ถ้านิยายของ Dr.Pop ไม่ดีจริง ทำไมถึงขายได้เยอะล่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
เอ๊ะ เรามาจุดชนวนหรือเปล่าเนี่ย
มาต่อๆ
คือวันนี้เราเข้าร้านซีเอ็ด ไปเห็นเกิร์ลแอนด์อะดอลล์ ที่บนปกหนังสือบอกว่าพิมพ์ครั้งที่ 11
พิมพ์ครั้งที่ 11 สำหรับเรามันเยอะมากนะ
ก็เลยอยากถามล่ะจ้ะว่า ถ้าไม่ดีจริง ทำไมถึงขายได้เยอะขนาดนั้น (จริงๆเราก็แอบอิจฉานะ 555)
ก็หวังว่าจะไม่มีเรื่องเกิดขึ้นนะครับ
38 ความคิดเห็น
เล่นพูดโต้งๆแบบนี้ มันจะล่อเป้านะ ฮ่าๆๆๆ
PS. "ภายในหน้ากากนี้มีใบหน้าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ใช่ฉัน!!!""ผลแห่งกรรม ที่เกิดจากการกระทำของผู้นำ จึงเกิดเป็น V"
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับการโปรโมตนะ
ขนาด GT200 ยังขายได้เลยครับ
PS. ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นศัตรูของตัวข้า แต่ทำไมตัวข้ากลับเป็นศัตรูของทุกคน?
บางที คำว่าไม่ดี มันไม่ได้เลวร้ายในสายตาของคนที่ไมเคร่งนิยายเท่าพวกเราละมั้ง แต่เมื่อมาอยู่ในสายตาของคนที่ผ่านการอ่านนิยายมาหลายๆเรื่อง มันก็เลยดูงั้นๆ ไม่มีอะไรพิเศษละมั้ง
บ้างทีการที่มีประสบการณ์มากขึ้น ผ่านนิยายมาหลายเรื่อง ก็ทำให้นิยายที่เคยอ่านสนุกในอดีตกลายเป็นเรื่องที่ไม่สนุกก็ได้ละมั้ง หรือบางที อาจจะทำให้นิยายธรรมดากลายเป็นนิยายที่ไม่น่าอ่านไป
PS. บทเพลงที่ข้าบรรเลงอาจไม่ไพเราะ...แต่ข้านั้นบรรเลงด้วยหัวใจ นิยายที่สรรค์สร้างอาจไม่สนุก...แต่ข้าก็เขียนด้วยหัวใจ
เข้ามาอ่านความคิดเห็นของคนอื่นนะ แต่เหมือนเราจะได้ข้อคิดซะเอง
เราเป็นคนหนึ่งที่อ่านนิยายเป็นบางเรื่อง หรือก็คือเฉพาะแนว โดยส่วนใหญ่จะชอบนิยายแปลหรือหนังสือแปลต่างๆ ผลงานของคนไทยนี่ไม่ค่อยมีอะไรเข้าตาเลย เราก็คิดว่าเราอคติมากไปหรือเปล่า แต่งงไงว่าอคติเรื่องอะไร ทำไมอ่านไม่รู้เรื่อง เราก็พยายามอ่านนะ แต่หลายเรื่องที่อ่านไม่จบ เสียดายเงินที่อุดหนุนมานิดๆ เราไม่ทราบเลยค่ะว่ามันเป็นปัญหาที่อะไร
แต่พอมาอ่านความคิดเห็นของคุณ GoddessBell เราก็คิดว่าอาจเป็นไปได้ คือเราอ่านของคนที่เขียนเทพๆ มาเยอะเลยอาจจะอ่านที่มันน้อยกว่าแล้วเกิดเบื่อ แต่คนที่เขียนแล้วอ่านสนุกก็เยอะนะคะ(เฉพาะคนไทย) แต่ที่อ่านจนจบก็ยังมีน้อยเหมือนเดิม
อยู่ที่ช่วงวัยด้วยหรือเปล่า
แฟนเด็กๆ หน่อยของ ดร.ป๊อบมีเยอะ ยิ่งใครมีกำลังซื้อ มีกี่เล่มกี่ตอนก็ทุ่มซื้อหมด
