดน (Lizzie Borden)
 
 
 
 
 
(หาฟังได้จากhttp://www.lizzie-borden.com/)
 
Lizzie Borden took an axe  (ลิซซี่ บอร์เดนถือขวานมา)
 
And gave her mother forty whacks. (ฟันแม่เลี้ยงตั้งสี่สิบครา)
 
And when she saw what she had done (เมื่อได้เห็นผลงานนี้)
 
She gave her father forty-one. (ก็จามพ่ออีกสี่สิบเอ็ดที!)
 
 
ที่มาของมันล่ะ
 
 
  อันนี้ไม่มีใน en.wikipedia ต้องฟังจากเว็บพิเศษของมันเลย ซึ่งความหมายตรงกับตัวเลยครับไม่จำเป็น
ต้องแปลอะไร ก็ฆ่าๆ ตามเนื้อเพลงแหละ
 
 
เพียงแต่เพลงนี้เอามาจากเรื่องจริงของคดีฆาตกรรม เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 1892 ใน นิวอิงแลนด์ ประเทศ
สหรัฐอเมริกา ที่บ้านเลขที่ 92 เซคันด์สตรีท โดยนางลิซซี่ บอร์เดนลงมือสังหารนายแอนดรูว์พ่อแท้ๆ
ของตนตายบนโซฟา ด้วยขวานถึง 11 แผล จนหูขาด และตาทั้งสองหลุดออกจากเป้า
 
 
จากนั้นก็ฆ่านางแอบบี้ภรรยาที่สองของนายแอนดรูว์และเป็นแม่เลี้ยงของตน โดยฟันจากศีรษะด้านหลัง
ถึง 19 แผล ภายหลังลิซซี่ เบอร์เด็นถูกจับและนำตัวขึ้นศาล แต่สุดท้ายก็ถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดและ
ปล่อยตัวออกมา เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ (ท่ามกลางมรดกนายแอนดรูว์) ของจนกระทั่งเสียชีวิตไปด้วย
อายุ 67 ปี
 
 
(ปัจจุบันบ้านเลขที่ 92 เซคันด์สตรีท ได้กลายมาเป็นโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อของ
ฟอลรีเวอร์ แขกผู้มาพักสามารถเลือกพักในห้องต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงห้องของลิซซี่เอง หรือห้องรับแขก
ที่แอบบี้ใช้ในการฆ่าได้ด้วย)
 


 
 
อันดับ1. แมรี่ แมรี่ เธอช่างดื้อรั้น (Mary, Mary Quite Contrary)
 
 
 
 
 
(ฟังได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=lo1gE4GAAH8)
 
Mary Mary quite contrary, (แมรี่ แมรี่ มันช่างดูขัดกัน)
 
How does your garden grow? (สวนของเธอมันงอกงามได้อย่างไรนะ)
 
With silver bells and leshells (ด้วยกระดิ่งเงินและเปลือกหอย)
 
And pretty maids all in a row. (และบรรดาสาวใช้แสนสวยทั้งหมดในขบวนแถว)
 
(silver bells เป็นชื่อดอกไม้ และ leshells เป็นชื่อหอยและชื่อดอกไม้ด้วย)
 
 
ที่มาของมันล่ะ
 
และนี้คืออันดับ 1 ของเรา ซึ่งฟังจากเนื้อเพลงแล้วมันไม่มีอะไรจริงๆ(นะ) แต่ถ้าแปล และรู้ความหมาย
ที่แท้จริงแล้วปรากฏว่ามันโหดอย่างเหลือเชื่อ!!
 
 
เพลงนี้ฟังๆ คงคิดว่าเป็นแนวๆ หญิงแก่ที่แสนฉลาดรักสงบ ทำสวนสวยเป็นงานอดิเรกยามว่างของเธอ
ใช่ไหมละ ก็ผิดอีกแหละ มันมีที่มาจากแมรี่บ้าเลือดอีกแล้วละ ผู้ซึ่งเป็นที่มาของเพลงกล่อมเด็กโหดจริงๆ
 
