ระบายความรู้สึกจากใจ นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2
ตั้งกระทู้ใหม่
    สวัสดีครับ ผมเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 ครับ วันนี้แค่อยากจะมาตั้งกระทู้เล่าเรื่องและระบายความรู้สึกจากชีวิตในปี 2 เทอม 1 ที่ผ่านมานะครับ ทุกคนอ่านแล้วอาจจะคิดว่า เฮ้ย ! มาบ่นอะไรให้ฟังเนี่ย แต่ผมก็รู้สึกอยากจะระบายให้ฟัง ก็ขอขอบคุณทุกคนนะครับที่ยังคิดจะอ่านสิ่งที่ผมกำลังจะเล่านี้ต่อไป
    ณ ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงปิดเทอมหลังสอบ Final เทอม 1 เสร็จซึ่งได้หยุดสั้นๆ ไม่กี่วัน ความเหนื่อยล้าก็เริ่มคลายลงบ้างแล้ว แต่ความรู้สึกที่อึดอั้นก็ยังคงอยู่ แค่อยากจะพิมพ์ปลดปล่อยมันออกไป
    ผมเปิดเทอมขึ้นปี 2 มาพร้อมกับการปรับตัวหลายอย่างจากปี 1 ที่ยากขึ้นกว่าเดิม เรียนหนักขึ้นแบบเนื้อหาแต่ละวิชาหนักมาก แถมทุกอย่างก็เป็นภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะการทำแลปผ่าอาจารย์ใหญ่ค่อนข้างจะเป็นแลปที่ดูดพลังมาก แน่นอนว่าช่วงแรกก็เหนื่อยมากๆ มีกิจกรรมรับน้องมาแทรกบ้างแต่ก็ต้องรับผิดชอบไปพร้อมกับการเรียน ดังนั้นจึงอาจเข้าร่วมได้ไม่ค่อยมากนัก ความรู้สึกที่ผมกำลังจะพิมพ์ต่อไปนี้ ผมจะขอพิมพ์ไว้เป็นข้อๆ ละกันนะครับ เพราะไม่ได้เรียบเรียงมาล่วงหน้า นึกอะไรออกก็พิมพ์ไปเลย
-    ช่วงแรกปรับตัวไม่ทัน เพราะอาจารย์สอนไวมาก และทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษหมด ยกเว้นเสียงอาจารย์ที่สอนเป็นภาษาไทย เนื้อหา 1 เลคเชอร์ คือ 1 ชั่วโมง และต้องอ่านก่อนไปเข้าแลปทุกครั้ง ไม่งั้นจะไม่รู้เรื่องเลย
-    อาจารย์จะมี Quiz ทุกสัปดาห์ช่วงแรกๆ เป็นการบังคับให้อ่านมาล่วงหน้าโดยที่ไม่สนใจว่าเด็กจะเรียนกี่วิชา หนักแค่ไหน พอทำไม่ได้ก็เริ่มท้อ หมดกำลังใจต่อไป แต่ยังดีช่วงหลังๆ อาจารย์ปราณี ไม่ค่อยเก็บคะแนน Quiz แล้ว แต่มิวาย ก็ยังออกข้อสอบระดับโหดๆเหมือนเดิม
-    แลปการผ่าอาจารย์ใหญ่จะค่อนข้างเหนื่อยมาก ใครมาเรียนจะเข้าใจดี เพราะต้องละเอียดอ่อนและนอกจากนี้คือทำให้ปวดหลังได้ง่าย เพราะต้องก้มแล้วผ่า แล้วเวลาเข้าแลปทีจะกินเวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมง ดังนั้นกลับหอแล้วสลบได้เลย สรุปคือวันนั้นก็ไม่ได้อ่านหนังสือ