เด็กๆ เดี๋ยวนี้ก็อ่านหนังสือมากด้วย
อย่างแต่ก่อนเราก็ชอบ อีนิด ไบตัน มากๆ ตามซื้อทุกเล่ม พวกห้าสหายผจญภัยไรงี้ หรืออย่างแจ๊กเกอลีน วิลสัน ตอนนี้เอามาอ่านอีกที มันไม่ใช่อะ ไม่ใช่ไม่สนุกนะ แต่เนื้อหามันเด็กไปแล้ว
ของดรป๊อบก็เหมือนกัน เด็กไปสำหรับเราแล้วว
ล่อเป้ามาก ถ้าจขกท.อยากรู้ว่ามันดีตรงไหน ทำไมขายได้ จขกท.ลองไปซื้อมาอ่านเองสิครับ จากนั้นศึกษาพฤติกรรมของนักเขียนท่านนี้ให้ดีๆ แล้วท่านจะเดาเหตุผลได้ว่าทำไมขายออก
PS. บัลลังก์นี้มิเคยปรารถนา บัลลังก์นี้มิเคยคิดลุ่มหลง บัลลังก์นี้มิเคยคิดชื่นชม บัลลังก์นี้มิเคยสมสุขทรวง / ไม่มีใครปฏิเสธกรรมที่เรียกว่า "การกระทำ" ได้หรอก
อีกอย่าง เป็นนักเขียนที่มีฐานแฟนคลับ (ที่ถูกหลอกรึเปล่า ?) เหนียวแน่น แถมยังเดินสายหาสาวกตลอดเวลา พิมพ์ไม่เยอะก็แปลกแล้วครับ
อย่าเอาไปเทียบกับอีนิด ไบลตันเลยครับ คนละชั้น
PS. หากเพียงฉันสามารถเอื้อมมือเข้าไปถึงในใจของเธอภายในอกที่ปิดกั้นฉันเรื่อยมา เธอจะคิดถึงฉันบ้างไหมหนา หรือว่าฉันคงไม่มีวันจะสมหวัง.....
เราว่าอาจจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ และประสบการณ์ในการอ่านงานเขียนของแต่ละคนมากกว่า
ยิ่งคนไหนอ่านเยอะก็จะรู้ว่า งานดี งานไม่ดี งานพออ่านได้ เป็นแบบไหน
บางเรื่องก็อาจไม่สนุกอะไรมากมาย พออ่านได้เรื่อยๆ พักไปสองสามวันมาอ่านก็ยังได้
หรือบางเรื่องที่สนุกจนวางไม่ลงต้อง อยากรู้ต่อไปจะเป็นอย่างไรน่าติดตามมาก พออ่านจบก็อยากให้เล่มต่อไปออกไวๆ ^^
หรืออีกอันสุดท้ายก็คือ ไม่ไหวแล้ว!! เรื่องบ้าอะไรเนี่ย อ่านจบหรือไม่จบสุดท้ายก็โยนเข้ากรุไป ไม่หยิบขึ้นมาอีก แล้วจำชื่อนักเขียนไว้... ก็มี
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแนวและความชอบของแต่ละคนด้วยนะคะ ^^
PS. ค น แ ร ก ข อ ง หั ว ใ จ อ า จ ไ ม่ ใ ช่ ค น สุ ด ท้ า ย ข อ ง ชี วิ ต เ พี ย ง แ ค่ เ ร า อ ย่ า ยึ ด ติ ด แ ล้ ว ชี วิ ต จ ะ ดี เ อ ง
แค่ตัวเลขน่ะครับ ถ้าผมตีพิมพ์บ้าง ผมจะขอให้ สนพ เขียนไว้ว่า พิมพ์ครั้งที่ 100 ปะโธ่ ใครมันจะมานั่งสืบว่าพิมพ์ครั้งที่เท่าไร
PS. ถ้าเขาว่าผิดผมว่าไม่ผิดแล้วผมต้องผิดใช่ไหม ถ้าเขาว่าถูกผมว่าไม่ถูกแล้วผมต้องเชื่อหรือไง
สนุกไม่สนุก เราว่ามันแล้วแต่คนอ่านนะ ว่าชอบอ่านแนวนี้อ่ะเปล่า
อย่าตัดสินนิยายเรื่องหนึ่ง ที่จำนวนครั้งที่พิมพ์เลยค่ะ
PS.