 
คือว่าคำว่าสวนของแมรี่ก็หมายถึงสุสานไงละครับ ซึ่งแมรี่ฆ่าคนเหมือนผักปลาจนสุสานแทบไม่มีพื้นที่
ฝังศพ ส่วนคำว่า “silver bells” เป็นเครื่องทรมานชนิดหนึ่งของยุโรปที่ใช้บดหัวนิ้วมือ และ
“leshells” เป็นเครื่องทรมานอีกชนิดของยุโรปคล้ายหอย เวลาจะทรมานก็เอาอวัยวะสืบพันธุ์ของ
ผู้ชายมาหนีบกับเครื่อง (อู้ย....) ส่วนคำว่า "คนใช้ (The Maiden)" มันหมายถึง กิโยติน (guillotine)
ซึ่งเป็นเครื่องประหารสำหรับตัดคอนักโทษ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่แมรี่ใช้ฆ่าคนนั้นเอง
 
 
(เพลงนี้นำไปประกอบในหนังเรื่อง URBAN LEGENDS ปลุกตำนานโหด.. มหาลัยสยอง 2 ผมก็ไม่ได้
ดูหรอก แต่มีคนมาบอก)
 
 
(บางตำราบอกว่าแมรี่ในที่นี้คือ แมรี่ราชินีแห่งสก๊อตแลนด์ ผู้ซึ่งถูกเอลิซาเบธที่หนึ่งขังเอาไว้ และ
ประหารในข้อหาคบคิดล้มราชบัลลังก์อังกฤษ โดยมีแผนลอบปลงพระชนม์เอลิซาเบธ แมรี่เคยเสกสมรส
กับพระยุพราชฝรั่งเศส le shells คืออาหารฝรั่งเศสที่เธอโปรดปราน กระดิ่งเงินนั้นก็คือกระดิ่งประดับ
ภูษาฉลองพระองค์ อันเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาในราชสำนัก และสาวใช้สวยๆ ที่เข้าแถวรับใช้อยู่ก็คือ 
“แมรี่ทั้งสี่” ชื่อของนางพระกำนัลสาวสวยสี่คนในสมัยของเธอ ขณะอยู่สก๊อตแลนด์


 
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=805.0)
 http://www.cracked.com/article_16576_disturbing-origins-5-common-nursery-rhymes.html+ +
By Cammy : http://writer.dek-d.com/cammy/writer/viewlongc.php?id=467856&chapter=51#ixzz1Cy7RYDCI
 
ที่มาของข้อมูลค่ะ >>>> http://www.oknation.net/blog/bigeye2009/2011/02/23/entry-3

** มีข้อผิดพลาดตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

26 ความคิดเห็น

Shiny Girl'z 24 ส.ค. 55 เวลา 22:44 น. 2

น่ากลัวมากมาย O_o
ถ้าเรารู้ความหมายแล้วมาฟังเพลงนี้เป็นเพลงกล่อมนอน ต้องนอนไม่หลับแหง T^T


PS.  Yesterday is history, Tomorrow is mystery, Today is a gift, that's why it's call *PRESENT*
0
soobee 24 ส.ค. 55 เวลา 23:04 น. 3

เราว่าเเล้วลิซซี่ต้องติด น่ากลัวทุกเพลงเลย 


PS.  กูมี ความสุขที่ผู้ชาย ' ได้กัน '
0
transcend 25 ส.ค. 55 เวลา 12:44 น. 4

จินตนาการล้ำเลิศ
PS.  ถ้าพระเจ้ามีจริง ท่านก็คงสร้างผมขึ้นมาให้ไม่เชื่อในพระเจ้า...
0
N2Night 26 ส.ค. 55 เวลา 21:05 น. 7

บางคนก็ร้องโดยไม่รู้อะไรเลย เฮ้อ ทุกอย่างมีที่มาจริงๆ


PS.  ทักทาย จ้า !!!!!
0
Mr. X X X 27 ส.ค. 55 เวลา 14:36 น. 9

เพลงกล่อมเด็ก !!? 


PS.  <a href="http://writer.dek-d.com/89pm/writer/view.php?id=823656" target="_blank"><img border=0 src="https://image.dek-d.com/25/2516954/110315115" alt="I want you to know des." width=88 height=
0
mitsutora 27 ส.ค. 55 เวลา 15:33 น. 10

อยากจะบอกว่าเราชอบเพลงพวกนี้มากเลยล่ะ
อย่างลิซซี่ บอร์เดน ก็ร้องเป็นประจำ...