-    เด็กแพทย์จะเป็นเด็กระดับเทพมาก คือขยันอ่านหนังสือกันแบบถึงตี 2-3 กันได้เลย ช่วงแรกร่างกายผมปรับตัวไม่ได้เลย ไม่เกินเที่ยงคืนก็ไม่ไหวแล้ว สภาพร่างกายเหนื่อยมาก กลับถึงหอปุ๊บ หลับทันที
-    จากการที่ผมหลับไว ทำให้จากเดิมที่เรียนในห้องไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ไม่ได้ทบทวน พอไปเข้าแลปก็เอ๋อเลย ไม่รู้เรื่องอะไรเลย สะสมพอกหางหมูจนสุดท้ายต้องมาเร่งอ่านช่วงใกล้สอบ คะแนนก็ออกมาไม่ค่อยดี จนแทบไม่อยากทำอะไรต่อเลย
-    เด็กแพทย์ส่วนมากก็ต้องรับผิดชอบชีวิตตนเอง และเอาตัวรอดกันเองอยู่แล้ว ดังนั้นพอเพื่อนมีปัญหา ถ้าอ่านไม่ทันของตนเองก็คงไม่มีเวลาไปช่วยคนอื่นหรอก นอกจากจะอ่านจบแล้วถึงจะพอไปติวคนอื่นได้ เนื้อหาวิชามันก็เยอะอยู่แล้ว พวกที่ติวต้องรับผิดชอบชีวิตตนเองได้ดีพอสมควรว่าง่ายๆคือ ต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อนถึงจะไปช่วยคนอื่น สุดท้ายบางคนรุ่นผมก็ไปไม่รอด ติด F กันไปบ้างประปราย ผมก็เกือบจะโดนอยู่แล้ว ยังดีที่รอดมาได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าเวลาคนเราอยู่ในช่วงวิกฤติ นิสัยที่แท้จริงมันจะปรากฏออกมา ซึ่งนิสัยเพื่อนผมบางคน ผมก็รับไม่ได้เลยว่า ทำไมช่วงต้นเทอมบอกดีๆอยู่เลย ว่าจะช่วยกัน พากันไปให้รอด สุดท้ายทั้งกลุ่มตกมีนหมด มีมันคนเดียวที่คะแนนพุ่งไประดับท็อป
-    แน่นอนว่าตอนเรียนก็ไม่ได้สอบแค่วิชาเดียว ดังนั้นเมื่อจัดตารางเวลาออกมาแล้ว ปรากฏว่าต้องสอบติดๆกันเยอะมาก ดังนั้นต้องอ่านหนังสือกันแบบหนักเลยทีเดียว
-    ทุกอย่างโดยคร่าวๆแล้ว ที่จริงมันมีเยอะกว่านี้ ผมก็อยากเล่าแต่มันนึกไม่ค่อยออกแล้ว สรุปให้ฟังว่า บางอารมณ์มัน เหนื่อย แล้วก็ท้อมากด้วย แต่ ณ จุดนี้ เสียงตอบรับที่ได้กลับมา เป็นดังนี้
เช่น จากรุ่นพี่ (ณ จุดนี้ถ้าผู้อ่านคนใดเป็น นศพ. ระดับสูงกว่าปี 2 คงเข้าใจ)
“อะไรกัน แค่นี้ ปี 2 สบายจะตาย เรียนไม่ไหว ปี 3 ขึ้นคลินิคไม่ตายเอาหรอ”
“คนอื่นเขาไม่เห็นมีปัญหาเลย จะบ่นทำไม คนอื่นเรียนไหวคุณก็ต้องเรียนไหวสิ”
“คุณเอาเวลาบ่นไปอ่านหนังสือไม่ดีกว่าหรอ”
“สมัยพี่เรียน พี่ทำกิจกรรมหนักกว่าน้องตั้งเยอะ พี่ยังเอาตัวรอดมาได้เลย”
“คุณมันไก่อ่อน คุณมันไม่เอาไหน แค่นี้เหนื่อยแล้วหรอวะ”
และ บางส่วน จากอาจารย์ที่สอน