เย้ยยย
ไม่ได้เปรียบอะไรหรือเทียบชั้น ระหว่าง คุณอีนิด กับ คุณป๊อบเค้า
แค่ยกตัวอย่างเน้อ
เราไม่ซื้องานของคุณป๊อบเขาแต่ต้นแล้ว สนุกแค่เล่มแรกเล่มเดียวเรื่องเดียว ส่วนเรื่องอื่นเล่มอื่นเฉยๆ อ่านเอาพอรู้เท่านั้น เราว่ามันก็คงขึ้นอยู่กับการโปรโมทด้วยจริงๆ แหละ เราว่ามันก็ดีนะ สมกับที่เรียนบริหาร (ใช่ปะ?)
น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ในประเทศเทย
PS. สนับสนุนฮาเร็ม ต่อต้านการเข้าวิน และบูชานิมพ์ดั่งเทพ
เหมือนตอนเด็กๆ
ยามดูฉากต่อสู้ของการตูนเรื่องหนึ่ง ที่ชกกันอยู่ท่าเดียว แต่วนลูบสักหลายสิบรอบ ตะโกนร้อง ย๊ากๆๆ อยู่ทุกหมัด
แวบไปทางซ้าย แวบไปทางขวา ตูมตามตูมตาม วนไปวนมาอยู่หลายนาที ก็ยังดูสนุก
แต่เมื่อเวลาผ่านไป อายุมากขึ้น โตขึ้น มานั่งดูการ์ตูนเรื่องนั้นอีกครั้ง กลับบ่นขึ้นมาว่า 'มันง่ายไปไหมเนี่ย' วาดฉากไม่ต้องมาก การเคลื่อนไหวไม่ต้องเยอะ อาศัยทำซ้ำๆ กันก็พอ ฮาๆ
หวังว่าทุกท่านคงทราบ ผมพูดถึงเรื่องอะไร
PS. บทเพลงที่ข้าบรรเลงอาจไม่ไพเราะ...แต่ข้านั้นบรรเลงด้วยหัวใจ นิยายที่สรรค์สร้างอาจไม่สนุก...แต่ข้าก็เขียนด้วยหัวใจ
คำว่า ดี มันมาตรฐานไม่เหมือนกันน่ะ
งานประเภทที่ขายดี ลักษณะคือต้องเป็นผลงานที่อ่านเอาสนุก สบายใจ มัน น่าติดตาม ฆ่าเวลา ปมมีการคลี่คลายที่เดาได้ น่าพอใจ ไม่ขมขื่น (เช่นละครน้ำเน่า รายการตลกทั้งหลาย) เพราะว่าคนส่วนใหญ่ต้องการความบันเทิง ชีวิตเขาเครียดพอแล้ว อยากได้อะไรเบาๆบ้าง
ถามว่ามัน "ดี" ไหม? ก็อาจจะถือว่าดีนะ เพราะมันตอบความต้องการของคนอ่าน งานบันเทิงที่ทำให้คนบันเทิง ก็นับว่าถูกต้องดีแล้ว
แต่ชีวิตคนเรามันไม่ใช่มีแต่บันเทิงเปล่ากลวงใช่ไหมล่ะ สำหรับคนอ่านที่ระดับสูงขึ้นมาหน่อย ก็อยากได้งานที่มีโครงเรื่องซับซ้อนกว่านั้น ภาษาสละสลวย การจัดลำดับความคิดที่ดี ระดับสูงๆไปอีกก็ต้องการงานที่กระตุ้นการขบคิด ปรัชญา การประยุกต์ใช้ พัฒนาสังคม มนุษยธรรม พวกนี้เขาถึงจะถือว่า "ดี" มันเป็นดีคนละแบบเพราะคนอ่านมีความต้องการต่างกัน เราว่านะ เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก มันเหมือนจะพยายามเปรียบฟาสต์ฟู้ดกับอาหารสุขภาพอ้ะ โลกต้องการทั้งสองอย่างนั่นแหละ
แต่กรณี ดร.ป๊อป... คือเหมือนพยายามยกย่องและเร่ขายฟาสต์ฟู้ดว่าเป็นอาหารสุขภาพชั้นเลิศ (ซึ่งคนที่ไม่รู้ ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ ก็ซื้อตามที่เขาโฆษณา) แถมคนยังให้เขาไปบรรยายสั่งสอนคนอีก... มันก็เลยน่าเป็นห่วงนิดหน่อยละมั้ง =w= แต่ยังไงพออ่านแล้วก็รู้เองแหละว่ามันเป็นฟาสต์ฟู้ด
PS. นักอ่านนอร์มอลเชิญพบกันที่ Woman Before Eve: รักฝืนลิขิต | สาววายเชิญพบกัน facebook.com/helegriel
"คือวันนี้เราเข้าร้านซีเอ็ด ไปเห็นเกิร์ลแอนด์อะดอล ที่บนปกหนังสือบอกว่าพิมพ์ครั้งที่ 11"
^พิมพ์ครั้งละ 10 เล่มอ๊ะป่าว
@ 14 ได้เห็นแรร์ เพอร์ซัน!!