(อย่าเข้าใจผิด มันมีประโยชน์วิชาประวัติศาสตร์นะเออ)


PS.  ต่อให้โลกไม่ทราบเจตนาของเจ้าก็มิจำเป็นต้องร้องตะโกน ทว่าจงใช้การกระทำเพื่อพิสูจน์ตัวเจ้า
0
DULCIMERKJ 27 ส.ค. 55 เวลา 16:34 น. 11

ประทับใจมากๆ!!
อ่านแล้วคิดว่าันสุดยอดไปเลย แอบขนลุกแล้วก็มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันน้อ :)

0
Claire 27 ส.ค. 55 เวลา 17:20 น. 13

โหด!!! แต่ยอมรับว่ามีสาระ ช่างคิดประดิษฐ์เป็นเพลงมาได้นะเออ


PS.  Hello everybody!!
0
KeLen Shadiness 27 ส.ค. 55 เวลา 18:09 น. 14
“silver bells”  ชื่อดอกไมูู้^^~
แต่อีกความหมาย...
เครื่องมือบดนิ้ว =[ ]=


ลิซซี่ บอร์เดน อืม เคยอ่านเจอในการิน
PS.  UKISS & EXO<Tao> >//< I love you~~ Anime ของข้าาา Nura ~ PandoraHearts ~ Black Butler ~ D.Gray-man &etc.
0
l3lAcK-AlOnE 27 ส.ค. 55 เวลา 19:32 น. 15
ลิซซี่ บอร์เดน
ตั้งแต่เจอหล่อน[ไม่ใช่ซิบุคคลในนามหล่อน หึ]ในการิน เราก็ไม่ร้องอีกเลย
คิดดูสิ บรรยากาศหลอนๆกับเพลงกล่อมเด็ก หึหึ ชวนขนลุกได้ใจ
แต่ยังไม่เท่าอันดับที่ 1 แมร่งเอ้ย!! เมื่อเช้ายังหัมเพลงนี้ยุเลย T^T กลัวแล้วสาดด
แต่น่ะนึกว่าลิซซี่มันจะที่หนึ่งซะอีกแต่แมรี่เหนือความคาดหมาย T^T ไม่รู้เลยจริงๆแอบช็อค T^T


PS.  {ya[Guy=..=(BxB)][Xs]-[Sm]+[Nc++]oi} ฮุฮุๆๆๆ [เพียงแค่นี้....ขอแค่นี้ล่ะ อาเมน -..-]
0
Blackcat~Paw 27 ส.ค. 55 เวลา 19:33 น. 16

รู้สึกเหมือนเคยเห็นในของพี่แคม ถ้าจำไม่ผิด เออ มันน่ากลัวจริงแฮะ แบบดูโรคจิตอ่ะ -_-


PS.  งืมๆ
0
# Aumi! ' (: 27 ส.ค. 55 เวลา 22:12 น. 19
ไม่มีเพลงไหนจะน่ารักปราศจากพิษภัยเหมือนเพลงไทยแล้วแหละ
หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว~

(ทั้งเพลงมันก็มีอยู่แค่นี้ - -*)


0
Nine 27 ส.ค. 55 เวลา 22:38 น. 20

ส่วนตัวแล้ว เป็นคนที่ไม่ถูกกับเพลงกล่อมเด็ก นิทานกล่อมเด็กของทางตะวันตกมาตั้งแต่เกิด 
ตอนเด็กๆได้ยินทีไร ถึงกับหวาดผวา พอตอขึ้นหน่อยตอนจะนอนครูร้องให้คนอื่นฟังจนหลับ ยกเว้นผมเหมือนว่าผมไม่ชอบมันเลยแฮะ ฟังระคายหูไงไม่รู้ 

เอาจริงๆร้องเพลงกล่อมเด็กของทางเอเชียดีกว่าไหม? ทางตะวันตกน่ะมันเป็นการปลูกฝังให้เด็กโตขึ้นมาหยาบกร้านได้นะ:( นี่คือคหสต.ของผม


PS.  I'm girl But I want 2 BOY!!!!
0