“แค่ปี 2 ไวไปที่คุณจะบ่นว่าเหนื่อย ชีวิตภายภาคหน้าคุณเหนื่อยกว่านี้เยอะ”
“คุณจะเป็นหมอ คุณทำได้แค่นี้หรอ แค่วิชาง่ายๆแค่นี้คุณเรียนไม่ไหวหรอ”
และ บางส่วน จากเพื่อนรุ่นเดียวกัน
“เมิงจะบ่นเหรี้ยอะไรมากมายวะ แค่นี้เมิงไม่ไหวหรอ เมิงมันน่ารำคาญสัสๆ”
-    แน่นอนจากการที่ผมเป็นนักศึกษาแพทย์ ถูกคาดหวังไว้สูงเกินระดับความสามารถ และที่มหาลัย ก็ไม่รู้จะปรึกษาใครดี ในเมื่อทุกคนก็เหนื่อยกันหมด แถมเวลาก็ไม่ค่อยมี อ่านกันไม่ค่อยทัน จะมีใครสละเวลามาเพื่อฟังการบ่นที่ไร้สาระ น่ารำคาญ จากผมละครับ
บ่นมาเยอะแล้ว ขอโทษนะครับ ที่ผมพิมพ์มาก็แค่อยากจะระบายให้ฟังละครับ จริงๆก็อยากระบายมากกว่านี้นะ แต่พยายามควบคุมการใช้ภาษาไม่ให้ออกแนวรุนแรงไปมากกว่านี้ บ่นไปงั้น แต่ยังไงก็ต้องเรียนให้ไหว เรียนให้จบให้ได้ เพื่อพ่อแม่และคนไข้ของผมในภายภาคหน้า แค่นี้จะมาท้อไม่ได้ อีกไม่กี่วันก็ต้องเปิดเทอมแล้ว  จบ...ขอบคุณมากนะครับที่ทนอ่านความรู้สึกของผมจนจบ
31 ความคิดเห็น
สู้ๆนะค่ะ กำลังใจจากคนแปลกหน้าไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะว่าที่คุณหมอ ^^
พยายามเข้านะค่ะ ^^
ตอนนี้อาจเหนื่อย อาจท้อ
แต่เมื่อพี่ข้ามผ่านจุดนี้ไปได้แล้ว
เชื่อเลยว่าพี่จะต้องภาคภูมิใจกับมันแน่นอนค่ะ
สู้และอดทนเพื่ออนาคตที่ดีและสดใสในวันข้างหน้านะคะ
สู้ๆนะคะ ลองหาเป้าหมายในชีวิต ว่าคุณเรียนไปเพื่ออะไรดีไหมจะได้มีกำลังใจเรียน
อย่าง เรียนเพื่อไปรักษาพ่อแม่อะไรอย่างเนี่ย พอเหนื่อยๆก็นึกถึงรอยยิ้มของท่านดู
แม้เราจะคิดว่าที่เราเรียน(ไม่ได้เกี่ยวกับสายการแพทย์) นั้นจะหนังเหมือนกัน(แต่ดีหน่อยหนักแค่ไม่กี่เทอม ตอนใกล้จบ...ทำโปรเจ็คเยอะ)
มันก็คงสู้คุณไม่ได้ คุณต้องหากำลังใจค่ะ กำลังใจสำคัญมาก เพราะเมื่อเรามีกำลังใจสิ่่งที่เราทำก็จะไม่เหนื่อย
ฉันชอบการ์ตูนเกี่ยวกับแพทย์เรื่องหนึ่งมาก ชื่อ GodHand Taru หมอในเรื่องนั้นกำลังใจคือรอยยิ้มของคนไข้
ส่วนตัวเอกคือหมอเทรุ หมอเทรุไม่มีความสามารถพิเศษ โง่มาก จบมาจากมหาลัยด้วยคะแนนแบบว่าห่วยสุดๆ แต่หมอเทรุก็พยายมอย่างหนักทุกวัน โดยมีรอยยิ้มของคนไข้ที่มารักษาแล้วหายกลับไป
ฉันเชื่อว่าถ้าคุณมีกำลังใจ คุณจะเหนื่อยน้อยลง (ถึงเหนื่อยก็มีแรงสู้ต่อแหละ) ได้เองแหละค่ะ
สู้ๆนะคะคุณหมอ.....