PS. บัลลังก์นี้มิเคยปรารถนา บัลลังก์นี้มิเคยคิดลุ่มหลง บัลลังก์นี้มิเคยคิดชื่นชม บัลลังก์นี้มิเคยสมสุขทรวง / ไม่มีใครปฏิเสธกรรมที่เรียกว่า "การกระทำ" ได้หรอก
กระแสเค้าแรง มาเป็นช่วงๆ ... ทำไมไม่มีคนมาจุดไฟมั่งน้า จะได้ขึ้นเว็บจ่า
PS. คนที่ท้อแท้เพราะเป้าหมายนั้นยากลำบาก ยังน่านับถือกว่าคนที่ไม่กล้าแม้แต่จะท้าทาย
ไม่เกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้นะครับ แต่ตัวอย่างลักษณะนี้มันมีในห้องเฉลิมไทยว่าทำไมหนังดีๆถึงขายไม่ค่อยได้ แต่หนังไม่มีอะไรเลยมีแต่มุกแป๊กบ้างไม่แป๊กบ้างทำไมทำเงินล้าน
คำตอบคือการตลาดล้วนๆครับ ถ้าทำการโปรโมทดี บางทีอาจต้องใช้หน้าม้า (เรื่องปกติในบางบอร์ด) จุดกระแสทั้งบวกและลบ (ลบนี่อย่าคิดว่าไม่ได้ผลนะครับ บางทีมันก็เกิดมุมกลับว่า มันแย่อย่างที่ว่าจริงเหรอ แบบนี้ต้องลองแล้ว) สุดท้ายมันจะเกิดกระแสขึ้นมาเอง
ส่วนดีหรือไม่นั่นเป็นอีกประเด็นครับ หนังบางเรื่องถ้ามันได้ทั้งกระแสได้ทั้งพล็อตล่ะก็มันก็ดังได้ ตัวอย่างเช่น The day after tommorow ถ้าจำไม่ผิดนี่ได้ทั้งเรื่องทั้งเงินเลยนะครับ ngos ถือโอกาสแนะนำเลยว่าเป็นหนังที่ให้ข้อคิดดีมาก ในเรื่องก็มีฉากสนุกแอ็กชันให้ลุ้นแบบดูไม่เบื่อ
ผิดบางเรื่องอย่าง Armargeddon นี่ถ้าจำไม่ผิดนักวิชาการยังสับเละเลยว่าเลอะเทอะไม่สมจริงทางวิทยาศาสตร์ แต่นั่นกลับโกยเงินเป็นกอบเป็นกำ ขณะที่หนังแนวเดียวกันแต่สมจริงกว่าเยอะอย่าง Deep Impact กลับไม่ทำเงินเท่า
จะบอกว่า Deep Impact ไม่ดีมันก็ำไม่ใช่เรื่อง สนุกเลยล่ะครับเรื่องนี้ แต่แอ็กชันกับดาราไม่ใช่ แล้วกลุ่มตลาดก็ไม่ใช่ด้วย ปรระเด็นมันก็เท่านั้นล่ะครับ
ส่วนถ้าจะมองว่าดีจริงหรือไม่ผมมองความเห็นว่าให้ดูต่อเนื่องจะชัดกว่า เช่นถ้ามี 3 ภาค มันต้องขายได้ทั้งหมด ยอดอาจมีลดหลั่นกันบ้าง แต่ควรเป็นกราฟที่ไปในทิศทางแบบไม่กระโดดหรือตกฮวบ
ถ้าขายได้แต่ภาคเดียวแต่ภาคที่เหลือเจ๊งหมดแบบนั้นก็ไม่ใช่ว่าดีจริงครับ หรือดีแค่ภาคเดียวภาคหลังออกทะเล (เจอได้บ่อยๆในหนังหลายเรื่องที่ภาคหลังออกเป็นเกรด B เช่น Starshiptrooper เป็นต้น ภาคแรกอย่างสนุก ภาคหลังโดนวิจารณ์ซะเละ ซึ่งจากที่ดูมามันก็แย่อย่างที่ว่าจริงๆ)
นอกจากนี้แล้วผมจะดูที่กระแสการวิจารณ์ด้วยนะครับ คือแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วการวิจารณ์มักไปในทางแง่ลบมากกว่าเพราะจุดบกพร่องมันชี้ง่ายและชัดเจนเป็นรูปธรรมกว่าจุดดี แต่ว่ากระแสส่วนใหญ่จะมีบวกลบไล่กันไป และรวมไปถึงเสียงพูดของคนดูด้วย ซึ่งสมัยนี้ก็หาไม่ยากเจอให้ตามบอร์ดต่างๆ มันเป็นสิ่งชี้วัดประกอบกันครับ
ลำพังแค่ยอดอย่างเดียวคงสรุปไม่ได้ว่าดีไม่ดี เฉกเช่นหนังว่าขายได้ก็ใช่ว่าจะสนุกเสมอไป (เจอมาหลายเรื่องเลยล่ะถูกเพื่อนลากไปดู อวยกันจริงว่าสนุกงั้นงี้ แต่ผมดูเสร็จออกมาจากโรงหนังแบบหัวโล่งๆว่า ให้ตูเสียตังค์เป็น 200 แถมเสียเวลาอีก 2 ชม. เพื่ออะไรฟะ...)
ซึ่งหนังหลายเรื่องก็มีทำนองนี้นะครับ ภาคแรกทำเงินภาคสองเจ๊งไม่เป็นท่า หรืออาจพอประคองได้เพราะอาศัยบารมีภาคแรก สุดท้ายภาคสามพัีบโครงการไม่ทำแล้ว... แบบนี้จะบอกว่าไม่ดีทำไมทำเงินได้ก็เข้าเหตุผลเดียวกันครับผม
ปล. ไม่ได้คิดจับผิดอะไรนะครับ แต่สงสัยว่าถ้าถึงขั้นตีพิมพ์ซ้ำไปรอบที่ 11 แล้วแสดงว่าน่าจะขายดีมาก แต่เวลาเข้าร้านหนังสือไหงไม่เคยเห็นเรื่องนี้ติดอันดับขายดีเลยแฮะ... ตีพิมพ์ครั้งหนึ่งนี่กี่เล่มหว่าทำไมหมดไวจนต้องตีพิมพ์ใหม่ไวจัง
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 28 สิงหาคม 2555 / 00:48
PS. Ragnarok Fiction - The legend of descendant - เรื่องราวของตำนานรบตำนานรักบทใหม่ มีอา-มังกรน้อยปาฏิหาริย์ - (Master And The Little Dragon) - รักพี่จ๋าที่สุดในโลกเลย !!
พิมพ์เพิ่มครั้งละ 500 เล่มมั้ง..มันเลยบ่อย
โอ๊ะ คห.14
PS. นอกจากรักเธอแล้ว.. ฉันก็ไม่เก่งอะไรเลย
@14
อั้ยย่ะ!!!
PS. ค่ำคืนนี้... เราจะไปยังเเห่งหนใด?
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?