PS. ฉันคือใครกัน.....ฉันคือท่านพริก
ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น สู้ๆ
เจอปัญหาเดียวกันเลยค่ะ เรื่องที่ไม่ได้อ่านก่อนแลบ พอเข้าแลบก็เอ๋อ
เกรดปี1วิชาพื้นฐานที่เคยสวยๆ พอเข้ามาเรียนวิชาคณะแล้วก็ง่อยเปลี้ยดับอนาจ
และยิ่งกดดันยิ่งขึ้น เมื่อเห็นเพื่อนตกรุ่นไปทีละคน เครียดจริงๆนะ
PS. Violet I >>> Neon night >>> ScreecH Alpha >>> Sun Shy >>> Monstersmiles >>> ต้นน้ำ >>> ต้นน้ำมิน >>> ไพลินภัทร
นึกถึงอนาคตไว้นะคะพี่ พ่อเเม่พี่น้องรวมทั้งตัวพี่เองจะภูมิใจกับมันมากก
เหนื่อยให้สุดๆในตอนนี้เเล้วสบายข้างหน้ามันก็คุ้มค่านะ
สู้ๆค่ะ ^_____________________^
PS. Someone's watching over me
หนูว่าที่พี่เข้าคณะนี้ได้ ก็ถือว่าเจ๋งแล้ว และหนูก็คิดว่าพี่จะทำต่อไปได้
....เข้าได้ ก็ต้องเรียนได้สิวะ [ไม่สุภาพ+บ่น]
.............มีคนให้กำลังใจพี่แล้ว พี่ก็ต้องให้กำลังใจตัวเองด้วยล่ะ ....ยิ้มสิ...
PS. อ่าน อ่านนิยาย รักที่สุดเลย
ไม่เป็นไรนะค่ะ  สุ้ๆๆๆ การปรับตัวมันต้องใช้เวลา  ต้องผ่านมันไปให้ได้  เพื่ออนาคตของเรา  เอาใจช่วย เป็นกำลังใจให้นะค่ะ  สู้ต่อไป  ^____^
คนเรามันมีเหนื่อยกันได้ ขนาดเราชอบอ่านหนังสือมาก แต่พอเรียนกฎหมาย
เรายังมึนหนังสือเลย แทบจะอ้วกเป็นตัวอักษร
เหนื่อยได้แต่อย่าท้อ
สู้ๆนะว่าที่คุณหมอ
อย่างว่า คณะนี้มันหนักหน่อย แต่ก็ใช่ว่าคณะอื่นจะไม่หนัก
ยิ่งสูงยิ่งยาก
แต่ยังไงก็พยายามต่อไปนะ จบมาแล้วก็สบายแล้วล่ะ
คิดซะว่าคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ แค่ไม่ได้เท่าเค้าแต่ก็เอาให้ได้ซะครึ่งก็ยังดีเนอะ
PS. เป้าหมายสูงสุดของชีวิต อาจทำไม่ถึง แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้ายังมุ่งมั่น และก้าวเดินต่อไป เป้าหมายนั่นอาจอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว
สู้ๆนะ เข้าใจว่าแพทย์เรียนหนักมากถึงมากที่สุด
นศ.แพทย์เป็นอะไรที่แบบว่า ทุ่มเทชีวิตตัวเองให้กับการเรียนจริงๆ เพราะว่าพอเรียนจบแล้วก็จะต้องไปรับผิดชอบชีวิตคนอื่น ยังไงก็อย่ายอมแพ้นะ พยายามปรับตัว แบ่งเวลาให้ดี ถ้าคุณแบ่งเวลาเป็นก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก อีกอย่างถ้าคณะนี้เป็นคณะที่คุณชอบ คุณมีใจรักมันจริงๆ ยังไงคุณก็ต้องผ่านมันไปได้แน่นอน
ส่วนพวกเสียงคอมเม้นต่างๆที่คุณว่ามานั้น เราว่าพวกเขาก็พูดถูก(เพียงแต่ถ้ามีคำปลอบใจหรือให้กำลังใจกันบ้างมันก็คงจะดีกว่า) เพราะว่ายิ่งเรียนมันจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ เราเรียนเพื่อไปรับผิดชอบชีวิตของคนอื่น ดังนั้นก็เลยต้องเรียนหนัก เจาะลึก รู้จริง มีสอบบ่อยๆแบบนี้แหละ ขอให้มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของนศ.แพทย์ คนที่สอบเข้าคณะแพทย์ได้นี่ถือว่าโชคดีนะ เพราะมีคนจำนวนมากอยากเข้าคณะนี้ แต่คะแนนไม่ถึง
สุ้ๆนะคะ *0* เพื่ออนาคตคนไข้อย่างเค้า 555+
PS. ความรัก คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อบดบังความอ่อนแอของตนเอง ถ้ามีความรักแล้วต้องเจ็บปวดสู้อย่ามีมันซะดีกว่า
การที่เราจะได้เป็นแพทย์มันไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ
แต่ว่า...ถ้าหากเราไม่พยายาม...สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดจะไม่มีความหมายนะคะ
หนูอยากให้พี่พยายาม
อยากให้พี่เข้มแข็ง
ถ้าบางครั้ง...เหนื่อยจนฝืนทนไม่ไหว
ก็ให้น้ำตาเป็นสิ่งที่ปลอบพี่นะคะ
หนูเข้าใจค่ะTOT
หนูอยู่แค่ม.1หนูยังเรียนตั้งแต่คาบศูนย์ยันคาบสิบเลยยย
(อย่าสนใจบ่นของตัวเองบ้างงง)555
PS. รักนะแต่ไม่แสดงออก,, ยินดีต้อนรับจ้ะ ตัดผมมั้ยคะ ซอย ดัด สระ ตัด เชิญค่า
หนูเชื่อว่ายังไงพี่ก็ต้องทำได้แน่นอน สู้ๆนะคะ
เรียนหนักแท้
สู้นะคะ
สู้ๆนะค่ะ^_____^
ถึงพี่ไม่ได้เรียนเกี่ยวกับสายแพทย์
พี่ก็พอจัะรู้มันคงหนักและเหนื่อยมาก กดดันไปทุกเรื่อง
แต่ก็เพราะว่าน้องจะต้องดูแลรับผิดชอบชีวิตคนทั้งคน เมื่อเรียนจบไปเป็นคุณหมอนะ
ก็เป็นธรรมดาที่น้องต้องเรียนหนักกว่าคนอื่น ยากกว่าคนอื่น
อย่าท้อไปเลย เรื่องแค่นี้เอง พี่เชื่อว่าน้องเก่งและกล้าพอที่จะสู้กับปัญหานะค่ะ
ผมก็อยากเป็นหมอเหมือนกันครับ ตอนนี้ผมอยุ่ ม.1 แต่พี่อยู่ปี 2 ....เห็นเเ้ลวอึ้ง O_o ถ้าจะเรียนหนักขนาดนี้
ถ้่าพี่อยากเป็นหมอจริง ผมเชื่อครับว่าพี่จะผ่านมันไปได้ สู้ๆ ครับ
เพื่อนหมอนิสัยไม่ดีเลย เเดกดันเพื่อนด้วยกันทำไมนี่
หมออย่าไปสนใจเลย
เพื่อนกันเค้าไม่ืทำกันอย่างนี้หรอก มีเเต่จะให้กำลังใจกัน
นึกถึงคนไข้ไว้นะหมอ
ที่หมอต้องอ่านเยอะๆก็เพื่อจะได้มาดูเเลพวกเรา
พวกเราขอบคุณนะคะ
มันเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้หมอต้องเรียนหนัก
ทั้งหมดเืพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด
สู้ๆนะคะ
พวกเราไม่มีอะไรจะให้หรอกค่ะ นอกจากรอยยิ้มเเละคำขอบคุณ
ขอบคุณที่ทำให้หายป่วย  ขอบคุณที่ทำให้เราอยู่กับคนที่เรารักได้นานขึ้น 
เวลาไม่สบายใจหมอลองเขียนทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระดาษ เขียนไปเรื่อยๆเลย
ระบายอารมณ์ ไม่งั้นก็เขียนไดอารี่ดู สบายใจดีนะคะ
มันทำให้ได้คำตอบง่ายขึ้นด้วย
พี่ชายหนูบอกว่า เวลาเราเครียดเเล้วไม่ระบาย
สิ่งที่เราคิดมันจะวนๆอยู่ในหัว
เเต่เมื่อไรก็ตามที่เราเขียนหรือเเสดงมันออกไป
ปัญหามันจะิอยู่ในกระดาษให้เราหาทางเเก้ ไม่ใช่อยู่ในหัว
เป็นหมอเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ เเต่สบายใจเมื่อคนไข้หายป่วยเท่านั้นเอง > <
สำหรับหนูคนที่ทำให้เราทุกข์ใจไม่ใช่มิตรเเท้
หนูพร้อมจะเขี่ยเค้าออกจากชีวิต ถ้าเค้าทำให้หนูไม่มีความสุข
หนูเเคร์เเต่คนที่มั่นใจว่ารักหนู เเละเเคร์ว่าสิ่งที่หนูทำจะสร้างความสุขให้คนอื่น
การเห็นคนอื่นยิ้มเเละมีความสุขคือรอยยิ้มของหนู
หนูอยากเป็นเภสัชนะคะหมอ 55  เเละก็ลาออกมาด้วยเหตุผลที่อยากช่วยคนค่ะ
มีเเค่นี้จริงๆ  หนูโดนมองเป็นคนบ้าอย่างมากๆ
สู้ไปด้วยกันนะคะ 
ไม่เห็นต้องเเคร์ใครเลย ทำในสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าเป็นความสุขของเรา(เท่านั้น)พอ
ถ้าตัวเราเห็นว่ามีความสุขดีเเล้ว  ดีเเล้วที่จะบ่น ดีเเล้วที่จะพูดนั่นพูดนี่ก็ทำไปเถอะค่ะ
สวนกลับมั่งก็ดีนะคะหมอ อย่าไปยอมมัน 5555555555
คนเค้าเครียดเเทนที่จะให้กำลังใจมาด่ากลับซะนี่ ด่าไปเล้ยยย ไอ่เ ว ง อิอิ  เกลียดนักพวกซ้ำเติม
เลวจริงๆ
ไปละหมอ สวัสดีค่ะ
ไม่เป็นไรนะคะ ยินดีรับฟังเสมอ
บางครั้งการที่เราระบายๆมันออกไปมันก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกันเนอะ
อย่างน้อยก็มีคนที่เค้าน่าจะเข้าใจเราบ้างล่ะ
คนเห็นแก่ตัวในโลกนี้มีอยู่มากมาย เฮอ น่าเสียดายที่เราต้องใช้เวลาเรียนรู้คนแต่ล่ะคน
ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่ต้องเสียเวลากับเค้ามากมาย
กลับกลายมาเป็นบ่นให่ฟังซะอีก 555 เอาเป็นว่า สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้
ยิ้มๆๆ ให้กับทุกๆปัญหา น้องเชื่อว่า พี่ว่าที่หมอ ผ่านมันไปได้ชัวร์ๆ
พี่หมอดีจังเลยเรียนเก่งจัง อยากเป็นหมอ ยังไงก็อยากเป็นหมอต่อให้เจอเรื่องอะไรก็ยังอยากเป็นหมออยู่ดี จะได้ช่วยคนเยอะแยะ พี่หมออวยพรให้ด้วยนะคะ (อาจไม่เกี่ยวเท่าไร พี่หมอสู้ๆนะ) :)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?